EP.4 ได้เข้าแก๊งก็งานเข้าเลย
Part’ s ต้นข้าว จะว่าไปตั้งแต่ผมมาอยู่กับพวกนี้ ภาพที่ผมได้ยินพวกนั้นเริ่มหายไป จะว่าไปพวกนี้ก็เหมือนพวกผมนีแหละแต่สิ่งที่ผมไม่กล้าถามตรงๆ คือ ที่ผมได้ยินมาพวกนี้ชอบเพศเดียวกันจริงเหรอ ตอนนี้เลิกเรียนแล้ว วันนี้พ่อผมบอกว่าจะมารับสายหน่อยแต่ผมบอกว่าได้ ผมกับบลูชอบมานั่งกินไอศกรีมข้างโรงเรียนนี้บ่อยตอนมารอพี่ข้าวปั้นเพราะว่าเด็กคอนแวนต์มาทานไอศกรีมที่นี้กัน เหมื่อก่อนโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชายล้วนและคอนแวนต์ก็เป็นโรงเรียนสตรีล้วนและพอโรงเรียนชายล้วนเริ่มเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนสห คอนแวนต์ก็เอาบ้างเลยไม่น้อยหน้ากัน
“ต้นข้าว วันนี้กินอะไรใหม่ๆ บ้างไหมอ่ะ” บลูถามผม
“กินไรดีอ่ะ ตีนไหม บลู ใหม่มากมึงยังไม่เคยลองไม่ใช่เหรอ” ผมถามไอ้บลู มันค้อนผมทันที ผมชอบแกล้งมันแบบนี้แหละระหว่างที่ผมเดินลงมาพร้อมกับพวกแจ็ค ดิวและแอ้ ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วแต่น่าแปลก บรรยากาศเหมือนกับว่าพวกผมลงมาช้าเพราะว่าไม่มีนักเรียนรอกลับบ้านกันเลย มันโล่งมาก ผมหันไปมองกันแบบเลิกลัก
“เฮ้ยไอ้ต้นข้าว กูเคยได้ยินว่าโรงเรียนนี่น่ะ วันดีคืนดีก็มีนักเรียนต่างถิ่นเข้ามาตียั้นในโรงเรียนเลยว่ะ “ไอ้บลูพูดกระซิบกับผม ผมหันมามองหน้ามัน เวอร์เกินไปแล้วใครจะกล้าแบบนั้น แต่จู่ ก็มีนักเรียนวิ่งสวนพากันกลับขึ้นห้องนี่มันรักเรียนกันขนาดนี้เลยเหรอ ผมแอบคิดในใจแต่ว่า
“อ้าว ไม่กลับบ้านกันหรือไงวะ!!” ดิวตะโกนถามคนที่วิ่งสวนขึ้นไปแต่ไม่มีใครตอบสักคน ผมเริ่มรู้สึกแปลกแล้วซิ เริ่มคิดเรื่องที่ไอ้บลูมันพูด
“เออว่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะ” ผมถามขึ้นแต่ล่ะคนมองหน้าผมพร้อมกับสั่นหัวกันทุกคนว่าไม่รู้
“ในโรงเรียนจะมีเรื่องได้ไงว่ะ” ไอ้ดิวมันพูด ผมน่ะพอจะรู้มาบ้างว่าโรงเรียนนี้มีคนมาท้าตีท้าต่อย ไม่รู้ว่านักเรียนที่นี้ไปหาเรื่องเขาก่อนหรือว่าพวกนี้มาเพื่อปั่นป่วนก็ไม่รู้ จนผู้ปกครองต่างพากันเอาลูกหลานตัวเองย้ายไปเรียนที่อื่นกันหมดแต่ไปไม่ได้ทุกคนเพราะว่าบางคนก็ไปไม่ได้ติดหลายๆ อย่างก็ต้องทนอยู่
“เออ นั้นดิ ข้าว นี้โรงเรียนน่ะ มันจะมีคนมาหาเรื่องเหรอ” ไอ้แอ้ถาม
“งั้นก็รีบเดินลงไปเถอะว่ะจะได้พากันกลับบ้านและไปพักผ่อนกันแบบสบายๆ ซื้อเบียร์ไปจิ๊บกันดีกว่า” ไอ้คนชื่อแจ็คพูด นี่มันดื่มเบียร์กันแล้วเหรอ
“สิบแปดปีกันแล้วบอย กินได้แล้ว” ผมหันมามองเพราะว่าผมพึ่งจะสิบหกปีเองแต่พวกนี้สิบแปดปีแล้ว ผมกับไอ้บลูหันมามองหน้าพวกนี้กัน เขามองหน้าผมและยิ้มๆ ด้วย
