ตอนที่43
*****************************************************************
ตั้งแต่ที่พี่โอย้ายไปเรียน ช่วงปิดเทอม ผมกับพี่โอโทรหากันบ้างตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ ซึ่งมันก็พอที่จะทำให้ผมหายคิดถึงลงไปบ้าง ส่วนคนอื่นๆในวงก็ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวลงแข่งในปีหน้า ไอ้ยอดตอนนี้ได้เป็นมือกีต้าร์ประจำวงแล้ว แทนมือกีต้าร์คนเก่าที่จบออกไป นอกจากนั้น ในวงยังมีสมาชิกที่เป็นน้องใหม่ม.4เข้าร่วมวงด้วยสองสามคน โดยเฉพาะน้องเบล ที่สอบเข้าได้จากโควต้านักดนตรี โดยน้องเค้าจะมาเป็นมือไวโอลิน น้องเบลนี่เหล่าบรรดาเพื่อนสาวของผมพากันกร๊ดกร๊าดเป็นพิเศษ เพราะน้องเค้าหน้าตาน่ารักมาก คิ้วเข้ม ตาโตคม ผิวขาว และเป็นคนที่ยิ้มแล้วมีเสน่ห์มากคนนึง (ผมแอบเหล่ๆด้วยแหะๆ แต่เหล่แบบเวลาที่ผมชอบแอบมองไอ้ยอดเมื่อก่อนนะ ไม่ได้คิดไร)
ตอนนี้ผมเปิดเทอมแล้ว ชีวิตม.5ของผมเริ่มต้นขึ้น กิจกรรมของเด็กม.ปลายคงไม่มีอะไรมากมายนัก ผมแอบอิจฉาเล็กๆกับพี่โอที่พี่โอมักจะเล่าให้ฟังถึงกิจกรรมรับน้องใหม่ และเพื่อนๆของพี่แก ที่บางทีก็พาพี่โอไปจีบสาว ซึ่งพี่โอมักจะบอกปัดไปว่ามีแฟนแล้ว แต่เพื่อนพี่โอก็บอกว่าคิดไรมากล่ะ ไม่ได้หักคาไว้ซะหน่อย อย่าให้แฟนรู้ดิ หุหุ (พี่โอเล่าให้ฟัง)
.
.
.
"เอาล่ะทุกคน ครูว่าเราฝึกซ้อมกันมาพอสมควรแล้ว วันนี้เราจะมาเลือกเพลงสำหรับไปแข่งในรอบแรกกัน ใครมีข้อเสนออะไรบ้าง"ครูรตีบอกกับพวกเรา
ทุกคนนิ่งเงียบ ผมกำลังชั่งใจ ความจริงผมมีเพลงๆหนึ่งอยู่ในหัว และคิดโชว์ไว้คร่าวๆด้วย แต่ไม่รู้ว่าผมจะทำได้มั้ย เพราะการที่ผมคิดถึงเพลงนี้
ได้รับแรงบรรดาลใจจาก "พี่โอ"
และแล้วผมก็ตัดสินใจลองเสนอความคิดของตัวเองดู
ผมยกมือ แล้วพูดกับทุกคน "ผมขอเสนอเพลง เสียงขลุ่ยเรียกนาง ครับ เพราะหนึ่งเรื่องดนตรี ผมว่าเพลงที่มีขลุ่ยเป็นส่วนประกอบมันเพราะดี ตัวเพลงเองก็มีความหมายดี ผมชอบเป็นการส่วนตัว และแอบฝึกมาแล้วด้วย แหะๆ" ผมหยิบเอาเครื่องเล่นMP3 แล้วเปิดให้ทุกคนฟัง
http://www.imeem.com/amikojang/music/Ldn3A3dq//"อืม เพราะดีนี่ทัย" ไอ้ยอดว่า
"คนอื่นว่ายังไงบ้างจ้ะ"ครูรตีถาม
"ว่าตามกันแล้วกันค่ะ ทัยเค้าซ้อมมาแล้วนี่"นังเจสว่า
"ถ้างั้น ฝากนายเจสคิดโขว์เพลงนี้ให้ด้วยนะคะ เอ่อ แล้วครูเอกคะ ฝากหาโน้ตเพลงนี้มาแจกจ่ายให้กับเด็กๆในวงด้วยนะคะ"ครูรตีบอกครูเอกที่เป็นอาจารย์ที่คุมเรื่องดนตรีในวง
