Title: ความรักทำให้คนตาบอด 13/?
Characters: จีน, อิง, โอม, ปาย, เทมส์, ไท, ชาร์ม, บูม, ยิว, คิน
Rating: R
Warnings: Minor character death, Suicide, หน่วง
Words: 2,300
Disclaimer: ไม่ต้องอินมากนะ ไม่ใช่เรื่องจริง ^^
Summary: มันน่าจะผิดที่เป็นอย่างนี้ ที่มันยังรักเธอจนสุดหัวใจ เมื่อรู้ว่าไม่มีทาง แต่ฉันก็ไม่ตัดใจ เหมือนคนไม่รู้ตัว... มันน่าจะถูกที่ใครบอกไว้ ความรักมันทำให้ตาบอด จนมองไม่เห็นความจริง ว่าฉันเป็นใคร ทำให้ไม่เข้าใจ ทำไมหมดทั้งหัวใจ มันยังคงรักแต่เธอ
A/N: พยายามเค้นสุดความสามารถ เดี๋ยวคนอ่านหาว่าทิ้ง
"พี่จีน!"
ไอ้ชาร์มหันมาเลิกคิ้วให้ผมบ้าง เมื่อร่างเล็กบอบบางของคนเรียกเดิน ตรงมาหาพวกเรา "ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง"
"นรกแตกแน่งานนี้" ผมพึมพำพอได้ยินกันสองคน เมื่อมองเลยไปด้านหลังแล้วเห็นคนอื่นๆ มากันครบทีม ก่อนจะยิ้มรับคนที่เดินมาถึงตัวพอดี "หวัดดีครับ น้องเทมส์"
น้องเทมส์ยกมือไหว้ผมกับไอ้ชาร์ม "หวัดดีครับ" แล้วทรุดตัวลงนั่งบนเสื่อ "พี่จีนกับพี่ชาร์มมากับใครครับ มานานหรือยัง แล้วจะพักกี่วัน?"
"ช้าๆ ครับน้อง เอาทีละคำถาม" ไอ้ชาร์มว่ากลั้วหัวเราะ
"พวกพี่เพิ่งมากับเพื่อนเมื่อเช้านี้ แล้วว่าจะพักที่นี่คืนนึง" ผมตอบ แล้วก็ยิ้มให้คนอื่นๆ ที่เพิ่งเดินมาถึง "ไง พวกมึง?"
ไอ้โอมยกกำปั้นแตะกับของผม แล้วถาม "มาได้ไงวะ ไหนบอกบ้านไอ้คินอยู่ประจวบ?"
มันรู้ครับว่าผมมาบ้านไอ้คินที่ประจวบ... ตอนแรกๆ ที่ผมบอกว่าคบกับพวกไอ้คิน มันก็ตึงๆ ไปพักนึง แต่ตอนหลังพอรู้ว่าไอ้คินมีแฟนแล้ว และคงไม่ยุ่งกับน้องเทมส์อีก มันก็มีปฏิกิริยาที่ดีขึ้น
"ก็ไอ้คินนั่นแหละพามา จริงๆ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก เพราะบ้านมันก็อยู่ติดๆ กับชุมพรนี่แหละ" ผมตอบไปด้วย พยักหน้าทักทายคนอื่นๆ ไปด้วย "แล้วพวกมึงพักที่ไหนกัน มีห้องยัง?"
"โทรมาจองไว้แล้ว"
"อยู่กี่วัน?"
"สองวันสามคืน"
ผมพยักหน้า "อืม..." แล้วพอดีหันไปจ๊ะเอ๋กับสายตาของไอ้ไท จึงทักออกไป "ไงมึง สบายดีมั้ย?"
ไอ้คนโดนทักทำหน้าเหวอๆ คงทั้งตกใจและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน "อะ เอ่อ สบาย... สบายดี... แล้วมึงหละ?"
