[เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์  (อ่าน 42364 ครั้ง)

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

******************************

***เขียนเรื่องนี้ลงบอร์ดอินุในเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา...เนื่องจากไปติดอกกับติดใจ น้องเชิดสิงโตที่งานศาลเจ้าปุงเถ่ากงม่าเชียงใหม่ค่ะ...แบบว่าช่วงนั้นไปเกาะเสาศาลเจ้าทุกคืนๆเลย...***

สิงโตวาเลนไทน์

ผมมองคนที่กำลังถือพัดเต้นไปเต้นมาอยู่ด้านล่าง ใกล้โค่นเสาที่ผมกำลังจะกระโดดข้ามไป มันไม่ใช่ตำแหน่งแห่งที่ๆใครสมควรจะมายืนอยู่เลย เขาเงยหน้าขึ้นยิ้มด้วยใบหน้าของหญิงแก่ราวกับไม่รู้สึกรู้สาถึงความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นทีละน้อยในใจของผม  หรือหากจะให้พูดตรงๆล่ะก็...ความหงุดหงิดที่ว่านั้น มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว หรืออาจจะก่อนหน้านั้นเป็นวัน หรือเป็นเดือนก็ได้...หรือจริงๆก็นับตั้งแต่วันที่เจ้าเด็กหน้าใหม่ที่กำลังสวมหน้ากากหญิงแก่คนนี้ก้าวเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในคณะเลยก็ว่าได้...

ผมบอกตัวเองให้เลิกคิด ให้ตั้งสมาธิอยู่กับสิ่งที่ตัวผมเองกำลังทำ เพราะการขาดสมาธิแค่เพียงนิด มันก็ทำให้เกิดการผิดพลาดได้ ...ผมบอกตัวเองให้ตั้งสมาธิ หากแต่ภาพพู่ไหมสีชมพูสดที่คนๆนั้นกำลังแกว่งไกวทำทีคล้ายหลอกล่ออยู่นั้น มันกลับทำให้ผมรำคาญตา ผมนึกเห็นภาพใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากของหญิงแก่ที่แหงนเงยจับจ้องมาที่ผมหรือจริงๆน่าจะบอกว่า...จับจ้องมายังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของผม...

ใบหน้าของหญิงแก่ยิ้มแย้มหยอกเย้าขี้เล่นกำลังซ้อนทับกับเจ้าของใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้น...เขากำลังยิ้ม หัวเราะ ส่งสายตามาให้ใครอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของผม...

“อย่ายืนตรงนั้น!”เสียงตะโกนดังมาจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง หากแต่คงมีแค่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน เจ้าของหน้ากากหญิงแก่จึงยังคงถือพัดโบกไปมาพร้อมพู่ไหมสีชมพูในมือ  เริงร่าอยู่ในตำแหน่งเดิม ตำแหน่งที่ไม่ควรจะยืน

และเพราะเสียงตะโกนนั้น...ในขณะที่สองเท้าของผมกำลังเต้นขยับรับจังหวะเสียงรัวกลองอยู่บนเสาที่มีหน้ากว้างก็แค่เพียงพอที่จะยืน   สองมือขยับชูหัวสิงโตขึ้นไปจนสุดแขน โดยไม่ทันคิด ผมเหลียวหลังไปมองคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง... เจ้าของเสียงตะโกนนั้น มันทำให้ผมสูญเสียจังหวะการทรงตัวไปเล็กน้อยหากแต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะควบคุมให้สมดุลกลับมาเป็นเหมือนเก่า

“เป็นไรวะ?”คำถามเสียงขุ่นๆ ดังมาจากด้านหลัง จากคนที่ผมหันไปมอง

“เป็นแฟนมึงไง!”ผมตอบกลับไปเสียงขุ่นไม่แพ้กัน ทั้งที่หัวสิงโตถูเชิดส่งขึ้นไปอีกครั้งในท่าทางการเหลียวหลังและตัวผมก็เอี้ยวกลับไปเช่นกัน หากแต่ครั้งนี้ ผมไม่ยอมมองมันที่ยืนอยู่ข้างหลังในฐานะคนเชิดหางสิงโตแม้แต่น้อย

ผมไม่ได้พูดอะไรกับมันอีก  พยายามไม่มองคนที่ยืนหลอกล่ออยู่ด้านล่าง พยายามก็แต่ตั้งสมาธิและมองไปข้างหน้า

หัวสิงโตถูเชิดยกขึ้นและดึงกลับลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อรอจังหวะของความพร้อม ซึ่งก็นานกว่าที่เคยเป็น เพราะดูจะยากเย็นเหลือเกินกับการบังคับสายตาไม่ให้เพ่งมองไปที่ด้านล่าง และบังคับสมาธิให้จดจ่ออยู่ก็แต่กับสิ่งที่กำลังทำ

เมื่อผมย่อตัวลง เสียงกลองก็ตีกระหน่ำเสียงเร่งเร้าจังหวะขึ้นอีกหนพร้อมกับที่ หัวสิงโตถูกดึงลงมาอีกครั้งก่อนจะถูกชูขึ้นสุดแขนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อผมย่อตัวลงต่ำที่สุดก่อนจะกระโจนไปข้างหน้า

ก่อนที่เท้าจะทันแตะลงบนเสาต้นที่หมายตาไว้  แสงแฟลชก็สว่างจ้า ...เสาเหล็กที่เมื่อครู่ยังเห็นชัดอยู่ตรงหน้าก็หายวับไปโดยทันทีเหลือก็แต่แสงสีขาวที่ยังเต้นพร่าอยู่ในดวงตาทั้งสอง

เท้าผมแตะลงที่เสา หากแต่ก็แค่หมิ่นเหม่ เสียงคนหวีดร้องพร้อมๆกับที่ผมรู้แล้วว่าตัวเองกำลังหล่นร่วงลงมาจากเสาเหล็กสูงเกือบสามเมตร...

“เฮ้ย! เป็นไง?”หลายเสียงแข่งกันถาม  กับอีกหลายมือที่ช่วยกันรับหัวสิงโตน้ำหนักกว่าสิบกิโลไปจากมือผม

“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ?”น้ำเสียงขุ่นๆถามดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“ทำไมไปยืนตรงนั้น?”คนถามคนเดิม หากแต่น้ำเสียงอ่อนลงและครั้งนี้ ไม่ได้ถามผม

ไม่มีคำตอบดังลอดออกมาจากหน้ากากของหญิงแก่ที่ยังฉีกยิ้มยียวน กวนใจผม

“ไม่เป็นไรก็ลุกขึ้น ขึ้นไปเล่นต่อ!”เสียงครูสั่งเสียงดุ พร้อมปรบมือขัดจังหวะการพูดคุยกันของพวกผม

และผมรู้ คำสั่งนั้นดูจะส่งมาถึงผมโดยตรง เพราะตอนนี้เหลือก็แต่ผมที่ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นคนเดียว...หญิงแก่ที่เมื่อกี้ยังล้มกลิ้งอยู่ที่พื้นและมันที่หล่นลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมกับผม ขยับลุกเตรียมตัวแสดงต่อกันแล้ว เหลือก็แต่ผมที่ยังนั่งกองอยู่ที่เดิม และเมื่อผมขยับตัวจะลุกขึ้นยืนบ้าง ผมจึงเพิ่งรู้สึกอาการเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าตัวเอง

