“ปอร์ นี่ โอมครับคงพอรู้จักนะ”
“ครับสวัสดีครับ ยินดีที่รู้จักครับ” ผมกล่าวทักทายตามมารยาท
ไม่พลาดที่จะเลียนแบบสำรวจตั้งแต่หัวจดท้าวเหมือนกัน เพื่อเป็นการไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน555
“อ้าวมาแล้วเหรอ.โอม” เสียงแรดนนท์ลอยมาจากข้างหลังพี่นพครับ
“เจอเจ้าของงานแล้วนะ พี่นพ ส่อนนี่กอล์ฟ” ไอ้นนท์เปลี่ยนแรดมากมาเป็นแรดนักประชาสัมพันธ์ทันที
“กอล์ฟนี่โอม เพื่อน นนท์เอง...”
“สวัสดีครับ กอล์ฟ เพิ่งเจอตัวจริง เห็นนนท์เล่าให้ฟังบ่อยๆ ดีใจที่ได้รู้จักครับ”
“สวัสดีครับ ยินดีเช่นกันครับ” เสียงไอ้ลุงเอ่ยไปอย่างเบาๆ
“ปอร์ นนท์วานขอน้ำให้....”.....แก้วนะ” พร้อมชี้นิ้วบอกทาง
งะ ................การีดกรี๊ดกรี๊ดๆๆกรูจะตบมึง
ตอนที่42.2
ทำไมๆ กรูอยู่ของกรูดีๆ ใครต่อใครชอบเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกรูจริงๆ สวยละรมย์เสีย
ไปสิกอล์ฟวิ่งไปเอานน้ำมาให้ไอ้ดารานี้แทนกรูหน่อยสิ เหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมาไปสิ
แต่แล้วผมก็ได้แค่คิดในใจเท่านั้นละครับ มันไม่เห็นจะกระดิ๊กตัวไปเลย
สุดท้ายผมก็ต้องไปยกน้ำมาให้โอมตามที่นนท์มันส่ง
ขอบคุณครับ คือสิ่งที่ผมได้จากโอม แต่ก็ยังดีกว่าการที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
ผมกับพี่นพยังคุยกันต่อ ตามแต่เรื่องราวที่คิดจะขุดมาได้ครับ
ไอ้นนท์ ยังลากไอ้ลุงไปรับแขกที่ค่อยทยอยเข้ามาในงาน
โอม ยืนคุยกับเพื่อนๆของเขา ถ้าผมบอกว่าใครคนอ่านคงร้องอ๋อเป็นแน่แท้ครับ
ว่าใครเป็นใคร ดาราคนไหนบ้าง555อันนี้ขอเก็บเป็นความหลับนะครับ
ส่วนเพื่อนของพี่นพได้ถูกลำเลียงส่งต่อเข้ามายังที่ๆผมกับพี่นพยืนคุยกัน โดยแรดนนท์
พี่นพแนะนำให้ผมรู้จัก เพื่อนเขาทุกคน อย่างเป็นกันเองครับ
ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมิชอบอะไรในตัวสวยเลย 55เอ๊ะ หรือว่าแรดนนท์ยังไม่ได้รายงาน
บอกคุณสมบัติของผมให้เพื่อนพี่นพทราบ
หรือว่าเราจะชิงตัดหน้าบอกเสียตอนนี้เลยดีไหม55
ผม พี่นพและเพื่อนพี่นพ ยังคุยกันและเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างสนุกสนานครับ
ท่ามกลางงานเลี้ยงที่ผู้คนยังมาร่วมงานไม่มากเท่าไรครับ
คงเป็นเพราะนังแรดหัวสูงจำกัดสิทธิและเลือกคนที่มาร่วมงานด้วยมั้งครับ
งานเลี้ยงต้อนรับของพี่นพคืนนี้ดูจะไม่ใช่มีแต่คนครับที่มาร่วมงาน
มองไปทางในก็มีแต่ผี ผี และก็ผี เต็มไปหมด
งานเลี้ยงนี้จึงเป็นงานเลี้ยงผีๆ โดยมีชะนีมาร่วมอยู่ปะปราย
เวลายังเดินไปเหมือนเดิมครับ
ไอ้ลุงก็ยังถูกลากไปลากมาอยู่ตลอดเวลา ไม่คิดแม้แต่จะมาหาผม
น้ำส้มก็แล้ว น้ำเปล่าก็แล้ว ของกินหมดไปกี่จานก็แล้ว
ไอ้ลุงยังปล่อยให้ผมเผชิญชะตากรรมอยู่กับพี่นพและเพื่อนๆเขาเหมือนเดิม
