Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.20 ฟงเจิ้นฮ่าวเบิกตากว้างเมื่อร่างของเหยื่อเบื้องหน้ากรีดร้องอย่างทรมานขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า เกลียวโซ่ที่ยึดพันธนาการข้อมือผอมสั่นระริกและตึงแน่นเมื่อถูกรั้งเอาไว้ราวกับเจ้าของร่างจะกระชากมันให้ขาดออกจากกัน
“อะไร? เกิดอะไรขึ้นน่ะหมอ?”หนุ่มชาวจีนถามนายแพทย์ที่ทำหน้าตาเลิกลั่กอยู่ไม่ห่าง ร่างเพรียวบางที่อยู่เบื้องหลังลูกกรงกำลังแสดงอาการแปลกประหลาดที่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่งามปิดสนิท ทิ้งให้แพขนตายาวทาบทับกับพวงแก้มซีดเซียว มันเปียกชุ่มด้วยน้ำตาที่รินไหลออกมา ทว่าเจ้าของร่างกลับไม่ยอมเปิดตาขึ้นมารับรู้สิ่งต่างๆรอบกาย เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังก้องสะท้อนภายในห้องขังเล็กแคบ ราวกับรัตติกรกำลังเจ็บปวดกับบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาไม่อาจรับรู้ไปด้วยได้
“อะไรวะ เมื่อกี้นายเล่นมันแทบตายยังไม่ยอมร้องสักแอะ โดนยาเข้าไปเข็มเดียวกลับเป็นขนาดนี้เนี่ยนะ??”
“บ่นอะไร!? พวกมึงเข้าไปเช็คซิ!”เจิ้นฮ่าวหันไปตวาดลูกน้องที่กำลังแตกตื่น ชายชาวจีนร่างสูงสองคนจึงรีบวิ่งเข้าไปหาร่างที่ดิ้นพล่านเพื่อที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการให้ได้ พวกเขายื่นมือเข้าไปจับเพื่อให้ร่างของรัตติกรหยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้จะเป็นเช่นนั้นแล้ว เสียงกรีดร้องของรัตติกรก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเลยแม้แต่น้อย
“มันไม่รู้สึกตัวแล้วนะครับนาย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลืมตา เอาแต่ร้องอย่างเดียวเลย”
“หรือมันจะบ้าไปแล้ววะ? เฮ้ย!!”
ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวผงะออกมาเมื่อจู่ๆหนุ่มชาวไทยก็สำลักเลือดออกมากองใหญ่ เพราะฤทธิ์ของมอร์ฟีนไปทำให้เลือดที่เขาอุตส่าห์กลืนกลับเข้าไปพุ่งพรวดออกมาอีกครั้ง สีแดงฉานกลบทับสีดำคล้ำของเลือดที่แห้งกรังอยู่ที่พื้น กลิ่นคาวโลหิตจึงโชยคลุ้งอบอวลจนหน้าหวาดหวั่น
“หมอ! เขาจะตายมั้ย? บ้าเอ๊ย! พวกโนวาห์ แกให้ยาอะไรฉันมาวะ!?”เจิ้นฮ่าวเริ่มวิตกกังวล ข้อมูลที่ต้องการยังเค้นไม่ได้สักกะแอะ หากรัตติกรตายไปก่อนขึ้นมา สิ่งที่เขาลงทุนไปทั้งหมดก็จะไร้ความหมาย แต่ละอย่างที่ยอมเสียไปเพื่อแลกกับการเดิมพันครั้งนี้มีไม่น้อย และแน่นอนว่าหากพลาดไปแล้ว เขาก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแน่นอน
“มอร์ฟีนอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้วิงเวียนเล็กน้อย ผมว่าเขาน่าจะได้รับบาดเจ็บภายในอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ออกมาแทนอาเจียนจึงกลายเป็นเลือด แต่สิ่งที่ทำให้เขากรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้อยู่สองทาง อย่างแรกคือเขาติดมอร์ฟีนมาก่อนแล้วเป็นระยะเวลานาน พอรวมกับสถานการณ์ในตอนนี้ก็เลยทำให้เกิดอาการหลอนประสาท อย่างที่สองคือเขาอาจจะมีอาการทางจิตบางอย่างอยู่แล้วก็เป็นได้”นายแพทย์สูงวัยกล่าวด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความมั่นใจ