“เป็นไร?”เสียงครูถาม ถึงยังดุหากแต่ฉายรอยห่วงใย  และมันที่เมื่อครู่ยังตะคอกถามผมโดยไม่สนใจคำตอบก็เพิ่งจะเหลียวหันมามองผมตามเสียงร้องถามของครู

“หล่นลงมายังไง!”มันไม่ใช่คำถามหากแต่เป็นการบ่นกลายๆของครู เพราะการเชิดสิงโตบนเสาเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยพลาดตกลงมาทั้งนั้น ดังนั้นการรักษาร่างกายตัวเองให้ปลอดภัยที่สุดเมื่อการพลาดพลั้งเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียนรู้

ผมถูกพยุงให้ลุกขึ้นยืน เพื่อหลบออกไปจากพื้นที่ของการแสดง หากแต่ก่อนหลบออกไป ผมก็ต้องถอดกางเกงสิงโตที่สวมอยู่ส่งต่อให้อีกมือที่ต้องรับหน้าที่เชิดหัวสิงแทนผม

ด้วยขาที่เจ็บอยู่ การถอดกางเกงออกจึงไม่ง่ายนัก มันเดินเข้ามาพยามที่จะช่วย แต่ผมขยับตัวหลบ เลือกให้เพื่อนอีกคนช่วยผมแทน

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินออกมาโดยไม่หันไปมองใครรวมทั้งมัน แต่ก็นึกรู้ว่ามันกำลังเดินตามผมออกมาด้วย

เสียงโฆษกประกาศให้คนดูรอสักครู่ เพราะตามธรรมเนียมไม่ว่าจะเชิดสิงโตในการแสดงใด ผู้เชิดต้องทำการไหว้ครูก่อนการแสดงแต่ละรายการ  มันจึงยังเหลือเวลาพอที่จะเดินตามผมออกมา

“ถ่ายรูปได้แต่ขอความกรุณาอย่าใช้แฟลชนะครับ...ถ้าตกลงมาอีกตัว วันนี้ได้ชมเสาดอกเหมยกันเฉยๆแล้วนะครับไม่มีสิงโตแล้วนะครับ”เสียงโฆษกพูดติดตลกเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูให้กลับมาอีกครั้ง

“เป็นไงบ้าง?”มันถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น เมื่อผมถูกพยุงให้นั่งลงไม่ห่างจากพื้นที่แสดงนัก

“เป็นไงบ้าง?”มันถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อผมไม่ตอบทั้งยังไม่หันไปมองมันสักนิด และครั้งนี้มันเอื้อมมือมาจะแตะไหล่ผม

“เป็นเหี้ยไง!”ผมตอบพร้อมปัดมือมันออกไปไม่ให้มาแตะถูกตัวผม

ดูมันจะชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดและท่าทีของผม แต่ไม่ทันที่มันจะพูดอะไร ครูก็ส่งสัญญาณเรียกมันเสียก่อน

การแสดงดำเนินต่อไปอีกครั้ง และผมก็ทนนั่งดูอยู่ได้แค่เพียงไม่นานเท่านั้น

“ไปไหน?”เพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งร้องถาม เมื่อผมโขยกเขยกพาตัวเองลุกขึ้นจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

“หาอะไรกิน...กูไปเองได้!”ผมตอบพลางชี้มือไปทางด้านนอกรั้วสีแดง และสำทับเมื่อคนร้องถามทำท่าขยับตัวจะลุกตาม

หากแต่กะเผลกเดินไปได้ไม่กี่ก้าว...เสียงคนที่รายล้อมดูการแสดงอยู่ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีก ผมพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปมอง พยายามทำทีเป็นไม่สนใจ รอฟังก็แต่เสียงโฆษกรายงานว่าเกิดอะไรขึ้น

ดูเหมือนเกือบจะเกิดการผิดพลาดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็แค่เกือบ การแสดงยังคงดำเนินต่อไป...

ผมเดินผ่านออกมานอกบริเวณศาลเจ้า  ที่วันนี้ดูจะเงียบเหงากว่าวันก่อนๆ เพราะวันนี้ไม่มีร้านอาหารตั้งรายเรียงเต็มตลอดริมฝั่งน้ำปิงอย่างวันก่อนหน้า...โต๊ะอาหารที่เคยวางเรียงเต็มถนนก็ถูกเก็บไปหมดแล้ว รถจึงวิ่งกันกวักไกว่...สองข้างของริมถนนเต็มไปด้วยร้านขายดอกไม้ และทุกร้านก็ดูจะพร้อมใจกันมอบบทเด่นให้ดอกกุหลาบสีแดงสด...

ผมใช้เวลานึกอยู่ไม่นาน ก็นึกขึ้นได้ว่า พรุ่งนี้เป็นวันอะไร...วันวาเลนไทน์ วันของคนมีแฟน...ซึ่งไม่ใช่วันของผม เพราะถึงผมจะมีแฟน แต่อาจมีไม่ถึงวันพรุ่งนี้...

ก่อนหน้านี้ จนถึงวินาทีนี้  ผมรู้ก็แต่ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานเฉลิมฉลองศาลเจ้าปุงเถ่ากงที่เชียงใหม่...เมืองที่ผมนับครั้งมาย่างเหยียบได้ในฐานะนักเชิดสิงโต...เมืองที่ต่อไปผมต้องมาใช้ชีวิตอยู่ ในฐานะอะไรก็ไม่รู้แต่คงไม่มีหัวสิงโตให้ผมเชิดอีกต่อไป...

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแสดงแล้ว...พรุ่งนี้ทั้งคณะจะเดินทางกลับกันแต่เช้า แต่ผมจะยังคงอยู่ที่นี่...

ผมมองดูถนนที่เพิ่งคุ้นตามาแค่เจ็ดวัน...มองดูผู้คนที่เดินเข้าเดินออกจากร้านดอกไม้...สำเนียงเสียงที่ผ่านมาเข้าหูนั้น...ผมฟังพอเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง กับอีกบางคำผมไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

ข้างในศาลเจ้ายังฟังดูคึกครื้น ทั้งเสียงกลอง เสียงฉาบ เสียงโฆษกและเสียงปรบมือของคนดู...บรรยากาศที่แค่ได้ยินเสียง ผมก็นึกเห็นภาพ...ผมค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนทางเท้าด้านนอกรั้วสีแดงของศาลเจ้า ฟังเสียงที่คุ้นหู และนึกถึงภาพที่แสนจะคุ้นตา ...ภาพที่ผมเคยคุ้นมานานกว่าสิบปี แต่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้...

