เรื่องนี้ผมเคยโพสลงปาล์มครับ สักเมื่อสองสามปีก่อนมั๊ง ไม่รู้จะมีกี่คนที่เคยผ่านตา
แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นคนเขียน รู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะเหมือนโกหกคนอ่าน
แต่ก็อยากให้ได้อะไรจากเรื่องสั้นๆเรื่องนี้ไปบ้างครับ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นแค่เรื่องแต่งน่ะนะ.......
เพราะอย่างน้อยๆเรื่องนี้มันก็เป็นความจริงสำหรับคนบางคน........
...................................
ปีใหม่ ใครๆเขาก็มีความสุขกัน ทุกคนได้อยู่กับครอบครัว ไม่ก็กับคนอันเป็นที่รัก
แต่สำหรับผม เมื่อวันปีใหม่เวียนมาถึงทีไร สิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกปี ก็มีแค่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงคนเดียว และหวังแค่ให้เทศกาลแห่งความสุขนี้ผ่านพ้นไปไวๆด้วยเถอะ
เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ ทนเจ็บปวด และทนร้องไห้อยู่คนเดียวอย่างนี้สักที
ผมเคยมีครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ มีแม่ และน้องชายที่ผมรัก
แต่ผมกลับทำตัวไม่ดีเอง เมื่อผมเข้ามหาลัยและอยู่ชั้นปีที่สอง ผมตัดสินใจขอพ่อกับแม่ไปอยู่หอ เพราะเพียงแค่ว่าผมอยากอยู่กับเพื่อนๆ และจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนได้สะดวกๆ
ผมรักครอบครัวของผมมากนะ แต่ตอนนั้นผมกลับเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนมากกว่า
เพราะผมเห็นว่ายังไงครอบครัวของผมก็ยังอยู่กับผมไปอีกนาน หากคิดจะเจอก็สามารถเจอเมื่อไหร่ก็ได้
ผมเลยเลือกที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่มหาลัยในวันส่งท้ายปีที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง และกินเหล้ากันจนโต้รุ่งแทนที่จะไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดกับครอบครัวของผม
วันนั้นผมเมาเป็นหมา และปิดมือถือทิ้ง เพราะรำคาญแม่ที่เอาแต่โทรมาถาม ว่าทำอะไรๆอยู่ และบอกแต่ว่าอย่าเมามากนะ
“กินเหล้าไม่ให้เมา แล้วจะกินทำซากอะไรวะ” ตอนนั้นผมคิดอย่างนั้น และยังหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆ
ผมจึงตัดสินใจตัดรำคาญ ตัดการติดต่อจากมือถือไปเลย เพราะยังไงๆผมก็อยู่กับเพื่อนๆอยู่แล้ว
คงไม่มีใครโทรมาหาผมอีกหรอก
ผมตื่นมาวันรุ่งขึ้นเวลาเกือบสามโมงเย็น และเมื่อผมกลับไปถึงบ้านก็ต้องได้พบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต นั่นก็คือครอบครัวของผม ทั้งพ่อแม่ และน้อง ประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกขับมาชนระหว่างขับรถไปบ้านของญาติ
ทั้งตำรวจ ญาติๆ และเพื่อนบ้านทุกคนพยายามจะติดต่อผม แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าผมปิดมือถือทิ้งไปเมื่อคืน
ผมทรุดตัวลงแล้วร้องไห้ ชีวิตของผมไม่เหลือใครแล้วตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ผมด่าตัวเอง โทษตัวเอง และเกลียดตัวเองที่สุดในชีวิต
ผมเคยคิดจะฆ่าตัวตายไปหลายหน แต่ยังดี ที่ผมยังพอมีความคิดดีๆเหลืออยู่บ้าง ความคิดที่ว่าผมขอทำอะไรดีๆเพื่อครอบครัวของผมเป็นอย่างสุดท้ายหลังจากที่ผมทำไม่ดีมามากพอแล้ว
นั่นก็คือผมจะเรียนให้จบ และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เป็นคนดีของสังคม เพื่อทดแทนบุญคุณของเหล่าคนที่ผมรักและรักผมมากที่สุดที่จากผมไปแล้ว
นับหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เมื่อผมเริ่มลำบากเรื่องเงินในการเรียนและในการใช้จ่ายมากขึ้น
เพื่อนที่ผมคิดว่าผมเคยมี ก็ค่อยๆพากันหายไปกันทีละคนสองคน ญาติๆที่มีก็ช่วยผมได้แค่บางส่วนเท่านั้น ผมจึงต้องทำงานไปเรียนไป และใช้ชีวิตอย่างลำบากที่สุดนับตั้งแต่ผมเกิดมา
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ทางกาย แต่ยังเป็นทางใจอีกด้วย
ผมรู้สึกถึงความเหงาที่สุดในชีวิตก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันสายไปแล้วนั่นเอง...........
