- บทที่ 3 - มนต์เสื่อม - “กูหาหออยู่แถวนี้ดีมั้ยวะ?”
เรานั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ในโรงอาหารในคณะครับ นาวถามขึ้นลอยๆ ทุกคนเหมือนไม่อยากอาหารเพราะยังแฮงค์จากเมื่อคืน
“อย่าแม้แต่จะคิดค่ะ ผัวหมายเลขสาม” พงศ์รีบพูด
“อื้ม ไม่ต้องหรอก” เอ้สนับสนุน
“แต่กิจกรรมโคตรเยอะ ได้ข่าววันนี้หลังเชียร์ก็จะมีพี่ๆ พาไปเลี้ยงอีก”
“ก็แค่ช่วงนี้ เดือนสองเดือนเดี๋ยวกิจกรรมก็ซา”
“แถวมหาลัยค่าหอแพง ไหนจะค่ามัดจำอีก เป็นหมื่นนะค่ะ เสียดายตัง เก็บไว้เลี้ยงชาบูกูค่ะ เดี๋ยวพาไปนอนด้วย”
“แม็ต งั้นถ้ามีไรต้องค้างกับมึงอีกกูช่วยค่าหอนะ” มันพูดอย่างเกรงใจ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่รู้ฉายาพ่อแม็ตของเราซะแล้ว ขานี้เขาไม่อะไรหรอกค่ะ ใจดีกับทุกคน จนชะนีแท้ชะนีเทียมหลงใหลได้ปลื้มจนคิดว่าคุณพ่อแกมีใจหรืออ่อยนั่นเองค่ะ แต่ไม่จริง คุณพ่อใจดีเป็นปกติ ได้ฉายา แม็ตพ่อทุกสถาบันเลยค่ะ สำหรับฉันชอบอีกอันค่า พี่แม็ตผัวทุกสถาบัน อุอิ” พงศ์พูดซะผมดูดี เอ้ะ หรือไม่ดีนะ?
“จริงอ่ะ?” มะนาวทำหน้าไม่ค่อยเชื่อครับ
“กูเป็นคนดี” ผมทำหน้ากวนตีน ทั้งที่จริงๆก็เขินที่พวกนี้พูดตรงๆ คือผมก็ไม่ได้ดีเวอร์ขนาดนั้น ผมแค่ทำมันด้วยความเคยชิน
“ยังไงว่ะ”
“แม็ตมีน้องสาว มันก็เลยคิดว่าผู้หญิงทุกคนคือน้องสาวของมัน แล้วนิสัยหยิบโน้นทำนี่ให้ มันก็ติด นาวมึงต้องเคยเจอแบบ แค่คิดว่าจะไปหยิบอะไร ต้องการอะไรแล้วอยู่ๆ แม็ตก็ยื่นให้บ้างไหมล่ะ เดี๋ยวมึงก็คงเจอ อย่าหวั่นไหวล่ะ มันเป็นงี้กับทุกคน” เอ้เสริมพงศ์
“รวมมึงด้วยใช่ไหมค่ะที่หวั่นไหว” เอ้โดนพงศ์ขัด เลยฟัดกับเบาๆ ไปหนึ่งยก “ตอนผัวน้ำแขนเดาะ ผัวแม็ตนั่งป้อนข้าวกลางโรงอาหารไม่แคร์สายตาคนทั้งโรงเรียนเลยค่ะ กลัวเพื่อนอดข้าวกลางวัน ฉันอยากจะเอามือไปให้รถทับจะได้เป็นง่อยมาอ้อนผัวคะผัวขา”
“กูห้ามมันแล้วนะ มันไม่ยอม” น้ำที่นั่งหัวเราะเงียบๆ มานาน วันนี้มีบทแค่นี้ครับ
“พงศ์อย่าลืมสิ พงศ์ไม่ใช่น้ำนะ”
“ต๊ายยยยย คำพูดคำจา สุภาพแต่โคตรแรง บอกมาตรงๆ เลยก็ได้ค่ะ ว่าอิฮั้นไม่สำเหนียกตัวเองริอาจเอาตนอันต่ำต้อยไปเทียบท่านน้ำนิ่งอันสูงส่ง”
“ฮ่าๆๆ เออ” ผมตอบตรงๆ แกล้งมันครับ เพราะต่างไม่จริงจัง โว้ยวายทุบผมใหญ่
“แล้วทำไมแม็ตกับน้ำไม่อยู่ห้องเดียวกันล่ะ สนิทกันไม่ใช่เหรอ?”
“ชิบหาย สายแล้ว” พงศ์หยิบมือผมไปพลิกดูเวลาก่อนจะอุทานลั่นเสียงใหญ่ๆ แล้ววิ่งไปเลย
มันกับน้ำมีเรียนแลปครับ สายไม่ได้ ผมมีแลคเชอร์ ตึกก็ใกล้ๆ เดินชิล เอ้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและแยกกันเลยผมเดินไปเรียนกันสองคน
“น้ำมันชอบมึงรึเปล่า”
“ฮ่าๆๆ ทำไมคิดงั้น”
“ไม่รู้ดิ มึงสนิทกันจนอาจจะมองข้ามความรู้สึกกันก็ได้ กูเป็นคนนอก กูเลยมองออก”
“ไม่มีทาง น้ำไม่ได้ชอบกูหรอก”
“มึงรู้ได้ไง มึงอยู่ใกล้ใครก็ดูแลเขาดีไปหมด เขาอาจจะมีใจให้มึงก็ได้”
“นาว มึงยังไม่เข้าใจ”
“อะไรล่ะ ก็บอกกุสิ”
“มันมีแฟนอยู่แล้ว มาหาบ่อยๆ แล้วแฟนมันโคตรน่ารัก กุถึงมีเมทเป็นมันไม่ได้ไง แล้วมึงจะโมโหอะไรเนี่ย”
“คือ ก็ เปล่า ก็มึงกวนตีนกู บอกตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”
“อะไรของมึง”
“ถ้าน้ำไม่ชอบมึง แล้วมึงชอบน้ำรึเปล่า?”