พ่อของผมก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะเชิดสิงโตคณะนี้แต่เสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน แม่ที่เดิมทีเป็นคนเชียงใหม่และแต่งงานก่อนย้ายตามพ่อไปอยู่ที่นครสวรรคก็เพิ่งตัดสินใจจะย้ายกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง...และ แน่นอนผมต้องย้ายมาพร้อมกับแม่ด้วย...

การแสดงครั้งนี้จึงเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับผม...พอตอนเช้ามาถึง ผมก็จะถูกทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวเท่านั้น...

ทุกอย่างจะกลายเป็นอดีต...ทั้งคณะสิงโต...ทั้งมันที่เป็นแฟนผม...

คณะเชิดสิงโตจะมีนักเชิดหัวสิงโตคนใหม่ เหมือนมันที่ดูท่าเตรียมพร้อมจะมีแฟนคนใหม่แล้วเหมือนกัน...



Share This Topic To FaceBook

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #1 เมื่อ05-05-2009 23:06:12 »

ตั้งแต่เด็ก ผมเคยใฝ่ฝัน จะเป็นนักเชิดสิงโตที่ยิ่งใหญ่...

จากวันนั้น จนวันนี้ ผมก็ยังฝันเหมือนเดิม...และยังคงไม่รู้เหมือนเดิมว่า...ที่ว่ายิ่งใหญ่น่ะ...เอาอะไรกันมาเป็นเครื่องวัด...แล้วที่ว่ายิ่งใหญ่น่ะ มันแค่ไหนถึงจะเรียกว่าใหญ่จริง...

มันเหมือนกับการรักหรือถูกใครสักคนรัก...อยากถูกรักมากที่สุด แต่เมื่อไหร่ล่ะ? และจะรู้ได้อย่างไร ว่าเขารักเรามากที่สุดแล้ว...

หากแต่คงง่ายกว่าที่จะรู้แค่ว่า...รักมากกว่าหรือน้อยกว่า...เหมือนที่มันถามผมว่า...เป็นเหี้ยอะไร?...และหันไปถามใครอีกคนด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยนกว่า...แค่คำพูด น้ำเสียงและอารมณ์เพียงเท่านั้น ผมก็รู้แล้วว่า...มันรักผมน้อยกว่าที่รักใครอีกคนนั้น...

ผมมองดูผู้ชายที่มายืนเลือกช่อดอกไม้อยู่ที่ร้านดอกไม้ฝั่งตรงข้ามของถนน...ช่อใหญ่หรือช่อเล็ก?...แพงหรือถูก?...เขาตัดสินใจอยู่นาน นานจนแม่ค้าเลือกหันกลับมาชะเง้อตามองข้ามถนนผ่านรั้วศาลเจ้า ดูการแสดงในศาลเจ้าอย่างเดิม...สุดท้ายเขาเลือกเอาช่อขนาดกลางๆไป แปลว่าคงรักแต่กำลังทรัพย์อาจจะไม่พอ?...

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า สิ่งที่กำลังนั่งมองอยู่ ผู้ชายที่เดินยิ้มเขินๆออกจากร้านดอกไม้ไปพร้อมช่อกุหลาบสีแดงในมือมันไม่เกี่ยวโยงอะไรกับผมสักนิดเดียว...แต่เขาจะรู้หรือเปล่าว่า รอยยิ้มของเขาที่คงกำลังนึกถึงคนรักอยู่นั้น มันทำให้ผมเหงามากยิ่งขึ้น...ยิ่งเขายิ้มเมื่อนึกถึงคนรักของเขามากเท่าไหร่ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองถูกคนที่น่าจะเรียกว่าคนรักของตัวเองรักน้อยลงเท่านั้น...

ตั้งแต่เด็ก พ่อและแม่รวมทั้งครูเคยบอกลูกผู้ชายไม่ร้องไห้...โดยเฉพาะนักเชิดสิงโตต้องเข้มแข็งและกล้าหาญ...ผมจึงบอกตัวเองเสมอว่าต้องเข้มแข็ง และไม่ร้องไห้ ถึงจะฝึกและเจ็บตัวแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมร้อง... ผมบอกตัวเองเสมอแม้ในเวลานี้ บอกตัวเองพร้อมๆกับที่ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอยู่ตอนนี้...

ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลาดท่าตกลงมาจากเสาสูงกว่าสามเมตรนั่น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่เจ็บที่สุด...ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดที่ข้อเท้า...หากแต่เป็นเพราะคำพูดของคนบางคนเพียงไม่กี่คำเท่านั้น...

การแสดงจบไปแล้ว รู้ได้จากเสียงปรบมือที่ดังมาจากด้านในรั้วของศาลเจ้า และรู้ได้จากบรรดาแม่ค้าขายดอกไม้บนถนนฝั่งตรงกันข้าม ที่หันหน้าหันตากลับไปตั้งอกตั้งใจขายดอกกุหลาบของตัวเองต่อ

“เอ้า!”เสียงที่ดังค้ำอยู่เหนือหัว ไม่ต้องเดา ผมก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร เพราะถ้าให้พูดกันตามจริง ผมก็นั่งนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ ว่าการแสดงจบลงไปแล้ว แล้วทำไมมันยังไม่โผล่หัวออกมาหาผม ถึงผมจะเพิ่งนับได้ถึงห้าก็เหอะ...

ทุกครั้งเมื่อการแสดงของเราจบลง  ผมซึ่งเป็นผู้เชิดหัวสิงโตยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไปในการไปหยอกล้อเล่นกับคนดู  ส่วนมันที่รับภาระหนักกว่าตลอดช่วงเวลาของการแสดงบนเสาดอกเหมยจะเปลี่ยนตัวคนอื่นเข้ามาเชิดหางแทนเพื่อไปพัก

ในครั้งนี้ที่ผมไม่ได้เป็นคนเชิดก็ไม่น่าจะต่างกัน ผมจึงนั่งนับเลขรออยู่ในใจและมันก็ออกมาหาผมเร็วกว่าที่คิดไว้

ผมเงยหน้ามองดูมัน พร้อมๆกับที่มันโยนอะไรบางอย่างมาให้ผม

ดอกไม้พลาสติกสีขาว...ดอกไม้ที่ใช้แทนดอกเหมย ที่จะถูกประดับไว้โค่นเสาให้ผู้ทำหน้าที่เชิดหัวสิงเด็ดขึ้นมาเมื่อถึงเวลาอันสมควรในการแสดง เพียงแต่วันนี้ผมยังไม่ทันได้แตะ เพราะดันร่วงลงมากองอยู่บนพื้นเสียก่อน

“วันนี้มึงไม่ได้เก็บ กูเลยเก็บมาให้...”มันพูดทั้งที่จังหวะหายใจยังไม่สม่ำเสมอนัก เหงื่อยังชุ่มอยู่ตามใบหน้าและลำคอของมัน บ่งบอกให้รู้ว่า พอแสดงเสร็จมันก็คงวิ่งโร่ออกมาหาผมเลย แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่อยากพูดกับมันอยู่ดี

มันหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผมก่อนดึงผ้าสีขาวที่ใช้โพกหัวออกมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก  ริมฝีปากมันแห้งจนผมนึกอยากถามมันว่ามันได้พักกินน้ำบ้างหรือยังก่อนที่จะออกมาหาผม...แต่ผมก็ไม่ได้ถาม เพราะนึกรู้อยู่แก่ใจว่ามันยังไม่ได้กิน

