Episode 16 อาจจะขี้หึงจนเกินไป[Part Teetuch Thank]แสงดวงอาทิตย์ยามเที่ยงที่สาดส่องเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ตกกระทบลงกับผิวหน้าของร่างขาวซีดผิวนุ่มนิ่มที่ผมตะกองกอดทั้งคืน ทำให้คนในอ้อมกอดยิ่งมากไปด้วยเสน่ห์เข้าไปใหญ่ ยิ่งมองก็ยิ่งหลง
“อื้อออ”
จุ้บ...
คนในอ้อมกอดผมที่เหมือนจะเริ่มรู้สึกตัวแล้วก็ขยับยุกยิกไปมา หลบหนีการก่อกวนจากผม หืม...มันน่าจับฟัดอีกรอบ
แต่ก็ทำไมไม่ได้เพราะสงสารไอ้ตัวดีมัน กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า ไม่รู้ว่าจะป่วยรึป่าว ผมลองเอามือแตะๆที่หน้าผาก อุณหภูมิร่างกายทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เลยว่าจะปลุกให้ลุกมากินข้าวแล้วกินยาดักไว้น่าจะดี
จุ้บ...
“ตื่นได้รึยัง...” จุ้บ...
“เมื่อยอ่ะ... ปวดไปทั้งตัวเลย”
“น่าสงสารจัง หึหึ”
“เพราะใครล่ะ ไม่ต้องมาขำเลย”
“ขอโทษครับ เดี๋ยวนวดให้” ผมเอื้อมมือไปบีบนวดช่วงต้นขาและสะโพกให้แฟนสุดที่รักของตัวเองเบาๆ วนซ้ำไปมาหวังช่วยคลายเมื่อยได้
จุ้บ...
“ให้รางวัล” ไอ้ตัวดีเอี้ยวตัวขึ้นมาจุ้บที่ริมฝีปากของผมเบาๆ แล้วส่งยิ้มบางๆให้ เพื่อเป็นรางวัล ซึ่งก็เป็นรางวัลที่ผมชื่นชอบมากเลยทีเดียว จากที่หลงอยู่แล้วก็หลงหนักเข้าไปอีก
จุ้บ...
จุ้บ...
จุ้บๆๆๆๆๆ
แล้วผมการกระทำการฟัดคนในอ้อมกอดไปอีกหลายๆที จากนั้นก็เอื้อมมือไปแตะเบาๆที่หน้าผากของแฟนสุดที่รักอีกครั้ง
“รู้สึกไม่สบายตัวรึป่าว จะป่วยไหม มีอาการที่เหมือนจะเป็นไข้รึป่าว แล้วมี-”
“แต็งค์” ผมพูดยังไม่ทันจบประโยคดี น้ำมันก็ยื่นมือมาปิดปากผม
“...”
“ปกติดี เกือบจะสบายมากเลย ถ้าไม่ติดว่ารู้สึกเมื่อยๆ ขัดๆ ช่วงล่าง” พูดจบมันก็ส่งยิ้มบางๆ เป็นเชิงบอกว่าสบายใจได้มาให้พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่บีบแก้มผมเล่นไปด้วย
“งั้นไปอาบน้ำกัน จะได้กินข้าวกินยา” ผมผละกอดออกแล้วลุกขึ้นนั่งเตรียมจะดึงอีกคนให้ลุกตาม
“อะไร”
“ไปอาบน้ำไง”
“ก็ไปสิ”
“ไปอาบด้วยกัน”
“ไม่” ไอ้น้ำที่ที่ตั้งท่ากำลังจะลุกหนีผมเต็มที่ แต่ไม่ทันผมที่คว้าตัวเอาไว้ก่อน แล้วจัดการอุ้มไอ้ตัวดีไปทางห้องน้ำทันที
“หึหึ”
“แต็งค์...”
“...”
“ทำไมไม่อาบคนเดียวเล่า”
“เขินรึไง”
“ไอ้แต็งค์!!!”
ปึก!!
