และสายตาก็หยุดอยู่ที่ดวงเนตรสีอำพันที่เจือประกายระริกระรี้นั่น
“อะไร?” ผมถาม..เสียงห้วนเล็กน้อย
“เปล่า” เขายิ้ม “ชมห้องพี่ครบทุกตารางนิ้วรึยัง?”
“ถ-ถ้ามองไม่ได้ก็บอกแต่แรกสิวะ!”
“ก็ไม่ได้บอกว่ามองไม่ได้สักหน่อย”
..หนอย ยังมีหน้ามากวนประสาท! ผมคาดโทษไว้ในใจ เดินปึงๆๆเบียดตัวผ่านเขาออกมาที่อีกห้อง ถ้าจะกวนกันให้มากนักก็จะดูให้หมดเลยว้อย! เอาให้ไร้มารยาทสุดกู่ไปเลย!
…มันคือห้องนั่งเล่น..อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
ขนาดความกว้างน่าจะกว้างกว่าห้องนอนเขาเล็กน้อย โซฟาไม้สีดำวัสดุแบบเดียวเข้าเซ็ตกันตั้งอยู่ตรงกลางหน้าประตูทางออก และตู้ของประดับตกแต่งดูเกร่อกว่าห้องข้างใน และหน้าต่างทุกบานมีซี่ไม้ขนาดเล็กตีตั้งอยู่ เพราะงั้นหมดสิทธิที่จะปีนเข้ามาห้องนี้เลยทีเดียวง
มีหน้าต่างอยู่สามบานที่อยู่ฝั่งเดียวกับทางออก เมื่อชะเง้อมองไปก็เห็นชานบ้านกว้างที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลาง และเรือนเล็กๆอื่นๆรายล้อมไปหมด…….
….ก่อนที่เจ้าบ้านจะเดินมาปิดหน้าต่างซะงั้น
“ปิดทำไม?”
“…สร้างความเป็นส่วนตัวน่ะ” …ข้ออ้างชัดๆ แต่ผมจะลืมเรื่องนั้นไปก่อน “…ทำไมห้อง..ไม่สิ เรือนพี่วัน…ใหญ่จัง?”
เขากรอกตา “พี่เป็นเจ้าบ้าน”
“ห๊าา!?”
“ชู่ อย่าเสียงดังสิ…พี่เตือนแล้วไง”
“เปล่า เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อน..” ผมลดเสียงลง “ที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด…เป็นจระเข้…ใช่มั้ย?”
“ใช่ ก็รู้นี่”
“กี่คน..เอ้ย กี่ตัวน่ะ?”
“…ไม่รู้แหะ บนเรือนก็ไม่กี่ตัวหรอก รอบๆก็เยอะหน่อย”
ผมถลึงตาโต “รอบๆก็เยอะหน่อย?”
“ก็อย่าเดินเผ่นผ่านล่ะ” เขาบอก ปิดหน้าต่างบานสุดท้าย
“เดี๋ยวตาย” นั่นไม่ใช่คำขู่ครับ น้ำเสียงที่บอกผมไม่ได้มีความกดดันเลยสักนิด แต่รู้สึกได้เลยว่านั่นเป็นความจริงที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ
ผมสูดลมหายใจสั้นๆ
“………………กลับ…ได้มั้ย?” “อะไร? กลัวเหรอ?”
“………….เปล่า” “เฮ้..” และสิ่งที่เขาทำต่อไปคือการเดินมาโอบเอวผมเข้าไปใกล้ แล้วก้มหน้าลงแตะหน้าผาก
“..อยู่กับพี่ ไม่ต้องกลัวนะ” ตูม!!!!
เสียงอะไรบางอย่างข้างในมันระเบิดออกครับ!! ผมดันตัวเขาออก มันไม่ต้องออกแรงมากอย่างที่คิดเพราะอีกฝ่ายก็ยอมทำตามโดยดี…ก่อนจะเดินฉับๆกลับห้องนอน ได้ยินเสียงหัวเราะกวนส้นตีนของอีกฝ่ายดังลอยตามลมมา
“ไม่ต้องกลัว” เขาย้ำอีกครั้ง เดินตามผมมา “ถ้าทำตามที่พี่บอกก็ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่ได้กลัวแล้ว เลิกกลัวแล้ว”
“กลัวนี่เลิกได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เออน่ะ…แล้วบ้านหลังนี้พี่อยู่กับใคร?”
เขายิ้ม “ท่านอา ตั้งแต่พ่อเสียเขาก็คอยดูแลพี่”
“แค่คนเดียวเหรอ?”
“เปล่า” อีกฝ่ายหมุ่นคิ้ว นั่งลงบนเตียง “ถามทำไม?”
ผมเม้มปาก
“มีคนบอกว่าพี่อยู่กับลูกเมียพี่…….” “ตลกล่ะ เอามาจากไหน”
“จริงป่ะล่ะ?”
“จะบ้าเหรอ? พี่ไม่มีลูก”
“แล้วเมียล่ะ?”
“จระเข้ตัวเมียตัวสุดท้ายคือแม่พี่” ดวงตาคู่นั้นเป็นสีทอง..เขาคงขี้เกียจควบคุมมันกลับกระมัง “…เรากำลังจะสูญพันธ์ แต่ไม่ต้องเครียดนะ นั่นไม่ได้แย่เท่าไหร่”
เขาพูดขัดความคิดผม..แต่นั่นไม่ทันการ “สูญพันธ์เลยเหรอ!? แล้วพี่จะทำยังไง?”
“ก็นะ….”