“เป็นไงบ้าง?”มันถามเสียงแหบๆก่อนกระแอมในคอเบาๆ และผมก็ยังไม่ยอมตอบและไม่หันไปมองมัน...มองก็แต่ร้านดอกไม้ที่อีกฝั่งถนน ดูผู้ชายรายใหม่ที่เดินเข้าไปซื้อดอกไม้และเดินออกมาพร้อมดอกไม้แล้วก็รอยยิ้ม...รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ไม่ทำให้ผมรู้สึกเหงาเท่ารอยยิ้มของผู้ชายคนเมื่อกี้แล้ว

มันทำท่าคล้ายจะพูดอะไรอีก หากแต่หลุดออกมาได้แค่ครึ่งคำ มันก็หันไปไอจนหน้าแดง

“ก็ทำไมไม่กินน้ำ?”ผมถามมันด้วยเสียงให้ฟังดูห้วนๆ มันจะได้รู้ว่าผมยังโกรธมันอยู่...แต่จริงๆผมก็ยังโกรธมันอยู่ถึงจะไม่มากมายเท่าก่อนหน้าที่มันจะหย่อนตัวลงนั่งตรงนี้

มันหยุดไอแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ทำก็แค่มองดูผมเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

...ออกมาช้า เดี๋ยวมึงก็โกรธอีก...ผมรู้มันอยากพูดแบบนี้ หรือถ้าเป็นครั้งอื่นมันคงพูดไปแล้ว แต่ครั้งนี้มันคงรู้ตัวว่าทำผิด มันเลยทำได้แค่อยากพูดเท่านั้น

“งั๊นเดี๋ยวกูมานะ!”ในที่สุด มันก็บอกก่อนลุกขึ้นและวิ่งหนีหายเข้าไปภายในรั้วศาลเจ้า...ผมไม่ได้หันไปมองมัน...ไม่ได้เห็นมันวิ่ง แต่ก็นึกเห็นภาพมันวิ่ง...ชัดเจนเพราะคุ้นเคยมาตลอดหลายๆปี...

แต่ครั้งนี้ เดี๋ยวของมัน นานกว่าที่ผมคิด นานจนมันน่าจะจีบแฟนใหม่ได้อีกคนเลยมั้ง...คิดได้อย่างนั้น ความโกรธมันก็แล่นริ้วขึ้นมาอีกระลอก  ผู้ชายที่ซื้อดอกกุหลาบที่ฝั่งตรงข้ามเดินยิ้มออกมาจากร้านและชะงักยิ้มไปนิดเมื่อบังเอิญเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเข้าพอดี ผมถึงรู้ตัวว่านั่งมองดูเขาอย่างกับเขาเป็นแฟนใหม่ที่มันหายหัวไปจีบอยู่ ผมเลยรีบหันเสมองไปอีกทางก็พอดีมันโผล่ออกมาพร้อมหัวสิงโตในมือ และเหงื่อยังท่วมหน้าท่วมหัวมันเหมือนเดิม

“ครูให้กูต่อตัวแทนมึง”มันอธิบายถึงเหตุที่ออกมาช้าก่อนนั่งลงที่เดิมข้างๆผม

ผมไม่ได้พยักหน้ารับรู้ ...ไม่สนใจหันไปมองมัน และไม่พูดกับมัน แต่จากหางตาผมเห็นมันหันมามองผมบ่อยครั้งแล้วก็ได้ยินเสียงมันถอนหายใจบ่อยพอกับที่มันหันมามองผม แต่ผมก็ยังไม่ยอมพูดกับมัน...

ผมนั่งมองก็แต่ร้านขายดอกไม้ที่อีกฝั่งถนน...มองดูผู้คนที่กำลังมีความสุขกับภาพคนรักของตัวเองในวันพรุ่งนี้...มองดูพวกเขาโดยไม่รู้ตัวว่าภาพที่มองเห็นนั้นมันพร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ จนมันเอื้อมแขนมา มือแข็งแรงของมันจับที่ต้นคอของผมบังคับให้หันไปมองมัน ผมถึงได้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง...

“วันนี้มึงออกไปไหนกับมัน?”ในที่สุด ผมก็ถามในสิ่งที่รบกวนใจผมมาทั้งวัน

“ออกไปไหน?...กับใคร?”มันถามด้วยสีหน้างงๆ มือมันยังจับต้นคอของผมและบีบเบาๆ

“ก็เมื่อตอนกลางวัน!”ผมบอกพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ยังไม่ยอมหยุดไหล และปัดมือมันออกจากต้นคอผม เพราะถ้ายอมให้มันจับ เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมหายโกรธแล้วและไม่ยอมตอบคำถามผมอีกทั้งผมก็รู้สึกดี เมื่อมันทำท่ายอมอ่อนข้อ คล้ายเอาอกเอาใจผมอยู่อย่างนี้

“ตอนกลางวัน...กูออกไปไหน กับใคร...”มันพูดทวนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“อ๋อ!...ครูใช้กูออกไปซื้อของ แต่กูออกไปคนเดียวนี่!”มันพูดอย่างเพิ่งนึกได้ และผมก็นึกได้พร้อมๆกับมันว่า...มันกับเจ้าเด็กใหม่ของคณะเดินตามกันเข้ามา เจ้าเด็กใหม่คนนั้นที่วันนี้ทำหน้าที่แต่งเป็นซิ้มแก่ถือพู่ไหมหลอกล่อสิงโตนั้น เดินตามกันเข้ามาติดๆ แต่พอเห็นผม เจ้าเด็กใหม่นั่นก็เดินหลบฉากไปอีกทาง...ภาพที่เห็น มันทำให้ผมเข้าใจว่ามันสองคนออกไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมเพิ่งนึกได้ว่า เจ้าเด็กใหม่คนนั้นเดินหอบกะละมังใบโตเข้ามาด้วย แถมชุดที่ใส่อยู่ก็ไม่น่าจะออกไปเดินที่ไหนได้...ซ้ำมันอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนเดินตามไม่อย่างนั้น มันน่าจะช่วยยกกะละมังใบโตนั่น...ผมเพิ่งนึกได้จริงๆ

“ช่างมันเหอะ!”ผมรีบพูดปัด ยังทำน้ำเสียงหงุดหงิด

“อะไร! รู้ตัวว่าตัวเองผิดล่ะซิ!”แต่มันดักถูกทาง

“แล้ววันอื่นอีกล่ะ?”ผมเลยไม่ยอมแพ้  เพราะจริงๆภาพที่เห็นแค่วันนี้ มันคงไม่ทำให้ผมคิดกังวลไปไกลถ้าไม่มีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

“วันไหนอีก?”มันถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามใจเย็นแต่ผมเห็นสีหน้าของมันดูเหนื่อยใจหน่อยๆ

“ก็วันที่มึงไปตลาดกับมันน่ะ กูเห็นนะ!”

