“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้” เสียงนั้นถามซ้ำ ๆ หลายต่อหลายครั้ง จนพัชรู้สึกหงุดหงิดจนต้องเบือนหน้าหนี จะมีใครที่รู้ดีไปกว่าตัวของพัชเอง การจะมาถามว่าทำไม เพราะอะไรพัชถึงเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้ มันยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเขามากขึ้นไปอีก
สิ่งที่พัชอยากจะทำมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการตะโกนออกไปดัง ๆ ให้สุดเสียง ให้ดังเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ตะโกนให้เสียงของตัวเองกลบเสียงของคนอื่น ไม่ให้เขาต้องได้ยินคำถามบ้า ๆ พวกนั้นอีกต่อไป คิดถึงตรงนี้แล้วพัชก็แน่ใจว่า ได้ยินเสียงตะโกนกรีดร้องจนสุดเสียงของตัวเอง ที่มันดังมากที่สุด เท่าที่พัชเคยได้ยินตัวเองร้องออกมา
พัชลืมตาขึ้น กวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อให้ตัวเองรับรู้ว่า ตอนนี้ตัวเขานั้นอยู่ที่ไหน แสงจากด้านนอกหน้าต่างลอดผ่านรอยตรงกลางระหว่างผ้าม่านหน้าต่างเข้ามา พัชรู้แล้วว่าเขาฝันไป มันเป็นฝันประหลาดอีกครั้งที่เกิดขึ้นในรอบหลายวันมานี้ จนพัชเองก็กลัวว่า เขาอาจจะต้องกลับไปหาจิตแพทย์อีกครั้ง หลังจากที่ไม่จำเป็นต้องไปมาสักพักใหญ่แล้ว
พัชลุกขึ้นจากที่นอน ก่อนจะต้องรีบหันมองไปรอบ ๆ ห้องนอนที่ตัวเองยืนอยู่ ก่อนจะต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าห้องนอนห้องนี้ คือห้องที่บ้านเก่า ที่พัชเคยอยู่กับตั้น พัชรีบกวาดสายตาดูไปจนรอบห้องอีกครั้ง ไม่ผิดแน่ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็ในเมื่อเขาย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้วนี่นา
พัชต้องรีบสำรวจตัวเอง ถามตัวเองในทันทีว่า เมื่อคืนไปทำอะไรมา ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ พัชรีบทบทวนความทรงจำ ใช่ เมื่อคืนเขาออกไปสังสรรค์ ไปดื่มกับเพื่อนที่บาร์แห่งหนึ่งหลังเลิกงาน หลังจากที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวยามค่ำคืนแบบนั้น มาเป็นเวลานานแล้ว โดยที่ต้องสรรหาข้ออ้างต่าง ๆ นานา ในทุกครั้งที่เพื่อนเอ่ยปากชวน
“เมื่อคืนดื่มจนเมาขนาดนั้นเลยหรือ ไม่นี่นา” พัชพูดออกมาดัง ๆ เพื่อให้ตัวเองได้ยิน เพื่อเช็คดูว่า เขาไม่ได้กำลังคิดไปเอง และตัวเองก็กำลังตื่นอยู่ ก่อนจะมองไปที่ประตูห้อง ที่ดูเหมือนว่าจะแง้มเอาไว้เล็กน้อย เสียงคุยกันของหลายคนดังลอดเข้ามาในห้อง ให้ได้ยินเบา ๆ แต่จับใจความไม่ได้ว่าคุยกันเรื่องอะไร
พัชค่อย ๆ แง้มประตูห้องนอนให้เปิดกว้างออกอีกนิด เพื่อให้ตัวเองสามารถมองออกไปด้านนอกได้ มันคือบ้านเก่าที่พัชเคยอยู่กับตั้นจริง ๆ ด้วย ตายล่ะ พัชคิด มีคนอยู่ข้างนอกหลายคนด้วย หนึ่งเสียงที่พัชจำได้แน่นอนก็คือตั้น แต่ตั้นกำลังคุยกับใครอยู่ในตอนนี้
“เป็นไงเป็นกัน” พัชบอกกับตัวเอง ก่อนจะกลั้นใจ เปิดประตูออกไป เป็นไงเป็นกัน อย่างแย่ที่สุดก็คงแค่โดนตำหนิอย่างเช่นที่ผ่าน ๆ มา แต่ก็ไม่เป็นไร พัชคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำ ก็แค่ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น เพราะมันคงไม่มีอะไรเหลือให้ต้องอายมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ตื่นแล้วหรือครับ” พัชมองไปทางต้นเสียง เจ้าของคำถามนั้น “หิวมั้ย เมื่อคืนกว่าจะได้นอน