บทนำว่ากันว่าเนื้อคู่ หากมาไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา ก็ไม่ใช่เนื้อคู่
เพราะงั้นชาตินี้ ผมคงอยู่ไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา จนต้องถูกไอ้ดวงมันปฏิเสธรักซ้ำซากเสียล่ะมั้ง
หากชาติหน้ามีจริง ก็ขอให้สวรรค์เมตตา ให้ผมได้เป็นเนื้อคู่ของมันเสียทีเถอะ
สาธุ!
“ไอ้ดวง! ต้องให้กูตายแล้วเกิดใหม่ใช่มั้ย มึงถึงจะรับรักกูได้!”
รัตติกาลตะโกนก้องจากขอบระเบียงคอนโด ด้านล่างเป็นสระว่ายน้ำอันไร้ผู้คนในยามวิกาล ส่วนเบื้องหน้าของชายหนุ่ม คือ ‘ดวงใจ อินทรทินกร’ หนุ่มร่างเล็กที่กำลังยืนกอดอกพิงประตูห่างออกไปที่มองเขาด้วยสายตาและสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“มึงเมาทีไรก็เพ้อเจ้อทุกที ถ้าจะเรียกกูมาดูมึงทำเรื่องไร้สาระ กูกลับล่ะนะ”
“ดวง...มึงนี่มัน...ไอ้คนไร้หัวใจ! กูจะไม่สนใจมึงอีกแล้ว ไอ้ไร้หัวใจ!! ไอ้ #^#$@)$*&@)$”
“นี่รัต อย่ามาทำกูเสียเวลาน่า รีบๆ ลงมาจากระเบียงเลยนะ เดี๋ยวกูไปธุระไม่ทันจะว่ายังไงหา!!”
“กูไม่ไปไหนทั้งนั้น! มึงก็ห้ามไป!! ถ้ามึงไป กูจะโดดตึกตายตรงนี้แหละ!!”
ดวงถอนหายใจเฮือก ทำท่าจะเปิดประตูห้องกลับออกไป เพราะเบื่อมุกเรียกร้องความสนใจจากไอ้คนร่างยักษ์แต่สมองและอีคิวต่ำกว่าเด็กสี่ขวบเต็มที อยากโดดก็โดดไป ยังไงโดดจากตรงนี้ก็ไม่ตายเพราะข้างล่างห่างไปแค่ชั้นสองชั้นก็เป็นสระว่ายน้ำด้วย
ทว่า...เพียงแค่ชั่วพริบตาที่ดวงเห็นว่ารัตติกาลทิ้งตัวร่วงหล่นลงจากระเบียง พร้อมกับได้ยินเสียงตัดพ้อต่อว่า หัวใจเขาก็เหมือนหล่นวูบตามลงไปด้วย
“ชาตินี้กูรักมึงไม่ได้ งั้นเจอกันชาติหน้าแล้วกัน!”
ฟึ่บ!
“ไอ้รัต!!!”
