ตอนพิเศษ นายยอดชายกับไดอะรีสีแดง--- ตอนที่1
***************************************
ตั้งแต่วันที่ไอ้ทัยบอกกับผมเรื่องความสัมพันธ์ที่เป็นได้ระหว่างผมกับมัน ชีวิตของผมมันก็เหมือนกับขาดจุดหมายในการดำรงอยู่
ที่ผ่านมา ผมนั่งคิดทุกวัน หาวิธีที่จะบอกความรู้สึกของผมที่มีกับมันให้ละมุนละไม และซึ้งใจมันมากที่สุด
ผมพยายามคิดบวกอยู่ตลอด ว่าถ้าเราแสดงความรู้สึกที่จริงใจของผม ให้มันรู้ มันจะต้องมีใจให้ผมบ้าง
แต่สุดท้าย การที่ผมมัวแต่ลังเล มันก็ทำให้ผม .... เสียมันไป
วันนั้น ไอ้ทัยส่งไดอะรี่คืนผมด้วยสีหน้าที่บรรยายอารมณ์ได้ยาก แต่ผมรับมาด้วยใบหน้าที่อาบด้วยน้ำตา
ผมนั่งคิดถึงเรื่องราวเก่าๆสมัยที่มันกับผมยังคงเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจ ทุกครั้งที่ภาพวันเก่าๆในช่วงนั้นไหลย้อนกลับเข้ามาในหัว มันทำให้ผมอมยิ้มทุกครั้ง
และแม้ในวันนี้ อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป
แต่ผมก็ขอที่จะเขียนไดอะรี่เล่มเดิมนี้อีกครั้ง เผื่อว่ามันจะช่วยให้อะไรๆในใจผมดีขึ้นมาบ้าง
.
.
.
เมื่อคืนฝันถึงไอ้ทัยอีกแล้ว เห็นมันนั่งคนเดียวเป่าขลุ่ยเงียบๆอยู่ที่กระท่อมปลายนา กำลังจะเดินเข้าไปหามันในฝัน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทัก ก็ตื่นเสียก่อน
ขนาดในฝัน กูยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงมึงได้เลย
ที่วงกำลังขาดมือกีต้าร์ เห็นกำลังรับสมัครคนใหม่อยู่ ถ้าได้เป็นมือกีต้าร์ของวงก็ได้เหมือนกัน ดีกว่าที่จะเป็นตัวแถมอยู่อย่างนี้ สงสัยจากนี้ต้องฝึกซ้อมเสียหน่อย อย่างน้อยก็อาจจะทำให้หายฟุ้งซ่านได้บ้าง
หยิบกีต้าร์ขึ้นมาดีดช้าๆ ด้วยความคิดที่ว่างเปล่า
"วันที่เรามีรักให้ใครสักคน
ถ้ามันเป็นเพียงความรักข้างเดียวก็คง...ต้องเสียใจ
แต่รักเขาแล้ว ไม่บอกไม่ยอมพูด...เพียงคำเดียวแล้วปล่อย
ปล่อยมันให้สายไป...ยิ่งช้ำใจ"
ผมถอนหายใจช้าๆ
นี่มันเพลงที่กูเล่นให้ทัยฟังครั้งแรกนี่หว่า
ผมสลัดหัวแรงๆหนึ่งทีก่อนจะพลิกหาเพลงอื่นเล่น
.
.
.
สำเร็จแล้ว ในที่สุดก้ได้เป็นมือกีต้าร์ของวงแล้ว 555+ กูเก่ง
พรุ่งนี้ต้องไปซ้อมเลย
- -
กูคิดถูกหรือเปล่าวะที่มาเป็นนักดนตรีเนี่ย
เหมือนจะเหนื่อยกว่าเล่นเป็นตัวแสดงเยอะเลยวะ
..... แอบถอนหายใจคนเดียว
.
.
.
