L&P 18 : ผู้เล่นรายใหม่มันเกิดอะไรขึ้น ผมยกมือลูบหน้าพยายามใช้ความคิดลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เมื่อวานตัวเล็กโทรหาผมสองครั้งแต่ผม
ไม่ได้รับสายเพราะเข้าประชุมสำคัญจนถึงเย็นและลืมโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะทำงาน พอเห็นแจ้งเตือนก็รีบโทรกลับไปหา จำได้ว่า
ลิงเปี๊ยกยังคุยกับผมปกติถึงเสียงจะดูเนือยๆ ไปบ้าง หลังจากเช็คจนแน่ใจว่าสบายดีไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมยอมรับว่าตั้งใจ
วางสายด้วยข้อแก้ตัวที่ว่าผมติดธุระสำคัญอยู่แม้รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะคุยด้วย
มันอาจดูใจร้ายไปสักนิดแต่ผมเชื่อว่าการให้เวลาลิงเปี๊ยกได้คิดว่ารู้สึกอย่างไรกับผมกันแน่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ เหงาไหม
เวลาที่ไม่ได้เจอกัน คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า หรือมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อคิดว่าผมอาจมีคนอื่น
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เข้ามาในจังหวะที่พอดิบพอดีและผมนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผมไม่แน่ใจว่าลิงเปี๊ยกจะเห็นข่าวไหม
แต่แอบหวังไว้ว่าเด็กวัยรุ่นน่าจะติดตามข่าวดาราบ้างหรืออย่างน้อยก็น่าจะมีใครพูดเข้าหู รวมกับที่ผมเว้นระยะไม่ไปเจอ
หน้า โทรหาให้น้อยที่สุด สิ่งเล็กๆ เหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้ลิงเปี๊ยกเข้าใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น
ผมยังใจเย็นทั้งคืน คิดว่าทุกอย่างที่ทำลงไปกำลังเกิดผล ผมอยากให้ลิงเปี๊ยกตกตะกอนทางความคิด และหวังจะไปหา
เพื่อปรับความเข้าใจในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ลิงเปี๊ยกหายไปมือถือติดต่อไม่ได้ ผ่านไปครึ่งค่อนวันก็ยังปิดสนิท
เป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ สบายดีใช่ไหม ผมเริ่มทุรนทุรายด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้จะติดต่อทางไหน
ผมไม่มีเบอร์เพื่อนของลิงเปี๊ยกแม้แต่คนเดียว เป็นความสับเพร่าที่ไม่น่าให้อภัย
ผมรออยู่จนบ่ายคล้อยจึงตัดสินใจโทรหานิวแต่กลับเจอวินรับสายแทน ลิงเปี๊ยกไม่ได้อยู่ที่นั่นและไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
อย่างเดียวที่ผมคิดได้คือพุ่งตรงมาหาที่วัด แต่กลับต้องมานั่งตั้งสติอยู่ในรถแบบนี้เมื่อหลวงลุงให้คำตอบว่าตัวเล็กไปค้าง
บ้านเพื่อนและเพื่อนคนนั้นชื่อนัท เมื่อคืนโทรมาบอกไว้ว่าไม่ต้องเป็นห่วงลืมเอาที่ชาร์จแบตไป
ไม่มีที่อยู่ ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหน พยายามบอกตัวเองว่าดีแล้วที่รู้ว่าปลอดภัยแต่ข้างในมันกลับไม่สงบลง เป็นห่วงมากขึ้น
และกังวลมากขึ้น
ไปค้างบ้านนัทก็บ้านเดียวกับน็อต แต่ตัวเล็กบอกว่าไม่ชอบผู้ชายไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าไอ้หมอนั่นเหมือนผมล่ะ
ถ้ามันหลอกล่อลิงเปี๊ยกเหมือนที่ผมทำ
ปัดโธ่เว้ย! ผมทุบมือลงบนคอนโซลรถ รู้สึกตัวเองเพิ่งทำเรื่องงี่เง่าลงไป ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ถ้ามันทำให้ตัวเล็กเตลิด
