ตอนพิเศษ 3
ในแต่ละวันที่ผ่านพ้นแม้จะคิดถึงคนรักหากแต่ทุกคนในครอบครัวที่มาอยู่ด้วยก็ทำให้กานต์รักคลายความเหงาลงไปได้มาก กระทั่งวันที่แพทริกจะกลับ ว่าที่คุณแม่ตัวน้อยก็ตื่นเต้นกระสับกระส่ายอยู่ไม่นิ่งเพราะเรื่องที่ต้องบอก
คุณแพทจะมีปฏิกิริยายังไงนะ
กานต์รักได้แต่คิดกับตัวเองและเม็ดถั่วแดงในท้อง
“แพทจะมากี่โมงหรือรัก”
ผู้เป็นแม่เอ่ยถามขณะที่กานต์รักนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังบริเวณชานบ้าน เบื้องหน้าคือสวนกว้างที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม กิจกรรมการผ่อนคลายในยามบ่ายของทุกวัน
กานต์รักอยากให้ลูกอยู่กับธรรมชาติ เพราะรู้สึกสบายตาพร้อมทั้งสบายใจ
“อืม น่าจะตอนเย็นครับ”
ก่อนจะบินอีกคนคอลมาหาใบหน้าปกปิดความดีใจที่จะได้กลับบ้านเอาไว้ไม่มิด กานต์รักได้แต่ยิ้มและอวยพรให้คนรักเดินทางปลอดภัยพร้อมทั้งเอ่ยทิ้งท้ายว่าจะรอเจอที่บ้าน
“ก็อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้วนะ”
“ครับ...รักยังไม่รู้เลยว่าจะบอกคุณแพทเรื่องลูกยังไง”
ใบหน้าเล็กครุ่นคิดกับตัวเอง บอกเล่าความว้าวุ่นในอกให้ผู้เป็นแม่ได้รับฟังก่อนจะได้รับรอยยิ้มอ่อนโยนกลับมา
“ก็บอกตามที่รักอยากจะบอกแหละจ้ะ ไม่ว่ารักจะบอกยังไงแม่ก็เชื่อว่าแพทจะดีใจ”
น้ำเสียงอ่อนนุ่มนั้นทำให้กานต์รักคลายความกังวลและความตื่นเต้นลงไปได้กว่าครึ่ง ลมหายใจถูกสูดเข้าปอดลึกอย่างเรียกกำลังใจ ยามนึกถึงใบหน้าของคนรักรอยยิ้มน้อยๆจึงแต่งแต้มบนใบหน้า
“งั้นเดี๋ยวแม่ไปเอาผลไม้มาให้ดีกว่า ช่วงนี้รักไม่ค่อยกินผักด้วย” กานต์รักรับคำก่อนผู้เป็นแม่จะเดินออกไป
อย่างที่แม่พูด ช่วงนี้กานต์รักแทบไม่กินผักสักชนิด ความเหม็นเขียวลอยอบอวลจนกลืนไม่ลงต้องเขี่ยทิ้งไปเสียทุกครั้ง ยังดีที่กินผลไม้ได้ปกติจึงพอทดแทนกันได้
สงสัยเจ้าตัวน้อยจะไม่ชอบกินผักเสียแล้ว
ถาดผลไม้หลากหลายชนิดถูกวางลงตรงหน้า กานต์รักยิ้มรับพร้อมเอ่ยขอบคุณคนเป็นแม่ มือเล็กหยิบส้อมเล็กๆจิ้มลงบนแตงโมก่อนจะเอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พอกินจนอิ่มความง่วงก็คืบคลานจนร่างเล็กที่ไม่ต่างกันของผู้ให้กำเนิดจะขยับมาโอบประคองขึ้นไปบนห้อง
18.38 น.