“เฮ้ยย! พวกนายสิบแปดแล้วเหรอ พวกเรายังแค่ สิบหกอยู่เลย” ผมพูด ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันว่าใช้สิบแปดแล้ว ดังนั้นพวกนี้ต้องเรียนจบมัธยมปลายแล้วดิ เฮ้ยนี้มันรุ่นเดียวกับพี่ผมเลยดิ
“กูมาทำภารกิจสำคัญว่ะและความจริงพวกกูจบกันหมดแล้วต้นข้าว บลู “ไอ้ดิวมันพูด ดังนั้นพวกนี้แฝงตัวเข้ามามันเหมือนหนังภาพยนตร์เลยที่ตำรวจบ้าง นักสืบบ้าง ปลอมตัวมาเป็นนักเรียนแต่อันนี้ลูกหลานเจ้าของโรงเรียนปลอมตัวมาเพื่อแก้ไขปัญหาแทนนี่น่ะ
“งั้นก็พี่พวกเราอ่ะดิ” ไอ้บลูพูด
“ไม่ต้องเรียกพี่ว่ะ ถ้ามึงเรียกพี่พวกนั้นมันก็จะรู้ดิ” ไอ้แจ็คพูด
“ไอ้พวกนั้นก็พี่พวกกูเหมือนกัน” ผมพูด
“งั้นก็ทำตัวเหมือนเดิม เพื่อนกันเหมือนเดิม ปกติพวกกูไม่ชอบข้ามรุ่นแต่ยกให้มึงสองคน เรียกพวกกูเหมือนเดิม” มีแบบนี้ด้วย ผมก็พยักหน้าก็ได้
“เออ ต้นข้าว บลู พรุ่งนี้มึงสองคนไปทานอาหารเช้าในห้องอาหารกับพวกกูดิ” แจ็คมันบอกผมกับไอ้บลู
“เข้าไปทานกันด้านในอีกไหมว่ะ ที่เขากั้นเอาไว้น่ะ” ผมถาม ผมก็มองแล้วมันเหมือนคอกกั้นอะไรสักอย่าง พวกนี้ก็มองผมกันหมด มันคงไม่รู้ว่าพวกนั้นเขาคิดยังไงละซิท่า
“กูได้ยินพวกนั้นมันด่ามึงกันว่ามาก็แยกแยะที่กินที่อยู่ตั้งแต่กูมาถึงแล้ว แต่กูไปติดที่ห้องเจ้าหน้าที่ ตอนแรกเขาจะไม่ให้กูเรียนห้องมึงอ่ะ แต่ว่ากูโวยวายไง เขาก็เลยยอมและโทรไปหาครูพัฒน์ให้ ครูพัฒน์ลงมาก็เลยบอกว่าได้” ผมพูดพวกนี้ก็เลยพยักหน้าพร้อมกัน
“ตอนแรกกูก็โคตรโมโหเลย เขาบอกว่าห้องนี้พวกลูกคุณหนูมาเรียนแล้วและเขาก็จำกัดคน เขาไม่อยากเรียนปะปนกับคนอื่น “ผมพูดพวกนี้มองหน้าผมตกใจที่ผมพูด ผมคิดเอาไว้แล้วเชียวพวกนี้มันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก
“พวกกูไม่เคยพูดแบบนั้นน่ะไอ้ต้นข้าว” ไอ้ดิวมันพูด
“พวกเขาเลยจะ ไม่ให้กูสองคนลงเรียนห้องนั้นทั้งที่กูตั้งใจมาก” ผมพูดเพราะความโมโหตอนนั้นแต่เอาเข้าจริงๆ พวกนี้ก็ไม่ได้มีพิษภัยอะไรเหมือนที่พวกนั้นพูดกันเลย
“ตอนนั้นน่ะกูแม่งคิดเลยถ้าเจอหน้าพวกมึงกูกะจะด่าให้สักหน่อย ก็คนเชี่ยอะไรก็ไม่รู้ทำตัววิเศษวิโสมาจากไหน แหมให้พวกกคุณหนูเอ๊ย! โธ่ไอ้พวกลูกคุณหนูหัวค**!! แถมที่กูได้ยินพวกนั้นพูดน่ะ พวกมึงแม่งก็แยกที่กินที่อยู่อีก ถ้าจะกินหรูอยู่สบายมึงจะมาทำห่าอะไรว่ะที่นี้ ก็กลับไปอยู่คฤหาสน์ของมึงดิ” ผมพูดแต่ทำไมพวกนี้มันทำหน้าเหมือนจะร้องหายไห้กันละ
“ต้นข้าว!!” ไอ้บลูสะกิดเรียกผม ผมหันมามองพวกนี้ที่ยืนมองผมตกใจ
“กูก็แค่คิดไง” ผมบอกพวกนั้น
“มึงพูดไปหมดแล้วไงไอ้ต้นข้าว!! เต็มๆ เลยสัส!!” ไอ้ติ๊กมันพูด ผมสะดุ้ง นี้ผมว่าพวกมันไปหมดแล้วเหรอวะ
