หลานคุณย่า16 ศัตรูหัวใจ
คิณ(Part)
ตอนนี้ผมกับพายเริมคบกันจริงจังมากขึ้นแล้วครับ จนตอนนี้ผมเริ่มคิดไปอีกก้าวแล้ว อยากแต่งงานว่ะ แค่คิดว่าชีวิตทุกๆ ที่มีพายอยู่ข้างๆ มันจะวิเศษขนาดไหน อาทิตย์ที่ผ่านมาเราตกลงว่าจะไปบ้านหาแม่กับแด๊ดผม แต่ก็มีอันต้องเลื่อน เพราะท่านทั้งสองไปฮันนีมูนกันอีกแล้ว ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้วบทจะสวีทนี่หวานกว่าวัยรุ่นซะอีก แต่อย่าให้หม่อมแม่ผมโมโหนะครับ แด๊ดก็แด๊ดเถอะไปไม่เป็นเลย
ถึงตอนนี้ผมจะยุ่งมากแค่ไหน ผมก็จะต้องปลีกเวลาไปหาพาย หรือถ้าไปไม่ได้จริงๆ ก็จะโทรศัพท์หาเสียมากกว่า วันนี้ก็เหมือนกัน ผมมีประชุมตั้งแต่เช้า จนตอนนี้บ่ายกว่าแล้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็งานเดิมๆ กับคุณรตีนั่นแหละครับ ตอนนี้ผมเริ่มะรู้แล้วว่าคิดผิด ที่ยอมลงทุนร่วมกับเขา ดีแต่สร้างปัญหา
“คุณรตีครับผมว่าคุณควรจะศึกษาหัวข้อการประชุมด้วยนะครับ ก่อนที่จะเข้าประชุม” ผมต่อว่าอย่างไม่คิดจะเกรงใจ เหล่าบรรดาคณะกรรมการบริหารเลยแม้แต่น้อย
“ก็รตีไม่มีความรู้เรื่องนี้นิคะ อ่านไปก็ยังไม่เข้าใจ รบกวนคุณคิณช่วยอิบายรตีนอกรอบได้ไหมคะ” เธอหันมาเล่นหูเล่นตากับผม โดยไม่ได้คิดจะสนใจอารมณ์ผมในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ผมไม่สะดวกหรอกครับ แต่ผมมีลูกน้องเก่งๆ หลายคน เดี๋ยวส่งไปสอนงาน จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่นเขา”
“แต่รตีอยากให้คุณคิณสอนนี่คะ”
“งานผมเยอะครับ เยอะจนล้นมือไปหมด ให้ผู้ช่วยส่วนตัวผมไปสอนน่ะดีแล้ว คุณจะได้ๆ ความรู้ เผลอๆ เขาเก่งกว่าผมอีก” ผมผ่านผู้หญิงมาแทบจะทุกรูปแบบมีเหรอจะไม่รู้ว่าเธอหวังอะไร แต่ผมไม่มีทางสร้างฝันลมๆ แล้งๆ ให้กับเธอหรอก
“ก็ได้ค่ะ” ตอบรับเสียงอ่อยๆ อย่างไม่มีทางเลือก
“ดีครับ งานของเราจะได้เดินต่อไปซะที รู้สึกว่าจะหยุดนิ่งอยู่นานแล้วกับแค่หัวข้อประชุมเล็กๆ ยังสรุปไม่จบซะที” ผมรู้ว่าเหล่าบรรดากรรมการก็รู้สึกเหมือนผม แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะเธอเข้ามาในฐานะหุ้นส่วนของผม ไม่ได้เป็นแค่กรรมการทั่วไป อำนาจการตัดสินใจเธอจึงมีพอๆ กับผม
“บ่ายแล้วเราไปทานข้าวกันนะคะ รอบที่แล้วคุณก็เบี้ยวรตี” เธอพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน จนผมรู้สึกเลี่ยนกับการกระทำของเธอ
“แต่ผมมีนัดแล้ว”
“ให้รตีไปด้วยไม่ได้เหรอคะ รตีไม่มีเพื่อนทานข้าว” ยังคงตื้อไม่เลิกครับ
“ถ้าคุณรู้ว่าผมไปที่ไหน คุณคงไม่อยากไป”
“รตีไปได้หมดค่ะ ขอแค่คุณคิณให้ไปด้วยก็พอ”