ไปไกลผมจะทำอย่างไรดี
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“นิวนี่พี่ลมนะ” ผมเรียกชื่อเมื่อเจ้าของโทรศัพท์รับสาย เมื่อหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจโทรเข้ามือถือนิวอีกครั้ง
“ครับพี่ลม”
“นิวมีเบอร์เด็กที่ชื่อนัทเพื่อนของเปี๊ยกไหม”
“ไม่มีครับพี่ลม”
“ถ้าอย่างนั้นเบอร์กังฟูหรือภูมิล่ะนิวมีไหม”
“ผมมีเบอร์กังฟูครับ สักครู่นะครับผมดูให้” นิวเงียบไปชั่วครู่ก่อนแจ้งหมายเลขสิบหลักให้ผมทราบ
“ขอบใจนะ พี่วางสายก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
“เดี๋ยวครับพี่ลม” นิวเรียกผมไว้ก่อนนิ่งไปจนผมต้องเป็นฝ่ายทักขึ้น
“มีอะไรหรือเปล่านิว”
“คือ..เปล่าครับ เอาไว้ค่อยคุยกันก็ได้ครับ สวัสดีครับ”
“สวัสดี” ผมร้อนใจเกินกว่าจะสงสัยว่านิวมีเรื่องอะไรต้องการคุยกับผม จิตใจผมจดจ่ออยู่กับคนๆ เดียวเท่านั้น
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ฮัลโหล” ปลายสายรับด้วยเสียงงัวเงียคล้ายคนเพิ่งตื่นนอน
“กังฟูหรือเปล่า นี่พี่ลมนะจำได้ไหม”
“อ่า..สวัสดีครับพี่ลม” ผมได้ยินเสียงบางอย่างตกลงพื้น ก่อนน้ำเสียงของกังฟูจะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นตกใจ
“พี่ลมโทรหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“พี่ได้เบอร์มาจากพี่นิว จะโทรมาถามว่ากังฟูมีเบอร์ของเพื่อนที่ชื่อนัทหรือเปล่า แล้วพอจะบอกพี่ได้ไหมว่าบ้านนัทอยู่ที่ไหน”
“ได้ครับ แต่..เอ่อ..ผมถามได้ไหมครับว่าพี่ลมจะเอาไปทำไม”
“พี่ติดต่อเปาไม่ได้ไปหาที่วัดหลวงลุงบอกว่าไปค้างบ้านนัท พี่เป็นห่วงเลยอยากโทรไปหาให้แน่ใจว่าสบายดี”
“อ๋อ” กังฟูลากเสียงยาวดูโล่งใจที่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“พี่ลมไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เปามันสบายดี ผมยังเห็นพี่น็อตลงรูปในอินสตาแกรมถ่ายคู่กับเปาอยู่เลย”
“ถ่ายคู่กับเปา?”
“ใช่ครับก็เห็นยิ้มแย้มดีนี่ครับ เดี๋ยวถ้ายังไงวันจันทร์ผมไปโรงเรียนจะให้เปาติดต่อไปหาพี่ลมดีไหมครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”
““ขอบใจนะกังฟู แต่ยังไงพี่ก็ขอเบอร์กับที่อยู่นัทไว้จะดีกว่า เผื่อมีเรื่องอะไรอยากติดต่อเปาจะได้ไม่ต้องรอวันจันทร์”
“อ่า..ก็ได้ครับ” ผมจดข้อมูลตามที่กังฟูบอกลงบนกระดาษก่อนกล่าวขอบคุณและกดวางสาย
ผมเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด ชั่งใจว่าเหมาะสมหรือไม่ถ้าผมจะบุกไปบ้านเพื่อนของเปาตอนนี้
ติ๊ง! เสียงข้อความเข้าทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง นึกแปลกใจเพราะไม่มีใครส่งข้อความผ่านหมายเลข
โทรศัพท์มานานแล้ว
มีรูป! ผมเปิดภาพที่ถูกส่งมาพร้อมข้อความแนบ ตาเหมือนถูกสะกดไม่ให้ละไปจากภาพตรงหน้า ได้แต่หยุดชะงัก
เหมือนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
“ส่งมาให้ดูครับจะได้ไม่ห่วง” ข้อความแนบสั้นๆ จากกังฟูเพื่อนของเปา
ภาพที่เห็นเป็นภาพหนุ่มน้อยหน้าตาสดใสกำลังยิ้มร่า มีมือหนาของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ โอบอยู่บนไหล่ ลิงเปี๊ยกกับน็อต
