พี่นายหายไปนานเลย สงสัยไปหลอกชาวบ้านซะเพลิน เอ๊ะหรือโดนลอยไปกะกระทงอย่างรีบนว่า
มีแต่โดนหลอกครับ ผมหลอกใครไม่เป็น ยังไร้เดียงสาอยู่ แต่เรื่องลอยไปกับกระทงคงไม่ลอยหรอกนะ ลอยไปกับเรือขนทรายอาจจะได้ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้โพสครับเพราะยุ่งๆ มีญาติมาเยี่ยมและต้องพาไปธุระและรถเสีย เสียเงินไปสบายใจสบายกระเป๋า
บทที่ 9 มาแล้วครับ PART 1 ค่อนข้างช้าครับเพราะว่าเป็น part ตื๊อ เวลาความสุขนี่ขอให้ธงรบตักตวงเอาไว้เยอะๆ ก่อน part 3 จะเร็วครับ แทบหายใจไม่ทัน (เพราะหายใจไม่ออก)
ธงรบ บทที่ 9
ธงรบทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อนบนเก้าอี้มุมห้องจัดงานท่องเที่ยวทั่วไทยในศูนย์ประชุมแห่งชาติ นายตำรวจหนุ่มร่างบึกบึนตอนนี้หมดแรง เอื้อมมือไปบีบนวดขาของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินไปเดินมาในงานเป็นชั่วโมง สายตามองชายหนุ่มหน้าตาน่ารักที่มาด้วยกันซึ่งกำลังเดินยิ้มกว้างเข้ามาหาเขา
“แอบหนีมานั่งอยู่ตรงนี้เอง" ภานุวัฒน์ยืนเอียงคอมองธงรบด้วยรอยยิ้มขันๆ "ผู้กองครับ ยังดูไม่หมดเลย ไปฝั่งโน้นกันนะครับ ยังเหลืออีกหลายบูธ น่าเที่ยวทั้งนั้น ผมเอาโบรชัวร์มาเยอะแยะ"
ภานุวัฒน์ยื่นเอกสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นปึกๆ ให้ดู ธงรบมองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาเดาว่าภานุวัฒน์คงไปคว้าแผ่นพับโฆษณามาแทบทุกบูธ "หยิบมาทุกบูธเลยใช่ไหมเนี่ย"
ภานุวัฒม์ส่ายหน้ายิ้มๆ "เอาแค่ที่น่าสนใจ"
ธงรบยิ้ม ภานุวัฒน์ดูตื่นเต้นและเพลิดเพลินกับการเดินเข้าออกบูธตัวแทนการท่องเที่ยวเป็นว่าเล่น ไม่มีท่าทางเบื่อหรือเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย แรกๆ เขารู้สึกเพลิดไปด้วย แต่นานเข้ารู้สึกเหนื่อยจนอยากจะลงนอนกับพื้น
“เอาข้อมูลมาดูก่อน เปรียบเทียบกันแล้วเลือกที่เราอยากไปที่สุด" ภานุวัฒน์พูด ดวงตาเป็นประกายเหมือนเด็กที่จะได้ไปทัศนศึกษานอกสถานที่เป็นครั้งแรก จากนั้นจึงอธิบายข้อมูลเบื้องต้นเรื่องสถานที่ท่่องเที่ยวซึ่งตัวเองได้ไปสอบถามมา พร้อมทั้งเสนอโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ให้ธงรบฟัง
นาทีนั้นเองที่ธงรบรู้สึกว่าเขากับภานุวัฒน์อยู่กับคนละโลก เด็กหนุ่มมีชีวิตชีวา มีพลังของวัยเยาว์ รู้สึกตื่นเต้นกับโลกกว้างและสิ่งใหม่ๆ ส่วนเขารู้สึกอยากจะนอนอยู่กับบ้าน หรือไม่ก็ไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเพทฯ จองโรงแรมสักห้อง เอาห้องที่ใกล้กับสระว่ายน้ำแล้วนอนเล่นริมสระ ตกเย็นก็ไปนั่งดื่มเหล้าเคล้าเสียงเพลงในผับของโรงแรม
