บทที่ 17 มาแล้วครับ มาดูกันว่า แทนฟังบิ๊กแล้ว จะตอบอย่างไร บทนี้ ไบร์ทกล้าจะสารภาพรักกับแทนแล้ว แต่...และบทนี้ บิ๊กได้ออกแรงอีกแล้ว แทนเจ็บตัว และบิ๊กต้องช่วยแทนออกมาให้ได้
มาดูกันเลยครับ
*********
Chapter 17“ผู้ชายคนนั้น ก็คือแทนไง”
ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม ผมควรดีใจที่บิ๊กพูดออกมาแบบนี้ แต่...ผมตอบบิ๊กไปว่า
“เราดีใจที่ผู้ชายคนนั้นคือเรา แต่...เราคิดว่าบิ๊กแค่รู้สึกดีกับเราเป็นพิเศษมากกว่านะ เราตั้งใจทำให้บิ๊กหลายอย่าง เพราะเราอยากผูกมิตรกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ เรา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราสองคน มันคือการเติมเต็มในสิ่งที่เราต่างไม่เคยได้รับในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง เราไม่อยากเห็นบิ๊กสับสนเพราะความรู้สึกพิเศษที่เราทำให้บิ๊กนะ” สายตาบิ๊กเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าบิ๊กไม่แน่ใจ ลองกลับไปคิดดูให้ชัดเจนเรื่อยๆ เราสัญญาว่า เราจะเป็นเหมือนเดิม เป็นเพื่อนที่ดีเท่าที่เราจะทำให้ให้บิ๊กแน่นอน...บิ๊กก็รู้ใช่ไหม เราไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ชายปกติๆ แบบที่บิ๊กเป็นอยู่ เราเกิดมาพร้อมความรู้สึกที่แตกต่าง เราไม่อยากเปลี่ยนชีวิตผู้ชายคนไหน เพียงเพราะเราทำดีจนเค้าตกลงว่า อยากให้เราเป็นแฟนเค้าด้วย เพราะนั้นคือชีวิตของเค้าทั้งชีวิตเลยนะ” นี่เป็นคำพูดที่ผมคิดออกมาได้ดีที่สุด ในเวลาที่บิ๊กมีคำถามกับผมแบบนี้
“ฮือ ขอบใจที่รับฟังเรานะ เราไม่อยากให้แทนไม่สบายใจ เมื่อรู้ว่าเรารู้สึกอะไรอยู่ เราอาจจะแค่หวั่นไหวไปก็ได้” นั้นละบิ๊ก ดีแล้วที่คิดแบบนี้ จริงๆ นะ
“ดื่มให้กับมิตรภาพของเรา” บิ๊กยกแก้วค็อกเทลผลไม้ชูขึ้น ผมยกแก้วพันช์ชูขึ้นเช่นกัน ก่อนจะดื่มพร้อมกับบิ๊ก
รอยยิ้มแบบบิ๊กกลับมาอีกครั้ง ผมคิดว่าผมทำถูกแล้วนะ มันเป็นโอกาสอย่างดี ที่ผมจะทำตามหัวใจ แต่ถ้ามองกันด้วยเหตุและผล ผมแค่เติมเต็มสิ่งที่บิ๊กไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต
ถ้าจะให้มันเป็นความรักแบบคู่รัก ผมคงเห็นแก่ตัวที่ใช้ปมชีวิตของบิ๊กมาทำดีจนได้บิ๊กมาครอบครอง อีกอย่าง...ผมเป็นของมีตำหนิ ไม่ได้มีค่าพอกับคนๆ นี้หรอก บิ๊กควรมีอนาคตที่ดีกว่านี้ ผมแค่อยากให้บิ๊กมีอนาคตที่ดี และอนาคตที่ดี ก็ต้องไม่ใช่ผมที่ครองครองบิ๊กในสถานะที่มากกว่า “เพื่อน” เช่นกัน
ผมหวังว่าบิ๊กจะไม่เห็นความรู้สึกผม ว่าที่จริงแล้ว ผมรู้สึกยังไงกับบิ๊กกันแน่
………………..
