ammriss.
my stories
ต่อยเองนักเลงพออะไรของแม่งวะจีบหมอ ✿ หากชอบใคร ให้ใช้ยางลบ ✿
“มึงๆ”
“ว่า”
“ช่วยเอานมเย็นไปให้โต๊ะนั้นทีดี”
“…” คนข้างๆผมไม่ตอบ ค่อยหันกลับมามองผมที่นั่งยิ้มอ้อนวอนอยู่ข้างๆ
“คนใหม่อีกแล้วเหรอ” มันถาม
“ไม่ใหม่ กูชอบมาสองวันแล้ว” ผมตอบมันตามความจริง
ไอ้เพื่อนสนิทหันมาเบิ๊ดกะโหลกเข้าให้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับแล้วโยกไปมาแทน
หมายถึงจับหัวนะครับ
“ถุย มึงนี่มันเบื่อง่าย ใจเร็วจริงๆไอ้หยง” มันโยกไปด่าไป
“คือ ขอโทษนะครับ กูไม่ได้เบื่อง่าย แต่เค้าน่ะไม่เอากู ไอ้สัด” มันขำพรืดออกมา
”แล้วสรุปคุณชายเปอร์จะช่วยตันหยงได้ไหมครับ”
เมื่อประโยครูปแบบนี้ที่เรียกแทนตัวเองว่าตันหยงถูกเอ่ยออกมา เป็นที่รู้กันว่าอ้อนวอน
ส่วนไอ้เปอร์คนใจห่ามนั้น…
มีหรือจะปฏิเสธ ฮี่ๆๆๆ
มันทำหน้าหน่ายใจพร้อมถอนหายใจรอบที่ล้านแปด แล้วหยิบนมเย็นที่ผมยื่นให้ ก่อนเดินไปหาโต๊ะที่ผมชี้นิ้ว
บอก
ผู้หญิงที่ผมเล็งอยู่ชื่อแก้มใสครับ ปี2 คณะนิเทศน์ ไม่ได้สวยเด่นหรือน่ารักโคตร ก็น่ารักแบบธรรมดาๆแต่
โดนใจนี่แหละครับ
ทำไงได้ จะให้ชอบคนที่เป็นดาวหรือโดดเด่นขนาดนั้นก็เกินไป เพราะแค่ระดับธรรมดาเค้ายังไม่สนใจกูเลย
ห่า ชีวิต…
ผมก็ว่าหน้าตาผมก็ไม่ได้แย่ อาจจะไม่ได้ดูเท่ดูหล่อขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร หน้าใส จมูกโด่ง คริๆ
ส่วนสูงก็ไม่ได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน 176 นี่แย่หรอครับ
หรือที่ไม่มีใครสนใจอาจเป็นเพราะเพื่อนสนิทตัวใหญ่ที่ตอนนี้ผมส่งไปดีลสาวให้อยู่
ไอ้ห่านั่นชื่อ
ไอ้เปอร์ มันเคยหลุดออกมาว่ามาจากคำว่าเปอร์เซีย เล่นเอาผมขำท้องแข็งไปทั้งวัน
ถ้าคุณมารู้จักกับมัน คุณจะรู้ว่าชื่อมันที่สวยๆนั้นโคตรตรงข้ามกับนิสัย
มันเป็นผู้ชายแมนๆ เท่ๆ ห่ามๆ นิ่งกับคนที่ไม่รู้จัก แต่กับเพื่อน….
มันให้เต็มร้อย
เห็นสาวๆก็มีกรี๊ดมันบ้างเหมือนกัน เวลาผมอยู่กับมันทีไรรู้สึกเหมือนตัวหดลีบลงเหลือ2เซนตลอด
ไม่ใช่ว่ากลัวมันนะครับ
โดนมองข้ามต่างหาก เวนเอ้ยยยยยยยยยยย
“คิดอะไรของมึง” มันพูดก่อนจะตบหัวเบาๆ
ไอ้ห่าถ้ากูสมองยุบกูจะฟ้องตำรวจให้มาจับมึง ตีหัวกูเช้าเย็นขนาดนี้ คนยิ่งโง่ๆอยู่
“ให้มาแล้วเหรอ” ผมถามเมื่อมันนั่งลงกับโต๊ะข้างๆผม
“เออ”
“เค้าว่าไงบ้าง”
“ก็ไม่ว่าไง”
“อ้าว แล้วเค้าไม่ถามเกี่ยวกับกูเลยหรอ”
“จะถามได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”
“อ้าว!!!!!”