ร่างเล็กนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง ซุกตัวเข้าหาความอุ่นนุ่มที่โอบล้อมรอบกายอย่างต้องการความอบอุ่น มือบางวางอยู่บนหน้าท้องไม่ยอมห่างแม้ยามหลับใหล สัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่ทำงานแม้ตอนไม่รู้สึกตัว
ประตูห้องนอนของคฤหาสน์กว้างถูกเปิดเข้ามาแผ่วเบา เรือนร่างสูงใหญ่ตามสัญชาติก้าวยาวๆมาหาคนบนเตียงเชื่องช้า ดวงตาคมทอดมองท่าทางฝันหวานของคนรักที่ราวกับเด็กอย่างเอื้อเอ็นดู แพทริกทรุดตัวนั่งลง ยกมือไล้แก้มเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาก่อนจะกดปลายจมูกแนบชิดสูดดมความหอม
คนนอนยังคงไม่รู้สึกตัวจนโจรลักหลับได้ใจพรมจูบไปทั่วดวงหน้า คราวนี้กานต์รักถึงได้ค่อยๆขยับ เปลือกตาหนักอึ้งที่ราวกับโดนหินถ่วงเปิดขึ้นเชื่องช้า
“คะ คุณแพท”
เสียงเอ่ยเรียกแหบพร่า ภาพตรงหน้าเลือนรางราวกับความฝัน กานต์รักยังคงไม่แน่ใจว่าใช่คนรักจริงหรือไม่กระทั่งริมฝีปากถูกดูดดึงขบเม้ม
“ฮื่อ คุณแพท”
สองแขนเล็กยกโอบรั้งลำคอแกร่ง ดึงลงมาแนบชิดจนแพทริกหลุดหัวเราะพร้อมทั้งยั้งร่างกายตัวเองเอาไว้ด้วยแขน ไม่ให้ทิ้งน้ำหนักทาบทับร่างบางลงไปจนหมด ใบหน้าหวานเอียงซบอยู่กับซอกคอ ความอบอุ่นที่แสนคิดถึงเกี่ยวพันกันด้วยร่างกาย
“คิดถึง” ถ้อยคำที่ถูกเอ่ยนับครั้งไม่ถ้วนดังขึ้นอีกครั้งบอกย้ำความรู้สึก
คิดถึงความหอมนี้ ร่างกายนี้ คนคนนี้...คิดถึงสุดหัวใจ
“รักก็คิดถึงครับ คิดถึงมากๆ คิดถึงที่สุดเลย”
เปลือกตาสีอ่อนหลับลงซึมซับความอบอุ่นจากเรือนกายแข็งแกร่งที่แสนโหยหา หน้าท้องแบนราบแนบชิดกับหน้าท้องแกร่งก่อเกิดความเต็มตื้นไหลวน
ลูกจ๋าได้กอดแดดดี๊แล้ว
“แล้วทำไมนอนตอนนี้หือ นอนไม่เป็นเวลาแบบนี้คืนนี้จะหลับหรือเปล่า”
“หลับครับ ช่วงนี้รักนอนเยอะ”
นอนเผื่อลูกทั้งนั้น...ช่วงนี้กานต์รักนอนเยอะเป็นพิเศษเพราะเจ้าตัวเล็กในท้อง เพียงแค่ได้เอนกายหนังตาก็พร้อมจะปิดลงอย่างไม่เลือกเวลา เมื่อลูกง่วงว่าที่คุณแม่จึงไม่ขัด ถือโอกาสนอนหลับพักผ่อนพร้อมคนในท้องไปด้วยกัน
“ไม่สบายหรือเปล่า”
คนด้านบนเอ่ยถามยามพลิกตัวลงนอนด้านข้างก่อนจะจับร่างเล็กให้ขึ้นมาทาบทับอยู่บนอก กานต์รักขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางอีกเล็กน้อย ระบายยิ้มหวานให้คนที่แสนคิดถึงตรงหน้าก่อนจะซบหน้าลงกับอกกว้างออดอ้อน
“รักสบายดีครับ”
“ช่วงก่อนฉันจะไปอิตาลีนายก็นอนเยอะ ตอนนี้ยังไม่หายอีกหรือ” สัมผัสอ่อนโยนไล้วนไปตามแผ่นหลังยามมือหนาลากสัมผัสไปมาแผ่วเบา
“ยังครับ”
“ไปหาหมอดีไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับ รักสบายดี”
แม้จะยังกังวลหากแต่อีกคนยืนยันหนักแน่นแพทริกจึงไม่เซ้าซี้ต่อ ดวงตาคมเหลือบมองหัวเล็กๆที่เห็นเพียงเส้นผมก่อนจะกดจูบลงไปให้คนที่นอนซบอยู่เงยหน้าขึ้นมอง เปิดโอกาสให้ริมฝีปากได้รูปขยับเข้ามาจูบแนบแน่น
ความคิดถึงและโหยหาถูกแลกเปลี่ยนผ่านลิ้นชื้นแฉะที่ดูดดึงเกาะเกี่ยวกันคลอเคลีย ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกไล้กระทั่งแรงอารมณ์เริ่มโหมกระหน่ำ ไฟร้อนถูกจุดติดไปอย่างรวดเร็ว มือหนาฟ้อนเฟ้นสะโพกบาง ขยับลูบไล้เรื่อยมาจนถึงแผ่นหลังเนียนละเอียด
ลมหายใจใกล้ชิดเริ่มถี่หอบ ห่างหายกันไปถึงสิบวันทุกอย่างจึงโหมกระหน่ำลุกลามราวกับไฟลามทุ่ง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดมากไปกว่านั้นกานต์รักก็ได้สติ ร่างเล็กจึงพยายามผละออกอย่างรวดเร็ว
“คะ คุณแพท อื้อ หยุดก่อนครับ”
เสียงห้ามดังไม่ถึงคนที่มัวเมากับความต้องการเรียวปากร้อนจึงไม่ยอมหยุดตามคำร้องขอ จากปากเล็กถูกเปลี่ยนเป้าหมายไปยังลำคอบางพร้อมทั้งดูดดึงเต็มแรง
“อ๊ะ คุณแพท หยุดครับ”
คราวนี้เสียงห้ามเริ่มดังเข้ามาในหูแว่วๆทว่าแพทริกกลับปัดมันออกไปอย่างรวดเร็ว ตั้งหน้าตั้งตากลืนกินขนมหวานตรงหน้าโดยไม่สนใจจะรับฟัง
“คุณแพท อะ รักบอกให้ อื้อ”
ประโยคเอ่ยห้ามดังไม่จบเสียงครางก็เล็ดรอดขัดเมื่อลิ้นหนาและฟันคมเล่นงานผิวเนื้อจนเจ็บแปลบ สติที่เริ่มไหวหวั่นครองตัวไม่อยู่ปลิวหายไปช้าๆ
ไม่ได้ ต้องบอกก่อนเดี๋ยวคุณแพทเผลอรุนแรง
“คุณแพท อือ ห้ามทำแรงครับ อ๊ะ เดี๋ยวลูกเจ็บ!”