“น้ำเป็นคนที่เข้าใจกูมากกว่าคนอื่นนะ เหมือนพี่น้องที่โตมาด้วยกัน” ผมตอบไปอย่างไม่ต้องคิด ผมมีน้องสาวอยู่แล้ว น้ำก็คงเป็นเหมือนน้องชายแต่อายุเท่ากันล่ะมั้ง
มะนาวไม่พูดอะไรอีก เดินตามผมจนถึงห้องเรียน
เป็นนานกว่าผมจะฉุกคิด ว่าทำไมมะนาวต้องถามคำถามพวกนี้กับผม?
เสียงอาจารย์บรรยายผ่านหู แต่ความคิดผมยังวนเวียนอยู่กับคำถามพวกนั้น น้ำชอบผมรึเปล่า? ผมชอบน้ำรึเปล่า?
เขาจะอยากรู้ไปทำไม? เขาสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ
มะนาวดูปกติกับผมมาก แต่กับน้ำ ไม่
หรือมะนาวจะชอบน้ำ?
ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนมะนาวทำปากพูดแบบไม่มีเสียง
‘ไม? ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ?’
กับผมเขายังกวนตีนผมได้ปกติจริงๆ นะ
........................................
ผมว่าการเข้าเชียร์ของที่นี่เป็นอะไรที่สบายมาก เข้าก็ดี ไม่เข้าก็ได้ด้วย
เขาให้ปีหนึ่งนั่งเรียงกัน มีรุ่นพี่มาสอนเพลงสถาบันกับเพลงของคณะส่วนใหญ่เป็นเพลงคณะ พวกสอนเพลงจะใจดีครับ มีอีกพวกพี่ว้ากที่พูดเสียงดังๆ ทั้งๆ ที่พูดสอน แต่ทำเสียงดังให้เหมือนดุด่าอยู่ทำไมก็ไม่รู้ ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาไม่ชอบ มีเพื่อนบางส่วนไม่เข้าเพราะแบบนี้ กับอีกคน ที่รู้สึกจะมีคนเดียว พวกพี่ว้ากเรียกเขาว่า ‘ประทานเชียร์ของผม’ มามาดนิ่งมากครับ พูดแต่ละทีประโยคเด็ดๆ ทั้งนั้น เสียงไม่ดุ แต่ก้องไปทั่ว โคตรมีพลัง ขนาดผมเป็นผู้ชายยังมองว่าประธานแม่งเท่ชิบหาย เพื่อนผู้หญิงผมส่วนใหญ่มาเข้าเชียร์ยอมโดนว้ากก็เพราะอยากมานั่งมองหน้าประธานเชียร์ฟินๆ เนี่ยแหละครับ
เปิดเทอมมาอาทิตย์นึงพอดี เข้าเชียร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ เป็นครั้งที่ต่างออกไปพี่ปีสองมายืนกันเต็มข้างหน้าและประกาศว่าจะมาสอนเพลงรุ่นเขาครับ ผมเห็นพี่โนอาอยู่หน้าสุด แอบยักคิ้วให้ผมตอนเราสบตากันใกล้ๆ มีพี่เทพี่รหัสมะนาวด้วย ปีสองทักทายได้สักพักกำลังจะสอนร้องเพลงอยู่ๆ ก็มีเสียงขัดครับ จากข้างหลัง อยากหันไปมองมากแต่เขาห้ามหันหลังครับ จริงๆ คือเขาห้ามทำทุกอย่าง นั่งนิ่งๆ ได้อย่างเดียว
“น้องรหัสต่อไปนี้ ให้ยกมือขึ้น”
อ้อ เหมือนทุกวันผมสงสัยมาตลอด ว่าเขาเรียกรายตัวออกไปทำไม บางคนก็กลับเข้ามาบางคนก็ออกไปเลย ผมเลยเดาว่ามีผู้ปกครองมารับ
“0001” โห เลขสวย “0085 0266 0349 0399 0541 0792 0888 0951”
ผมยกมือขึ้นแล้วเหงื่อแตกนิดๆ ทำไมมีรหัสผมวะ พ่อแม่ไม่ได้อยู่แถวนี้ให้มาหาได้นะ แม่งไม่น่าอยากรู้เลย
“ทั้งหมดที่ยกมืออยู่ ลุกขึ้น แล้วเดินออกมาด้านหลัง เร็ว เร็วๆ”
ผมทำตามงงๆ พี่โนอาที่มองผมอยู่ปัดมือไล่ให้รีบไปข้างหลังครับ
มีพี่นำผมออกจากห้อง และเช็คว่ารหัสตรงกับที่เรียกไหม พี่เขียนรหัสใส่กระดาษแล้วเอามาแปะอกผมไว้ แล้วก็ทิ้งพวกผมไว้ในห้องเล็กๆ แล้วก็ออกไปกันหมด เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก
งงครับ
“เขาให้เราออกมาทำไมว่ะ”
“ดีเลยกำลังเมื่อยพอดี”
“ไม่รู้ มึงทำไรผิดไว้ป่าว”
“ไม่ได้ทำอะ ถ้าทำแม่งจะรู้เหรอ นี่รู้รหัสด้วย”
“กูเคยแต่งตัวไม่เรียบร้อยในคณะ จะเกี่ยวมั้ยวะ”
“รหัสสวยนะ” อยู่ๆผมก็แทรกพวกเพื่อนๆ ขึ้น เพราะถ้าพี่ว้ากแอบฟังอยู่ มาบอกความผิดตัวเองในนี้ได้มีด่าเรียงตัวแน่
“888 ก็สวยนะ” เพื่อน 0001 ชมกลับครับ เขินเลย
“มึงชื่อไร กูโอ้ต” 85 บอกชื่อตัวเองครับ
“ซี” 0001 บอกชื่อตัวเองแล้วพยักหน้ามาทางผม คล้ายๆ ถามว่าแล้วผมล่ะ?