ไม่คิดถึงความปลอดภัยในชีวิตและความบริสุทธิ์ที่ผมมีเอาซะเลย55
แขกเริ่มมากันเยอะขึ้นครับ พื้นที่ๆจัดงานตอนนี้เต็มไปด้วยแขกครับ
นนท์กับไอ้ลุงยังแวะโต๊ะนั้นโผล่กลุ่มนี้ อย่างเคย
แก้วเครื่องดื่มถูกยกดื่มบ่อยครั้ง ถี่ขึ้นครับ
หมดลงไอ้นนท์มันก็เติมให้ไอ้ลุงไม่ได้ขาด
ทุกการกระทำของมันอยู่ในสายตาผมตลอดเวลาครับ ไม่คิดที่จะพลาดแม้แต่เสี้ยวนาที
ถึงจะสนทนาอยู่กับพี่นพก็ตาม ตาแทบแหล่
“มองหากอล์ฟอยู่เหรอครับปอร์” เสียงพี่นพถามผม
ผมยิ้มให้พี่นพพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“สงสัยจะเริ่มมึนแล้วมั้งครับพี่ว่าเห็นยกเอา ยกเอา”
ผมคิดว่านนท์กับไอ้ลุงจะอยู่ในสายตาผมคนเดียวซะอีก แต่ไม่ใช่ครับ
พี่นพก็เป็นเหมือนผมเหมือนกัน
“เดี๋ยวพี่ไปตามมาให้ดีไหม” พี่นพเสนอตัวครับ
“ไม่เป็นไรครับพี่ ปล่อยให้เขาสนุกแบบนั้นนะดีแล้ว เดี๋ยวคงมาเอง”
“แน่ใจนะ”
“ครับ” ผมยกน้ำขึ้นดื่มอีกครั้งครับ ในใจอยากจะบอกพี่นพเหลือเกิน ช้าอยู่ทำไมคละรับพี่
รีบไปเลยสิ จิกมันกลับมา ผมคิดถึงไอ้ลุงจะแย้อยู่แล้ว55
งานเลี้ยงคืนนี้ยังดำเนินต่อไป ดูไปแล้วงานเลี้ยงที่ผมมานี้จะไม่ใช่งานเลี้ยงตอนรับพี่นพแล้วสิครับ
เป็นงานเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ระหว่างไอ้ลุงกับแรดนนท์มากกว่า
เพราะเจ้าของงานไม่ได้มี ส่วนร่วมอะไรกับเขาเอาซะเลยครับ
นอกจากนั่งอยู่กับที่ เป็นพระประธานมกากว่า55
น้อยนักที่มันจะแนะนำคนที่มาร่วมงานให้พี่นพรู้จัก
มันแนะนำให้รู้จักกับที่รักผมมากกว่า
“ปอร์ นนท์ยืมตัวพี่นพหน่อยนะ เดี๋ยวจะเอามาคืนให้” ไอ้นนท์มันพูดขออนุญาติทั้งที่ยังเกาะแขนไอ้ลุงอยู่ครับ
ด้วยอาการมึนๆ แต่ยังสามารถควบคุมตัวเองอยู่
“นนท์ฝากกอล์ฟใว้แป็บนึงนะปอร์ เดี๋ยวจะมาเอาคืนนะ”เห็นมันพูดไหมครับน่าตรบจริง
มาร่วมงานก็นานแล้วนะครับ สิทธิที่พึงมีเพิ่งจะเกิดก็ตอนนี้ละครับด้วยการสนับสนุนจากไอ้นนท์แท้ๆ
ตอนนี้พี่นพถูกลากจากผมหายในงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหลือไว้แต่เพียงไอ้ลุงเท่านั้น บรรยากาศเริ่มอึมครึม รังสีอำมหิตเริ่มแผ่อีกครั้งทั่วบริเวณ
“ไง สนุกไหม เห็นดื่มใหญ่นะ” ผมทักไอ้ลุงด้วยเสียงที่ตึงพอควรพร้อมที่จะปล่อยระเบิดออกมา
“ครับปอร์ นิดหน่อย พอดีนนท์แนะนำเพื่อนให้รู้จักเลยดื่มไปบ้าง”
แล้วปอร์ทานไรหรือยัง” ยังมีหน้ามาถามอีกนะมึงกรูคงรอมึงอยู่หรอก
“อ๋อ พี่นพจับการให้เรียบร้อยแล้ว เขาดูและเราดีมาก ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เชิญทำอะไรตามสบายเลยไม่ต้องเกรงใจ” แก้วน้ำถูยกกขึ้นดื่มถี่ขึ้น ๆ
ยกแรกเริ่มขึ้นด้วยการประชดประชันจากผม
บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปครับ เสียงดนตรีในงานที่เปิดเบาๆ แทบไม่ได้ยินแล้ว