ถ้าความคิดมีเหตุมีผลที่ผมกำลังใช้มันเป็นตัวตัดสินว่าผมควรไปหาตัวเล็กที่บ้านนัทตอนนี้ดีหรือไม่มีอยู่จริงมันก็บินหาย
ไปพร้อมกับความหึงหวงที่พุ่งเข้ามาปะทะแบบไม่ทันตั้งตัว ผมกำลังเลือดขึ้นหน้าจนลืมนึกถึงมารยาทที่ดีทั้งปวง คว้า
กุญแจรถกระเป๋าเงินเดินลิ่วออกจากห้องราวกับพายุ วินาทีนี้ขอเพียงได้เจอหน้าเปาเท่านั้น
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุง มาได้ยังไง” สีหน้าลิงเปี๊ยกดูอึดอัดเมื่อเดินออกมาหาผมที่รถ
“ทำไมถึงปิดมือถือ” ผมดึงลิงเปี๊ยกเข้ามาใกล้ ก่อนจับหมุนตัวให้หลังของลิงเปี๊ยกพิงกับรถโดยมีมือผมคร่อมเอาไว้
“แบตหมดผมไม่ได้เอาที่ชาร์จมา”
“ที่บ้านนี้ไม่มีที่ชาร์จแบตเหรอ”
“มีไม่มีแล้วเกี่ยวอะไรกับลุง”
“ตัวเล็ก!”
“ผมขี้เกียจยืม ค่อยกลับไปชาร์จตอนกลับไปวัดก็ได้ไม่ได้ติดต่อใครเร่งด่วนอยู่แล้ว”
“แล้วพี่ล่ะครับ ตัวเล็กไม่คิดว่าพี่จะเป็นห่วงบ้างเหรอ”
“ลุงมีธุระอะไรหรือเปล่า ผมดูหนังอยู่กับพี่น็อตให้พี่เขาหยุดรอนานไม่ดี”
“ตัวเล็ก” ผมลดมือลงจับแขนลิงเปี๊ยกไว้เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะลอดแขนผมออกไป
“โกรธอะไรพี่หรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้โกรธทำไมต้องโกรธลุงด้วย”
“โกรธที่พี่ไม่สะดวกคุยด้วยหรือเปล่า พี่ติดงาน พอว่างก็รีบโทรหาทันทีแต่มือถือตัวเล็กติดต่อไม่ได้”
“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ”
“ถ้าอย่างนั้นตัวเล็กเป็นอะไรครับทำไมงอนพี่” ผมยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาระหน้าผากออกให้ก่อนแตะมือเอาไว้
บนศีรษะเล็ก
“ไม่ได้งอน”
“ไม่ได้งอนแต่ทำหน้าแบบนี้ ไม่ยอมสบตาพี่ด้วย” ผมเลื่อนมือลงมาเชยคางลิงเปี๊ยกขึ้น หวังจะค้นหาคำตอบจากดวงตาคู่
นั้น แต่เจ้าของมันกลับหลุบตาลงต่ำไม่ยอมสบตา
“ถ้าลุงไม่มีธุระอะไรก็กลับได้แล้ว ผมออกมานานไม่ดี”
“ทำไมถึงไม่ดี ทำไมพี่ถึงมาหาตัวเล็กไม่ได้” ผมเผลอทิ้งน้ำหนักบีบคางลิงเปี๊ยกจนอีกฝ่ายนิ่วหน้า
“เปามีอะไรหรือเปล่า” เสียงเปิดประตูรั้วพร้อมกับร่างสูงของน็อตก้าวออกมา ผมปล่อยมือจากคาง ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง
“ไม่มีอะไรครับ ลุงแวะมาหากำลังจะกลับแล้ว”
“ตัวเล็ก” ผมเรียกลิงเปี๊ยกเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากตัดบทโดยที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
“สวัสดีครับพี่ลม” น็อตยกมือขึ้นไหว้ผมตามมารยาท
“สวัสดีครับ” ผมสบตากับเจ้าของบ้าน ต่างฝ่ายต่างประเมินท่าทีของกันและกัน
“เข้าไปข้างในก่อนไหมครับ เห็นเด็กบอกว่ามีคนมาหาเปานึกว่าเป็นพวกเพื่อนๆ เสียอีก”
“ขอบคุณครับแต่ไม่รบกวนดีกว่าผมมารับตัวเล็ก กำลังจะกลับแล้ว”
“เปาจะค้างที่นี่ไม่ใช่เหรอ ไหนรับปากพี่ว่าจะนอนด้วยกัน” ผมรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะพูดยั่วอารมณ์ผมด้วยคำพูดที่
กำกวม แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นก็ไม่สามารถควบคุมความโกรธไว้ได้
“นอนครับ ผมนอน”
“ตัวเล็ก หลวงลุงบอกให้กลับไปกับพี่”
“หลวงลุง?”