"สบายดี" ผมตอบ ก่อนจะหันไปคนกับคนอื่นๆ "แล้วพวกมึงกินไรกันมายัง?" พร้อมกับหยิบเมนูยื่นให้ "ถ้าจะกินก็ดูเมนูไว้ก่อน เดี๋ยวเด็กเสิร์ฟก็มา"
ไม่มีใครตอบว่ากินแล้วหรือยังไม่ได้กิน แต่รับเมนูไปเปิดดู
"พวกมึงสั่งไรไป?" ไอ้เปย์ถาม
ผมหันไปมองไอ้ชาร์ม เพราะจำไม่ได้ "มีไรมั่งวะ?"
"ข้าวผัดทะเล... ตำไทยปู... ต้-" ยังไม่ทันที่ไอ้ชาร์มจะพูดจบ ไอ้เปย์ก็ถามขึ้นมา "มาถึงทะเล กินส้มตำเนี่ยนะ?"
"กูไม่ได้สั่ง" ไอ้ชาร์มแก้ "น้องยิวสั่ง"
"น้องยิว? ใครวะ?"
"แฟนไอ้คิน เพื่อนกู" ผมตอบ
ไอ้โอมชะงักนิ้วที่กำลังพลิกหน้ารายการอาหาร ก่อนจะถามด้วยเสียงเรียบๆ "มึงมากี่คน?"
"หก" ผมตอบ
มันพยักหน้า แต่ไม่ถามว่ามากับใคร หันไปคุยกับไอ้ชาร์มแทน "สั่งไปกี่อย่างแล้ว?"
"หก... มีข้าวผัดทะเล... ตำไทยปู... ต้มยำทะเลน้ำข้น... เนื้อปูกับน้ำจิ้มซีฟู้ด... ใบเหลียงผัดไข่... ปูนิ่มทอดกระเทียม" ไอ้ชาร์มตอบ
"งั้นเอาปลาหมึกหอมนึ่งมะนาวเพิ่มอีกอย่าง" ไอ้โอมว่า ก่อนจะถามคนอื่น "พวกมึงจะเอาไร?"
"ปลาสำลีทอดกับยำมะม่วง" ไอ้เปย์บอก "แล้วก็... เนื้อใต้ราวท้องปลากระพงลวกจิ้ม... น่ากินหวะ"
"น้องเทมส์หิวมั้ยครับ อยากกินไร?" ไอ้โอมถามแฟนมันที่นั่งอยู่ข้างๆ
น้องเทมส์ส่ายหน้า "ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ครับ กินไรก็ได้ แล้วแต่พวกพี่" ก่อนจะหันไปถามเพื่อนสนิท ที่ตั้งแต่มาผมยังไม่ได้ยินเสียงสักแอะ "ปาย... กินไรดี?"
"แล้วแต่" น้องปายเบื่อๆ
น้องเทมส์เหลือบตามองพี่ชายตัวเองนิดหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
ความเงียบเข้าปกคลุมวงสนทนาชั่วขณะ หากไม่เพราะพนักงานที่ยกข้าวผัดมาเสิร์ฟ ผมก็เดาไม่ออกว่า อีกนานไหมกว่าจะมีคนพูดอะไรขึ้นมา
"น้อง เดี๋ยวสั่งอาหารเพิ่มด้วยนะครับ" ผมบอกเด็กที่ยกอาหารมาให้
น้องพนักงานพยักหน้า แล้วหยิบกระดาษปากกาที่พกติดตัวขึ้นมา "มีอะไรบ้างคะ?"
"ปลาสำลีทอดกับยำมะม่วง..." ผมตอบ ก่อนจะหันไปถามคนที่จะกิน "มีอะไรอีกนะ?"
"เนื้อใต้ราวท้องปลากระพงลวกจิ้ม" ไอ้เปย์ตอบ "แล้วก็... ปลาหมึกหอมนึ่งมะนาว ใช่มั้ยวะ?"
ไอ้โอมพยักหน้า แล้วสั่งของโปรดแฟนมัน "แล้วก็ไข่เจียวปู"
"มีอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ?" น้องพนักงานถาม
พวกเรามองหน้ากัน ก่อนจะส่ายหน้า ไอ้โอมตอบ "แค่นั้นก่อนครับ"
"แล้วจะรับข้าวด้วยไหมคะ?"