เพราะลมมันเริ่มที่จะออกหูแล้ว
“ผมขอโทษครับ”
“มาขอโทษทำไม โน้นไอ้นนท์ตามมันไปสิ จะมาอยู่ที่นี้ทำไม ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเบา หน้าตาปกติ
เพื่อหวังทำให้ไอ้ลุงมันได้คิด ในสิ่งที่มันเพิ่งทำลงไป
“ผมขอโทษนะครับปอร์”
“หรือว่านี่เป็นคำสั่งของไอ้นนท์อีก ที่มันบอกให้อยู่นี่ นายจึงไม่กล้าขัดขืน”
ผมเริ่มแรงขึ้นด้วยฤทธ์ของน้ำแก้ววนั้น
มันยกแก้วที่อยู่ในมือดื่มบ้าง ก้มหน้าก้มตาเหมือนคนกำลังสำนึกผิด
ระยะห่างระหว่างเราสองคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับในความรู้สึก ทั้งๆที่ความจริงแล้วเราอยู่ใกล้กันแค่ช่วงตัวเท่านั้น
“ขอโทษครับ ที่ปล่อยให้ปอร์อยู่คนเดียวครับ”
“นายขอโทษมาสามครั้งแล้วนะกอล์ฟ”เสียงผมยังราบเรียบเหมือนเดิม
ส่วนมันยังก้มหน้าต่อไป
เสียงดนตรีที่เปิดในงานได้ถูกหยุดลงครับ เปลี่ยนเป็นเสียงแรดนนท์แทน
มันแนะนำพี่นพให้ทุกคนในงานได้รู้จัก
ยกแรกระหว่างผมกับไอ้ลุงได้หยุดลงรามเสียงระฆังจากไอ้นนท์นั้น
แขกที่มาร่วมงานทุกคนดูท่าทางจะสนกับการที่ไอ้นนท์แนะนำพี่นพให้ทุกคนได้รู้จัก
แต่สำหรับผมแล้วมันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งที่จิตใจกำลังจดจ่ออยู่ได้เลย
พี่นพกล่าวคำทักทายแขกผู้มาร่วมงาน ตามคำเชิญของไอ้นนท์ครับ
ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับจากแขกทั้งหลาย รวมทั้งผมด้วย ปรบมือไปอย่างไร้อารมย์
ไอ้ลุงมันยกแก้วถี่ขึ้นๆ จนหมดแก้ว
รังสีอำมหิตยังคงแผ่กระจายเหมือนเดิม
พี่นพถูกนำตัวมาคืนที่เดิมครับหลังจากที่ถูกจัดคิวให้พูดเสร็จ
ส่วนคนที่กำลังจะโดนยึดตัวกลับไป คือคนที่ได้ชื่อว่าแฟนผมนั้นเองครับ
“ปอร์ นนท์เอาพี่นพมาคืนแล้วนะ ฝากดูแลด้วยนะจ้า”
“กอล์ฟ อยู่คุยกันก่อนสิ” พี่นพพูดขึ้น คงรู้ว่าผมเริ่มจะปล่อยระเบิดลูกแรกแล้ว
“อ่อ เดี๋ยวนนท์เอากอล์ฟมาคืนครับพี่นพ พอดีมีเพื่อนเขาอยากรู้จักกอล์ฟนะครับ นะนะ ไม่นาน ยืมหน่อยนะปอร์”
มึงเสือกขอซะขนาดนี้ แล้วใครที่ไหนเขาจะกล้าปฏิเสธละ
และแล้วไอ้ลุงก็ถูกลากหายไปอีกครั้ง โดยที่ผมไม่คิดแม้แต่จะมองตามมันอีกต่อไป
ตอนนี้มันเจ็บครับ เจ็บมากด้วย เจ็บที่ใจ คนที่ได้ชื่อว่าแฟนเราไม่คิดจะพุดหรือจะทำอะไรเลย และไม่คิดที่จะเกรงใจเราแม้แต่น้อย
น้ำตาของผมเริ่มไหลแต่มันเลือกที่จะไหลข้างในแทน
เวลาเหมือนเริ่มเดินช้าลงเรื่อยๆหนึ่งชั่วโมงของผมตอนนี้มันมี120นาที
มันช่างเดินช้าเหลือเกิน เมื่อไรงานนี้จะจบซะทีนะ
ผมเริ่มอึดอัดมากขึ้น สภาพแวดล้อมเริ่มที่ไม่เป็นมิตร
หันไปทางไหนก็เหมือนที่คนที่คอยจะสมน้ำหน้า
คนในงานเริ่มดูแปลกหน้า ขึ้นทุกที
เวลายังเดินช้าๆ เหมือนเดิม
“เดชมารับกรูหน่อย”
“………………….”