และแล้ว ฤดูกาลการแข่งขันรายการชิงช้าสวรรค์ก็เริ่มต้นอีกครั้งสำหรับโรงเรียนSSSS
สตูดิโอเวิร์คพ้อยท์ยังคงเหมือนเดิม บรรยากาศการจับสลากจับคู่ยังคงคึกคักและวุ่นวายไปด้วยบรรดานักเรียนที่เข้าแข่งขันจากโรงเรียนต่างๆ บรรดาแก๊งกระเทยห้าสียังคงละลานตากับการเหล่มองหนุ่มๆนักดนตรีต่างโรงเรียน ส่วนไอ้ยอดมีสาวมาขอเบอร์ด้วยล่ะ ปีนี้รอบแรกของโรงเรียนของผมจับคู่เจอกับโรงเรียนAAAจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนใหม่ที่เพิ่งมาแข่งครั้งแรก จากตารางการแข่งที่นังนนนี่เปิดให้ผมดู สายของผมนับว่าโชคดีกว่าอีกสาย เพราะอีกสายนั้น มีทั้งอัมพวัน และบัวใหญ่ (แชมป์ออฟเดอะแชมป์ปีที่4(อัมพวัน) กับ รองแชมป์ออฟอันดับ2เดอะแชมป์ปีที่2(บัวใหญ่))
.
.
.
บรรยากาศซ้อมใหญ่ชองพวกเราไม่เคร่งเครียดกันเท่าไหร่นัก หลังจากที่เรามีประสบการณ์มาพอสมควรจากการแข่งในปีที่แล้ว แต่สำหรับผมนั้น แม้จะมีประสบการณ์มาบ้าง แต่ผมก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี ที่ต้องมารับบทแม่ทัพเป็นนักร้องนำพาทีมเข้าสู่รอบต่อๆไปให้ได้ นับว่าเป็นภาระที่หนักพอสมควร และเหนืออื่นใด ภาพของนักร้องนำคนเก่ายังคงเป็นเหมือนเงาที่ไม่ลบไปจากที่แห่งนี้เลย ถึงแม้ผมกับพี่โอจะไม่ได้ขาดการติดต่อกัน แต่การที่ไม่ได้เห็นหน้ากันอย่างเมื่อก่อน มันก็ทำให้ผมใจหายไม่น้อยเช่นกัน
ผมนั่งพักมองดูบรรดาแดนเซอร์สาวๆ(?)ซ้อมกันอย่างเงียบๆ ในใจเหม่อลอยถึงใครบางคนอยู่ สักพักก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินมาจากทางด้านหลัง แล้วกอดคอผมอย่างเป็นมิตร
"ใจลอยหาพี่โออยู่หรือไงวะ"ไอ้ยอดถามโดยไม่ได้มองหน้าผม ผมไปมองมันพร้อมกับยิ้มจางๆ
"อืมม ก็นิดนึงแหละวะ ถ้าพี่เค้ายังอยู่ กูคงได้แต่งหญิงเหมือนปีที่แล้ว"
"555+ นั่นสินะ คิดไปคิดมาก็อยากให้พี่โอยังอยู่"ไอ้ยอดหันมามองหน้าผมแล้วพูดยิ้มๆ
"ทำไมวะ"ผมถามงงๆ
"กูชอบนะตอนมึงแต่งหญิง หุหุ"
"ไอ้สัสยอด เดี๋ยวตบปากแตก"ผมพูดพร้อมเชี้ยะกระโหลกมันหนึ่งทีอย่างอารมณ์ดี
ผมกับไอ้ยอดหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี นานแล้วนะ ที่ผมกับมันไม่ได้มีบรรยากาศอย่างนี้ด้วยกัน สักพักระหว่างที่ผมนั่งคุยกับไอ้ยอด น้องเบล มือไวโอลินประจำวงก็เดินมาหาพวกผมสองคนโดยถือแก้วน้ำมาด้วยสองใบ
"คุยไรกันหรอคับพี่"น้องเบลถาม
