'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 178442 ครั้ง)

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าติดตามมาก  เจ้าจะต้องตายจริงๆ ใช่มั้ย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
สรุปที่เราอ่านมารวดเดียวตอนที่ 1-17 เพื่ออะไร??
ถ้ามันจะแนวแฟนตาซี ข้ามเวลา มิติ บลาๆๆ ไรไม่รู้  - -"
เอาความอินของเราคืนมา

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อ่านเจอประโยคหนึ่ง น่าจะนานแล้ว เป็นประโยคที่โผล่มาในความฝันของดินที่แม่ของเจ้าพูดว่า ถ้าอยากอยู่กับเจ้า ดินต้องไม่ทำดีกับเจ้า... ทำให้คิดถึงว่าถ้าเป็นการย้อนเวลาจริง ตอนนั้นคงเป็นดินโหมดหัวอ่อนเชื่อฟังแม่เจ้าเพราะอยากอยู่กับเจ้า เลยดูแลจันทร์เจ้าตามคำบอกของแม่เจ้า(โหมดหัวอ่อนนี้ ดินรักเจ้ามาก รักตั้งแต่ตื่นนอนลืมตาขึ้นมาเห็นรอยยิ้มของเจ้าในทุกๆเช้า  รู้สึกกับเจ้าอย่างผู้ชายรักผู้ชาย และเกิดอารมณ์บ่อยจนต้องไประบายกับวิน ) การดูแลจันทร์ทำให้เจ้าเข้าใจผิดว่าถูกดินทิ้ง และการไม่โต้แย้งกับจันทร์ ทำให้จันทร์หลงรักดิน เหตุการณ์ร้ายน่าจะเกิดหลังจากที่จันทร์รู้ว่าดินยังชอบเจ้าเลยทำลายดอกกุหลาบ...จากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องรอผู้แต่งมาเฉลย ส่วนตัวเดาว่าน่าจะเป็นการยิงกันมากกว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะแพร์เคยบอกว่าดินขับรถไม่เป็น ไม่น่าขับรถไปเกิดอุบัติเหตุได้   ปมคงอยู่ที่จู่ๆเอ๋กับบี ก็จำไม่ได้ว่ารู้จักเจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่  ความทรงจำของเหตุการณ์ในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนเพราะเวลาเริ่มทำงาน เกิดข่าวว่าเจ้าถูกยิงเสียชีวิต  เพราะเหตุการณ์ในอดีตได้ถูกเปลี่ยนสำเร็จแล้วตั้งแต่ตอนที่ดินรอดกลับมาแล้วช็อคเพราะเห็นเจ้าถูกยิง ทำให้จำเจ้าไม่ได้  เจ้ามาเพื่อตายแทนดิน (โปรดสังเกตว่า ดินฝันว่าวิ่งหนีผีหลายครั้ง) การย้อนอดีตมาช่วยดินน่าจะทำมาหลายครั้ง ครั้งนี้ช่วยได้สำเร็จ เลยจะเป็นครั้งสุดท้าย   เมื่อเจ้ากลับไป คนยุคนี้ที่เจอเจ้าในช่วง2ปี ก็จะค่อยๆลืมเจ้าเกษตร จะจำได้แค่ว่าเจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์ได้เสียชีวิตเพราะถูกยิง ... ที่น่าสนใจ คือบทนี้ ดิน รู้สึกว่าไม่ได้เป็นพี่น้องกับเจ้า   อาจจะมีการย้อนอดีตของดินคนนี้ไปแล้ว(รึเปล่า) แล้วไปเจอเงื่อนปมอะไรสักอย่าง ถึงส่งผลต่อความรู้สึกของดินในปัจจุบันบทนี้ .... ว่าแต่  ไทม์แมชชีนมาแต่ไหน  ใครมาจากอนาคตเป็นคนแรก.... ด้านบนคือเดานะ  อย่าไปจำผิดว่าผู้แต่งเป็นคนเขียน

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เหมือนใจจะขาด :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 18 เวลาของใคร





เอ๊: เธอ

เอ๊: ขอโทษที่ทักมาแต่เช้านะ

เอ๊: แต่ผมนอนไม่หลับเลย

เอ๊: ผมไม่กล้าคุยเรื่องนี้กับใคร

เอ๊: แต่เพื่อนในแชตของผมเขาบอกว่าตอนนี้เป็นเดือนธันวาคมแล้ว

เอ๊: ผมก็ยังไม่กล้าฟันธงอะไรหรอกนะ เพราะควั๊นก็ดูไม่ค่อยเต็ม เขาอาจจะดูปฏิทินพลาดก็ได้