จะหมดเดือนพฤศจิกายนแล้ว...เท่ากับผมรู้จักแทนครบเดือนพอดี เป็นเวลาที่สั้นนะ แต่เหมือนผมใกล้ชิดแทนนานเกินกว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักแค่เดือนเดียว เราใช้เวลา 4-5 วันต่อสัปดาห์อยู่ด้วยกันวันละ 5 ชั่วโมง ผมสอนว่ายน้ำจบหมดสี่ท่าในเวลาแค่สามอาทิตย์นิดๆ นั้นเพราะความหัวไวของแทนล้วนๆ แต่บทเรียนที่ติวกับแทน ได้แต่ช่วยสอนการบ้านผมไปเรื่อยๆ ไม่ได้ติวอะไรพิเศษไปกว่านั้น แบบนี้แหละ คนมันเก่ง เข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่เป็น ส่วนยากๆ ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ (ไม่ใช่ละ..)
“ไอ้บิ๊ก คริสต์มาสปีนี้ เตรียมเพลงเล่นกับวงพี่ๆ น้องๆ เค้ายังวะ เนี่ย ประธานชมรมดนตรีขอรายชื่อเพลงห้าเพลงของวงเราแล้วนะเว้ย” ตั้มที่พึ่งเข้าห้องชมรมดนตรี พุ่งดิ่งหาผมที่กำลังนั่งแกะคอร์ดอยู่ เออ ยังไม่ได้คิดเลยวะ ผมนึกไม่ออกในทันที
“เอางี้ กูขอสามวัน เดี๋ยวส่งให้พวกมึงพิจารณา” ไอ้ตั้ม ไม่ต้องทำหน้าโอเคแบบรำคาญเลย
“อย่างงี้แหละ ติดติวเตอร์จนลืมบริหารวง เอ้ยๆ ว่าแต่เมื่อไหร่จะพาติวเตอร์สาวสวยของมึงมาแนะนำพวกกูมั่งวะ” กูว่ามึงหมกหมุ่นกับเรื่องกูมากไปนะตั้ม
“ถามพวกมึงทุกตัวตรงๆ ได้ปะ การที่กูไปเรียนพิเศษกับเพื่อนที่รู้จักคนนึง มันแปลกเหรอวะ” อ้าว พยักหน้าพร้อมกันทำไม
“มันแปลกเพราะกูไม่เคยเห็นมึงตั้งใจขนาดนี้ บ้านมึงก็มีเงินเยอะ มึงจะไม่แอดมินชั่นก็ได้ แต่มึงขยันผิดปกติไง” แชมป์ให้เห็นผลที่ทุกคนมองว่าผมประหลาดไป
“ใช่ อีกอย่างนะมึง เวลามึงจีบเด็กเกรดเอทั้งหลาย มึงก็ไม่ได้ไปติวกับเค้า แต่มึงเล่นสอบวิชาบนเตียงล้วนๆ มีคนเนี่ย ที่มึงไปเรียนจริงๆ” โจให้เหตุผลเสริม
“ฉะนั้น เอามาให้พวกกูดูซะดีๆ ว่าเป็นใคร” ตั้ม...ปิดท้ายแบบมัดมือชกซะงั้น
“พวกมึงฟังนะ...กูแค่แบ่งเวลาไปเรียน แล้วอีกอย่าง กูไม่ได้ชอบเค้าแบบพิเศษอะไรด้วย พวกมึงทั้งหมด กลับฝั่งเดี๋ยวนี้ โอเคนะ ส่วนเรื่องเพลง เดี๋ยวกูส่งให้ในกลุ่ม LINE นะ” ผมเก็บกีตาร์ลงกระเป๋า แล้วเอาไปเก็บตู้เหมือนเดิม แล้วเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย
แล้วผมก็ไป...เพราะได้เวลาเรียนแล้ว
………………..
สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าในมุมที่ผมนั่งพักตอนนี้ คือน้อง ม.1 กำลังเล่นสตรีทบาสฯ วันนี้ซ้อมเหนื่อยเอาเรื่อง เพราะโค้ชจับแยกซ้อมเดี่ยวทุกคน ผมโดนติวเข้มเรื่องความเร็วในการเคลื่อนที่ รวมถึงสร้างสถาณการณ์ให้ผมถูกบีบพื้นที่ แล้วต้องยิงสามคะแนนจากระยะที่ไกลกว่าเส้นประมาณเกือบสองก้าว
“เดี๋ยวนี้แทนไม่ไปกินข้าวเย็นกับเราอะ” เสียงไบร์ทมาถึงก่อนตัว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผม
“มีเพื่อนมาให้ติวเลขอะ เราก็เลยต้องรีบกลับ” ผมก็ไม่เคยบอกไบร์ทด้วยว่า ผมมีนัดติวให้
“ติวให้เรามั่งซิ เรียนกับเพื่อนแทนก็ได้นะ” ผมหันไปมองหน้าไบร์ทดีๆ ก็...ได้คำตอบว่า
“หวงเราเหรอ” น้ำเสียงเนิบๆ ไม่มีการล้อเล่นอะไร นั้น...ชัดเจน เห็นเลยว่าไบร์ทคิดอะไรอยู่
“ใช่...เราแค่ไม่รู้ว่าแทนเจอเพื่อนดีเปล่าไง” เหตุผลแค่นี้เองเหรอ
“ไบร์ท เราไม่ได้ลดความสำคัญนายนะ ทุกวันนี้ เราก็ตัวติดกับแทนจะ 24 ชั่วโมงแล้ว ถือว่าเราขอเวลาส่วนตัวนะ” ผมเปิดขวดน้ำดื่ม ถึงจะไม่เห็นหน้าไบร์ทชัดๆ แต่สัมผัสได้ว่า ไบร์ทแอบไม่พอใจผม
“เพื่อนที่ติวให้ ผู้ชายหรือผู้หญิงอะ” น้ำเสียงไบร์ทรู้สึกได้เลยว่า แอบงอนผมจริง
“ผู้ชาย” นั้นไง ไบร์ทหันหน้าหนีผมไปละ
“หึงเราเหรอ” ไบร์ทส่ายหน้า
“ชอบเราเหรอ” ไบร์ทส่ายหน้า
“งั้นงอนเราทำไม” ไบร์ทก็ส่ายหน้าอีก ผมลุกขึ้นหิ้วกระเป๋าเดินหนีไบร์ทไปเลย ไบร์ทรีบวิ่งมาจอดตรงหน้าผม
“ใช่...เราไม่พอใจ เพราะเราไม่ไว้ใจเพื่อนที่ไม่รู้จัก ว่าจะทำอะไรไม่ดีกับแทนเปล่า” ไบร์ทไม่ได้พูดความจริงในใจให้ผมฟัง
“ไบร์ท เราเองก็อยากรู้มาตลอดอยู่เรื่องหนึ่ง ไบร์ทคิดไงกับเรา” ได้ผล...ไบร์ทจอดสนิท ใบหน้างอนผมเมื่อกี้หายไปเรียบร้อย เห็นนะว่าหลบสายตาผมอยู่
“ถ้าเราเป็นเพื่อนกัน ไบร์ททำถูกเปล่า ที่งอนเราเรื่องแค่นี้ เราไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย มันเป็นเรื่องส่วนตัวเราด้วยซ้ำ” ผมไม่ได้โกรธไรไบร์ทนะ น้ำเสียงผมนิ่มนวลปกติมาก แค่อยากให้ไบร์ทไม่งอแงกับผมแบบนี้ แค่นั้นแหละ
“เราขอโทษ” ผมส่ายหน้าไม่เป็นไร ไบร์ทไม่ต้องคิดมาก
“แต่...ถ้าเราจะบอกว่า เรา...หวงแทนละ ไม่อยากให้แทนคุยกับคนอื่น นอกจากเรา แทนจะว่าเราไหม” ผมอยากให้ไบร์ทตอบความรู้สึกนี้ให้ผมชัดเจนกว่านี้
“นั้นเท่ากับไบร์ทไม่มีเหตุผล” ผมรู้สึกได้ว่าไบร์ทอึดอัด แต่ก็กลบความรู้สึกด้วยการจองหน้าผมเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ก่อนไบร์ทจะถอนหายใจช้าๆ ผ่านการขยับของหน้าอก