น้ำในสระแตกกระจายเป็นวงกว้างเมื่อร่างสูงใหญ่ของรัตติกาลร่วงดิ่งลง
รัตติกาลรู้ตัวว่าทำอะไรงี่เง่า แต่ถึงอย่างไรการกระโดดลงมาจากระเบียงห้องลงสระน้ำก็ไม่ทำให้ถึงตายหรอก ชายหนุ่มคิดอย่างนั้น และเพียงแค่คิดอยากจะเรียกสติตัวเองด้วยการทำอะไรแผลงๆ เท่านั้น แม้จะรู้ว่าการกระทำนี้คงเรียกให้ดวงสนใจเขาไม่ได้เหมือนกับที่ผ่านมา
แต่เลือดบ้าและอารมณ์กรึ่มแอลกอฮอล์ก็ทำให้เขากระโดดลงมาแบบไม่คิด
แรงกระทบของร่างกายปะทะผิวน้ำทำให้เจ็บแปลบๆ กว่าจะรู้ตัวว่าเมาเกินและไม่น่ากระโดดลงมาก็สายไป ตอนนี้ร่างใหญ่ของชายหนุ่มทิ้งดิ่งลงสู่ก้นสระ
...ป่านนี้ดวงคงกลับไปเรียบร้อย ไม่มีทางจะมาสนใจกันร๊อก
คิดน้อยใจไปพลาง หลับตาและทิ้งตัวดิ่งในสระไปพลาง ไม่ใช่อะไร พอดีคลอรีนมันทำให้แสบตา
ขณะเดียวกัน ดวงใจก็รีบวิ่งจากคอนโดชั้นบน ลงมาที่สระว่ายน้ำในทันทีที่ตั้งสติได้
“ไอ้รัต!!! ไอ้คนเฮงซวยเอ๊ย”
วิ่งด้วยความเร็วแสงเพราะไม่มั่นใจกับสติของรัตติกาลนัก เกิดอีกฝ่ายจมน้ำตายไปจริงๆ จะว่ายังไง เล่นแบบนี้ก็เกินไป ดวงใจได้แต่สบถไปตลอดทางจนกระทั่งมาถึงริมสระคลอรีนอันไร้ผู้คน แต่เห็นบางห้องเปิดระเบียงออกมาดูแกมด่าบ้างแล้ว
“รัต!! ขึ้นมาจากน้ำเร็วๆ ก่อนที่ยามจะมาไล่มึงออกจากตึก!!”
หอบแฮ่กไป ตะโกนบอกคนร่างสูงไป ดวงใจเห็นเงาตะคุ่มๆ ในน้ำ ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นรัตติกาลที่อยู่ในนั้น
“รัตโว้ย!! อย่าเอาแต่เล่นน่า”
พอตะโกนเรียกอีก เสียงด่าทอจากผู้อาศัยอื่นในคอนโดก็ดังแทรก “ช่วยเกรงใจชาวบ้านหน่อยได้มั้ย!! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว!!”
ดวงใจขมวดคิ้วมุ่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็ยังพยายามเรียกรัตติกาลแม้จะต้องลดเสียงลงนิดหน่อยก็ตาม
“รัต!! ไม่เล่นอย่างนี้นะ ขึ้นมาเร็ว!!”
แต่เมื่อคนในน้ำเอาแต่เงียบและไม่ยอมขึ้นมาเสียที ดวงใจก็ชักหวั่น แล้วรัตติกาลยังนิ่งสนิทผิดปกติอีก
“รัต!!”
คราวนี้ดวงใจไม่สนว่าอีกฝ่ายจะล้อเล่นหรือไม่ เขากระโดดลงสระหมายจะไปลากคนตัวยักษ์ขึ้นมา แต่ชั่วขณะที่ตามลงไปกลับมองไม่เห็นร่างของรัตติกาลอยู่ข้างใต้!!
มองหารัตติกาลจนลมหายใจแทบหมดปอด ดวงใจจึงต้องจำใจวกกลับขึ้นเหนือน้ำเพื่อกลืนอากาศเข้าอีกเฮือก ก่อนจะดำดิ่งดูอีกที หัวใจเต้นแรงเมื่อความกลัวเข้าครอบงำ
ไม่สนว่ารัตติกาลจะล้อเล่น ให้ล้อเล่นยังดีเสียกว่า
ภาวนาว่าอาจเพราะแสงไฟเหนือสระสว่างเพียงนิดในยามค่ำคืน ทำให้มองพลาดไปเท่านั้น
และเมื่อดำน้ำลงอีกครั้ง คราวนี้ดวงใจมองเห็นร่างใหญ่แล้ว รู้สึกใจชื้นขึ้นมาแม้ร่างคนที่ว่าจะนอนนิ่งสนิทอยู่ก้นสระ
ทั้งดึงทั้งลากคนตัวสูงกลับขึ้นด้านบน ผู้คนที่อาศัยในคอนโดเริ่มเปิดไฟออกมามอง เหล่ายามเริ่มวิ่งมาดูขณะที่ดวงใจพยายามช่วยปฐมพยาบาลให้รัตติกาล
“รัต!! มึงตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
พยายามตั้งสติและทำการผายปอดให้รัตติกาลตามที่เคยฝึก แต่พอร่างที่ดวงตาปิดสนิทไม่มีการตอบสนอง ดวงใจก็ใจเสีย ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามเรียกให้คนร่างใหญ่ฟื้นขึ้นมาให้ได้ หูได้ยินยามวอเรียกคนอื่นรวมทั้งรถพยาบาลมาด้วย
...ถ้ามึงตื่นเมื่อไหร่ กูจะต่อยหน้ามึงไม่ยั้งเลย ไอ้รัต!! ไอ้เวร!!