เอ๊: เธอว่าโลกที่เราอยู่นี้เป็นยังไง

เอ๊: เวลาผิดเพี้ยนหรือเปล่า

Bee : ใจเย็นก่อนนะคะเอ๋ เอ๋ลองถามคนอื่นหรือยังคะ

เอ๊: ถามแล้ว ไอ้พี่หมอแพร์ห้องข้างๆ บอกว่าผมประสาทด้วยล่ะ เพราะผมเอาแต่ถามเรื่องวันเดือนปีกับเขา

เอ๊: ว่าแต่เธอถามพี่เอให้หน่อยได้มั้ย ผมอยากรู้ว่าพี่เดือนแพทย์คนนั้นโดนยิงตอนไหนแล้วใครยิงเขา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

Bee : พี่เอติดต่อไม่ได้อีกแล้วล่ะเอ๋ แต่บีว่าพี่เอคงไม่รู้เรื่องมากนักหรอก

เอ๊: แล้วผมควรจะทำยังไงดี เพื่อนของผมทั้งคน เขาเป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเลยนะเธอ ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา

Bee : บีจะหาทางติดต่อพี่เอนะเอ๋ แต่บอกตามตรงเลยนะว่าเป็นเรื่องยาก บีเคยคิดจะไปเยี่ยมแต่ไม่เคยไปถึงเลย แท็กซี่บอกว่าไม่รู้จักมอ J พอเราพยายามไปเองมันก็หลงทุกที

เอ๊: เธอ เธอว่าจริงๆ แล้วเรามีตัวตนอยู่มั้ย โลกที่เราอยู่นี้มันเป็นจริงมั้ย ทั้งผมทั้งเธอหรือทุกๆ คน เรามีอยู่จริงหรือเปล่า

Bee : เอ๋กำลังฟุ้งซ่านแล้วนะคะเนี่ย ถ้าเราไม่มีตัวตนแล้วเราเป็นอะไรล่ะคะ

เอ๊: ไม่รู้เหมือนกัน ผมยอมรับเลยว่าความคิดของผมวิ่งวุ่นไปหมด

Bee : ทำใจให้สบายก่อนนะคะเอ๋ ตอนนี้ทุกอย่างปกติดี พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นกลับด้าน

เอ๊: งั้นเธอคิดว่าพี่เออยู่โลกเดียวกับเรามั้ย แล้วถ้าไม่ใช่ ถ้าเวลาของโลกพี่เอเร็วกว่าเวลาของโลกเรา งั้นแสดงว่าอีกไม่กี่เดือน เพื่อนของผมก็จะตายด้วยหรือเปล่า

Bee : ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ ถ้าอยู่คนละโลกแล้วบีกับพี่เอจะเป็นพี่น้องกันได้ยังไงคะ พี่เอเพิ่งมาขาดการติดต่อไปไม่นาน

Bee : หรือนานกันนะ

เอ๊: ยังไงแน่เธอ

Bee : ไม่แน่ใจ แต่บีมาคิดๆ แล้วนะคะเอ๋ พี่เจ้ากับเจ้าอาจจะเป็นฝาแฝดกันก็ได้

เอ๊: แต่ผมกลับรู้สึกว่าคนชื่อเจ้า จักรพรรดิมีคนเดียวในโลก

เอ๊: ผมสังหรณ์ใจว่าในเดือนธันวาคมของอีกโลกนั้น หมายถึงถ้ามันมีอีกโลกอยู่จริงๆ เจ้า จักรพรรดิอาจจะตายไปแล้วก็ได้ คงเกิดเรื่องขึ้นก่อนหน้านั้น เพราะงั้นฝากเธอหน่อยได้ไหม ถามพี่เอให้ที ไม่ต้องรู้เรื่องทั้งหมดก็ได้ แค่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องขึ้นก็พอ

Bee : ได้เลย หวังว่าจะติดต่อพี่เอได้อีกครั้งนะ เอ๋ก็อย่าเพิ่งคิดมากเลยตอนนี้ ทำใจให้สบายดีกว่าค่ะ