"ข้าวเปล่าโถนึง" ไอ้เปย์ตอบ
"แล้วก็เอาน้ำแข็งกับน้ำเปล่ามาเพิ่มด้วย" ผมเสริม
"น้ำเปล่ากี่ขวดคะ?"
"สักสี่ขวด"
"ข้าวมายังพี่?" เสียงมาก่อนตัวเลยครับ
ทุกคนหันไปทางเจ้าของเสียงที่เดินมาคนเดียว ท่าทางจะหิวจัด... ผมพยักหน้า "มาแล้ว" ชุดแรกมาครบแล้วครับ เหลือชุดใหม่ที่เพิ่งสั่งไปตอนหลัง
"อ้าว" น้องยิวอุทานออกมาเมื่อเดินมาใกล้ๆ แล้วเห็นคนอื่นๆ
"เพื่อนพี่" ผมบอก แล้วแนะนำรายตัว จากคนที่ใกล้ที่สุดไปจนถึงคนสุดท้าย "นี่ไอ้โอม เทมส์ ไอ้เปย์ ไอ้ไท แล้วก็ปาย"
คนมาใหม่ชะงักไปนิดเมื่อได้ยินชื่อไอ้โอม น้องเทมส์ และน้องปาย ก่อนจะยิ้มออกมา ยกมือทักทาย "หวัดดีครับ" แล้วคุกเข่าลงใกล้ๆ กับจานอาหาร "กินเลยได้ป๊ะ หิว?"
"คนอื่นๆ หละ?" ไอ้ชาร์มถาม
"พี่คินกำลังเดินตามมา ไอ้อิงกำลังอาบน้ำ ส่วนพี่บูมกำลังแต่งตัว" น้องยิวบอก ขณะแบ่งข้าวใส่จานเล็ก
และพร้อมกันนั้น ไอ้คินก็เดินมาถึงพอดี "โอ้โฮ เมียกู เห็นอาหารดีกว่- อ๊ะ"
"เพื่อนกู รู้จักใช่มั้ย?" ผมถามคนที่ทำหน้างง คงสงสัยว่าคนอื่นๆ มายังไง
ไอ้คินพยักหน้าเข้าใจ คลี่ยิ้มให้เพื่อนๆ ผม แต่ไม่ได้พูดอะไร นั่งลงข้างๆ แฟนมัน แล้วแซวขำๆ "คุณครับ เค้าสั่งมากินหกคนนะ ไม่ใช่คนเดียว" และเมื่อคนที่มันแซวไม่สนใจโต้ตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินด้วยความหิวก็หัวเราะขำ แกล้งแย่งจานที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย "เฮ้ย เอามาให้พี่กินมั่ง"
น้องยิวแย่งจานกลับ พร้อมโวยวาย "ตักเองดิ"
มีความสุขได้แกล้งแฟน ไอ้คินก็หัวเราะหึๆ -_-! ก่อนจะหันมาถามไถ่พวกไอ้โอมว่าพักที่ไหนยังไงด้วยท่าทางปกติธรรมดา เหมือนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งไอ้โอมและคนอื่นๆ ก็ตอบคุยด้วยปกติเช่นกัน
หลังจากไอ้คินและน้องยิวมาถึงได้สักพัก ไอ้บูมกับน้องอิงก็เดินกลับมา...
ทั้งไอ้บูมและน้องอิงต่างก็ทำหน้าแปลกใจที่เห็นคนมาใหม่ แต่คนตัวเล็กกว่าไม่ได้พูดอะไร ได้ยินแต่เสียงของไอ้ตัวโต
"อ้าว พวกมึง มาได้ไงวะ?"
+++++lovemakesmeblind+++++
“อ้าว อิงไปไหนหละ?” ผมถามคนที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับคนอื่นๆ แต่แฟนมันกลับไม่อยู่
“ไปเอาของที่บ้าน” ไอ้บูมตอบ ท่าทางไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่นัก คงเป็นเพราะบ้านพักที่พวกเราเช่านอนในคืนนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณที่เรานั่งกันอยู่
ผมยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่ชะงักไว้แค่ริมฝีปากเมื่อมองไม่เห็นใครคนหนึ่งที่น่าจะนั่งอยู่ในวง รู้สึกห่วงคนที่กำลังไปเอาของอย่างบอกไม่ถูก เอียงหน้าไปกระซิบถามไอ้ชาร์ม “ไอ้โอมหละ?”