“ใช่ วันนี้พี่ไปพบหลวงลุงมา ท่านฝากให้พี่จัดการไม่เชื่อก็โทรถาม” ผมยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ วางหน้านิ่ง ผมไม่ได้โกหก
ผมอยู่สนทนากับหลวงลุงพักใหญ่ แนะนำตัวกับท่านอย่างเป็นทางการ หลวงลุงท่านเอ่ยปากฝากฝังให้ช่วยสอนช่วยสั่ง
ลิงเปี๊ยก มีอะไรไม่ถูกไม่ควรก็ดุได้ ท่านยังขอบคุณที่ช่วยดูแลแทน ดังนั้นผมถือว่าผมกำลังทำตามที่หลวงลุงฝากมา
คือดูแลลิงเปี๊ยกในแบบของผม
“หลวงลุงไม่สั่งแบบนั้นหรอก” ลิงเปี๊ยกขมวดคิ้ว ปากพูดออกมาแบบนั้นแต่สีหน้าดูไม่มั่นใจนัก
“จะเถียงทำไมบอกแล้วว่าให้โทรถามท่านโดยตรงจะได้เลิกดื้อกับพี่เสียที”
“แต่ผมยังทำรายงานกับนัทไม่เสร็จ”
“ตัวเล็กบอกพี่ว่าดูหนังอยู่”
“ผมเห็นน้องๆ หยุดพักกันแล้วเลยชวนเปาดูหนังด้วยกัน” ผมเหลือบตาไปมองคนพูด ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ความนัยของผม
ว่า..ไม่ได้ถาม
“ใช่ พรุ่งนี้เราถึงจะทำกันต่อ”
“ถ้าคืนนี้เสร็จแล้วก็กลับพร้อมพี่ พรุ่งนี้พี่จะส่งคนขับรถมารับนัทไปที่บ้าน ผลัดกันเดินทางบ้างนัทคงไม่มีปัญหาอะไรใช่
ไหม” ผมไม่ได้เอ่ยชื่อแต่หันไปจ้องตาให้รู้ว่าผมกำลังถามใครอยู่
“เปาว่าไง อยากอยู่กับพี่ไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนกับรอยยิ้มบางๆ ที่ส่งให้กัน ทำเอาผมอยากกระชากลิงเปี๊ยกขึ้นรถโดยไม่
ต้องพูดคุยกันให้เสียเวลาอีก
“ผม..ผม..”
“เปาจำที่เราคุยกันได้ไหม” ใบหน้าที่ก้มต่ำจนเกือบชิดแก้มลิงเปี๊ยก ทำให้ความอดทนผมขาดสะบั้น
“ตัวเล็กขึ้นรถ” ผมคว้าลิงเปี๊ยกเข้ามากอดเอวไว้ จับไว้มั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ใครแตะต้อง
“ฝากลาผู้ใหญ่แทนตัวเล็กด้วย ยังไงขอตัวกลับก่อน” ผมไม่สนว่าลิงเปี๊ยกจะขัดขืนแค่ไหน เลือกใช้แรงที่มากกว่าดันจน
อีกฝ่ายเข้าไปนั่งในรถที่ผมเปิดประตูให้จนได้
“เดี๋ยวลุง ผมยังไม่ได้เก็บของ ไปไม่ได้”
“รออยู่ตรงนี้เดี๋ยวพี่เข้าไปเอาให้ รบกวนด้วย” ผมหันไปบอกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากรถ ใบหน้าที่มองมามีร่องรอยรู้ทัน
ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะฉายแววยิ้มหัวออกมา
“ไม่ต้องหรอกครับ นัทอยู่ตรงนั้นใช่ไหมหยิบกระเป๋าเปาออกมาที”
“ครับ” ผมได้ยินเสียงตะโกนมาจากในรั้วบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงวิ่งตึงตังออกไปและกลับมาอย่างรวดเร็ว
“นี่ครับ” ผมเพิ่งเคยเห็นหน้าเพื่อนของเปาครั้งแรก หน้าตาคล้ายกับพี่ชายแต่ไม่คมเข้มเท่า
“นัทใช่ไหม”
“ใช่ครับ สวัสดีครับ” นัทยกมือไหว้ผม ก่อนเหลือบไปสบตากับเพื่อนที่นั่งอยู่ในรถ
“พรุ่งนี้พี่จะให้คนขับรถมารับไปที่บ้านสะดวกไหม”