“ไม่ซิด่าพวกกูไปแล้วและมึงก็พูดทุกอย่างที่มึงคิดไปหมดแล้ว!” พายพูด
“เหรอวะ ขอโทษว่ะ “ผมพูด เกาหัวแก้เขินเลยผม
“เนียนเชียวน่ะมึง หรอกด่าก็ได้เหรอ” พายพูด
“จะว่าไปไอ้ต้นข้าวมันก็พูดถูกน่ะ” ไอ้แอ้พูด ผมหันมามอง คนเดียวที่คิดต่างกับพวกนั้น
“เออว่ะ พวกเราเดินไปสั่งอาหารทานเหมือนพวกเขาดีกว่าไหม ไปเข้าแถวแล้วมานั่งทานกันปกติอ่ะ ไม่ต้องให้ไอ้ป๊อดมันยกมาประเคนแบบนี้ แม่งมันดูเหมือนพวกต้องมีคนดูแลตลอดเวลา” ไอ้ดิวอีกคน ผมพยักหน้าเบาๆ ไม่ใช่ดิวเห็นด้วยกับผมแต่ว่าดิวกับแอ้นี่ต้องมีอะไรถึงได้ใจตรงกัน คิดตรงกันแทบจะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้
“บอยก็เห็นด้วยน่ะ เห็นด้วยกับดิวและแอ้” บอยพูด จะว่าไปพวกนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยน่ะ ผมเดาว่าน่าจะมีคนที่เข้ามาปั่นมากกว่าและดูท่าจะไม่ใช่เด็กแต่แค่ใช้เด็กมาเป็นเครื่องมือ ที่ผมคิดน่ะ
“แต่กูกลัวว่าจะเจอแบบตอนเช้าว่ะ” แจ็คมันพูด ผมเองก็ไม่รู้ว่าเจออะไรมาเพราะว่าผมมาเจอกับพวกนี้ตอนเที่ยงแค่นั้นเอง
“เอานะ ไม่น่าเกิดหรอกว่ะ พรุ่งนี้ก็ทานด้านนอกดูดิว่าจะเป็นยังไง “ไอ้ดิวพูด ทุกคนก็พยักหน้าว่าเอาตามนั้น
“งั้นวันนี้หลังอาหารเย็นกูจะคุยกับไอ้ป๊อดเองว่ะ ว่าเราจะเอาแบบนี้กัน “ติ๊กพูด ผมทำท่านึก อ้อเด็กที่อยู่ในห้องอาหาร
“ไอ้ต้นข้าว พวกมึงสองคนกลับกันยังไงวะ” แจ็คมันหันมาถามผม
“พ่อกูมารับว่ะแต่ว่าพวกกูจะไปกินไอ้ติมกันก่อนเพราะว่าพ่อกูมารับช้านิดหน่อย “ผมหันมาตอบ
“ไม่ดีกว่าว่ะ พวกกูขอบาย เหนื่อยว่ะ กลับไปอาบน้ำและนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตดีกว่า” พวกนี้ปฏิเสธพวกผมทันที ที่ผมบอกว่าเด็กคอนแวนด์ แน่นอนต้องนึกถึงสาวๆ แต่ว่าผมเองก็ไม่ค่อยจีบใครแต่ให้ไปนั่งมองน่ะเอา น่ารักขนาดนั้น
“ร้านนี้ร้านโปรดไอ้ต้นข้าวมันเพราะว่ามีแต่สาวๆ จากเด็กคอนแวนต์มานั่งทานกัน” ไอ้บลูพูด ผมนี่อยากจะโบกมันจริงๆ ไปบอกเขาทำไม
“ชื่อร้านบ้านไอติม สาวๆ จากโรงเรียนคอนแวนต์ชอบมานั่งทานกันว่ะกูสองคนเลยชอบไปนั่งดูแต่พวกมึงคงไม่ปลื้มใช่ไหมวะ” ผมพูดแต่ก็แอบดักคอเอาไว้ คือถ้าพวกนี้ไปพวกผมดับแค่นอน พวกนี้หน้าตาดีขนาดนี้ แต่พวกนี้หันมามองหน้าผม สงสัยจะเล่นแรงไปหน่อย
“แซวเล่น รู้ว่าชอบแบบไหนกัน” ผมพูด
“ไปเถอะวะ พวกกูไม่ถนัดแบบนี้ ดูแลเทคแคร์ไม่เป็นและเขาก็คงไม่ชอบแบบกูด้วย” แจ็คพูด ผมพยักหน้า
“เออกูถามพวกมึงอย่างหนึ่งดิ “ผมเองก็ไม่กล้าจะถามก็คิดว่าถามดีกว่าเพื่อจะได้วางตัวถูก
“พวกมึงไม่ได้ชอบผู้หญิงกันใช่ไหมวะ” ผมถามและทุกคนก็มองหน้าผม
“เออ กูไม่ได้ไม่ชอบแบบนั้นพวกกูยอมรับว่ะ” แจ็คเป็นคนตอบแทนทุกคน