ไอ้ส้นตีน กูฝากมึงไปให้เค้า มึงก็ต้องบอกสิวะว่าแก้วนี้มาจากกู
“ก็เห็นมึงไม่ได้บอกให้กูพูดอะไร กูเลยเอาไปให้อย่างเดียว ”
“แล้วเค้าถามมึงว่าอะไรป่ะ”
“เค้าถามว่ากูเป็นคนให้เค้าหรอ”
“แล้วมึงตอบว่า”
“ก็ไม่ได้ตอบอะไร”
อ่อ…แล้วไป
“แค่ยิ้มตอบเฉยๆ”
ดีจ้า…
ถุยยยยยยย ไอ้สัด มึงยิ้มก็เหมือนยอมรับไงว่ามึงเป็นคนให้ ไอ้ควายเผือกกกกกกก
โง่จริงๆเพื่อนกู นี่ผมใช้ผิดคนป่ะวะเนี่ย
“ไอ้เปอร์ มึงโง่หรือมึงโง่วะ ถามจริง กูใช้ให้มึงไปจีบกี่คนแล้วมึงยังไม่ชินอีกหรอวะ ไม่ได้เรื่องเลยอะ”
ผมบ่น ควันเริ่มออกหู
“ก็เออสิวะ” มันดีดหน้าผากผม “ก็มึงใช้ให้กูไปจีบกี่คนแล้วล่ะ น้องน้ำ น้องพลอย น้องบิ๋ม น้องจีน ใครอีกวะกูคิดไม่ออก”
เออ กูก็คิดไม่ออกเหมือนมึง
มันถอนหายใจดังๆ ก่อนจะดึงผมให้หันไปพูดกับมันจริงจัง
“ถามจริง”
“อือ” เมื่อมาโหมดจริงจังกูก็จะไม่กวนตีนมึง
“มึงไม่เข็ดหรอวะ”
“เข็ดทำไม ก็ความรักไม่ใช่ความลับถ้าอยากจะรักทำไมต้องปิด อะฮู่ว”
“ยังไม่เลิกกวน” มันด่า “ไอ้หยง เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมึงเพิ่งอกหักจากน้องจีนไปไม่ใช่หรอวะ”
“หะ ใครนะ กูลืมไปและ”
“ไอ้สัด ลากกูไปแดกเหล้าตั้งแต่ยังไม่หกโมง ร้องไห้ตาบวมขนาดนั้นอย่ามาทำเป็นลืม”
“ลืม กูจำไม่ได้จริงๆ”
“น้องจีนคนที่เค้าไม่เอามึงแต่ไปเอาทอมไง”
“ไอ้สัด ไม่ต้องย้ำ แผลกูยังช้ำอยู่”
มันขำ แต่กูไม่ขำ ไอ้เหี้ย
“เห็นป่ะ อาทิตย์ก่อนมึงยังอกหักอยู่เลย มึงจะหาคนใหม่แล้วหรอวะ”
“อ้าว ก็เพราะกูอกหักไงเลยต้องหาคนใหม่”
“แล้วถ้าอกหักอีกรอบล่ะ”
”… นี่มึงเพื่อนกูแน่ป่ะเนี่ยไอ้เปอร์ แช่งกูจัง”
“ก็เพื่อนน่ะสิถึงถาม ไอ้ควาย กูขี้เกียจไปแดกเหล้ากับมึงทุกอาทิตย์นะโว้ย กูก็อยากไปทำอย่างอื่นบ้าง”
เวรหรรม นี่กูอกหักทุกอาทิตย์เลยเหรอวะ
เอาไปบันทึกกินเนสท์บุ๊คได้ไหม จะมีคนสู้กูได้หรือเปล่า
“มึงก็รู้ กูมันขี้เหงา” ผมตอบไอ้เปอร์เสียงหงอย สารภาพไปตรงๆ
“ก็มีกูอยู่นี่ไง”
“ไม่เอา สงสารมึง มึงจะได้ไปทำอย่างอื่นบ้าง ไม่งั้นกูก็เกาะมึงเป็นปลิงแดกเลือดควายอยู่แบบนี้”
“วันหลังมึงด่ากูตรงๆก็ได้ไอ้สัด”
ผมขำ “สรุปตัดตอนเลยนะ มึงช่วยไปบอกอีกทีสิว่าน้ำแก้วนั้นมาจากกู”
หน้าไอ้เปอร์ตอนนี้เหมือนอยากด่าแต่ก็ไม่รู้จะด่าอะไรผม ผมเลยรีบพูด “นะๆๆ”
”งั้นมึงก็ไปกับกูนี่แหละไอ้หยง”
มันว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับแขนผมแล้วลากไปที่โต๊ะน้องเค้าทันที
โอ๊ะ โอ๊ะ
เห็นหน้าใสๆใกล้ๆแล้วใจลัลลายยยยยยยยย
ผมยืนเขินตัวบิดไปมาสองสามที ก่อนจะตั้งสติได้เมื่อไอ้เปอร์เอื้อมมือมาหยิกเอวแรงๆ
อูยยยย ถ้าเอวกูใช้ไม่ได้นะกูจะเอาเรื่องมึง เอวกูพลิ้วววว สมบัติประจำตัวเลยนะโว้ย
เมื่อเห็นมันไม่พูดอะไร ผมเลยเปิดบทสนทนาทันที
“โทษนะคร้าบ”
“ค่ะ” น้องแก้มใสและเพื่อนอีกหนึ่งคนเงยหน้าขึ้นมอง อูยยย น่ารักๆๆ ตาโตเชียว
“คือ เมื่อกี้พี่ฝากเพื่อนซื้อนมเย็นมาฝากน้องอะครับ”
“อ้าว … เหรอคะ”
เอ้า
ทำไมน้องแก้มใสต้องทำหน้าสลดอย่างนั้นล่ะคะ
พี่เสียใจนะเนี่ย ฮือออออออ
“พี่ชื่อตันหยงนะ อยู่วิศวะปี4 ส่วนไอ้นี่ชื่อไอ้เปอร์ อยู่ปีสี่คณะเดียวกัน”
“ค่ะ” น้องยังทำหน้างงๆ คงสงสัยว่าจะพามาแนะนำตัวทำไมสองคน
เออว่ะ ทำไมผมไม่มาคนเดียวไปเลยวะ ลากไอ้ห่านี่มาด้วยทำไม มาก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากแย่งความหล่อจากผมไป
ฮือออ
“น้องแก้มใสชอบกินอะไรบ้างหรอคะ” ผมถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ
หึๆ ร้อยละ90 ของผู้หญิงน่ะชอบหมดแหละ ผู้ชายพูดคะค่ะน่ะ
ผมยังชอบพูดเลย มันน่ารักดี
“ถามทำไมคะพี่ตันหยง”
ว้ายยย เรียกชื่อกูด้วยอ่า
”เดี๋ยวซื้อมาฝาก”
น้องไม่ตอบในทันทีแต่ทำหน้าเหมือนกำลังคิดคำตอบในหัว
ไอ้ห่า ลุ้นเยี่ยวจะเล็ดแล้วเนี่ย เพราะดูจากรูปประโยคก็เป็นการสื่อกลายๆว่า ขอผมจีบนะ
น้องแก้มใสเมื่อตัดสินใจได้เงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับพูดว่า
“พี่ซื้อหรือพี่เปอร์ซื้อคะ”
โอ้โฮฮฮฮฮฮอฮฮอฮ
ไอ้เหี้ยยยยยยย ชัดเลยยยยยย
พรืดดด…
ผมหันไปส่งสายตาอาฆาตให้กับไอ้คนข้างๆที่มันยืนขำไม่รู้เวล่ำเวลาก่อนจะแอบเอื้อมมือไปหยิงพุงมันด้วยความหมั่นไส้
หยิกแทนเอวกูด้วย ไอ้เวน
"ขำเหี้ยอะไร"
"เปล่า" มันส่ายหน้าแต่ยังไม่หยุดขำ
"ส้นตีนติดคอรึไง" ผมพูดก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อหันไปเจอตาโตใสจ้องอยู่ก่อนหน้า
"พี่เปอร์เป็นอะไรเปล่าคะ น้ำไหม"
ไอ้เปอร์ส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเหล่สายตามาหาผม
เออ กูรู้แล้ว ไอ้ควายยยยยย เค้าชอบมึงไง เค้าชอบมึง แต่มีหรือคนอย่างไอ้ตันหยงจะยอมแพ้
สู้สิครับ
"ไอ้เปอร์มันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะน้องแก้มใส มันอึดถึกควาย ฆ่าไม่ได้ ฟันไม่เข้าจ่ะ แล้วว่าแต่น้องแก้มใสชอบกินอะไรเอ่ย
เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้"
น้องแก้มใสอึกอักๆ หันไปมองไอ้เปอร์ทีก่อนจะตอบ
"แก้มใสชอบกินน้ำลำไยค่ะ"
โอ้โห ล่อชื่อแม่กูเลย
ดีๆว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่
"โอเคคร้าบ งั้นพี่กลับไปกินข้าวต่อก่อนน้า"
แก้มใสไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้า แอบมองไอ้เปอร์นิดหน่อย
แก้มใสน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้เปอร์!!!
มึงไปส่งสายตาให้น้องเค้ากลับทำม๊ายยยยยย กูเห็นนะโว้ยยยยยยยย
"เอ้า นั่งดิ ยืนทำอนุสาวรีย์อะไร" ไอ้เปอร์พูดขึ้นเมื่อเราเดินมาถึงโต๊ะ "กินข้าวเร็ว"
"กูไม่แดก"
ไอ้เปอร์นิ่ง ผมหันไปมองมันด้วยสายตาขุ่นๆ
"เอาอีกละ งอนกูอีกละ"
"กูไม่ได้งอน"
"เหรอ" มันยักคิ้วกวนตีน "แล้วสรุปมึงงอนกูเรื่องไรล่ะ"
"แก้มใสกับมึงส่งสายตาให้กัน กูเห็น"
"อ้าวแล้วไหนบอกไม่งอนกู"
เอ้า หลอกให้กูพูดนี่หว่า
"ไม่ได้งอนโว้ย โกรธอ่ะ กูโกรธมึง กูให้มึงไปช่วยจีบนะโว้ยไม่ใช่ให้คาบไปแดก"
"ก็เค้าส่งสายตาให้กูขนาดนั้น" มันยิ้ม
"แล้วมึงจำเป็นต้องส่งสายตากลับรึไง"
"เห้ย กูเปล่า กูแค่มองกลับ"
"มันก็เหมือนกันไอ้สัด"
ผมไม่ตอบอะไรเพิ่ม ก้มลงนั่งแดกข้าวด้วยความเร็วสูง
ไอ้เหี้ย หงุดหงิดโว้ยยยยย
"หยง ใจเย็นเดี๋ยวติดคอ"
มันเอื้อมมือมาดึงมือผมไว้แต่ผมไม่สนใจ
ก้มลงแดกต่อ ทำไม มึงจะทำไมกู
ถ้ากูจะแดกเร็วจนหลอดอาหารไหม้แล้วมึงจะทำไมกู
"ตันหยง กูบอกว่าเดี๋ยวติดคอ"
เสือก
ผมด่าในใจ เมื่อมันเห็นผมไม่สนใจ
มันเลยถอนหายใจยาวราวกับเบื่อหน่ายผมเต็มทนก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้วเดินออกจากโต๊ะไป
อะ .. อ้าว
ผมเงยหน้าตาม ไปไหนวะ ไม่สนใจกูหน่อยหรอ โกรธจนไฟจะไหม้โต๊ะอยู่แล้วเนี่ย
จากหงุดหงิดกลายเป็นโกรธจริงทันที ไอ้เหี้ย ทำไมเมินกูได้ ละนั่นมันหายไปไหนแล้ววะ ไปขี้รึไง
ทำไมวันนี้มันไม่มีอะไรได้ดั่งใจสักอย่างเลยโว้ยยยย
ผมคิดก่อนจะพยายามข่มความหงุดหงิดในใจด้วยการแดกลูกชิ้นสามลูกติดกัน ไอ้ห่า เกือบติดคอ รีบไปหน่อย
แล้วกูจะรีบประชดใครวะเนี่ย เจ้าตัวก็ไม่อยู่
แสบคอ อยากแดกสตรอเบอร์รี่ปั่นโว้ยยยยย
ปึก!!!!