“มารับ?” เด็กนัทเลิกคิ้วสูงอ้าปากเล็กๆ ก่อนจะหุบฉับแล้วยิ้มกว้างออกมา
“อ๋อเรื่องรายงานใช่ไหมครับ ไม่เป็นไรครับ เปาเหลือนิดเดียวเดี๋ยวเราทำเองจะได้ไม่ต้องขับรถไปมา” นัทชะโงกหน้าตะโกน
บอกเพื่อน เพราะผมยืนพิงประตูรถเอาไว้ลิงเปี๊ยกจึงเปิดออกมาไม่ได้
“ขอบใจนัท”
“ไม่เป็นไรไว้เจอกันที่โรงเรียน”
“เจอกัน”
“ถึงแล้วเปาโทรมาบอกพี่ด้วยนะครับ” ร่างสูงแต่ยังเตี้ยกว่าผม เคลื่อนกายมายืนข้างๆ ก่อนชะโงกหน้าลงคุยกับลิงเปี๊ยก
ที่ลดกระจกไว้ ผมไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเดินเข้ามาจึงไม่ทันระวัง
“ครับพี่น็อต”
“แล้วพี่จะไปรับที่โรงเรียนบ่อยๆ” มือที่ยื่นเข้าไปลูบหัวลิงเปี๊ยก ทำให้ไฟที่เพิ่งสงบลงถูกสุมขึ้นมาใหม่ ตกลงไอ้เด็กนี่จะตั้ง
ตัวเป็นศัตรูกับผมใช่ไหม
“สวัสดีครับพี่ลม” น็อตถอยตัวออกมายืนตัวตรง ส่งยิ้มให้ผมด้วยสายตาท้าทาย
“สวัสดีครับ” ผมจ้องโดยไม่หลบตา ถ้าคิดว่าตัวเองแน่ก็คงต้องเจอกันสักตั้ง ผมไม่เคยปล่อยให้ใครฉวยสิ่งของๆ ผมไป
ได้ นับประสาอะไรกับคนที่ผมรัก
“สวัสดีครับพี่ลม บายเปา” นัทโผล่หน้าจากหลังพี่ชายมายืนโบกมือให้เพื่อน ผมพยักหน้ารับก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ
ทันเห็นลิงเปี๊ยกชะโงกหน้าออกไปโบกมือให้เพื่อนและสวัสดีคู่อริ
“ไปได้แล้ว” ผมเผลอใช้เสียงห้วน ลิงเปี๊ยกหันมามองหน้าก่อนเบะปากใส่ผมแต่มือยอมเลื่อนกระจกขึ้นโดยไม่ดื้อดึง
“ไปส่งผมที่วัด” เมื่อรถเคลื่อนสู่ถนนใหญ่ลิงเปี๊ยกถึงยอมพูดออกมา สายตามองตรงไปยังถนน ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้า
“........”
“ลุง! ได้ยินผมพูดหรือเปล่า” เมื่อผมนั่งเงียบไม่ตอบ คนคอแข็งก็ยอมหันมามอง
“ได้ยินแต่ตัวเล็กก็รู้ว่าพี่ไม่พาไปแน่จะพูดทำไม”
“ลุงทำงี้ไม่ได้นะ”
“ทำได้ไม่ได้เดี๋ยวตัวเล็กก็รู้”
“ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี ใช้อำนาจบาตรใหญ่ อันธพาล”
“เพิ่งรู้เหรอว่ามีแฟนนิสัยแบบนี้” ผมโมเมเอาดื้อๆ รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้ลิงเปี๊ยกกลับมาอยู่ข้างๆ
“ฟะ..แฟนที่ไหนเล่า ลุงอย่ามาพูดมั่ว โน่นแฟนลุงเป็นดาราโน่น” ลิงเปี๊ยกโพล่งออกมาก่อนทำท่าเม้มปากแน่น
รีบเบนสายตาหันไปมองทางอื่น
“โกรธเรื่องนี้เหรอตัวเล็กเห็นข่าวพี่ใช่ไหม” จากที่เคยคิดจะใช้ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นตัวกระตุ้นกับต้องมานั่งแก้ตัวเพราะ
สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด
“เห็นแล้วสวยดี ดีใจกับลุงด้วยนะพามาแนะนำให้รู้จักมั่งสิ”
“อย่ารวนพี่สิคะตัวเล็ก ข่าวไม่จริงไม่มีมูลเลย พี่แค่..”
