
นพค่อยๆขัยรถเข้าเมืองอย่างช้าๆ เหมือนเดิมครับ
ตอนนี้ไอ้ลุงยังปวดหัวเหมือนเดิมครับไม่สามารถขับรถได้ แต่ผมอนุญาติให้ดีขึ้นแล้ว55
ผมยังรักษาที่นั่งข้าง ๆ ไอ้ลุงไว้ได้ชนิดแบบสวยงาม
เราถึงบ้านคุณย่าก็เย็นแล้วครับ ไฟข้างทางเปิดต้อนรับเราทั้งสามคนเหมือนกำลังจะบอกว่าขอต้อนรับสะใภ้เจ้า
กลับสู่วังอีกครั้ง 55โดยการกลับมาครั้งนี้มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งได้รับอนุญาต
ให้เลี้ยงเพียงแค่ตัวเดียวในประเทศไทยคือแรดนนท์นั่นเอง
ตอนที่ 40
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมอีกครั้ง หลังจากที่ช่วงปิดเทอมสั้นๆ ได้หมดลงไปกับ การใช้ชีวิตส่วนใหญ่
อยู่กับไอ้ลุงและที่ร้านครับ
เทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายแล้วครับที่จะได้ใช้ชีวิตในฐานะนักศึกษาสาวแสนสวย55
อีกเพียงไม่กีเดือนก็จะเรียนจบ และต้องหางานทำแล้ว เป็นผู้ใหญ่ หรือต่างงาน
อันหลังนี้อยากมากสุดในบรรดาที่กล่าวมาครับ เลยต้องเร่งทำคะแนนให้ไอ้ลุงมาขอ55
คุณผู้อ่านเคยเป็นไหมครับตอนเรียนอยู่ก็อยากจะจบเร็วๆ แต่พอจะจบแล้วกับรู้สึกใจหาย ไปกับหนุ่ม ๆ 55
ไม่ใช่ละ ใจหายเมื่อรู้สึกว่าต้องจากมหาลัยอันเป็นที่รักไปแล้ว
ชีวิตที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เรียนอย่างเดียว เฮฮา บ้าบอ ทอแหล ไปวันๆ
คิดแล้วมันเศร้า เรื่องมันเศร้า ไม่อยากให้ถึงเลย
ผมกับเพื่อนเดชลงเรียนเหมือนกันอีกแล้วครับท่าน
ไม่รู้จะอะไรนักหนา มาลงเหมือนกรูอยู่ได้
คิดเองไม่เป็นบ้างหรือยังไงว่าจะลงตัวไหนบ้าง
ไปไหนมาไหนเป็นคู่แบบนี้ เดี๋ยวกรูก็ขายไม่ออกพอดี
ถึงกรูไม่สวยกรูก็อยากทอดตัวเองเข้าสู่ตลาดนะมึง555
มึงคิดถึงข้อนี้บ้างไหมหา ไอ้เพื่อนรัก
ผมกับเพื่อนเดชไปมหาลัยด้วยกันครับโดยที่ไม่มีไอ้ลุงสุดที่รักเป็นคนขับรถให้ครับ
เพราะมันมีเรียนบ่ายเลยไม่ต้องมามหาลัยแต่เช้า
ส่วนผมมีเรียนเช้า เลิกเที่ยง เวลาอยู่ในมหาลัยจึงไม่ตรงกัน
จะเรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ครับ ไอ้จะลงตัวเดียวกัน ก็กลัวเจอแรดนนท์
กลัวมันจะเอาหนอแหลมๆ มาควิดเอา
เวลานี้ จึงเป็นเวลาที่สวย เริงร่ามาก สายตาแพรวพราวไปหมด
มองไปไหนก็โอ้ว น้ำลายไหล55 ไม่ใช่สวยแล้วเป็นหมาบ้านะครับ
แต่ด้วยอนุภาพของบรรดาหนุ่มๆทั้งในหรือต่างคณะ
ผมกับเพื่อนเดชเลือกที่จะนั่งข้างหลังห้องตามเดิมครับ
เพื่อหลีกหนี คำถามจากท่านอาจารย์ที่ส่งตรงจากปากมาถึงลูกศิษย์ แบบไม่ยั้ง
นอกจากคำถามแล้วของแถมยังเป็นพวกน้ำลายอะไรเยี้ยงนี้555
บรรยากาศในห้องเรียนสุดแสนจะคึกคักเป็นพิเศษครับ
เพราะความที่ไม่ได้เจอกันช่วงปิดเทอมจึงมีอะไรมากมายที่อยากเล่า