“ติดมาก่อนแล้วงั้นเหรอ? หรือที่หมอนี่ยอมอยู่กับพวกเวสเปอร์ก็เป็นเพราะยางั้นสินะ? หึหึหึ”ฟงเจิ้นฮ่าวสรุปเอาเองจากสิ่งที่ได้ยิน มิน่ารัตติกรถึงได้ทนทายาดขนาดนั้น คงจะเสพเข้าไปเยอะจนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติเลยสินะ เหอะ…
“ไม่ทราบสิครับ อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจเขาอย่างละเอียดมากกว่า”
“ยังไงก็ตาม ทำให้มันสงบลงสักทีสิ ถึงฉันจะอยากได้ยินมันร้องแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าถึงขั้นเสียสติไปมันก็ไม่สนุกหรอกนะ”หนุ่มชาวจีนกล่าวด้วยใบหน้ายุ่งยาก เสียงกรีดร้องทุรนทุรายของรัตติกรฟังดูบาดลึกอย่างน่าประหลาดใจ มันแหลมสูงก้องสะท้อนไปมาจนทำให้เขาเย็นสันหลังวาบอย่างไม่มีสาเหตุ
“ให้มอร์ฟีนเขาไปแล้วแบบนั้นผมไม่กล้าให้ยากล่อมประสาทให้เขาเพิ่มไปอีกเท่าไหร่หรอกครับ อาจจะอาการหนักกว่าเดิมก็ได้”
“งั้นก็ทำให้มันสลบไปสิ! แค่นั้นก็เงียบได้แล้วใช่มั้ยล่ะ!?”กล่าวจบฟงเจิ้นฮ่าวก็พยักหน้าให้ลูกน้องสองคนที่จับตัวรัตติกรอยู่จัดการทำให้เจ้าของเสียงร้องที่เสียดแทงโสดประสาทของเขาให้มันเงียบหายลงไปสักที
หนุ่มชาวจีนอารมณ์เสียจนแทบคลั่งเมื่ออะไรๆก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เขาเดินปึงปังออกจากห้องขัง หวังจะไปหาเครื่องดื่มดีๆและเด็กน่ารักๆสักคนมากกกอดให้อารมณ์ที่กำลังดิ่งลงเหวได้กลับมาขึ้นสวรรค์เสียบ้าง ทว่ายามเมื่อหันหลังเดินออกจากแนวกรงที่กั้นระหว่างเขากับรัตติกรไว้ สิ่งที่สัมผัสได้กลับเป็นบรรยากาศเย็นเยียบดำมืดที่ทิ้งตัวลงปกคลุมห้องขังแห่งนี้ทันควันเมื่อประตูที่ใช้สำหรับเข้าออกนั้นมีร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งยืนขวางเอาไว้อยู่
“อ่ะ!! อ่ะ!!!”ฟงเจิ้นฮ่าวยืนนิ่งอ้าปากค้าง เสียงที่พยายามจะเค้นออกจากลำคอกลับเบาบางจนน่าสมเพชเมื่อร่างในเงามืดร่างนั้นค่อยๆย่างเท้าลงมาจากบันได
ตึก... ตึก....หัวใจเต้นถี่กระชั้น...ยามเมื่อฝีเท้าที่เคลื่อนเข้ามานั้นดังขึ้นเรื่อยๆ
“...” ดวงตาสีสนิมคมกริบจ้องสะกดให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ต่างกับเหยื่อของพญาอินทรีที่กำลังถูกล่า สัมผัสเย็นเยียบแผ่ขึ้นมาจากสันหลังเป็นริ้วๆเรียกให้หยดเหงื่อผุดพราวทั้งที่อากาศหาได้มีความร้อนเจือปนอยู่
มัจจุราชสีดำในมือใหญ่ยกขึ้นอย่างแช่มช้า สรรพสิ่งในห้องล้วนแต่นิ่งงันคล้ายกับถูกบรรยากาศที่เข้มข้นกดทับเอาไว้ให้ไม่อาจขยับตัว ปลายนิ้วหนาสอดเข้าที่โกร่งไกปืน ก่อนที่มันจะลั่นกระสุนออกมาราวกับจะสะบั้นความเงียบที่ปกคลุมห้องๆนั้นให้สลายหายวับไปทันควันและแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องดังสะท้อนสะท้านเอาไว้แทน!
ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวทั้งสองคนที่จับตัวรัตติกรเอาไว้บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงร่างไร้ชีวิตที่ค่อยๆครูดไถลลงตามผนังอิฐเก่าๆ รอยเลือดจากแผลที่ถูกกระสุนเจาะทะลุกะโหลกทิ้งลวดลายคล้ายกับพู่กันที่ปาดวาดสีแดงลงมาเป็นแนวเส้นตรง คล้ายกับฝีมือของจิตรกรชั้นเอก
“ของของฉัน ใคร ก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง!!”สันปืนหนาตวัดฟาดเข้าที่ใบหน้าของฟงเจิ้นฮ่าวเต็มแรงก่อนลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จะโถมตัวลงจากบันไดแล้วกระหน่ำยิงเข้าใส่ช่องท้องของคุณชายตระกูลฟงไม่ยั้งมือ
ให้มันเจ็บเหมือนตาย เขาก็ไม่ยอมให้มันตาย!!
“เฝ้ามันเอาไว้”เจ้าพ่อหนุ่มกล่าวเสียงหนักเป็นเชิงสั่งให้สคูร์โดที่ก้าวตามมาคอยจับตาดูสถานการณ์รอบด้าน ฟรานสั่งให้ลูกน้องส่วนหนึ่งเฝ้าทางข้างบนไว้ก่อนจะรีบเดินลงมาดูความเรียบร้อยข้างล่างแทนเจ้านายของเขาที่ตอนนี้ใจร้อนเป็นไฟจนไม่สนใจอะไรแล้ว
“แม่ง โคตรโหด”สคูร์โดพึมพำเมื่อต้องยืนเฝ้าร่างที่ดิ้นป่ายปัดไปมาของฟงเจิ้นฮ่าว แผลที่หน้าท้องยังมีเลือดผุดออกมาราวกับก็อกที่เปิดจนสุด
ในห้องขังที่แฝงตัวอยู่ใต้ดินนั้น ฝ่ายตรงข้ามเหลือแค่เพียงฟงเจิ้นอ่าวที่นอนหายใจพะงาบครวญครางไม่เป็นภาษาอยู่ที่พื้นห้องกับนายแพทย์สูงอายุซึ่งหวาดกลัวจนหมดสติไปกองอยู่กับพื้นอีกคน ลาร์เฟียร์ชายตามองเพียงเล็กน้อยก็ส่งสัญญาณให้ฟรานเข้ามาจัดการ
เป้าหมายของเขาที่มาที่นี่คือพระจันทร์ดวงนี้ต่างหาก...
“ลูน่า!”เจ้าพ่อหนุ่มเรียกอีกฝ่ายเสียงดังเมื่อรัตติกรไร้อาการตอบสนอง เสียงกรีดร้องที่เคยดังก้องเปลี่ยนเป็นแหบเครือเพราะร่างกายอ่อนล้าเกินกว่าที่เจ้าตัวจะทนรับไหว หยาดน้ำตาสีใสไหลรินอาบใบหน้า แพขนตาหนาเปียกชุ่มปิดสนิททั้งที่ยังสั่นระริก ทั่วทั่งร่างขาวเนียนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลสดใหม่ สิ่งที่ช่วยปกคลุมร่างกายแบบบางนั้นเอาไว้ก็มีแค่เพียงกางเกงตัวเดียว...
สภาพนั้นไม่ต่างกับตุ๊กตาแสนสวยที่แตกร้าว หากแม้เพียงสัมผัสด้วยความรุนแรงก็จะสลายหายไป...
ลาร์เฟียร์เม้มริมฝีปากแน่น น้ำหนักของบางสิ่งที่เคยอยู่ในอกยามที่ตามหารัตติกรไม่เจอเสียทีนั้นตอนนี้มันหายไป หากแต่หัวใจที่บีบรัดจนปวดยามเมื่อต้องเจอของของเขาในสภาพแบบนี้กลับหนักหนากว่าหลายเท่า!