"อ่าา เรื่องไร้สาระน่ะ"ไอ้ยอดตอบ
"อะนะครับ ช่างเถอะ อะพี่ยอด ผมตักน้ำมาให้"น้องเบลยื่นแก้วน้ำให้ไอ้ยอด
"อืมมขอบใจ"ไอ้ยอดรับแก้วจากน้องเค้ามาดื่ม
"อ้าว แล้วไหนของพี่ล่ะครับน้อง"ผมถามยิ้มๆ พลางมองไปยังอีกแก้วที่น้องเค้าถืออยู่
"อันนี้ของผม ผมตักมากินเองพี่ 55+ นักดนตรีเค้าต้องดูแลกัน นักร้องม่ายเกี่ยววว หุหุ" ไอ้น้องเบลหัวเราะได้น่ารักน่าหยิก บวกกับน่าเตะไปพร้อมๆกันทีเดียว
"โห ใจร้ายอะ"ผมแกล้งทำหน้าเศร้า จนน้องมันขำ
"อะกินกะกูก็ได้"ไอ้ยอดยื่นแก้วน้ำของมันให้ผม
"อ่าา ขอบใจ น่ารักมากกก ยอดเพื่อนร้ากกก"ผมหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม พร้อมกับส่งสายตากวนๆไปให้ไอ้เด็กใหม่
.
.
พวกเราซ้อมเสร็จกันในตอนเย็น พรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางไปแข่งในรอบแรกกันแล้ว ครูรตีบอกให้เราพักผ่อนให้เต็มที่ และพยายามผ่อนคลายให้มากที่สุดอย่าตื่นเต้นและเครียดมากไปนัก แล้วจึงปล่อยพวกเรากลับบ้าน
ผมกับไอ้ยอดเดินกลับบ้านด้วยกัน ผมเดินคิดอะไรปไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็รู้สึกได้ว่ายอดมักจะแอบมองผมจนรู้สึกได้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร
เราเดินกันมาจนถึงทางแยกที่ผมต้องแยกกับมันเป็นประจำ ผมโบกมือลามันแล้วยิ้มๆ
"พรุ่งนี้เจอกันนะยอด"
"อืมม กูจะรอมึงอยู่ตรงนี้นะทัย แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"
ผมยิ้มรับจางๆ แล้วเดินกลับบ้านลำพัง
.
.
.
ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงสตูดิโอเวิร์คพอยท์ สิ่งต่างๆยังคงเหมือนเดิม ต่างตรงที่วันนี้ไม่ใช่ปีที่แล้ว และไม่ใช่นักร้องนำคนก่อน
หลังจากที่เรามาสักการะองค์พระพิฆเนศวรด้านหน้ากันแล้ว บรรดาครูอาจารย์และนักเรียนก็ช่วยกันขนฉากและอุปกรณ์ลงจากรถ พวกแดนเซอร์และผมพากันแต่งหน้าแต่งตัว สำหรับผมนั้นไม่ได้แต่งอะไรมาก เพียงแต่แต่งหน้าบางๆ แล้วใส่ชุดที่เตรียมเอาไว้แล้วเท่านั้น พอแต่งเสร็จ ผมแอบหลบมุมมานั่งทำสมาธิคนเดียวตรงสนามบาสใกล้ๆกับสตูดิโอ พร้อมกับหยิบขลุ่ยคู่ใจออกมาด้วย
ผมทำสมาธิอยู่สักครู่ให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง แล้วเป่าเพลงกล่อมนารีที่ซ้อมมา
"พี่โอ เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ" ผมนึกในใจ แล้วเดินกลับไปที่ห้องพัก
.
