ตอนที่37.
“ฟังเพลงไหม”พี่ทักถามหลังจากที่ผมกับพี่ทักนั่งรถกันมาได้สักพัก
“ไม่ฮะ”ผมตอบเบาๆ
“แล้วจะให้ไปส่งบ้านเลยรึเปล่า”พี่ทักถามอีก
“ขนมยังไม่อยากกลับ”ผมบอกไปตามความคิด
“แล้วจะไปไหน”พี่ทักถามนิ่งๆ
“ขนมไม่รู้.. แล้วแต่พี่ทักเถอะฮะ”ผมตอบแล้วหันหน้าไปมองถนนด้านข้าง
หลังจากนั้นทั้งคันรถก็เงียบ พี่ทักก็ไม่พูดอะไรอีก รวมทั้งผมก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้สมองมันตื้อไปหมด พยายามจะคิดให้เข้าข้างพี่ทายให้มากที่สุด แต่ทำไม่ได้ ก็ภาพมันเต็มตาซะขนาดนั้น
พี่ทายจูบกับพี่พลอย ทำไมพี่ทายจูบกับพี่พลอย จะเข้าข้างตัวเองก็ไม่ได้ ความคิดมันไม่ไปจริงๆในเมื่อพี่ทายก็เหมือนจะจูบตอบแบบนั้น
“อึกกก....”อยู่ดีๆผมก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่สามารถกั้นไว้ได้ พี่ทักเอามือมาลูบหัวผมเบาๆแล้วชักมือกลับไป
ผมหันไปมองหน้าพี่ทัก พี่ทักที่เหมือนตั้งหน้าตั้งตาขับรถโดยไม่ได้สนใจผม แต่พี่เค้าก็เอามือมาลูบหัวผมไว้เบาๆถึงแม้จะแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง
แต่ก่อนเราเหมือนจะรับได้ที่พี่ทายไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นโดยที่เราชอบพี่เค้าอยู่ เรารับได้เพราะว่าพี่ทายกับเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พอเรามาเห็นกับตาตัวเอง ถึงแม้จะแค่จูบก็ตามทำไมเราถึงได้รู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้
ไหนพี่ทายบอกว่าพี่ทายไม่ได้รักพี่พลอยไง จูบกันเค้าจูบกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ ทำไม ตกลงเราเป็นอะไรสำหรับพี่ทายกันแน่ ตกลงแล้วพี่พลอยกับพี่ทายเป็นอะไรกันกันแน่ เราไม่น่าขึ้นไปหาพี่ทายเลย.. ไม่น่าเลยจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าผมร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีพี่ทักก็จอดรถอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่ต้นไม้ร่มรื่นเต็มไปหมด
“ลงมาก่อนสิ..พักสมองก่อน”พี่ทักพูดเบาๆ หันมามองหน้าผมแล้วเดินลงรถไปโดยที่ทิ้งกระเป๋าไว้ในรถพี่ทัก
ผมเดินลงตามไปทักไป พี่ทักเดินเหมือนรู้ที่ดี จนพี่ทักไปหยุดอยู่ข้างสระน้ำที่มีเก้าอี้นั่งอยู่ริมสระ ผมเดินไปนั่งตามพี่ทักที่ข้างๆ
“แต่ก่อนชั้นมานั่งอยู่ที่นี่บ่อยๆ..เวลาที่เครียดๆ เวลาที่เหมือนไม่มีอะไรทำทั้งๆที่มันมีอะไรทำ คล้ายๆพวกชอบหนีปัญหา”พี่ทักพูดขึ้น แต่ตาจ้องมองอยู่ที่สระน้ำด้านหน้า
“ที่ตรงนี้มันเหมือนเป็นของชั้นไปโดยปริยาย เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มานั่ง..ชั้นก็จะได้นั่งตรงนี้ตลอด ไม่รู้ว่าฟลุครึเปล่า หึหึ”พี่ทักพูดไปแล้วหันมายิ้มให้ผม นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่นะ แทบนับครั้งได้ที่พี่ทักยิ้มให้ผม แต่ไม่นานพี่ทักก็หันกลับไป
“ไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นมาละสิ”พี่ทักพูดขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อยแล้วนึกถึงเรื่องเมื่อกี้
“ฮะ....”ผมตอบ
“อย่าสนใจเลย..เพราะยิ่งถ้านายสนใจมากเท่าไหร่ มันก็ไม่เป็นผลดีกับตัวนายหรอก”ระหว่างที่พี่ทักพูดผมก็จ้องมองหน้าพี่ทักตลอดเวลา โดยที่พี่ทักเค้าไม่ได้มองหน้าผมเลย
“พี่ทักรู้หรอฮะว่าขนมเห็นอะไรมา”ผมถามออกไปอย่างงงๆ
“หึ....”พี่ทักไม่ตอบ ได้แต่นั่งอมยิ้มอย่างเดียว
“รักพี่ชายชั้นมากเลยรึไง.. ถึงได้ร้องห่มร้องไห้ขนาดนี้”พี่ทักหันหน้ามาถามผม ผมได้แต่หลบสายตาแล้วพยักหน้าตอบ
“มันก็ ..ไม่แปลกหรอกที่นายจะชอบพี่ทาย.. ไม่มีใครไม่ชอบพี่ชายชั้น..”พี่ทักพูด
“..................”ผมได้แต่รอฟังว่าพี่ทักจะพูดอะไรต่อ
“พี่ทายเป็นพี่ชายที่ดีมาตลอดตั้งแต่ชั้นจำความได้.. พี่ทายรักน้องแล้วก็รักครอบครัวมากจนเหมือนตายแทนพวกชั้นได้..”พี่ทักบอก ผมจ้องมองหน้าพี่ทักอีกครั้งที่ตอนนี้พี่ทักเล่าไปสีหน้าก็ไม่คาดเดาได้ว่ากำลังนึกอะไร เศร้า หรือ มีความสุขกันแน่
“ใครเข้ามาในชีวิตพี่ทายชั้นดูออกหมดแหละว่าสนใจอะไรในตัวพี่ชายของชั้น.. มันไม่แปลกที่ใครหลายๆคนก็หลงรัก.. ใช่ไหมละ”พี่ทักพูด แล้วหันมามองหน้าผมพร้อมกับสายตาที่เหมือนอ่านผมออก
“ดูพี่ทักจะรู้จักพี่ทายดีมากเลยนะฮะ”ผมพูด
“ก็แน่สิ..พี่น้องกันนิ”พี่ทักยิ้ม
“แล้ว.... แล้วพี่ทายเป็นคนยังไงหรอฮะ”ผมรีบถามทันทีเหมือนลืมเรื่องที่มาจนหมดในขณะนั้น
“พี่ทายหรอ... เป็นคนที่ทำให้หลายๆคนเกรงใจอะนะ เหมาะที่จะสืบทอดธุรกิจของพ่อต่อ..”พี่ทักพูดบอกผมได้แต่นั่งหน้างง สืบทอด อะไรยังไง
“สืบทอด.. หมายความว่าไงหรอฮะ..”ผมถาม
“นี่เคยรู้อะไรบ้างไหมเนี้ย.. แล้วจะตามใครทัน”พี่ทักหันมาพูดกับผมแบบเซ็งๆ
“อ่า.. ก็ขนมไม่รู้ไง พอขนมไม่รู้ขนมก็ถาม ขนมผิดตรงไหนอะ”ผมรีบแก้ตัวทันที
“เออๆ..ช่างมันเหอะ”พี่ทักบอกปัดๆ
“แล้วตกลงมันยังไงอะ”ผมดึงแขนเสื้อพี่ทักนิดๆเป็นการเตือนถึงเรื่องเดิม
“พี่ทายเป็นคนที่พ่อไว้ใจมากที่สุด มากกว่าชั้น.. มันก็แปลกดีที่ชั้นไม่ได้รู้สึกว่าอิจฉาพี่ทายที่พ่อสนใจเป็นพิเศษเลยสักนิด.. เพราะยังไงก็รู้ดีว่าพี่ทายกำลังคิดอะไรอยู่.. การทำให้คนเกรงมากกว่าการทำให้คนกลัวมันเป็นเรื่องยาก ซึ่งพี่ทายวางตัวได้ดีตลอด.. ตั้งแต่เข้าช่วงวัยรุ่นชั้นก็ทำแต่ความเดือนร้อนให้ทั้งพี่ทายแล้วก็พ่อมาโดนตลอด ถึงแม้พี่ทายจะไม่ค่อยบ่นก็ตาม”พี่ทักเล่า
“พี่ทักทำไรไว้หรอ”ผมถาม =,=
“ก็หลายเรื่อง”พี่ทักตอบ
“อะไรบ้างอะ”ผมรีบถามอย่างอยากรู้