ไอ้ชาร์มทำหน้างงว่าผมกระซิบทำไม แต่ก็กระซิบตอบ“ไปห้องน้ำ”
ผมนิ่วหน้า หันไปมองน้องเทมส์ที่นั่งหมุนแก้วเหล้าในมือเหม่อๆ แล้วก็พยายามไม่อยากจะคิดร้ายกับคนที่ไปห้องน้ำ
ตั้งแต่เจอกันเมื่อช่วงบ่าย ผมสังเกตเห็นว่าไอ้โอมพยายามหาโอกาสที่จะอยู่กับน้องอิงสองต่อสอง และหลายครั้งเกือบทำสำเร็จถ้าจะถ้าผมและน้องยิวจะเข้าไปขัดเสียก่อน
“ไปไหน?” ไอ้ชาร์มถามเมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืน
ผมแกล้งทำเป็นตบกระเป๋า “ลืมโทสับ เดี๋ยวไปเอาก่อน เผื่อใครโทรมา”
เดินไปถึงบ้านพัก… ผมหยุดยืนนิ่งๆ ที่หน้าประตู ไม่กล้าผลักเข้าไป ในใจก็นึกวาดภาพเหตุการณ์ที่อาจจะเปิดเข้าไปเจอ ส่วนอีกใจก็ภาวนาอย่าให้เจอ
ถามว่าผมชื่อใจอิงไหม? เชื่อครับ แต่ผมไม่เชื่อจิตใจที่อ่อนแอของมนุษย์ โดยเฉพาะใจของไอ้โอม ผมไม่เชื่อว่าโอกาสแบบนี้มันจะปล่อยให้หลุดไปง่ายๆ
ผมกลั้นใจค่อยๆ หมุนลูกบิดแล้วผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ ก่อนจะถอนใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในบ้าน…
แต่โล่งอกได้ไม่นานก็ต้องนิ่วหน้า… แล้วอยู่ที่ไหน?
"พี่รู้ว่าอิงยังไม่ลืมพี่..." เสียงพูดเบาๆ ดังมาจากนอกบ้าน
ผมเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปเห็นไอ้โอมและน้องอิงยืนอยู่ที่สนามหญ้าระหว่างบ้านพักของพวกเรากับบ้านพักของพวกไอ้โอม
แม้ว่าคนทั้งคู่จะไม่ได้หันมาทางหน้าต่าง แต่ผมก็เบี่ยงหลบตามสัญชาติญาณ ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นใบหน้าของคู่สนทนาได้เพียงคนเดียว
"อิงไม่เคยลืมพี่โอม....” หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ น้องอิงก็ตอบรับออกมาง่ายๆ
"พี่ก็ไม่เคยลืมอิง..." ไอ้โอมพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ พร้อมกับก้าวเข้าไปหา... แต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออีกฝ่ายขยับถอย "อิง?"
คนที่ไอ้โอมเรียกสอดมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองขึ้นไปบนฟ้า "อิงเคยฝันว่า... สักวันหนึ่งคงมีโอกาสได้มามองดาวบนฟ้ากับพี่โอมสองคน"
"........."
"สักวันหนึ่งพี่โอมคงเห็นว่าอิงรักพี่มากขนาดไหน"
"........."
"สักวันหนึ่งพี่โอมคงมีใจให้อิงบ้าง"
"........."