“แม็ต”
“กูดินครับ”
“บลูนะ” แล้วปีหนึ่งก็ทำความรู้จักกันครับ ทุกคนบอกชื่อกันหมด ผมคงจำได้ไม่หมด ให้ไล่อีกทีผมจำได้แต่ไอ้สองคนแรกมั้งครับ
แลกเปลี่ยนกันไปมา คนที่เรียนสาขาเดียวกันก็ขอเบอร์กัน มี 0001 กับ 0792 ครับเข้ามาขอเบอร์ผม (คือผมจำชื่อไม่ได้แล้ว) ผมก็ให้ไปแบบไม่คิดมาก เพราะพี่โนอาบอกไว้ ว่าปีหนึ่งให้รู้จักเพื่อนไว้เยอะๆ พอปีสองปีสามขึ้นไปไม่มีเวลาจะทำความรู้จักเพื่อนใหม่แล้วนะ พี่ขู่ครับ
“นี่เขาจะให้เราทำอะไรวะ ให้มารอเฉยๆ เนี่ยนะ”
“กูอยากไปร้องเพลงดาวปีสองสอนเพลงเองเลยนะเว้ย”
“เออ โคตรพลาด” ผมรู้สึกผิดครับ ไม่เข้าใจตัวเอง อยากจะกระซิบบอกว่านั่นพี่รหัสผม แต่ไม่ดีกว่า
“อยากไปมองหน้าประธานรุ่นปีสอง” มีผู้หญิงสองสามคนครับ ในหมู่คนที่เรียกออกมา พูดถึงประธานเชียร์กับประธานรุ่นปีสองสลับกันไปมา ผมเห็นเพื่อนมีกำลังใจเข้าเชียร์ผมก็ดีใจ
..................................
“แม็ตๆ ทางนี้โว้ย”
ผมเดินไปหานาว เลิกเชียร์นี่เหมือนผึ้งแตกรังครับ คนเยอะเสียงดังและวุ้นวายมาก
“เขาเรียกมึงออกไปทำไมวะ กูนี่ใจเต้นเลย กลัวมึงโดนซ่อม”
“เขาไม่ใช้ความรุนแรงกันสักหน่อย คิดมากมึง”
“ตอนมึงเดินออกไป กูรู้สึกเหมือนมึงจะไม่ได้กลับเข้ามาอีก โคตรใจหายเลยนี่หว่า แล้วเขาเรียกมึงแยกออกไปทำไมวะ?”
“ไม่รู้ ไม่เห็นได้ทำอะไรเลย เรียกไปไว้ห้องเล็กๆ แล้วก็ทิ้งไว้งั้นอ่ะ ไม่มีใครเข้ามาหรือบอกให้ทำอะไรสักนิด เลยไปนั่งคุยกันอยู่ในห้องเกือบครึ่งชั่วโมงมั้งเขาก็ปล่อยออกมานั่งอยู่หลังสุด”
“แบบนี้ก็สบายดิ กูนั่งหลังตรงจนเมื่อยตูด”
“อยากลองโดนเรียกดูบ้างไหมล่ะ?”
“ฮึ ใครจะรับรองได้ว่าเรียกไปจะได้นั่งสบายทุกครั้งวะ”
“ก็จริง”
“ไปต่อมั้ย?” มันหมายถึงว่า หลังจากนี้พี่ปีสองนัดเลี้ยงครับ มันถามความเห็นผม ผมเลยถามมันกลับ
“แล้วมึงไปมั้ยล่ะ”
“ไป เพราะ ฟรี”
“ฮ่าๆๆๆ”
“มึงอย่ามาหัวเราะ มึงมีเวลากินฟรีหนึ่งปีเท่านั้น จ่ายอีกสามปี มึงคิดดีๆ ไม่กินตอนนี้ กินปีหน้าแม่งต้องจ่ายเองแถมจ่ายให้น้องด้วยนะเว้ย”
“มึงนี่คิดการณ์ไกล”
“เอ่อดิครับ เอานี่” พอมาถึงรถ มันยื่นกุญแจรถให้ผม แปลว่า ให้ผมขับงั้นสิ
ผมรับมาโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพราะผมเริ่มชิน เหมือนตัวเองมีรถยนต์
“มึงขับกลับหอ ขับไปร้าน แล้วก็ขับกลับหออีกที คืนนี้กูยกรถให้มึงเลย”
“ถามกูไหมว่ากูอยากได้ไหม?”