วันนี้เป็นวันรับน้องของวงดนตรีที่โรงเรียน
ก็ไม่มีอะไรมาก แค่แนะนำตัวกันระหว่างนักดนตรีรุ่นเก่า กับรุ่นใหม่
ที่วงรับมือไวโอลินโควต้ามาคนนึง
หน้าตาจิ้มลิ้มดีจัง
เหมือนๆจะดูดีกว่าไอ้ทัยด้วยนะ
เง้อออออ
ไม่ๆๆๆๆ จำไม่ได้หรอ ว่าสัญญากับตัวเองว่ายังไง***********************************
ผมปิดสมุดไดอะรี่ลง ก่อนจะเก็บลงลิ้นชัก แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับตาลงช้าๆ
"ทัย...กูเป็นเพื่อนกับมึงไม่ได้หรอก"ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ
เหลืออีกราวๆห้าวันจะเปิดเทอม แต่สำหรับบรรดานักดนตรีกับแดนเซอร์ เหมือนไม่มีปิดเทอมสำหรับพวกเราเลย เพราะซ้อมกันทุกวัน ผมเริ่มคุ้นเคยกับเพื่อนๆ พี่ๆนักดนตรีมากขึ้น และทุกคนก็เริ่มสนิทกันแล้ว เพราะได้กินอยู่ร้วมกันเป็นเวลาร่วมเดือน
มือไวโอลินที่ผมเคยพูดถึงชื่อเบลครับ พวกอีหว่าหวาพากันปลื้มน้องคนนี้ไม่น้อย แต่ไม่รู้สิ ตั้งแต่เกิดเรื่องกับไอ้ทัย ผมก้ไม่ได้ใส่ใจกับหน้าตาของใครเป็นพิเศษ และทุ่มเทให้กับการซ้อมเสียมากกว่า
ผมเดินลงมาดื่มน้ำข้างล่างในช่วงพัก ก็ได้ยินเสียงไวโอลินดังแว่วมาทางม้าหินใกล้ๆกับตู้น้ำเย็น
บทเพลงที่มันเล่นนั้นฟังดูมีมนต์ขลังมากครับ จนผมเผลอเดินตามเสียงนั้นไป
http://www.youtube.com/v/b1tUdbknTeAจนเสียงดนตรีจบลง ผมปรบมือให้เบาๆ จนไอ้เบลมันหันกลับมา
"เพลงเพราะดี ชื่อเพลงอะไรหรอ พี่ก็ไม่ค่อยสันทัดเพลงคลาสสิคด้วยสิ"ผมบอก
"nocturne (นอคเทิร์น)ครับ"มันบอกยิ้มๆ
"งั้นหรอ เพราะดีนะ พี่ชอบ"ผมยิ้มตอบ
มันมองหน้าผม แล้วเอียงคอนิดๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา "หรอครับ?"
ผมชักฉุนนิดๆ ทำไมวะ หน้าอย่างกูฟังเพลงคลาสสิคมั่งมันขัดหนังหน้ารึไง "เอ้า บอกชอบก็ชอบสิวะ"
ไอ้น้องเบลมันขำเบาๆ "เปล่าครับพี่ ไม่มีอะไร พี่ก็เล่นกีต้าร์เก่งนะครับ ผมแอบฟังอยู่"
"เออขอบใจ"ผมตอบขอไปที
"ช่างเหอะครับ ป่ะ ขึ้นตึกกันเถอะ"
****************************
ไอ้ทัยมันจะมาซ้อมกับวงบ้างเหมือนกันครับ เพื่อสร้างความคุ้นเคย แต่มันจะไม่มาทุกวันเหมือนพวกนักดนตรีหรือแด๊นเซอร์ ผมเคยคุยกับมันเหมือนกัน ว่าทำไมไม่มาอยู่กับเพื่อนๆ ซึ่งมันก็บอกว่าอยากอยู่บ้าน แต่ที่ผมไปสืบมาได้ ก็คือ...