อยากมีส่วนร่วม ไปเสียทุกเรื่อง ครับ 555
ไม่เว้นแม้แต่น้องปอร์ครับ ที่ช่างเจื้อยแจ้วเจรจา
อาจารย์ถึงเป็นบุคคลที่นักศึกษาลืมไปว่ามีตัวตนในห้องเรียนครับ555
ไอ้ลุงโทรมาแจ้งข่าวครับว่าเรียนเสร็จอย่าเพิ่งไปไหน….มาอีกแล้วครับพวกจำกัดสิทธิคนอื่น
จะรีบมาทานข้างเที่ยงด้วยที่โรงอาหาร ตอนนี้สวยจึงต้องรีบโปรยเสน่ห์ไว้ก่อน
เพราะถ้าเลยเข้าช่วงเที่ยงแล้ว คงไม่สามารถทำแบบนี้ได้แล้ว
ผมและไอ้เดช เดินลงมาจากห้องเรียนด้วยกันครับ
ตามประสาผัวเมีย5555 ตามประสาเพื่อนรักครับ
ตรงไปยังโรงอาหารที่ไอ้ลุงมันบอกไว้ว่าจะไปรอที่นั้น
ตอนที่เดินไปก็ได้แต่หวังครับว่า ไอ้ลุงครบ 32 ยังอยู่ดีทุกประการครับ
ชะนี คณะสื่อสาร รวมทั้งเก้งกวางมันธรรมดาที่ไหนกันครับ
เจอหนุ่มหล่อเป็นไม่ได้ครับ เสนอขายสินค้าทันที55ขนมจีบอะครับ
ผมกับไอ้เดชเร่งฝีเท้า เพื่อรีบมารับศพของไอ้ลุง555
หลังจากชะนีลง
แต่ผิดคาดครับ ผมเจอไอ้ลุงด้วยสภาพทุกอย่างไม่เปลี่ยนไป
เสื้อผ้ายังใส่ครบทุกชิ้น555 โต๊ะที่ไอ้ลุ่งนั่งก็ยังว่าง……….เกิดไรขึ้นนี่
ไม่มีใครมาร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับมันแต่อย่างใด
ผมเดินตรงเข้าไปหาไอ้ลุงทันทีครับ
จ๊ากกกก เบรคเอบีเอสทำงานแทบไม่ทัน
เมื่อไอ้แรดนนท์มันกำลังถือจานข้าวที่เพิ่งซื้อจากแม่ค้าเดินตรงเข้ามายังไอ้ลุง
มิน่าละครับ เพราะแบบนี้นี่เองไอ้ลุงจึงไม่มีชะนีนางไหนกล้าเข้ามานั่งด้วย
กลัวแรดตัวแม่นี่เอง
ผมไม่ลังเลครับที่จะแสดงความเป็นเข้าของในสิทธิที่ผมพึงมี55
รีบเดินเข้าไปนั่งข้างๆไอ้ลุงก่อนที่จะเสียสิทธินั้นไปให้ไอ้นนท์
“อ้าว มาถึงแล้วเหรอครับ”
ผมยิ้มสวยงาม ก่อนนั่งลงข้างๆมัน ไอ้ลุงผงกหัวให้เพื่อนเดชเพื่อเป็นการทักทายเชกเช่นกิ้งก่า ที่กำลัง
มีปฏิกริยาตอบสนองกัน 5555
“ทานไรหรือยังครับ ปอร์ เดช” ไอ้ลุงมันโง่อีกแล้วครับกรูเพิ่งเรียนเสร็จแดรกแล้วมั้ง
“ยัง” ไอ้เดชตอบสั้นๆก่อนนั่งลงอีกฝั่งนึงของโต๊ะ
“อ้าวมาถึงแล้วเหรอปอร์” คำถามโง่ๆมาจากแรดตัวแม่อีกละ
อยากตะโกนใส่หูอันเล็ก ๆ ของมันที่กำลังกระดิ๊กจังครับ ว่าถ้ามาไม่ถึงแล้วเมิงจะเห็นนางฟ้าที่ไหนละ555
ไอ้นนท์นั่งลงข้างๆเพื่อเดช พร้อมวางจนหญ้า เอ้ยจานข้าวลงบนโต๊ะ
ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใด ใช้แต่เพียงรอยยิ้มตอบแทน
“ไปหาข้าวกินกัน” ผมเอ่ยปาก
“มึงนั่งเป็นเพื่อนนนท์ เดี๋ยวกรูซื้อมาให้” ผมพูดขึ้นหลังจากเพื่อนเดชมีท่าทีว่าจะขยับตัวออกจากโต๊ะนั่งนั้น
คำพูดนี้สร้างความตกใจให้ทั้งเพื่อนเดช แรดนนท์เป็นอย่างมากครับ
มันคงรู้ว่าผมคิดการใหญ่อีกแล้ว ใช่ครับ ผมคิดแผนการยึดที่นุ่งข้างๆไอ้ลุงไว้ยังไงละ