.
.
"เอาล่ะครับ น้องๆสแตนด์บายไว้นะครับ เดี๋ยวเราจะถ่ายทำกันแล้ว"
ผมกุมมือแน่น พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ผมหันไปข้างหลังด้วยความหวังที่ว่า พี่โออาจจะอยู่ตรงนี้ และยิ้มให้กำลังใจผม แต่ที่ผมเห็น กลับเป็นไอ้ยอดในชุดของนักดนตรี ที่ส่งยิ้มมาเป็นกำลังใจให้
ผมยิ้มรับ แล้วหันหน้ากลับมาอีกครั้ง
5 4 3 2
"สวัสดีค่ะ ท่านผู้ชม กลับมาอีกครั้งกับรายการชิงช้าสวรรค์ในช่วงชิงช้าสวรรค์คอนเทสปีที่ Y ค่ะ และวันนี้ก็เป็นการแข่งขันรอบแรกสายก. คู่ที่1นะคะ โดยวันนี้เป็นการพบกันระหว่างโรงเรียน SSSSพิทยาคมจากจังหวัด___กับโรงเรียนAAAจากจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ"แอน สิเรียมพูดเปิดเข้ารายการ
"ใช่แล้วครับ โดยเฉพาะโรงเรียนแรกนี่เค้ามาเป็นปีที่สอง ปีแรกนี่เค้าเก่งมากเลยนะ เข้าไปได้ถึงรอบ4ทีมสุดท้าย แต่ไปแพ้ให้กับศึกษานารี แถมต้องแข่งกันถึงสองรอบเลยทีเดียว"พี่โน้ตว่า
"ส่วนโรงเรียนAAAนี่ถึงเค้าจะมาใหม่ แต่ฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน พี่โน้ตเชื่อหนูสิ หึหึ" พี่ส้มพูดบ้าง
จากนั้นก็เป็นการแนะนำกรรมการ ซึ่งปีนี้กรรมการด้านเสียงร้องเป็นครูชลธี ธารทอง และต่อมาก็เป็นการส่งโน้ตเพลง ซึ่งโรงเรียนผมได้แสดงก่อนครับ
"และโรงเรียนSSSSพิทยาคมส่งเข้าประกวดด้วยบทเพลง.... เสียงขลุ่ยเรียกนางครับ"
"เสียงขลุ่ยเรียกนางนี่ต้นฉบับก็เป็นของคุณ ศรคีรี ศรีประจวบครับ โดยต้นฉบับนี่เค้าก็จะเปิดมาด้วยเสียงขลุ่ยมาโซโลเป้นอินโทรแล้วส่งให้นักร้องร้องเลย แต่ทางรายการไม่ได้บังคับให้ต้องทำตามต้นฉบับ กล่าวก็คือ สามารถที่จะเรียบเรียงเสียงประสานเองได้ แต่อย่างที่พุดบ่อยๆ เพลงอย่างนี้ดนตรีต้องเล่นให้ซอฟท์ ให้ตัวนักร้องเป็นพระเอก ก็ฝีมือโรงเรียนนี้นี่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว จะรอฟังและให้คะแนนแล้วกันครับ"ครูแดนกล่าว
"ด้านนักร้อง เพลงนี้นี่นักร้องต้องเป็นพระเอกอย่างที่ครูแดนได้บอกไว้น่ะนะ ซึ่งเพลงนี้นี่เสียงดีอย่างเดียวไม่ได้ต้องเสียงหวานด้วย ถึงจะเพราะ วึ่งต้นฉบับคือศรคีรีนี่เค้าทำไว้ดีทีเดียว เอาเป็นว่ารอให้คะแนนแล้วกัน"