“ก็ตามใจครับ” ผมเริ่มที่จะรำคาญกับผู้หญิงตรงหน้าอย่างมาก จึงตัดบทไป
“รตีไปรถคุณนะคะ” ทั้งๆ ที่เธอก็มีรถส่วนตัวแต่กลับมาขอไปกับผม ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อน่ารำคาญขนาดนี้นะ
ผมไม่ได้ปฎิเสธ ให้เธอนั่งรถไปด้วย ตลอดทางเธอพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ไม่ค่อยจะมีสาระจนผมอยากจะหาอะไรมาปิดปากเธอไว้จริงๆ จนกระทั่งถึงร้านเค้กของคนตัวเล็ก ผมจึงนำรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน
“คุณคิณมาที่นี่อีกทำไมคะ” เธอแหวขึ้นเสียงดัง ทำให้ผมแสดงสีหน้าให้เธอรู้ว่าผมไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ผมบอกคุณแล้วไง แต่ก็ดันทุรังจะมาให้ได้” ผมไม่ใช่คนใจเย็นนะครับ ยิ่งกับคนที่ผมไม่คิดจะสนใจนี่ อย่าคิดจะมาแสดงท่างทางแบบนี้ใส่ผม
“ไม่เป็นไรค่ะรตีไปกับคุณก็ได้”
“งั้นก็เชิญครับ” ผมผายมือให้เธอเดินนำไปก่อน ผมจึงเดินตามไปอยู่ห่างๆ ไม่อยากให้พายไม่สบายใจ
บราวนี่ยังนั่งจองตำแหน่งแคชเชียร์เหมือนเดิม เด็กๆ คนอื่นในร้านก็พากันบริการลูกค้าอย่างใจเย็น พายน่าจะอยู่ข้างในครัวเหมือนทุกครั้ง
“พายอยู่ไหนครับน้องบราว” คนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนที่จะยกมือไหว้เหมือทุกครั้ง สายตาคนตัวเล็กมองเลยไปที่ผู้หญิงอีกคนที่มากับผม
“พี่พายคุยอยู่กับลูกค้า โต๊ะนั้นครับ” ผมหันไปมองตามมือน้องบราวที่ผายออกไป ผู้ชายคนเดียวกันกับวันนั้น คนที่มองพายด้วยสายตากรุ้มกริ่ม แต่วันนี้เขามาคนเดียว สงสัยจะออกตัวแล้วสินะ ว่าไม่ได้มีจุดประสงค์แค่มาเป็นลูกค้าอย่างเดียว
“อ้อ!” ผมตอบแค่นั้น
“คุณรตีจะทานอะไรไหมครับ” ผมหันไปถามคนที่ทำหน้าเชิดอยู่ข้างๆ จนผมเองยังรู้สึกหมั่นใส้ เกิดมายังไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้เลยครับ จนมาเจอผู้หญิงแบบคุณรตีนี่แหละ
“ไม่อยากทานค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณคงต้องนั่งรอตรงนี้แล้วล่ะครับ ผมขอไปหาแฟนผมก่อน”
“ฟะ...แฟนคุณคิณ” เสียงเธอขาดหายไปตลกดีครับ หน้าเสียเลยคราวนี้ ผมไม่สนใจเดินไปหาพายก่อนที่จะโดนไอ้ผู้ชายคนนั้นมาคาบเมียผมไป ดูมันมองพายสิ ผมอยากเอาอะไรสักอย่างไปควักลูกตามันจริง ส่วนคนตัวเล็กของผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาหรอก หัวเราะมีความสุขอย่างเดียว
ผมสาวเท้ายาวๆ แค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงโต๊ะที่พายนั่งอยู่ พายไม่เห็นผมเพราะมันมีเสาต้นใหญ่บังอยู่ จนกระทั่งผมเดินไปหยุดอยู่หน้าคนทั้งคู่