ก็อ้วกออกมาเกือบหมด” ตั้นถามพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง นานแล้วสินะ ที่พัชไม่ได้เห็นตั้นยิ้มแบบนี้ อะไรกัน ทำไมตั้นยังคงยิ้มให้กับเขาได้อยู่ หลังจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ดูซูบไปนะเรา” พัชรีบหันไปมองต้นเสียงอีกคนที่พูดกับเขา “เดือนแรก ๆ ก็แบบนี้แหละ แต่เดี๋ยวก็จะดีขึ้น” พัชถึงกับอึ้ง เมื่อแม่ของตั้นพูดกับเขาแบบนั้น “ตั้นไปช่วยพยุงพัชมานั่งก่อน” แม่ของตั้นบอกกับลูกชาย “เดินดี ๆ นะ ระวังหกล้ม พัชยิ่งดื้อกับตั้น ถ้าเป็นเรื่องนี้” เสียงของตั้นดุพัช แต่ก็เป็นไปในแบบไม่จริงจังนัก
“เมื่อคืนพัชอาจจะเมามาก ยังไงต้องขอโทษทุกคนด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมานอนค้างที่นี่ได้” พัชพูดเร็วปรื๋อ เมื่อมานั่งที่โซฟาเบดตัวเก่า ตัวที่ทั้งนั่งและนอนดูทีวีกับตั้นมาเป็นปี ๆ “ท้องแรกหรือคะ ยังดูไม่ออกเท่าไหร่” เสียงจากอีกคน ที่พัชจำได้ว่า เป็นเพื่อนที่มาจากสมาคมอะไรสักอย่าง ที่แม่ของตั้นเป็นสมาชิกอยู่
“ยินดีด้วยนะคะ อีกไม่นานก็จะได้อุ้มหลานย่าแล้ว” พัชกลอกตาแบบว่า ทำไมเขาต้องมานั่งฟังเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย ถ้าจะดีใจ ว่าตั้นจะมีลูก กับใครก็ตามที่แม่ของเขาจับแต่งงานด้วย ก็ช่วยแสดงความยินดีกัน ตอนที่เขาไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ได้มั้ย
“โน่นค่ะ คนเป็นพ่อนั่นต่างหาก ที่เห่อลูกมากกว่าใครทั้งหมด” พัชกำลังจะกลอกตาซ้ำ ที่แม่ของตั้นพูดออกมาแบบนั้น ถ้าไม่เห็นว่า ตั้นเอามือมาวางไว้ที่บนท้องของพัชแบบนั้น “ท้องสาว ทั้งดื้อ ทั้งแพ้ หมายถึงผมนะครับ” พัชมองหน้าตั้นแบบไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“น่ารักเชียว โบราณเขาว่าเอาไว้ แพ้ท้องแทนเมีย อย่างนี้ก็ครองคู่กันแบบ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร” เพื่อนของแม่ตั้นพูดด้วยแววตาเอ็นดูตั้นกับพัช “เขาแพ้ท้อง ผมแพ้ยิ่งกว่า เมื่อคืนเขาก็แพ้หนักมาก ผมเองก็หมดไส้หมดพุงเลยทีเดียว” ตั้นพูดพลางหัวเราะเขิน ๆ ให้กับสิ่งที่ตัวเองเล่า
“เดี๋ยวนะ ใครท้อง” พัชกำลังคิดว่า ตั้นกำลังเล่นตลกอะไรอยู่ในตอนนี้ แต่เมื่อเห็นแม่ของตั้น รวมทั้งเพื่อนของแม่ก็ด้วย สามคนร่วมกันรวมหัวกันปั้นเรื่องอะไรกันอยู่ “สามเดือนแรก ก็หนักหน่อย แต่เดี๋ยวก็จะดีขึ้น คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ดี ๆ” ไม่ไหวแล้ว ทุกคนกำลังทำให้พัชรู้สึกปวดประสาท
“เดี๋ยวเลย พอเลย ทุกคนต้องหยุดเดี๋ยวนี้” พัชลุกพรวดขึ้นจากโซฟาเบด ตั้นถึงกับตกใจ รีบลุกขึ้นยืนตามเพื่อประคองตัวของพัช “เอ๊ะ พัชนี่ ตั้นบอกแล้วไง ให้ระวังตัวให้มากกว่านี้ อย่าดื้อกับตั้นให้มากนักเลยนะ ตั้นเป็นห่วงพัชกับลูกมากแค่ไหน พัชก็รู้นี่” พัชมองเข้าไปในแววตาของตั้น ตั้งแต่รู้จักและอยู่ด้วยกันมา ใช่ ตั้นไม่เคยพูดจาล้อเล่นอะไรแบบนี้
“หมอก็เตือนมาแล้ว ว่าพัชอาจจะมีภาวะปฏิเสธการตั้งครรภ์ อาจจะด้วยความที่เพิ่งเคยท้องเป็นครั้งแรก คงเป็นแค่ความตกใจ แค่ความกังวลของคุณแม่มือใหม่ แต่ไม่เป็นไรนะ” ตั้นพูดบอกกับพัช ก่อนจะดึงตัวของพัชเข้าไปกอด พัชรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ขอบตาทั้งสองข้างในทันที