"แล้วครูเทียมว่ายังไงบ้างคะ"
"อ่าเรื่องโชว์นี่สำหรับเพลงนี้ถือว่าจะยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ยากตรงที่เพลงนี้เป็นเพลงเล่าอารมณ์ ซึ่งถือว่าการคิดโชว์นั้นยากอยู่แล้ว หมายความว่านักร้องนี่ต้องร่วมโชว์และร่วมถ่ายทอดอารมณ์ด้วย จะมาร้องเชิดๆธรรมดาไม่ได้ แต่ที่บอกว่าง่ายนี่คือง่ายจากชื่อเพลง ที่เค้าบอกมาแล้วว่าเสียงขลุ่ย นั่นคือน้องจะใช้ขลุ่ยถ่ายทอดอารมณ์ของไอ้หนุ่มบ้านนาที่มันคิดถึงสาวคนรักได้ยังไง เอาเป็นว่ารอชมดีกว่าครับ เชื่อว่าต้องน่าชมแน่ๆ เพราะไอเดียเรื่องโชว์ของโรงเรียนนี้นี่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว โชว์เพลงไม่เอาคืนเมื่อคราวก่อนโน้นยังคงประทับใจครูมากนะครับ เป็นกำลังใจให้น้องๆแล้วกันครับ"
"เอาล่ะค่ะ แค่ฟังความเห็นก็น่าดุแล้วสิคะ ถ้างั้นเรามาชมกันเลยค่ะ กับโรงเรียนSSSSพิทยาคม ในเพลง เสียงขลุ่ยเรียกนางค่ะ"
เสียงผู้ชมปรบมือดังขึ้น การแสดงของพวกเราเริ่มขึ้นแล้ว....
ผมอยู่ในชุดม่อฮ่อมสีน้ำเงินสด ฉากด้านหลังเป็นรั้วไม้ไผ่และกองฟางขนาดย่อม ผมนั่งบนแคร่ โดยรายล้อมด้วยแดนเซอร์ชุดสีเขียวใบตองผ้ามัน ในมือถือขลุ่ยไทยแต่จับในลักษณะขลุ่ยจีนทำท่าเป่าอยู่ ผมเป่าเพลงกล่อมนารีไปเป็นท่อนสั้นๆ ก่อนจะวางขลุ่ยลง พร้อมกันกับที่ตัวเต้นค่อยๆโยกตัวช้าลง
"กลอยเอ๊ย เอ็งจะรู้บ้างมั้ย ว่าพี่เป็นห่วง"
http://www.imeem.com/amikojang/music/Ldn3A3dq//แดนเซอร์ค่อยๆกระจายตัวออกตามจุดบล๊อกกิ้งที่วางไว้ ส่วนผมหลบมุมไปหลังฉากพร้อมกับเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักร้องสีขาวเรียบๆ ประดับด้วยขนนกกระจอกเทศย้อมสีเหลืองที่ประดับไว้ตรงกระเป๋า กับกางเกงสแลคสีขาว
เสียงไวโอลินหวีดหวิวขึ้นมาเบาๆ สอดรับด้วยเสียงขลุ่ยซึ่งเป็นทางที่ได้เรียบเรียงเสียงประสานขึ้นมาใหม่ แล้วส่งให้นักร้องได้ร้องด้วยเครื่องเป่าbrassครบทีม ต่อด้วยหางเสียงที่เอาขลุ่ยค่อยๆไต่ระดับส่งให้นักร้องได้เริ่มร้อง
"เสียงขลุ่ยครวญหวนมากับลม
พี่สะอื้นฝืนระทมกล้ำกลืนฝืนข่มใจเหงา
ขลุ่ยครางครวญพี่หวนคะนึงถึงเจ้า
ฟังเสียงหริ่งหรีดเร้าพี่ยิ่งเศร้ามิวาย
น้องจากมาหายหน้าจากจร