“อย่า...ไม่เอา...”เสียงครางกระซิบนั้นได้ยินแค่เพียงแผ่วเบา ลาร์เฟียร์เดินเข้าไปชิดกับรัตติกรเพื่อพยายามฟังเสียงที่ว่า แต่เสียงกรีดร้องน่ารำคาญของฟงเจิ้นฮ่าวกลับทำให้เจ้าพ่อหนุ่มได้ยินไม่ชัดสักที
“โธ่เว้ย!!! หุบปาก!!”ดอนแห่งปาเลอร์โมลั่นกระสุนอีกครั้ง คราวนี้เจาะทะลุผิวแก้มไปออกที่ใบหน้าอีกข้าง เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเงียบหายไป ดวงตาสีสนิมแฝงประกายกร้าวตวัดขึ้นมองลูกน้องของตนแล้วสั่งการอีกครั้ง
“อย่าให้มันตาย!”ว่าจบเขาก็หันกลับไปหารัตติกรอีกครั้ง ในกระแสความเกรี้ยวกราดนั้นแฝงไว้ด้วยอารมณ์บางอย่างที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ มือใหญ่มองไล่ขึ้นตามโซ่ที่พันธนาการลูน่าของเขาเอาไว้แล้วยิงจนมันขาดออกจากกัน ยามเมื่อไร้สิ่งใดคอยยึดเหนี่ยวร่างกายเอาไว้ ร่างเพรียวบางก็ทรุดลงทันควันไม่ต่างกับหุ่นที่ถูกตัดสายชักรอก
เจ้าพ่อหนุ่มรับร่างเพรียวมากอดไว้ทันควันอย่างที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะล้มลงมา ดวงตาคมสำรวจร่างกายของรัตติกรอย่างรวดเร็วเพื่อหาจุดที่แลดูจะบาดเจ็บที่สุด ยังดีที่บาดแผลทั้งหมดล้วนเกิดจากการเฆี่ยนตีหรือการกรีดเพียงเบาบาง ทำให้ไม่มีส่วนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทว่ารอยช้ำขนาดใหญ่บนหน้าท้องขาวนั้นกลับน่าเป็นห่วงที่สุด อาการบาดเจ็บที่น่าจะส่งผลไปถึงอวัยวะภายในทำให้เขาไม่สามารถคาดเดาอาการของรัตติกรได้
“ไ..ม่...ช่วย...”เสียงครางของรัตติกรดังขึ้นอีกครั้ง ลาร์เฟียร์ก้มหน้าลงมองริมฝีปากบางที่เอื้อนเอ่ยถ่อยคำเหล่าออกมาอย่างยากลำบากแล้วได้แต่นึกถึงวิธีที่จะทำให้คนตรงหน้าหายจากอาการแบบนี้เสียที
“ลูน่า”
“ช่วยผม อั่ก!” “ลูน่า!”
“อ๊ะ! ไม่...เอา อึก!!” “เด็กดื้อเอ๊ย!”สุดท้ายเมื่อนึกวิธีใดไม่ออก เจ้าพ่อหนุ่มก็ใช้วิธีแบบที่เคยทำมาก่อนเมื่อตอนที่รัตติกรเคยมีอาการแปลกๆแบบนี้อีกครั้ง...
ริมฝีปากหนาโน้มลงทาบทับ บดคลึงกลีบปากนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยเพิ่มแรงทีละน้อยคล้ายกับมือที่ค่อยๆเรียกให้สติที่หายไปกลับมาอย่างเชื่องช้าอ่อนหวาน ปลายลิ้นอ่อนสอดเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายแผ่วเบาคล้ายกับการกระตุ้น สัมผัสหวานล้ำแม้มีรสเลือดเจือปนอยู่ไม่ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มหยุดการแลกเปลี่ยนเรียวลิ้นกับคนตรงหน้าได้ ท่วงทำนองที่เนิบช้าดำเนินอยู่ได้ไม่นานก่อนที่อารมณ์วาบหวามจะปะทุแปรเปลี่ยนจังหวะนั้นเป็นความเร่าร้อนระคนรุนแรง
“อืออ”รัตติกรครางในลำคอยามเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงที่ปลายลิ้นของเขาจนเสียววาบ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่เคยอ่อนแสงค่อยๆเปิดขึ้นทีละน้อยเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่กำลังดึงเขาออกจากความทรงจำที่แสนเจ็บปวดเมื่อครู่
และมันยังคงเป็นใบหน้าเดิมที่เคยดึงเขาออกมาจากอดีตครั้งนั้น...