“โอ้ย! น้ำ... เจ็บ... โอ้ยย”
“ฮ่าๆๆ”
แล้วก็เกิดสงครามขนาดย่อมระหว่างที่เรากำลังอาบน้ำกัน
วิดวิ้ววววววววว
ฮิ้ววววววววววว
หูววววววววววว
เสียงไอ้พวกเพื่อนเวรที่พากันร้องโห่แซวลั่นโรงอาหารคณะทันทีที่ผมกับน้ำพากันมานั่งโต๊ะพวกมัน ที่กำลังกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่วายยังพากันส่งสายตากรุ่มกริ่มแซวน้ำมันอีก
“พวกเวร” อ่ะ แล้วพวกมันก็โดนน้ำมันกันไปอีกหนึ่งกรุบ แล้วถามว่าพวกมันสะทกสะท้านอะไรไหม ก็ไม่
“แซวนิดแซวหน่อยเองเพื่อนน้ำ” ไม่ว่าป่าว
ไอ้โต้งมันก็เอาแขนทื่อๆ กับมืออันหยาบกร้านของมันขึ้นมาคล้องคอน้ำไว้ จนผมต้องหันไปมองมันด้วยสายตาดุๆ พร้อมจะจับมันหักคอจิ้มน้ำจิ้มทันที
พลั๊วะ!!
“เชี้ยโต้ง..” แล้วก็รับฝ่ามืออรหันต์ของไอ้บิวเป็นการตักเตือนไป “มึงเห็นตาไอ้แต็งค์มันไหม มันพร้อมจะแดกหัวมึงแล้วน่ะ”
“ใจเย็นเพื่อนแต็งค์ นี่เพื่อนๆ มึงนะเว้ย ฮ่าๆ” ไอ้อาร์ตที่นั่งหงำเหงือกอยู่นานก็มีบทบาทกับเค้าขึ้นมา
“ขอโทษคราบบบบ เพื่อนแต็งค์”
“เออ”
“โหดซะด้วย”
“พวกมึงก็รู้ว่ามันหวง ยังหาจะเรื่องเสี่ยงตายกัน”
“หยอกๆนะ”
“อิอิ”
“...”
ผมได้แต่กลอกตาไปมากับความกวนส้นตีนของพวกมัน ก่อนที่เสียงๆหนึ่งจะเรียกความสนใจของผมไปทั้งหมด
“น้ำ กินข้าวยังวะ”
“ทำไมมาสายจังวะ”
“หน้าตาสดใสจังว๊า”
เสียงจากกลุ่มฝูงเพื่อนของน้ำที่พากันหลั่งไหลเข้ามาทักทายพร้อมทั้งหาที่แทรกนั่งเบียดเสียดภายในโต๊ะๆเดียวกันอีก แต่ก็ไม่ทำให้ผมละความสนใจเท่าไอ้แคมป์ที่มันกำลังจะ...
“อะไรติดผมอยู่วะน่ะ”
ว่าจบมันเอื้อมมือมันจะไปจับบางสิ่งบางอย่างที่ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรออกจากหัวของแฟนผม แต่เหมือนไอ้แคมป์มันจะรับรู้ได้ว่าผมกำลังแผ่รังสีความหงุดหงิด งุ่นง่าน ความโมโห ความหวง ความหึง
ใช่ผมกำลังหึงน้ำ กับไอ้แคมป์ และหึงมากเพราะไม่อยากให้มาถูกเนื้อตัวของไอ้ตัวดีที่นั่งข้างๆกันแต่กลับไม่รู้อะไรกับเขาเลย
“...”
“แหะๆ ใจเย็นไอ้แต็งค์ นี่กูเพื่อนแฟนมึงนะ”
“...”
“ไม่ต้องทำหน้าเหมือนพร้อมเอามีดมากระซวกไส้ได้ไหม”
“เป็นอะระ?”
น้ำที่มือข้างนึงรับแก้วน้ำหวานแก้วใหญ่จากไอ้เหน่งเพื่อนรักของมันมาดูด มืออีกข้างก็ลูบหลังมือผมเป็นการอ้อนกัน จนอดไม่ได้ที่ผมที่ยกมือบีบปากมันขณะดูดน้ำอย่างหยอกล้อ
“หึหึ”
“ไอ้แอ้ง อาแอ้งอันอำไอ”
“น่ารัก”
“อื้อออ”
หิ้วววววววววววว
“หวานกันไม่เกรงใจน้ำหวานในแก้วเลยนะมึง” ไอ้เหน่งที่มันทำหน้าเหนื่อยหน่ายก็บ่นอย่างเหนื่อยหน่ายของมันไปทั่ว “เอาซะกูขมขื่นเลย”
“บราโวว”
แปะๆๆ
ไอ้อาร์ตอยู่ๆ มันก็ลุกขึ้นยืนปรบมืออย่างไม่อายสายตาที่ต่างพากันมองมาที่โต๊ะพวกเรา
“ไอ้แต็งค์ในโหมดคลั่งรักว่ะ”
“โหมดขี้หวงด้วยว่ะ”
“อะฮิๆ”
“ว่าไงน้องรัก ช่วงนี้ติดแฟนไม่ยอมเจอพี่เจอน้องเลยหรอวะ” พี่นนท์ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน วิ่งชาร์จเข้าคล้องคอน้ำมันระหว่างที่เรากำลังจะแยกย้ายกันไปเรียน
“ได้ข่าวว่าเราพึ่งเจอกันล่าสุดเมื่อเช้าก่อนออกจากคอนโดนะไอ้พี่นนท์” และมันก็ถลึงตาใส่พี่ชายมันไปหนึ่งที
“อ้าวเรอะ แหะๆ”
“...”