กึก
แพทริกหยุดชะงักเพียงเพราะคำเดียวที่ดังเข้ามาในโสตประสาท ความกรุ่นร้อนของอารมณ์ราวกับถูกสาดด้วยน้ำที่แม้ไม่ถึงกับทำให้มอดดับแต่ก็มากพอที่จะให้หยุดนิ่ง
ลูก... เมื่อกี้กานต์รักพูดอะไรเกี่ยวกับลูกอย่างนั้นหรือ ลูกอะไร?
ใบหน้าคมผละออกจากซอกคอหอมกรุ่น เงยหน้ามองคนรักนิ่งยามคิ้วขมวดมุ่น ลมหายใจยังคงหอบกระชั้น
“ลูก?” ประโยคเอ่ยถามงุนงงดังขึ้นแผ่วเบาขณะที่ใบหน้าคนพูดฉายความไม่เข้าใจ ทว่าแววตาของคนบนร่างกลับทำให้แพทริกใจเต้น สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนอยู่ในอก
บอกไม่ถูก รู้แต่เพียงใจมันหวิวๆฟูๆทั้งที่ยังไม่เข้าใจ
“ลูกไงครับ...ลูกของเรา” เสียงกระซิบแผ่วดังมากพอให้ได้ยินแต่มันกลับไม่อาจแทรกซึมเข้าไปให้คนตัวโตเข้าใจได้
แพทริกเหมือนสมองหายไปชั่วครู่ ประโยคง่ายๆยังไม่อาจทำความเข้าใจ
“ลูกของเรา?”
ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจในสถานการณ์ตรงหน้า สมองมึนเบลอไม่สามารถเรียบเรียงสิ่งที่อีกคนพูดได้ ในหัวมีเพียงคำว่าลูกแต่ไม่เข้าใจว่าลูกของใคร ลูกอะไร เกี่ยวกับเขาหรือไม่
แต่ในใจกลับเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
“รักท้องครับ...เพราะงั้นถ้าคุณแพททำรักแรงลูกจะเป็นอันตราย”
รักท้อง...
ท้อง..
ท้อง
คนตัวโตนิ่งงัน ประสาทการรับรู้ทุกสัดส่วนราวกับถูกทำลายลงพร้อมๆกันด้วยประโยคนั้น ดวงตาคมจ้องมองกานต์รักหากแต่สติไม่ได้อยู่ตรงนี้ แม้ในยามมือบางวางแตะลงบนแก้มสากก็ไม่อาจทำให้แพทริกรู้สึกตัว
ท้อง...ท้องคืออะไร ท้องคือท้อง ท้องเขาก็มีเหมือนกัน...หรือว่าคนละท้อง
“ท้อง”
อีกฝ่ายพึมพำกับตัวเองราวกับเพ้อละเมอ ร่างเล็กที่ทับอยู่จึงค่อยๆขยับตัวนั่งลงด้านข้าง จับมือหนาวางลงบนหน้าท้องของตัวเองก่อนเอ่ยบอกอีกครั้ง
“รักท้องครับ ลูกอยู่ในนี้”
ดวงตาเหม่อลอยเบือนกลับมามองยังมือของตัวเองก่อนจะมองเลยมายังแผ่นท้องของกานต์รักนิ่ง คำพูดทุกอย่างไหลวนเข้ามาในหัวเชื่องช้า กว่าหลายนาทีที่ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบจนร่างเล็กเริ่มใจเสีย
หรือคุณแพทจะไม่ดีใจ
“ลูก...ลูก...ลูกที่จะออกมาเป็นตัวคนน่ะเหรอ”
คนไม่มีสติเอ่ยถามจนกานต์รักอยากหลุดขำหากแต่คงเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะจึงทำเพียงแค่ระบายยิ้มบางเบา ท่าทางของแพทริกเหมือนกับคนกำลังช็อค สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ครับ ลูกที่โตมาก็จะเหมือนรักกับคุณแพทไง”