“นายเอ๋!” เสียงร้องเรียกดังขึ้นจากทางด้านหลังทำเอาไอ้เอ๋ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม โทรศัพท์มือถือเกือบหลุดจากมือร่วงไปบนพื้น ดีที่ว่านึกถึงหน้าดุๆ ของแม่จ๋าได้ มันจึงกำแน่น รักษาไว้เท่าชีวิต เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือปลอดภัยดีแล้วจึงหันมองเจ้าของเสียงเรียกที่กำลังเดินใกล้เข้ามา

ไอ้เจ้ากำลังเดินตรงมาทางนี้ เรียกสายตาจากสาวๆ ที่กำลังนั่งเม้ามอยกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะให้มองกันจนเหลียวหลัง แต่พ่อเจ้าประคุณหาได้สนใจสายตาเหล่านั้นไม่ ความสนใจเพียงหนึ่งเดียวคือไอ้เอ๋เพื่อนซี้ที่กำลังนั่งปลีกวิเวกอยู่ใต้เงาร่มไม้ที่มันใช้เป็นที่จอดจักรยานคู่ใจอยู่บ่อยครั้ง

“โห ตกใจอะไรขนาดนั้น” ไอ้เจ้าถามด้วยแววตาขบขันเมื่อเห็นไอ้เอ๋ตกใจแทบเสียสติ ผมที่ฟูอยู่แล้วก็เหมือนจะฟูขึ้นยิ่งกว่าเดิม หน้าตาตื่นๆ ของมันยิ่งน่าแกล้ง “แล้วนี่ทำไรอยู่นาย หน้าเครียดเชียว”

“คือ…ว่า แบบ...” ไอ้เอ๋หาข้ออ้างไม่ทัน มันตะกุกตะกักจนน่าสงสัย ไอ้เจ้าจึงนั่งลงเคียงข้าง

“เป็นไรนาย ทำหน้าเหมือนเห็นผี”

ไอ้เอ๋ยิ้มแหย รีบบอกขอโทษขอโพย “โทษทีเพื่อนรัก ผมแค่กำลังคุยเรื่องเครียดๆ กับแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ”

“เห...ไอ้หมอแพร์อกหักดังเป๊าะแล้ว นายกลับไปคุยกับหล่อนเหรอ ที่จริงก็ไม่ได้เจอหล่อนนานแล้วนะ คิดถึงช่วงที่ฟาดฟันกันเรื่องธราแล้วก็อดอยากเจอหล่อนไม่ได้ หล่อนคงสบายดีใช่มั้ย” ไอ้เจ้าแซว วันนี้มันดูอารมณ์ดีผิดปกติ

“ก็สบายดีนะ มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย” ไอ้เอ๋ให้คำตอบ ก่อนจะลอบมองไอ้เจ้าที่ใบหน้าคมคายของมันเจือรอยยิ้มน่ามองยิ่งกว่าทุกวัน “ว่าแต่นายเถอะ แย้มบานกว่าปกตินะวันนี้ มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเรอะ”

“แน่น๊อน” ไอ้เจ้ายักคิ้วขึ้นเพียงข้างเดียวอย่างเท่ๆ “ธรายอมรีเทิร์นกับผมแล้วนาย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ มั้ย”

ไอ้เอ๋ทำท่าราวกับจุดพลุในจินตนาการของมันเพื่อเป็นการเล่นใหญ่อวยพรไอ้เจ้า “ก็คือถ้าผมเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ ผมจะลงข่าวหน้าหนึ่งเพื่อแสดงความยินดีให้นายเลย”

“ก็ทุ่มเทไป” ไอ้เจ้าหัวเราะร่วนพลางผลักหัวไอ้เอ๋เบาๆ “แต่ก็ขอบใจ ยังไงตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อนเอ๋ หิวแล้ว”

“อือ” ไอ้เอ๋ตอบรับ พอสบตากับไอ้เจ้าแล้วความกลัวเรื่องที่มันครุ่นคิดอยู่หลายคืนจนทำให้นอนไม่หลับก็ประดังประเดเข้ามา จะเป็นอย่างไรกันนะถ้าในตอนนี้ ณ วินาทีนี้ ไอ้เจ้าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ผิดที่ผิดทาง

“นายหงอยมากเลยเอ๋ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเพื่อนรัก”

ไอ้เอ๋เม้มริมฝีปาก มันรู้สึกจุกแน่นที่อก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรระบายความรู้สึกที่กำลังรู้สึกอยู่นี้ด้วยวิธีการใด จึงเลือกที่จะโกหกเพื่อนรักของมันออกไป “ผมฝันว่านายตายไปแล้ว”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ ก่อนจะคลี่ยิ้ม “มันก็แค่ความฝัน”