“อ่ะ ไอ้แต็งค์คนที่ใช้สายตาแบบนั้นควรเป็นกูนะ กูนี่พี่แฟนมึงนะ” ไม่ว่าป่าวแกก็กระชับแขนที่กอดคอน้ำมันไว้แน่นกว่าเดิม จนมันแทบหายใจไม่ออก
“โอ้ย ไอ้พี่นนท์ หายใจไม่ออก แค่กๆ”
“มึงดูตาแฟนมึงดิ”
“...”
“ถ้ามันมีมีด มันแทงกูแล้ว”
“ไร้สาระจริงพี่มึง” แล้วสองพี่น้องที่รักกันปานจะกลืนกินก็ตีกันอีกระรอกใหญ่
“สายตากูแสดงออกแบบนั้นหรอวะ”
“เออ/เออ/เออ!!” ทั้งไอ้บิว ไอ้โต้ง ไอ้อาร์ต มันพากันเปล่งเสียงประสานขึ้นมา
“เออให้มันเบาๆหน่อยมึง”
“จริง!! ทั้งเพื่อนมึง เพื่อนเค้า พี่เค้า มันคือข้อยกเว้นป้ะวะ”
“พวกมึงต้องมาเป็นกู...”
“...”
“ต่อให้เป็นแค่แมลงกูแม่งยังหวงเค้าเลย”
หิ้ววววววววววววววว
“คลั่งรักจัด”
“เพื่อนเรานี่มันพ่อหนุ่มนักรัก”
“น้ำ...”
“ครับ”
“ที่พี่ขอแรงไว้ พรุ่งนี้โอเคนะ”
แล้วผมก็ต้องขมวดคิ้วกับไอ้รุ่นพี่ที่มันเดินแหวกอากาศมาจากตรงไหนของโลกใบนี้ก็ไม่รู้ นี่คงจะอยากมาคอนเฟิร์มเรื่องที่ไอ้น้ำจะขึ้นไปร้องเพลงเปิดงานคณะพี่มันให้ ส่วนแฟนผมมันก็แสนดีไปตกลงรับปากเค้าเฉย ทั้งๆที่บอกไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบคนมารุมมอง
อืม
ผมได้แต่ทดไว้ในใจ
ทดไอ้รุ่นพี่นะ
เพราะกับแฟนที่ทั้งรักทั้งหลง ไม่กล้าหรอก
“ครับพี่ เจอกันพรุ่งนี้” แล้วไอ้รุ่นพี่มันส่งยิ้มหวานเชื่อมกันจะโบกมือหยอยๆ ลาออกไปโดยไม่สนสายตาหงุดหงิดของผม
“...”
“ทำหน้าอะไรแบบนั้น”
“หึง”
“ฮ่าๆ” แล้วน้ำมันก็เอามือทั้งสองข้างของมันขึ้นมาบีบแก้มผมแล้วยืดออกเล่นอยู่แบบนั้น
“...”
“ก็เคยบอกแล้วไงว่าที่ยอมตกลงไปร้องเพลงให้พี่เค้าอ่ะ เพราะว่าเฟิร์นน่ะ ชอบคนในคณะนั้น เลยใช้วิธีนี้ติดสินบน” ใช่ เคยบอกแล้วรอบนี้เป็นรอบที่สิบแล้ว ถามว่าเข้าใจไหม ก็อยากจะไม่ แต่ก็ต้องเข้าใจ
“อือ... ทำไมต้อ-”
“ก็เฟิร์นคือเพื่อน แล้วยังเป็นคนที่ช่วยให้กูได้รู้ใจตัวเองอีก” พูดพร้อมยิ้มบางๆมาให้ ผมก็ต้องใจอ่อนยอมพยักหน้ารับอย่างหมาเชื่องๆ
“...”
