กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เผลอจิ้มแต้มที่ 1000 อะ ทำยังงัยดี
ใครเป็นคนกดแต้มหนึี่งพัน คนนั้นต้องเป็นเมียผม ขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามอ่านและช่วยกดคะแนนนะครับ ถ้าจะกรุณา ก็หาเมียให้ซักคนด้วยนะ เพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว อุตส่าห์ลดคุณสัมบัติก็ยังไม่มีใครสนใจผู้ชายที่น่ารักอ่อนโยนนุึ่มนวลสุภาพเรียบร้อยเป็นพ่อบ้านที่ดีอย่างผมเลย
บทที่ 21
ศรายุธนอนแผ่หราหมดแรง หายใจหอบถี่ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อคนที่นั่งอยู่บนหน้าท้องเขาขยับตัวบดเบียดอย่างหนักหน่วงอีกครั้งก่อนจะฟุขหน้าลงกับอกเขา
แม้จะกลับมาโรงแรมแล้ว แต่เต้ยก็ตามมาเพราะทนคิดถึงเขาไม่ไหว ศรายุธบอกว่าเพิ่งเจอกันตอหัวค่ำ แต่อีกฝ่ายแย้งว่านั่นแนแค่การโหมโรง แต่ตอนนี้คือการ 'เอาจริง'
...หนักหน่วง เร่าร้อน และดุเดือดอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน...
"เต้ยมีความสุขที่สุด คุณยุธล่ะครับ" เต้ยเสียงอู้อี้ ปากเม้มติ่งหูของศรายุธแล้วขบเบาๆ
"ครับ" ศรายุธตอบสั้นๆ
"ครับนี่หมายความว่ายังไง หมายความว่ามีความสุขเหมือนกันหรือเปล่า" เต้ยสงสัย
"ครับผม"
"พูดสั้นๆ อีกแล้ว" เลขาหนุ่มผู้เร่าร้อนเงยหน้าขึ้นมาทำตางอนๆ มองชายหนุ่มผู้เคยหวีผมเรียบตลอดเวลา แต่เวลานี้นอนหงายอยู่บนเตียง ผมยุ่งเพราะโดนเต้ยขยี้ ใบหน้าคมเข้มเหงื่อเต็มหน้าทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
"มีความสุขสิครับ คุณเต้ยก็เห็นว่าผมสุขขนาดไหน"
"ไม่นึกเลวว่าคนนิ่งเงียบ เคร่งขรึมเยือกเย็นอย่างคุณยุธจะดุเดือดได้เหมือนกัน" เต้ยอมยิ้มเมื่อถึงนึกบทรักที่ผ่านมาสองครั้งสองคราในคืนเดียว
ครั้งแรกเมื่อหัวค่ำนั้นอ่อนโยน นุ่มนวล เนิบนาบ แต่ครั้งที่สองเมื่อหลังเที่ยงคืนเร่าร้อนราวไฟสุม
"เต้ยไมได้คิดจะเล่นๆ กับคุณยุธนะครับ เต้ยจริงจัง คุณยุธอย่าเห็นเต้ยเป็นแค่ของเล่น เป็นแค่ทางผ่านนะครับ เพราะถ้าเป็นเป็นยังงั้น เต้ยคงเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เต้ยไม่เคยเจอใครที่ถูกใจขนาดนี้มาก่อน" เต้ยออดอ้อน มือเขี่ยหน้าอกของอีกฝ่ายเบาๆ
"ครับ" ศรายุธตอบสั้นๆ อีกแล้ว
"คุณคิดยังไงครับ"
"ผม..." ศรายุธสะอึก วินาทีนี้อะไรบางอย่างแวบเข้ามาในหัวโดยไม่คาดคิด ทำให้เขาลังเลที่จะตอบชายหนุ่มร่างบางที่นอนทับอยู่บนตัวเขา
"ไม่ได้คิดอะไรกับเต้ยแน่เลย ถึงกับอึ้ง" เต้ยทำเสียงงอน
"ไม่ใช่นะครับ ผมเพียงแต่" ศรายุธพยายามนึกหาคำพูดเหมาะๆ "เอ่อ คุณก็รู้ว่าผมพูดไม่เก่ง"
"ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งพูด เต้ยไม่เร่งรัดคุณหรอก เต้ยรู้ว่าตัวเองตรงไปตรงมามาเกินไป แต่เต้ยเป็นคนเปิดเผย คิดยังไงก็พูดยังงั้น ใช้มารยาไม่เป็น ในใจก็ได้แต่หวังว่าคุณคงมองเห็นความจริงใจของเต้ยบ้างและเก็บเอาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราคืนนี้ไปคิด" เลขาหนุ่มผู้ใสซื่อพูดเสียงอ่อนโยน "แต่ถ้าคุณไม่อยากคบเต้ยอีกแล้ว ก็ให้บอกมาตรงๆ นะครับ เต้ยจะได้ทำใจไปตามทางของเต้ย ก่อนที่จะถลำลึกกับคุณจนถอนตัวไม่ขึ้น"
"อย่าพูดแบบนี้สิครับ" ศรายุธพูดเสียงนุ่มแล้วพลิกตัวชายหนุ่มลง ประคองกอดเอาไว้ในอ้อมอก แล้วจูบพรมใบหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดว่า "ผมไม่ใช่คนแบบนั้น"
"เต้ยรู้ เต้ยมองคนไม่ผิด คุณยุธเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนรับผิดชอบ เป็นคนจริงจัง และรู้ดีว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง และคงเห็นความจริงใจของเต้ยแน่นอน เต้ยอยากจะพูดว่ารักคุณหมดหัวใจ แต่ว่าเต้ยอยากจะรอให้แน่ใจก่อน เพราะว่านี่มันเร็วเกินไป เดี๋ยวคุณจะหาว่าเต้ยง่ายและไม่มีค่า แต่เต้ยทำตามหัวใจของตัวเอง อีกไม่นาน เต้ยเชื่อว่าหัวใจดวงนี้ก็คงมั่นใจในความรักอย่างไม่ต้องสงสัย" เลขาหนุ่มผู้มั่นคงในรักยื่นปากไปจูบคางของศรายุธแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอของชายหนุ่ม "แล้วหัวใจคุณยุธล่ะครับ พอจะพิจารณาเต้ยบ้างได้ไหม"
"ครับ" ศรายุธตอบสั้นๆ แล้วกอดเต้ยเอาไว้แน่น
...ผมกำลังคิดอยู่ ขอเวลาผมซักหน่อยนะครับคุณเต้ย ผมกำลังพิจารณา...
