จ๊ะเอ๋!!! // หลบเกิบคนอ่าน //
เสาร์มาแล้วเด้อ มาแล้วนะ มาต่อจนกว่าจะจบเลย
ช่วงที่ผ่านมาต้องขออภ้ัยคนอ่านอย่างสุดซึ้งจริงๆ ค่ะ
ด้วยเหตุหลายอย่างทำให้ไม่เป็นไปตามที่วางแพลนไว้ แต่ยังไงก็อยากให้เรื่องนี้มันจบ เขียนมาครึ่งค่อนทางแล้วโถ่
ขอเสียงคนไม่ลืม แสนสอง กับ สองแสนหน่อยเร็ว ฮิ้ววววว
ไปตามอ่านกันเลย!!
=================================================== ‘Our love is twin’
( สองแสน สิบเก้าจุดสอง)
“สอง!” เสียงของคนมาใหม่ทำให้ผมต้องก้มหน้าลง
พ่อ...
“นี่ไม่รู้ตัวกันหรือไงว่าที่ทำมันผิดแค่ไหน!”
“ฮึก..แต่...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พ่อไม่ว่าถ้าจะมีแฟนเป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิง แต่นี่พี่น้องตัวเองแท้ๆ ใครหน้าไหนมันจะรับได้!”
ผมเงียบเพราะอับจนหนทาง แต่ว่า แต่ว่าแสนคือคนที่ผมรัก ไม่ต่างอะไรกับสองคนตรงหน้าผมเลยซักนิด ความผูกพันตั้งแต่ลืมตามาบนโลก ผมไม่รู้ว่าทำไมแสนถึงเลือกแบบนี้ ผมไม่รู้อะไรเลย แต่ครั้งสุดท้าย..ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหวจนทำอะไรโง่ๆลงไป
“ผมรัก..แสน..อึก..แสนคือทุกอย่าง...ฮึก...ผมขอโทษ..ที่อกตัญญู แต่..แต่ผม..ฮึก ขาดแสนไม่ได้”
ผมรู้ว่าพ่อกำลังยับยั้งอารมณ์ตัวเองอยู่ไม่น้อย หน้าของพ่อแดงกล่ำ มีเพียงแม่ที่ร้องไห้ไม่หยุด เพื่อนๆ ผมยืนออกันอยู่ตรงประตู มองมาด้วยความเห็นใจ ในตอนนี้ ผมอยากให้แสน..ได้อยู่ข้างๆผม อยากจะบอกมันว่ากลับมานะ กลับมาสู้ด้วยกันซักครั้ง แม้มันจะดูเป็นการทำร้ายบุพการี แต่..แต่เราทั้งสองคนจะสามารถไปรักคนอื่นได้จริงๆหรอ..
“ฉันจะไม่คุยเรื่องนี้อีก”
พ่อพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ผมก้มลงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้น เหมือนจะขาดใจเสียให้ได้
มันไม่มีทางจริงๆแล้วใช่ไหม..
ผมมองเหม่อออกไปที่นอกหน้าต่าง มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้ลืมตาขึ้นมา ผมไม่ได้อยากตื่น ผมอยากอยู่ในความฝันที่มีมัน แต่ร่างกายของผมมันทรยศ ยังคงรู้สึกตัวทุกครั้งที่มีเสียงเรียก บางทีถ้าผมหมดลมหายใจลงไป แสนจะยอมมาหาหรือเปล่านะ
นับเวลาผ่านไปแต่ละวัน ความคิดของผมก็เริ่มดิ่งลงเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ทุกครั้งที่มาเจอผม ผมปวดแปรบในใจ แต่ความทรมานของผมก็ทำให้ผมเห็นแก่ตัว ถ้าไม่สนใจ ก็จะไม่รู้สึก ถ้าปิดหู ก็ไม่ได้ยินเสียง
“สอง...ฮึก..สอง” ผมไม่ได้ยินเสียงนั้นเพียงมองเห็นแม่ที่กดโทรศัพท์ไปที่ไหนซักที ก่อนจะเบนหน้ากลับมามองท้องฟ้าด้านนอกอีกครั้ง
ผมอยากเป็นนก
อยากเป็นอิสระจากความถูกต้องที่ทุกคนขีดมันขึ้นมา จนมันทำร้ายผม .. ถ้าแบบนั้น คงจะดี ถ้าผมไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย
ค่ำคืนนั้นผมนอนหลับไปด้วยความเหนื่อย เหนื่อยที่จะหายใจ ผมเห็นแสนยิ้ม ส่งมือมาให้ผมจับ ผมวิ่งไปหามันด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่มันกลับยิ่งห่างออกไป ก่อนที่จะหมดแรงในเฮือกสุดท้าย ผมคว้ามันไว้ได้ กอดมันไว้แน่น
‘แสน!’
