เราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของจิตติ แล้วนิยายของจิตติเราก็ชอบแค่เธอที่ร้าย (ขออภัยที่ตอนจบยังไม่ได้คอมเมนท์นะคะ)
เราพอได้อ่านปลาบนฟ้ามาผ่านๆตาบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ มันดีนะคะ แต่ว่าแค่ไม่ได้ตรงกับแนวเราเฉยๆ ยังมีคนอีกมากที่ชอบนะคะ
ไม่รู้ว่าเรารู้สึกไปเองรึเปล่า นิยายตลกของจิตติหลังๆไม่ค่อยเป็นจิตติเลย รวมถึงซีรีย์นี้ตอนที่ตลกๆก็ตาม
เราไม่รู้ว่าเพราะจิตติตั้งใจให้ไม่ตลกหรือว่าเพราะนิยายตลกในบอร์ดหลังๆมานี้ใช้จิตติสไตล์เป็นต้นแบบกันเยอะรึเปล่า จิตติเลยเลือกที่จะแต่งให้แตกต่างจากที่เคยเป็นมา
ไม่รู้ว่าว่าที่เราพิมพ์มามันดูละลาบละล้วงหรือทำให้ลำบากใจยังไงรึเปล่า ยังไงก็ขอโทษมาล่วงหน้าด้วยนะคะ
ไม่เป็นไรค่ะ จิตติจะขอชี้แจงแบบที่รู้สึกด้วยตัวเองนะคะ
ความจริงแล้วปลาบนฟ้าไม่ใช่นิยายตลกที่จิตติเขียนเป็นเรื่องแรก แต่เริ่มเขียนตั้งแต่คู่รองของ one night stand แล้วก็คู่รองของรักแท้แพ้แรงในร่มผ้า แค่ปลาบนฟ้ามีฉากฮาๆ เข้ามาอยู่ในคู่หลักและคู่รองก็เลยทำให้รู้สึกว่ามันฮากว่าทุกเรื่อง
ทีนี้พอเขียนฮามากๆ ไปก็จะติดพ่วงด้วยคำหยาบเยอะๆ ตอนนี้ก็เยอะมาก 5555
ถ้าถามว่ามหา'ลัย มาหารักเรื่องไหนที่ให้ความรู้สึกว่ามันมีส่วนคล้ายคลึงในการเขียนฉากฮามาที่สุดก็คงเป็น "แพทยสัตว์" ที่รู้สึกว่านายเอกเหมือนกันปีใน "ปลาบนฟ้า"
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องอื่นๆ จิตติไม่ได้ตั้งใจเขียนฮาไปซะทีเดียว เพราะเป็นเรื่องสั้นเลยพยายามหนีไดอาล็อกหรือคำพูดที่เหมือนกัน เพราะเซตนี้เล่าจากตัวนายเอกเพียงคนเดียว แต่คนอ่านหลายคนก็ยังรู้สึกว่ามีความรู้สึกคล้ายกันอยู่ คงจะดีกว่านี้ถ้าเขียนทุกเรื่องแบบแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลย ฮืออ
- อย่างเรื่องที่ตั้งใจให้ฮาเหมือนปลาบนฟ้าเลยก็มี แพทยสัตว์
- เรื่องหวานๆ ก็มี วิศวะสัมพันธ์, นิเทศศาสตร์, สถาปัตยกามศาสตร์
- เรื่องที่เน้นฉากเขินๆ จะมีวิศวกรรมประสาท, รักฐศาสตร์
- หรือที่เน้นหวานอมขมกลืน หม่นๆ หน่อยก็จะเป็น พยายามศาสตร์, นิติสท์ศาสตร์, ศึกษาดูใจศาสตร์
ทั้งนี้ทั้งนั้นจิตติไม่ได้ตั้งใจเขียนตลกให้มากในเซตมหา'ลัยเพื่อไม่ให้แต่ละเรื่องมีความเหมือนกัน แม้จะคล้ายคลึงกันบ้างเพราะจิตติไม่สามารถสลัดภาพของการบรรยายแบบที่เคยชินมาได้ค่ะ
ดังนั้นปลาบนฟ้าก็เลยเหมือนเป็นเรื่องที่จิตติเขียนเพราะเป็นความฮาแบบปลาบนฟ้าจริงๆ ส่วนเรื่องสั้นเรื่องอื่นก็พยายามเปลี่ยนให้ไม่เหมือนกัน หรือแม้กระทั่งเรื่องยาวที่กำลังเขียนอยู่อย่างเพราะเรา...คู่กัน ก็ไม่ได้ตั้งใจเขียนให้เหมือนปลาบนฟ้า แต่จะอาศัยบรรยายไปเรื่อยๆ และลดคำหยาบออกไปเพราะไม่อยากได้ฟิลที่เหมือนกันค่ะ
ไม่รู้จิตติอธิบายเข้าใจมั้ย แต่ถ้าสงสัยหรืออยากให้ปรับปรุงตรงจุดไหนก็บอกได้นะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
ขอบคุณจิตติดาวมอที่ได้ลงเรื่องศึกษาดูใจศาสตร์ให้ได้อ่านนะคะ แม้พี่จะใช้เวลาอ่านช้าแต่ก็อ่านจนจบแล้ว และก็รู้สึกเหมือนกับถูกฆ้อนฟาดหัว จนนิ่งงันไปชั่วขณะ พี่อินกับเรื่องนี้มาก แล้วก็มีข้อสงสัยกับเรื่องนี้มากที่สุดเช่นกัน มากกว่าเรื่องอื่นๆ ในซีรีย์นี้เลยละ ข้อสงสัยที่อยากถามมากที่สุดคือ ในเล่มจะมีส่วนขยายต่อจากตอนจบในศึกษาดูใจศาสตร์ไหมคะ? อยากจะบอกว่า การจบแบบนี้ ทำร้ายจิตใจคนอ่านมากจริงๆ ค่ะ อ่านประโยคของเทคนั่นแล้ว ก็อยากจะหยิบคอมพิวเตอร์ทุ่มใส่ผนังห้องจริงๆ แต่ก็ต้องอดทนไว้ เพราะไตมีไม่พอขายไปซื้อคอมฯ ใหม่
ความหมายของพี่ก็คือ ถ้าเทคบอกว่าโสดรอโฟร์มาสองปี แล้วสองปีที่ผ่านมานี่คือ แกอยู่เฉยๆ หรือ ทำไมไม่รู้จักขวนขวายหาทางติดต่อ โอเค ไม่ต้องพูดถึงว่าสองปีที่ผ่านมานี่แก 'โสด' รอโฟร์เลย แต่ประโยคนั้นของแกมันบอกได้ว่า แกเองก็ชอบโฟร์มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ แล้วอะไรคือความหมายของประโยคเพื่อนแกที่บอกว่า "เห็นเป็นรุ่นพี่มาชอบหน่อยมีปฏิกิริยาทุกราย" นี่ไม่ใช่หมายความว่า เพราะแกชอบโฟร์ แล้วโฟร์ก็เป็นรุ่นพี่ พอเพื่อนว่ามีรุ่นพี่มาชอบ ใจแกก็อยากให้เป็นโฟร์ เลยมีปฏิกิริยา แล้วอะไรคือการที่แกไม่ลองเข้าไปจีบโฟร์บ้าง หา! หรือเพราะโฟร์ไม่เข้าไปสารภาพกับแกเหมือนคนอื่นๆ แกก็เลยไปคบกับคนอื่นแทน
ตอนนี้อารมณ์ฟาดงวงฟาดงามากๆ ค่ะ อยากจะทุ่มทุกอย่างใกล้มือ พี่อินมากจริงๆ นะน้อง หรืออารมณ์ของเทคคือ แม้จะชอบโฟร์ แต่ก็เป็นแค่ความชอบ เพราะถ้ามีคนเข้ามาจีบ ก็จะลองคบกันคนนั้นดู? เฮ้อ อยากบอกว่าพี่เศร้าเหลือเกิน เจ็บปวดจุกในอกกับความเสียใจของโฟร์ แม้สุดท้ายแล้ว แกจะทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคเปิดเผยความรู้สึกนั้น แต่มันก็ยังไม่ถึงใจอยู่ดี ฮือ ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้!
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว เทคจะเลิกรากับแฟนคนก่อนๆ ไป (เพราะเทคมีใจกับโฟร์ ถึงจะคบกับใครก็ยังคิดถึงโฟร์ เลยทำใจให้คบกันต่อไปไม่ได้) แต่ก็นับว่ารักครั้งนี้แลกมาด้วยความเจ็บปวดเหลือเกิน เราไม่รู้ว่าฝั่งเทคจะเป็นอย่างไร เพราะจิตติไม่ได้เขียนให้อ่าน แต่เมื่อได้อ่านฝั่งของโฟร์แล้ว ก็รู้ว่าโฟร์เจ็บมาก เสียใจมาก การได้มองคนที่แอบรักอยู่กับคนอื่นนั้น มันเจ็บจริงๆ นะ แค่ได้ฟุ้งซ่านคิดถึงว่า วันหนึ่งๆ เขาจะใช้ชีวิตอยู่คนที่เขาคบด้วยอย่างไรบ้าง ก็อกไหม้ไส้ขมแล้วค่ะ (ออกแนวมโนอย่างแรง ฮา) ความจริง ถ้าจิตติมีความในใจฝั่งเทคมาเล่าให้ฟังบ้าง ก็จะดีไม่น้อยทีเดียว พี่หวังจริงๆ นะจ๊ะ
สุดท้ายแม้จะพูดไปเยอะแยะ แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่า ถ้าแกเองก็ใจตรงกัน แล้วหลายปีที่ผ่านมา แกไปคบกับคนอื่นทำไม? ตอบมาเดี๋ยวนี้เลยนะเทค ทำไมแกถึงเป็นพระเอกที่ไม่เริ่มก่อนเลยล่ะ
จิตติขา ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่พี่คงอารมณ์ค้างอย่างนี้ไปอีกนาน ต้องขอบคุณจิตติที่เขียนเรื่องราวดีๆ อย่างนี้มาให้อ่าน แต่จะดียิ่งกว่า ถ้ามีส่วนขยายมาเพิ่ม
กอดดาวมอด้วยใจรักค่ะ
ส่วนขยายต่อถ้าจิตติมีโอกาสจะกลับมาต่อให้นะคะ แต่ขออธิบายคร่าวๆ ก่อนดังนี้ค่ะ
- ความหมายของพี่ก็คือ ถ้าเทคบอกว่าโสดรอโฟร์มาสองปี แล้วสองปีที่ผ่านมานี่คือ แกอยู่เฉยๆ หรือ ทำไมไม่รู้จักขวนขวายหาทางติดต่อ
สองปีที่เทคโสดเป็นช่วงที่เรียนอยู่ปี 4 แล้วก็เป็นช่วงที่จบออกไป ส่วนโฟร์จะเรียนปี 5 (ฝึกสอนไม่ได้อยู่มหา’ลัย) กับช่วงที่ออกไปใช้ชีวิตก่อนรับปริญญา ทั้งคู่เลยไม่ได้เจอกัน คล้ายสองปีที่เทครอก็เหมือนรออย่างไม่คาดหวังว่าจะได้เจอหรือเริ่มต้นอะไรหรือเปล่า คือถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็พร้อมเริ่มต้นกับรักใหม่ได้เสมอ (ต่างกับโฟร์ที่รอแค่คนๆ เดียวมาหลายปี)- แกเองก็ชอบโฟร์มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ แล้วอะไรคือความหมายของประโยคเพื่อนแกที่บอกว่า "เห็นเป็นรุ่นพี่มาชอบหน่อยมีปฏิกิริยาทุกราย"
จิตติตั้งใจเขียนให้เทครู้สึกชอบโฟร์อยู่นิดหน่อย ตรงที่เป็นพี่ที่น่ารัก ถ้าเริ่มสัมพันธ์ได้ก็ดี แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนั่นแหละค่ะ อีกอย่างคนที่เป็นแฟนเทคส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเข้าหาก่อนเสมอ ในเมื่อโฟร์ไม่พูด เทคไม่ถาม ก็เหมือนต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าตกลงแล้วความรู้สึกมันเป็นยังไงกันแน่ พอมีคนเข้ามาสนใจเทคแถมเป็นรุ่นพี่เค้าก็ไปเลย 5555- สองปีที่ห่างหายไปแล้วกลับมาเจอกัน เหมือนความทรงจำของเทคยังมีโฟร์อยู่ในนั้น แม้ไม่มากแต่ก็รู้สึกว่าพี่ชายคนนี้เป็นยังไง เคยคุยอะไรกันบ้าง เข้ามาในช่วงเวลาไหน สองปีที่บอกว่าโสดรอก็สรุปได้ว่าถ้าไม่ได้เริ่มกับใครใหม่ก็ยังเหลือโฟร์นี่แหละที่เขารอ ประมาณนี้ค่ะสุดท้ายนี้กอดพี่ Wordslinger แน่นๆ ไว้หนูจะกลับมาต่อให้พี่ไม่ค้างคาใจนะคะ 55555
รักมาก