ผมเงยหน้าตามเสียงแก้วที่กระทบโต๊ะตรงหน้าก่อนจะพบกับไอ้เปอร์คนเดิม
เพิ่มเติมคือมันกลับมาพร้อมกับน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่น
"ของใคร" ผมถาม
"ของมึง กูซื้อให้"
"ซื้อทำไม"
"ง้อ" มันตอบนิ่งๆ ก่อนยักคิ้วหนึ่งข้าง "ชอบกินไม่ใช่เหรอ สตรอเบอร์รี่ปั่นน่ะ ใส่เยลลี่ให้ด้วย"
อื้อหือ....
ผมมองแก้วน้ำปั่นข้างหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ
ณ จุดนี้ความโกรธมันหายไปหมดแล้ว ละลายไปกับลูกสตรอเบอร์รี่ข้างหน้า
"ฮือออ มึงรู้ใจกูที่สุดเลยยยยยไอ้เปอรรรรรรร์"
ผมโผเข้าเอาหน้าถูไถแขนมันจนเสื้อมันเปื้อนเหงื่อผม ด้วยความรังเกียจ มันเลยดันหน้าผมออก
"กินแล้วก็หายงอนกูด้วยนะ"
"จ้า"
ผมยิ้ม ดูดน้ำปั่นในมือจ๊วบๆ
"อร่อยปะ"
"หย่อย"
"ได้ของกินแล้วพายุสงบเลยนะมึง" มันหัวเราะหึๆ "อย่างกับเด็ก" พร้อมกับผลักหัวผม
กวนตีน! ผมเกือบจะเอื้อมมือออกไปตบหัวมันสักป้าบ แต่ลืมไป..
มือผมถือแก้วสตรอเบอร์รี่ปั่นอยู่
รอดตัวไปนะมึง
"ไอ้เปอร์ คือกูไปอ่านมา"
"อ่านไรวะ" ไอ้นนท์นี่นั่งอยู่ข้างไอ้เปอร์ชะโงกหน้ามามอง
ตอนนี้พวกเรากำลังนั่งวางแผนโปรเจ็กต์ที่จะต้องส่งไฟนอลอยู่ครับ แต่ด้วยความที่สมองตันยิ่งกว่ารูอึกันทุกคน
ตอนนี้เลยได้แต่นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
กลุ่มผมมี4คน ผม ไอ้เปอร์ ไอ้นนท์ แล้วก็ไอ้แว่น กลุ่มผมเนี่ย มีแต่สาระนะครับ สารเลว ไอ้ห่า
"มึงชื่อไอ้เปอร์หรอ หันมาตอบกูอ่ะ"
"ว้ายยยยยยย" ไอ้แว่นหันไปเยาะเย้ยไอ้นนท์ ที่พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจใส่ผมว่า "ใช่สิ กูมันเพื่อน ไม่ใช่ผัวมึงนี่"
"ผัวเหี้ยอะไรล่ะ ล่าสุดมันจะแย่งเมียกูอยู่แล้ว!!!"