“ผู้กองไม่อยากไปหรือครับ" ภานุวัฒน์เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นธงรบนั่งนิ่ง "หรือว่าผู้กองอยากเลือกเองว่าจะไปที่ไหน"
“เปล่า" ธงรบยิ้มบางๆ "เพียงแต่พี่เหนื่อย"
“อะไรกัน เดินแค่นี้เหนื่อย เราเพิ่งเดินได้ยังไม่ถึงครึ่งงานด้วยซ้ำ เหลือกอีกสองฮอลล์ยังไม่ได้ ฮอลล์ C1 กับ C2 ตรงโน้นมีอีกตั้งหลายบูธ มีขายของด้วยนะครับ หน้าฮอลล์ A มีเล่นเกมส์ด้วย โชคดีได้ลุ้นตั๋วเครื่องบินฟรีด้วย ผู้กองเร็วๆ เข้า ไปเดินฮอลล์นี้ต่อให้ทั่วก่อนแล้วค่อยพัก" ภานุวัฒน์ดึงแขนธงรบให้ลุกขึ้น
...พลังเยอะจริงๆ เด็กอะไรก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็อย่าชวนเขาไปสวนสนุกดรีมเวิลด์ต่อนะ...
ธงรบลุกขึ้นช้าๆ แล้วจำต้องเดินตามอีกฝ่าย ซึ่งไปยืนรออยู่แล้วหน้าบูธของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง พลางหันหน้ามาส่งสายตาให้นายตำรวจเดินตามมาเร็วๆ
ธงรบตกลงใจไปเที่ยวกับภานุวัฒน์ก่อนที่จะไปเที่ยวกับอธิคมและอนุภาพต้นเดือนหน้า ภานุวัฒน์ออดอ้อนเขาอยู่นานจนเขาไม่อยากบ่ายเบี่ยงต่อไปอีกแล้ว อย่างน้อยก็ได้ห่่างอาทิตย์ซักระยะ พอให้ใจเข้มแข็งขึ้่น ครั้งล่าสุดอาทิตย์ทำร้ายจิตใจเขาพอสมควรด้วยคำพูดตรงไปตรงมาว่ารักอนุภาพ เขาเลยต้องขอเวลาทำใจสักสองอาทิตย์ ก่อนจะกลับไปตื๊อตี๋เข้มของเขาต่อ
...ภานุวัฒน์ก็ออกแนวตี๋ แม้ไม่ตาตี่เท่าอาทิตย์แต่ก็คล้ายๆ กัน ภานุวัฒน์ไม่เคยขัดใจเขา ไม่เคยบังคับให้เขาทำอะไรที่เขาไม่ชอบ ไม่เคยทำให้เขาหงุดหงิด ไม่เคยเรียกร้องอะไรที่ทำให้เขารู้สึกลำบากใจ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจกว่าอยู่กับคนอื่นๆ อย่างน้อยก็ทำให้ความทุรนทุรายคิดถึงอาทิตย์ลดน้อยลงมาบ้าง...
...บางทีเขาเคยคิดว่าหากไม่มีอาทิตย์ เขาก็คงจะรักภานุวัฒน์...
...เขาไม่เข้าใจว่าทำไมความรู้สึกของเขาต่อภานุวัฒน์จึงต่างกับที่รู้สึกต่ออาทิตย์...
...ทั้งๆ ที่รู้ว่าภานุวัฒน์พร้อมเป็นของเขาอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจเรียกได้ว่าพร้อมเป็นภรรยาที่จะคอยปรนนิบัติดูแลสามี ส่วนอาทิตย์นั้นเล่า ไม่มีใจให้เขาเลย ที่สำคัญยังเป็นขั้วเดียวกัน แล้วใจแข็งและเย็นชากับเขามาก...