สู่กรุงเทพมหานคร ตัดรอนมิตอบจดหมาย
ได้ข่าวดีเจ้าคว้าเทพีชาวไร่
ลืมรักเก่าเราไว้ สิ้นเยื่อใยลืมลง
โอ้เจ้ากลอยสาวน้อยบ้านนา
จากดอกหญ้ากลายเป็นดาราสูงส่ง
พี่สะอื้นถึงน้องจะลืมพี่ลง
อย่าลืมหลงน้องเอยเจ้าจงระวัง
(ตัวเต้นมายืนรวมกันที่ตรงกลาง โดยนังนนนี่อยู่กลาง และตามด้วยนังพจน์และนังเจส คนอื่นๆอยู่รอบ จากนั้น นังพจน์กับนังเจสก็ยกตัวของหว่าหวาที่ตัวเล็กสุดลอยขึ้นไป พร้อมกับโบกสะบัดมือเลียนแบบท่าทางของต้นไผ่ที่ต้องลม จากนั้นก็คอยๆยกลงช้าๆ แล้วชูมือโบกสะบัดท่าไผ่โดนลมพัดอีกครั้ง)
หวิวไผ่ครางเคล้าลมอ่อนโอน
ต้นตาลเดี่ยวสุดฝืนยืนต้น
ดังคนสูญสิ้นความหวัง
ขลุ่ยบรรเลง เจ้ารับฟังเพลง พี่บ้าง
กลอยเอ๋ยอย่า ลาร้าง
หนุ่มเดิมบางสุพรรณหลงคอย"
ท่อนโซโล เป็นการสอดประสานกันอีกครั้งระหว่างไวโอลินกับขลุ่ย ส่วนตัวเต้นยืนล้อมผมเป็นวงกลมแล้วชูขลุ่ยออกมาด้านนอกเป็นวงกลมเล่นระดับเป็นรูปดอกไม้ แล้วหมุนเป็นวงพร้อมกับชยับมือที่ถือขลุ่ยเป็นภาพเหมือนกับดอกไม้กำลังโดนลมพัดกลีบสะบัด ก่อนจะค่อยๆกระจายตัวอีกครั้งเมื่อดนตรีส่งให้นักร้อง
"หวิวไผ่ครางเคล้าลมอ่อนโอน
ต้นตาลเดี่ยวสุดฝืนยืนต้น
ดังคนสูญสิ้นความหวัง
ขลุ่ยบรรเลง เจ้ารับฟังเพลง พี่บ้าง
กลอยเอ๋ยอย่า ลาร้าง
หนุ่มเดิมบางสุพรรณหลงคอย"
ผมร้องจบลง แล้วเดินมาที่แคร่ตัวเดิม ตัวเต้นเดินเรียงแถวตามผมมาแล้วเริ่มกระจายตัวไปอยู่ตามจุดบล๊อกกิ้ง ผมนั่งลงทอดมองออกไปด้านหน้า ความรู้สึกคิดถึงมากมายมันจุกแน่นอยู่ในอก ราวกับจะระเบิดออก ผมหยิบขลุ่ยขึ้นมาประทับที่ปากในท่าเตรียมเป่า เสียงขลุ่ยหวีดหวิวขึ้นอีกครั้ง และจบด้วยเสียงของไวโอลินที่ยิ่งเพิ่มอารมณ์เพลงที่แสดงออกถึงความคิดถึง...อย่างที่สุดของชายหนุ่มในเพลง
ตัวเต้นจบลงด้วยท่าประทับปากเป่าขลุ่ยอย่างขลุ่ยจีน การแสดงจบลงด้วยท่านี้พร้อมกับ....
น้ำตาของนักร้องนำที่ไหลลงมาหนึ่งเผาะ?!
เสียงขลุ่ยที่ผมเป่าตรงนี้ จะได้ยินถึงพี่บ้างมั้ย
ถ้าพี่ได้ยิน ขอให้พี่รู้เอาไว้ ว่าผมคิดถึงพี่เหลือเกิน
*************************************************************************
ต่อตอนหน้าครับ
ขอโทดจริงๆที่หายไปนานนน
นายหนุงหนิง