"หะ !! อะไรนะ มึงมีเมียแล้วเหรอ"
"เมียในจินตนาการ" ไอ้เปอร์ที่นั่งนิ่งอยู่นานหันมาตอบ ไอ้สองตัวที่เหลือเลยได้หัวเราะก๊ากด้วยความสะใจ
พร้อมพูดตบท้ายว่า กูว่าแล้วววว
ไอ้ห่า ไอ้เปอร์ นั่งเงียบๆไปก็ไม่มีใครด่าว่าใบ้แดกหรอกนะครับ
"กูมีเรื่องจะเล่า แต่มึงพูดงี้กูไม่เล่าแล้วดีกว่า"
"โอเค กูไม่รู้ก็ได้"
อ้าว เดี๋ยวๆ ง่ายๆงี้เลยหรอวะ
"แต่เรื่องนี้มันเด็ดมากเลยนะเว้ยย"
"ไม่เป็นไร"
ไอ้เหี้ย
"อ่ะๆ กูสงสารมึง กูบอกให้ก็ได้"
"สงสารไรวะ กูยังไม่เห็นไอ้เปอร์มันบอกว่าอยากรู้สักนิด"
"เสือก" ผมหันไปด่าไอ้แว่น มันเลยทำท่ากระซิกๆไปหาไอ้นนท์ "มันด่ากูอีกแล้วววว"
"ว่ามา" ไอ้เปอร์หันมาให้ความสนใจผม(สักที)
"คือวันนั้นกูไปอ่านคัมภีร์สวรรค์ชั้นเจ็ดฉบับเจ๊ดาวมา..."
"นี่มึงยังไม่เลิกอ่านไอ้ของงมงายอย่างนั้นอีกเหรอ" ไอ้เปอร์ขมวดคิ้วใส่ผม
"บ๊ะๆๆ ไอ้นี่มันวอนซะแล้ว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะเว้ย เค้าบอกว่า ใครที่แอบชอบ ใช้วิธีพวกนี้จีบแล้วได้ผลชงัดนัก"
"แล้วเป็นไง คนก่อนๆที่มึงจีบ"
"แห้วทุกราย!" ไอ้นนท์หันมาพูดใส่หน้าผมเสียงดังก่อนจะหันไปหัวเราะก๊ากกับไอ้สองตัวที่เหลือ
"เออออ ย้ำกูกันจังไอ้พวกเวร ก็คนก่อนๆกูไม่ได้ใช้ฉบับนี้ สรุปว่ามึงจะฟังกูไหมล่ะ" ท้ายประโยคผมหันไปบอกไอ้เปอร์
"อ่ะๆ ว่ามา เค้าบอกให้มึงไปทำไร"
"เนี่ย ทฤษฎีข้อที่ 19 เค้าเขียนไว้ว่า ….
หากชอบใคร ให้ใช้ยางลบ"
ไอ้เปอร์ขมวดคิ้ว "ยังไงวะ"
"น่านนนน สนใจแล้วอ่ะดิ ก็เนี่ย เค้าบอกว่าถ้ามึงชอบใครใช่มั้ย ให้มึงเขียนชื่อตัวเองบนยางลบแล้วเอาไปให้คนที่มึงชอบ
ถ้ายางลบมึงอยู่กับเค้าครบ7 วัน มึงจะสมหวัง"
ไอ้เปอร์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ผมเลยพูดต่อ "เนี่ย ทีนี้มึงก็ไม่ต้องมาช่วยกูลุ้นแล้ว เพราะยังไงกูก็สมหวัง ชิงมีแฟนก่อนมึงแน่นอนจ้า"
ไอ้เปอร์ส่ายหัวไปมา ก่อนจะหันมาบอกผมว่า
"หยง ... มึงเช็คสมองบ้างนะ กูเป็นห่วง"
เช็คเชิคอะไรล่ะวะ มึงนั่นแหละไอ้สันควาน
“ไม่เชื่อแล้วจะเสียใจ อย่าให้กูเห็นมึงแอบเอาไปใช้ละกันไอ้เปอร์”
”หล่ออย่างกู ไม่มีวัน”
“จ้าาา คนหล่อจ้า ระวังหยงมีแฟนก่อนไม่รู้ด้วยน้าาาาา”
หึหึ หัวเราะในใจก่อนจะหันไปประกาศกับทุกคนในกลุ่มให้รับรู้พร้อมกัน
“เย็นนี้กูจะเอายางลบไปให้แก้มใสให้ได้ พวกมึงคอยดู!!”
ตกเย็น
“ไอ้เปอรรรรร์ ไอ้เปอร์อยู่ไหน ฮือออออออ”
“อ้าวเฮ้ย ไอ้หยง มึงร้องไห้ทำไม”
ไอ้นนท์ที่นั่งขีดเขียนอยู่บนกระดาษกับไอ้แว่นหันมามองก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเห็นหน้าบูดๆเบี้ยวๆของผม
“ฮือออออ ไอ้เปอร์อยู่ไหนนนนน”
“คือ คือ” พวกมันไม่ตอบ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก “บอกกูมาก่อนสิว่ามึงเป็นอะไร”
“กู กู เหมือนจะอกหักเลยว่ะ ฮือออออออออ”
“อ้าวไอ้สัด ไวจังวะ”
ฮึก
ผมมองหน้ามันก่อนที่หน้าจะบูดขึ้นมากกว่าเดิม ไอ้เหี้ย สาบานว่านี่พวกมึงให้กำลังใจกู
“กูบอกว่ากำลังจะ ไม่ได้แปลว่ากูอกหักแล้วโว้ย“
“อ้าว โธ่ ตันหยงงง กูขอโทษ”มันทำท่าจะมาปลอบ แต่ผมยื้อตัวหนี
“ไอ้เปอร์ไปไหน กูจะไปหาไอ้เปอร์!”