...ใจคนนี่ก็แปลก ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เลย ทำไมในใจเขาต้องคิดถึงแต่อาทิตย์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาทิตย์ไม่มีใจเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาทิตย์เป็นขั้วเดียวกัน ทั้งๆ ที่อาทิตย์ยังรุกอนุภาพอยู่ไม่คลาย แต่หัวใจดื้อๆ ของเขากลับไม่ยอมรับ...
...อาทิตย์เองก็เถอะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าอนุภาพเป็นของอธิคมยังไม่รักเทอดทูนอยู่ได้ ทำไมไม่ยอมหักใจมารักเขา...
“ผู้กองคงเหนื่อยจริงๆ ถ้างั้นไปนั่งตรงโน้นดีกว่านะครับ" ภานุวัฒน์หันมามองธงรบหลังจากที่เดินเข้าออกบูธบริษัทนำเที่ยวไปได้อีกราวสิบบูธ
“ไม่เป็นไร ดูต่อได้" ธงรบยิ้มบางๆ
“ไปเถอะครับผู้กอง ผมกลัวว่าผู้กองจะเป็นลมซะก่อน นี่ดีนะครับเป็นงานท่องเที่ยว คนไม่ค่อยเยอะ งานมหกรรมหนังสือวันสุดท้ายที่ผมมาคนยังกะหนอน เดินเบียดกันแทบตาย"
...เบียดสิดี จะได้เบียดหนุ่มๆ ให้เพลินไปเลย...
ธงรบอดยิ้มไม่ได้ ตามองภานุวัฒน์ซึ่งบอกให้เขานั่งรอแล้วหันหลังเดินหายไป แต่ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ สองแก้ว
“ผู้กองครับ เรากลับกันก็ได้นะครับ ได้ดูแค่ไหนก็แค่นั้น เท่าที่ได้เอกสารมานี่ก็เยอะแล้ว"
“พี่ว่าเยอะพอไปเปิดบริษัทนำเที่ยวเองได้แล้ว" ธงรบล้อ
“ผมยังมีแรงไปขอโบรชัวร์ได้มากกว่านี้อีกนะ" ภานุวัฒน์ยิ้มกว้าง หัวเราะขันกับคำพูดล้อเลียนของธงรบ "ที่จริงได้ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ขอแต่ให้ได้ไปกับผู้กองผมก็พอใจ" ภานุวัฒน์มองหน้าธงรบด้วยสายตาอ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยความรัก
...นี่ล่ะที่เขาตัดภานุวัฒน์ไม่ขาดเสียที...
“แค่ผู้กองยอมไปเที่ยวกับผมตั้งสามวันสองคืนนี่ก็ดีใจมากแล้ว" ภานุวัฒน์พูดต่อ "ทั้งๆ ที่ผู้กองงานยุ่งยังแบ่งเวลามาให้ผม วันนี้ก็เดินกับผมจนขาลาก ปวดขามากใช่ไหมครับ"
“ไหนๆ ก็มาแล้ว ดูให้หมดเลยดีกว่า" ธงรบยิ้ม "แต่ไม่เล่นเกมส์นะ ตั๋วเครื่องบินฟรีนั่นนะไม่ต้องเอาหรอก พี่ซื้อเองได้"
“ได้ ไม่เล่นเกมส์ก็ไม่เล่น" ภานุวัฒน์พยักหน้า "แต่ว่าเสร็จจากนี้แล้วจะไปไหนกันดีครับ หรือผู้กองจะไปนวดสปา จะได้หายปวดขา"
“อยากไปไหนล่ะ" ธงรบถาม
“ผมอยากดูหนัง" ภานุวัฒน์ทำหน้าตาตื่นเต้นอีกแล้ว "เรื่อง Transformers 3 หุ่นยนต์พิทักษ์โลก แล้วก็ไปซื้อหนังสือ กินข้าว แล้วโยนโบวลิ่ง"
“ไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือ"
“ภานุวัฒน์ส่ายหน้า "อยู่กับผู้กองแล้วผมมีความสุข อยากอยู่ด้วยกันนานๆ พักหลังผู้กองไม่ค่อยว่าง เข้าเวรตลอด ได้เที่ยวด้วยกันอยากอยากใช้เวลาให้คุ้ม แต่ว่าถ้าผู้กองมีธุระก็ไม่เป็นไรนะครับ แค่ดูงานท่องเที่ยวด้วยกันก็ได้"
“พี่มีเวลาให้ทั้งวัน" ธงรบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มแล้วทำหน้าเหยเก "นี่อะไรนี่ ทำไมมันหวานยังงี้"
“สมูธตี้ครับ ไม่ชอบหรือครับ ผมจะไปซื้อให้ใหม่ ผู้กองจะดื่มอะไรดี เอากาแฟไหมครับ"
ธงรบส่ายหน้าแล้วบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงมือภานุวัฒน์ให้ลุกตาม
“ผมรักผู้กองจังเลย ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวกันสองต่อสองกับผู้กองตั้งสามวันเหมือนๆ ฮันนี่มูน" ภานุวัฒน์ยิ้ม ตาเป็นประกายแสดงดึงความสุข
ธงรบเอาแต่อมยิ้มแล้วพยักหน้าชวนให้ภานุวัฒน์เดินชมงานต่อ แต่อดถอนหายใจไม่ได้
...เขากลัวว่าภานุวัฒน์จะถลำลึกจนยากที่จะตัดใจจากเขา...
...เพราะท้ายที่สุด วันหนึ่ง ในชีวิตเขาก็คงต้องเหลือเพียงคนเดียว...
อาทิตย์มองตัวเองในกระจก มือขยับเนคไทสีน้ำตาลเข้มให้กระชับแล้วตรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องน้ำกลับเข้าไปในงานเปิดตัวเครื่องประดับ Eternal Diamond ซึ่งบริษัทเขาทำโฆษณาให้ แต่เมื่อใกล้จะถึงประตูเข้าห้องจัดงานก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนในชุดเครื่องแบบตำรวจยืนหันหลังให้ แต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นธงรบกับอธิคม
...วินาทีนั้นอาทิตย์อดคิดไม่ได้ว่าอนุภาพอาจจะมาร่วมงานด้วย...
...ธงรบคงไม่รู้ว่าเขามางาน ฝ่ายจัดงานประสานงานกับตำรวจให้ส่งกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความปลอดภัยแต่ไม่นึกว่าจะมีธงรบกับอธิคมด้วย...
...เห็นอธิคมแล้วเขาก็เห็นอนุภาพ...
...เห็นธงรบแล้วเขาเห็นใคร...
“อาทิตย์" ธงรบอุทานเสียงเบาเมื่อมองเห็นชายหนุ่มหน้าขาวในชุดสูทสีดำเดินช้าๆ มาตามทางเดิน อธิคมหันตามแล้วเมินหน้ามองไปทางอื่น
“เอ็งคุมอาทิตย์ให้ดีๆ อย่าให้เจอคุณนุเด็ดขาดนะไอ้ธง" อธิคมสั่ง "ไม่งั้นข้าไม่รับรองความปลอดภัยตี๋น้อยของเอ็ง"
“หุบปาก" ธงรบหันไปดุเพื่อนด้วยเสียงห้่วน "เอ็งจะไปไหนก็ไปไกล"