คิดไปน้ำตาไหลไป จะไม่ต่อยก็ได้ แค่ตื่นขึ้นมาก็พอ ตื่นสิรัต
“รัต มึงอย่ามาแกล้งกูแบบนี้นะ...”
ร่างเล็กเริ่มสะอื้น ขณะนั่งอยู่ข้างรัตติกาลที่ไม่ไหวติงใดๆ รอบข้างเริ่มเกิดความโกลาหล หากแต่เวลาของคนสองคนที่อยู่เคียงใกล้กันเหมือนหยุดเดินไปแล้ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่จะมีรถฉุกเฉินเข้ามา และมีคนมาเตรียมเคลื่อนย้ายร่างรัตติกาลไปยังรถพยาบาล
ดวงใจรู้ว่านานพอดู นานมากจนความหวังมีเพียงริบหรี่ นานจนเมื่อเห็นรัตติกาลเริ่มขยับอย่างคนรู้สึกตัว เขาก็อดปล่อยโฮอย่างไม่อายคนรอบข้างไม่ได้
“ไอ้..ไอ้รัต...กูนึกว่ามึงตายไปแล้ว ไอ้เหี้ย ไอ้@#@$(#)(@”
ทว่าคำแรกที่รัตติกาลเอ่ยออกมาก็ทำให้ดวงใจต้องอึ้งยิ่งกว่า
“คุณหลวง...ร้องไห้ทำไมขอรับ”
!!!
.
.
รัตติกาลได้ยินเสียงก่นด่าของดวงใจจากใต้น้ำ รู้สึกดีใจนิดๆ ที่อีกฝ่ายก็ยังเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่เหมือนกัน นี่ได้ยินเสียงกระโดดน้ำตามลงมาด้วย ตอนนี้ชายหนุ่มอยากจะลิงโลดเต้นลีลาศใต้น้ำให้มันรู้แล้วรู้รอด
ภูมิใจที่มีพรสวรรค์กลั้นหายใจใต้น้ำได้นาน ไม่งั้นโผล่ขึ้นเหนือน้ำไปเร็ว ไอ้ดวงไม่มีทางโดดตามมาช่วยแบบนี้แน่
...นี่ต้องให้กูทุ่มทุนโดดลงมา มึงถึงจะเห็นใจใช่มั้ย รู้งี้ทำสำออยไปนานแล้ว ชิ
ชายหนุ่มนอนนิ่งในน้ำอย่างสบายใจเฉิบ ปล่อยให้คนที่พยายามช่วยถูลู่ถูกังลากตัวใหญ่ยักษ์ของตนไปสักพัก
ว่าแต่ทำไมมือไอ้ดวงมันสากๆ นักวะ แล้วนี่...ดวงมันเป็นปลาหมึกเรอะ ถึงได้มีมืองอกมาหลายมึอเกิ๊น
รัตติกาลรู้ตัวว่าร่างได้ถูกพาขึ้นสู่เหนือน้ำแล้ว แต่ชายหนุ่มยังทำเป็นหลับตาเผื่อว่าจะเรียกร้องความสนใจดวงใจได้ต่อ แม้จะรู้สึกแสบๆ ที่เปลือกตาเหมือนกับด้านบนมีแสงจ้าผิดปกติก็ตาม
“คุณหลวง!! ไอ้มืดมันรู้สึกตัวแล้วขอรับ!!”
พลั่ก!!
อุ้ก...