“เรามีกันสามคนแล้วนะ” ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดหรือน้ำเสียงของตั้นเท่านั้น ที่ทำให้พัชคิดถึงความอบอุ่นนี้ แต่อ้อมกอดของตั้น ที่มันทำให้พัชรู้สึกปลอดภัยนี่ต่างหาก ที่ทำให้พัชอดเอาไว้ไม่ไหว กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“ร้องไห้เป็นเด็กเลย ดูสิ ร้องใหญ่เลยทีนี้” แม่ของตั้นหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู “ไม่ต้องร้องนะครับ” ตั้นใช้มือเช็ดน้ำตาให้ออกจากใบหน้าของพัช “ตั้นอยู่ตรงนี้แล้ว จะกอดพัชและลูกเอาไว้แบบนี้ตลอดไป” ยิ่งพูดปลอบ แต่ก็เหมือนกับยิ่งทำให้ เขื่อนที่กักเก็บน้ำเอาไว้จนปริ่ม เอ่อท้น ทะลักทลายลงมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
“ที่ร้องไห้นี่ เพราะไม่อยากจะกินยาใช่มั้ยเนี่ย” ตั้นพูด พลางดึงมือของพัชให้กลับลงมานั่งที่โซฟาเบดตัวเก่านั้นอีกครั้ง “มาเลย ได้เวลากินยาบำรุงแล้ว” ตั้นหันไปหยิบถุงกระดาษที่เขียนชื่อโรงพยาบาลที่ด้านข้างมาจากโต๊ะกาแฟด้านหน้า ก่อนจะดึงเอากระดาษเช็ดหน้า มาซับน้ำตาให้พัชจนแห้ง พัชที่พูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองดูสิ่งที่ตั้นทำให้
“อันนี้ยาบำรุงครรภ์” พัชได้ยินที่ตั้นพูด สายตามองไปที่ซองยาในมือของอีกฝ่าย มันระบุชื่อ เขียนชื่อของพัชเอาไว้อย่างชัดเจน ตอนนี้นอกจากพัชจะสับสนเรื่องที่อยู่ ๆ ก็ตื่นมาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ ท่ามกลางคนที่กลายเป็นอดีตในชีวิตไปหมดแล้ว แต่โรงพยาบาลที่ระบุชื่อเขาลงไปเป็นคนไข้นี่สิ แถมยังจะเป็นแผนกที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ด้วย
เดี๋ยวนะ พัชเพิ่งจะนึกขึ้นได้ เขาตั้งท้องเนี่ยนะ ไวเท่าความคิด พัชก้มลงมองที่ท้องตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตั้น ที่ถือยาบำรุงและแก้วน้ำรออยู่แล้ว อย่างที่ไม่ยอมให้พัชเบี้ยวไม่ยอมกินอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อตั้นส่งสายตาดุ ๆ มาแบบนั้น พัชลังเลที่จะกิน แต่คิดว่า มันคงเหมือนกับการกินวิตามินหรืออาหารเสริมนั่นแหละ ก็เลยตามน้ำไปก่อน มันคงไม่เป็นอะไรหรอก
“พัชท้องได้กี่เดือนแล้ว ตั้น” ถามเอง แถมได้ยินที่ตัวเองถามแบบนั้น มันฟังประหลาดอยู่ไม่น้อย “สามเดือนแล้ว” ตั้นพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “อีกหกเดือนก็ได้ออกมาเจอหน้ากันแล้วนะ” ตั้นพูดพร้อมกับเอามือลูบท้องของพัชอย่างแผ่วเบา พัชเก็บภาพความตื่นเต้น ใบหน้าที่ดูมีความสุขของตั้นเข้าในความทรงจำ
“ตั้น” พัชเรียกชื่ออีกฝ่าย “ว่าไง” ตั้นถาม ก่อนจะรู้ตัวว่า พัชยื่นหน้าเข้าจูบที่ริมฝีปากของว่าที่คุณพ่อแบบนั้น “พัช” ตั้นเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างเขิน ๆ แต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ครั้งที่แล้วที่พัชจุ๊บตั้นแบบนี้” ตั้นพูดด้วยความอารมณ์ดี “ไอ้ตัวเล็กถึงได้โผล่มาแบบนี้ไง” พัชรู้สึกจุกในลำคอ เมื่อมองเห็นความสุขของตั้น ที่ดูเหมือนจะเลือนรางจนแทบจะจำไม่ได้แล้ว กลับมาฉายชัดอยู่ต่อหน้าของเขาอีกครั้ง
**************************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J
Golden Hour - Billkin
https://www.youtube.com/watch?v=lSZ-Fln3FFMทุกเช้าที่ตื่นมาไม่ใช่เพราะนาฬิกา
All mornings, woken up not by the clock alarm
แต่เพราะมีใครสักคนโทรมาปลุกให้ฉันนั้นตื่น
But was because of someone calling to wake me up
และในทุกทุกคืน ไม่เคยต้องฝันร้าย