“ไปได้ไงวะ ต้องทำงาน" อธิคมตอบกลับด้วยเสียงห้วนเช่นกัน "เสียเวลาฉิบหาย ถ้าคุณนุไม่มางาน ข้าไม่ยอมรับจ๊อบมายืนเฝ้างานเป็นยามแบบนี้หรอก งานงี่เง่าแบบนี้จะเอาตำรวจหล่อๆ เก่งๆ อย่างข้ามาทำไมก็ไม่รู้"
“ผู้กำกับสั่งก็ต้องทำ"
“คนเยอะเป็นบ้า ยิ่งกว่าประชุมเอเปคอีก" อธิคมยังบ่นต่อ ส่วนธงรบไม่สนใจเพื่อน เดินตรงเข้าไปหาอาทิตย์ทันทีแล้วรายงานตัวว่าทำไมก่อนจะพูดต่อว่า
“เลิกงานแล้วขอพี่ติดรถกลับด้วยนะอาทิตย์ พี่อาศัยรถเพื่อนใจแคบมา มันไม่ยอมให้พี่กลับด้วย"
“ผมมากับพนักงานที่บริษัท" อาทิตย์ตอบ
“ให้เขากลับกันเอง" ธงรบเสนอทางออก
“ผมทิ้งเลขากับครีเอทีพไดเร็คเตอร์กับอาร์ตไดเร็คเตอร์ไม่ได้หรอกครับ มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน"
“แล้วเขาอยู่บ้านเดียวกับอาทิตย์หรือไงถึงต้องกลับด้วยกัน"
“แล้วผู้กองอยู่บ้านเดียวกับผมหรือ"
“อยากอยู่เหมือนกัน" ธงรบยักคิ้วแล้วเปลี่ยนเรื่องทันใด "อาทิตย์หล่อนะ ใส่สูทเนี๊ยบแบบนี้ยิ่งหล่อน่ารัก แบบนี้ไงพี่ถึงได้หลงไหลอาทิตย์มาก หล่อและใจดีแบบนี้หาได้ที่ไหน ถึงอาทิตย์จะกลับกับคนที่ทำงาน พี่ขอขึ้นไปเบียดด้วยก็ได้ จะทำตัวลีบๆ ไม่ให้กินพื้นที่ในรถ"
“รถผมไม่มีพื้นที่พอสำหรับห้าคนหรอกครับ"
“โธ่ สงสารกันบ้างสิ" ธงรบทำหน้ามุ่ย "แล้วนี่พี่จะกลับบ้านยังไง"
“กลับรถเมล์สิครับ แท็กซี่ก็มี หรือถ้าไม่มีเงินค่าแท็กซี่ผมจะให้ยืม" อาทิตย์ทำท่าจะล้วงกระเป๋ากางเกง
“ช่างเถอะ ถ้าไม่อยากให้พี่กลับด้วยก็ไม่เป็นไร" ธงรบเปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบนิ่ง
...งอนอีกแล้วสิเนี่ย เล่นบทงอนได้น่าหมั่นใส้ ตัวโตยังกะยักษ์ มาทำหน้าตางี่เง่าเหมือนเด็กหนุ่ม...
“เดี๋ยวผมจะหารถให้ผู้กองกลับ" อาทิตย์ถอนหายใจแล้วเดินเข้างานไปทันที ทิ้งให้ธงรบยืนมองตาละห้อย
“จะอ๊วก ได้ยินแล้วจะอ๊วก" อธิคมเดินเข้ามาใกล้ ทำท่าโก่งคอจะทำอย่างที่พูด
“ยังเสือกได้ยินอีก หุบปากเดี๋ยวนี้เลยไอ้ปากปีจอ" ธงรบหันไปทำตาขวางใส่เพื่อน "ยังกับเอ็งไม่เคยทำ ข้าแอบได้ยินเอ็งพูดว่า คมยังงั้นคมยังงี้กับคุณนุ หน่อมแน๊มซะไม่มี ไม่คิดว่าข้าจะอยากอ๊วกเหมือนกันหรือไง"
นายตำรวจสองนายซึ่งได้รับคำสั่งมาให้ตรวจตาดูความเรียบร้อยในงานแสดงเปิดตัวเครื่องประดับอัญมณีล้ำค่าตอนนั้นต่างถลึงตาใส่กันแล้วเริ่มทะเลาะกันแก้เบื่อ จนกระทั่งอธิคมมองเห็นใครบางคนเดินออกมาจากด้านในของห้องประชุมตรงมาที่ประตูจึงรีบหยุดปะทะคารมกับเพื่อนคู่หูแล้วพูดเสียงร้อนรนกับอีกฝ่ายว่า