"แต่เพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้... อิงจึงพยายามตัดใจ" น้องอิงว่า ก่อนจะเลิกมองฟ้า หันมามองไอ้โอมแทน "แต่พี่โอมรู้มั้ย... การพยายามลืมคนๆ หนึ่ง โดยเฉพาะคนที่เรารักหมดหัวใจมันทรมานขนาดไหน..." ไอ้โอมทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่น้องอิงไม่สนใจ หันหน้าหนี แล้วพูดต่อ "อิงย้ายโรงเรียน... เผารูปพี่โอม... เผาเสื้อผ้าของพี่โอม... กระทั่งปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่มที่พี่โอมเคยใช้ อิงก็เผาจนหมด... แต่สิ่งที่อิงไม่สามารถเผามันได้..." คนพูดยกมือขึ้นทาบอกข้างซ้าย "คือความรู้สึกที่มีต่อพี่..."
"........."
"อิงเคยหลอกตัวเองว่าลืมพี่ได้แล้ว..." ว่าแล้วก็ยักไหล่ "แต่ทุกครั้งที่อิงดีใจ... ทุกครั้งที่อิงเสียใจ หรือเศร้าใจ... คนที่อิงคิดถึงคนแรกก็ยังเป็นพี่เสมอ..."
"........."
"ในเมื่อลืมไม่ได้... อิงจึงเลิกพยายาม... และยอมรับว่าตัวเองยังรักพี่อยู่"
"........."
"........."
“แล้วตอนนี้?” ไอ้โอมถามพร้อมขยับเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับถอยเหมือนครั้งแรก แล้วเอื้อมไปดึงมืออีกฝ่ายมากุมไว้ “อิงยังรักพี่อยู่ไหม?”
น้องอิงไม่ตอบแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก...
“อิง?”
มือที่ถูกไอ้โอมกุมไว้ ถูกถอนออกไปอย่างนุ่มนวล... “อิงยังรักพี่โอมอยู่”
“แต่?”
“แต่อิงมีแฟนแล้ว” น้องอิงบอก “และพี่โอมก็มีเทมส์”
“มีได้ก็เลิกได้” เป็นคำตอบที่ผมไม่คิดว่ามันจะออกมาจากปากไอ้โอมง่ายๆ แบบนี้
คนที่ได้ฟังอีกคนหนึ่งก็คงคิดเช่นเดียวกันจึงเลิกคิ้วขึ้น แล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกภายในใจ “พี่โอมจะเลิกกับเทมส์?”
ไอ้โอมไม่ตอบ แต่พูดไปอีกอย่าง “ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ยังคิดถึงอิงเสมอ... และเทมส์ก็คงจะรู้ เพราะเราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก” แล้วยักไหล่ “ก่อนมานี่ก็เหมือนกัน”
“..........”
“ถึงจะไม่มีอิง ไม่นานพี่กับเทมส์ก็ต้องเลิกกัน”
“..........”
“..........”
“พี่โอมไม่สงสารเทมส์เหรอครับ? อยู่ดีๆ ก็ไปบอกเลิก เค้าคงเสียใจแย่”
ไอ้โอมพยักหน้า “สงสารสิ แต่ยิ่งยื้อต่อไปก็ใช่ว่าจะดี สู้เลิกกันตอนนี้ดีก-”
ยังไม่ทันที่ไอ้โอมจะพูดจบ อีกฝ่ายก็หัวเราะขัดขึ้นมา “ฮะ ฮะ ฮะ” เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วเหมือนฝืนออกมาอย่างยากลำบาก “ง่ายดีเนอะ”
ได้ยินอย่างนั้น ไอ้โอมก็นิ่งไป... ก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงอ้อนวอน “พี่รู้ว่าพี่ทำผิดต่ออิง... รู้ว่าทำร้ายอิงจนไม่น่าให้อภัย...”
“...........”
“ทั้งๆ ที่รู้ว่าอิงรักพี่... แต่พี่-” เสียงพูดชะงักไป ก่อนเจ้าของเสียงจะยักไหล่แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เหมือนจนปัญญาจะอธิบาย หรืออาจจะไม่อยากพูดถึงเพราะรับพฤติกรรมเก่าก่อนของตัวเองไม่ได้
“...........”
“อาจจะฟังดูเหมือนเห็นแก่ตัว... แต่เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม?”
+++++lovemakesmeblind+++++
Sorry for being quiet lately
and thanks a billion for all comments