ขืนไปกับบักเดช แรดนนท์มันจะย้ายถิ่นมาหากินแถวข้างๆ ไอ้ลุงเอานะสิครับ555
ตอนนี้ขอเป็นคนไม่ดีในสายตาเพื่อนก่อนละกัน
สงสารก็สงสารเพื่อนตัวเอง ที่ต้องปล่อยให้อยู่กับแรดตัวแม่ตามลำพัง
แต่ทำไงได้ละครับ ของของสวย สวยต้องแสดงความเป็นเจ้าของ55
และหวังว่าเพื่อนเดชคงจะเข้าใจ
ผมเดินนำไอ้ลุงไปหาของกิน โดยมีไอ้ลุงเดินตามไม่ห่าง
ปล่อยบักเดชไว้นานไม่ได้ เดี๋ยวมันจะตายเอานะสิครับ
เพราะแรดควิด ด้วยนอ555 ตกลงแรดหรือควายครับนี่
เดินกลับมาอีกทีพร้อมจานข้าวที่ถือด้วยมือทั้งสองครับ
จานนึงวางลงที่หน้าไอ้เดชครับ อีกจานสาดใส่แรดนนท์555
เชียร์ให้ทำกันอยู่ใช่ไหมละครับคนอ่าน แต่ไม่หรอกครับ55
อีกจานวางข้างหน้าที่นั่งตนเอง
“เดช นี่ตังค์ไปซื้อน้ำ ” ผมจัดการต่อ
“ผมไปซื้อให้ก็ได้คัรบปอร์” ท่านชายกอล์ฟอาสาอีก
“ไม่เป็นไร ไอ้เดชมันชอบซื้อน้ำ อย่าขัดใจมัน” ผมยังยืนยันตามเดิม
เพื่อนเดชยังไม่ทันที่จะตักข้าวคำแรกใส่ปาก ต้องชักกลับออกมาวางลงบนจานอีกครั้ง
แล้วหยิบตังค์ที่ผมวางให้เดินเกาหัว แบบงงไปซื้อน้ำ ตามคำสั่งของสวย
โดยไม่ปริปากบ่นสักคำ
ตอนนี้สีหน้าของแรดเริ่มมีเครื่องหมายคำถามครับผม
แล้วสวยจะแคร์ที่จะตอบทำไม55
“ปอร์รู้หรือยังว่าเสาร์นี้ นนท์จะจัดการเลี้ยงเล็ก ๆ ตอนรับการกลับมาของพี่นพ”
พี่นพกลับมาจากโลกไหนเหรอ555
“เปล่า” ผมตอบห้วนๆพร้อมมองไปหาไอ้ลุงของผู้อ่านด้วยความคิดที่ไม่ดีผุดขึ้นมาในหัว
ตอนนี้เครื่องหมายคำถามย้ายจากหน้าไอ้นนท์มาที่หน้าผมแทนแล้ว ครับ
มึงเอาอีกแล้วใช่ไหมไอ้ลุง วางแผนกับไอ้นนท์อีกแล้วใช่ไหม
“พอดีนนท์ คิดว่าไหนๆ พี่นพก็จะไม่กลับไปอีกแล้วก็เลยจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ แนะนำเพื่อนๆให้พี่นพรู้จัก
จะได้มีสังคมไว้บ้าง” อีนี่เสือกไปรู้กับเขาอีกและ ว่าเขาจะไม่กลับ ดวกจริงๆ
“เหรอ” ผมเริ่มวางระเบิดอีกแล้ว
“กอล์ฟยังไม่ได้บอกอีกเหรอปอร์”มันวางระเบิดบ้าง
“ยัง” ผมยังตักข้าวใส่ปากเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจ เจ้าของเสียงนั้นเลย
เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมคิดคือ มึง กับไอ้ลุงไปปรึกษาคิดแผนนี้กัน ทีไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ถึงขั้นไหน มากว่า55
รังสำอำมหิตได้แผ่จากผมไปทั่วบริเวณครับ แต่เน้นตรงที่ไอ้ลุงมากที่สุด
“อ้าว แต่ก่อนตอนที่เอ่ออออออออออออ ตอนที่เอ่อ แต่ก่อนทำอะไรกอล์ฟมักจะบอกนนท์ก่อนเสมอนี่”
แต่ก่อนทำไมยะ บอกมานะ เป็นคำถามที่ผมเกิดในใจ
“เหรอ ไม่เห็นบอกอะไรนี่ คงไม่สำคัญขนาดนั้นมั้งเลยไม่ได้บอก แต่เรื่องอื่นที่สำคัญนะ บอกก่อนนอนทุกคืนเลย จริงไหมกอล์ฟ”