มันมักจะไปเป่าขลุ่ย คนเดียวที่กระท่อมข้างทุ่งนาของบ้านพี่โอ
ผมหลับตาลงช้าๆ ข่มความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
อดทนไว้ ซักวันอาจจะเป็นของเรา
ผมบอกตัวเอง
ผมเดินออกจากห้องน้ำของโรงเรียน เสียงเพลงนอคเทิร์นที่เคยฟังมาแล้วครั้งหนึ่งดังแว่วมาอีกครั้ง ผมนึกครึ้มเลยเดินไปทางต้นเสียง
"ยังเพราะเหมือนเดิมนะ"ผมบอกมัน
"ดูท่าพี่จะชอบจริงๆนะ เพลงนี้"มันหันมา
"ก็คงน้อยกว่าเบลแหละ ไม่งั้นพอมีเวลาว่างทีไร ถึงได้เล่นเพลงนี้ทุกที"
มันเงียบลง แล้วเบือนหน้าหนี "ผมชอบเล่นเพลงนี้เวลาอยู่คนเดียวน่ะครับ"
ความเป็นจริงมันก้เป็นเพียงประโยคบอกเล่าธรรมดา แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม บรรยากาศถึงได้ดูเงียบลง
มันหันหน้ามาทางผมอีกครั้ง ก่อนที่จะยิ้มขึ้น ซึ่งทำให้บรรยากาศคลายความตึงเครียดลง
"พี่ชอบเพลงนี้จริงๆ หรือเปล่า"
"อืมม มันก็เพราะดีนะ"
"ผมไปได้ฟังเพลงๆนึงในเน็ต ชื่อเพลงนอคเทิร์นเหมือนกัน แต่เป็นเสียงกีต้าร์คลาสสิก พี่ลองฟังดูมะ"
"อ่าา เอาสิ"ผมบอก
ไอ้น้องเบลหยิบเครื่องเล่นเอ็มพีสามขึ้นมา เสียบหูฟังข้างหนึ่งไว้ที่หูของตัวเอง แล้วเสียบหูฟังอีกข้างหนึ่งที่หูผม มันเขย่งตัวเล็กน้อย ผมถึงได้รู้ว่า เบลนี่เตี้ยกว่าผม หุหุ แอบดีใจ ถึงมันจะหน้าตาดีพอๆกับเรา แต่เราสูงกว่า
เสียงเพลงจากเครื่องเล่นดังขึ้น แค่อินโทรของเพลงก็น่าฟังแล้ว
http://www.youtube.com/v/b2W7Com4DEEผมรู้สึกชอบเพลงนี้มากๆทันทีที่ได้ฟัง จนต้องขอน้องมันฟังอีกร้อง ซึ่งน้องมันก็ยิ้มให้แล้วกดรีเพลย์ให้ฟังอีกครั้ง
ผมพยายามฟังเสียงคอร์ดและลักษณะการไล่นิ้วของเพลงนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นเพลงที่ท้าทายพอสมควร ส่วนเนื้อร้องนั้น แหะๆ ไม่รู้เรื่องเลยครับ เพราะเป็นภาษาจีน
ผมถอดหูฟังคืนเบล แล้วยิ้มให้อย่างชอบใจ
"เพราะมั้ยพี่"มันยิ้มอย่างน่าเอ้นดุให้ผมเหมือนเด็กอยากอวดของให้ผู้ใหญ่ ผมมองหน้ามัน ตากลมโตดวงนั้นดูเป็นประกายน่าหลงใหลเหมือนกันแฮะ
"เพราะมากเลยเบล เข้าใจหาเพลงฟังนะ ว่าแต่เพลงมันพูดถึงอะไรหรอ เหมือนจะเป็นภาษาจีน พี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย"
"แหะๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันอะพี่ แต่ถ้าเป็นโชแปงเวอร์ชั่นคลาสสิคเนี่ย มันจะบรรยายอารมณ์และบรรยากาศยามค่ำคืน ที่ทั้งสุข เศร้า แล้วก็....เหงา"มันพุดคำหลังเบาๆ แล้วบรรยากาศก้ดูตึงเครียดอีกครั้ง
"เอ่อ เบลเป็นอะไรหรือเปล่า"ผมถามมัน หลังจากดูสีหน้าของมันที่เปลี่ยนไป