รู้สึกเหมือนโดนลูกถีบเข้าที่ท้อง ไอ้ดวง...เล่นแค่นี้ถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยเรอะ ไอ้คนไร้หัวใจ!!
“เห้ย มึงอย่าทำเป็นสำออย เห็นไหมว่าคุณหลวงท่านหนักใจเพราะมึงแค่ไหน”
...จะว่าไปทำไมบทสนทนารอบข้างมันแปลกๆ นักวะ อ่ะ ลืมตาดูหน่อยก็ได้
และเพียงแค่ลืมตาเท่านั้น รัตติกาลก็ต้องรีบเด้งตูดถอยกรูดให้ห่างจากคนที่อยู่รายล้อมเขาทันที
“เห้ย มึงอย่าทำเป็นสำออย เห็นไหมว่าคุณหลวงท่านหนักใจเพราะมึงแค่ไหน”
รู้สึกเหมือนสมองยังปรับไม่ได้ไล่ไม่ทันกับบทสนทนาที่ได้ยิน ยิ่งเห็นภาพเหล่าชายฉกรรจ์ยืนรายล้อมรอบตัว รัตติกาลก็ยิ่งตกใจหนัก
“พวกมึงอย่าเข้ามานะโว้ย”
รัตติกาลตะโกนกร้าวราวกับเห็นผี โดยเฉพาะชั่วขณะที่สายตาคมเหลือบไปเห็นคนร่างเล็กในชุดโบร่ำโบราณ ก็ต้องยิ่งสบถออกมาอย่างกริ้วโกรธกว่าเดิม
“ไอ้ดวง!! มึงล้อกูเล่นอยู่ใช่มั้ย!!”
นิ้วพลางชี้ไปที่เจ้าของดวงหน้าขาวที่เริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน
พลั่ก!!
“มึงเรียกคุณหลวงว่าเยี่ยงไรนะไอ้มืด มึงนี่มันต่ำแล้วไม่เจียม”
ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์คนหนึ่งตะคอกด่ารัตติกาล และทำท่าจะเงื้อตีนใส่หน้าอีกรอบ ทว่าท่อนมือขาวกลับยกห้ามเสียก่อน
“พอเถอะ นายมืดขวัญหนีดีฝ่อหมดแล้ว พานายมืดไปพักก่อนไป ถ้าฉันไม่ใช้ให้ไปงมหาแหวนก็คงไม่เสียขวัญขนาดนี้”
รัตติกาลได้แต่ทำหน้าเบี้ยวอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินและได้เห็น
...นี่มันเกิดเรื่องเหี้ยอะไรกันเนี่ย!!
.
.
จบบทนำ
___
แฮร่ วิ่งมาเปิดเรื่องใหม่ค่ะ ครือทดลองลงก่อนนะคะ อย่างที่น่าจะเดาได้ว่าเป็นแนวพระเอกในยุคปัจจุบัน ย้อนไปในยุคอดีต ส่วนพระเอกในยุคอดีต ก็ดันมาอยู่ในยุคปัจจุบันค่ะ อ้อ ในส่วนของ 'ดวงใจอธิษฐาน' โยจะลงยุคอดีตนะคะ ส่วนยุคปัจจุบัน คิดว่าจะแยกไปอีกภาค ซึ่งอาจจะแต่งทีหลังหรือแต่งพร้อมกับอันนี้ค่ะ
แล้วก็โยก็ไม่เคยแต่งแนวไทยย้อนยุคมาก่อนเลย ก็ไม่รู้จะชื่นชอบกันมั้ยนะคะ แต่เรื่องนี้จะไม่ย้อนไปไกลค่ะ ย้อนแค่เป็นช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองนิดหน่อย และช่วงสงครามโลกค่ะ ก็ยังมีแนวเจ้านาย กับคนรับใช้อยู่นะคะ แล้วก็เป็นแนวพระเอกหน้าด้าน ทะลึ่ง กับคุณหลวงผู้นิ่งๆ แต่แพ้ทางพระเอกค่ะ 55555 ฝากติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