ผมหันหน้าไปหาไอ้ลุงครับ รังสีอำมหิตเพิ่มถี่มากขึ้นครับ
ไอ้ลุงก้มหน้าตักข้าวใส่ปากตามเดิมไม่ได้พูดอะไร ลองพูดดูสิครับ พิกลุทองร่วงแน่ๆ
ไอ้เดชเพื่อนรักยกน้ำมา2ขวดพร้อมน้ำแข็งเปล่า
“งานจัดขึ้นที่บ้านนนท์นะ วันศุกร์นี้นะอย่าลืมไปนะปอร์ พี่นพฝากชวน
อ่อ มีเพื่อนพี่นพด้วยนะ รู้สึกว่าจะจบมาจากอังกฤษหลายคน มีชาติตละกูลทั้งนั้นเลยนะปอร์ นอกจากนั้นก็มีเพื่อนนนท์ที่กองถ่ายก็มานะ
และเพื่อน ๆ ที่มหาลัยที่นนท์สนิทเท่านั่นละ” แรดนนท์พูดไปเน้นเสียงสูงที่คำว่าผู้ดี้ผู้ดี ฟังแล้วแทบกลายเป็นผู้ดีตามในบัดนาว
“อืม” แล้วมึงสนิทกับกรูเหรอ ถึงได้มาชวนกรู ไปชวนชะนีแพมสิมึง คิดไปก็ตัดข้าวใส่ปากไป
“นนท์รู้ว่าปอร์ไม่เคยไปงานแบบนี้ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากหรอกนะ แต่งตัวธรรมดาก็ได้ กันเองไม่เรื่องมากนะ”…………. การีดกรี๊ด
ไม่ต้องย้ำกรูรู้ว่ากรูบ้านนอก อีเควี้ยนี่ วอนทีนแล้วมึง
“อ้าวเหรอ ได้เดี๋ยวแต่งไปให้ตามที่บอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจัดให้ สบายบาก ” ข้าวแต่ละคำทยอยเข้าปากไม่ได้หยุด
ไอ้ลุงเปิดน้ำเทใส่แก้วแจกจ่ายให้ทุกคน ยังไม่คิดที่จะพูดเหมือนเดิม
“อิ่มยังวะเดชมึง” คำพูดผมทำให้เพื่อนเดชชะงักอีกครั้งครับทั้งๆที่มันเพิ่งลงมือกิน
“กรูอิ่มจนเอียนแล้ววะมึง ค่อยๆกินนะเดี๋ยวข้าวจะกระเด็นออกมาจากปาก เป็นผู้ดีไม่ใช่เหรอมึง”555
อะไรอะไรก็ลงที่เพื่อนเดชครับ น่าสงสารเชียว
เพื่อนเดชได้ยินแบบนั้นแทบที่กินจานทั้งจานเข้าไปในทีเดียวเลยครับ
ผมรู้ว่าเพื่อนเดชเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดและสื่อออกไป
“อิ่มละ”
“อ้าวนี้ น้ำ ค่อยๆดื่มนะเดี๋ยวสำลัก ผู้ดีเขาค่อยๆดื่มนะมึง” ผมบอกเพื่อนรัก
“แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าผู้ดี” ตามเคยครับเพื่อนเดชพูดไปก็ทำท่าทำทางค่อยๆ ดื่มน้ำเหมือนที่ผู้ดีเขาดื่มกัน555
“ไป กลับ” เพื่อนเดชพูดไปลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกำลังจะกลัวแรดนนท์ขึ้นมากระทันหันครับ
“อย่านะ หยุดเดี๋ยวนี้ แบบนั่นไม่ได้ ผู้ดีไม่ทำแบบนั้น นั่งลงใหม่เดี๋ยวนี้ มึง” เพื่อนเดชทำตามคำสั่งของผมอีกครั้งครับ
“มึงดูกรูนะ ผู้ดีเขาทำกันแบบนี้ ดูดีๆ ห้ามกระพริบตา แบบนี้นะ ”
ผมค่อยๆ ลุกขึ้น ใช้มือสองมือประสานเข้าหากันที่เป้ากางเกง แล้วค่อยๆงก้าวท้าวซ้ายนำ
แล้วตามด้วยขวาไปด้านหลัง ในขณะที่มือยังประสานกันอยู่
แล้วค่อยๆ หันหลังให้กับไอ้นนท์ ไอ้ลุง โดยมีเพื่อนเดชเดินตามมาไม่ได้ห่างครับ
มีคนที่งงมากที่สุดคือไอ้ลุงครับ มันไม่คิดว่าผมจะใช้วิธีนี้เพื่อออกจากดงผู้ดีนั่นไป555
เรียกตามแทบไม่ทัน