วูบหนึ่งวิธวินนท์อยากจะวิ่งหนีธีรดนย์ไปเสียเดี๋ยวนี้แล้วซ่อนตัวไม่ได้คนหลงตัวเองคนนี้หาเจอ ไม่ถึงยี่สิบนาที ชายหนึ่มที่คิดว่าตัวเองรูปหล่อและมีเสน่ห์กว่าใครก็เดินออกมาจากผับพร้อมชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง มาดแมนและห้าวจนเขาแทบไม่เชื่อสายตา
ธีรดนย์ยักคิ้วให้ แล้วเดินตรงมาหาวิธวินท์ พร้อมกับแนะนำให้รู้จักหนุ่มมาดเข้มที่เดินมาด้วยกันแทบจะไหล่ชนไหล่
"วิน ผมขอแนะนำให้รู้จักคุณวิธวินท์คับ ชื่อคล้ายกันเสียด้วย คุณวิธวินท์ครับ นี่คุณอัสวิน เพื่อนใหม่ของผม" ธีรดนย์ยิ้มพราวแล้วหันไปพูดกับอัศวิน "คุณวิธวินท์เป็นคู่ค้าธุรกิจของผม เพิ่งทำสัญญาค้าขายกันครับ มูลค่าสูงลิ่ว"
อัศวินบอกว่าแปลกใจที่คนอายุน้อยอย่างวิธวินท์เป็นนักธุรกิจระดับประเทศแล้ว
"ผมเห็นคุณวิธวินท์นึกว่าเพิ่งเรียนจบ" อัศวินพูด
"คุณวินท์จบมัธยมปลายมานานมากแล้วครับ" ธีรดนย์รีบแทรก ตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ประกายตาวิบวับเมื่อมอง 'เด็กจบใหม่'
"ผมอายุ 27 กำลังจะ 28 แล้วครับ" วิธวินท์ตอบเสียงเรียบ
ธีรดนย์เลิกคิ้ว อึ้งไปชั่วขณะเมื่อรู้อายุของวิธวินท์
"อายุเท่ากับผมเลย แต่ผมดูแก่กว่า" อัศวินหัวเราะ
"คนละสไตล์กันครับ คุณวินสไตล์ห้าวเข้ม แต่คุณวิธวินท์สไตล์..."
...พูดให้ดีๆ นะธีรดนย์...
วิธวินท์เผลอกลั้นหายใจรอฟังที่ธีรดนย์กำลังจะพูด แต่ผ่านนั้นกลับหยุดพูดเสียเฉยๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องใหม่
"ผมว่าดึกแล้ว ถึงเวลานอนกันเสียที คุณวิธวินท์คงง่วง อยากกลับโรงแรมจะแย่" ธีรดนย์พูดน้ำเสียงห่วงใย แต่นัยน์ตาลุกวาบดั่งจะทวงสัญญา แล้วหันไปยิ้มกว้างให้อัศวิน "วินพักที่ไหนครับ"
"White Sand Resort ครับ พักคนเดียว" อัศวินตอบยิ้มๆ
...วินพักที่ไหนครับ White Sand Resort พักคนเดียว...
...หมั่นใส้ทั้งสองคนเลยให้ตายสิ...
"คุณวิธวินท์พักที่ Palm Beach Resort ห้อง Palm Beach Villa ครับ" ธีรดนย์บอกอัศวิน แต่หันหน้ามาทางวิธวินท์ "นอนคอย เอ๊ย นอนพักผ่อนให้สบายนะครับ"
ธีรดนย์พูดกับวิธวินท์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนด้วยใบหน้ายิ้มๆ แต่สายตาคบกริบคู่นั้นคาดคั้น ดังจะย้ำว่า...นอนคอยอยู่นั่นล่ะ อย่าไปไหนเด็ดขาด
"อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน อย่าขี้ขลาดหนีไปซะก่อนล่ะ" ธีรดนย์กระซิบพร้อมยื่นคีย์การ์ดให้วิธวินท์ แล้วรีบผละไปกับชายหนุ่มมาดเข้ม เดินเคียงคู่กันหายไปในความมืดสลัวของถนนริมหาด ไม่นานได้ยินเสียงสตาร์ทรถดังกระหึ่มแล้วลับหายไป