“ถึงงั้นก็เถอะ นายต้องระวังตัวนะนายเจ้า” ไอ้เอ๋บอกด้วยสีหน้าจริงจัง “นายอย่าไปมีเรื่องกับใคร ถ้าเห็นท่าไม่ดีนายต้องวิ่งหนีนะ อย่าทำตัวกวนตีนเหมือนที่ชอบทำใส่ผม ใครในโลกนี้ก็ไม่ใจเย็นเท่าผมหรอก นายรู้ ผมรู้ ว่าผมไม่สู้คน ต่อให้นายกวนตีนแค่ไหนผมก็จะอดทนไว้ ผมคือนายมั่นคง รักดีที่ไม่เคยมีเรื่องต่อยตีกับใคร”

“เหมือนนายกำลังหลอกด่าผมและอวยตัวเองแบบสุดกู่อยู่เลยนะเพื่อน”

“มันคือความห่วงใยจากผมต่างหาก”

ไอ้เจ้าส่งเสียงหัวเราะในลำคอ มันยกแขนขึ้นคล้องคอไอ้เอ๋ ก่อนพูดด้วยเสียงทุ้มน่าฟัง “นายเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยเอ๋ นายไม่เคยเปลี่ยนเลย”

ไม่ว่าจะเริ่มต้นใหม่อีกสักกี่ครั้ง ก็ยังเหมือนเดิม

“นายเจ้า”

“ว่ายังไง”

“นายจะไม่หายไปใช่มั้ย” หางเสียงของไอ้เอ๋สั่นเล็กน้อย ความกลัวครอบงำความรู้สึกจนไม่อาจทำตัวเป็นปกติได้

“นอกจากธราแล้ว นายก็เป็นคนที่สองที่ถามผมแบบนี้” ไอ้เจ้าฉีกยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นลูบศีรษะของไอ้เอ๋เบาๆ “ทำไมทั้งนายและธราถึงชอบคิดว่าผมจะหายไป เห็นผมเป็นคนที่ทิ้งขว้างคนอื่นได้ลงคอเหรอ ผมเคยใจร้ายขนาดนั้นด้วยเหรอ”

“เคย” ไอ้เอ๋ตอบโดยไม่คิด ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจที่หลุดคำพูดออกไป เพราะไม่รู้ทำไม จู่ๆ ความคิดนี้ก็ผุดวาบขึ้นในหัว “ผมหมายถึง...ไม่รู้สิ อาจจะเคยละมั้ง”

“วันนี้นายดูเครียดเกินไปนะ” ไอ้เจ้าว่าอย่างนึกห่วง “เราไปกินของหวานกันมั้ย บิงซูคงทำให้นายรู้สึกดีขึึ้น”

ต่อให้ตอนนี้มีบิงซูเป็นสิบๆ ถ้วยวางอยู่ตรงหน้า ไอ้เอ๋ก็แน่ใจว่ามันคงเครียดอยู่เหมือนเดิม แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนรักของมันเป็นกังวลไปมากกว่านี้จึงรีบกลบเกลื่อน เรียกองค์ชอบของฟรีประทับร่าง “นายเลี้ยงมั้ยนายเจ้า”

“แน่นอน ผมต้องฉลองที่ได้คืนดีกับธราอยู่แล้ว”

“งั้นหลังกินข้าวเสร็จก็ไปต่อบิงซูกันเลย!”

“ได้ วันนี้ได้ตามที่นายขอทั้งนั้น เพราะผมอารมณ์ดีมากๆ”

“แหม ผมนี่แทบอยากหาพวงมาลัยกับน้ำแดงไปไหว้ธราเลยนะ” ไอ้เอ๋ส่งเสียงประชดประชัน “เก่งนัก เปลี่ยนคนหงอยเป็นคนดีดได้ ผมเล่นตลกให้นายดูจนหมดมุขนายก็ยังเอาแต่ซึม”

“ไม่ได้ชื่อธราก็แย่หน่อยอะ”

“คำว่ามิตรภาพนะนาย”

“ผมก็บอกว่ามันกินไม่ได้ นายก็ไม่เคยจำ เฮ้อ” ไอ้เจ้าแสร้งถอนหายใจใส่ เห็นไอ้เอ๋ทำหน้างอแล้วก็ยิ่งชอบใจ อยากแกล้งให้ร้องไห้วิ่งกลับไปฟ้องแม่จ๋าของมันเสียจริงๆ