“แล้วมึงล่ะ รังเกียจพวกกูเหมือน...” แจ็คถาม ผมรู้ว่าพวกในโรงเรียนนี้ก็พูดเรื่องนี้กันเหมือนกัน
“ไม่วะ กูแยกแยะว่ะ” ผมพูด
ตอนนี้พวกผมเดินมาอยู่ที่ชั้นล่างของตึกแล้วแต่ว่าทุกอย่างก็ยังเงียบกริบไม่มีแม้แต่นักเรียนลงมาชั้นล่างสักคน หรือว่าเขาไปทำกิจกรรมอะไรกันที่พวกผมไม่รู้ น่าแปลกมากแต่ก็ไม่นำพาสำหรับผมกับไอ้บลู
“เกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมไม่มีนักเรียนเลย เขากลับกันไปหมดแล้วเหรอวะ “ไอ้ดิวพูดขึ้น คราวนี้ทุกคนก็พากันกวาดสายตามองไปรอบๆ ผมหันมามองพวกนี้ ดูท่าจะงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“กูไปก่อนนะ แยกกันตรงนี้ว่ะ” ผมพูดก่อนจะหันไปพยักหน้ากับไอ้บลู ผมว่าจะไปที่ประตูพิเศษ ผมเคยมากับพี่ข้าวปั้นที่โรงเรียนนี้กันจะมีประตูที่ใช้เปิดเข้าออกเฉพาะพวกพี่ข้าวปั้นและผมเองก็มีกุญแจจากพี่ข้าวปั้นด้วย ไม่มีใครรู้
“แล้วมึงไม่ออกด้านหน้าเหรอวะ” ไอ้ดิวมันถามผม
“พวกกูมีทางลัดว่ะ เดินไปด้านหน้ากว่าจะถึง กูไม่ทันได้สั่งไอติม พ่อกูมารับซะก่อน ร้านนี้คนเยอะ” ผมพูด พวกนี้ก็โบกมือว่าโอเคและทำท่าจะแยกกันแต่ว่ายังไม่ทันที่พวกผมแยกย้ายกันเลยก็ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยและฟังดูไม่ใช่มิตรแท้ประกันภัยแน่นอน
“มาแล้วเหรอ กูรอเจอพวกมึงอยู่ว่ะ” พวกผมหันไปมอง มาเป็นแก้งเลย อาวุธครบมือมาก ผมว่าที่ไอ้บลูมันพูดน่ะ ถูกต้องแล้วที่ว่ามีคนมาตีกันถึงที่น่ะเรื่องจริงทีเดียว
“ดูท่าพวกมึงจะงานเข้าวะ” ผมพูดพร้อมกลับรีบหลบไปอยู่ด้านหลังสุดทันที
“ไม่ต้องดูท่าหรอก กูว่าเข้าวะงานนี้ มีเรื่องแน่ๆ” ไอ้บลูพูดอีกคนและมันก็หลบหลังผมอีกที ไอ้นี่พาไปไหน ไปเป็นเพื่อนได้อย่างเดียว ช่วยอะไรไม่ได้เลย พวกดิว แจ็คและทุกคนก็หันมามองหน้ากันเลิกลักว่าจะเอายังไงดี ผมก็หันมามองบลู ส่งสายตาว่า มีจังหวะให้วิ่งไปด้านหลังเลยน่ะ
“มึงมารอพวกกูทำไมอ่ะ ขอลายเซ็นเหรอ” ไอ้คนที่ชื่อติ๊กตะโกนถาม ผมรู้ว่ามันคือดาราแต่ถ้าพวกนี้จะมาขอลายเซ็น มันควรจะมีกระดาษ ปากกามาแต่นี้มันไม้ทั้งนั้นเลย
“กูจะเอาไปทำไมลายเซ็น แต่พวกกูอยากได้มาเป็นเมียวะ” มันตะโกนตอบมาแบบนี้ ผมกับไอ้บลูแทบจะหันมากอดกันกลมเลยดีกว่า
“เอาไงดีต้นข้าว” ไอ้บลูถามผม
“วิ่งดิมึง!!” ผมพูดและเหมือนผมคือคนยิงปืนเพื่อปล่อยนักวิ่งแท้ๆ ทุกคนพากันหันหลังวิ่งครับ ผมก็วิ่งและคว้ามือใครมาด้วยก็ไม่รู้ ผมว่ามันนิ่มผิดปกติแต่พอหันมามอง อ้าว ผมคว้ามือบอยวิ่งมากับผมแทนไอ้บลู ส่วนไอ้บลูน่ะมากับแจ็ค พอแจ็คมันหันไปมองคนที่มันจับมือมาด้วยเท่านั้นแหละ