“มันไหนอีกล่ะ? มันแกวหรือมันต้ม?”มันย้อนถามจะหลอกให้ผมขำหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่ขำเพราะตอนนี้ผมอยากได้คำตอบ และแม้ผมยังไม่ได้ให้คำตอบกับมันว่า...มัน...ที่ผมพูดถึงน่ะมันแกวหรือมันต้ม มันก็คงนึกออกว่ามันไหนที่ผมหมายถึง 

ก็เจ้าเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในคณะ วันเดียวกันพอดิบพอดีกลับวันที่ผมรู้ว่าตัวเองต้องกลายเป็นอดีตของคณะนั่นไง...แถมมันดันมาติดแฟนผมแจจนใครๆก็แซวกัน

“แล้วกูไปกับมันทำไม?”มันกลับย้อนถามก่อนจะนึกได้ว่าควรปฏิเสธข้อร้องถามซะมากกว่า

“กูไม่ได้ไป!”

“ไป...กูเห็น”ผมยืนยันเพราะผมเห็นจริงๆ

“หลายครั้งด้วย ไม่ใช่ครั้งเดียว!”ผมเพิ่มเติมในสิ่งที่เห็นจริง เผื่อมันจะได้ยอมรับ

“หลายครั้งด้วยเหรอ?”มันถาม  ตามันก็จ้องผมเหมือนรู้ทันแต่ไม่กล้าพูด

“ก็...สองครั้ง!”ผมเลยต้องยอมรับ แต่ถึงยังไงในฐานะของแฟนกัน การที่มันไปเดินกับคนอื่น สองครั้งผมก็ถือว่าหลายอยู่...เหมือนที่คนอื่นแซวมันกับเจ้าเด็กใหม่นั่นแหละ...ถึงผมจะได้ยินกับหูแค่ครั้งเดียว และมันโกรธคนแซวหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่มีใครกล้าแซวอีก...แต่ลับหลังผม ก็อาจจะแซวกันมากกว่าครั้งก็ได้ใครจะรู้ และที่สำคัญ ในฐานะของแฟนกัน จะสองครั้งหรือแค่ครั้ง ผมว่าก็มากเกินพอแล้ว...

“ซื้อของมั้ง...”มันตอบก่อนคิด และรีบขยายความ

“ครูใช้ไปซื้อของมั้ง ไม่อย่างนั้นกูจะไปกับมันทำไม?”

“มึงอยู่กูก็ไปกับมึงทุกทีแหละ”มันขยายอีกนิด

“อะไรที่มันไม่สำคัญ กูจะจำทำไมให้รกหัววะ?”คราวนี้มันหยอด แต่ก็ยอมรับล่ะว่าอารมณ์ผมดีขึ้นเพราะคำพูดของมันประโยคนี้ถึงผมจะยังแกล้งทำหน้าตึงอยู่ก็เหอะ แต่อารมณ์ผมก็ดีขึ้นแค่แปล๊บ เพราะมันเกิดบังเอิญทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ และผมเกือบย้อนถาม...มันสำคัญแล้วหรือไงมึงถึงจำได้!...ก็พอดีมันถามขึ้นเสียก่อนแต่มันถามในสิ่งที่ผมไม่มีคำตอบ

 “แล้วทำไม มึงไม่ถามกูตั้งแต่วันนั้นล่ะ?”มันกลับย้อนถาม และคำถามของมันก็ทำให้ผมเงียบ

“ด่ากู แต่ไปพูดดีกับคนอื่น!”เมื่อตอบไม่ได้ ผมเลยเปลี่ยนไปอีกเรื่อง

“กูพูดดีอะไร?”มันถามหลังสูดหายใจลึก มองผมเหมือนจะบอกว่าผมกำลังพาล

“ด่ากูเหี้ย แต่ทีกับมัน...”ผมไม่ได้พาล แต่เป็นเรื่องจริง และใครบ้างจะไม่น้อยใจถ้าเจออย่างผม

“ก็มันเป็นผู้หญิง!”

“มึงก็ยังพูดกับมัน เพราะกว่าพูดกับกูเลย!”มันแจงเพิ่มเมื่อเห็นผมขยับตัวตั้งท่าจะเถียง

“ก็...มันเป็นผู้หญิง!”ผมให้เหตุผลที่ทำให้มันต้องหันหน้าไปแอบถอนหายใจอีกครั้ง

มันถอนหายใจและก็ส่ายหัวพร้อมๆกับถลกแขนเสื้อขึ้นและถูรอยแผลแดงๆที่แขนของมันเหมือนอยากให้ผมรู้ว่า...ไร้สาระมากที่มันต้องเจ็บตัวด้วยเรื่องแบบนี้...

ใช่แล้ว...ผมยอมรับว่าทุกอย่างที่คิดน่ะไร้สาระ หากแต่ผมก็คงไม่กังวลขนาดนี้ ถ้าวันพรุ่งนี้จะไม่มาถึง...ถ้าพรุ่งนี้ผมจะยังได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เห็นหน้า พูดคุยอยู่กับมันทุกๆวันเหมือนเก่า...ถ้าเจ้าเด็กใหม่นั่นจะไม่เข้ามาในจังหวะที่ผมจะต้องก้าวออกไปพอดี และยิ่งกว่านั้นจะไม่มาเกาะติดกับมันที่เป็นแฟนผมขนาดนี้...ผมไม่ได้คิดไปเอง เพราะใครๆก็พากันแซวมันสองคน...ถึงจะได้ยินกับหูแค่ครั้งและมันก็ซัดคนแซวจนหน้าหงายไปแล้วก็เหอะ...

“เออ! กูไร้สาระ มึงก็หาแฟนใหม่สิ!”ผมพูด เมื่อมันยังไม่ยอมเลิกถูรอยแดงๆที่แขนสักที

“เกี่ยวไรวะเนี่ย?!”มันพูดแล้วก็ถอนหายใจอีก

“ก็หาแฟนใหม่ไง!...ยังไงพรุ่งนี้กูก็ไม่ได้กลับไปกับมึงแล้ว!”ผมพูด จ้องหน้ามันที่มองจ้องผมอยู่เช่นกัน

“มึงจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องไร้สาระอีก!”ผมพูดและคราวนี้จ้องรอยแดงเป็นทางบนแขนที่มันยังไม่เลิกถู และมันก็ก้มมองตามสายตาผม

“กูร้อน! เหงื่อมันออก...มันแสบ...”มันพูด  ส่ายหัวถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยและดึงแขนเสื้อกลับลงไปเหมือนเก่า

มันถอนหายใจอีกครั้ง แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

ผมมองหน้ามัน ดูจากหน้าก็รู้ว่ามันหงุดหงิด แต่มันก็ไม่พูดอะไร...

ผมกับมัน ต่างคนต่างนั่งกันเงียบๆ...มันถอนหายใจอีกหลายครั้งและผมก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอีกหลายหน แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรกัน

ในศาลเจ้า...เสียงกลองยังดังกระหึ่มและการแสดงยังไม่จบ...