“เปล่าไม่ได้เป็นอะไรเลย กรูยังไหว”
“………………….”
“มึงมารับกรูหน่อยนะ ได้ไหม กรูอยู่ที่..........”
มือถือผมถูกวางเก็บเข้าที่เดิม
“จะกลับแล้วเหรอครับปอร์” เสียงพี่นพ
“ครับ”
“ไม่รอให้กอล์ฟไปส่งละ”
“ไม่เป็นไรครับพี่ อย่าไปกวนเวลาแห่งความสูขของมันเลย”
“ให้พี่ไปส่งไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมโทรให้เพื่อนผมมารับแล้วครับ”น้ำเสียงผมยังราบเรียบเหมือนเดิม
แต่ในใจสิครับ มันแทบจะแตกสลายอยู่แล้ว
“เอาแบบนั้นเหรอครับ”เสียงที่ดูห่วงใยจากคนที่ไม่ได้ชื่อว่าแฟนผมยังคงเข้ามาเรื่อยๆ
ผมยิ้มไม่ได้พูดอะไรออกไป พร้อมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ปอร์” เสียงชะนีสาว ดังลอยมา
ผมหันไปตามเสียงนั้นทันทีครับ
“อ้าว ว่าไงแพม”
“กอล์ฟท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะสิจ๊า ปอร์ช่วยไปดูหน่อยได้ไหม นนท์เขาฝากให้แพมมาตาม”
“แล้วกอล์ฟอยู่ไหนละแพม”
“อยู่ที่ห้องรับแขกในบ้าน แพมไปละ”
ชะนีแพมสื่อสารเสร็จก็โหนกิ่งไม้หายเข้าป่าไปทันที
ผมยังคงนั่งเงียบ ตัดสินใจว่าจะไปหรือเลือกที่จะนั่งอยู่ที่เดิมครับ
“ไม่ไปดูกอล์ฟมันหน่อยเหรอปอร์”
เสียงจากพี่นพลอยมาจากข้าง ๆ ซึ่งนั่งห่างไม่ไกลครับ
“นนท์เขาคงดูแลอยู่ไม่ห่างครับพี่ ไม่รู้จะไปทำไม”
“พี่ว่าปอร์ไปหน่อยดีกว่านะ”ผมก้มหน้า
“จะดีเหรอครับพี่”
พี่นพยิ้มให้ผมเหมือนเป็นคำตอบว่านี่ละคือการกระทำที่ดีที่สุดที่ควรทำในตอนนี้
ผมค่อย ๆ ย้ายตัวจากที่ๆผมกับพี่นพ ผ่านแขกในงานที่จับกลุ่มยืนคุยกันท่ามกลางเสียงเพลง
ผ่านประตูบ้านด้วสองเท้าอย่างช้าๆ เข้าสู่ห้องรับแขกใหญ่ๆนั้น
สองตามองหาไอ้ลุงว่ามันอยู่ตรงไหนของห้องรับแขก
ผมกวาดสายตาไปโดยรอบ
และเดินเข้าไปเรื่อย ตามที่ๆพอจะเดินหาได้ครับ
“ทำไมกอล์ฟเย็นชากับนนท์แบบนี้” นี่คือเสียงแรกที่ผมได้ยิน
หลังจากที่ผมก้าวเข้ามาในห้องรับแขกนี้
“หรือเป็นเพราะว่าปอร์ ที่ทำให้กอล์ฟเปลี่ยนไป”
เสียงไอ้นนท์ลอยมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงสะอื้น
ผมเลือกที่จะยืนอยู่กับที่เพื่อฟังสิ่งที่ผมได้ยินมาให้แน่ใจ
“กอล์ฟไม่คิดถึงสิ่งที่กอล์ฟเคยสัญญาไว้กับนนท์บ้างเหรอ ว่าจะรักนนท์คนเดียว แต่แล้วตอนนี้มันหมายความว่าอะไร ช่วยบอกนนท์หน่อยได้ไหม ” สิ่งที่ผมได้ยินในตอนนี้เริ่มจะชัดเจนมากขึ้น
ผมเป็นมือที่สามเหรอ
นี่เราทำอะไรลงไป ผม ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือที่สามเหรอ
แล้วสิ่งที่เราทำลงไปก่อนหน้านี้ละ มันหมายว่ายังไง