“ไอ้ต้นข้าวเอาเพื่อนมึงคืนไปและเอาที่รักกูคืนมา” ไอ้แจ็คมันบอกผม ผมก็ต้องวิ่งเอาคนของมันไปคืนครับและเอาไอ้บลูมา ผมวิ่งมาที่ด้านหลังจนถึงที่ผมคิดว่าน่าจะปลอดภัย
“เฮ้ย! กูรู้ว่าไปทางไหนดี” ผมพูดและโบกมือให้พวกนี้วิ่งตามผมไป
“วิ่งตามกูมา” ผมบอกทุกคนและทุกคนก็วิ่งตามผมกับไอ้บลูไป ไปที่ตรงด้านหลัง มันจะมีประตูอีกประตู เป็นประตูลับแต่ว่ามันล็อก
“ทางตันไอ้ข้าว” ไอ้ดิวมันไม่เห็นทางไปมันเลยหันไปบอกเพื่อนๆ
“มานี้กูมีทางหนี” ผมบอกทุกคนก่อนจะ รีบหยิบกุญแจออกมาและผมก็ไขกุญแจทันที พวกนี้มองผมตกใจซิท่า ผมหันมาหยักคิ้วให้พวกนี้ ผมเดาว่าพวกนี้คงไม่มีอารมณ์จะมานั่งสักว่าผมมีได้ยังไง ทั้งที่ผมไม่ใช่รปภของโรงเรียน ผมเปิดประตูได้และพวกนี้วิ่งออกไป มันจะแคบสักหน่อยแต่พวกนี้มันสูงก็ต้องหมุดนิดหน่อย พอออกไปได้ผมก็ปิดและใส่กุญแจทันที ฉลาดมากไปนะผมน่ะ พวกนี้มองผมด้วยสายตาที่ชื่นชมว่าผมคือฮีโร่ของพวกมัน
“กูนี่เลือกคนเข้าแก๊งไม่ผิดจริงๆ” แจ็คมันชมผม
“วิ่งตรงไปเลย” แต่ว่าผมยังได้ยินพวกนี้กำลังตามหาพวกแจ็คอยู่เลยบอกให้พวกนี้วิ่งตรงไปเพื่อไปออกปากซอย ร้านไอศกรีม พวกนี้ก็วิ่งแบบไม่คิดชีวิตจนไปถึงปากซอยและพากันนั่งหายใจหอบเหนื่อยกันเป็นแถวเลย
“มันไม่ตามมาหรอก” ผมพูดก่อนจะมองหน้าทุก
“พวกมึงไปทำอะไรให้พวกนี้ว่ะ” ผมถามพวกนี้ว่าไปทำอะไรถึงได้เจอดีตั้งแต่วันแรกแบบนี้
“เป็นคำถามที่ดีมาก พวกกูไม่รู้ว่ะและพวกกูมากันวันแรกน่ะที่นี้ พวกกูไม่เคยมาเหยียบที่นี้กันก่อนเลยจริงๆ “ไอ้แจ็คมันหันมาตอบผม ผมฟังจากน้ำเสียง พวกมันก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนี้ดักตีมันทำไม
“ไหน ไหนก็มาแล้วไปนั่งหาไอติมกินกันก่อนไหมวะ “ผมเลยถือโอกาสชวนพวกนี้ไปหาอะไรทานกันก่อน
“ก็คงต้องแบบนั้นว่ะ วิ่งมาเหนื่อยขนาดนี้ใครจะเดินกลับไปขึ้นรถที่หน้าโรงเรียนเลยว่ะ แถมยังไม่รู้ว่าพวกมันยังยืนรออยู่ไหม รอสักพักใหญ่ๆ ก่อนจะดีกว่า “แจ็คพูด ทุกคนก็เห็นด้วย ไอ้บลูนี่ยิ้มดีใจทันที
ทันทีที่ตกลงกันได้ผมกับไอ้บลูก็เป็นเดินนำพาทั้งกลุ่มเดินไปที่ร้านบ้านไอติม คนเยอะเหมือนทุกวัน สาวๆ เหล่านี่ก็มานั่งให้หนุ่มๆ แซวกันสนุกสนาน หน้าตาน่ารัก น่ารักตั้งแต่ยูนิฟอร์มแล้วและแน่นอนโรงเรียนเอกชนแบบนี้ ดูการแต่งตัวและของใช้ที่มี ก็พอจะเดาได้ว่ามีเงิน ผมเองก็มีแต่ว่าไม่อวดมากเพราะมีไม่มาก
“พวกแก ดูซิ หน้าตาหล่อว่ะ หล่อทั้งแก๊งเลย “นั้นไงได้ผลสาวๆ พากันแซวพวกนี้กันทั้งนั้น
“ใช่แก งานดีมากเลยอ่ะ อยากได้เป็นแฟน “สาวพากันกระซิบกระซาบกัน
“เชิญค่ะ มาหลายคนน้าเอาโต๊ะติดกันให้ไหมคะ “ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของร้าน ผมรู้ว่าเขามีลูกชายคนเดียวและกำลังเรียนโรงเรียนเตรียมทหารแห่งหนึ่ง
