8
“สตางค์ไปทำธุระกับผมได้รึเปล่าครับ”
เพราะคำชวนจากเจ้านายทำให้เขาต้องมานั่งรอที่หน้าฟร้อนของโรงแรมหรูเล่นเอาผมต้องมองเสื้อผ้าตัวเองอย่างอายๆเสื้อเชิ้ตกางเกงยืนสีซีดกับรองเท้าผ้าใบคู่ใจ รู้อย่างนี้ผมน่าจะตกลงให้มาพร้อมมันดีกว่า
“เฮ่อ” เสียงถอนหายใจรอบที่สิบของผมจะให้ทำยังไงได้ก็ในเมื่อตัวเองมาก่อนเวลานัดตั้งเกือบชั่วโมงเพราะกลัวว่ารถจะติดแต่วันนี้ถนนกลับโล่งทำให้เขาต้องมานั่งรอที่ฟร้อนท่ามกลางสายตาใคร่รู้ของแขกและพนักงาน โอ๊ยอยากจะทำตัวให้เล็กที่สุดจะได้หายไปจากตรงนี้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
“สตางค์ รอนานไหมครับ” และเสียงสวรรค์ที่มาช่วยพอดีผมรีบลุกขึ้นหันกลับไปมองไตเติ้ลที่ดู.......แปลกตา และมันดูดีมากถึงจะคุมโทนในชุดสีดำเพียงแต่วันนี้เป็นเสื้อเชิ้ตคอจีนกับกางเกงสแล็คทรงผมที่ปกติแค่สะบัดทั้งปิดหน้าปิดตาแต่ตอนนี้เซ็ทขึ้นเปิดหน้าแต่ก็ยังปิดหน้าด้วยแมสอยู่ดี
แม่ง
ดูดี ดูดีเกินไปแล้ว ไอ้โรคจิตนี่ดูดีขนาดนี้เลยเหรอ ผมนี่ดูยาจกไปเลย
“เอ่อ..ผมดูแปลกๆเหรอครับ” เพราะว่าผมมัวแต่มองนิ่งเจ้าตัวเลยถามพร้อมกับก้มมองสำรวจตัวเอง
“ปะ..เปล่าแค่ดูแปลกตาแต่ดูดีนะ” แค่ผมชมว่าดูดีไตเติ้ลก็ยิ้มกว้างแม้จะมองไม่เห็นรอยยิ้มแต่ตาคมที่โค้งขึ้น
“ขอบคุณครับ ไปกันเถอะครับ” พอเปรียบเทียบระหว่างตัวเองกับหมอนั่นทำเอาไม่อยากยืนอยู่ข้างๆเลยสักนิดผมที่กำลังคิดมากก็ถูกจับมือดึงให้เดินไปด้วยกันท่ามกลางสายตาของพนักงานที่ดูจะแปลกใจ
“นายไม่เวียนหัวเหรอ” ผมก้าวขึ้นไปเดินข้างๆเงยหน้าถาม เพราะมันเดินเข้ามานิ่งๆไม่มีอาการปวดหัวหรืออะไรๆที่เคยเลย
“ไม่ครับเพราะมีสตางค์อยู่ด้วย” ผมได้แต่ทำหน้างงๆเลยได้เสียงหัวเราะทุ้มจากลำคอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เออนี่ผมกลายเป็นแท่นหอมให้เจ้านายอีกอย่างสินะ ไตเติ้ลจูงมือคนที่มัวแต่มองซ้ายมองขวามือที่วางก็จับเสื้อเชิ้ตตัวเองไปมาเหมือนไม่มั่นใจแต่เขากลับมองว่าน่ารักดี ดูสิยอมให้เขาจูงมือง่ายๆโดยไม่โวยวายอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาโรงแรมปกติจะทำงานอยู่ที่ห้อง แต่เมื่อคืนพ่อกลับขอให้เขาเข้ามาโรงแรมเพื่อเรียนรู้งาน
“ผมไม่อยากไป”
“เอาสตางค์ไปด้วยสิพ่ออนุญาต”ถ้าไม่บอกว่าให้ผมพาสตางค์ไปให้ตายผมก็ไม่ยอมออกจากบ้านหรอกนะ เมื่อเห็นว่าพ่อจริงจังเขาเลยพยักหน้ายินยอมที่จะทำตาม พอเห็นว่าผมยอมก็ดูดีใจมากถึงขั้นกลิ่นที่โชยออกมา ลิฟต์มาหยุดยังชั้นบริหาร คนที่เดินอยู่ข้างๆก็บีบมือผมแน่นแถมยังขยับเข้ามาชิดเพราะความไม่มั่นใจ ส่วนผมนะเหรอไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะตั้งแต่เด็กแม่จะให้คนมาสอนเรื่องบุคลิกภาพให้แม้จะออกมาข้างนอกไม่ได้ก็ตาม
“คุณไตเติ้ล” เลขาที่คอยเอางานไปส่งให้เรียกผมอย่างแปลกใจ
“พอดีคุณพ่อให้ผมมาประชุมวันนี้ครับ”