“ข้าศึกบุกว่ะธง เอ็งรับหน้าให้หน่อยนะ ข้าจะไปห้องน้ำ"
พูดเสร็จอธิคมก็รีบหายตัวไป ปล่อยให้ธงรบยืนทื่ออยู่คนเดียวเมื่อหันไปมองเห็นว่าใครเป็น 'ข้าศึก' ของเพื่อน
“ได้ยินเพื่อนบอกว่ายืนโชว์หล่ออยู่หน้างานทั้งสองคน หายไปไหนแล้วล่ะครับ" ชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดียิ้มกล้าง มองหา 'อีกคน' ที่เพิ่งรีบหายตัวไป
“ไปห้องน้ำ" ธงรบตอบเสียงเบา "ทางโน้นแน่ะ ไอ้คมมันบอกว่ารำคาญ กลัวโดนตื๊อ มันเลยรีบหนีไป"
“จะปล้ำคาห้องน้ำซะเลย"
“ยังไงก็อย่ารุนแรงกับเพืี่อนพี่นักนะ" ธงรบขอร้องอีกฝ่าย "มันมีแฟนเป็นตัวตนแล้ว ยังต้องเก็บแรงไปทำหน้าที่สามีที่ดีก่อนนอน"
“อย่างผู้กองอธิคมนี่นะมีแฟนเป็นตัวตน เหลือเชื่อพอๆ กับที่จะให้เชื่อว่าผู้กองธงรบจะมีแฟนเป็นตัวตน" ชายหนุ่มหน้าคมยิ้มเยาะ "อย่าให้รู้ว่าผู้กองโกหกผมก็แล้วกัน ถ้าตามพี่คมไม่เจอ ผมจะมาจัดการกับผู้กองธงรบแทน วันนี้ใครซักคนต้องถูกรีดน้ำจนหมดตัว"
“เฮ่ย อะไรวะ" ธงรบอุทานเสียงเบาเมื่ออีกฝ่ายพูดจบก็เดินจากไปทันที ท่าทางมุ่งมั่นมาก
...ยังกะธงรบกลัว เรื่องเสียน้ำนี่ไม่เคยหวั่น...
ธงรบอมยิ้มพลางส่ายหน้าด้วยความชอบใจที่ได้แกล้งเพื่อนซี้
“ขอให้สนุกนะได้ฤาษีอธิคม"
มาร์ค หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวีเดน อดีตคู่ขาของเขากับอธิคมกลับมาจากอังกฤษเมื่ออาทิตย์ที่แล้วและเจอกันโดยบังเอิญในยิม มาร์คแทบจะกระโจนเข้าตะครุบอธิคมขณะที่กำลังซ้อมชกมวยอยู่กับเขา แต่เพื่อนของเขาหลอกให้ชายหนุ่มรออยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตัวเองก็หลบกลับบ้านไปก่อน เขาต้องเป็นคนรับหน้า ออกอุบายให้มาร์คไปเจออธิคมที่ห้องอาหารใกล้ๆ ยิมแล้วรีบตาลีตาเหลือกไปเก็บเสื้อผ้าของอธิคมและของตัวเองหายตัวไป มาร์คคงฉุนมาก วันถัดมาบุกถึงที่ทำงาน อธิคมไหวตัวทันแอบหลบไปได้อีกครั้ง หนำซ้ำยังสั่งให้ลูกน้องล๊อคล้อรถชองมาร์คที่จอดอยู่ริมถนน
“ถ้ามาร์คกับกษิดิษฐ์ร่วมด้วยช่วยกันลุยเอ็ง มีหวังแกตายแน่ๆ เลยคม รายนี้ใจถึงไม่แพ้กษิดิษฐ์ แต่แกโชคดีที่สองคนนี้ไม่ถูกกัน"
ธงรบหัวเราะหึๆ ในลำคออยู่คนเดียวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ในใจก็รู้สึกโชคดีที่มาร์คคลั่งอธิคมไม่ใช่เขาเพราะชายหนุ่มชอบคนใจร้อนออกแนวห้าวๆ แบบนักเลง ส่วนเขา มาร์คบอกว่าออกแนวห้าวๆ กะล่อน เจ้าเล่ห์
...ฮึ เจ้าเล่ห์ พูดออกมาได้ ไอ้คมก็ใช่ย่อยที่ไหน...