‘เด็กไม่ดี..ทำร้ายตัวเอง’
‘ฮึก..’
‘ไม่รู้หรือไงว่าเห็นมึงเป็นแบบนี้ .. กูก็เจ็บไม่ต่างกัน’
‘ไม่..อึก แสน .. แสนไม่ อึก อยู่ .. ไม่มี.. ไม่มีแสน’
‘กูอยู่นี่ .. อยู่นี่แล้ว.. ไม่ร้องนะคนดี’
ในความฝันผมพยักหน้าปล่อยน้ำตาจนปวดไปทั้งกระบอกตาร้องของวิงวอนต่อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ผมไม่อยากตื่น ผมอยากอยู่ฝันนี้ แสนมาอยู่กับผมแล้ว.. แต่สุดท้ายผมก็ไม่สามารถฝืนอะไรได้อีก ..
เป็นอีกเช้าที่ผมไม่อยากลืมตา แม้จะรู้สึกตัวแล้วแต่ยังหลับตานิ่ง ฟังเสียงต่างๆในห้องอย่างเงียบๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อสัมผัสอุ่นๆวางแนบแก้ม ตามด้วยลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหน้าผาก
“ตัวขี้เกียจ ตื่นแล้วไม่ยอมลืมตา”
เสียง.. เสียงที่ทำให้ผมต้องรีบลืมตาขึ้นมา รอยยิ้มที่ส่งมา.. ผมเอื้อมมือที่สั่นเทาไปวางแปะบนใบหน้าซูบซีดแล้วออกแรงดึง
“โอ้ย หยิกกูทำไมเนี่ย”
แสน..
แสนสองของผม..
แสน..
น้ำตาพากันพลั่งพรูออกมาพร้อมกับผมที่ใช้แรงอันน้อยนิดรั้งรอบคอมันลงมาโอบกอดไว้แน่น
“แสน ฮึก.. แสน”
“อืม..อยู่นี่แล้ว ขอโทษ .. ขอโทษนะ”
ผมส่ายหน้าอยู่บนไหล่ของมัน อยากจะโกรธ อยากจะน้อยใจแต่คิดว่าทำไปก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะมันอยู่ตรงนี้แล้ว อยู่กับผมแล้ว แม้รูปร่างภายนอกจะดูผิดหูผิดตา หนวดเครานี่ใครสั่งให้มันไว้กันนะ แต่ดวงตาของมันยังระยิบระยับอยู่เสมอที่มองผม แค่นั้น แค่นั้นก็พอแล้ว
“ไอ้พวกเหี้ย อึก .. เลิกร้องไห้กันเลย .. กูทนไม่ไหวแล้ว ฮือ..” เสียงดังมาจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันหน้าออกไปดู พวกไอ้บีมกับไอ้เก่งกอดกันร้องโฮๆ มันตลกจนต้องหัวเราะออกมา ผมหันกลับมามองหน้าของแสน
“ขี้เหร่”
ผมชะงักอารมณ์วาบหวามเมื่อกี้หายวับไปกับตา ถลึงตาใส่มันก่อนฟาดผัวะไปเต็มแรงที่ข้างแก้ม อย่าคิดว่ามันจะเจ็บนะครับ เริ่มรู้สึกเสียใจที่อดข้าวอดน้ำประท้วงจนตัวเองไม่มีแรง มันก็ไม่ได้โกรธ กลับหัวเราะชอบใจแล้วโน้มหน้าลงมากดจูบบนริมฝีปาก ผมดึงเส้นผมตรงท้ายทอยมันด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะเปิดปากให้มันชอนไชลิ้นเข้ามา
จูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความรัก ทำให้หัวใจของผมกระตุกอย่างรุนแรงก่อนจะกลับมาเต้นด้วยความปิติยินดี เราสองคนเลิกสนไอ้สองคนในห้องแล้วมาแบ่งปันลมหายใจกันอย่างไม่หยุดพัก เรียวลิ้นของมันทำให้ผมรู้สึกวาบหวามไม่หยุด แต่ก่อนที่มันเลยเถิด ประตูห้องก็ถูกเคาะเสียก่อน
ตอนที่แสนถอนปากออกไปผมยังรู้สึกมึนๆเบลอๆอยู่เลย ปลายนิ้วที่หยาบเล็กน้อยเช็ดที่มุมปากให้ ริมฝีปากมันระบายยิ้มละมุนอย่างที่ผมค่อยได้เห็นบ่อยๆ จนทำเอาหน้าร้อนผ่าว มันจูบลงบนหน้าผากอีกครั้งพร้อมกับผูกเชือกเสื้อคนปวย...
เอ๊ะ??
มันถอดตอนไหน..?
...ไอ้แสน...
“ไอ้หื่น!”
“หึหึ”
อย่าคิดว่ามันจะสะดุ้งแต่อย่างใด คำด่าว่านั่นไม่มีผลเลยซักนิดและผมยังไม่ทันได้ด่าอะไรอีก ประตูห้องก็เปิดเข้ามา พร้อมกับแม่ ไอ้บีม กับไอ้เก่ง มันทำหน้าโล่งใจ ที่ผมรู้ดีว่าทำไม คงกลัวเจอฉาก 18+ ละซี่
“สอง...”
“งั้นพวกผมกลับก่อนดีกว่านะครับแม่ สวัสดีครับ กูไปแล้วสอง แสน” ไอ้เก่งกับไอ้บีมลากลับไปอย่างรู้หน้าที่ แสนก็เขยิบลงจากข้างเตียงไปยืนเว้นที่ให้แม่ได้นั่งตรงเก้าอี้
“ผมขอโทษ”
ผมรู้ว่าผมมันบาป บาปเหลือเกิน ตลอดเวลาแม่เสียน้ำตาให้กับผมไม่น้อย แต่ผมก็ยังทำตัวอยู่แบบนี้ แม่ส่ายหน้าทั้งน้ำตาคลอ โผเข้ามากอดผม ผมอดไม่ได้ที่จะร้องไห้กอดตอบแม่ไป เพิ่งสังเกตว่าไม่ได้มีแค่ผมที่ซูบซีดลง แม้แต่แม่ก็ยังผอมลง ใบหน้าอมทุกข์เช่นกัน ผมนึกด่าโทษตัวเองไม่หยุด จนกระทั่งมีอีกคนที่เข้ามาโอบกอดผมกับแม่ไว้
“ผมก็ขอโทษครับแม่”
“ไม่เป็นไรลูก อึก.. แม่รักลูกเสมอ.. ลูกของแม่ทั้งสองคน” น้ำเสียงสั่นเครือของแม่ทำให้ผมเจ็บปวดไม่น้อยลงกว่าเดิม พักใหญ่ๆที่พวกเราเริ่มสงบสติกันลงได้ แสนขอตัวเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนกลับมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำสองผืน มันโยนให้ผมผืนหนึ่งก่อนจะหันไปส่งให้แม่
“ต่อไปนี้..แม่ไม่ห้ามแล้วลูก.. เห็นเราทั้งสองคนทำร้ายตัวเองแบบนี้ แม่ยิ่งเจ็บปวด”