“จริงเหรอ มีลูกจริงเหรอ” ว่าที่คุณพ่อถามย้ำ ดวงตาคมเริ่มทอประกายวาววับ ปลายเสียงสั่นเครือจนคนฟังสัมผัสได้
คนทั้งสองสบสายตากันด้วยความรู้สึกอันมากล้น แพทริกรอคอยคำยืนยันทั้งที่ดวงตาสองข้างเริ่มแดงก่ำ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นยามหยดน้ำที่คลอหน่วยค่อยๆไหลลงมา
“คุณแพท”
กานต์รักตกใจในท่าทางนั้นก่อนจะรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกให้คนรักด้วยปลายนิ้ว ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนอย่างแพทริกจะ...ร้องไห้
“...มีลูกจริงๆเหรอ”
ฝ่ามือบางถูกแตะแผ่วเบาให้หยุดนิ่งจากนั้นอีกคนก็ค่อยๆประสานนิ้วเข้าหาทั้งที่มือยังสั่นเทา แก้มสากเอียงซบเข้าหาฝ่ามือที่จับกัน พร้อมทั้งปิดเปลือกตาลงเตรียมฟังคำตอบด้วยความรู้สึกจากข้างใน
“จริงครับ...รักกำลังจะมีลูก ลูกของเรา ลูกของคุณแพ...”
ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจนจบประโยคร่างเล็กก็ถลาเข้าสู่อ้อมกอดของคนที่ลุกขึ้นโถมตัวเข้ามาหา ก่อนคนที่เพิ่งเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างกระจ่างจะร้องตะโกนมาด้วยความดีใจผิดจากเมื่อกี้ลิบลับ
“เยส!! ท้อง นายท้อง จุ๊บ ท้อง มีลูก ลูกของเรา ฉันจะได้เป็นแดดดี๊ วิเศษ วิเศษที่สุดเลย จุ๊บ จุ๊บ”
ริมฝีปากได้รูปพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอจนกานต์รักหลุดหัวเราะด้วยความจั๊กจี้ ท่าทางดีใจที่ทำให้ความเต็มตื้นตีรวนขึ้นมาจนว่าที่คุณแม่น้ำตาซึม ยิ่งเห็นคนรักดีใจอย่างนี้น้ำตาหยดใสจึงไหลรดแก้มเนียน ขณะที่ดวงตาคมก็วาววับด้วยน้ำสีใสไม่ต่างกัน
“แล้วเราต้องทำยังไง ฉันต้องพานายไปโรงพยาบาลหรือเปล่า ต้องฝากท้องสิ ฝากท้อง ไปฝากท้องกัน”
“คุณแพท ใจเย็นๆครับใจเย็นๆ รักไปฝากท้องมาแล้ว หมอนัดอีกทีอาทิตย์หน้าแดดดี๊ค่อยไปด้วยกันนะครับ”
กานต์รักรีบเอ่ยท้วงเมื่อร่างสูงตั้งท่าจะช้อนตัวเองขึ้นอุ้มแล้วพาเดินลงไปข้างล่างเสียเดี๋ยวนี้ มือเล็กตีเบาๆลงบนไหล่แกร่งจนคนดีใจยอมหยุดฟัง
“รักไปหาหมอมาแล้วครับ ครั้งหน้าเราค่อยไปพร้อมกันนะ” ร่างเล็กเอ่ยย้ำ
“ไปหาหมอมาแล้วเหรอ ไปตอนไหน เดี๋ยวก่อนนะ ฉันดีใจอยู่ สรุปนายท้อง ท้องลูกของเราจริงๆใช่ไหม” เพราะกลัวว่าทั้งหมดจะเป็นเพียงความฝัน เสียงทุ้มสั่นไหวจึงถามย้ำอีกครั้ง
“จริงสิครับ ใบผลตรวจก็มี รักไปตอนที่บอกคุณแพทว่าไปตรวจสุขภาพ” คนที่ปกปิดข่าวดีเอ่ยบอกประโยคหลังเสียงเบา
“รู้มาตั้งแต่ตอนนั้นหรือ?”