“จ้า วินาทีนี้ใครก็ไม่สู้ท่านเปอร์“
“มันอยู่ไหน!”
ไอ้สองคนนั้นหันหน้ามองกันเลิ่กลั่กก่อนจะตอบ “ไปดาดฟ้า”
“งั้นกูไปหามันก่อนนะ”
“เดี๋ยว!!!!!!”
พวกมันสองคนตะโกนพร้อมกันหน้าตั้ง
“อะไรของพวกมึงเนี่ย”
“มึงไปตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไม”
“มีคนกำลังสารภาพรักไอ้เปอร์อยู่”
…
วูบเลยครับ นี่ผมกำลังจะอกหัก หนำซ้ำไอ้เปอร์ยังจะทิ้งผมไปมีแฟน
วูบเลยครับ
“เดี๋ยวๆ ไอ้ห่าหยง มึงใจเย็นก่อนนะ ไอ้เปอร์มันยังไม่ได้จะเทมึงไปไหน มันแค่ไปฟังคำสารภาพรักโว้ย เอ้า ไปห่าาา
วิ่งไปไหนวะ!!”
ผมไม่สนใจเสียงร้องตะโกนบอกให้หยุดที่ดังตามมา ฮืออออออ กูปวดใจ อกก็หัก เพื่อนก็จะเท
นี่กูควรเศร้าจากอะไรก่อนดีวะเนี่ย
ผมหลบไปที่ประจำมุมเดิม สวนหลังตึก 5 ที่ลับๆที่น้อยคนนักที่จะรู้จัก
คนที่จะมาส่วนใหญ่ก็มีแค่สมาชิกชมรมพืชผักสวนครัวนี่แหละครับ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้น
ที่นี่คือหลุมหลบภัย เวลามีเรื่องไม่สบายใจผมชอบมานั่งเล่น บางครั้งมันก็ช่วยให้ผมหายคิดมาก
แต่บางครั้งก็ไม่
เช่นเดียวกับครั้งนี้...
จริงๆแล้วผมเป็นคนค่อนข้างมองโลกในแง่ดี ไม่มีปัญหาอะไรกับการใช้ชีวิตของตัวเองนัก
ยกเว้นอย่างเดียวเลยที่ผมเกลียด
ผมเกลียดตัวเองที่เป็นคนขี้เหงา
ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ขาดใครไม่ได้แล้วครับ
อย่าตกใจ ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาผมมีแฟนแค่สองคนเองครับ เลิกไปตอนปีสองปลายๆ
หลังจากนั้นก็จีบใครไม่ติดอีกเลย
ไอ้ห่า นี่ชาติที่แล้วกูไปแย่งเมียชาวบ้านเค้ามาป่ะเนี่ย ชาตินี้กรรมมันเลยแรงจริงๆ
พอไม่มีแฟนกรรมก็เลยมาลงที่เพื่อนครับ ลงหนักหน่อยก็ที่ไอ้เปอร์นี่แหละ
ช่วงแรกๆที่ปรับตัวไม่ได้หลังเลิกกับแฟนผมติดเพื่อนหนักมากกกกกก จะไปขี้ทีกูต้องคว้ามันไปทั้งกลุ่ม ไม่ได้ครับ
ไปเยอะๆจะได้อุ่นใจ คนมันขี้เหงา
จนหลังๆเนี่ยแหละเริ่มปรับตัวได้เลยลดลงมา
มาติดไอ้เปอร์คนเดียว
ไอ้ห่า พูดแล้วยังสงสาร มันคงรำคาญผมอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความเต็มร้อยกับเพื่อนมันเลยไม่ได้ว่าอะไร
คิดมาถึงตรงนี้แล้วอยากจะร้องไห้ นี่เพื่อนผมจะมีแฟนแล้วเหรอวะ
ปกติมีคนมาขอสารภาพรักมันเยอะเหมือนกันนะครับ แต่ปกติไอ้เปอร์จะไม่ตอบรับ ไม่แม้แต่จะไปฟัง คือมันจะปฏิเสธ ณ
ตรงนั้นเลย
พอมาได้ยินว่าไปที่ดาดฟ้าก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน แต่เอาเถอะ ถ้ามันเจอคนที่ถูกใจผมก็ยินดีกับมัน
แต่มึงสมหวังแล้วต้องช่วยกูให้มีแฟนด้วยไอ้สัด
ฮืออออออออออออ
แปะ
ก่อนจะก้มไปกอดเข่าร้องไห้โฮกับตัวเองอีกยกใหญ่ ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือใหญ่ที่วางแปะอยู่บนหัว
“มาแอบคิดอะไรตรงนี้คนเดียว”
ประโยคเดียวเท่านั้นทำให้ผมถึงกับเบะปาก
เปอร์เป็นคนเดียวที่รู้ว่าถ้าผมหายตัวไป ที่ไหนที่จะตามหาพบ