“อยากรู้มากจริงเว่ย”พี่ทักพูดเซ็งๆ
“...............”ผมได้แต่เบะปากให้
“ก็อย่างเช่น ชกต่อ ยกพวกตีกัน หาเรื่องยิงชาวบ้าน.. ทำอะไรที่พอใจจะทำก็ทำหมดนั้นแหละ”พี่ทักพูดเรื่อยๆ
“ห๊ะ.. มันไม่ใช่เรื่องของคนปกติหรอกนะฮะแบบนั้นอะ”ผมรีบบอก
“ก็นั่นสิ.. แต่พี่ทายไม่เคยด่าชั้นสักครั้ง แค่บ่นๆ... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่ทายเอาตัวเข้าแลกเพื่อชั้นตลอด.. เคยมีผู้หญิงที่ชั้นหลงรักอยู่คนนึง เราคบกันมาสักพักแต่พอเธอมาเจอพี่ทาย ดันหันกลับไปรักพี่ทายซะงั้น.. ตลกไหมละ แต่ที่ตลกกว่าแทนที่ชั้นจะเกลียดพี่ทายหรืออิจฉา แต่ชั้นกลับเกลียดผู้หญิงคนนั้นแทน อย่างว่าแหละ ใครๆก็หลงรักพี่ทายกันหมด..”
“ชั้นเป็นในแบบที่พี่ทายเป็นไม่ได้ พี่ทายเป็นคนอารมณ์เย็น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี พูดคุยเก่ง.. ผิดกับชั้นอารมณ์ร้อน ควบคุมตัวเองไม่ได้ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ.. มันเลยทำให้พ่อไว้ใจพี่ทายมากกว่าชั้นที่จะให้ทำงานใหญ่ๆ แล้วหลายๆคนก็ชอบพี่ทายมากกว่าชั้น”พี่ทักพูดนิ่งๆ
“แล้วพี่ทักไม่น้อยใจพ่อหรอ”ผมถาม
“ไม่หรอก.. แต่ก่อนมันก็มีบ้าง.. แต่เดี๋ยวนี้ก็รู้ดีว่าพี่ทายเหนื่อยมาก..บางครั้งต้องตัดสินใจแล้วต้องออกตัวแทนชั้นหลายๆเรื่อง.. มันเลยทำให้ชั้นคิดได้นะ”พี่ทักบอก
“แล้วเรื่อง...เออ พี่ทาย เคยมีคนรักรึเปล่าอะฮะ”ผมถามออกไป พี่ทักหันมามองหน้านิดหน่อยแล้วยิ้ม
“เรื่องคนรักนะหรอ.. ก็ไม่เคยเห็นจะรักใครจริงจังๆนะ.. หรือนายคิดว่าไง”พี่ทักถามกลับ แล้วมองผมอย่างรู้ทัน
“ขะ ขนม ไม่รู้”
“ถ้าอยากจะรัก.. ก็ต้องอดทนให้มันพอดี ไม่มากเกินไม่น้อยเกิน.. เรื่องอย่างนี้มันก็พูดกันอยาก มันขึ้นอยู่ที่ใครต้องการความรักแบบไหน ก็เท่านั้น”พี่ทักบอกแล้วขว้างก้อนหินลงน้ำ
“แต่พี่ทาย... พี่ทาย. ขนมไม่รู้ว่าพี่ทายคิดอะไรอยู่ ขนมไม่รู้เลย”ผมบอกพี่ทักทั้งๆที่น้ำตาคลออยู่
“อยากรู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ก็ถามไปซะสิ”พี่ทักพูดง่ายๆ
“อยากรู้นะมันก็อยากอยู่หรอกนะฮะ.. แต่ก็กลัวคำตอบ”ผมตอบไปยิ้มเฝื่อนๆ
“ถ้ากลัวคำตอบก็อย่าอยากที่จะรัก”พี่ทักพูดสั้นๆ ผมได้แต่นั่งเงียบอย่างเดียวหลังจากนั้น
“เดี๋ยวชั้นมา.. เอาอะไรรึเปล่า”พี่ทักลุกขึ้นแล้วถาม
“ไม่ฮะ”ผมตอบ แล้วพี่ทักก็เดินออกไป ผมได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วคิดวกไปวนมากับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