ภาพต่างๆที่เกิดขึ้นระว่างผมกับไอ้ลุงเริ่มผุดขึ้นมา
เหตุการณ์ที่มันขอผมเป็นแฟนที่ริมหาดในค่ำคืนนั้น
ภาพบนเตียงที่ผมกับมันทำร่วมกันที่บ้านที่หัวหิน มันหมายความว่าอย่างไรกัน
แล้วที่ๆต่างๆที่เราได้ทำ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลามากว่าครึ่งปีที่ผ่านมา นี้มันหมายความว่า
ผมแอบกินของคนอื่นเหรอ
ผมเองเหรอที่เป็นคนที่ต้องกินหญ้าแทนไอ้นนท์
น้ำตาแห่งความเสียใจได้ไหลอาบสองแก้มผม
และนี่มันเป็นครั้งแรกที่น้ำตาผมไหลเพราะความรัก
“ว่าไงกอล์ฟ กอล์ฟ พูดอะไรบ้างสิ นนท์ยังรักกอล์ฟเหมือนเดิมนะ นนท์ทนไม่ได้ที่เห็นกอล์ฟไปทำดีกับคนอืนที่ไม่ใช่นนท์อีกแล้ว”
คำว่ามือที่สามมันตอกย้ำชัดเจนว่าผมมาทีหลังใช่ไหมครับ
แล้วถ้าไม่ใช่แล้วทำไมไอ้กอล์ฟ มันไม่ตอบโต้อะไรไปเลย
น้ำตาผมไหลเป็นสายทางไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเอาเลย
บ้านทั้งหลังเริ่มหมุน
ภาพต่างๆในอดีตยังผุดขึ้นมาไม่ได้ขาดสาย
กรูเป็นใครกันกอล์ฟในสายตามึง กรูเป็นใคร
กรูป็นแค่คนโง่ใช่ไหมที่ไม่เคยถามว่ามึงกับไอ้นนท์เป็นอะไรกัน
กูโง่เอง แล้วจะโทษใครกัน
ขอบคุณนะที่วันนี้มึงสองคนทำให้กรูรู้ว่ามึงเป็นอะไรกันและกูเป็นใครที่ไม่ต่างจากควาย
น้ำตาผมยังคงไหลไม่ยอมหยุด
“กอล์ฟตอบนนท์มาสิ เงียบทำไม เงียบอยู่ทำไม ตอบนนท์มาซิ ฮือ ฮือ ฮือ” นี่คือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินจากไอ้นนท์
คำว่ามือที่สาม ก้องอยู่ในหูผม นี่คือความจริงที่ผมต้องยอมรับว่าผมเป็มมือที่สาม ผมเป็นมือที่สาม
ทำให้คนอื่นต้องมาทะเลาะกันแบบนี้
ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว มันตันไปหมด ผมคิดได้เพียงต้องออกไปให้ไกลจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด
ผมพยายามเรียกสติกลับมา ถึงแม้ว่าจิตใจผมจะไม่อยู่กับผมแล้วครับตอนนี้
มือถือในกระเป๋าผมสั่น
เป็นเหมือนสิ่งที่บอกผมว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องออกจากที่ตรงนี้
ออกจากความเจ็บปวดที่ตรงนี้
แต่ก่อนที่จะไป ขอเราดูหน้านายก่อนได้ไหม
ผมมองตามเจ้าของเสียงนั่น
ภาพที่ผมเห็นคือไอ้นนท์กำลังกอดไอ้กอล์ฟ เขาสองคนกำลังหันหลังให้ผมอยู่
สองขาผมเริ่มที่จะมีเรี้ยวแรงก้าวออกไปช้า ๆ
น้ำตายังไหลเป็นสายทาง
ผ่านประตูบ้านบานใหญ่ที่ผมเพิ่งผ่านเข้าไป
ผู้คนยังคงสนุกสนานกับปาร์ตี้นี้
พี่นพยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
สระน้ำ ลูกโป่ง ไม้ที่จัดเป็นพุ่ม
“ปอร์”
“ปอร์ครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงพี่นพเรียกสติผมกลับมา ตอนนี้ภาพต่างๆเริ่มจัดเจนขึ้นครับ
“เป็นอะไรครับ ทำไมร้องไห้”
เมื่อถูกทัก เจ้าน้ำตาไม่รู้มันมาจากไหน ไหลเป็นสายทางแทบไม่มีท่าทีว่าจะหยุดได้
“เปล่าครับไม่มีอะไรครับพี่นพ ผมขอตัวนะครับ” ผมเร่งฝีเท้าออกจากงาน
ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สองข้างทางเต็มไปด้วยความมืดของถนนภายในหมูบ้านนั้น
เสียงสั่นของมือถือยังดังเรื่อยๆ ผมไม่คิดแม้แต่จะรับ
ปล่อยให้มันตัดไป แล้วดังขึ้นใหม่
ผมเดินตามถนนเส้นนั้นอย่างไร้สติ เหมือนตัวกำลังรอเยเคว้งไร้จุดหมาย
แสงไฟตามสองข้างถนนส่องเข้ามาพอให้เห็นสายทางบ้าง
“………………….”
“มึงมาถึงหรือยัง”ผมพูดพอฟังรู้เรื่องแต่ปนไปด้วยเสียงสะอื้น
“………………….”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ฮือ ฮือ ฮือ” ผมปฏิเสธ ที่จะตอบคำถามของเพื่อนทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่เป็นตามนั้นเลย
“………………….”
“กรูอยู่ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน... มารับกรูที กรูไม่ไหวแล้ว”
ผมวางสายเมื่อรู้ว่าเพื่อนทราบในสิ่งที่ผมพยายามสื่อสารทั้งที่จิตใจสับสน วุ่นวาย น้ำตาไหล
แสงไฟของรถไอ้เดชเริ่มส่องสว่างชัดขึ้นเรื่อยๆ
“ปอร์ ปอร์ครับ”และ เสียงเรียกผมดังขึ้นมาเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเสียงรถ
ผมหันกลับไปมองเจ้าของเสียงนั้นด้วยสองแก้มยังอาบไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ
“ปอร์ กอล์ฟขอโทษ กอล์ฟไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้”
เสียงนี้มันลอยเข้ามาข้างๆหูผม
ผมถูกใครบางคนที่ตอนนี้ไม่ใช่ของๆ ผมแล้ว กอดเหมือนกับว่าทั้งสองร่างแทบรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยมีชายอีกสองคนอืนอยู่ข้างๆ ดูเหตการณ์ที่กำลังดำเนินไป
“ปล่อยเราเถอะ นายไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว”
“ไม่นะ ผมไม่ปอล่ยคุณไปไหนทั้งนั้น ผมรักคุณ” เสียงนั้นมาพร้อมกับความเสียใจ
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”เสียงร้องไห้ผมไม่ได้แพ้ไอ้ลุงเลย
“วันนี้เรารู้แล้วว่าเราแอบเขากิน และมันถึงเวลาแล้วที่เจะต้องคืนเขาไป เราขอโง่แค่นี้นะ”
รถขันนั้นจอดอยู่ตรงหน้าผมแล้วครับตอนนี้
ไอ้เดชเปิดประตูลงมา มันตรงเข้ามาหาผมทันที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นปอร์”มันยืนอยู่หน้าผม