“อ่า..ครับเชิญด้านในเลยครับแล้วคนนี้...” สายตาใต้แว่นกรอบใสมองสตางค์ด้วยความสงสัยว่าเป็นใคร
“นี่สตางค์ผู้ช่วยผมเองครับ” ผมปล่อยข้อมือเรียวเพื่อให้สตางค์ยกมือไหว้คนสูงวัยกว่า คุณนิลไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ยกมือรับไหว้แล้วเปิดประตูห้องทำงานให้พวกผมเข้าไปในห้องทำงาน คุณนิลเดินออกไปข้างนอกไม่นานก็ยกกาแฟและขนมมาให้พวกเขา
“นี่เรามาทำอะไรเหรอ”หลังจากอยู่ด้วยกันสองคน สตางค์ก็ถามขึ้น
“ผมมาประชุมนะครับแทนคุณพ่อ”
“อ่าวแล้วให้ผมมาด้วยจะดีเหรอครับ”พูดจบสตางค์ก็ก้มมองเสื้อผ้าตัวเองด้วย
“ไม่เป็นไรครับถ้าไม่มีสตางค์ผมก็คงไม่มา” สตางค์เอียงคองงๆแล้วก้มหน้าก้มตากินขนมจนหมด
ก๊อกๆ
“ได้เวลาแล้วครับ” เขาพยักหน้าลุกขึ้นไปหยิบเสื้อสูทที่แขวนไว้มาใส่เพราะถึงจะเป็นการประชุมที่ไม่เป็นทางการก็เถอะ
“ไปกันเถอะครับ”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงอ่อยๆของสตางค์ชวนให้ผมใจอ่อน แต่ถ้าสตางค์ไม่ไปผมก็คงไม่ไป
“ไม่ได้ครับ” ร่างเล็กถอนหายใจยาวลุกขึ้นเช็คตัวเองแล้วเดินตามติดผมไปที่ห้องประชุม ที่พอผมเข้าไปก็ดูทุกคนจะแปลกใจที่เห็นผมแต่ก็ดูจะเก็บอารมณ์ได้ดี กลิ่นในห้องนี้มีบางคนน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ เพราะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์เลยคว้าข้อมือดึงให้สตางค์เข้ามาอยู่ใกล้ๆ
“คุณหนูไตเติ้ลลมอะไรพัดมาถึงได้เข้ามาประชุมได้ล่ะ” น้ำเสียงเหมือนจะพูดแหย่แต่มันเป็นการข่มและดูถูกผม คนคนนี้คงเป็นคุณเกรียงสินะ
“คุณเกรียงครับอย่าว่าอย่างนั้นสิครับ คุณไตเติ้ลก็บริหารงานได้ดีเลยนะครับ” ชายสูงวัยอีกคนคุณศักดิ์รีบพูดแย้งปกป้องผมทันที ผมที่ตอนนี้ถอดแมสออกแล้วยกยิ้มบางๆ
“สวัสดีครับทุกคน เริ่มประชุมกันดีกว่านะครับ”
“เดี๋ยวสิหลานชาย คนนอกมาเกี่ยวอะไรกับการประชุมภายใน” พอคุณเกรียงทักทุกคนก็หันเป้าหมายไปมองสตางค์ที่พอถูกมองก็ขยับมาชิดผมทันที
“สตางค์ไม่ใช่คนนอก แต่เป็นผู้ช่วยผม” เพราะไม่พอใจกับการที่สตางค์ถูกหาว่าเป็นคนนอกน้ำเสียงที่พูดเลยแข็งกร้าวในห้องประชุมต่างเงียบกริบ เขาเลยนั่งลงตรงตำแหน่งประธานแล้วดึงให้สตางค์นั่งลงข้างๆเพราะเมื่อมีกลิ่นสบายๆช่วยทำให้กลิ่นที่ชวนอ้วกนี้เจือจางไป
“เรื่องการเปิดโรงแรมที่เชียงใหม่ทำไมงานถึงไม่ได้ตามแพลนที่วางไว้ครับ” โครงการในเชียงใหม่เป็นโรงแรมที่สร้างในโครงการแอบอิงธรรมชาติโรงแรมที่สร้างโดยการไม่ทำร้ายธรรมชาติทำให้มันเป็นโฮมสเตย์แต่ระดับห้าดาวแม้จะไม่ใช่โครงการใหญ่มากแต่ก็เป็นโครงการที่น่าจะทำเงินและเป็นโครงการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
“ก็สภาพอากาศมันทำให้งานไม่เดินจะให้ทำยังไง” คุณเกรียงโผล่งขึ้นมาแต่ผมก็ไม่ได้ถือสา