“นาย” อยู่ๆ ไอ้คนหน้างอก็เปลี่ยนเป็นโหมดหน้าหงอยอีกครั้ง เรื่องที่ทำให้มันนอนไม่หลับกลับมาโจมตีมันอีกหนเมื่อเห็นรอยยิ้มของไอ้เจ้า

ไม่อยากให้หายไป...จริงๆ นะ

“หืม”

“นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะนายเจ้า”

“ฮะ?” ไอ้เจ้าทำหน้างงกับโหมดดราม่าของไอ้เอ๋ “ผมน่ะก็รู้ตัวดีว่าผมเป็นเพื่อนที่ดีนะเอ๋ นายไม่ต้องเยินยอผมขนาดนี้ ผมก็เลี้ยงข้าวเลี้ยงบิงซูนายอยู่แล้ว”

“ผมน่ะนะ...” ไอ้เอ๋ไม่ได้ฟังคำพูดพร่ำยกหางตัวเองของไอ้เจ้า แต่มันกลับเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตากำลังไหลอาบแก้ม “ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย ดีใจมากที่สุดในชีวิตเลย”

“เอ๋ นายเป็นอะไร” ไอ้เจ้าถามด้วยความตกใจ เพราะอยู่ๆ ไอ้เอ๋ก็ร้องไห้ออกมา “ใครทำอะไรนายหรือเปล่าเพื่อน”

ไอ้เอ๋ส่ายหน้า ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ ดวงตาแดงก่ำของมันเอาแต่จ้องมองไอ้เจ้า มือของมันจับแน่นที่แขนของเพื่อนราวกับต้องการยืนยันกับตัวเองว่าเพื่อนรักเพื่อนตายของมันมีตัวตนอยู่จริงๆ “ผมน่ะไม่เคยเข้าใจความทุกข์ใจของนายหรอกนะ เรื่องที่นายรักธรามากๆ ทั้งที่เขาใจร้ายกับนาย นายก็ยังอดทน ไม่เลิกรักเขา ผมก็ไม่เคยเข้าใจ ผมเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลืออะไรนายไม่ได้เลย” พูดพลางสะอื้นเบาๆ “แต่อย่าเลิกเป็นเพื่อนกับผมนะ อยู่ด้วยกันต่อ รับปากได้มั้ยนายว่าจะไม่ไปไหน"

“กาวหรือทินเนอร์ที่เกินขนาดกันนะถึงทำให้นายเล่นบทดราม่าได้เป็นฉากอย่างนี้” ไอ้เจ้าเอ่ยแซว แต่ไอ้เอ๋ไม่เล่นด้วย

“ผมจริงจังนะนายเจ้า” ใบหน้าของไอ้เด็กกาวหัวฟูจริงจังจนไอ้เจ้าหุบยิ้ม “อย่าหายไปไหน รับปากกับผม”

“ฟังนะเอ๋ ผมจะไปไหนได้ ผมก็ยังอยู่กับนายนี่แหละ” ไอ้เจ้าถามกลับ “หรือว่านายงอแงเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอผมเหรอ” พูดเองสรุปเองจนไอ้เอ๋ไม่มีโอกาสแทรก “แต่่ก็แย่หน่อยนะ ช่วงนี้ผมต้องให้เวลากับธราแล้วก็หลังจากนี้ด้วย แบบยังไงดีอะนาย คืนดีกันแล้วก็ต้องจู๋จี๋กันเป็นเรื่องธรรมดา ตัวติดกันก็เป็นเรื่องปกติ นี่แหละ วิถีของคนมีแฟน นายอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนะเอ๋ เพราะนายยังลงจากคานไม่ได้”

ไอ้เจ้าพานอกเรื่องไปไกล แต่ไอ้เอ๋ก็ยังวกเข้าประเด็นเดิม “นายไม่รับปากผมอะ”

“คือบางทีผมก็มีธุระของผมนะเพื่อน” แต่ไอ้เจ้าก็ยังพลิ้ว

“ไม่ใช่ในความหมายนั้นสินาย ผมหมายถึง...” ไอ้เอ๋ดูหัวเสียเล็กน้อย มันทึ้งหัวแล้วขมุบขมิบปากจนนึกกลัวว่ามันจะหัวล้านก่อนวัยอันควร “ไม่รู้จะอธิบายให้นายเข้าใจยังไงดี แต่เอาเป็นว่ารับปากผมก่อนเถอะ”