“ครับ”
“มีความผิดเรื่องโกหกและไม่ยอมบอกฉัน แต่ไม่เป็นไร ฉันยกโทษให้เพราะดีใจ ดีใจมากๆ ลูก...แด๊ดกับมัมรู้หรือยัง ปีเตอร์อีก โทร ต้องโทรบอก โทรศัพท์”
ท่าทางร้อนรนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังอย่างหลุดมาดนักธุรกิจผู้เคร่งขรึมเป็นครั้งแรกที่กานต์รักได้เห็น หากลูกน้องหลายคนยืนอยู่ตรงนี้คงไม่พ้นว่าต้องหลุดหัวเราะไม่ต่างจากว่าที่คุณแม่ที่ทั้งขำทั้งดีใจ
ฝ่ามือเล็กเอื้อมจับมือหนาอีกครั้ง กอบกุมเอาไว้แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน
“คุณแพท...มองหน้ารักครับ ใจเย็นๆ”
แพทริกรวบรวมสติรับฟังคำพูดนั้นก่อนอาการลุกลี้ลุกลนจะค่อยๆบรรเทาหากแต่หัวใจยังคงเต้นถี่ ดวงตาคมทอดมองใบหน้าคนรัก จับจ้องอยู่อย่างนั้นราวกับกลัวว่าจะเป็นเพียงภาพฝัน
“ตั้งสติก่อนนะครับ หายใจเข้าลึกๆ” กานต์รักยังคงปลอบโยนอย่างใจเย็นและคนตัวโตก็ทำตามคำพูดนั้นอย่างตั้งใจ ท่าทางที่เหมือนกับเด็กไม่มีผิด
“...”
“ดีขึ้นไหมครับ”
“นายท้อง” ถ้อยคำที่วิ่งวนอยู่ในหัวถูกเอ่ยทบทวนเชื่องช้า
“ครับ รักท้อง” กานต์รักรับคำพร้อมรอยยิ้มหวานยามลูบไล้ฝ่ามือหนาที่สั่นไหวอยู่ไม่ห่าง
“จะมีลูก”
“ครับ เรากำลังจะมีลูก”
เมื่อได้รับคำยืนยันอีกครั้งรอยยิ้มกว้างที่มากกว่าครั้งไหนๆก็แย้มระบายอยู่บนใบหน้า แพทริกยิ้มทั้งปากและดวงตา ยิ้มแบบที่กานต์รักไม่เคยเห็นมาก่อน แรงบีบกระชับบนฝ่ามืออบอุ่นไปถึงหัวใจทั้งสองดวง จากนั้นวงแขนแข็งแรงก็ตวัดรั้งเรือนร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมกอด
“ขอบคุณ ขอบคุณพระเจ้า...ขอบคุณนาย ขอบคุณ” คำขอบคุณดังซ้ำๆอยู่ข้างหู เปลือกตาสีอ่อนหลับลงซึบซับความปลื้มปิติยินดีที่เปี่ยมล้น
“รักก็ขอบคุณคุณแพทนะครับ” ขอบคุณในความเป็นผู้นำที่ดี ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งอย่างในชีวิต รวมทั้งขอบคุณที่ทำให้เจ้าตัวน้อยเกิดมา
“ฉันดีใจ...มีความสุขมากๆ มีความสุขที่สุด”
สติที่หลุดหายเริ่มกลับเข้าที่ ท่าทางลุกลนก่อนหน้าค่อยๆกลับมาสงบ แพทริกเข้าใจสิ่งที่กานต์รักพูด เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า และความเต็มตื้นที่อยู่ในอกก็ท้วมท้นจนแทบสำลักออกมา
“รักก็เหมือนกันครับ”
ท่อนแขนเล็กโอบรอบเอวสอบ กอดกระชับแนบแน่นพร้อมทั้งเอียงใบหน้าซบลงกับซอกคอแกร่ง ความคิดถึงถูกลบหายไปในทันทีเมื่อวินาทีนี้ความสุขมันอบอวลไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
“ฉันต้องโทรบอกมัมกับแด๊ดก่อน” ร่างสูงผละออกยามนึกขึ้นได้ก่อนจะกระวีกระวาดหาโทรศัพท์ จากนั้นจึงกดต่อสายหาผู้ให้กำเนิดทั้งที่มือยังสั่นระริก
“Dad! Mom!...”