“เห็นว่ามีฝนตกครับเลยไม่สามารถก่อสร้างต่อได้” ผมพยักหน้าแม้จะรู้ดีว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สภาพอากาศ เคาะนิ้วกับโต๊ะเบาๆ
“แล้วการที่ส่งวัสดุก่อสร้างล่าช้านี่เพราะอะไรกันล่ะครับ” และห้องประชุมก็เงียบสงัดอีกครั้ง สตางค์มองคนข้างๆด้วยความประหลาดใจรู้ว่าเก่งแต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะเก่งแบบนี้
“ผมต้องการคำอธิบายเรื่องธรรมชาติผมเข้าใจแต่ถ้าเป็นเพราะ...คน” สายตาคมกวาดมองรอบที่ประชุมก่อนที่จะพูดขึ้นอีกรอบ “ผมจะจัดการอย่างเด็ดขาดและขอให้เร่งทางผู้ก่อสร้างให้ทำตามกำหนดด้วยน้ำครับ” หลังจากนั้นประเด็นในห้องประชุมก็เป็นเรื่องโปรโมชั่น เรื่องสวัสดิการต่างๆและโครงการรออนุมัติจนกระทั่งปิดการประชุมหลายคนเดินออกไปแต่ไตเติ้ลยังคนนั่งนิ่งเพราะดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนต้องการที่จะคุยกับเขา
“มีอะไรหรือเปล่าครับลุงเกรียง”
“หึ เราดูเปลี่ยนไปนะ” น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจากตอนเข้าประชุมกันคนละโยชน์
“ก็ครับ เรื่องที่เชียงใหม่เดี๋ยวผมจัดการเองนะครับ ขอบคุณนะครับลุง”
“หึๆ ก็แค่อยากเห็นอะไรสนุกๆ” ผมได้แต่ส่ายหน้ากับอาการที่อยากเห็นเรื่องสนุกของคุณลุงเกรียงที่ปรับสีหน้าขรึมเดินออกจากห้องประชุมไป พอหันมาดูคนนั่งข้างๆก็เห็นเพียงสีหน้างงๆอ้าปากน้อยๆท่าทางที่ดูตลกจนหลุดขำออกมา
“ไปทานข้าวกันดีกว่าครับหึๆ”
“อืม แล้ววันนี้จบแล้วเหรอ ให้ฉันมาแค่นี้นะเหรอ” ผมอมยิ้มกับสตางค์ที่บางครั้งพอสนใจอย่างอื่นก็จะลืมบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ที่เขายังจับมืออยู่แต่เจ้าตัวก็ลืมไปแล้ว
“ใช่ครับแค่สตางค์มาด้วยก็พอแล้ว”
“ประหลาด นายแม่งโคตรประหลาด” สตางค์บ่นพึมพำแต่ผมกลับขำเพราะจากเป็นโรคจิตแล้วผมยังเป็นคนประหลาดอีกด้วย อ่าดูท่าผมคงจะได้เป็นหลายๆอย่าง จูงมือจนมาถึงลานจอดรถ
“สตางค์อยากทานอะไรครับ” เพราะไม่ได้ออกมาข้างนอกบ่อยเลยคิดไม่ออกว่าจะไปไหน
“แล้วนายไม่เป็นไรเหรอออกมาเจอคนมากๆแบบนี้ กลับไปกินที่บ้านนายไหมล่ะ” น่ารักทำไมถึงเป็นคนน่ารักและทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างนี้นะ
“ถ้ามีสตางค์อยู่ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับอาจจะอึดอัดนิดหน่อยแค่นั้นเอง เอาตามที่สตางค์สบายใจเถอะครับผมตามใจ”
“งั้นกลับบ้านนาย” หลังจากตกลงกันได้ก็บอกพี่กานต์ที่มาขับรถให้ว่าให้กลับบ้าน
“แล้วท่องศัพท์ไปถึงไหนแล้วครับ”
“พูดถึงแล้วอยากจะอ้วกมากแต่วิธีที่นายสอนทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้น” มองคนที่ตอบด้วยรอยยิ้มนิ่ง พอได้รู้จักเขายิ่งคิดว่าสตางค์ไม่ได้มีดีแค่ทำให้เขาสบายใจ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนกระทั่งมาถึงบ้าน เจ้าตัวก็เดินลิ่วเข้าบ้าน เอาเถอะครับทุกวันนี้สตางค์เป็นลูกรักมากกว่าผมไปแล้วซึ่งมันก็ดี