ใช่แล้ว ผมสำนึกได้ก็เมื่อมันสายไป ผมสำนึกได้ว่าพ่อแม่ของผมต้องลำบากขนาดไหนเพื่อหาเงินมาส่งผมกับน้องเรียนดีๆสูงๆ และรับภาระทุกสิ่งทุกอย่างจากที่ผมใช้ไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย
ผมนอนร้องไห้หลายต่อหลายคืน ผมนึกท้อใจก็หลายหน
ความคิดที่ว่าอยากจะตาย แวบเข้ามาในหัวของผมแทบจะทุกๆอาทิตย์หรือสองอาทิตย์
แต่ว่าสุดท้ายแล้วผมยังคงมีความรักหลงเหลืออยู่ ความรักที่ผมอยากจะมอบชดเชยให้แก่ครอบครัวของผม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจากผมไปแล้วและจะไม่สามารถรับรู้มันได้อีกเลยก็ตาม........
รวมถึงความรักเพื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยังคงอยู่เคียงข้างผมมาตลอด
ในตอนแรกผมก็ไม่ค่อยจะชอบและสนิมสนมกับมันเท่าไหร่นักหรอก เพราะมันก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวไปกินเหล้ากับพวกผม แถมยังชอบปากเปียกปากแฉะเรื่องเรียนเรื่องรายงานของผมจนน่ารำคาญ
แต่สุดท้าย มันก็เป็นคนเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ข้างกายผม ที่คอยให้กำลังใจ ช่วยเหลือ และสนับสนุนผมมาตลอดจนผมเรียนจบ
หลังจากเรียนจบมีงานทำได้ปีนึง มันก็มาสารภาพกับผม ว่ามันรักผม
ตอนนั้นผมรู้สึกตกใจมากที่มีผู้ชายมาบอกรักแบบนั้น ผมจึงถึงกับหันหลังให้แก่มัน และเดินจากมันมา
ผมไม่ได้รับการติดต่อจากมันอีกเกือบเดือน และนั่นเองที่ทำให้ผมรู้ว่า ตลอดเดือนนึงนั้นผมคิดถึงมันมากแค่ไหน
ยิ่งใกล้ช่วงปีใหม่แบบนี้ มันที่เคยอยู่ข้างๆผมปลอบโยนผมให้ผ่านพ้นมาได้ตลอดทุกๆปีก็ไม่อยู่อีกแล้ว ซึ่งนั่นก็เพราะว่าผมมันเลวเอง.........
ผมผลักไสคนที่เขารักผมออกไป ไม่ต่างกับเมื่อครั้งนั้นเลย..........
ผมเริ่มรู้สึกแย่มากๆ ผมคิดถึงมัน ผมต้องการมันมาอยู่ข้างๆผม
ตลอดเวลาที่ผ่านไปเกือบเดือน เวลาที่ผ่านไปนั้นผมใช้ไปกับการถามตัวเองและตัดสินใจ ว่าผมรู้สึกกับมันยังไง
ผมให้คำตอบตัวเองไม่ได้ แต่ผมตัดสินใจได้ ว่าผมควรจะทำอย่างไร
มันคือเพื่อนคนเดียวที่รักผมจริงและอยู่ข้างๆผมมาตลอด มันรักผม และผมก็รักมัน ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหนมันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
ผมจะบอกมัน ว่าผมรักมัน เพื่อที่เหตุการณ์แบบที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวของผม จะไม่เกิดขึ้นอีก
ผมไม่อยากให้มันสายเกินไปเหมือนเมื่อครั้งนั้น
เวลาผ่านไปทุกวินาที ยิ่งใกล้วันสิ้นปี ผมก็ยิ่งต้องการมัน ยิ่งคิดถึงมัน ผมจึงตัดสินใจจะขับรถไปหามันที่บ้านในคืนวันที่ 30 ธันวาคม
ผมจำได้แม่นว่าวันนั้นรถติดมาก เพราะบ้านมันอยู่นอกเมือง และคนส่วนมากก็กำลังอยู่ในช่วงออกเดินทางไปต่างจังหวัดกัน
เมื่อผมไปถึงบ้านมัน ก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นว่าบ้านของมันกำลังจัดงานศพกันอยู่
แขกในงานน้อยมาก เนื่องจากเวลาขนาดนี้แล้ว และยังเป็นช่วงเทศกาลอีกด้วย
ผมถึงกับเข่าอ่อน หมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะเดิน ไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวาลงจากรถ ความกลัวมันเริ่มคืบคลานเข้ามาสู่ภายในใจของผม
และสุดท้าย ผมก็ต้องรับรู้เรื่องราวทุกอย่างจากแม่ของมันอย่างไร้วิญญาณ
ความเป็นจริงนั้นมันช่างปวดร้าวนัก...........