กานต์รักจับใจความได้เพียงเท่านั้นก่อนแพทริกจะรัวคำพูดเสียจนฟังแทบไม่ทัน และเพราะความรัวเร็วนั้นปลายสายคงฟังไม่ทันเช่นกันจึงได้ยินคนตัวโตสูดลมหายใจแล้วพูดช้าๆให้คนมองหลุดหัวเราะ แล้วจากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกจากอีกฝั่งดังรอดออกมา
ว่าที่คุณแม่ได้แต่มองภาพนั้นอย่างอ่อนใจแต่ถึงอย่างนั้นก็มีความสุขที่สุด
-
“ทำไมไม่กินผัก”
แพทริกเอ่ยขึ้นขณะกำลังทานข้าวอย่างพร้อมหน้าเมื่อสังเกตได้ว่าคนข้างตัวเขี่ยผักออกไว้ข้างจาน ประโยคที่ทำให้ทุกคนหันมามองยิ้มๆและทำเป็นไม่สนใจ
“...ลูกไม่ชอบครับ” ว่าที่คุณแม่ตอบเสียงเบา
“งั้นหรือ”
แพทริกพยักหน้ารับ เหลือบสายตามองหน้าท้องคนรักก่อนจะระบายยิ้มบางแล้วเป็นฝ่ายตักผักของคนรักมาใส่จานตัวเอง การกระทำใส่ใจเล็กๆนั้นทำให้กานต์รักรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ขณะที่พ่อ แม่ และพร้อมกานต์ยกยิ้ม
เมื่อชั่วโมงก่อนแพทริกตื่นเต้นเสียจนวิ่งลงมาพูดแต่เรื่องลูกไม่หยุด ยิ่งพร้อมกานต์ซึ่งเป็นคนพากานต์รักไปโรงพยาบาลยิ่งถูกซักฟอกเสียละเอียดยิบ จนทุกคนนึกขำระคนเอ็นดูว่าที่คุณพ่ออย่างเข้าใจความรู้สึก
หลังจากมื้ออาหารผ่านพ้นไปต่างคนก็ต่างแยกย้ายเนื่องจากอยากให้ว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ได้อยู่ด้วยกันตามประสา
“คุณแพท รักอาบน้ำเองได้ครับ”
ร่างเล็กในชุดคลุมอาบน้ำยื้อหยุดยืนเถียงกับคนตัวโตเมื่อแพทริกยืนกรานว่าจะอาบน้ำให้ด้วยเหตุผลที่ว่า
‘ฉันกลัวนายลื่นล้ม’
“ไม่ได้”
“รักจะระวังตัวอย่างดี ไม่ล้มหรอกครับ ให้รักอาบน้ำเองนะ”
“ยังไงก็ไม่ได้ เกิดนายเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไง พื้นก็เปียกถ้าลื่นล้มล่ะ”
สีหน้าจริงจังบวกกับน้ำเสียงที่เอื้อยเอ่ยบ่งบอกว่าแพทริกไม่ยอมโดยง่าย ริมฝีปากล่างจึงถูกขบกัดด้วยฟันซี่ขาว แม้ไม่ใช่ว่าไม่เคยแต่ก็ขัดเขินเกินกว่าจะยืนนิ่งให้อีกฝ่ายลูบไล้ยามมีสติเต็มร้อย
ไม่ใช่เด็กเล็กๆเสียหน่อย
“คุณแพทแค่เข้าไปนั่งในห้องน้ำได้ไหมครับ ส่วนเรื่องอาบน้ำรักจัดการเอง...นะ นะครับ” กานต์รักเอ่ยต่อรองอ้อนขอ กระทั่งเริ่มเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีนิ่งคิดจึงเริ่มมีความหวัง
“นะครับ”
“ก็ได้”
คำตกลงที่ทำให้กานต์รักยิ้มกว้าง นึกโล่งใจที่ไม่ต้องทนกับความขัดเขินยามคนตัวโตนั้นลูบไล้ไปตามร่างกายหรือจัดการทุกอย่างให้ราวกับเป็นเด็ก
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อต้องเข้าไปในห้องน้ำแล้วมีอีกคนมานั่งจ้องอย่างไม่ละสายตาก็อดสะเทิ้นอายขึ้นมาไม่ได้ ผิวเนื้อเนียนขาวเห่อแดงไปทั่วยามชุดคลุมอาบน้ำค่อยๆถูกถอดให้พ้นตัว ในห้องฝักบัวที่เป็นตู้กระจกใสมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ว่าที่คุณแม่จึงรีบหมุนตัวหันหลังแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว
แม้น้ำเย็นฉ่ำจะราดรดบนตัวหากแต่ความวูบวาบทางด้านหลังก็ทำให้กานต์รักใจเต้น ขณะที่แพทริกกลับรู้สึกว่าการมานั่งมองคนร่างบางอาบน้ำอยู่อย่างนี้มันเป็นการทรมานตัวเองชัดๆ