“แล้วไม่ใช่แค่เฟิร์นนะ แต่เป็นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเราสองคนอ่ะ กูก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว ถ้าไม่มีคนพวกนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราสองคนจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่กว่าจะยอมง้างปากพูดความในใจกัน”
“...”
“แค่ไปร้องเพลงแค่นี้มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรอยู่แล้ว”
“...”
“ต่อให้มีคนมากมายหลากหลายสายตาคอยจับจ้อง.. กูก็ไม่ได้สนใจสายตาใคร”
“...”
“เพราะสายตาของกูมันเลือกที่จะโฟกัสอยู่ที่คนคนเดียว”
“...”
“คนที่ชื่อแต็งค์ แฟนกูไง”
“หึหึ”
พอได้ยินน้ำมันพูดแบบนี้ ทำสายตาแบบนี้ ไอ้ผมมันก็ใจฟูเป็นก้อนเมฆทันที
เห้อออ
ไอ้แต็งค์ในโหมดคลั่งรักนี่มันยอมเค้าไปหมดยอมเค้าแบบง่ายๆได้เลยว่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ยังคงเฝ้าคอย จับจอง
ยังคงเฝ้ารออย่างโหยหา
ไม่อ่อนล้า จะเฝ้ารักแต่เธอเสียงร้อง และรอยยิ้มแสนเสน่ห์
ใจรักเธออยู่อย่างนั้น
ฉันก็ยังไม่เข้าใจ
มันไม่ยอมที่จะรักใคร
ขอบอกว่า แม้ฉันลองมากี่ครั้ง
มันก็ยังไม่เชื่อฟัง
ได้แต่รักเธอจนหมดใจยังคงสะกดผมอยู่เหมือนเคย
ใจรักเธออยู่อย่างนั้น
ฉันก็ยังไม่เข้าใจ
มันไม่ยอมที่จะรักใคร
ขอบอกว่า แม้ฉันลองมากี่ครั้ง
มันก็ยังไม่เชื่อฟังและดูท่าแล้ว คงจะสะกดผมไว้แบบนี้ตลอดไป
ได้แต่รักเธอจนหมดใจ
ไม่รู้ฉันควรจะทำสิ่งใด(เพลง เพลงของเธอ โดย ซิลลี่ ฟูลส์)
“ขอบคุณสำหรับเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือครับ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“...”
“แล้วขอบคุณ น้องน้ำ วิศวะ ไฟฟ้า ปีหนึ่งด้วยครับ”
หิ้ววววววววววววววววววววววววววว
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ครับ” ตอบรับเสร็จ ก็ส่งรอยยิ้มบางๆลงมาด้านล่างเวที แต่เหมือนว่ารอยยิ้มที่ถูกส่งมานั้นจะส่งมาถึงแค่เพียงคนๆเดียว คนที่ชื่อ แต็งค์ ธีทัช คนนี้คนเดียว
“เอ้า ไอ้แต็งค์มันไปไหนวะ”
“นู้น ไปรับแฟนมันกลับบ้านแล้ว”
“หวงจริง หวงจัด”
“เออแม่ง ร้องเสร็จพากลับบ้านแม่งเลย”
“รูปเริบนี่ไม่ต้องถ่าย”
“เคยหวงยังไงแม่งก็ยังหวงอย่างงั้น”
“กูว่ามากว่าเมื่อก่อนอีก”
“เออว่ะ ฮ่าๆ”
“แต็งค์... จะรีบไปไหน”
“หวง”
“...”
“ไม่อยากให้ใครมองนาน”
“ขนาดนั้นเลย”
จุ้บ...
“ขนาดนั้น”
“ฉวยโอกาส” ว่าจบก็หย่นจมูกใส่อย่างหน้ารัก จนผมอดไม่ได้ที่จะ
จุ้บ...
จุ้บๆๆๆ
“พอแล้ว ขับรถ!” พูดไปแก้มก็แดงไป น่ามันเขี้ยวจริงๆ
หลังจากที่ฟัดน้ำมันจนพอใจแล้วผมก็มาจับพวงมาลัยรถ เตรียมตัวออกรถเพื่อเดินทางกลับคอนโดกัน เพื่อให้น้ำได้พักผ่อนเพราะวันนี้ตื่นมาเตรียมตัวร้องเพลงแต่เช้า วันนี้ทั้งวันมันแทบไม่ได้พักเลย ระหว่างที่ผมขับรถอยู่ น้ำมันก็เปิดเพลงฟังวนไปเรื่อยๆ
จนมาถึงเพลงนี้...
เป็นไปด้วยรัก แต่อาจจะขี้หึงเกินไป
แต่ใจทั้งใจมีแต่เธอคนเดียว
รักเธอคนเดียว ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนไป ช่างเป็นเพลงที่ตรงกับใจผมโครตๆเลย
“เป็นไปด้วยรัก แต่อาจจะขี้หึงเกินไป
แต่ใจทั้งใจมีแต่เธอคนเดียว
รักเธอคนเดียว ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนไป”
(เพลง ขี้หึง โดย ซิลลี่ ฟูลส์)
“นี่มันนิสัยใครก็ไม่รู้”
จุ้บ...
“ก็รักไง”
“...”
“ถึงหวงขนาดนี้”
ปัก!!
“โอ้ย น้ำ...”
“ขับรถไปเลย!”
หลังจากทำร้ายร่างกายกันกลบเกลื่อนอาการเขินเสร็จ น้ำมันก็เอาแต่หันหน้าออกไปนอกหน้าต่างไม่ยอมพูดจาอะไรทั้งนั้น แก้มแดง หูแดงนั่น น่าจับฟัดจริงๆ
ฟอดดดดดด
“ชื่นใจ”
ฟอดดดดดด
“หอม”
ฟอดดดดดด
“แต็งค์ พอแล้ว อย่าพึ่งกวน”
“ไม่ได้กวน”
“ไม่ได้กวนก็ปล่อย จะไปอาบน้ำ”
พรึบ!!
“ทำอะไร!!”
ไอ้น้ำที่ตกใจเหลอหลา ก็โวยวายทันทีที่ผมอุ้มมันขึ้นเตรียมตัวจะพาเข้าห้องน้ำ
“อาบน้ำไง”
“อาบใครอาบมันสิ”
“อยากอาบด้วย”
“แต็งค์...”
“นะ...”
ผมที่ใช้สายตาอ้อนวอนสุดชีวิต เพื่อออดอ้อนขออาบน้ำกับแฟน ทำหน้าหงอยๆเป็นหมาเชื่องเข้าไว้ หวังว่าน้ำมันจะใจอ่อนยอมให้อาบด้วย
สุดท้ายแล้วน้ำมันก็ถอนหายใจแบบเลี่ยงไม่ได้ และก็ทำให้ผมหน้าระรื่นทันทีกับคำตอบ
“แค่อาบน้ำนะ ห้าม- อื้ออออ”
ยังไม่ทันได้พูดจบผมก็ก้มลงไปดูดดึงริมฝีปากคนในอ้อมแขนอย่างรักใคร่ ขบเม้มเบาๆที่ริมฝีปากล่างจนเกิดเสียง จุ้บ…
“อย่าน่ารักได้ไหม..”
“...”
“หวงจนจะบ้าแล้ว”
จุ้บ...
“อื้ออออ”
ผมอุ้มน้ำมาวางบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าอย่างนุ่มนวล แล้วจับแขนทั้งสองข้างของน้ำมันขึ้นมาโอบรอบลำคอผมไว้ ริมฝีปากก็คลอเคลียไม่ห่างกัน
ซักพักก็ดึงดูดกันด้วยความหลงใหลและมัวเมาในอารมณ์รักใคร่ มือของผมก็เริ่มปดกระดุมเสื้อของคนในอ้อมกอดและของตัวเองออกอย่างช้าๆ ส่วนปากของผมก็คลอเคลียเล็มเลียอยู่แถวใบหน้าของน้ำมันอย่างอ้อยอิ่งค่อยๆเป็นค่อยๆไป สร้างสัมผัสอันหวาบหวามให้ทั้งตัวเองและคนรัก
และจากนั้น ก็ไล่มือลงมาปลดกางเกงของเราทั้งสองคนออก จนร่างกายของเราทั้งคู่เปลือยเปล่า ผมผละออกมามองหน้าคนที่ผิวเคยขาวซีดเป็นกระดาษ แต่ในตอนนี้กับแดงไปทั้งตัว
จุ้บ...
“น่ารัก...”
“แต็งค์... ไอ้หื่น”
“หึหึ”
จุ้บ...
ผมก้มลงไปดึงดูดริมฝีปากของคนในอ้อมกอดอีกครั้ง ซักพักน้ำมันก็เผยอเปิดปากออกเพื่อตอบรับจูบของผม เราสองคนต่างพากันจูบแลกลิ้นเปลี่ยนรสชาติและกวาดต้อนความรู้สึกของกันและกันอยู่ในโพงปากไปเรื่อยๆ
มือก็ลูบไล้ตามสีข้าง ไล้ไปตามแนวกระดูกสันหลังบ้าง จนคนในอ้อมกอดเริ่มกระตุกสั่นหน่อยๆ ผมเลยเอื้อมมือไปหยิบขวดเจลหล่อลื่นที่แอบเอามาวางไว้แต่ครั้งก่อนมาใช้ ชโลมนิ้วและช่องทางด้านหลังของคนรัก และทำการเตรียมช่องทาง ระหว่างที่เราจูบกัน ผมก็เตรียมช่องทางให้คนในอ้อมกอดเพื่อลดความสนใจ พอคิดว่าช่องทางอ่อนนุ่มจนพร้อมแล้ว พร้อมก็ชักรูดแกนกายของตัวเองสองสามครั้ง แล้วจ่อเข้าช่องทางรักของในอ้อมกอดอย่าเบาที่สุด
เนื่องจากช่วงนี้เรามีอะไรกันค่อนข้างบ่อย เลยทำให้น้ำมันชิน และลดความเกร็งได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้แกนกายของผมเข้าไปได้จนสุดในเวลาไม่นาน แช่ทิ้งไว้สักพักผมก็เริ่มขยับสาวแกนกายเข้าออกช้าๆ แล้วผละจูบออกมามองน้ำ ที่ทำสายตาหวานเยิ้มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
จุ้บ...
ผมจูบลงที่ขมับของน้ำมันอย่างหลงใหล อ้อมแขนก็ตะกองกอดไว้อย่างหวงแหน
ผับๆๆๆๆ
“อ่า....”
“อื้อออ เบาหน่อย”
ผับๆๆๆๆๆ
เหมือนคำขอของน้ำจะไม่เป็นผล
เพราะยิ่งได้ยินเสียงมันเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์กระสันอยากให้ผม
“แต็งค์... อ๊ะ”
“อืม...”
ผับๆๆๆๆๆๆ
“อ๊า”
“อ่า”
ใช้เวลาซักพักใหญ่เราทั้งสองก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน น้ำที่กระชับแขนโอบรอบคอผมไว้แน่นพร้อมกับหอบหายใจเหนื่อยอย่างน่าสงสาร ส่วนผมก็กระชับกอดไว้แน่นเช่นกัน พรมจูบไปทั่วทั้งขมับและใบหน้า
“เหวอออ”
แล้วมันก็ตกใจสุดขีด ที่ผมอุ้มมันพรวดพราดทั้งๆที่แกนกายผมยังคาอยู่ในช่างทางรักของน้ำมัน จากเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามายังอ่างอาบน้ำพร้อมเริ่มกิจกรรมรักกันต่ออีกรอบ
“แต็งค์... เหนื่อยแล้ว”
“เดี๋ยวดูแลเอง”
“....”
“นะ...”
ผมสอบตาอ้อนวอนขอทำต่อกับคนที่ใบหน้าแดงจัดที่ไม่รู้ว่าแดงจากการเขินอาย หรือว่าแดงจากแรงอารมณ์ แต่ช่างมันเหอะไม่ว่าจะแดงจากอะไร แต่ในเวลานี้ช่างดูน่ารัก และน่าทนุถนอมไปพร้อมๆกัน
“เบาให้หน่อยนะ พรุ่งมีเรียนเช้า.. อื้ออ”
และคำตอบที่ได้รับก็ทำให้ผมดีดดิ้นลิงโลดที่สุดชีวิต
ก็มีแฟนตามใจอะนะ
จุ้บ...
“ขอบคุณครับ”
“อ๊ะ อื้ออออ”
ผับๆๆๆ
“อ่า...”
“อ๊า”
“อืม...”
จากนั้นก็มีแต่เพียงเสียงหอบครางปนกับเสียงเนื้อกะทบกันดังลั่นห้องน้ำ วนซ้ำไป ซ้ำมา เหมือนว่ากิจกรรมรักนั้นจะไม่จบง่ายๆภายในเร็วๆนี้
เพราะว่ายิ่งได้สัมผัสเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่พอ
ก็คนมันทั้งรักทั้งหลงเค้าขนาดนี้ พอโดนตามใจเข้าหน่อย มันก็ยิ่งหลงเค้าเข้าไปใหญ่
เห้ออออ
ไอ้แต็งค์ในโหมดคลั่งรักนี่...
มันเป็นได้ถึงขนาดนี้เลยว่ะ
[End Part]โดย อีช้อย