Also every nights, no nightmares terrorize me
เพราะมีคนบอกฝันดี
Because there was someone saying good night to me
ทุกครั้งอ่อนล้า มีคนซับน้ำตา
Every time I was weak, someone wiped my tears for
ไม่เคยต้องเหงาแม้สักเวลา
Not a time I would feel lonely
มีคนที่เข้าใจ จับมือฉันเดินไป
Someone that understood me and held my hand to walk
เพราะมีเธอคนนี้
That’ s because I had you
วันนี้และคืนที่สวยงาม เพียงแค่มันได้เลยผ่าน
Today and beautiful nights, though they already passed
เหลือเพียงความทรงจำ ที่หล่อเลี้ยงฉันไปวันวัน
Left with me was memory to cherish my life day by day
แค่ได้คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น
To think of those periods of times
แค่ได้รู้ว่าฉันได้เคยมีวันที่ดีเท่าไร
To realize how good the old days were
รักเธอดีเท่าไร ฉันโชคดีแค่ไหนได้พบเธอ
How great your love was, how lucky that I met you
เพราะรักเธอของฉันได้ผ่านไปแล้ว
‘Cause your love is no longer here
และไม่มีเรื่องใดจะดีเหมือนเดิม
None of this will be good again
แล้วเธอล่ะ คิดถึงกันหรือเปล่า
What about you? Ever think of me?
ได้รู้เวลาตอนนั้นที่ผ่านไป
Knowing that those times had gone
ทุกทุกเรื่องราว มีค่ามากเท่าไร
Everything that happened, they’re valuable
ยังคงยิ้มยังหัวเราะและยังร้องไห้ เมื่อได้คิดถึง
Still gets me to smile and cry when I think about it
วันนี้และคืนที่สวยงาม เพียงแค่มันได้เลยผ่าน
Today and beautiful nights, though they already passed
เหลือเพียงความทรงจำ ที่หล่อเลี้ยงฉันไปวันวัน
Left with me was memory to cherish my life day by day
แค่ได้คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น
To think of those periods of times
แค่ได้รู้ว่าฉันได้เคยมีวันที่ดีเท่าไร
To realize how good the old days were
รักเธอดีเท่าไร ฉันโชคดีแค่ไหนได้พบเธอ
How great your love was, how lucky that I met you
เพราะรักเธอของฉันได้ผ่านไปแล้ว
‘Cause your love is no longer here
และไม่มีเรื่องใดจะดีเหมือนเดิม
None of this will be good again
แล้วเธอล่ะ คิดถึงกันหรือเปล่า
What about you? Ever think of me?
คงไม่มีปาฏิหาริย์ จะพาฉันไปเริ่มใหม่
No such miracles would take me to start it all over
ไม่อยากจะอธิฐานให้เวลาได้ย้อนไป
No wish to ask for to turn back time
แต่ยังจะภาวนาให้เธอกลับมาจะได้ไหม
Yet, praying that you might one day come back to me
แค่ได้คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น
To think of those periods of times
แค่ได้รู้ว่าฉันได้เคยมีวันที่ดีเท่าไร
To realize how good the old days were
รักเธอดีเท่าไร ฉันโชคดีแค่ไหนได้พบเธอ
How great your love was, how lucky that I met you
เพราะรักเธอของฉันได้ผ่านไปแล้ว
‘Cause your love is no longer here
และไม่มีเรื่องใดจะดีเหมือนเดิม
None of this will be good again
มันยังมีบางครั้งที่อยากถาม
There’s some time I want to ask a question
เธอไม่อยู่ตรงนี้ให้ได้ถาม
But you’re not here for me to strike my wonder
แล้วเธอล่ะ คิดถึงกันหรือเปล่า
How about you? Do you miss me I like miss you?