ฟันคมงับลงที่ริมฝีปากล่าง ไม่แรงขนาดที่จะทำให้เจ็บปวด แต่ก็ไม่เบาจนสามารถเรียกสติของรัตติกรให้กลับมาได้ สัมผัสวาบหวามบาดลึก ฉุดรั้งสติที่กำลังร่วงหล่นลงหลุมดำมืดให้ขึ้นสู่แสงสว่างที่ร้อนเร่า แผดเผาร่างกายให้บิดเร้าเกินกว่าจะทนไหว
“มาก...กว่านี้...”รัตติกรพึมพำเบาๆ มือที่อ่อนแรงยกขึ้นรั้งคอของอีกฝ่ายให้โน้มลงมาแล้วเกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนที่แข็งแรงนั้นเอาไว้ไม่ต่างจากฟางเส้นสุดท้ายที่เขาจะสามารถยึดเอาไว้ได้
เพียงแค่นี้ยังพาเขาออกจากฝันร้ายนี่ไม่ได้หรอก...
ต้อง
ร้อน ให้มากกว่านี้...
วาบหวาม จนกว่าสมองเขาจะโล่งว่าง...
ซ่านกระสัน ตราบจนแตะถึงขอบสุดแห่งห้วงอารมณ์...
เมื่อนั้น
ฝันร้ายทั้งหมดถึงจะหายไปได้โดยสิ้นเชิง!
“เจ็บตัวแล้วยังแสบได้อีกนะ”ลาร์เฟียร์พึมพำชิดกับริมฝีปากนุ่มหวานก่อนจะบดจูบเคล้าคลึงให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก ริมฝีปากแดงๆนี่ไม่รู้ว่ามีเสน่ห์อะไรนักหนาถึงทำให้เขาถอนตัวจากมันไม่ได้เสียที ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งอยากถลำลึกลงไปอีก แม้จะได้ครอบครองมันไปหลายครั้งหลายคราทว่าตัวเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกว่ามันเพียงพอเลยแม้แต่น้อย
“ดอนครับ!”สคูร์โดที่ได้รับข่าวจากทางวิทยุไร้สายตะโกนขัดขึ้นทันควันอย่างไม่เกรงกลัวว่าคนโดนขัดจะอารมณ์เสียจนพาลมาลงกับตัวเอง มันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของหัวหน้าบอดี้การ์ดที่นานๆทีจะได้แกล้งเจ้านายที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กแบบนี้
“ข้างบนแจ้งลงมา พวกโนวาห์วางระเบิดเอาไว้ในห้องพักที่คุณให้คนของเราไปดู มีอีกหลายลูกที่ติดตั้งชนวนไว้ในส่วนอื่นๆของบ้าน ถ้าระเบิดทีแถวนี้คงวอดหมด แล้วก็ อีกแปดนาทีจะระเบิดครับ!”กล่าวเสียงดังเสร็จก็รีบพยักส่งให้ฟราน ไม่รอช้าเลขาหนุ่มก็รีบสั่งถอนกำลังออกจากคฤหาสน์หลังนี้อย่างรวดเร็วที่สุด
ลาร์เฟียร์กัดฟันแน่นอย่างเหลืออด สุดท้ายแล้วโซอาห์เรก็ยังทิ้งกับดักเจ็บๆคันๆเอาไว้ทิ้งท้าย ไม่เสียแรงที่เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาหลายปี กัดไม่ปล่อยซะยิ่งกว่าหมาบ้า!!
มือแกร่งตวัดยกคนในอ้อมกอดขึ้นมาแนบอกแล้วรีบเดินออกมานอกห้องขัง ดอนแห่งปาเลอร์โมเพียงมองร่างไร้สติของฟงเจิ้นฮ่าวอีกครั้งแล้วให้ลูกน้องลั่นกระสุนใส่ขาทั้งสองข้างจนมันไม่สามารถใช้การได้ ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดจากไปในที่สุดทั้งที่ยังเล่นงานคนตระกูลฟงได้ไม่สาแก่ใจของตนเองด้วยซ้ำ
ให้ระเบิดซากมาทับทั้งๆที่มันยังไม่ตายก็น่าพอใจอยู่หรอก แต่ไม่ได้เห็นจุดจบของมันชัดๆนี่สิทำให้เขาหงุดหงิด!