“นี่ๆ ไอ้อิฐจะมาหา ให้มันมาได้มาไหม” หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็ขึ้นมานั่งทำงานส่วนสตางค์วันนี้ผมไม่มีงานให้ช่วยเลยนั่งทบทวนวิชาที่ต้องเรียน
“ได้สิครับ”
“อือ” หลังจากนั้นก็หันไปพิมพ์หยุกหยิกกับโน๊ตบุ๊คคงจะตอบคุณอิฐอยู่สินะ กับคุณอิฐเขาแม้จะไม่ได้กลิ่นที่ชวนเวียนหัวแต่ก็ไม่ได้ให้ความสบายใจเหมือนสตางค์ ถ้าจะให้บอกออกมาตรงๆก็คงเป็น ความเจ้าเล่ห์และมั่นคง ไม่นานสตางค์ก็ขอตัวลงไปรับอิฐที่มาถึงแล้ว
“ไง”
“สวัสดีครับ”ผมทักคุณอิฐที่เดินเข้าห้องมา เพราะสตางค์ขอผมแล้ว
“ไงไอ้เด๋อมันทำงานดีไหม” บางทีผมก็เห็นด้วยกับสตางค์ที่ชอบบ่นให้ฟังว่าอิฐนั้นดูแลเขายิ่งกว่าพ่ออีก
“สตางค์ช่วยงานผมได้มากเลยครับ” พอได้ยินผมบอกแบบนั้นอิฐก็พยักหน้าแล้วยกมือขยี้ผมนิ่มของสตางค์จนฟูเลยได้รับเสียงโวยวายและการขู่ของสตางค์เป็นการตอบแทน
“ไอ้สตางค์มึงทำอะไรของมึงเนี้ย อันนี้มันผิดเว้ย”
“ก็...นิดเดียวเอง”
“เลิกบ่นแก้ให้หมดเลยนะ” ฟังเสียงทะเลาะกันของเพื่อนซี้แล้วผมก็หลุดขำเวลาที่สตางค์โดนคุณอิฐดุแล้วต้องนั่งทับขาตัวเองทำท่าทางเหมือนลูกหมาที่โดนดุแล้วหูลู่ลง
“งือ เหนื่อยแล้วอ่า”
“งั้นผมช่วยครับ”เพราะเห็นท่าทางเหนื่อยๆของสตางค์ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป คุณอิฐหรี่ตามองผมอย่างสำรวจแล้วก็หันไปมองสตางค์ก่อนรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจจะปรากฏขึ้น
“ไม่ต้องหันไปอ้อนเจ้านายมึงไอ้สตางค์ ส่วนมึงไปคุยกับกูดิ๊” คุณอิฐกระดิกนิ้วเรียกผมให้เดินตามออกไป
“เดี๋ยวสิทำไมไม่ให้กูไปด้วย จะปิดบังไรกู”
ผลัวะ
“เงียบแล้วทำงานไปไอ้เด๋อ” เอ่อ...ผมอยากจะห้ามนะครับก็คุณอิฐเล่นตบหัวสตางค์ซะแรง ปากเรียวบ่นขมุบขมิบแต่ก็ไม่กล้าบ่นเสียงดัง คุณอิฐเลยเดินนำผมออกไปนอกห้อง
“กับไอ้เด๋อนั่นยังไง” พอประตูปิดคุณอิฐก็ถามตรงๆเลยทันที
“ก็นายจ้างกับลูกจ้างไงครับ” หากเป็นปกติเขาคงกล้าสบตาแต่ตอนนี้กลับหลบสายตาคมของคนที่จ้องมองไม่วางตา
“เอาตรงๆ” ผมรู้แล้วว่าทำสตางค์ถึงได้กลัวคุณอิฐ ขนาดผมที่ไม่เคยสนใจอะไรยังต้องยอม
“สตางค์....เป็นที่ที่ทำให้ผมสบายใจ เป็นอากาศของผม”
“หึๆ ไอ้นั่นมันเด๋อก็ทำใจหน่อย” ผมพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากที่คุยกันผมก็ได้กลิ่นจริงๆของคุณอิฐ คนคนนี้ห่วงสตางค์จริงๆ พอเข้ามาในห้องสตางค์ก็ดูจะงอนๆไม่ยอมคุยกับผมและอิฐ ปากบางๆนั่นคว่ำลง และผมก็ได้รู้อีกอยาก
สตางค์ไม่เพียงมีกลิ่นหอม
สตางค์ไม่เพียงขยัน
แต่สตางค์เป็นคนน่ารักที่น่ารังแก
**********************************
หนีไปลูกสตางค์ ธาตุแท้ของไอ้คนประหลาดออกมาแล้วลูก
นิยายเรื่องนี้ฟิลกู๊ดนะคะ ก็จะเอื่อยๆเหมือนคนเขียน 555
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยนะคะ