ผมว่า ผมต้องโดนสั่งฆ่าหรือรุมประชาทัณฑ์แน่ ๆ
-------------
ตอนพิเศษ...แมวเหมียว
“เชิงอรรถและข้อคิดเห็นในงานเขียนเป็นของสัตวแพทย์นพคุณ ไม่ใช่ของผู้เขียน”กระผมชื่อนพ อายุ 28 ปี สถานภาพโสด เป็นสุภาพชนและประกอบสัมมาอาชีวะ ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการรักษาสัตว์เลี้ยง งานอดิเรกคือสัตวแพทย์อาสาในองค์กรช่วยเหลือและคุ้มครองสัตว์ในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมลฑล
งานของเราลดลงไปเยอะหลังจากที่พระราชบัญญัติในตำนาน
1ประกาศออกมา เราก็ไม่ต้องเที่ยวไปไล่ช่วยเหลือช้างถูกแท๊กซี่ชนหรือเดินตกท่อ ทั้งประชาชนเริ่มยอมรับได้กับการที่มีตัวเหรี้ยเดินเพ่นพ่านแถวรัฐสภา เราก็ไม่ต้องไปไล่จับมันอีกนั่นแหละ งานหลักของเราก็เหลือแต่การช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทารุณกรรม
แต่ผมคงต้องยอมรับด้วยความเศร้าใจว่ามีเสี้ยนบางอันที่เราบ่งมันออกมาไม่ได้เพราะมันใหญ่เกินไป อย่างล่าสุดศูนย์สัตว์ทดลองของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งเพิ่งผลิตเครื่องตัดหัวหนูทดลองอัตโนมัติซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างสายพานกับกิโยติน ถ้าผมไม่ใช่สัตวแพทย์ผมจะกล่าวว่าไอเดียนี้ทำให้ผมทึ่งมากทีเดียว แต่สำหรับคนที่ทำงานกับสัตว์มานานอย่างผมต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างน่าเศร้าใจ ถ้าเราเก็บการตัดคอไว้สำหรับกฎหมายลงโทษร้ายแรงสมัยพระเจ้าเหา เราก็ควรให้หนูทดลองเหล่านั้นได้จากไปอย่างสะดวกสบายกว่านี้ ผมแน่ใจว่าศูนย์สัตว์ทดลองแห่งนั้นคงมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อ “ยาทำให้หลับ” แต่บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยและกล่าวว่าเอางบประมาณมาทุ่มให้กับมนุษย์อย่างเดียวจะดีกว่า
ต้องขอโทษจริง ๆ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทารุณสัตว์ผมจะของขึ้นอยู่เรื่อย และพล่ามไปโดยที่ลืมใส่ใจว่าคุณจะอยากฟังหรือเปล่า แต่โดยทั่วไปแล้วชีวิตของผมก็จะเกี่ยวกับสัตว์ และเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าให้คุณฟังต่อไปนี้ก็เกี่ยวกับเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง
ผมไปถึงทาวเฮ้าส์แห่งนั้นในเวลาบ่ายแก่ ๆ เจ้าหน้าที่ของเราในชุดฟอร์มยืนคุยกับชาวบ้านแถว ๆ นั้นและจดบันทึกยุกยิก ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ส่วนมากเป็นผู้จัดการบ้าน
2ที่ถูกจ้างมาให้เฝ้าบ้านในช่วงกลางวัน เกาะลูกกรงประตูรั้วสอดแนมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
ผมเดินเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุนั้น หมาอัลเซเชี่ยนบ้านข้าง ๆ กระโดดเกาะประตูรั้วและเห่าเสียงขรม มันเห่าคนอื่น ๆ ได้พักหนึ่งแล้ว และตอนนี้มันก็หันมาเห่าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย อาแปะเจ้าของบ้านนั่งสูบบุหรี่บนเก้าอี้โยกและมองพฤติกรรมของหมาตัวเองจากใต้ชายคาอย่างพึงพอใจ ผมคิดในใจว่า ขอให้มะเร็งแดกไว ๆ นะครับลุง
3-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมจะไม่แนะนำให้คุณเรียกส่วนนี้เป็นอย่างอื่นนอกจากเชิงอรรถ
1 ที่เรียกกันว่าพระราชบัญญัติในตำนานเพราะมันใช้เวลานานเกือบสิบปีในการผ่านร่าง ผมเดาว่านักการเมืองบางคนคงไม่ชอบใจที่ช้างจะไม่สามารถเข้ามาในเขตเมืองได้
2แต่ก่อนเราเรียกว่า คนใช้ แต่ด้วยความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมเราจึงใช้คำนี้แทน อย่างไรก็ตามผมมีข้อสังเกตส่วนตัวว่าผู้จัดการบ้านในปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูงขึ้น จากแต่ก่อนที่มักจะมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียงอย่างเดียว ก็กลายเป็นผู้จัดการบ้านอิมพอร์ตจากลาว พม่า กัมพูชา ฯลฯ นัยหนึ่งว่าเป็นนโยบายประสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน ผมเองก็ไม่แน่ใจเพราะมันก็ลือ ๆ กันมาว่าอย่างนี้อ่ะนะ
3 อย่ามาหาว่าผมแช่งประชาชนให้สุขภาพไม่ดีเชียว ผิดจรรยาบรรณตายโหง ผมกำลังอวยพรอาแปะแกด้วยมธุรสวาจาที่แกคงอยากได้ยินมากที่สุดตะหาก จะไม่ใช่ได้ยังไงก็ในเมื่อซองบุหรี่แม่งมีภาพเตือนตัวเป้งว่ามันเป็นอันตรายยังไง ก็ยังเสือกสูบเข้าไปอีก จะให้หมอหมาอย่างผมเข้าไปกระชากบุหรี่ออกจากมือแกก็จะโดนฟ้องร้องว่ายัดเยียดความคิดประชาชนอีก สรุปแล้ว...ขอให้มีความสุขกับมะเร็งนะครับลุง