“แงงงงงงง ไอ้เปอรรรรรรรรรร์” ผมโผเข้าหาอ้อมกอดอุ่นที่คุ้นเคย ไอ้เปอร์ไม่ได้ตกใจอะไร
เพียงแค่เอื้อมมือมาตบหลังเบาๆเพื่อปลอบผมเท่านั้น
”งอแงจัง มึงเนี่ย”
ผมไม่ตอบอะไร เอาหน้าซุกอกแน่นๆของมันแทน
อบอุ่น…
ให้ความรู้สึกเหมือน...พ่อ
มึงมันแก่ไงไอ้เปอร์
“กูรู้สึกเหมือนกูกำลังจะอกหัก”
“เฮ้อ…” มันถอนหายใจ “กูรู้แล้ว”
ผมพยักหน้า ไอ้สองตัวนั้นคงรายงานเรียบร้อย
“เล่ามาสิ”
“คือวันนี้กูเตรียมน้ำลำไยไปให้น้องเค้า มือก็ถือยางลบไปด้วย เขียนชื่อกูซะดิบดี คุยไปคุยมา น้องบอกว่าสเปคคือคนสูงๆ
กล้ามแน่นๆ ตัวหมีๆ“
“แค่นั้นมึงถึงกับจะอกหักเลยหรอ”
“เปล่า กูยังเล่าไม่จบ น้องเค้าทิ้งท้ายว่า สเปคก็คือลักษณะแบบพี่เปอร์เลย ไอ้เหี้ยยยยยยย”
แต่แทนที่มันจะเครียดตามผม มันกลับขำ ก่อนจะเอามือลูบหัวผมเบาๆ
“แล้วมึงจะเครียดทำไม”
”อ้าว”
“ยังไงกูก็ไม่ได้จะชอบน้องเค้าอยู่แล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะ เมื่อวานกูยังเห็นส่งสายตากันอยู่เลย เอ๊ะ อย่าบอกนะ” ผมผละตัวออกจากอ้อมกอดมัน
“หรือมึงตกลงกับคนที่มาสารภาพรักวันนี้แล้ว”
“… ใครบอกมึงเนี่ย”
“สองตัวนั่น”
“เชี่ย ก็กูบอกแล้วว่าไม่ให้บอก” มันพึมพำอะไรที่ผมไม่ได้ยิน
“มึงชอบหรอ คนนี้อ่ะ”
“…เปล่า”
“แล้วทำไมมึงไปที่ดาดฟ้าอ่ะ ปกติไม่เห็นมึงจะตามไปฟัง”
“เขามาขอหลายรอบ กูสงสาร”
“แล้วชอบป่ะล่ะคนนี้ ตอบตกลงไปยัง จริงๆถ้ามึงคิดยังไงก็ปรึกษากูก็ได้นะ
กูเองก็อยากเห็นมึงมีพัฒนาการด้านความรักเหมือนกัน”
“พูดเหมือนกูอยู่อนุบาล3อ่ะไอ้นี่” มันผลักหัวผมทีนึง
“เอ้า จริง ที่กูไม่พูดไม่ใช่ว่ากูไม่รู้นิสัยมึง มึงน่ะกล้าทุกอย่างแหละยกเว้นความรัก เรื่องความรักมึงมันไม่กล้าได้กล้าเสีย
ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอวะว่าคนไหนมันใช่มันไม่ใช่”
“กล้ามากไปก็เหมือนมึงไง พรุนเชียว”
“ไอ้ห่า” ผมด่ามัน ก่อนที่เราสองคนจะหันมาขำ
“เออว่ะ จริงๆมันคงดีถ้าเอานิสัยเราสองคนมารวมกันแล้วหารสอง” ผมพูด ไอ้เปอร์ไม่ตอบอะไร แค่พยักหน้า
“กูสงสัยอยู่อย่าง” ผมถาม “มึงไม่เหงาบ้างเหรอวะ”
มันหัวเราะ “ไม่รู้เหมือนกัน พออยู่กับคนขี้เหงาอยางมึงกูก็เลยรู้สึกว่ากูไม่เหงามั้ง”
“แบบ มึงไม่อยากมีแฟนให้หนุงหนิงๆไรงี้หรอวะ ชุ่มชื่นหัวใจอ่ะ”
“แค่ดูแลมึงคนเดียวก็พอแล้ว”
กำลังจะซึ้ง
”คนเดียวก็เหนื่อยจะแย่ ปวดหัว ตัววุ่นวาย”
ไอ้ห่า ปาดน้ำตาแทบไม่ทัน
“ด่ามาขนาดนี้ไม่ถีบกูตกบ่อบัวไปเลยล่ะ”
”เอ้า กูพูดจริง”
“เออ เอาเถอะ กูเชื่อว่ามึงไม่เหงา แต่ถ้ามึงชอบใครเมื่อไหร่ก็มาบอกกูแล้วกัน กูจะช่วยมึงเต็มที่
ยังไงกับมึงกูใจอยู่แล้ว”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เออ ซึ้งเลยดิ”
“มาก งั้นเย็นนี้เลี้ยงชาบูกูหน่อย”
“ยกเว้นเรื่องเงิน ไอ้สัด ช่วงนี้ป๋าช็อต เศรษฐกิจมันตกต่ำ”
“แล้วนี่หายงอแงยัง”
“งอแงเหี้ยไร กูแค่คิดมากโว้ย”
“นั่นแหละๆ หายหรือยัง”
“ไม่หาย มึงเลี้ยงติมกูก่อนดิ”
“อ่ะกูว่าละ มามุกนี้ตลอด”
“แล้ว?”