“เดช ช่วยพากรูไปจากที่นี่หน่อยนะ กรูขอร้อง” ผมพูดทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของใครอีกคน น้ำตาไหลริน
“มันเกิดไรขึ้นเหรอกอล์ฟ” ไอ้เดชพยายามที่จะซักเพื่อเอาความจริงจากไอ้ลุง
“เราไม่รู้เดช เราไม่รู้”
“ไอ้กอล์ฟ มึงทำอะไรเพื่อนกรู”
ไอ้เดช มันดึงมือผมเพื่อหวังให้ผมขึ้นรถไปกับมัน
แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะยังอยู่ในอ้อมแขนของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนแปลกหน้าแล้วในตอนนี้
“มึงปล่อยเพื่อนกรูเดี๋ยวนี้” คำสั่งจากไอ้เดชดังขึ้น
“ไม่นะ เดช เราไม่ปล่อย”
“กรูบอกให้มึงปล่อยไง มึงไม่ได้ยินใช่ไหม” เพื่อนเดชเริ่มเสียงดังขึ้น
“ไม่ เราไม่ปล่อย” ไอ้ลุงยังทำตามที่มันคิด
“ได้ มึงไม่ปล่อยใช่ไหม”
ไอเดชปล่อยมือมันจากมือผมแล้วเข้าไปกระชากที่คอเสื้อไอ้ลุง หมัดของมันถูกยกขึ้น
“ใจเย็นๆครับ อย่าให้มันถึงขนาดนี้เลย” เสียงจากพี่นพดังขึ้น ผมยังสะอื้นไม่หยุด
“พอเถอะเดช เห็นแก่กรูเถอะ กรูขอร้อง พากรูกลับบ้านที”
“ไอ้เฮี้ยเอ้ย ดูมันทำกับมึงสิ มึงจะมาห้ามกรูทำไมวะ แม่ง”
ผมยังสะอื้นไม่หยุด
“ช่างมันเถอะ กรูผิดเอง กรูมาทีหลังเขา กรูแย้งเขามา พากรูกลับบ้านทีนะ กรูของร้อง”
“ได้ ต่อไปนี้กรูขอบอกมึงเลยนะไอ้กอล์ฟ นี่เพื่อนที่กรูรักมากที่สุด มึงอย่าให้กรูเห็นว่ามึงเข้ามาตอแยกับเพื่อนกรูอีกนะ ไม่งั้นมึงเจอดีแน่ไอ้กอล์ฟ”
“นนท์เราขอโทษนะ เราผิดเอง เราขอโทษจริงๆ ของๆนาย เราให้คืน” ผมพูดหลังจากที่หันไปมองไอ้นนท์
“ไป” เสียงจากเพื่อนเดชดังขึ้นหลังจากที่มันเปิดประตูรถให้ผม
ผมเลื่อนตัวเข้าไปนั่งในรถตามแรงมือของเพื่อนเดช ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มันจัดการคาดเบ้วให้ผม แล้วปิดประตูทันที
“ปอร์ ปอร์ครับ ฟัง กอล์ฟอธิบายก่อน” เสียงนั้นลอดผ่านกระจกให้ผมได้ยิน
http://www.youtube.com/watch?v=tRwGXz5qaqY (ฟังประกอบนะครับ)
แล้วรถก็วิ่งออกมาอย่างช้าๆ โดยน้ำตาผมยังไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลเลยแม้แต่น้อย
ทิ้งผู้ชายสองคนให้หันมามองตามรถที่กำลังวิ่งออกมาอย่างช้า ส่วนชายอีกคนเหรอครับ
“ปอร์ รอกอล์ฟด้วย ปอร์” มันยังคงวิ่งตามรถไม่คิดว่าจะหยุดวิ่งเลย
ผมมองมันผ่านกระจกข้าง น้ำตายังไหลริน
ระยะห่างระหว่างเราเพิ่มขึ้นทุกที
ตอนนี้มันเท่ากับศูนย์ เท่ากับจุดเล็กๆ
เท่ากับอากาศที่เลือนลาง จนผมมองเห็นไอ้ลุงแล้ว
สายตาผมยังไม่ละไปจากกระจกนั่นทั้ง ๆที่ไม่มีอะไรให้มองอีกแล้ว
ลาก่อนความรัก
ลาก่อนคนที่ผมเคยเรียกว่าคนรัก
ลาก่อน
จบตอน