“ไม่เกี่ยวกับผมลุงไม่ต้องเล่า แล้วมาคะมาเคอะอะไรกันผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ชอบ” คนโวยวายว่าไม่ชอบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
“เฮ้อ แฟนใครหนอเอาใจยากชะมัด มีแฟนเด็กเป็นแบบนี้สินะต้องทำใจ”
“โอ๊ย!! ตัวเล็กพี่เจ็บ เห็นไหมรถปัดเลย” ผมรีบประคองรถก่อนที่จะไปเฉี่ยวชนกับคันอื่น อู๊ย! เล็บแข็งชะมัดหยิกเจ็บเป็นบ้า
“ก็อย่ามาพูดจากมั่วๆ ใครเป็นแฟนลุง บอกแล้วว่าไม่ใช่ๆ “ ผมหัวเราะเด็กขี้โวยวายตั้งแต่ขึ้นรถมาก็เอาแต่โวยวายไม่หยุด
“ถ้าต้องเป็นแฟนลุงเป็นแฟนพี่น็อตยังดีกว่า”
“พูดว่าอะไรตัวเล็ก” ผมหยุดขำหยุดหัวเราะเพราะสิ่งที่ได้ยินมันก่อกวนความรู้สึกอย่างรุนแรง
“ผม..บอก..ว่า..เป็นแฟนพี่น็อต..ดีกว่า..ลุง” ดวงหน้าเล็กลอยหน้าลอยตาแถมยักคิ้วส่งท้ายเป็นการยั่วยวน
“ชัดพอหรือยัง”
“ชัด ชัดมาก”
“เฮ้ย! ลุงเบาๆ “ ลิงเปี๊ยกตะโกนลั่นเมื่อผมเพิ่มความเร็วรถขึ้นจนอีกฝ่ายหน้าหงาย
“ลุง ผมไม่เล่นไม่เอา” ความเร็วรถมีแต่เพิ่มขึ้น ผมหยุดบทสนทนาหันมาให้ความสนใจกับการขับรถเพียงอย่างเดียว
ไม่ตอบโต้ไม่พูดอะไรทังนั้นไม่ว่าลิงเปี๊ยกจะร้องโวยวายแค่ไหน
รอให้ถึงบ้านก่อนเถอะตัวเล็ก จะได้รู้กันว่านายเป็นแฟนคนอื่นนอกจากฉันได้จริงไหม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**บอกแล้วว่าน็อตไม่ได้มาเล่นๆ ^^ แต่จะอะไรยังไงตอนหน้ารู้กัน
** ตอนต่อไปสปอยเลยว่ามุ้งมิ้งมาก มาดูกันว่าอิลุงจะงัดไม้ไหนมาง้อลิงเปี๊ยก
**ใครอยากรู้ความรู้สึกลิงเปี๊ยก รอตอนที่ 21 นะคะ ตอนหน้าให้ลุงวาดลวดลายก่อน
** เขียนไว้ก่อนเผื่อมีคนขัดใจ เรื่องนี้คนเขียนตั้งใจนะคะ ย้ำว่าตั้งใจที่จะนำเสนอนายเอกกับพระเอกเป็นหลัก
โดยไม่มีบทสนทนาหรือชีวิตส่วนตัวด้านอื่นมากนัก เพราะตั้งใจให้ มหารัก เป็นนิยายรัก บอกเล่าถึงความรักของคนสอง
คนตั้งแต่รู้จักกันจนความรักลงตัว (เรื่องนี้เน้นความรักไม่เน้นชีวิตน้า)
Darin ♥ FANPAGE