“ที่รักครับ” ผมพูดไม่ค่อยจะเบานัก น่าจะพอได้ยินกันทั้งร้าน จนพายหันมาค้อนผม แต่มีเหรอผมจะสน นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆ พายเลยครับ จนคนตัวเล็กอ้าปากพะงาบๆ ว่าผมเสียมารยาท
“สวัสดีครับคุณ.....” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยกับบุคคลแปลกหน้าขึ้นก่อน จนเขาหันมาทักผมตอบแทบไม่ทัน แต่สายตาที่เขามองผมนี่คงสงสัยอย่างมากว่าผมเป็นใคร
“สวัสดีครับ ผมทิม” เขาแนะนำตัว ยื่นมือมาจับกับผม ผมก็ไม่ขัดครับจับก็จับ ก่อนที่ผมจะหันไปหาเจ้าของหัวใจของผมที่นั่งหน้างออยู่ข้างๆ
“พายครับหิวข้าว” รู้ครับว่ามันไร้สาระที่หิวข้าวก็บอกเมีย อย่าบอกพายนะครับว่าผมเรียกเขาว่าเมีย เดี่ยวจะงอน
“ยังไม่ได้ทานมาล่ะครับ ทำอะไรอยู่ นี่มันจะบ่ายสองแล้ว” เขาหันมาถามผมทั้งๆ ที่ยังเคืองๆ อยู่ แต่ผมก็รู้สึกดีนะ ตลอดเวลาที่รู้จักกันมา เขาห่วงผมเสมอ
ผมยังจำวันแรกที่ผมมาตั้งเฝ้าเขาทั้งวันได้ดี เขาทำไข่เจียวให้ผม เพราะความเป็นห่วง ทั้งๆ ที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน
“พึ่งประชุมเสร็จเลยรีบมาหาที่รัก” ผมทำสายตาอ้อนที่สุดเท่าที่คิดว่าตัวเองทำแล้วน่ารัก ไม่สนหรอกว่าใครจะมองผมอยู่ แต่ผมทำกับคนที่ผมรัก ไม่ได้ทำให้พวกเขา
“เดี๋ยวพายเจียวไข่ให้นะครับ ไม่มีกับข้าวเลย ทำไมไม่โทรบอกก่อนที่จะมา” บ่นไปเรื่อยเลยครับ เขาคงลืมตัวว่ามีคนอื่นนั่งอยู่ด้วย
“ครับๆ”
“อุ้ย! พายขอโทษนะครับพี่ทิม ลืมเลยว่านั่งอยุ่ตรงนี้” คนฟังหน้าเสียไปเลยครับคราวนี้
“พายลืมแนะนำเลยครับ นี่คุณคิณเป็น....” พายยังพูดไม่จบ ผมตอบแทนเองครับ
“เป็นแฟนพายครับ” ถ้ายังไม่ชัดจะบอกให้ชัดกว่านี้ก้ได้นะว่าเป็นผัว คำหลังนี่เก็บไว้พูดในใจครับ แต่นิ้วเล็กๆ นี่โผล่มาจากไหนไม่รู้ครับ หยิกเข้าต้นขาของผมที่อยู่ใต้โต๊ะ แสบใช่ย่อยครับที่รักของผมเนี่ย
“อ๋อ! ครับ” ไอ้คุณทิมมันตอบแค่นั้นครับ สงสัยจะอึ้งอยู่
“ถ้าอย่างนั้นพายขอตัวก่อนนะครับ” เขาลุกขึ้นพร้อมกับดึงผมให้เดินตาม ส่วนผมก็ได้แต่โค้งให้คุณทิมเพื่อเป็นการกล่าวลา เราสองคนเดินตรงไปยังอีกมุมของร้านซึ่งมีอีกหนึ่งตัวปัญหาที่นั่งหน้าเชิดอยู่ ผมบอกให้พายรู้แล้ว คนตัวเล็กก้ไม่ได้ว่าอะไร แต่ท่าทางดูจะเครียดลงไปในทันที
“พายครับเป็นอะไรรึเปล่า” ผมดึงพายให้หยุดก่อนที่เราจะหันมาคุยกันเบาๆ
“ไม่เป็นไรครับ คุณคิณไม่ต้องห่วงนะ” ผมยกมือลูบหัวคนข้างๆ อย่างเอ็นดู ส่วนเขาก็หันมายิ้มบางๆ ให้กับผม พายน่ารักว่ะ
“คนดีของคิณ”
“เวอร์อีกแล้ว” เขาว่าผมยิ้มๆ เขินอีกแล้วล่ะสิ