ที่อีกฝั่งตรงข้ามของถนน...ผู้คนยังถือดอกไม้แล้วก็แย้มรอยยิ้ม...ดูทุกคนจะมีความสุขกับวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง ยกเว้นก็แต่ผม...และผมไม่รู้ว่า สำหรับมัน...มันรู้สึกยังไง หรืออาจเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่ต่างจากวันที่ผ่านมา ไม่ต่างไป ไม่ว่าจะมีผมอยู่หรือไม่อยู่ข้างตัวมันในวันพรุ่งนี้...

“ก็บางเรื่องไร้สาระ ไม่สำคัญ กูจะจำทำไมให้รกหัว...”ในที่สุดมันก็พูดอะไรบางอย่างออกมาพร้อมๆกับเอาผ้าโพกหัวเปื้อนเหงื่อของมันเช็ดๆตาให้ผม...ไม่อ่อนโยนสักกะนิด แต่น้ำตาผมก็หยุดไหล

ผมมองดูมันเอี้ยวตัวไปหยิบหัวสิงโตขึ้นมา ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเดินอ้อมมายืนข้างหลังผม

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #2 เมื่อ05-05-2009 23:07:23 »

“มึงลองถามกูสิว่า ทำไมหลังเสร็จงานเจ้าแม่ทับทิมเมื่อสองปีก่อน กูถึงขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากบ้านมึงตอนเช้า..”มันพูดก่อนค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งด้านหลังผม มือมันก็ค่อยๆหย่อนหัวสิงโตครอบลงบนหัวของผม ขามันขยับยกชันขึ้นโดยมีผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองของมัน

“กูตอบมึงได้แน่ ทุกสเต็ปเลย!”มันพูดปล่อยมือจากหัวสิงโต เปลี่ยนมาโอบเอวผมไว้แทน คางมันก็วางลงบนไหล่ผม

“จะบอกว่ากูสำคัญ หรือว่ากำลังลามก?”ผมถามมัน เพราะเมื่อมันกอดผมไว้อย่างนี้ ผมก็ไม่โกรธมันแล้ว และก็ไม่อยากแกล้งโกรธอีกต่อไปแล้วด้วย...

ผมปล่อยตัวเองไม่ได้ฝืนตัวไว้เมื่อแขนของมันที่โอบรอบเอวผมไว้จากด้านหลังนั้น กอดกระชับดึงผมให้ขยับถอยจนชิดพิงอยู่กับอกของมัน

ผมไม่กลัวใครเห็น...เพราะคนที่มองก็คงเห็นแค่ผมที่สวมหัวสิงโตอยู่ ส่วนตัวมันถูกซ่อนจนมิดชิด...เว้นก็แต่คนที่มองเราอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม หรืออาจจะคนตาดีที่เห็นว่าสิงโตที่นั่งอยู่ริมถนนนี่ มีหนึ่งหัว สองขาแต่สี่แขน...แต่ผมก็ไม่สนใจ ใครจะเห็นก็ช่าง...ผมอยากให้มันกอดผมอยู่อย่างนี้

“ถ้าทางโรแมนติกนัย...อย่างแรก แต่ถ้าทางความคิด...อย่างหลังว่ะ”มันตอบพร้อมหัวเราะเบาๆในคอก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้ผมยิ่งขึ้นเช่นกันและประทับริมฝีปากร้อนๆลงบนต้นคอผมเบาๆ

มันไม่ได้พูดอะไรอีก ทำก็เพียงเอาคางกลับไปวางลงบนไหล่ผมเหมือนเดิม และก็กอดผมไว้อย่างนั้น...

ผมจับแขนของมันที่กำลังโอบรอบเอวผมอยู่...แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง...หากแต่น้ำตาในครั้งนี้มันต่างจากน้ำตาในครั้งก่อนๆนี้...น้ำตาในเวลาที่อยู่ในอ้อมแขนของมันนั้นมีความหมายต่างไปจากน้ำตาเมื่อผมนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว...

ทำไมผมจะจำไม่ได้...ตอนที่เท้าแตะพลาด ร่างกำลังร่วงหล่นลงมา ผมรู้สึกได้ถึงแรงมือของมันที่จับเอวผมไว้จนสุดกำลังแรงแขน จนต่อเมื่อมันรู้ว่าเกินกำลัง มือที่จับเอวผมไว้ก็เปลี่ยนมากระหวัดรัดรอบเอว...ถ้าผมตกลงมากระแทกใส่เจ้าเด็กใหม่นั่น ตัวผมเองนั่นแหละที่จะเจ็บยิ่งกว่านี้ หากแต่มันกลับดึงตัวผมให้พลิก...หล่นกระแทกลงโดยมีตัวของมันเองรองรับผมไว้...แผลที่ขาซึ่งรูดครูดกระแทกกับขอบเสาคือเรื่องเกินกำลังที่มันจะปกป้องผมได้...ทำไมผมจะไม่รู้ ทำไมผมจะจำไม่ได้ เพราะตลอดเวลานับจากแสงแฟลชที่สว่างวาบขึ้น สิ่งเดียวที่สัมผัสและจดจำได้นับจากวินาทีนั้นก็คือแรงมือและแรงแขนของมันที่พยายามโอบกอดและปกป้องผมเอาไว้...

น้ำตาผมยังไหล...ถึงมันจะเช็ดให้หลายต่อหลายครั้ง แต่น้ำตาผมก็ยังไหล เพราะพรุ่งนี้แล้วที่จะไม่มีแขนแข็งแรงของมันโอบกอดผมไว้อย่างนี้

“นครสวรรค์กับเชียงใหม่ นั่งรถไม่กี่ชั่วโมงเอง”มันพูดขึ้นอีกครั้ง

“พอเลิกเรียนวันศุกร์ มึงก็นั่งรถไป เดี๋ยวกูไปคอยรับ แล้วก็ไปนอนบ้านกู เสาร์อาทิตย์ก็ไปฝึกด้วยกันเหมือนเดิม”

มันพูด แขนมันก็กอดผมแน่นขึ้น คล้ายให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่มันพูด ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยถ้าจะทำให้เกิดขึ้น

“ก็แค่สองวัน!”ผมท้วง

“ก็ดีกว่าไม่มีสักวัน...”มันพูดและกระชับอ้อมแขนของมันอีกครั้ง

อีกครั้งที่ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรกันอีก...แต่ความเงียบในครั้งนี้ก็มีความหมายแตกต่างจากความเงียบในครั้งก่อนๆเช่นเดียวกัน...เมื่อมันกอดผมไว้อย่างนี้...ความเงียบไม่ใช่ความหมายของความเมินเฉย หมางเมินหรือโดดเดี่ยวอีกต่อไป หากแต่มันคือความอบอุ่น ความรู้สึกมั่นคง ที่กำลังค่อยๆคืนกลับสู่ใจผมอย่างช้าๆโดยแทบไม่รู้ตัว...

น้ำตาผมหยุดไหลไปแล้ว แต่มันก็ยังกอดผมเอาไว้...