“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ อ้อ ไปรับพงศ์น้ำเอ้หน้าโรงอาหารด้วย มันติดรถกลับด้วย”
ผมเริ่มชิน กับการมีมะนาวไปไหนมาไหนด้วยแล้วล่ะครับ มะนาวเองก็คงเหมือนกัน
................................................
ทำไมมนต์ผมเสื่อมเร็วขนาดนี้ครับ?
วันนี้พี่ๆ พาปีหนึ่งมาเลี้ยงกับอีกที่ เป็นร้านนั่งเล่นที่มืดและทึบเกือบปิด หัวค่ำเปิดเพลงฟังสบายๆ แต่พอดึกๆ คนเริ่มเมาก็เปิดเพลงเร่งจังหวะขึ้นมา ใครเมาก็ลุกขึ้นเต้นกันตรงนั้นเลยครับ รวมถึงไส้ติ่งผมด้วย มะนาว!
“พาไปฉี่หน่อย” ผมอยากจะหัวเราะ สภาพ ผมว่าอีกสองแก้วมันก็วาร์ปแล้วล่ะครับ ต้องพามันไประบายแอลกอฮอล์ออกที่ห้องน้ำสักหน่อย
ที่นาวต้องให้ผมพาไป เพราะคนในร้านเยอะมาก คนแน่นมาก รอบที่แล้วมันพยายามไปเองครับ ชนชาวบ้านเขาทำแก้วแตกไปอีก ยังดีไม่มีใครเจ็บ และคนที่มันชนเป็นผู้หญิง เขาไม่ถือสาอะไร เลยรอดไป ลองไปเจอผู้ชายขาใหญ่ๆ ไอ้นี่ตายครับ ผมก็คงช่วยไม่ทัน
ผมพยักหน้าลุกขึ้น มันจับบ่าผมไว้ข้าง ประมารว่าทางก็จะไม่มอง จะตามผมอย่างเดียว
“แม่ง มึงก็กินพอๆ กับกูนะ ทำไมไม่มีอาการเลยวะ” มาถึงห้องน้ำที่ไฟสว่างขึ้นและเสียงเพลงเบาลงมันก็บ่นครับ
“ไม่รู้ดิ” ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ผมเลยยืนทำธุระอยู่ข้างๆ มันเนี่ยแหละครับ
ครับ ผมดื่ม น่าจะมากกว่ามะนาวด้วยซ้ำ เพราะพี่รหัสผมชอบพาเพื่อนมาแนะนำ ไม่ก็พาผมไปแนะนำกับเพื่อนๆ พี่ๆ เขา
แต่ทำไมไม่เมาอันนี้ผมไม่รู้ ร้อนนิดๆ ซู่ซ่าดี พอให้ผมอารมณ์ดียิ้มง่ายแทนที่จะเมา
“มึงเคยเมามั้ย?”
“นี่ก็เมานะ แต่ไม่อ่อนไง”
“สาดดดดดดดดดดดดดด” มันยืนล้างมือแล้วด่าผมจากในกระจก
“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ”
ผมเดินมายังไม่ถึงโต๊ะดี พี่เทพี่รหัสมะนาวก็ยืนกวักมือเรียกยิกๆ อยู่
“ว่าแล้วต้องไปเข้าห้องน้ำ ถือแก้วตามกูมาทั้งคู่เลยมึง”
“ใครอีกอ่ะพี่ ผมไม่ไหวแล้วนา” มะนาวประท้วงครับ
ผมจัดการเติมแก้วเหล้าให้มัน จริงๆ เติมแต่โซดา ใส่โค้กไปสองสามหยดให้สีมันสวยๆ ครับ ส่วนของผมชงปกติ ก่อนจะยื่นแก้วให้มัน แล้วเดินตามมันไป มีผู้ชายแขนยาวขายาวดูเท่มีสไตไข่วห้างแบบตั้งหน้าแข่งเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นโลกนั่งรออยู่
ผมว่าผมจำคนนี้ได้นะ ประธานรุ่นปีสอง
“มึง นี่น้องรหัสสุดที่เลิฟกูเอง ไหว้น้องกูซะสิ” ทำท่าจะไหว้จริงครับ มะนาวสะดุ้งหลบ ก่อนพี่คนที่พี่เทแนะนำจะหันไปฟาดหัวเพื่อนเขา
“มันใช่เหรอ”
“ฮ่าๆๆ เอ่อๆ แนะนำตัวกับประธานรุ่นพี่สิ”
“หวัดดีครับ ผมมะนาว ปีหนึ่ง ภาคอิเล็คครับ”
“น้องกูๆ นี่ด้วยๆ นี่น้องโนอา”
“สวัสดีครับ ผมแม็ตภาคคอมครับ”
“พี่ฟ้านะครับ เอาง่ายๆ คือพี่เมาแล้ว เดินสายทุกร้านแล้ว กะจะมานอนตายที่ร้านนี้นี่แหละครับ”
“ดีมาก กูนอนไหนมึงเป็นเมทกูมึงก็ต้องนอนนั่น” พี่รหัสมะนาวตบเข่าเพื่อนอย่างภาคภูมิใจ
“เมทพี่เหรอ” มะนาวถาม
“เออสิครับ”
“เมทพี่โคตรเจ่งอ่ะ ไม่เหมือนพี่เลย” ครับ พี่เขาดูเท่จริงๆ สูงผอม ใส่เดฟกับช็อปแต่ตอนนี้ถอดเก็บเหลือเสื้อคอวีสีขาว ผมลองทรงสูง ไถข้างเป็นลวยอะไรไม่รู้ รู้แต่สวย เจาะหูข้างพร็อปทุกอย่างดูเข้ากันดีบนตัวพี่แก