แม่ของมันบอกผมว่า มันกินเหล้าหนักมาก และเกิดรถคว่ำตอนกำลังจะกลับบ้านเมื่อคืนวานนี้เอง
มันที่ไม่เคยกินเหล้าเกินตัว กลับกินเหล้ามากขึ้นในช่วงตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาจนเป็นเหตุที่ทำให้มันต้องด่วนจากไป............
ผมเดินไปร้องไห้ที่โลงศพของมันจนแม่ของมันต้องเข้ามาปลอบ และชวนให้ผมนอนค้างที่นั่นก่อนหนึ่งคืน
ตลอดทั้งคืนผมเอาแต่เสียใจ ผมเอาแต่ร้องไห้ ร้องแล้วร้องอีก ร้องไห้ให้กับการสูญเสียที่เพิ่งเกิดขึ้นกับผมและรวมทั้งร้องไห้ให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนด้วย
คืนนั้นแม่มันให้ผมไปนอนบนห้องของมัน ผมร้องไห้จนหลับลงไปบนเตียงของมัน และรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของมันตลอดเวลา ผมรู้สึกว่ามันยังคงอยู่ข้างๆผมคอยปลอบโยนผมอยู่ตลอดทั้งคืนเหมือนกับที่ผ่านๆมา.......
หลังจากวันนั้น ก็ผ่านมาสามปีแล้ว
หกปีแห่งการสูญเสียของผม มันมากเกินพอ ที่จะทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด และเกลียดกลัวเทศกาลแห่งความสุขนี้
ไม่ว่าผมจะหันไปทางไหน ผมก็จะเจอผู้คนกำลังหัวเราะ ยิ้มแย้ม มีความสุขกันไม่ว่าจะตามท้องถนนหรือในทีวี
แต่ผมกลับไม่สามารถสลัดความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและความสูญเสียเหล่านั้นทิ้งไปได้
หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะกับคนที่รักหรือกับใครๆก็ตาม
แต่ทุกปี ในวันที่สามสิบธันวา ผมจะไปทำบุญที่วัด และเลือกที่จะไปตามสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าให้บ่อยและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนวันที่สามสิบเอ็ดผมจะขังตัวเองอยู่ในห้อง จมอยู่กับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ผมต้องสูญเสียคนที่ผมรักและคนที่รักผม แต่หากผมไม่เคยเห็นคุณค่า ถึงสองครั้งสองครา
ผมไม่รู้ ว่าผมจะต้องทนเจ็บปวดแบบนี้ไปถึงอีกเมื่อไหร่ แต่ว่าวันรุ่งขึ้นผมก็จะพยายามลุกขึ้นยืน และก้าวเดินต่อไป ผมจะพยายามมีชีวิตอย่างเข้มแข็งและใช้ชีวิตส่วนที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยให้กับคนที่ผมรักทั้งสี่คน.................................
สุขสันต์วันปีใหม่แก่ทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่านนะครับ
และผมหวังว่า ปีใหม่นี้ คุณจะได้บอกคนที่คุณรัก และคนที่เค้ารักคุณ ว่า คุณรักเค้ามากแค่ไหน
และถ้าจะให้ดี ก็แสดงมันออกไปด้วย พูดออกไปว่าคุณรักเขามากแค่ไหน พยายามใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดกับครอบครัว คนที่เค้ารักเราอย่างใจจริงและไม่หวังผลตอบแทน และมอบความรักให้กับคนรอบข้างทุกคน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในทีหลังเหมือนคนโง่ๆอย่างผม............
ในทุกๆสิ้นปีคนหลายล้านคนมีความสุข แต่คนหลายแสนคนต้องตาย และหลายหมื่นคน ต้องสูญเสียและโศกเศร้า
รักคนรอบข้างให้มากๆนะครับ นี่คือพรที่ดีที่สุด ที่คุณจะขอและทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ขอให้สุขสวัสดิ์จงเกิดแก่ทุกคน และ ขอให้ทุกคนมีความสุข มีความรัก และความสมบูรณ์ในชีวิตนะครับ
...................................
ส่งตอความรักนะครับทุกคน ขอให้มีความสุขรับปี 2008 กันถ้วนหน้า
ใครยังไม่มีแฟนก็ขอให้มี ใครมีแล้วก็ขอให้มีอีก (เอ๊ะ ยังไง
)
ใครยังไม่มีตังก็ขอให้มี ใครมีแล้วก็ขอให้แบ่งกันอีก (เอ๊ะ ยังไง
)
และใครยังไม่มีความสุขในชีวิตก็ขอให้มีนะครับ แต่ถ้าใครมีอยู่แล้ว ก็ขอให้มีอีกเยอะๆแล้วแบ่งให้คนรอบข้างด้วยน้าา
จุ๊บๆทุกคนที่อุตส่าห์คลิกเข้ามาอ่านครับ
เจอกันปีหน้านะ