คนมากหน้ายังแวะเวียนมาซื้อดอกไม้และจากไปพร้อมรอยยิ้ม...และครั้งนี้ ผมรู้สึกมีความสุขไปพร้อมๆกับรอยยิ้มของพวกเขา...

“มองอยู่ได้ อยากได้เดี๋ยวกูซื้อให้”แล้วมันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ร่าเริงขึ้น...มันพูดพร้อมพยักเพยิดไปที่ร้านดอกไม้ที่ฝั่งตรงข้ามที่ผมนั่งมองอยู่...และเสียงของมันก็ทำลายความเงียบ ผมจึงเพิ่งสังเกตเห็นถึงความเงียบจากภายในศาลเจ้า...ไม่มีเสียงรัวกลองแล้ว...การแสดงคงจบไปแล้ว...

ผมเกือบปฏิเสธคำพูดของมัน แต่ก็ยั้งปากไว้ทัน นึกอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเกิดอยากได้ขึ้นมาจริงๆ มันจะกล้าเดินเข้าไปซื้อให้ผมจริงหรือเปล่า

“อยากได้หรือเปล่า?”มันถามย้ำ...แต่จริงๆมันไม่ได้อยากได้คำตอบ ผมรู้ มันอยากได้คำปฏิเสธต่างหาก

“อยาก!”แต่ผมตอบรับ

“เดี๋ยวกูซื้อให้”มันอึ้งไปก่อนบอก

ผมไม่อยากให้มันละอ้อมแขนที่กอดผมอยู่เท่าไหร่นัก  แต่ก็อยากเห็นว่ามันจะกล้าอย่างที่ปากมันพูดจริงหรือเปล่า และยิ่งกว่านั้น ถึงจะคบกับมันและเป็นแฟนกันมากว่าสองปี...ถึงจะไม่เคยนึกอยากได้ดอกไม้อะไรจากมัน แต่รอยยิ้มของคนทุกคนที่เดินถือดอกไม้ออกจากร้านไป ก็ทำให้ผมนึกอยากได้ดอกไม้จากมันบ้าง...ผมอยากให้มันนึกถึงผม เหมือนผู้คนเหล่านั้นที่เดินออกจากร้านพร้อมรอยยิ้มด้วยนึกถึงคนรักของตัวเอง...ผมอยากให้มันนึกถึงผมอย่างนั้นบ้าง...

มันลุกเดินออกไป แต่แทนที่จะข้ามถนนไปซื้อดอกไม้ที่ร้านที่ตั้งเรียงรายที่อีกฝากฝั่งถนน มันกลับเดินไปเสียอีกทาง...เดินไปร้านที่อยู่ไกลเกินกว่าสายตาผมจะมองเห็น ผมนึกขำกับการกระทำของมัน...อดยิ้มออกมาไม่ได้กับการนึกภาพมันตอนซื้อดอกไม้ และต้องหัวเราะออกมาจริงๆ เมื่อมันเดินกลับมาพร้อมดอกไม้ในมือ แต่ดอกไม้ที่มันถือกลับไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่คนอื่นเขาซื้อกัน แต่เป็นเบญจมาศสีเหลืองดอกโตทั้งกำมือ...

“กูยังไม่ทันพูดอะไรเลย เจ๊แกนึกว่ากูจะซื้อดอกไม้ไปไหว้ปุงเถ่ากงม่า...”มันพูดเมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม พูดไปมันก็มองหน้าผมที มองดอกไม้ในมือทีและก็ยกมือเกาหัวที

“เจ๊แกชมใหญ่ รู้จักไปลามาไหว้...เจ๊แกว่าเพราะปุเถ่ากงม่าคุ้มครอง การแสดงเลยลุล่วงปลอดภัย...”มันพูดและผมนึกอยากบอกมันว่า จริงๆแล้วเสื้อที่มันใส่กับกางเกงสิงโตที่มันยังสวมอยู่ก็ดูน่าจะเข้ากับเบญจมาศดอกโตเสียยิ่งกว่าดอกกุหลาบ แต่ผมก็ไม่ได้พูดเพราะมัวแต่หัวเราะ...กว่าจะหยุดหัวเราะก็เมื่อมันส่งมือมาให้

“ไหนๆแล้วก็ไปไหว้ปุงเถ่ากงม่ากัน”มันพูด

“กูจะได้บอกท่าน ว่าฝากแฟนไว้คนนึง ฝากท่านดูแล ไว้จะมารับหรือไม่ก็มาดูแลเอง...”มันพูดเมื่อก้มตัวลง จับแขนผมวางพาดที่ไหล่มันและพยุงผมให้ลุกขึ้น...และแขนแข็งแรงของมันก็กลับมาโอบไว้ที่เอวผมอีกครั้ง

“ฝากไว้คนนึง? แปลว่ายังมีอีกคน?”ผมแกล้งถามและได้ผลมันหยุดเท้าดังกึก หันมามองหน้าผม

“นี่แกล้งแหย่กูเล่นใช่เปล่า?”มันถามและไม่เปิดโอกาสให้ผมตอบ

“อย่าหึงเลยนะ เวลามึงหึง กูโครตเหนื่อยเลย!”มันพูด  ถอนหายใจแรงพร้อมส่ายหัวทำหน้าเหนื่อยใจให้ผมดู

“ถ้าไม่รัก กูไม่หึงหรอก!”ผมบอก ทั้งที่ใจจริงอยากถามมันว่า...ผมไปหึงอะไรมากมายอย่างที่มันพูดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ผมก็แค่หึงหน่อยๆ ก็มันเป็นแฟนผม ไม่ให้หึงมันแล้วผมจะไปหึงใคร?...

“กูไม่หึง กูก็ยังรักเลย”มันพูดพร้อมทำเป็นมองผมและส่ายหัวทำท่าอ่อนใจให้ดูอีกครั้ง ผมเลยนึกอยากแกล้งมันอีก...

“ตกลง มึงไม่ได้ชอบเขาแน่นะ?”ผมแกล้งถามโดยไม่ลืมเก็บรอยยิ้มที่ปากตัวเองแล้วก็ทำตาให้เศร้าหน่อยๆ

“ไม่ได้ชอบ! กูชอบมึงคนเดียว!”มันรีบยืนยัน

“แค่ชอบเองเหรอ?”ผมแกล้งย้อนถามอีก

“รัก!”มันตอบ...มาดมั่นหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ เพราะพอถาม...แค่ชอบเองเหรอ?...มันมองหน้าผมก่อนเสหันไปอีกทาง และแม้ไม่ได้ยินเสียงถอนหายใจ แต่ผมว่า ผมรู้นะว่ามันแอบถอนหายใจก่อนหันกลับมาบอกผมว่า...รัก!

ตอนนี้ นครสวรรค์กับเชียงใหม่ก็ไม่ได้ใกล้กันขึ้นสักนิด  แต่ผมก็รู้สึกว่า...มีความสุขจังเลย!

จบ

สิงโตวาเลนไทน์

ออฟไลน์ JX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #3 เมื่อ05-05-2009 23:14:27 »

เข้ามาทักค่ะ

ปลื้มงานเขียนคุณสุดๆ อ่ะ ให้ตาย!!