พวกผมเดินตามเจ้าของร้านเข้าไปนั่งด้านในระหว่างที่เดินเข้าไป แน่นอนสาวๆ ที่ไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อแบบพวกแจ็ค ดิวก็ออกอาการแซวกันใหญ่ บ้างก็ส่งสายตาเชื้อเชิญอยากได้เป็นแฟน ผมเดินเข้าไปนั่งโต๊ะเกือบจะด้านในสุด
“ไอ้ต้นข้าว ไอ้บลู โรงเรียนไหนวะ เครื่องแบบไม่เห็นเหมือนพวกนักเรียนในโรงเรียนลุงกูเลยอ่ะและเครื่องแบบนี้มันฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งมากเลยว่ะ กูอยากย้ายจากโรงเรียนสายโหดลุงกูไปเรียนเดียวกับน้องเขาเลยว่ะ” พายพูด
“โรงเรียนคอนแวนต์อยู่ทางใต้โน่น ส่วนโรงเรียนเราอยู่ทางเหนือนั้น” ผมกระซิบบอกน้องพาย พายหันมายิ้มให้สาวๆ แต่ผมว่าสาวก็น่าจะรู้ว่าเพื่อนสาวนั้นเอง แต่เขาก็ทำนิ้วทักทายแบบทักทายเพื่อนสาวไม่ใช่หนุ่มๆ
“สั่งอะไรกันดีค่ะ “คุณน้าเจ้าของร้านเขาถาม เขาหันมายิ้มให้ผมสองคน ลูกค้าประจำเลย
“ดูท่าจะเดินมาไกลอยู่น่ะ” น้าเขาถามพวกนั้น ผมก็หยิบเมนูมาดูเพื่อว่าวันนี้จะเปลี่ยนไปกินอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง
“ส่วนเราสองคนนะ น้าจำได้ กินประจำเลย ช็อกโกแลตซันเดย์ และอีกคนนี้ราสเบอร์รี่เชอร์เบท “ผมกับไอ้บลูน่ะ ลูกค้าประจำคุณน้าเขาจำได้ดี ผมสองคนพยักหน้า ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนแต่คิดไปคิดมาเอาแบบเดิมดีกว่า
“งั้นพวกเราดูออเดอร์กันไปก่อนนะ เดี๋ยวน้ามานะคะ ขอไปเสิร์ฟโต๊ะอื่นก่อนค่ะ ไม่นานค่ะ” คุณน้าเขาบอกพวกผม ทุกคนก็เปิดเมนูดู ผมรู้ว่าไอติมที่นี้อาจจะไม่ใช้ยี่ห้อดังแบบในเมือง ผมสังเกตจากสีหน้าติ๊กแต่ว่าแอ้สะกิด ก่อนจะพากันเลือกไอศกรีม พวกผมนั่งท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่ส่งมาให้ ปกติผมกับไอ้บลูแทบจะไม่เคยเจอเลยแบบนี้
“กูว่าเบียร์ก่อนเลยว่ะ ร้อน” ไอ้ติ๊กมันพูดขึ้น ผมกับไอ้บลูหันมามองหน้ากัน มันจะสั่งเบียร์ทั้งที่สวมชุดนักเรียนนี่น่ะ
“กูเอาด้วย ขอเย็นๆ เลย” ไอ้ดิวก็บอกเอาด้วยอีก
“ก็อยากดื่มไวน์อยู่น่ะ แต่เอามั้งเบียร์” พายก็เหมือนกัน ดีไม่สั่งไวน์ละ
“แอ้ล่ะเอาอะไรดี บาคาดี้ไหม” ดิวถามแอ้ ผมคิดในใจแอลกอฮอล์มาครบหมดเลยมั้ง
“กูว่า กูสั่งกับแกล้มมาดีกว่า ไม่กินแล้วไอศรีมน่ะ กูว่าสั่งข้าวมากินกับพวกมันเลยเถอะ มันจะได้มีอะไรแกล้มเหล้าแกล้มเบียร์” ผมกระซิบกับไอ้บลุ
“ต้นข้าว!!” บลูมันพูด
“ขอโทษนะคะ!” จู่ๆ คุณน้าเจ้าของร้านที่ยืนฟังไม่ได้จดหรอกเพราะว่าน้าเขารู้ว่าพวกมันไม่ได้หรอกที่สั่งมาน่ะ
“ที่เราสั่งมานี่คิดดีแล้วเหรอคะ!!!” นั้นไงกูว่ามันโดนแน่ๆ
“ครับผม คิดดีแล้วครับ” ยังอุตส่าห์ไปตอบเขาอีก ไม่สำนึกเลย
“พวกเรายังใส่ชุดนักเรียนกันอยู่เลยน่ะ!!” น้าเขาพูด ทุกคนก้มลงมองชุดตัวเอง มันยังสวมชุดนักเรียนอยู่เลย ผมพยักหน้าเป็นไงล่ะ
“ชิท!!!!” ไอ้ดิวมันอุทาน
“ร้องทำไมของมึงวะดิว” ไอแจ็คมันถามไอ้ดิว
“ชุดนักเรียนมันสั่งเบียร์ไม่ได้นะมึง” ไอ้ติ๊กพูด
“ใช่ค่ะ!!! ใส่ชุดนักเรียนขนาดนี้ สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหรอคะ นี้ยังอยู่ในเขตโรงเรียนอยู่นะคะ ถึงไม่ใช่ในรั่วโรงเรียนก็เถอะ ร้านน้าไม่ขายแอลกอฮอล่ค่ะ” คุณน้าพูด มันหันมามองหน้าผมสองคนทันที
“กูจะทักแล้วแม้เบียร์เย็นๆ ไม่สั่งกลับแก้มด้วยล่ะ กูจะได้สั่งข้าวมารอด้วย กินข้าวเย็นที่นี้ไปเลย ไม่รอไปทานที่บ้าน” ผมพูด
“นี่ร้านไอติมนะคะหนู “คุณน้าเจ้าของร้านพูด
“งั้นก็เอาน้ำเปล่ามาก่อนเลยครับคุณน้าและขอเมนูมาดูก่อนนะครับ” ไอ้ดิวมันสั่งน้ำเปล่าแทนก่อนจะหันไปหยิบเมนูมาเปิดดูรสไอศครีมแทน
“เหมือนเดิมไหมคะ” น้าเขาหันมาถามผมสองคน ผมเลยไม่อยากเปลี่ยนเลย เอาเหมือนเดิมแล้วกัน
“อย่าไปส่งสายตาให้พวกนั้นเลยสาวๆ มันชอบอัดถั่วดำนะสาวๆ ฮาๆ “จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นมาลอยๆ เพื่อไม่ให้สาวๆ ส่งสายตาให้พวกผม
“อะไรอีกวะ” ไอ้ดิวมันถามขึ้นอย่างหัวเสีย ผมกับไอ้บลูหันมามองหน้ากันเลิกลัก นี้คิดว่าหนีพวกนั้นมาได้แล้วยังมาเจออีกชุดเหรอว่ะ
“ไอ้ข้าว! กูว่าเราไม่ได้มาหาคำตอบให้พี่ข้าวปั้นแล้วแหละ กูว่าคงได้อย่างอื่นแทน นี่วันแรกเองนะมึง” ไอ้บลูพูด
“ชอบกินแบบเป็นแท่งๆ หรือเปล่า พี่มีน่ะ ฮาๆ” ไอ้พวกปากดียังคงแซวแต่ว่าพวกนี้ก็พยายามจะไม่ตอบโต้
“มาทานของพี่ไหม มีน้ำสีขาวขุ่นๆ ด้วยน่ะ ถ้าได้ปากเล็กๆ น่ารักอย่างน้องน่ะ” ไอ้พวกนั้นมันย้ายโต๊ะมาอยู่ด้านหลังพวกผม มีหนึ่งคนเดินเข้ามาหาแอ้เพราะว่ามันอยู่ด้านหลังแอ้และมันก็คว้าข้อมือของแอ้ แต่จู่ๆ แอ้ก็บิดข้อมือไอ้คนนั้น
“โว้ววว” ไอ้ติ๊กร้องแต่ผมสองคนกอดกันกลมอีกแล้ว
“โอ๊ยย สาด!” ได้ผลไอ้นั่นมันร้องลั่นเลยมันคงเจ็บ
“มึงอยากได้ไอติมแบบเป็นแท่งเหมือนกันใช่ไหมแต่รูปตีน” ไอ้ดิวลุกขึ้นถาม ไอ้นี้ก็โหดไอ้อีก
“พวกกูมีแต่แบบนี้ให้พวกปากดีแบบพวกมึงอ่ะ เอาไปกระแทกปากและแถมด้วยน้ำราดสีแดงทะลักว่ะ ลองไหมล่ะ “ไอ้ดิวพูดและมันก็คว้าคอเสื้อไอ้คนที่บิดข้อมือเอาไว้และดิวก็ปล่อยมันตรงไปทันทีที่ใบหน้าไอ้คนนั้น ไอ้คนที่ถูกต่อยถึงกลับสะบัดไปเลย
“อู้ยย!!” ผมกับไอ้บลู ร้องออกมาพร้อมกัน
“พวกมึงเป็นอะไรกัน กูไม่รู้จักพวกมึงสักหน่อย อย่ามาหาเรื่องกันได้ไหมวะ “ไอ้แจ็คหันไปถาม พวกนั้นดูท่าจะแค้นมากที่ไอ้แอ้กับดิวทำเพื่อนรักของมันเจ็บและตั้งท่าจะเข้ามาแต่ว่าผมซิ อยู่ในวงล้อมแบบนี้