ให้ตาย ห่างหายกันไปถึงสิบวัน เพียงแค่เห็นเรือนร่างบอบบางเปล่าเปลือยกลางกายก็ปวดหนึบจนแทบระเบิด แต่เพราะนึกถึงความปลอดภัยของลูกแล้วแพทริกจึงต้องอดทน แม้ความใหญ่โตจะเครียดขึงอย่างไม่อยากทานทนก็ตาม
10นาทีแห่งความทรมานทั้งใจและกายผ่านพ้นไปเมื่อกานต์รักอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาด้วยร่างกายที่ถูกปกปิดด้วยชุดคลุมสีขาวสะอาดตา ใบหน้าหวานชื้นน้ำเปล่งปลั่ง แก้มเนียนสองข้างแดงเรื่ออย่างน่ามอง
“คุณแพทอาบน้ำนะครับ เดี๋ยวรักจะไปแต่งตัวรอ”
คนฟังอยากจะตามไปเฝ้าด้วยเพราะความเป็นห่วงทว่าความแข็งขืนกลางกายทำให้ไม่อาจจะทำอย่างนั้นได้จนต้องจำใจพยักหน้ารับ เพราะความเขินอายทำให้กานต์รักไม่ทันสังเกตเห็นความทรมานนั้นร่างเล็กจึงเดินออกจากห้องน้ำไป ปล่อยให้คนที่ต่อสู้อยู่กับความต้องการพรูลมหายใจออกมาก่อนจะรีบ‘จัดการ’กับตัวเอง
เมื่อถึงเวลาเข้านอนที่ว่าที่คุณพ่อรอคอยแพทริกก็ขยับหมอนลงไปกลางเตียงในระดับเดียวกับท้องของร่างเล็กให้กานต์รักถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำไมไปนอนตรงนั้นล่ะครับ”
“ฉันอยากอยู่ใกล้ลูก” ใบหน้าคมยกยิ้มก่อนจะนอนตะแคงข้างเข้าหา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หน้าท้องแบนราบภายใต้เสื้อนอนนิ่ง
ลูกอยู่ในนี้งั้นหรือ จะอุ่นดีไหมนะ...
“ขยับขึ้นมาเถอะครับ รักกลัวตัวเองนอนดิ้นแล้วขาจะโดนหน้าคุณแพท” เพราะขาเรียวอยู่แนบชิดกับลำตัวของอีกคน หากเผลอขยับเพียงนิดเกรงว่ามันจะโดนแพทริกเข้า
“ไม่เป็นไร นายนอนตะแคงข้างมาหาฉันหน่อยสิ ฉันอยากคุยกับลูก”
น้ำเสียงตื่นเต้นนั้นทำให้กานต์รักระบายยิ้มก่อนจะพลิกทั้งตัวหันเข้าหาคนรักให้หน้าท้องบางอยู่ต่อหน้าแพทริกพอดีตามที่คนตัวโตร้องขอ
ฝ่ามือหนาจับชายเสื้อนอนของกานต์รักเลิกขึ้นไปไว้กลางอก ยามวางมือแตะลงบนนั้นความอุ่นวาบก็แล่นพล่านไปทั่วกาย รอยยิ้มกว้างแต่งแต้มบนใบหน้า
“อยู่ในตัวมัมมี้อุ่นดีใช่ไหม สบายล่ะสิ...แดดดี๊ก็ชอบอยู่ในตัวมัมมี้เหมือนกันนะ”
“คุณแพท! พูดอะไรทะลึ่งให้ลูกฟังกันครับ” กานต์รักโวยวายด้วยความขัดเขิน ขณะคนพูดยกยิ้มพอใจ
“ทะลึ่งแต่ก็ทำให้เบบี๋มาอยู่ในนี้นะ”
“เดี๋ยวลูกก็ทะลึ่งตามหรอกครับ...หนูห้ามฟังแดดดี๊นะ” ว่าที่คุณแม่คุยกับลูกบ้าง
“หึหึ ฉันล้อเล่น เอาดีๆแล้ว เบบี๋...นี่แดดดี๊แพทนะครับ อยู่ในนี้ห้ามดื้อห้ามซน ห้ามทำให้มัมมี้เหนื่อยโอเคไหม ถ้าเป็นเด็กดีแดดดี๊จะซื้อของเล่นให้เยอะๆเลย ดีลนะ”
น้ำเสียงที่เอ่ยกับคนในท้องทอความอ่อนโยนยิ่งกว่าครั้งไหน ความสุขฉายชัดออกมายามเสียงทุ้มเอ่ยคุยกับลูกจนกานต์รักยิ้มตาม พูดเสร็จริมฝีปากได้รูปก็กดจูบแนบแน่นทิ้งท้าย
“ง่วงหรือยัง” คุยกับลูกเสร็จก็เงยหน้าขึ้นถามคนเป็นแม่ยามมือหนาดึงชายเสื้อนอนที่เลิกขึ้นไปกองอยู่บนอกลงมาไว้เช่นเดิม
“นิดหน่อยครับ”
“งั้นก็นอนเถอะ นายต้องพักผ่อนเยอะๆ”
“คุณแพทจะนอนตรงนั้นจริงๆหรือครับ”
“อืม” แพทริกพยักหน้ายืนยันก่อนจะขยับตัวขึ้นดึงผ้าห่มมาคลุมให้ร่างเล็กจนถึงอก จากนั้นก็กดจูบลงมาบนหน้าผากเนียนนิ่ง ลากไล้สัมผัสเรื่อยมากระทั่งถึงริมฝีปากบาง
“ฝันดีนะ...คนเก่งของฉัน”