ผมก้มหน้าลงอย่างไม่มีข้อโต้แย่ง แม้ในใจจะดีใจ แต่ประโยคหลังก็ยังคงย้ำเตือนว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ดี
“และแม่จะขออีกซักอย่าง ได้ไหมลูก”
ผมกับไอ้แสนเงยหน้ามอง รอคอยให้แม่พูด
“ตั้งใจเรียน ดูแลกันและกันไปเรื่อยๆ อย่าทอดทิ้งกัน ได้ไหมคะ”
แม่มองพวกเราด้วยความอ่อนโยน ผมอุ่นขึ้นมาในอกและยังไม่ทันได้ตอบอะไร แสนก็คว้ามือผมไปจับไว้
“ผมจะไม่ทิ้งสอง ผมจะดูแลสองเองครับ”
ผมเม้มริมฝีปากหน้าเห่อร้อนจนต้องหลบหน้าหลบตาแม่กับมันที่มองมาอย่างมีนัยยะ
“อุ้ยตาย.. สรุปแล้ว.. สองเป็นช้างเท้าหลังหรือลูก”
“ใช่แม่”
ไอ้หน้ามึนแสน!! ผมเงยหน้าไปถลึงตาใส่ หนีบเนื้อที่เอวมันด้วยทีนึง
“โอ้ย เจ็บนะ”
มึงเจ็บแบบไหน ตามึงถึงระยับแบบนั้น ไอ้ฟักแฟงแตงโมไชโยโห่ฮิ้ววววว!! แม่กับมันพากันหัวเราะที่ทำให้ผมหัวเสียได้ ผมก็ฮึดฮัดไปเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก แต่ปวดแก้มจังเลย..
“อย่าเพิ่งดีใจไปละ .. พ่อน่ะ .. ยังทำใจไม่ได้หรอกนะ”
แม่พูดมาถึงตอนนี้พวกผมเลยนิ่งคิด จะว่าไป พ่อก็ไม่มาเยี่ยมผมอีกเลยตั้งแต่วันนั้น พ่อคงรังเกียจผมแล้ว
“แต่สอง.. ครั้งนี้ไม่เอาแบบนี้อีกนะลูก ลูกสองคนต้องช่วยกันนะคะ แต่หาวิธีกันเอาเองนะ แม่ไม่ช่วย”
“อ้าว..”ผมร้องออกมาด้วยความเสียดาย นึกว่าแม่จะช่วยซักหน่อย โถ่
“อ้าวอะไรหา?! ไม่รู้ละ หาทางกันเอาเองนะจ๊ะ”
แม่พูดแค่นั้นก่อนจะลุกออกจากห้องไป เห็นว่าขอไปหาอะไรกิน แต่มีไอ้เนียนอยู่คนหนึ่งที่ป่านนี้มันยังไม่ยอมปล่อยมือผมเลย
“ปล่อยได้แล้ว”
“ไม่..”
“จิ๊.”
“มึงก็ชอบ ปฏิเสธทำไม”
“อย่ามารู้ดี!”
“หึ.. หรือไม่จริง”
“...”
“ตอบสิ”
“ไม่รู้เว้ย”
“กูรักมึงนะ..”
“ไอ้บ้า!”
“รัก”
“ฮื่อ!”
“รัก”
“รักเหมือนกัน”
ผมตอบออกไปเสียงอ่อยเหลือบตามองมันแล้วต้องหันหนี พยายามจะมุดหน้าลงหมอนแต่ทำไม่ได้ไง! มันจับมือคาไว้และยังนั่งขวางทางอีก ฮือ ไอ้แสนแม่งขี้แกล้ง ระหว่างที่ผมกำลังเขินอยู่ๆมันก็พูดออกมาทำเอาน้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง
“จะไม่ทิ้งอีกแล้ว .. สัญญาเลย”
“อื้อ!”
ดาวเสาร์.