“อะไรกันคะ นี้อย่ามามีเรื่องในร้านนะ ไม่งั้นน้าจะแจ้งตำรวจนะคะ” เหมือนระฆังช่วยชีวิตเอาไว้ได้ คุณน้าเจ้าของร้านรีบเดินเข้ามาห้ามปรามเอาไว้ได้ซะก่อน ผมกับไอ้บลูกุมหน้าอก
“งานงอก” ไอ้ติ๊กพูด
“วันแรกก็โดนซะแล้ว กูว่าตายแน่ๆ อยู่ต่ออีกปี” น้องพายพูดแต่ว่าผมสองคนซิ อาทิตย์หน้าจะยังได้อยู่หรือเปล่า
“น้าเห็นค่ะ ว่าเราไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ “คุณน้าคนนั้นพูด เข้าข้างพวกผม
“เดี๋ยวได้เห็นดี!” พวกนั้นมันมาพยุงเพื่อนมันขึ้น มันมากันห้าหกคนได้แต่ตอนนี้เดี้ยงไปสองคนแล้ว และมันก็เดินออกมาไปจากร้าน พวกนักเรียนต่างโรงเรียนกับพวกผมที่นั่งอยู่ก็หันมามองผมด้วยอาการตกใจ
“แก ..ใช่พวกที่เขาบอกว่าพวกคุณหนูลูกหลานเจ้าของโรงเรียนบดินทร์วิทยามั้ยวะ? “ผมได้ยินเสียงคนกระซิบกัน
“ใช่ว่ะ แก ออกเถอะวะ เดี๋ยวเกิดมีมาอีกพวกเราซวย กลับบ้านดีกว่า” นั้นไงแต่ละคนพากันลุกขึ้น พวกผมหันไปมองเจ้าของร้าน ผมว่างานเข้าเจ้าของร้านด้วย โต๊ะเก้าอี้กระจัดกระจาย ทุกคนพากันลุกขึ้นเพื่อช้วยกันเก็บทุกอย่าง
“พวกผมขอโทษนะครับ เดี๋ยวผมจ่ายค่าเสียหายให้” แจ็คพูดพร้อมทำท่าจะส่งบัตรเครดิตให้แต่ว่าคุณน้าเขาปฏิเสธที่จะรับ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิด” คุณน้าเจ้าของร้านพูด
“ถ้าอย่างนั้น บอยว่าพวกเรารีบกลับไปที่โรงเรียนเพื่อไปขึ้นรถกลับบ้านกันเถอะ “บอยพูด ผมก็พยักหน้ากับไอ้บลูว่าไปเถอะ ไม่ต้องกินแล้วไอติมน่ะ
“งั้นก็แยกกันข้างหน้านี้น่ะ กูจะไปโทรหาพ่อว่า ให้พ่อกูมารับตรงไหนดี ที่จะไม่เจอตีน” ผมพูดและทุกคนก็พยักหน้าและผมก็ลากแขนไอ้บลูแยกออกไป คือถ้าไม่ไปตอนนี้ไม่ได้ไปแน่นอน ระหว่างที่ผมเดินไปด้านหน้า ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพ่อผมทันที
// ฮัลโหล พ่อ มารับหรือยัง// ผมถามพ่อของผม
//มาแล้วเนี่ย ไม่รู้อะไร เด็กช่างที่ไหนมันจะมารอตีใครก็ไม่รู้ ข้าว//พ่อผมพูด
//เอาอย่างนี้นะพ่อ ไปเจอกันอีกซอย//ผมบอกพ่อผม
//เออ เอางั้นก็ได้เพราะว่าพ่อรีบ มีคนจะมาดูอุปกรณ์ปลูกบ้าน พ่อนัดไว้ตอนเย็น เลยว่าจะมารับเราก่อน//พ่อบอกผม
ผมก็กดวางสายทันทีและพาไอ้บลูเดินไปตามถนน ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นจะเดินย้อนกลับไปที่โรงเรียนเพื่อไปขึ้นรถพวกมันยังไงแต่จังหวะนั้นผมหันมาเจอพวกที่จะมาหาเรื่อง ดูมันมาด้วยอาวุธครบมือมากนี่มันยังไม่ยอมเลิกอีกเหรอ เวรแล้ว แล้วผมกับไอ้บลูจะผ่านมันไปได้ยังไง ผมสองคนก้มลงมองเครื่องแบบนักเรียนที่สวมอยู่ ใช่ครับ มันต้องถามแน่ๆ เพราะว่าเรียนที่เดียวกัน
TBC…