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #4 เมื่อ05-05-2009 23:40:29 »

น่ารัก  :m1:

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #5 เมื่อ06-05-2009 03:55:38 »

ชอบอีกแล้วครับ   :กอด1:

maggy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #6 เมื่อ06-05-2009 08:34:57 »

หง่า ชอบบบบ
อ่านแล้วแบบหวานๆ อบอุ่นๆ
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกสุดๆไปเลยคร้า
น่ารัก น่ารัก น่ารัก  :-[

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #7 เมื่อ06-05-2009 08:49:33 »

หุหุ เรื่องนี้ก็น่ารัก  :-[ :-[

chatori

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #8 เมื่อ06-05-2009 09:17:46 »

น่ารักมากมาย ~

ขอบคุณค่ะ ^^

 :-[

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #9 เมื่อ06-05-2009 09:39:33 »

น่ารักมากๆเลยค่า  :-[

ช๊อบบบชอบ :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
« ตอบ #9 เมื่อ: 06-05-2009 09:39:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ archi_10_001

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #10 เมื่อ06-05-2009 12:07:18 »

อืมมมม มันแปลบๆตลอดเรื่องเลย เข้าใจอารมณ์ แบบ หึงหงะ อย่าอยู่ใกล้คนอืิ่ื่นให้มากนักดิวะ

ประมาณนั้น

แต่ก็น่ารักนะ

น่ารักมากเลย...พระเอก อบอุ่นกว่าที่คิด เหอๆๆ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #11 เมื่อ06-05-2009 14:43:12 »

ชอบอ่ะ
ชอบตอนที่เอาหัวสิงโตมาคลุม 2 คนเอาไว้  น่ารักจัง

+1 เลย

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #12 เมื่อ06-05-2009 20:11:26 »

+1 ให้คุณภักD ชอบเรื่องน่ารัก ๆ อย่างนี้ ไม่ sweet หวานอะไรมาก
แต่มีความนัยให้เข้าใจได้เอง
..... :pig4:.....

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #13 เมื่อ06-05-2009 20:36:08 »

น่ารัก..... แต่ยังคง Signature ของคุณ ภัคD ไว้ ต้องแอบเจือเศร้านิดๆ

ได้ใจตรงคู่นี้เป็นนักเชิดสิงโต การันตีได้เลยว่าต้อง ล่ำ-ขาว-ตี๋ อิอิ

van

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #14 เมื่อ06-05-2009 20:58:05 »

น่ารักกกกกกกก.....พระเอกแมนมาก o13 ให้ความรู้สึกว่าหนักแน่นมั่นคง
ไม่ต้องกลัวจะเปลี่ยนไป ... ขอบคุณคุณภัึคDมากค่ะ

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #15 เมื่อ06-05-2009 21:26:30 »

ชอบ

ชอบ
 
ชอบ

ชอบ

ชอบที่สุด...คับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #16 เมื่อ06-05-2009 22:53:15 »

หึงๆ หวงๆ กุ๊กกิ๊ก ๆ น่ารักจังเลยค่ะ  :o8:


ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #17 เมื่อ08-05-2009 01:28:24 »

น่ารักกกกกกกกกก

งานของคุณภัคดียังดีอยู่ตลอดเลยจริงๆ
 :กอด1:

HuaTangMo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #18 เมื่อ08-05-2009 10:20:27 »

ชอบมากครับ
งานของคุณภัคD ยังดีเหมือนเดิม
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นขึ้นในหัวใจ
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ
ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านครับ

ออฟไลน์ panpan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #19 เมื่อ08-05-2009 10:22:25 »

สุดยอดเหมือนเคย 
เมื่อไรจะเอาเรื่องยาวมาลงบ้างล่ะ รออยู่นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
« ตอบ #19 เมื่อ: 08-05-2009 10:22:25 »





ltahset

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #20 เมื่อ08-05-2009 11:14:28 »

น่ารักมากๆ

ขอบคุณค่ะ

^^

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #21 เมื่อ08-05-2009 11:59:14 »

กรี้ดดดดดดดดดดดด

เรื่องนี้น่ารักมากเลยครับ

ขอบคุณครับ

unagan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #22 เมื่อ08-05-2009 12:14:07 »

เรื่องนี้น่ารักมาก

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #23 เมื่อ08-05-2009 14:08:25 »

แอบซึ้งง่ะ
อยากอ่านเรื่องยาวบ้างอะไรบ้าง แห่ะๆ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #24 เมื่อ08-05-2009 19:22:55 »


ฝีมือสุดๆ เลยคุณภักD  น่ารักมากๆ  :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #25 เมื่อ08-05-2009 21:51:01 »

เพิ่งจะเคยอ่านแบบนี้ มีคุณภัคDเขียนเป็นคนแรก

น่ารักดี >.<

ใกล้ไกลแค่ไหนไม่เป็นอุปสรรค์

ถ้าเรารักกันซะอย่าง

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #26 เมื่อ08-05-2009 22:16:00 »

โอ้ววววว พึ่งเคยอ่านงานเขียนของคุณภัคDค่ะ
แต่แบบว่าติดใจมากมาย
บรรยายได้ลื่นไหลมากๆ

ชอบบุคลิกของพระเอกเรื่องนี้มาก แมนโคตรๆ
นายเอกก็น่ารักอ่ะ มาแบบหึงๆ งอนๆ

ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่าเชิดสิงโตมันจะเข้ากับวาเลนไทน์
แต่คุณภัคDแต่งอกมาได้เข้ากันมากๆเลยค่ะ
บรรยากาศในเรื่องก็ดูหม่นๆ เหมือนกับความเศร้าของนายเอกเลย
ประทับใจมากๆๆๆ

อ่านมาทั้งเรื่องยังไม่รู้เลยว่านายเอกกะพระเอกชื่ออะไร
แต่ก็รู้สึกติดใจในสำนวนการบรรยายเรื่องแบบไม่ต้องบอกชื่อมากๆเลยค่ะ

ชอบๆๆๆ o13 :L2:

ออฟไลน์ piengtavan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • UEDA_ARAMORD
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #27 เมื่อ10-05-2009 21:25:45 »

น่าร้ากอ้ะ  ชอบ ที่งอน แล้วพอรู้ตัวว่าผิดเลยพาล ไม่น่าหมั่นใส้ แต่มันน่ารัก :-[
หุหุ ...


เพิ่งรู้นะเนี่ย นักเชิดสิงโต งานปู่เถาฯ มันจะเข้ากะวาเลไทน์ ฮิๆ

ออฟไลน์ cartoons

  • "ละอองกอ"
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #28 เมื่อ12-05-2009 00:59:15 »

 :-[ ว่าน่ารัก..มากมาย น่ารัก มากมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



 o13 เอาไปโลด +1 อิอิ




 :กอด1:

ออฟไลน์ Chanta

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
«ตอบ #29 เมื่อ13-05-2009 22:30:35 »


 o13

ไม่ต้องมีคำบรรยายใด...

เเค่เข้าใจกันก้อพอ...

ยะทางห่างกัน แต่ใจสื่อถึงกัน....

 o22

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด