ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0***********************************
สวัสดีค่ะ อ่านของคนอื่นก็เยอะ...เลยเกิดอารมณ์อยากจะลงบ้าง แต่สังขาร...เอ๊ย เจียมตัวเองดี ไม่อาจมาลงเรื่องยาวได้ เลยเอาเรื่องสั้นมาแซมเบิ้ลก่อน ^_^
แต่ที่จริง...เรื่องนี้ก็มาจากเรื่องยาวเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ตัวเองยังแต่งไม่จบ เลยเอาเรื่องสั้นที่จบมาลง...คิดว่าคงจะดีกว่า และก็สามารถอ่านแล้วเข้าใจเนื้อเรื่องได้ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะค่ะ ติ ชม กันตามสบายนะค่ะ เคยแต่ Reply ถ้าทำอะไรไม่ถูกกฎบอกได้นะค่ะ ไม่เก่งอังกฤษซะเลย แม่เจ้า อิอิ (ยอมรับก็ได้ว่าลงไม่ค่อยเป็น)
เชิญติดตามได้ค่ะ !!!
เรื่องสั้น...วันวานยังหวานอยู่ (ขอแบ่งลงนะค่ะ มันลงไม่พอ) Part 1
“ลัลล้า ลั้ลล่า ลัลล่า” ร่างๆ หนึ่งในชุดสูทสีขาวขลิบขอบทองกำลังนอนบนเตียงเล็กๆของผม ในมือมีหนังสือภาพที่ผมเป็นคนวาด ปากสวยๆเปิดปิดตามทำนองเพลงที่ฮัมออกมาอย่างอารมณ์ดี อ่า ใจผมมันเต้นแรงชะมัด
“ริน แม่ให้มาถามว่าจะกินอะไรไหม แม่จะไปซื้อของ” รินดันตัวเองขึ้นเงยหน้ามองก่อนจะส่ายหัว
“ไม่อ่ะ ไม่หิว” แล้วเด็กผู้ชายหน้าสวยแต่ดูคมจนผมต้องเกรงใจเค้าก็นอนลงไปกับเตียงอีกครั้ง รินเป็นคนที่ขาวมากๆ เวลามีแสงส่องมาก็จะดูเลื่อนหายไปกับแสง ตาสีฟ้าสดใสที่บางครั้งจะดูร่าเริงหรือบางครั้งที่ดูจริงจังจนหัวใจผมต้องเต้นตาม ผมสีน้ำตาลของรินในบางครั้งก็ทำให้รินดูเด็กแต่บางครั้งเท่านั้นที่ดูเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก
...นี่ผมคงหลงรักรินไปแล้วใช่ไหม...
“แม่ฮะ รินบอกว่าไม่เอาอะไรแล้ว” ผมลงไปบอกแม่ข้างล่าง แม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน
“งั้นฮิคารุก็อยู่เป็นเพื่อนคุณหนูนะ เดี๋ยวแม่ไปซื้อของแป็บนึงจ้ะ” แม่ผมนั่งยองๆจับเสื้อผมให้เข้าทีเข้าทาง “อยู่กันดีๆนะ” แม่ลูบหัวผมช้าๆ “รินคุงเป็นเด็กที่ใจดีใช่ไหมล่ะ”
ผมพยักหน้า แม่ยิ้มแล้วจึงเดินออกจากครัวไป “เดี๋ยวฮิคารุกับรินจะอยู่บ้านให้ฮะ” ผมบอกแม่เมื่อท่านกดล็อกบ้านแล้วปิดประตู
“อ้าว รินอยากได้อะไรเหรอ” รินเดินหน้ามุ่ยลงมา
“ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้นหรอกนะ” รินยืนเกาะราวบันได สีหน้าเรียบเฉย...ซึ่ง...คนอื่นคงไม่เคยเห็น...ยกเว้นแต่ผมเพียงผู้เดียว
“ไม่หรอก...จริงๆนะ” ผมเดินเข้าไปใกล้
“ถ้านาย.../ชูว์” ผมเดินเข้าไปใกล้ ยืนอยู่ใต้คาง
“จูบหน่อยสิ” ผมขอแต่รินทำสีหน้าแปลกใจ “นะ จูบฉันหน่อย จูบตอนนี้เลยนะ” ผมเอื้อมมือไปที่คอของริน รินทำสีหน้าลำบากใจก่อนจะโน้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากของเค้ากับผม อืม ถึงมันจะเป็นเพียงสัมผัสอันแผ่วเบา แต่มันเป็นสิ่งที่เลี้ยงให้ผมมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้
“ฮิฮิ ถ้าไม่ใจดีคงไม่จูบเค้าหรอก ใช่ม่ะ” สีหน้ารินดูยุ่งยากใจมากๆแต่ก็เพียงแค่ผลักหัวผมเบาๆเท่านั้น “แล้วรินมีอะไรรึเปล่า”
“อ้อ ใช่ จะขอใช้โทรศัพท์หน่อยนะ”
“เอาเลยสิ ใช้เลย” ผมหลีกทางให้รินลงไปโทรศัพท์ข้างล่าง ส่วนตัวเองก็นั่งลงตรงนั้น ผมรู้ว่าการแอบฟังคนอื่นคุยกันมันไม่ดี แต่รินคือข้อยกเว้นเท่านั้น ผมจะรอรินตรงนี้
“แม่ฮะ ผมอยู่บ้านฮิคารุนะ อือ อือ อือ เข้าใจแล้วฮะ แล้วไรกลับบ้านรึยังล่ะฮะ ยังอีกเหรอ อะไรอ่ะ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเหรอ มันไม่ใช่เรื่องของผมแล้วล่ะ ตามใจ งั้นวันนี้ผมจะค้างกับฮิคารุนะ ไม่ ไม่ต้องนะ ไม่ต้องมารับเลย ผมจะอยู่ที่นี่แหละ แค่นี่นะฮะ ไม่ ไม่ต้องฮะ แค่นี้นะฮะ ฮะ ฮะ เข้าใจแล้วฮะ ฮะ” เสียงพูดคุยเงียบหายไปพร้อมๆกับเสียงถอนหายใจ
“ฮิคารุ” รินเรียกผมที่นั่งตรงราวบันได
“ขึ้นห้องกันเถอะ” ผมชวนรินที่ยืนอยู่นิ่ง รินแค่ส่งสายตาตำหนิผมแต่ก็ไม่พูดอะไร “ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเหรอ” ผมถามหลังจากที่เรามานั่งกันอยู่ในห้องนอนของผมที่กว้างพอประมาณ เพราะบ้านผมอยู่กันแค่สองคน เราจึงไม่จำเป็นต้องทำห้องหลายๆห้อง
รินเงียบเป็นอันรู้กันว่าจะไม่มีใครกลับบ้าน ไรก็ไปอยู่โรงเรียนประจำ ทางพี่ๆของรินก็ติดกิจกรรม ตอนนี้พวกผมก็อายุ 14 แล้วฮะ เรียนอยู่มอต้นปีสอง
ผมรู้จักกับรินตอนอายุ 11 ตอนนี้ก็สามปีแล้วที่ผมมีรินอยู่ข้างๆ มานับๆแล้วผมก็รู้สึกภูมิใจอยู่บ้างเวลาไปเปรียบเทียบกับคนในครอบครัวของริน พวกพี่ๆของรินก็เคยเห็นรินตอน 7 ขวบเองนี่เนอะ รู้จักรินก่อนผมแค่ไม่กี่ปีเอง อ่ะ นี่ผมคิดอะไรเนี่ย ผมอิจฉาพวกพี่ๆรินเค้าเหรอ...
“ฮิคารุ ฮิคารุ” รินเรียกผมเสียงหวานเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ วันนี้แม่ทำเนื้อย่างให้กิน เพราะคุณแม่ของรินโทรมาบอกว่ารินบ่นอยากกิน แต่เพราะวันนี้พี่ฝาแฝดของรินไม่ยอมกลับบ้าน พี่คนอื่นๆก็ติดกิจกรรม รินเลยน้อยใจไม่กลับบ้านซะงั้น แม่ผมเลยทำให้แทน
“คิดอะไรอยู่” รินขยับนั่งลงข้างๆผม
“ตอนนี้ฮิคารุยังคงเป็นตัวแทนของครอบครัวรินอยู่ไหม” ผมถาม...รินนิ่งแล้วหลบสายตาก่อนที่จะมองหน้าด้วยสายตาจริงจัง
“อย่าถามถ้านายรู้คำตอบดี” อึก! รินยังคงเป็นริน ตอบได้แทงใจผมเหมือนเดิม รู้สึกเจ็บแปล็บๆเลย ผมคงเป็นได้แค่ตัวแทน...ที่เมื่อรินไม่มีใคร...รินก็จะมีผม “ถ้าทนไม่ได้...ก็บอก...เข้าใจไหม ฉันไม่อยากให้นายยึดติดกับฉันหรอกนะ ฉันมันอันตรายเกินกว่านายจะรับ” รินล้มตัวลงนอนอีกฟากของเตียงทิ้งให้ผมนั่งมองแผ่นหลังที่อยู่ๆก็ดูห่างไกลออกไป
...ผม...ไม่อยากเป็นแค่ตัวแทน...ผม...จะเป็นมากกว่านั้นให้ได้
ในห้องเรียนกว้างใหญ่ที่มีเด็กเพียงไม่กี่คนเท่านั้นนั่งอยู่ บนกระดานอาจารย์ได้เขียนข้อความทิ้งไว้ว่าให้อ่านหนังสือด้วยตัวเอง ผมก็ไม่รู้ว่าจะอ่านหนังสือตามที่อาจารย์บอกดีไหม ในเมื่ออ่านไปมันก็ไม่ออกสอบอยู่ดี ตอนนี้โรงเรียนผมกำลังจัดกีฬาซึ่งทุกชั้นปีจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมยกเว้นชั้นเรียนผม
“ฮิคารุ รินหายไปไหนแล้วล่ะ” ผู้ชายตัวเล็กพอๆกับผมเดินเข้ามาหา เขาชื่อว่า อาซึมุ เป็นคนน่ารักแต่นิสัยนี่สิที่เป็นปัญหา เขาจะคบกับพวกที่อยู่ในระดับเดียวกับเค้า ซึ่งผมก็ไม่สนใจและหวังไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับคนประเภทนี้ ผมไม่เข้าใจจริงๆที่เด็กตัวเท่าผมกลับสามารถแยกแยะฐานะทางสังคมออก
“ไม่รู้” อาซึมุชักสีหน้าใส่ผมเมื่อคำตอบมันสั้นเกินไป ผมเดินหนีออกมา
“ชิ เป็นแค่คนรับใช้แท้ๆ”
เสียงเห่าหอนตามสายลม ผมชินซะแล้ว ผมไม่ใช้คนรับใช้ ผมไม่ใช่ผู้ติดตาม ผม...ไม่ใช่...นั่นสิ ไม่ใช่อะไรดี ในเมื่อผมก็เป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น จะเป็นเพื่อนก็ไม่ขอรับไว้หรอก...ถ้าเป็นได้แค่นั้น ผมขอมากไปไหม...
..........
.....
..
..
“ปล่อยนะ ฮือออ ปล่อยนะ ไอ้คนชั่ว ปล่อย ผมบอกให้ปล่อย ฮืออ ริน ริน รินช่วยผมด้วย”
“หุบปาก ไอ้ตัวดี เพราะแม่แกยังไงล่ะ ฉันถึงเป็นแบบนี้ เพราะงั้นแกต้องรับผิดชอบ รับผิดชอบกับสิ่งที่แม่แกทำลงไป”
.....
...
ตอนเด็กๆ ผมจำหน้าพ่อแท้ๆของผมไม่ได้ เพราะเกิดมาก็อยู่กับคุณแม่มาสองคนตั้งนานแล้ว จนวันนึงคุณตาคุณยายก็ออกตามหาผมกับแม่ ชีวิตของผมจะว่าไปก็เหมือนนิยายน้ำเน่า เราสองแม่ลูกตกระกำลำบากมานานจนสุดท้ายคุณตาคุณยายก็ออกตามหาและผมจึงค้นพบความจริงที่ว่า บ้านของคุณแม่ทั้งสวยและหรูหราน่าอยู่มากๆ
คุณแม่ผมเป็นลูกคุณหนูมาแต่กำเนิดจนพบรักกับครูสอนพิเศษและหนีไปด้วยกันจนมีผม คุณตาคุณยายที่เตรียมว่าที่สามีที่ดีพร้อมให้คุณแม่โกรธจนคลั่งถึงกับออกปากตัดพ่อตัดลูกกับลูกสาวเพียงคนเดียว ตอนที่คุณตามารับผมกับแม่กลับไปอยู่บ้านก็เพราะท่านรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น ทั้งที่คุณแม่เป็นลูกสาวแท้ๆของท่าน ผมในตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรมากหรอก แค่ดีใจไปกับคำพูดของผู้ใหญ่และดีใจ...ที่ผมมีตา มียาย มีบ้านหลังใหญ่ไม่ใช่อพาตเม้นจะพังแหล่มิพังแหล่ มีคนรับใช้ที่คอยตามใจทุกคำพูดไม่ใช่คำว่าคำดูถูก เนื่องจากแม่มีผมตั้งแต่เด็กท่านจึงทำอะไรไม่ค่อยเก่ง แต่ท่านยอดเยี่ยมสำหรับผมเสมอ
ผมมีชีวิตที่สุดสบายขึ้น คุณตาคุณยายทั้งรักและหลงผม...ผมคิดว่างั้น จนวันหนึ่งทุกคนในบ้านก็เรียกให้ผมไปพบผู้ชายคนหนึ่งที่ห้องรับแขก คุณตาคุณยายถามผมว่าผมอยากมีพ่อไหม...แล้วทุกคนในบ้านก็หันมามองผมอย่างคาดหวังคำตอบ ผมมองคุณแม่ที่นั่งนิ่งหันหน้าหนีผม ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนสูงใหญ่ ในความคิดแรกที่แวบเข้ามาคือไม่ชอบ ผมไม่ชอบเค้า ไม่อยากได้เป็นพ่อถ้าเป็นคนๆนี้...ผมหวังอย่างนั้น เค้ามองหน้าผมแล้วยิ้มให้ แต่ผมกลับอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก ถึงผมจะไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อ...แต่แค่ได้มองรูปท่าน ผมก็จะรู้สึกดีแล้ว แต่ไม่ใช่กับคนๆนี้ที่แม้แต่รอยยิ้ม...ผมก็ดูว่าจอมปลอม
“ฮะ ผมอยากมีคุณพ่อ...” ...แต่ไม่ใช่คุณฮะ ผมต่อคำๆนี้ในใจ เมื่อคุณตาคุณยายยิ้มแก้มปริพลางเรียกผมเดินเข้าไปหา พวกท่านกอดผมและเอ่ยกับผู้ชายคนนั้นอย่างยินดี ผมหันไปสบตากับคุณแม่อย่างขอโทษขอโพย ท่านก็เพียงแต่อมยิ้มน้อยๆให้ผมเท่านั้น
...ผมเกลียดผู้ชายคนนี้...
.....
...
..
.
“ไม่เอาฮะพ่อ ผมไม่ไป ผมไม่อยากทำอย่างนั้น”
“ทำซะแล้วฉันจะไม่ทำอะไรแม่แก” ผู้ชายที่บังคับให้ผมเรียกเค้าว่าพ่อหลังจากที่เค้าได้แต่งงานกับคุณแม่ เอ่ยเสียงไม่ปราณี รู้ทั้งรู้ว่าผมต้องโดนอะไรเมื่อเข้าไปในห้องเด็กห้องใหญ่
.....
...
...
..
.
คืนวันแต่งงานคุณแม่กับผมกอดคอกันร้องไห้ คุณแม่ขอร้องให้ผมอดทน สักวันหนึ่งเราจะมีความสุข ท่านเอาแต่พูดคำๆนี้และผมก็รอคอย
ผมมารู้ทีหลังจากการจับเข่าคุยกันของพวกสาวใช้จึงได้เข้าใจ...ว่าที่จริงแล้ว ตระกูลของคุณแม่กำลังตกต่ำ เพราะคุณตาอายุมากเกินไป เงินในบ้านกำลังหรอยหรอและเรื่องนี้สังคมต้องไม่รับรู้ คุณตาคุณยายจึงอยากได้ลูกสาวคืนมารวมทั้งหลานชายคนเดียวในการสืบตระกูล
การแต่งงานของคุณแม่จึงเกิดขึ้น เพื่อกู้ชื่อเสียงของตระกูล...เพราะผู้ชายคนนั้นมีแหล่งการค้าสำคัญ...เค้าจะช่วยคุณตาคุณยายได้ ส่วนเค้าก็จะได้ชื่อเสียงของตระกูลคุณแม่...ในการหาประโยชน์...ทางการเมือง
ผมมาอยู่ในห้องนั่งเล่นของลูกหลานนักการเมืองคนใดผมก็จำชื่อไม่ได้ ผมรู้แต่ว่าทุกครั้งที่พ่อพาผมมา ผมจะต้องถูกแกล้งและไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อเด็กๆ พวกนั้นแกล้งผมจนพอใจเค้าก็จะไปบอกพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือลุงๆป้าๆของเค้าถึงความอ่อนแอของผม ผู้ใหญ่ก็จะดุเป็นพิธีแต่สายตาของเค้าก็สนุกไปด้วย พ่อ...ก็สนุก
..........
.....
...
.
“อยู่ในนี้ ห้ามไปไหนเข้าใจไหม” พ่อปิดตาผมแล้วพามาในที่แห่งหนึ่ง ผมรู้สึกกลัวจับใจแต่ไม่ได้ถามหรืออ้อนขออะไรอีก ภาพแม่ร้องไห้เกาะขาผู้ชายคนนั้นไม่ให้ผมไป เค้ากลับด่าทอแม่และตบตีจนผมทนไม่ไหว เค้าไม่ทำอะไรผม...ไม่เลย...แต่ลงไม้ลงมือกับแม่ เค้าบอกว่าถ้าไม่อยากให้แม่เจ็บตัวก็ไปกับเค้าดีๆแล้วแม่จะไม่เป็นอะไร...ผมจึงยอม...มาอยู่ในห้องมืดๆที่ไม่รู้ทิศรู้ทาง นั่งหนาวสั่นด้วยความกลัว
แกร๊ก!
“อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงลมเล็กๆที่พัดผ่านตัว ความเงียบเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผมกลัวแสนกลัวเมื่อรอบข้างไม่มีการเคลื่อนไหว พ่อผมพาผมมาทำอะไรที่นี้ แม่ครับ ช่วยด้วย ช่วยผมที
“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงเล็กๆบ่งบอกว่าคนพูดคงเป็นเด็กเหมือนผม พ่อเอาผมมาให้เค้าแกล้งอย่างนั้นเหรอ เอามาให้พวกนั่นพอใจเหรอ
“ทำไม...นายถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนั่นเข้มขึ้นเมื่อผมไม่ตอบคำถาม เค้าคงไม่พอใจที่ผมไม่ตอบสินะ
“พะ พ่อ พ่อ คุน คุณพ่อ...พา...มา” ผมกลัวเพราะผ้าปิดตาจนมืดไปหมด
“นายอายุเท่าไหร่” เสียงดังใกล้ๆ ผมถอยหนีทันทีเมื่อคิดได้ว่าเค้ากำลังอยู่ใกล้ผม
“อ๊ะ” มือนุ่มนิ่มจับแขนผมเอาไว้ ผมกลัว
“อย่านะ!” ผมชะงักเป็นหินทันทีเมื่อเค้าตวาด “เฮ้อ ถ้าขยับก็จะตกเตียงนะ”
เอ๊ะ เตียง! ผมไม่ได้อยู่บนเก้าอี้หรอกเหรอ ทำไมผมถึงมาอยู่บนเตียงได้ล่ะ ผ้าปิดตาค่อยๆคลายตัวออกก่อนจะหลุดลงบนตักผม ตาสีฟ้าสดใสกำลังจ้องมองผมอยู่...เมื่อกี้คือเค้าเหรอ...ไม่เหมาะกับเสียงเข้มๆแบบนั้นเลย เค้าเป็นเด็กผู้ชายที่หน้าสวยมาก...สวยขนาดที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
“คราวนี้ก็ตอบมาได้แล้วว่านายอายุเท่าไหร่”
“สิบเอ็ด” ผมตอบเหมือนโดนชักจูงทั้งที่เมื่อครู่ผมกำลังหวาดกลัวกับสิ่งที่มองไม่เห็น
“ทำไมนายถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ” ผมมองดูเด็กตรงหน้าในชุดคนไข้สีฟ้าตัดกับห้องสีดำทะมึนนี้ ผมมองดูตัวเองเมื่อเค้าเอาแต่จ้องผม
“อ่า” ผมอุทานอย่างตกใจ เมื่อผมใส่ชุดสีขาวเบาบางที่แทบจะเห็นเนื้อใน ตอนมาผมกำลังหลับ...แม้จะ...สงสัยว่าผมหลับไปตอนไหนในเมื่อผมกำลังร้องไห้ในอกของแม่
“ไม่รู้ คุณพ่อพามา” ผมคว้าผ้าห่มตรงเท้ามาห่มตัว
“คุณหนูครับ นายโคกาว่ากำลังมา เราคงต้องไปได้แล้วล่ะครับ” เสียงผู้ชายรายงานนอบน้อมจนผมยังแปลกใจ เด็กตัวเท่าผมแต่สามารถทำให้ใครมายกย่องเชิดชูได้ด้วยเหรอ ผมไม่เคยเห็นหรอกนะ...ขนาดที่บ้านยังว่าลับหลังเลยก็มี
เด็กตาฟ้าเดินออกไปแล้ว ผมมองแผ่นหลังที่เลือนหายไป ความรู้สึกกลัวเริ่มจู่โจมผมอีกแล้ว เด็กคนนั้นไปแล้ว ไม่ใช่เค้าเหรอ ไม่ใช่เค้าที่ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนเล่นเหรอ แล้วโคกาว่าคือใครกัน นั่นคือคนที่พ่อต้องการให้ผมพบเหรอ คิดได้อย่างนั้นผมก็ผวาไปหาประตู ผมจะหนี หนีออกไปจากที่นี่
“ขายตัว!” น้ำเสียงตกใจของคนข้างนอกทำให้ผมแข็งทื่อ “แต่เด็กคนนั้นเพิ่งจะสิบเอ็ดเองนะ”
“คุณหนูก็อายุสิบเอ็ดครับและยังสามารถสั่งการพวกผู้ใหญ่ข้างล่างนี้ได้ ทำไมเด็กคนนั้นถึงจะขายตัวบ้างไม่ได้”
“นั่นแหละ เค้ายังเด็กเกินที่จะขายตัวนะ...แล้วเค้าก็ดู...จะไม่เต็มใจด้วย ผู้ใหญ่นั่นแหละที่ชั่วใช้ให้เด็กมาทำเรื่องแบบนี้” ผมกลั้นความรู้สึกพะอืดพะอมที่แล่นในช่องท้อง พ่อพาผมมาขายตัว
“ครับ ครับ ผมว่าเรากลับกันได้แล้วล่ะครับ เดี๋ยวคุณท่านจะตกใจถ้าหาคุณหนูไม่เจอ”
“ไม่” เด็กคนนั้นปฏิเสธเสียงหนักแน่น
“คุณหนู กลับห้องเถอะครับ ถ้าเจ้าของห้องมามันคงไม่ดี”
“งั้นรินจะพาเค้าไปด้วย รินถูกชะตา ถ้าอยากให้รินกลับห้องก็ต้องพาเค้าไปด้วย” เด็กคนนั้นพูดแต่ก็ถูกชายอีกคนคัดค้าน
ครืดดดดด
“อึก หึ อึก ฮึ” ผมกลั้นสะอื้นเอาไว้เมื่อคนที่ชื่อรินเปิดประตูมาเจอผม เค้ามองผมก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้อย่างใจดี
“มาเถอะ มากับฉัน แล้วนายจะปลอดภัย” มือขาวยื่นมาตรงหน้า ผมกลั้นสะอื้นก่อนจะวางมือลงไป ผมไม่อยากขายตัว
..........
.....
...
..