คำอวยพรแสนหวานทำให้คนฟังใจเต้นถี่ ใบหน้าพลันเห่อร้อน ไม่กล้ามองสบกับดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายอย่างขัดเขิน แพทริกยกยิ้มให้กับท่าทางนั้นก่อนจะบอกให้อีกคนหลับตายามตัวเองลุกไปเอาผ้าห่มมาอีกผืน
“ฝันดีครับ” กานต์รักเอ่ยบอกกับคนที่ล้มตัวลงนอนในตำแหน่งเดิม
ว่าที่คุณพ่อพยักหน้ารับ วาดแขนตระกองกอดรอบเอวเล็กยามจุ๊บลงมาอีกหน แสงไฟนวลสว่างจากข้างหัวเตียงยิ่งขลับให้บรรยากาศรอบตัวแลดูอบอุ่น เปลือกตาสีอ่อนหลับลงอย่างมีความสุขกว่าทุกคืนที่ผ่านมา
แม้อีกคนจะหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วหากแต่คนที่ยังตื่นเต้นกับข่าวดียังคงหลับไม่ลง ทั้งที่ควรจะเหนื่อยกับการเดินทางแต่แพทริกกลับไม่ยอมหลับ ดวงตาจับจ้องอยู่เพียงหน้าท้องที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่าน ความอิ่มใจมากมายจนไม่รู้จะพูดอย่างไร
กานต์รักที่นอนหลับไปได้สี่ชั่วโมงค่อยๆรู้สึกตัวตื่นเมื่อความปวดหน่วงอยากปลดปล่อยของเหลวทำงานตามกระบวนการ เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆปรือเปิด แสงจากโคมไฟยังไม่ถูกปิดลง และ…อีกคนยังคงไม่นอนเมื่อใบหน้าคมขยับแหงนขึ้นมองกัน ตาโตเหลือบมองนาฬิกาพรายน้ำบนผนังจึงรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตีสอง
“อื้อ คุณแพทยังไม่นอนอีกหรือครับ” คนถูกถามส่ายหน้าตอบ
“ปวดฉี่เหรอ เดี๋ยวฉันพาไป” ร่างสูงขยับลุก เอื้อมมือมาประคองคนร่างเล็กให้ลุกขึ้นนั่งกระทั่งจนถึงหน้าห้องน้ำ
“ไม่ต้องเข้ามาหรอกครับ รักฉี่แป๊บเดียว” เอ่ยห้ามคนที่ตั้งท่าจะเดินเข้ามาด้วย
“แต่ว่า...”
“แปบเดียวเองครับ คุณแพทรอข้างนอกนะ”
พูดเสร็จกานต์รักก็เดินเข้าห้องน้ำทิ้งให้อีกคนยืนอยู่ตรงนั้นแล้วรีบจัดการกับธุระของตัวเอง ไม่นานนักก็เดินออกมาก่อนแพทริกจะรีบเข้ามาประชิดตัว โอบประคองกลับมาที่เตียงเช่นเดิม
“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะครับ ตีสองแล้วนะ” เอ่ยถามคนรักขึ้นเมื่อเดินมาจนกระทั่งทรุดตัวลงบนเตียง
“ฉันนอนไม่หลับ”
“เจ็ทแลคหรือครับ” น้ำเสียงเป็นห่วงถูกเอ่ยออกมายามอีกคนขยับผ้าห่มมาคลุมให้เช่นเดิม
“คงอย่างนั้น”
เอ่ยตอบไปอย่างนั้นเพราะรู้ว่าจะทำให้คนรักเป็นห่วง หากบอกความจริงออกไปไม่พ้นว่ากานต์รักคงพลอยกังวลกับการไม่ยอมนอนของเขาไปด้วย
“รักนวดให้ไหมครับ คุณแพทจะได้สบายตัวแล้วหลับง่ายขึ้น”
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ฉันไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว นายนอนต่อเถอะ”
ใบหน้าคมระบายยิ้ม ลูบหัวเล็กแผ่วเบาเป็นการกล่อมก่อนจะขยับเข้ามากอดแม่ของลูกเอาไว้ ยามได้อยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยกานต์รักก็หลับไปอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว แพทริกกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มจากนั้นจึงค่อยๆผละออก เลื่อนตัวลงมานอนที่เดิม
‘มี้หลับแล้ว หนูก็คงหลับแล้วใช่ไหมครับ...อย่านอนดิ้นล่ะลูกหมู’ มือหนาวางแตะลงบนแผ่นท้องภายใต้ผ้าห่มผืนหนาพร้อมทั้งเอ่ยพูดกับคนข้างในเพียงในใจ