ร่างสูงกว่าปรือตายิ้มหวาน ดึงมือผมเข้ามายืนอยู่ตรงระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา
“….จระเข้กับมนุษย์สืบพันธ์กันไม่ได้ด้วยสิ…” ผมทุบเขา “น้อยๆหน่อยว้อย จะทำอะไร?”
“เปล่านี่”
“….จระเข้หรือปลาหมึกวะเอาให้มันดีๆ”
“ทำไมเล่า? ไกรไม่ได้บอกว่าอยากอยู่กับพี่งั้นเหรอ? อุตส่าห์พาเข้าบ้านนะ” เขาเงยหน้ามองผม..ถ้าเดาไม่ผิดนี่แหละที่เรียกว่าการอ้อน…และ…
ผมไม่ชินเลยครับ!! “ทำแบบนี้กับทุกคนอ่ะดิ”
“ทำอะไร?”
“แบบนี้ไง”
“ไม่เคยพาใครมาบ้านนี่”
..และยอมรับครับ..ผมมันเป็นไอ้บ้าที่ใจเต้นอยู่! “ไม่ต้องมาปากหวาน ไอ้เจ้าชู้เอ้ย!” ผมหยิกจมูกเขาอย่างหมั่นเขี้ยว “อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะว้อย”
อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูง “คิดอะไรครับ? ไกรนั่นแหละคิดอะไรอยู่?”
“เปล่า!”
“ฮั่นแน่ ทะลึ่งนะเรา”
“……..ขอยันตีนสักทีเถอะ!!!!” เขารู้ว่าผมแค่ขู่ แต่ก็แกล้งทำเป็นจะหลบทั้งๆที่อีกมือนึงโอบเอวผมอยู่…แล้วก็หัวเราะ…หัวเราะแบบง่ายๆแบบที่เขาทำเสมอ แต่ครั้งนี้มันใกล้กว่าเดิม…และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสก้มมองเขาแบบนี้
หยุดกระทำการรุนแรงในช่องอกสักทีเจ้าหัวใจ ดังขนาดนี้เดี๋ยวไอ้หมอนี่ก็ได้ยินหรอก!
อีกฝ่ายค่อยๆปรือตาลง ก่อนแนบหน้าลงมากับตัวผม…ใช้สองมือประสานกันรั้งให้ผมเข้าไปใกล้ตัวเขามากขึ้น มันเป็นการกระทำที่ไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลย เพราะผมมันบ้าที่ไม่ขัดขืน บ้าที่เผลอยกมือขึ้นลูบเรือนผมสีขนกานุ่มสลวยนั่นอย่างเผลอไผล
..ในสมองก็ร้องว่า ‘อย่า’ ‘ไม่นะ’ ‘หยุดเดี๋ยวนี้’ วนไปวนมาเป็นจังหวะแรพ
และทั้งๆที่รู้ว่านี่มันก็แค่ ‘ชั่วครั้งชั่วคราว’
….แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าต่อให้เป็นเวลาไม่นานนัก…ก็ยังดีล่ะวะ “...เฮ้”
“เดี๋ยวปล่อยแล้ว” เขาบอก กอดผมแน่นขึ้น “อีกแปปนึง”
“ไม่เอาแล้ว ปล่อยเลย”
“ไม่”
“ไอ้พี่วัน…”
“ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าไกรเข้ามาในบ้านมันจะอันตราย” เขากระซิบ…เหมือนไม่ได้ฟังผมอยู่สักนิด
“….แต่พี่ก็อยากพาเข้ามา” ผมคิดว่าเสี้ยวหนึ่งของก้อนตะกอนตกค้างในสมองคือ ‘ความกลัว’
..แต่เมื่ออีกฝ่ายพูด..ราวกับบอกว่าไอ้สิ่งที่ผมเกือบจะรู้สึกอยู่นั้นคือสิ่งที่เขา ‘หวาดกลัว’ มากกว่า..
ตอนที่เขาปล่อยผมช้าๆนั่นผมเกือบจะกระทำการโง่เช่นรั้งเขาเอาไว้..แต่ก็ไม่ได้ทำครับ เขายิ้มให้ผม และลุกพรวดขึ้นมาทั้งแบบนั้นโดยไม่มีเวลาให้ผมผงะ
แล้วกดจมูกลงบนหน้าผากผมเร็วๆ
“เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน” เขาบอก ละออกไปในวินาทีต่อมา
“อย่าซนล่ะ” และเมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้น
…ผมก็ทรุดลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้น…กับคำพูดง่ายๆที่ดังก้องอยู่ในหัวว่า…..
…………ไอ้เข้เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!! ..จากหลากหลายความรู้สึกจริงๆครับ..!TBC==============================
ไม่ดอง เรื่องนี้ไม่ดองแหละ อิอิอิอิ //ระบำ
((ปาเข้าไป7ตอนแบบอัพถี่ๆด้วยนะ!! กรี๊ดดดด งานการไม่ทำเอาแต่แต่งนิยายนะครัชชชช))
- มีคนบอกได้กินมาม่า ไม่จริง! เรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ!! <<ก็พูดงี้ทุกเรื่อง.....
- รักและบูชาจระเข้เยอะๆนะคะ
- งดกินเนื้อจระเข้! ให้หนูไกรทานได้คนเดียว อิอิอิอิ
- เห็นว่าชื่อไกรเป็นชื่อพ่อของนักอ่านหลายคนละ...โอไม่ได้ตั้งใจน๊าาา
- ไหนบอกจะไม่ทอล์ค! ผัดหมี่นี่!