“ถุ้ย น้อง กูพี่มึงนะ”
“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นพี่”
“มาๆ มาชนกัน หมดแก้วนะครับ ไม่หมดมีซ่อม” พี่ฟ้าบอก
“ซ่อมอะไรวะ”
“ซ่อมอิ้งที่มึงตกไง”
“ถุ้ย!” พี่เทถึ้งหัวตัวเอง “ทำไมมีแต่คนแกล้งกรู กรูไม่เข้าใจ”
“มึงน่าแกล้ง น้องมึงยังสัมผัสได้” มะนาวพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ฟ้า “เดี๋ยว” อยู่ๆ พี่ฟ้าหยุดมือมะนาวไว้ คว้าแก้วมันไปชิมครับ
โฮ ซวยแล้ว ผมที่กำลังเตรียมกระดกทีเดียวให้หมดแก้ว ชะงักเหงื่อแตกเลยครับ
“มะนาวเมาแล้วเหรอ?” หลังจากชินเขาก็เอ่ยถาม
“หูย จะเหลือเหรอพี่ เมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วคร้าบบบ”
“แล้วนี่ใครชงให้มึง”
“ผมครับ” ผมไม่ได้แมนหรอกครับ แต่มะนาวไม่รู้เรื่อง จะให้มันซวยเพราะความหวังดีของผมไม่ได้ พี่ฟ้าใช้มือที่ถือแก้วชี้หน้าผม เสียวต้นคอเกรียวเลยครับ บรรยากาศสนุกสนานเมื่อกี้หายวับไปกับตาครับ บทจะโหดนี่อยู่ในสายเลือดเด็กวิดวะจริงๆ
“รักเพื่อนนะมึง” พี่ฟ้าจ้องตาผมไม่กระพริบในเวลาแบบนี้ผมก็ไม่ควรหลบตาใช่ไหม? มะนาวที่ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นมองหน้าผมสลับกับพี่ฟ้างงๆ พี่เทด้วยครับ คู่นี้เหมือนกันมาก
“...” ผมไม่พูดอะไร ก็เขาไม่ได้ถามอะไรไง จะให้ผมตอบอะไรล่ะครับ แค่นี้ผมก็ซ่างเมาแล้วคร้าบบบ
“อ่ะ รอก่อนอย่าเพิ่งกิน” พี่ฟ้าคืนแก้วให้มะนาว มันรับมาอุดปากรอคำสั่งกิน แล้วพี่ฟ้าก็แย่งแก้วผมไปชิมอีก
“อ้อ โอเค ของมึงอร่อยดี แต่ในฐานะที่มึงเป็นคนดี รักและหวังดีกับเพื่อน กูจะให้รางวัลมึง”
ท่านประธานปีสองเทแก้วผมออกเกือบครึ่ง ยกขวดที่มีน้ำสีอัมพันเทเติมให้แก้วผม เต็มปรี่จนเกือบล้น ใช้ที่คีบน้ำแข็งคนสองสามทีแล้วคืนให้ผม
ผมแอบถอนหายใจ ดีที่ไม่เติมให้แก้วมะนาวครับ ให้ผมกินเองน่ะพอไหวเท่าไหร่ก็ได้พี่ไม่ได้กลัว แต่ผมไม่ได้พูดออกไปนะ เดี๋ยวจะหาว่ากวนตีน ซวยอีกสิครับ
“ชนแก้ว” พี่ฟ้ายื่นแก้วออกมาชนอีกรอบครับ ผมชนแล้วยกดื่มช้าๆ รีบเดี่ยวสำลักจะหาว่าผมตุกติกครับ
“อื๋อ อื้ม” มะนาวที่กำลังกินอยู่เหมือนกัน หันมามองหน้าผมเหมือนจะเข้าใจแล้วครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงโดนเพ่งเล็ง
“อย่าคิดมากล่ะ แต่ก็ให้มึงรู้ไว้ ว่ากูยังโดนแค่นี้ ถ้าแก่กว่ากูก็หนักกว่านี้ ถ้ามึงโดนจับได้”
“ครับขอบคุณครับพี่” กว่าผมจะยกหมดแก้ว ตาลายไปเหมือนกัน หื๋ม
“มะนาว คืนนี้ไปนอนห้องพี่ใช่มะ” พี่เททวง
“ไม่อ่ะพี่ ตั้งแต่พี่ตายทิ้งผมไปวันนั้น ผมก็เลยตั้งใจว่าจะไม่ขอฝากชีวิตไว้กับพี่อีก”
“เหี้ย วันนั้นกุโดนมอม” พี่เทรีบแก้ตัว
“จะขับรถกลับบ้านเหรอ?” พี่ฟ้าถามครับ เหมือนจะเข้าโหมดคุณพี่ไปแล้ว คือคณะนี้มีกิจกรรมดึกๆ ดื่นๆ บ่อย ทั้งปีหนึ่งที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พี่ๆ จะประกบตลอด ถ้ากลับคนเดียวจะไปส่ง ถ้ามีเพื่อนกลับก็ต้องให้กลับพร้อมกันหลายๆ คน พร้อมทั้งกำชับตลอดว่าดูแลกันด้วย ดูแลเพื่อนด้วย แบบนี้ตลอดครับ พี่โนอาของผมถึงจะเป็นผู้หญิงก็ปลอดภัยร่าเริงเป็นตัวของตัวเองได้ เพราะมีสังคมแบบนี้คอยดูแลมาตลอดครับ