“กูก็เสียเงินให้มึงตลอดเนี่ย ห่าเอ้ย”
ผมขำ มันลุกขึ้นยืนเต็มตัวก่อนจะฉุดแขนผมขึ้นด้วยแรงควาย อีกนิดกูจะพุ่งไปดาวนาเม็กละสัด แรงเยอะจริงๆ
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ” มันถามผมขึ้นมาขณะลากผมเดินไปโรงอาหาร
“ก็ไม่ทำไม”
“ดีแล้ว มึงต้องหัดอยู่คนเดียวให้ได้บ้าง”
“เปล่า กูกะจะจีบต่อแบบเดิม”
“หา!!!” มันหันมามองผมตาโตยิ่งกว่าไข่เต่าทะเล อะไรมึงจะตกใจขนาดนั้น
“มึงก็รู้นิสัยกูดี ไอ้เปอร์ กูไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถ้าชอบใคร ก็แค่พุ่งเข้าชน”
ไอ้เปอร์ไม่พูดอะไรเพิ่ม แต่ตาค้าง ปากพะงาบๆ ด้วยความตกใจ
ตกใจในความเท่ของกูล่ะสิ หึหึ
หลังจากเมื่อวานที่ได้แดกไอติมฟรี ผมก็กลับบ้านไปอย่างอารมณ์ดี และเตรียมพร้อมการจีบน้องแก้มใสสำหรับวันนี้
เรื่องคุยทั้งหมดที่คิดไว้อยู่ในหัว ท่องวนไปวนมาหลายรอบ
วันนี้ต้องไม่มีสะดุด และที่สำคัญ ยางลบก้อนนี้ในมือต้องไปอยู่ที่เธอให้ได้
อย่าหาว่าผมงมงายเลยครับ ถ้ามันเป็นตัวเลือกนึงที่อาจพอทำให้มีหวัง ผมก็ทำ ไม่อยากอกหักแล้วว่ะบอกตรงๆ
“น้องแก้มใสสสสสส”
น้องนางไม่ตอบ แต่ยกสายตาช้อนขึ้นมองผมด้วยสีหน้านิ่งดังเดิม
“พี่เอาน้ำลำไยมาฝากครับ”
ผมยิ้มหวาน ก่อนจะเกาแก้มแหะๆ
“กินข้าวยังเนี่ย”
“กินแล้วค่ะ” แก้มใสหันมาตอบ
“น้องแก้มใส วันเสาร์นี้ว่างมั้ยอ่า”
“ทำไมหรอคะ”
“จะชวนไปดูหนังงงงง เรื่องใหม่เลยนะ เดย์ไลท์ มูนน์ เห็นเค้าบอกว่าซึ้งม้ากกกกกกกก”
“อ๋อดูแล้วค่ะ”
“พระเอกชื่ออะไรหรอ”
แก้มใสเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ “ซง จุง กิ ไงคะ”
นั่นดาราเกาหลี นี่หนังฝรั่งครับ สัด
โอ้โห แก้มใส ชัดเลย เคยดูแป๊ะอะไร ข้ออ้างหลบกูนี่เอง
ปล่อยให้เกิดเดดแอร์ขึ้นสักพักผมก็พูดขัดความเงียบขึ้นมา
“แล้วนี่แก้มใสทำอะไรอยู่คะ”
ผมถาม เห็นน้องนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ข้างๆมีเพื่อนอีกคนที่นั่งด้วย
“เล่นโทรศัพท์อยู่ค่ะ”
อิห่า กูมีตากูก็เห็นไง ตอบซะกูไปไม่เป็นเลย
“หรอๆ เล่นเกมหรอ”
ผมถามยิ้มๆ
“อ้อเปล่าค่ะ”
“แล้วทำไรอ่าาา”
“คุยไลน์ค่ะ”
“คุยกับใครหรอ”
“คุยกับผัวค่ะ”
…
คุยกับผัวค่ะ
คุยกับผัวค่ะ
คุยกับผัวค่ะ
อะเฮือก!!!!!!!!!!
น้องแก้มใสตอบมาแบบนี้ทำเอาผมไปต่อไม่เป็น ชิบหายและ รู้สึกได้ว่าหน้าตอนนี้สลดมากๆ
“อ่ะ…เหรอๆ เดี๋ยวพี่มานะ”
“ไปไหนคะ” ยังมีหน้ามาถาม
“พอดีนึกขึ้นได้ว่าปวดขี้ม้ากมาก”
ตอบไปแค่นี้ผมก็วิ่งหนีจู๊ดดดดออกมาทันที
เหี้ยยยย แอดวานซ์ยิ่งกว่าการตอบปฏิเสธใดใดคือการตอบด้วยสีหน้านิ่งๆว่าคุยไลน์กับผัว
ได้ข่าวว่ายังไม่มีแฟน แล้วผัวของน้องนี่ลอยมากับสายฝนหรืออย่างไร
ฮืออออออ เจ็บที่หัวใจจจจจ ไม่ไหวแล้ววววว หลุมหลบภัยอยู่ไหนนนนนน
“ไอ้เปอรรรรรรรรรรรรรรรรรร์”
(ต่อด้านล่าง)