“เราชอบแทน...มากกว่าแค่เพื่อนกัน” ในที่สุดก็พูดออกมาซะที
“แล้วทำไม...ไบร์ทไม่บอกเราตั้งแต่วันที่ไบร์ทมาค้างกับเราละ...” สีหน้าของไบร์ทเหมือนรู้สึกตัวเองพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
“แล้วตอนนี้ยังทันไหมละ..” ไบร์ทจะให้เราตอบไงดีละ
“ถ้าวันนั้น ไบร์ทบอกว่าชอบเรา เราคงลองดูสักครั้ง แต่ใจเราตอนนี้...ไม่ได้คิดกับไบร์ทมากไปกว่าเพื่อนเลย ถ้าไบร์ทรู้คำตอบเราแล้ว ไบร์ทจะโกรธ เกลียด หรือไม่อยากคบเราต่อ เราก็เข้าใจนะ แต่เราไม่โกหกความรู้สึกตัวเองเพื่อใครแน่นอน” ไบร์ทยืนนิ่งไปสักครู่ ในขณะที่ผมเองก็ถูกแช่แข็งไว้ตรงนั้นเช่นกัน
“เราผิดเอง ที่ปล่อยโอกาสนั้นไป เราไม่จะเลิกทำดีให้แทน ไม่ใช่เพราะอยากให้แทนเป็นแฟนเรานะ เราไม่อยากให้แทนหายไปจากชีวิตเรา เราเหมือนเดิมนะ ขออย่างเดียว...ให้โอกาสเรานะ” ผมรู้ว่าไบร์ทคงคิดอยู่นาน ที่จะหาคำพูดที่ดีที่สุด ของเรื่องนี้ออกมา
“เราไม่ได้ดีพอสำหรับใครหรอก...แล้วก็ ถ้าเรื่องของเรามันใช่ เราไม่ปฎิเสธแน่นอน” ไบร์ทก้มหน้าถอนหายใจสักครู่ ก่อนจะบอกผมว่า
“เราจะดีพอสำหรับแทน และเราหวังว่า วันนั้น จะเป็นวันของเราบ้าง” ไบร์ทหันหลังแล้วเดินออกไปจากโรงยิม แต่ก็หันมาทิ้งรอยยิ้มให้ผม ผมสบายใจนะ ที่ได้ยินจากปากไบร์ทซะที ว่าไบร์ทคิดยังไงกับผม
………………..
ผมไม่ได้เจอแทนมาสองวันแล้ว เพราะแทนติดซ้อมบาสฯ ถึงดึกทุกวัน เลยไม่เจอกันสามวันได้ เมื่อกี้แทนโทรมาหา บอกว่ามีเรื่องอยากบอก ให้ผมมารอที่สยาม ตอนเลิกเรียน ผมต้องแวะสั่งซอฟท์ครีมชาเขียวไว้เลี้ยงงานปีใหม่อยู่แล้ว เลยเหลือเวลาอีกเพียบที่จะรอแทนมาหา เดินเพลินๆ แวะไปหาเฮียโบ้ ก็ไม่อยู่ เจอแต่ลูกน้องเฮีย เพราะเฮียไปส่งของให้ลูกค้าเจ้าใหญ่ แต่วันนี้ท่าจะเป็นวันไม่ดีซะแล้ว
“จำกูได้เปล่า” ผมโดนเด็กอาชีวะกลุ่มใหญ่ล้อมอยู่ ตรงหน้าผมสี่คน หลังผมอีกน่าจะมากกว่าสาม ผมนึกหน้าสักครู่นะ
“มึงไม่ดีพอให้กูจำวะ” จะได้ทานยำตีนแล้วยังปากดีอีกเรา นึกออกละ ไอ้เวรที่ไถ่เงินเด็กโรงเรียนเราตอนปิดเทอมนี่หว่า ผมหันรอบๆ อยู่ครบสามตัว แถมพาพวกมาอีก ดูจากเสื้อช็อปแล้ว เป็นเด็ก ปวช. สักโรงเรียนแหละ แต่ผมไม่รู้จักหรอก ว่ามาจากที่ไหน
“มึงทำให้กูนอนคุกไปสามวันเต็มๆ พวกกูไม่ปล่อยมึงลอยนวลหรอก เรียนอยู่โรงเรียนคุณหนู สะเอออยากมีเรื่องกับเด็กช่างใช่ไหม วันนี้วันตายมึงแน่” คิดก่อนนะ ไปไงดีมันล้อมมาแล้วๆๆ
“เอางี้ครับพี่รูปหล่อ ผมว่าเรามาคุยอย่างสันติกันดีกว่า เพราะวันนี้ผมอารมณ์ดีพอสมควร” ผมปลดเป้สะพายหลังออก แล้ว...