"อ่าา ไม่มีอะไรหรอกครับ ว่าแต่พี่ชอบเพลงที่ผมเอามาให้ฟังใช่ปะ"มันถามผมแล้วยิ้มอีกครั้งด้วยใบหน้าที่มองแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เออ เปลี่ยนอารมณ์ไวดีเว้ย -*-
"ก็ชอบอะ ทำไมหรอ"ผมทำหน้างงๆ
มันยิ้มเล็กๆ เหมือนเด็กกำลังซ่อนของเล่น "งั้นรอแป๊ปปป พี่ฝากไวโอลินผมหน่อย" แล้วมันก็วิ่งปรื๊ดดด ขึ้นตึกไป ผมรับไวโอลินของมันมา แล้วมองตามอย่างงงๆ
สักพัก มันก็วิ่งลงมาอย่างหอบเหนื่อย พร้อมกับกระดาษหนึ่งใบในมือ
"โอยยย เหนื่อยย"มันบ่น
"แล้วจะวิ่งทำเกลือไรละวะ"ผมหัวเราะ
"ก็อยากให้พี่เห็นไวๆอะ เอ้า นี่ รับไปดิพี่"มันยื่นกระดาษในมือให้ผม "คอร์ด กับ แท็ปเพลงนี้ ผมไปหามาให้"
"โอ้โห ขอบใจมาดเลยน้อง"ผมตบไหล่มันแล้วคล้องคอมัน
"แต่มีข้อแม้อย่างนะ"มันยิ้มเจ้าเล่ห์
"อะไรวะ มีงี้ด้วย"ผมทำเสียงขุ่นๆ
"จะเอาไม่เอา" แล้วมันก็คว้าโน้ตเพลงคืน
"เออ เอาก้เอา ว่ามาสิ"
"ก็.... ถ้าพี่เล่นได้แล้ว อย่าลืมเล่นให้ผมฟัง...คนแรกนะ"มันก้มหน้าพูด
ผมกลั้นหัวเราะเอาไว้ เออนะ ไอ้เบลนี่ มันทำตัวเป็นเด็กๆดีแฮะ แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะตอบมันพร้อมกับยิ้มให้
"นึกว่าอะไร แค่เนี้ย ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่"ผมบอก
"สรุปตกลงใช่มั้ย?"มันถามผม สีหน้ายังคลางแคลง
ผมคลายแขนที่คล้องคอมันไว้ออก แล้วยิ้มให้มัน ในหัวผมนึกอะไรสนุกได้ขึ้นมา
แหะๆๆ ก็นะ แกล้งคนน่ารักสนุกดี
"ได้สิน้องเบล"ผมกระซิบที่ข้างหูมัน ก่อนจะหยิบโน้ตเพลงจากมือน้องมันอย่างง่ายดาย
เบลหน้าแดงจัดจนสังเกตได้ ผมแอบขำในใจ มันมองหน้าผมด้วยสีหน้าแปลกๆ แต่ตอนนั้นมันดูตลกดี
"ไม่เห็นต้องกระซิบเลย บอกธรรมดาก็ได้"มันบอก
"555+"ผมหัวเราะแต่ไม่พุดอะไร
"ไม่ต้องมาหัวเราะเลย"มันพูดห้วนๆ
"จะหัวเราะอะ จะทำไมวะ"ผมพุดพร้อมกับขยี้หัวมันแรงๆ
"เห้ยย อย่าทำเหมือนผมยังเป้นเด็กๆดิพี่ ผมโตแล้วนะ"มันเอามือปัดออก
"โตแล้วไง ยังไงก็ยังรุ่นน้องข้าอยู่ดี"ผมเริ่มเปลี่ยนสรรพนาม ด้วยความรู้สึกที่สนิทมากขึ้น
"อ่าโด่ แน่ดิ๊ เรื่องความแก่ ผมตามพี่ไม่ทันหรอก 555+" มันพุดแล้ววิ่งหลบตีนผมอย่างหวุดหวิด
"ชะไอ้นี่" ผมสบถขำๆ
"ขึ้นไปซ้อมต่อดีกว่า อยู่ตรงนี้โดนลุงยอดแกล้ง กร๊ากก"มันทำท่าทะเล้น จะว่ากวนตีนก็กวนตีน แต่ถ้าจะมองว่า
.
.
.
.....น่ารักดี มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน ผมคิด
****************************************
เอาใจสาวกนายยอดชาย กับยอดชายเดอะซีรีส์ อิอิ
นายหนุงหนิง
มีต่อนะคับ