“รู้จักคุณมาร์คด้วยหรือครับ"
“อาทิตย์" ธงรบสะดุ้งแล้วอุทานเสียงเบาเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงของอาทิตย์ดังขึ้นใกล้หู
“ถ้าโจรบุกเข้ามาปล้นเพชรบนคอนางแบบในงาน ป่านนี้คงหนีลอยนวลไปแล้วเพราะผู้กองเอาแต่เหม่อยืนมองดารา" อาทิตย์พูดยิ้มๆ
“แหม ใครก็ชอบมองคนดัง"
“เขาจะมาแสดงหนังโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทผม ถ้าอยากมองอีกไปที่บริษัทผมสิครับ ไม่ก็ไปดูแลความสงบเรียบร้อยกองถ่ายหนังโฆษณาก็ได้"
“พูดเข้าไป ถ้าไปดูแลกันจริงๆ อาทิตย์อย่ามาหึงนะ" ธงรบเบ้ปาก
“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณมาร์ค จะไปหึงเขาทำไม" อาทิตย์ยักไหล่ มือไขว้หลัง ทำท่าเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ
“หึงพี่ต่างหาก" ธงรบแก้ให้ถูก
“พักหลังคุณมาร์คดูดีกว่าเดิมเยอะ ตั้งแต่โกอินเตอร์ พอได้ร่วมงานกันผมก็ยิ่ง...”
“อย่านะอาทิตย์ อย่าได้คิดอะไรแบบที่กำลังคิดอยู่" ธงรบยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ชายหนุ่มพูดต่อ
“แต่ผู้กองคิดได้"
“จะมาไม้ไหนเนี่ย" ธงรบหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างประเมินท่าที "มาแกล้งพูดล้อเล่นกันให้หัวใจพี่หล่นไปอยู่ตาตุ่มแบบนี้ไม่ดีนะอาตี๋"
“ผมไม่ใช่...” อาทิตย์พูดสวนขึ้นมาแต่ก็ยั้งเอาไว้ไม่ใจประโยค
“ไม่ใช่ตี๋" ธงรบอมยิ้ม "หน้าตาคมเข้มเป็นลูกครึ่งเหมือนมาร์คนักนี่"
“อย่ามาเรียกผมว่าอาตี๋ ผมไม่ชอบ" อาทิตย์เสียงห้วน
“จ้า ไม่เรียกตี๋ก็ได้ แต่อาทิตย์ถ่างตาให้กลมกว่านี้หน่อยสิ"
“ผู้กองธงรบ" อาทิตย์เสียงห้วนกว่าเดิม "อย่าเอาเรื่องเชื้อชาติมาล้อเลียนกันนะ"
“อ้าว ไปกันใหญ่แล้ว แหมนิดๆ หน่อยๆ ทำเป็นฉุน" ธงรบทำหน้าสำนึกผิด "พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ แต่อดเรียกว่าอาตี๋ไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไหมครับอาทิตย์"
“เพราะอะไรครับ" อาทิตย์เลิกคิ้ว ลืมตัวไปชั่วขณะเพราะอยากรู้
“เพราะพี่รักตี๋"
“นึกว่านิยมลูกครึ่ง" อาทิตย์เบ้ปาก ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อคำพูดของธงรบ
“ลูกครึ่งไทยจีนน่ะใช่" ธงรมยิ้มกรุ้มกริ่ม "อาทิตย์ไม่รู้หรือไงว่าพี่ชอบตี๋ตาตี่"
“สุดสัปดาห์หน้าจะไปถ่ายโฆษณาที่ฮ่องกงครับ อยากไปดูแลมาร์คก็เตรียมทำตัวให้ว่างไว้นะครับ" อาทิตย์เปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อรู้สึกว่าธงรบเริ่มจะตีวงล้อมเข้ามาใกล้
...อีกหน่อยก็คงพูดเรื่องบนเตียง ทำชุดเล็กชุดใหญ่อะไรนั่นอีก ทะลึ่งทะเล้นไม่มีใครเกิน...