“ก่อนจะเริ่มคุย ผมขอทำตัวเบาๆ ก่อนนะ” แล้วผมก็โยนเป้เข้าหาหัวโจกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งไปหนึ่งหมัดขวาเข้าที่หน้า แล้ววิ่งผ่าวงล้อมออกไปโดยทันที
ผมดึงเสื้อนักเรียนออกจากกางเกง นาทีนี้วิ่งไม่คิดชีวิตละ คนที่เดินอยู่เริ่มแตกตื่น หลบให้ผมบ้าง ชนผมบ้าง ผมวิ่งไปทางสยามซอยสอง ไปให้ใกล้ร้านเฮียมากที่สุด ถ้าเจอเฮียโบ้ อย่างน้อยก็ช่วยได้แน่ๆ แต่งานผมคงเข้าไม่หยุด เพราะตรงหน้าผมที่เจอโดยบังเอิญคือ...
“บิ๊ก วิ่งหนี...” แทน!!! ทักทำไม ผมกระชากข้อมือแทนจนกระเป๋ากีฬา ถุงย่ามหนังสือเรียน และกระเป๋าจาค็อบของแทนร่วงพื้น แล้วดึงมือแทนให้วิ่งตามผม
“บิ๊ก เกิดไรขึ้น!!!” แทนตะโกนถามผมที่วิ่งอยู่ข้างๆ ในขณะที่แทนก็วิ่งด้วย
“ไอ้พวกที่เคยมีเรื่องกับเราตอนปิดเทอม มันมาเอาคืน” แทนเหมือนจะนึกออกว่าผมเคยมีเรื่องกับใคร ตอนนี้ผมห่วงแทนมากกว่า แทนไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้กำลังเดือดร้อนเพราะผมเต็มๆ คิดซิ คิด เอาไงดี ต่อยกับมันไม่รอดแน่ แมร่งอาวุธครบ แถมเยอะกว่า แต่จะพาแทนหนียังไงดีกว่า
ผมกับแทนวิ่งไปซ่อนตัวในซอกระหว่างรถที่จอดกันอยู่ ก้มตัวลงต่ำๆ อาศัยประตูรถช่วยบังเอาไว้ เราทั้งคู่ต่างหายใจหอบ ก่อนอื่น ส่งแทนให้รอดจากเรื่องนี้ก่อนดีกว่า
“เราจะดูต้นทางให้ แทนรีบวิ่งไปหาตำรวจ หรือใครที่คิดว่าช่วยได้มานะ เราจะวิ่งเล่นกับมันให้นานที่สุดนะ” แทนส่ายหน้าทำไม วิ่งหนีไม่สนุกนะเว้ย
“บิ๊กก็ต้องไปกับเรา เราต้องหนีออกไปได้ เราไม่ปล่อยให้บิ๊กเป็นอะไรไปเด็ดขาด” ไม่ใช่เวลาจะห่วงนะแทน เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่คนอย่างแทน ไม่เคยเจอโลกโหดร้ายแบบนี้ ไม่รู้หรอกว่าพวกนี้มันโหดเหี้ยมแค่ไหน
“ถือว่าเราสั่งนะ ขอร้องด้วย หนีไปก่อน เราสัญญาว่าเราจะไม่ตายหรือเละแน่นอน โอเคไหม” แทนนิ่งไปครู่ ก่อนจะพยักหน้าโอเค
ผมลุกขึ้นช้าๆ มองรอบๆ ผ่านเส้นฝากระโปรงหน้ารถที่จอดอยู่ ซ้าย ขวา ไม่เห็นนะ วิ่งออกทางเก่าน่าจะโอเคกว่า ธรรมชาติพวกนี้คงไม่อยู่กับที่รอซัดหรอก