ผมไม่รู้ว่าผมวิ่งหนีออกมาทำไม ใช่ผมรับไม่ได้ที่พี่ทายทำแบบนั้นกับพี่พลอย หรือแม้จะไม่ใช่พี่พลอยผมก็รับไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าพี่ทายจะแคร์ผมบ้างรึเปล่า พี่ทายจะรู้สึกยังไงที่ผมวิ่งออกมาแบบนั้น บางทีพี่ทายอาจจะไม่ได้สนใจอะไรเลย มันจะยิ่งทำให้ผมไม่อยากเจอหน้าพี่ทายอีกครั้งต่อไป เพราะว่าผมคงทำหน้าไม่ถูกแน่ถ้าผมได้เจอพี่ทายอีกครั้ง
พี่ทักหายไปสักพัก แล้วกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าสองขวด อีกขวดเปิดแล้วและอีกขวดยังไม่ได้เปิด
“อะ...”พี่ทักยื่นน้ำอีกขวดให้ผมพร้อมกับหลอด
“ขอบคุณฮะ”ผมบอก
“จะกลับเลยไหม.. หิวรึเปล่า”พี่ทักถาม
“ไม่หิว..กลับเลยก็ได้ฮะ”ผมตอบ
“กินไอติมไหม”พี่ทักถามนิ่งๆ
“กิน”ผมตอบแทบจะทันที พี่ทักยิ้มให้หน่อยๆ แล้วเดินนำผมออกไป
พี่ทักพาผมไปกินไอศกรีมที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่บรรยากาศดีมาก เงียบ และดูสบายๆ
“เอาอะไรก็สั่งเลยนะ”พี่ทักบอกแล้วยื่นเมนูให้ผม ผมรับเมนูมากก่อนที่จะกวาดสายตาไปทั่ว
“เอาอันนี้อะฮะ”ผมสั่งพนักงาน แล้วยื่นเมนูคืนให้พนักงาน
“พี่ทักไม่กินหรอฮะ”ผมถาม
“..ไม่อะ..”พี่ทักตอบ
นี่พี่ทักพาเรามากินหรอเนี้ย ถึงจะดูเป็นคนเงียบๆแต่ก็ดูแคร์คนอื่นเหมือนกันแฮะ คนเราดูจากภายนอกอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ
ไม่นานไอศกรีมก็มาเสิร์ฟถึงที่
“กินด้วยกันไหมฮะ”ผมถามพี่ทักแล้วทำท่าจะยื่นช้อนให้ พี่ทักส่ายหัวแทนคำตอบ แล้วอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ
ผมนั่งกินไอศกรีมไปก็มองออกไปนอกถนนไปมันให้ความรู้สึกสบายๆดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่อยๆ นิ่งๆ
“เออ.... ฮะ”ผมได้แต่อ้ำอึ้งเมื่อหันมาสบตากับพี่ทักเข้าอย่างจัง ตอนนี้ผมรู้สึกเขินขึ้นมาหน่อยๆ เพราะความรู้สึกเมื่อกี้มันเหมือนพี่ทักจ้องหน้าผมอยู่ก่อนหน้านั่นนานแล้ว
“...หน้าแดงทำไม...”พี่ทักถามนิ่งๆ
“กะ ก็พี่ทัก มองหน้าขนมทำไมอะ”ผมถามกลับ
“หลงตัวเอง”พี่ทักพูดแล้วยิ้ม ยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วยอะ
“อารายเล่า.. ขนมไม่ได้หลงตัวเองสักหน่อย..ก็ขนมเห็นอะ”ผมรีบเถียง
“หึ.. ก็แล้วแต่จะคิด”พี่ทักตอบยิ้มๆ พร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์บ้าบอคอแตกนั้น
ผมก็เลยได้แต่กินไอศกรีมต่ออย่างเสียอารมณ์ พี่ทักแม่งกวนตีนใช่เล่นเหมือนกันนะครับผมว่าอะ
“จ่ายด้วยนะ”พี่ทักพูดหลังจากผมกินจนหมด
“รู้แล้วละน่า”ผมรีบตอบทันทีโดยไม่ให้ตัวเองเสียหน้า
“หึ.... น้องครับ”พี่ทักเรียนพนักงานแล้วชี้มาที่โต๊ะ พอพนักงานมาถึงผมกำลังจะหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋าเป้ แต่พี่ทักดันหยิบจ่ายซะก่อน
“อะไรอะ..จ่ายแทนทำไม”ผมรีบพูด
“สงสารเด็ก”พี่ทักบอกแล้วยักคิ้วให้
“นะ.. งั้นขอบคุณฮะ”ผมบอกพี่ทักยิ้มๆ
...............