อาทิตย์ถอนหายใจแรงๆ กำลังจะอ้าปากเพื่อต่อปากต่อคำกับธงรบต่อ แต่นายตำรวจรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า "จะมาไม้ไหนนี่อาทิตย์ วันนั้นก็ยัดเยียดให้พี่ไปกับธีรยุธ นี่จะประเคนมาร์คให้พี่อีก จะเอายังไงกับพี่"
“เปล่า" อาทิตย์เปลี่ยนมาเป็นทำหน้าตาเคร่งขรึม "ผมเพียงแต่จะมาบอกว่าหารถกลับบ้านให้ผู้กองได้แล้ว เลิกงานให้ไปยืนรอที่ตรงบันไดด้้านหน้านะครับ ใกล้ๆ กับเสานาฬิกาที่เป็นสีขาว รูปภาพเพชรสีน้ำเงินรูปใหญ่ๆ"
...จะแกล้งอะไรเขาอีกสิเนี่ย อาทิตย์นี่เป็นอะไร ไม่อยู่กับร่องกับรอย บางทีก็ดูเศร้าๆ เงียบๆ นิ่งๆ บางทีก็อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา บางทีทำเป็นรำคาญเขาแต่ก็ชอบกวนเขาอยู่เหมือนกัน บางครั้งชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ แต่บางครั้งก็เหมือนจะทำอะไรเป็นเด็กๆ...
...ก็อายุแค่ 25 ปีเองนี่นะ ยังไงอาทิตย์ก็ยังเป็นเด็ก ภานุวัฒน์ก็เหมือนกัน นั่นก็อายุ 19 ปีกว่า ส่วนเขาปีนี้ก็ 36 แล้ว เขาเคยคิดว่าหากรักกันไปนานๆ อาทิตย์อายุ 30 ปี เขาก็อายุ 41 ปี และหากภานุวัฒน์อายุ 30 ปี หน้าตายังเป็นหนุ่มอยู่ เขาก็คง 47 หน้าตาเริ่มเหี่ยวย่นเพราะอีกแค่สามปีก็จะ 50...
...สรุปแล้วเป็นแฟนกับอาทิตย์ดีกว่า อย่างน้อยก็บีบช่องว่างระหว่างวัยให้แคบบลงได้อีกหกปี...
“ได้ครับ พี่จะรอ จะให้พี่ไปกับใครก็ตามใจอาทิตย์" ธงรบทำหน้าตาเคร่งขรึม "จะผลักใสไล่ส่งยังไงพี่ก็รับได้ เพราะอะไรรู้ไหมอาทิตย์ เพราะพี่...”
อาทิตย์นิ่ง รอฟังสิ่งที่ธงรบจะพูด แต่นายตำรวจหนุ่มกลับหยุดพูดแล้วเงียบไปเฉยๆ อาทิตย์จึงขอตัวกลับเข้าไปในงาน ทิ้งให้ธงรบยืนมองตามด้วยสายตาครุ่นคิด แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว อาทิตย์ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ของอีกฝ่ายดังตามมา
“ยังไงพี่ก็จะรออาทิตย์ ถึงตายก็จะรอ จะร้องเพลงนั้นรออีกหลายๆ รอบ รอแล้ว รอแล้ว รอไม่สิ้น รอจน..."
อาทิตย์ไม่หันกลับไปมองผู้กองธงรบ ยังคงเดินเข้าไปในงานช้าๆ ในใจอดนึกถึงเพลงที่นายตำรวจเคยร้องให้ฟังไม่ได้
...เขาเกลียดการรอคอย โดยเฉพาะการรออะไรบางอย่างที่ไม่มีวันจะเป็นของเขา...
...ใครบางคนที่คงไม่เปลี่ยนใจมารักเขา...
***9***