“วิ่งกลับไปทางที่วิ่งมาเมื่อกี้นะ น่าจะปลอดภัย ป่านนี้มันน่าวิ่งกระจายกันตามหาอยู่ เอาละ นับสามนะ แล้ววิ่ง 1....2....ผมลุกขึ้นดูต้นทางอีกรอบให้แน่ใจ 3!!!” แทนลุกขึ้นวิ่งออกไปทางเดิมที่วิ่งมา ผมวิ่งไปอีกทางเพื่อไปให้ถึงถนนใหญ่ให้เร็วที่สุด วิ่งไปไม่ทันพ้นซอยดี
“จะไปไหน” ผมรู้สึกได้ว่ามีของมีคมจี้หลังผมอยู่ มันทำให้ผมหยุดวิ่งแล้วอยู่นิ่งๆ โดยอัตโนมัติ
“เดินนำไปช้าๆ อย่าส่งเสียงเรียกใครช่วย ไม่งั้นไส้มึงไหลออกด้านหน้าแน่” ผมเดินนำหน้าช้าๆ โดยมีหนึ่งในกลุ่มที่วิ่งไล่ผมคุมจังหวะอยู่ด้านหลังฝั่งขวาผม ตั้งสติๆ รอมันเผลอก่อนๆๆ ผมกับผู้คุมมีด เดินมาถึงซอกหลังร้านที่คนไม่ค่อยเดินมากัน
“ชิ้ว!!!” ผมแกล้งจามเพื่อดึงความสนใจในเสี้ยววินาที แล้วใช้เท้าขวากระทืบลงที่เท้าซ้ายเต็มแรง แล้วซัดหลังมือเข้าหน้าอีกฝ่ายเต็มๆ เสี้ยววินาทีหลังจากซัดแล้ว เมื่อมันเซถอยไป มีดยาวฟุตกว่าๆ ที่คลุมด้วยเสื้อช็อปก็ร่วงลงพื้น ผมรีบคว้าขึ้นมาขู่ เอาไว้
“ทิ้งมีดซะ ถ้าไม่อยากให้ไอ้หน้าหวานนี่มือขาด” ผมหันหลังกลับไปที่ต้นเสียง เวรแล้ว!!! แทนโดนพวกมันจับได้ ใบหน้าแทนมีรอยช้ำจากหมัดอยู่ ผมหันกลับไป แล้วโยนมีดลงพื้นไปหาพวกมันอีกหกคนที่คุมตัวแทนอยู่
“คนๆ นี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย ปล่อยไปซะ จะทำอะไร มาทำที่นี่” แทนดูไม่หวาดกลัว แต่เลือดยังไหลจากมุมปากแทนเป็นหยดๆ ช้าๆ ก่อนที่แทนจะถูกโยนมาให้หัวโจกหิ้วคอเสื้อ แล้วโดนเตะเจาะยางให้นั่งคุกเข่าลง ผมกำหมัดด้วยความโกรธ ที่ช่วยอะไรไม่ได้
“เพื่อนมึงหาเรื่องกู ทำกูเจ็บตัว ติดคุก โดนโรงเรียนไล่ออก บอกหน่อยซิ มึงจะชดใช้อะไรให้กู” อย่าเอาหน้าสกปรกของมึงไปพูดกรอกหูของแทน ถ้ามึงทำไรแทน กูเอามึงตายแน่ไอ้สัตว์!!!
“บิ๊ก...หนีไป” เสียงแผ่วเบาของแทน ทำให้อีกฝ่ายถีบแทนลงพื้น แล้วเอาเท้าเหยียหน้าแทนเอาไว้
“ถ้ามึงไม่ตาย เพื่อนมึงต้องรับกรรมแทนมึงนะ” แทนส่งเสียงอู้อี้และสำลักตามแรงบดของรองเท้า
กูไม่ให้อภัยมึงเด็ดขาด!!! วันนี้ มึงต้องตาย!!!
*********
บทถัดไป บิ๊กจะช่วยแทนสำเร็จไหม? แทนจะเจ็บหนักขนาดไหน และบทที่ 19 จะเป็นครั้งแรกที่ ไบร์ท VS บิ๊ก ครับ
บทที่ 18 เจอกันวันพฤหัสฯ บ่ายๆ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^