...............
ไม่นานที่พี่ทักขับรถมาส่งผมที่บ้าน
“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่าง”ผมบอก
“..........อืม”พี่ทักรับคำแค่นี้
“ขับรถกลับดีๆนะฮะ”ผมบอก พี่ทักพยักหน้า แล้วผมก็ลงรถมา ก่อนที่จะยืนส่งพี่ทักที่ขับรถออกไป
“....................”ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านก็ยังไม่มีใครกลับมาสักคน ทำให้อาการเหงาจับจิตอีกแล้ว
พอเหงา มันก็นึกถึงเรื่องเมื่อเย็นที่เกิดขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พี่ทายโทรเข้ามาหกเจ็ดสาย
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมชื่นใจขึ้นมา มันยิ่งกว่าด้วยซ้ำ มันทำให้ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวยังไงต่อไปดี
เฮ้ออออ เมื่อไหร่อาปานกับอาแสบจะกลับมาสักทีนะ
ว่าแล้วก็โทรเลยดีกว่า
“ว่าไงครับ”อาปานรับ
“อาจะกลับรึยังอะฮะ”ผมถาม
“เดี๋ยวก็กลับแล้วครับ อารออาแสบมารับนะ.มีอะไรรึเปล่าครับ”อาปานถาม
“ขนมคิดถึง”ผมพูด น้ำตาเสือกคลอซะงั้น
“หึ.. เป็นอะไรรึเปล่า ทุกทีเห็นกลับช้ากว่าอาตลอด”อาปานหัวเราะเบาๆ
“ก็ขนมคิดถึงอะ..อารีบกลับมาเลย.. ขนมเหงา”ผมรีบพูดอย่างน้อยใจ
“ครับๆ.. เดี๋ยวอารีบกลับไปเลย.. หิวรึเปล่าอาจะได้ซื้ออะไรรองท้องไปให้”อาปานรีบถาม
“ไม่ฮะ..แต่เหงา”ผมยังอ้อนไม่เลิก
“คราบ..รู้แล้วว่าเหงา.. งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวนอกบ้านกันดีกว่าเนอะ..เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ดีไหมครับ”อาปานพูดเสียงอ่อนโยน
“ดีฮะ”ผมตอบ
“ครับ..งั้นรอแป๊บนะครับ.เดี๋ยวอาก็กลับแล้ว”อาปานบอก
“คราบ รอนะฮะ”ผมบอก ก่อนที่จะลากันวางสายไป
พอวางโทรศัพท์ก็เหงาอีกแล้ว โอ้ยๆๆ กรูจะเป็นบ้าตาย เฮ้ออออ..
ผมตัดสินใจเดินไปล้างหน้าล้างตาบนห้อง แล้วเก็บหนังสือในกระเป๋ากับเครื่องเขียนทุกอย่างไว้กับที่เหมือนเดิม ก่อนที่จะไปล้างหน้าแล้วเดินไปปิดโทรศัพท์มือถือไว้
ไม่นานเสียงรถก็ดังมาถึง ผมเปิดม่านหน้าต่างออกดูก็เห็นว่าอาแสบมาถึงแล้ว ก็รีบวิ่งลงไปรับทันที
................>>>><<<<...............