ก่อนที่เราสองคนจะเดินตรงไปหาคุณรตี ที่หันมามองเราสองคนเหมือนกัน แต่ดูเธอจะจ้องพายเสียมากกว่า จนผมเริ่มจะรู้สึกไม่พอใจสายตาที่เธอมองพาย
“สวัสดีครับ” พายเป็นฝ่ายทักคุณรตีก่อน
“สวัสดีค่ะ” แม้ว่าจะทักกลับ แต่เสียงเธอนี่ห้วนจริงๆ ครับ
“ทานอะไรมารึยังครับ รับเค้ก หรือเครื่องดื่มอะไรไหมครับ” พายยังคงยิ้ม ให้กับเธอเหมือนเดิม แม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่สนก็ตาม
“ฉันไม่หิว คุณคิณคะรตีอยากไปทานอาหารที่ร้านXX ที่เราเคยไปคราวที่แล้วน่ะค่ะ” พูดอย่างนี้จะทำให้พายเข้าใจผิดแล้วโกรธผมใช่รึเปลา
“ร้านที่เรานัดเจรจาลงทุนร่วมกันเมื่อสี่เดือนที่แล้วน่ะเหรอครับ” เอาให้ชัดเจนที่สุดครับ จะได้รู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร แล้วพายเป็นใคร
“เอ่อ...ค่ะ” เพราะนอกจากครั้งนั้นแล้ว ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่ผมจะตอบรับคำเชิญของเธอ
“แต่วันนี้ผมอยากทานไข่เจียวฝีมือพายครับ คุณรตีจะทานด้วยกันรึเปล่า”
“อะไรนะคะ ไข่เจียว” จะเสียงสูงไปไหนครับคุณ แสบแก้วหู
“ทานไหมครับ” ผมถามแค่นี้แหละครับ ไม่ได้บังคับให้มาด้วย อยากทานก็ทานไม่อยากทานก็แล้วแต่
“ถ้าอย่างนั้นพายโทรสั่ง กับข้าวอย่างอื่นเพิ่มดีไหมครับ คุณรตีอยากทานอะไรครับ” จะใจดีกับคนไปทั่วเกินไปแล้วนะครับ
“แต่ผมหิวแล้ว” เป็นผมที่เริ่มงอนพาย
“ถ้าอย่างนั้นผมเจียวไข่ให้คุณคิณทานก่อน แล้วโทรสั่งอาหารให้คุณรตีอีกทีนะครับ” เขาหันมายิ้มบางๆให้กับผม จนผมต้องยิ้มตาม
“คุณรตีจะรออยู่นี่หรือเข้าไปในครัวกับเราครับ”
“ไม่ไปค่ะ เดี๋ยวเหม็น” ดีเหมือนกันผมจะได้อยู่กับพายสองต่อสองซะที อยากกอด อยากหอมจะแย่ ผมดึงมือพายให้เดินตามเลยครับคราวนี้ ไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดีว
“จะรีบไปไหนครับ” ร่างเล็กหันมาว่าผมเบาๆ
“ก็หิวนี่นา”
“ครับๆ ตอกไข่ใส่ชามให้หน่อยครับ จะเอากี่ใบ”
“สาม”
“เยอะไปไหมครับ”
“นะครับที่รัก” ไม่ได้พูดอย่างเดียวครับ มือผมก็ตอกไข่ใส่ชามไปแล้วครับสามฟอง ผมมีทักษะในการตอกไข่แล้วนะครับ จากการสอนของมืออาชีพอย่างสุดที่รักของผมเอง
“ไม่ต้องขอแล้วมั้งครับ” ผมขยับเข้าไปไกล้ขโมยหอมแก้มพายไปฟอดใหญ่ ชื่นใจที่สุดครับงานนี้ งานนี้ เลยโดนตอบแทน ด้วยหน้าบึ้งๆ ของคนข้างๆ ที่มองยังไงก็น่ารัก โคตรรักโคตรหลงเลยว่ะคนนี้
“แหะๆ”
ผมทานข้าวเสร็จแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วครับ นั่งเล่นรอพายอย่างเดียว วันนี้ผมไม่มีงานอะไรที่สำคัญแล้ว ส่วนพายก็จัดการเรื่องอาหารให้กับคุณรตี เตรียมให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเครื่องดื่มก็ยังหามาบริการเอง
ส่วนน้องๆ นี่ก็เอาแต่ห้ามพายอย่างเดียว คนตัวเล็กก็ไม่สน บอกว่าเขาเป็นผู้หญิงต้องคอยดูแล อีกทั้งไม่รู้จักใครมานั่งคนเดียวคงเหงา เลยเข้าไปชวนเธอคุยนั่นคุยนี่ทั้งๆ ที่อีกคนไม่มีท่าทีจะอยากคุยด้วยเลยสักนิด
ผมก็ไม่อยากยุ่งครับ ปล่อยให้พายจัดการเอง คุณรตีเธอจะได้รู้เสียทีว่าทำไมผมจึงรักผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้ เพราะความที่พายไม่เหมือนใครไง ทำหลายๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึง อย่างเช่นเรื่องที่ทำอยู่ตอนนี้ เป็นห่วงทุกคนแม้กระทั่งคนที่เขาเกลียดตัวเอง
ผมอยู่จนพายปิดร้าน อีกทั้งยังอาสาที่จะไปส่งเขาด้วย เรากำลังเดินมาที่รถของผม พายเดินตามมาเงียบๆด้านหลัง ส่วนคุณรตีนี่ก็เกาะแขนผมจัง เป็นปลิงรึไง
“คุณรตีนั่งด้านหลังนะครับ” ผมเปิดประตูรถด้านหลังออก ก่อนที่จะหันไปบอกกับเธอ ที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเพราะโดนผมมัดมือชก เธอนั่งลงเบาะหลังเงียบๆ เพราะผมรู้ว่าเธอค่อนข้างเสียหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ผมหันมาหาพายที่ตอนนี้บ่นผมใหญ่เลย ว่าผมแกล้งคุณรตี เธอน่าสงสารอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คุณรตีไม่ได้ยินหรอกครับ เพราะผมปิดประตูรถไปแล้ว
รถยุโรปคันหรูมุ่งตรงไปยังบริษัทของผมก่อน เพื่อไปส่งคุณรตีให้ไปเอารถตัวเองที่จอดไว้ที่ลานจอดรถ จนกระทั่งรถของเธอเคลื่อนออกไปผมจึงขับรถไปส่งพายที่บ้าน
“คุณคิณนิสัยไม่ดี”
“ไม่ดีเรื่องอะไรล่ะครับ” ผมรู้แหละว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไรแต่ก็แกล้งไปอย่างนั้น
“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย แกล้งคุณรตีทั้งวันเลยนะครับวันนี้”
“รู้ได้ไง ผมออกจะเป็นสุภาพบุรุษ”
“ครับ คุณสุภาพบุรุษ” บทสนทนาของเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนผมส่งเขาถึงบ้าน แต่ไม่ได้แวะเข้าไปด้านใน เพราะดึกมากแล้ว ก่อนที่เขาจะบอกผมให้โทรหาถ้าถึงคอนโดแล้ว ผมก้มไปจุ๊บเหม่งพายเบาๆ รอให้เขาเปิดประตูเข้าบ้านไป ผมจึงตรงกลับคอนโดด้วยหัวใจที่พองโต มีความสุขแทบบ้า
*******************************
มาดึกเลยวันนี้ แต่งเอง งงเอง เนื้อหาตอนนี้เหมือนมันไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ แต่งไปแก้ไปหลายรอบ สนุกไม่สนุกบอกได้นะคะ ไว้แก้ตัวตอนหน้าเนอะ ฝันดีๆๆๆ
TBC.