สคูร์โดรอให้ทุกคนออกไปจากห้องจนหมดแล้วกวาดสายตามองสภาพรอบห้องขังอีกครั้ง ทั้งเลือดสดๆที่เปรอะเต็มพื้นและผนัง ทั้งร่างของพวกฟงเจิ้นฮ่าวแต่ละคนที่มีจุดจบไม่ได้ตายดีสักราย เหล่านั้นยิ่งทำให้หนุ่มผมทองเลือดร้อนได้ตระหนักอยู่ในใจตัวเองอีกครั้งที่เห็นการจัดการกับศัตรูแต่ละรายของประมุขแห่งโลกสีเทาคนนี้
อย่าได้คิดลองของ กับดอนออฟดอนอย่างลาร์เฟียร์ เวสเปอร์เป็นอันขาด!___________________________________________________________
หน้าจอที่ถ่ายทอดสัญญาณจากห้องขังใต้คฤหาสน์ของฟงเจิ้นฮ่าวกลายเป็นสีดำสนิทเมื่อเสียงระเบิดกึกก้องดังขึ้นจากที่ๆห่างไกลลงไปเบื้องล่าง โซอาห์เร โนวาห์หัวเราะลั่น เกมส์เล็กๆของเขาและเวสเปอร์แฟมมิลี่คราวนี้จบลงด้วยการที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ ทว่าข้อมูลใหม่ๆที่ได้รับรวมไปถึงท่าทาง “หวงของ” ของดอนแห่งปาเอลร์โมที่ได้เห็นก็ยิ่งทำให้โซอาห์เรหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น
“โนเอล เห็นที่หมอนั่นทำไหม? ฮ่าๆๆๆ”เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันกลับมามองเจ้านายตนเองจากที่นั่งผู้ช่วยนักบินบนเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้าของมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่สุดปลายสายตาเบื้องล่างนั้นคล้ายกับทะเลเพลิงขนาดใหญ่เมื่อคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลฟงนั้นถูกระเบิดเป็นจุลจนไม่เหลือซาก
และตอนนี้เจ้าของระเบิดเหล่านั้นกำลังนั่งเหยียดขาบนที่นั่งอย่างดี ดวงตาสีฟ้าไอซ์บลูหรี่ปรือคล้ายกับแมวแสนสวยที่กำลังพอใจยามได้รับการปรนเปรอ
โซอาห์เร โนวาห์ กำลังสนุก...
“เลขานั่นไม่ธรรมดาจริงอย่างที่คิดไว้เลยนะ ชักอยากได้แล้วสิ...หึหึ”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ปลายนิ้วเรียวเคาะที่หน้าจอแทปเลตในมือเบาๆเสมือนย้ำลงบนใบหน้าของรัตติกรที่เคยปรากฏอยู่ในนั้น
โนเอลเม้มริมฝีปากเล็กน้อยแล้วถึงได้กล่าวตอบ
“จะให้ค้นข้อมูลไว้มั้ยครับ?”
“เอาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องที่ลาร์เฟียร์ไปเก็บเอาเด็กนี่มาได้ยังไงด้วย อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”
“ตามแต่คุณจะต้องการครับโซล”
เสียงรับคำนั้นราบเรียบอย่างทุกทีที่เคยเป็น ทว่าแววตาที่แฝงแววขมขื่นอยู่ลึกๆนั้นไม่มีใครสามารถสังเกตุได้นอกจากตัวของโนเอลเองเท่านั้น
รัตติกร สันติสงคราม
นายมัน...
น่านัก!___________________________________________________________
ก่อนสอบเราทำอะไร ก่อนสอบเราทำอะไร แต่งนิยายที่ดองไว้ไง สุขใจจุงเบย =w= //ซะที่ไหนล่ะ
สวัสดีเดือนแห่งความรักครับ เดือนนี้เป็นเดือนสอบไฟนอลครับ แล้วไหงผมมาอารมณ์กระฉูดช่วงนี้วะเนี่ยยย
มันแต่งให้จบผมไม่เคลียร์อ่ะ เลยได้ฤกษ์ปั่นทั้งๆที่จะสอบอยู่วันสองวันนี้แล้ว
โอ้พระเจ้า
เดี๋ยวกลับมาคุยกันยาวๆตอนหน้าแล้วกันนะครับ สปอล์ยว่าเป็นช่วงป๋าสวีทกับไขอดีตรัตติกรฮะ
แล้วเจอกันนะครับ ^^
รักและคิดถึงอยู่เสมอ
Namioto Yo
ปล.รีบลงเลยยังไม่ได้ตรวจทานอะไร เดี๋ยวกลับมาแก้อีกรอบนะครับ