“เปล่าครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมให้แม็ตขับให้ แล้วก็ไม่ได้กลับบ้านครับ กลับหอหลังมอ ใกล้ๆ เอง ถ้าเมาทั้งคู่จะไปแทคซี่พี่ ไม่ต้องห่วง”
“อื้มๆ ดีแล้ว” พี่เทกับพี่ฟ้าพูดพร้อมกันครับ ดูท่าเขาจะไม่ห่วงจริงๆ ชงให้ผมสองคนอีกรอบครับ แต่อย่าเรียกว่าชงเลย เทเหล้าอย่างเดียว น้ำแข็งโซดาน้ำเปล่า หาเติมกันเอาเองครับ
“แม็ตอยู่นี่เอง พี่หาตั้งนาน ฟ้า มึงแกล้งน้องกูเปล่า”
“บ้า มันทำตัวมันเอง”
“เหรอ อย่าให้รู้นะ มึงแกล้งน้องกู กูจะแกล้งเมทมึง” พี่เททำหน้าเหรอหรา
“เอาเลยครับ ตามสบาย ฮ่าๆๆ”
“ชิ้ แม็ต ตามพี่มา”
พี่โนอาพาผมไปนั่งกับกับเพื่อนๆ เขาครับ
รู้ตัวอีกทีก็เกือบตีสองแล้วครับ ร้านจะปิดเพราะเพลงเริ่มเบาลง ผมขอตัวกลับ ป่านนี้มะนาวไม่เหลือแต่กากแล้วเหรอครับเนี่ย ผมมองหามะนาวที่โต๊ะเดิมก็ไม่มีครับ ในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่มี ผมเลยย้อนกลับไปโต๊ะพี่เทพี่ฟ้าครับ เจอจริงๆ ด้วย มะนาวฟุบหมดสภาพอยู่บนขาข้างนึงของฟ้าประธานรุ่นปีสองครับ ไหล่อีกข้างของพี่ฟ้ามีพี่เทซบอยู่ เหมือนจะหลับ แต่หัวยังโงนเงยแบบสติเหลือน้อยเต็มทีครับ
“รับมือสองเลยเหรอพี่ ไหวมั้ย”
“นึกว่าหนีกลับแล้วซะอีก เห็นหน้ามึงแล้วโคตรดีใจเลยว่ะบอกตรง นึกว่าต้องแบกสองศพซะแล้วคืนนี้”
“ขอบคุณมากพี่ที่ดูมันให้ มาพี่ ไอ้นี่ผมจัดการเอง” ผมกลัวเพื่อนผมทำอะไรพี่เขามากเลยครับ สภาพมันตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอีกแล้ว
เมาหลับแบบเนี่ย เดี๋ยวต้องเป็นเรื่องแน่
................................................
นี่มันเทปม้วนเดิมชัดๆ
หลังจากออกจากร้านอย่างทุลักทุเล มะนาวแทบจะไม่ขยับขาเลยครับ จนผมต้องแบกขึ้นหลังโยนใส่เบาะหลังรถ แล้วขับกลับหอ แบกมันขึ้นชั้นสามอีก ถ้าห้องผมอยู่ชั้นห้าจะทิ้งมันไว้หน้าประตูหอจริงๆ ยังดีที่แค่ชั้นสาม และยังดีที่ตัวมันเบาครับ ผมยกมันพาดไหล่สบายๆ
มาถึงห้องผมก็ลังเลครับ ว่าจะเช็ดตัวให้มันเหมือนวันก่อน หรือปล่อยมันหลับแบบนี้ไปเลยดี
เหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรครับ มันยังไม่หลับ แต่ตาปิดอยู่ ร้องอึ้อ่ะๆ บิดไปมาเหมือนไม่สบายตัว ผมเปิดแอร์แล้วมานั่งข้างนาวปลงๆ ถอนหายใจแล้วถอดกางเกงยีนส์ให้มันครับ แต่วันนี้จะไม่ถอดเสื้อ
ผมเช็ดหน้าให้มัน จากขมวดคิ้วยุ่ง มันเริ่มผ่อนคลายครับ ผ่อนคลายจนผมกลัวที่จะเช็ดตัวมันต่อ ผ้าผืนเดิมชะงักตอนที่จะเช็ดคอ ผิวแทนเกือบขาวของมันตอนนี้แดงเถือก ไม่เหลือส่วนไหนเหลืองอีกแล้วครับ ผมเลยมาเช็ดแขนทั้งสองข้าง คนเมาหายใจแรงครับ แปปเดียวหน้ามันก็แห้ง ผมเลยเช็ดหน้าให้มันซ้ำอีกรอบ
หมับ! มันจับมือผม ผมนี่ตาโตเลย ไม่นึกว่ามันจะขยับตัวไหว
มือมะนาวไม่เชิงจับมือผมครับ มันคงคิดว่าจับผ้าเย็นอยู่ เพราะมันถูไปถูมาบนหน้า แล้วก็จับมือผมที่จับผ้าอยู่ไปเช็ดๆรอบคอมันอีก ผมมองที่มือตัวเองสลับกับมองหน้ามัน ตอนที่มองอยู่นั่นเองมันก็ครางในคอออกมาเบาๆ
ชิบหาย เริ่มแล้วเหรอ กูยังไม่ได้ปิดไฟเลย ขอกูไปปิดไฟก่อนได้ป่าวว่ะ (นี่ผมกำลังคิดอะไร?)
มือมันเลื่อนมาที่อก แต่มีเสื้อครับ มันเลยเลื่อนต่ำลงๆ จนเกือบจะถึงสะดือ จะถึงสะดือ จนถึงสะดือ! ผมชักมือออกทันทีครับ มือมันก็กระเด้งตกตุ้บลงข้างตัว แล้วก็นิ่งไป
นาวไม่ขยับมือมาเช็ดตัวเองต่อแล้วครับ ทั้งที่ผ้ายังกองอยู่ตรงนั้น ผมนี่ถอนหายใจเลย มันขยับตัวไปนอนตะแคงขดเป็นกุ้งครับ ผมเลยหยิบผ้าเย็นออก ห่มผ้าให้มัน เดินไปปิดไฟ ซักผ้าตากในห้องน้ำ อาบน้ำนอนดีกว่า บางทีมันอาจจะหลับไปเลยก็ได้ ผมอาจจะคิดมากไปเอง
ผมล้มตัวลงนอนให้เบาที่สุด ดึงผ้าห่มมาปิดแค่พุงครับ เมื่อกี้จากที่ใช้แสงไฟในห้องน้ำส่องดู มันยังนอนท่าเดิม แต่หดตัวมากกว่าเก่า สงสัยหนาว แต่ผมว่าแอร์กำลังดีนะ ไม่ได้หนาวอะไร เลยไม่ได้ปรับแอร์
รางวัลจากฝากฟ้าทำผมมึนจริงครับวันนี้ ถ้าเมานิดๆ ปกติผมจะหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เสียงหายใจหนักข้างตัวทำให้ผมนอนไม่หลับครับ เพราะมันหายใจไม่สม่ำเสมอ และกำลังขยับยุกยิก
มันดึงแขนผมข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปกอดครับ ตัวมันสั่นๆ ผมเลยเอี้ยวตัวไปหยิบรีโมทจะเพิ่มแอร์ ก็มีมือกับแขนพาดตัวผมไม่ให้ลุกขึ้น
เอาแล้วไง ตั้งนานทำไมไม่ขยับ มาขยับตอนกูมานอนทุกที
“มึงหนาวเหรอ กูจะเพิ่มแอร์ให้” ผมพูดกับมันทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีสติครับ
“ร้อน” อ้าว มีเสียงตอบกลับมา เล่นเอาผมงงเลย ก็ยังฟังรู้เรื่องนี่หว่า
“มึงเป็นใคร?” ผมหยั่งเชิงถามครับ
“มานาว”
“กูล่ะ กูเป็นใคร”
“แมต” มะนาวเรียกชื่อผมเบาเหมือนมันอยู่ในความฝัน
“มึงกำลังกอดกูนะ มึงรู้ตัวรึเปล่า?”
“ไม่เป็นไร นี่มันเป็นความฝันนี่นา” มันพูดก่อนจะเอาหน้าผากมาซบไหล่ผม ผมถอนหายใจ ยกแขนข้างที่ยังว่างดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเราทั้งคู่ กลัวมันหนาว
มันเลยได้ใจ ปีนมาก่ายผมเกือบทั้งตัว กลายเป็นนอนหนุนแขนผม เหมือนผมเป็นฝ่ายกอดมันซะงั้น
เปล่านะ ผมเปล่า ผมไม่ใช่คนเริ่ม ผมไม่ผิด
ครับ ผมไม่ใช่คนเริ่ม เพราะคนที่เริ่ม กำลังเริ่มอย่างอื่นที่หนักกว่าเดิม
มือมันเลื่อนจากอกผม ต่ำลงมาพักที่พุง ให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องอยู่แป็ปเดียวเท่านั้น มันก็ทำให้ผมต้องกลั้นหายใจไปเลย
มือมันกุมอยู่ที่เป้าผมครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะรู้มั้ยว่าวางมืออยู่บนอะไร แต่ไม่ช้าไม่เร็วมันคงรู้ครับ ผมนี่หลับตาปี๋เลย ข่มความรู้สึกยังไงก็ข่มไม่ลง สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากคนอื่นทำผมห้ามตัวเองไม่ได้ครับ น้องชายเจ้ากรรมกำลังค่อยๆพองตัว
เพราะผมกลั้นหายใจจนเลือดลมสูบฉีดแน่ๆ ไม่ใช่เพราะมันมาจับไม่ใช่เพราะสัมผัสพระเจ้า มันกำครับ กำผมรอบตัวเลย มิดบ้างไม่มิดบ้างก็เต็มมือมันนั้นแหละครับ
มะนาวมึงจะปล้ำกูเหรอ ใจเย็นเว้ย!ผมตัดสินใจลุกพรวดขึ้นครับ จับมะนาววางลงกับเตียงเหมือนเดิมห่มผ้าให้มันลวกๆ แล้วเดินลงมาจากเตียง ไปหยิบผ้านวมสำรองมาปูนอนบนพื้นข้างเตียง ไม่งั้นคงเลยเถิดไปถึงไหนๆ
