วันศุกร์
ธงรบนั่งเหม่ออยู่ในห้องทำงาน วันนี้งานไม่ค่อยยุ่ง ห้าวันแล้วที่เขาไม่ได้เจอกับอาทิตย์ ออกจากโรงพยาบาลได้เพียงสองวันอาทิตย์ก็เดินทางไปฮ่องกงเรื่องงาน เขาอดบ่นรชานนท์ไม่ได้ว่าเพื่อนยังสุุขภาพไม่ค่อยดียังยอมให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รชานนท์ให้เหตุผลว่าอาทิตย์ทำงานไม่ยอมหยุด หัวดื้อ ไม่ยอมหยุดพัก
“กลับมาจะจับตีก้น" ธงรบทำเสียงดุ รชานนท์หัวเราะเบาๆ แล้วบอกว่าให้เขากำราบอาทิตย์ให้ได้เสียที ไม่เช่นนั้นอาทิตย์ก็คงทำงานหามรุ่งหามค่ำเช่นเคย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่ธงรบก็ยังไม่เอื้อมมือไปรับ ยังคงเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ มือประสานบนหน้าอก ตามองโทรศัพท์เสมือนว่าเป็นสิ่งของแปลกประหลาด จนในที่สุด คนที่ทำงานอยู่ห้องข้างๆ ก็เดินตึงตังเข้ามาแล้วพูดเสียงห้วนๆ วะ
“รำคาญว่ะ ข้าอยู่ห้องข้างๆ ยังทนเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะเอ็งไม่ได้เลยไอ้ห่_" อธิคมกระแทกเสียง "เอ็งกำลังถอดจิตอยู่หรือไงวะไอ้เสาธง รับโทรศัพท์ซะที"
ธงรบไม่มีปฏิกิริยา อธิคมจึงเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์แทน ก่อนจะยื่นให้ธงรบซึ่งยังคงนั่งทื่อเหมือนผีดิบ อธิคมส่ายหน้าช้าๆ แล้วหันไปพูดกับคนที่อยู่ในสายต่อว่า
“ได้ ผมจะบอกให้ แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะไปรับคุณได้หรือเปล่านะ เพราะว่าตอนนี้กำลังอาการเข้าขั้นโคม่า นั่งนิ่งไม่พูดไม่จามาได้ครึ่งวันแล้ว"
อธิคมวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปพูดกับเพื่อนสั้นๆ ว่าอาทิตย์โทรศัพท์มาบอกว่าจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ วันอังคารแล้วเดินออกจากห้องไปโดยเร็ว ไม่สนใจว่าได้ยินเสียงโครมครามดังขึ้นมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงร้องโอยของธงรบ ตามด้วยเสียงฉุนเฉียวว่า
“ทำไมเอ็งไม่บอกวะว่าอาทิตย์โทรมา"
“เอ็งไม่อยากพูดเองนี่หว่า" อธิคมยักไหล่ เดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง
“เอ็งไม่บอกข้านี่ว่าใครโทรมา"
“ข้าผิดงั้นหรือ" อธิคมหันมาทำถลึงตาใส่เพื่อน
“อำหรือเปล่าคม อย่ามาอำกันนะ ไม่งั้นจะเตะให้คอหัก ทำไมอาทิตย์โทรมาหาข้าที่ทำงาน ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา แล้วนี่จะกลับมาเที่ยวบินอะไร กี่โมง อาทิตย์จะให้ข้าไปรับที่สนามบินจริงหรือวะ"
“อ้าว ไม่เชื่อแล้วเสือกอยากรู้ต่อ" อธิคมนั่งลงบนเก้าอี้ ยิ้มเยาะธงรบ
“คม เอ็งอย่ามากวนตีน" ธงรบชี้หน้า
“วันอังคาร คาเธ่แปซิฟิก เที่ยวห้าโมงเย็น"
“คาเธ่นี่มันสายการบินอะไร" ธงรบเอียงคอทำท่าคิด "ไม่บอกรหัสหมายเลยเที่ยวบินเลยหรือ แล้วมาบอกข้าทำไมวะ อาทิตย์จะอยากให้ข้ารู้ทำไม แล้วทำไมไม่โทรเข้ามือถือ"
“คาเธ่ก็สายการบินค่าเธ่สิวะ หรือเอ็กว่าเป็นการบินไทย นึกว่าเอ็งจะโง่เฉพาะเวลาสืบคดีฆ่าคนตาย" อธิคมส่ายหน้าแล้วหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน ก่อนจะเงยหน้ามองธงรบที่ยังยืนทำหน้าครุ่นคิด
“คม เอ็งว่าอาทิตย์เริ่มจะมีใจให้กับข้าแล้วใช่หรือเปล่าวะ"
“เอ็งได้อึ๊บเขาโดยไม่ต้องใช้ถุงยางหรือยังล่ะ" อธิคมถามกลับ "ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วก็แสดงว่าตี๋น้อยมีใจให้แกแล้วล่ะ"
“ไอ้เพื่อนปากไม่สร้างสรรค์" ธงรบบ่นพึมพำแล้วเดินออกจากห้องทำงานของอธิคมช้าๆ ทิ้งให้เจ้าของห้องมองตามด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ แต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อธงรบพรวดพราดเข้ามาในห้องอีกพร้อมกับใบหน้าตื่นเต้นและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีด
“คม อาทิตย์ส่งเอสเอ็มเอสเข้ามือถือข้าว่ะ บอกว่าจะกลับเมืองไทยพรุ่งนี้ตอนห้าโมงเช้า"
“เห็นไหมล่ะ ข้าเคยอำเอ็งที่ไหน" อธิคมยิ้มมุมปาก
“เย็นนี้ไปกินเหล้าฉลองกันนะเพื่อน ข้าเลี้ยงเอ็งเต็มที่" ธงรบนั่งลงบนขอบโต๊ะ ก้มหน้าลงพูดกับอธิคมด้วยน้ำเสียงสดชื่น
“ต้องบอกคุณนุก่อน วันนี้วันศุกร์" อธิคมขมวดคิ้ว ส่ายหน้า
“อะไรวะ แค่จะไปกินเหล้ากับเพื่อน เอ็งจะกลัวคุณนุไปถึงไหน" ธงรบโวยวายทันใด
“ถึงตาเอ็งเดี๋ยวก็รู๊" อธิคมขึ้นเสียงสูงแล้วไล่ให้ธงรบออกไปจากห้องเพราะเขาต้องทำงาน ธงรบยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี แทบจะกระโดดโลดเต้นออกไปจากห้องของเพื่อนสนิท
...อาทิตย์กำลังใจอ่อน อาทิตย์เริ่มมีใจให้เขามากขึ้นกว่าเดิม ไม่เสียแรงที่ไปนอนเฝ้าไข้ทั้งคืน แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าพัฒนาการของความสัมพันธ์...