ผมนอนได้แป็ปเดียวเท่านั้นครับ มะนาวลุกขึ้นนั่ง ผมมองเห็นจากแสงที่ลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง แล้วเหมือนจะมองมาทางผม เหมือนผีที่คืบคลานมาในความมืด โหยยยย ให้ตาย
มึงจองเวรจองกรรมกูมากมะนาว ถ้ามึงลงมา กูจะจัดให้มึงนอนหลับสบายเลย แน่จริงลงมาดิ้ว้า
ผมแค่คิดในใจครับ ไม่คิดจะพูดออกมา แต่เหมือนมันได้ยิน มะนาวเดินลงมา นั่งข้างผม แล้วก็คร่อมผม มันก้มลงจูบผมมือข้างนึงของมันกุมมะนาวน้อยๆ ของตัวเองไว้นิ่งๆ ครับ ผมที่รับจูบเลยเปิดผ้าห่ม แล้วห่มเราทั้งคู่ เพราะกลัวมันหนาว จริงจิ้งงงงง
“อื้มมมมมม” เสียงที่ปกติทุ่มต่ำ ตอนนี้มันครางหวานในคอ พยายามดันส่วนนั้นมาเสียดสีกับของของผมแม้จะมีกางเกงของทั้งสองคนกั้น ผมดึงขอบบ็อกเซอร์ของมันลงนิดหน่อย มะนาวเหมือนจะรับรู้ครับ มันพยุงของมันออกมา ก่อนจะแกะของผมออกมาจากกางเกงนอน แล้วมันก็กำทั้งสองไว้ด้วยกัน ไม่รอบหรอกครับ มันโลภกะฟินทีเดียวสองนี้นา
ผมประคองมันให้นอนลงข้างๆ ตะแคงเข้าหากัน มันพละจูบออกจากปากเพื่อจะพูดชื่อผม
“แม็ต แมต อึ้ อื้ม แมต” เสียงมันทำผมว้าวุ้น ไม่รู้เพราะน้ำเสียง ไม่รู้เพราะไออุ่น ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์ หรือเพราะผมคิดว่ามันรู้ว่าคนตรงหน้าคือผมกันแน่
ผมวางมือตัวเองทับมือของมะนาว มือมะนาวในยามนี้ดูเล็กและน่าทะนุถนอม
ผมทิ้งความยับยั้งชั่งใจไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เหลือเพียงปรารถนาในลมหายใจและเสียงครวญครางของนาวคนตรงหน้า
“อีก เร็วอีก” มะนาวปล่อยมือออกมาโอบรอบคอผม ดึงผมที่ก้มหน้าให้จูบเขา เราจูบกับร้อนแรงกว่าครั้งไหน
“อ้า อ๊า” มือเขาจิกลงบนหลังผมอย่างระบายความอัดอั้น มือมะนาวปัดป่ายไปทั่วร่างผม เหมือนถูกใจกับสิ่งที่ผมปรนเปรอให้
ในที่สุดเราปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน
มะนาวเหมือนเด็กเสียขวัญ ที่ขอร้องให้ผมจูบปลอบซ้ำๆ เขากอดคอผมไว้ไม่ยอมปล่อย ซุกใบหน้าไว้ที่ซอกคอผมในขณะที่ผมเอื้อมมือหยิบทิชชู่บนโต๊ะข้างเตียงที่ตอนนี้อยู่ตรงกับหัวผมพอดี จัดการเช็ดให้มัน เช็ดให้ผมเอง ส่วนที่เปียกยู่บนผ้านวม... ผมค่อยส่งซักพรุ่งนี้แล้วกัน เยอะจนเช็ดไม่ไหวครับ
มะนาวยังส่งเสียงประท้วง ทุกครั้งที่ผมจับมันขยับและเช็ดตัวให้ ผมอุ้มมันกลับขึ้นมานอนบนเตียง ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มะนาวที่ตอนนี้นิ่งไปแล้ว คงหลับแล้ว
จริงๆ ถ้าผมไม่คิดอะไรกับมัน ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทำไมผมต้องย้ายกล่องทิชชู่จากหลังตู้เย็นมาวางไว้ข้างเตียงตั้งแต่หัวค่ำด้วยล่ะ? ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
-----------------------------
จบบทที่ 3 จ้า
คนเขียน : มนต์พี่แม็ตไม่ขลังเลย 5555 หัวเราะแบบหงายหลัง
แม็ต : เสื่อมแต่มนต์ อย่างอื่นผมไม่เสื่อมนะคนเขียน
คนเขียน : หูยยยยยย แวร็ง ตอนหน้าอาจจะไม่ได้เสื่อมแค่มนต์ก็ได้ใครจะรู้ หลักฐานก็ไม่มี พยานก็ม่ายมี
แม็ต : ... (กำลังคิดว่า พยานมันตื่นมาก็ลืมหมด ไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง)
คนเขียน : โอ๋ๆ เดี๋ยวตอนหน้าไม่เขียนแกล้งแล้วนะ โอ๋ๆ
เจอกันตอนหน้าน้า บ๊าย