...อาทิตย์จ๋า ช่างทำให้วันศุกร์ของธงรบมีความสุขจริงๆ เลย...
วันเสาร์
เมื่อเดินออกมาถึงด้านหน้าของสนามบินอาทิตย์ก็ชะงัก ป้ายสีขาวขนาดใหญ่เป็นภาพวาดการ์ตูนดวงอาทิตย์สีแดงส่วมแว่นกันแดดโดนเด่นกว่าป้ายต้อนรับทุกป้าย คนตัวสูงที่สุดในหมู่คนที่มายืนรอรับญาติชูป้ายขึ้นจนสุดแขน ยิ้มกว้างเห็นฟันขาวสะอาดแต่ไกล อาทิตย์บอกตัวเองว่าแม้จะอยู่ห่างจากธงรบกว่าห้าสิบเมตร เขาก็เห็นประกายตาของนายตำรวจเต้นระริกอย่างดีใจ
...ธงรบรู้ได้ยังไงว่าเขากลับกรุงเทพฯ เที่ยวบินนี้ เขาเปลี่ยนเที่ยวบินแต่ก็ไม่ได้บอกใคร ทำไมธงรบมายืนยิ้มแป้นโชว์ป้ายตลกๆ ต้อนรับเขาอยู่ตรงนี้ได้...
...มาถึงก็ปวดหัวทันที จะวิ่งหนีไปขึ้นแท็กซี่ก็คงไม่ได้เสียแล้ว...
“คิดถึ๊งคิดถึง ไม่ได้เจออาทิตย์ห้าหกวันเหมือนไม่ได้เจอเป็นปีๆ" ธงรบยิ้มกว้าง เอื้อมมือมาจะหยิบกระเป๋าเดินทางของอาทิตย์ แต่ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหนี
“ผู้กองรู้ได้ยังไงว่า...”
“รู้อะไร" ธงรบเลิกคิ้ว ยิ้มเห็นฟันแทบทุกซี่
“เปล่า" อาทิตย์ส่ายหน้า "ช่างเถอะครับ"
“รถพี่จอดตรงโน้น พี่ได้อภิสิทธ์ จอดมันหน้าประตูทางออกเลยล่ะ อาทิตย์ไม่ต้องเดินไกล สบ๊ายสบาย เห็นไหมล่ะ เป็นแฟนตำรวจมันดียังงี้เอง มามะ พี่ช่วยถือกระเป๋า อาทิตย์จะได้ไม่หนัก อะไรกัน ไปแค่ไม่กี่วัน กระเป๋าเบ้อเริ่ม หรือว่าซื้อของมาฝากพี่เยอะยะ" ธงรบส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
“กระเป๋าผมมีล้อลาก" อาทิตย์ไม่ปล่อยมือจากกระเป๋า
“พี่ลากให้" ธงรบยื่นมือไปจะคว้ากระเป๋าสีดำ
“ผม จะ ลาก เอง" อาทิตย์ทำเสียงเข้ม เน้นหนักทุกคำ
“ตามใจ ใครไปว่าอะไรล่ะ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุ" ธงรบยักไหล่ "กลัวตายล่ะ ตาตี่ๆ แก้มขาวๆ ปากแดงๆ"
ธงรบพึมพำแล้วเดินนำหน้าอาทิตย์ แต่ชายหนุ่มยังยืนนิ่ง นายตำรวจจอมกวนจึงหันหน้ามาเร่งว่า "ตามมาสิครับ รถอยู่ทางโน้น จะให้เอารถมารับถึงในนี้ไม่ได้นะอาทิตย์ ต้องเดินหน่อย"
อาทิตย์ส่ายหน้า เหยียดปากออกเหมือนจะยิ้มและร้องให้พร้อมๆ กัน ในใจก็พยายามท่องว่า "ธงรบก็คือธงรบ ถ้าไม่ใช่แบบนี้ก็ไม่ใช่ธงรบ ธงรบก็คือธงรบ อย่าถือสาธงรบ ไม่เช่นนั้นอาจปวดหัวจนระเบิด"