เมื่อเห็นว่าไอ้เอ๋จริงจังไม่เลิก ไอ้เจ้าก็เลิกเล่นเหมือนกัน มันตั้งคำถามพร้อมกับจ้องหน้าไอ้เอ๋ “นายกลัวอะไรอยู่เหรอหรือมีเรื่องรบกวนจิตใจนายอยู่ เอ๋บอกผมได้มั้ย”

“ผม…” ไอ้เอ๋พูดไม่ออก มันจะบอกเรื่องที่คุยกับแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ให้ไอ้เจ้าฟังได้อย่างไรกัน ในเมื่อแม้แต่มันเองก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ถ้าไม่เพ้อไปเองก็คงจะหลอนจนกู่ไม่กลับ “ไม่มีอะไร” สุดท้ายก็เลือกคำแก้ตัวง่อยๆ ที่ไม่นำพาให้คนฟังรู้สึกเชื่อ “เออจริงสิ ผมไม่รู้เลยนะว่าจริงๆ แล้วนายแก่กว่าผมกี่ปี เอาแต่เรียกนายแบบนี้ บางทีก็เหมือนไม่ให้เกียรติอายุนาย”

“ไม่เห็นต้องคิดมาก แต่คงจะสี่ปีมั้ง เอ...หรือมากกว่านั้น” ไอ้เจ้าตอบ สีหน้าลังเลเล็กน้อย “ผมก็ไม่แน่ใจแฮะ โทษทีนะเพื่อน ผมจำปีเกิดของนายไม่ได้”

“งั้นถ้านายไม่ซิ่ว ตอนนี้นายเรียนหรือทำงานเหรอนายเจ้า” ไอ้เอ๋ถามด้วยความกระตือรือร้นตามนิสัยชอบใส่ใจเรื่องชาวบ้านของมัน ทำให้ไอ้เจ้าไม่ผิดสังเกตแต่อย่างใด

“ถ้าไม่ซิ่วผมก็คงอยู่ปีสี่” ไอ้เจ้าตอบเสียงเรียบ “ว่าแต่เราเดินไปด้วยมั้ย ผมหิวข้าว”

“ได้สิได้ เดินนำเลย ก๋วยเตี๋ยวป้าแย้มกำลังรอนายไปลิ้มลองอยู่นายเจ้า” ไอ้เอ๋ผายมือเชื้อเชิญ ในขณะที่ไอ้เจ้าออกเดินนำ มีไอ้เอ๋คอยเดินตามติดๆ ปากก็ยังไม่ละประเด็นสนทนา “เออ...งั้น นายก็อยู่ปีสี่เท่าธราเลยนะ ใช่ไหม”

“อืม แต่ผมแก่กว่าธราสองปี โอ๊ะ ร้านป้าแย้มปิดอะนาย กินข้าวมันไก่ก็แล้วกัน”

“นายเรียนคณะอะ...โอ๊ย!” หน้าแข้งเจ้ากรรมชนเข้ากับขาโต๊ะเข้าอย่างจังเพราะไอ้เอ๋เอาแต่จ้อไม่ทันได้มองทาง

“เป็นอะไรมากมั้ยเอ๋” ไอ้เจ้าถามขึ้นทันที มันเผลอกวาดตามองสำรวจร้านข้าวในโรงอาหารคณะแค่แป๊บเดียว ไอ้เอ๋ก็กุมหน้าแข้งดิ้นเร่าๆ อย่างน่าสงสาร พอถกขากางเกงขึ้นดูก็เห็นรอยแดงช้ำปรากฏบนหน้าแข้งขาว “ให้ตายเถอะนาย ถ้าขาโต๊ะโรงอาหารคณะหักขึ้นมา พวกไอ้คิ้มต้องมารีดไถเงินจากนายแน่”

“คราวนี้ขาโต๊ะโรงอาหารไปเกี่ยวอะไรกับพวกมันอี๊กกกก” ไอ้เอ๋ถามอย่างหัวเสีย ลากเสียงไฮโน๊ตด้วยความเจ็บใจกับความซุ่มซ่ามของตัวเอง

จะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว ดันมาพลาดชนขาโต๊ะซะได้ ทีนี้จะเริ่มพูดขึ้นอีกยังไงดีเล่า

“พวกมันทำงานสโมฯ ไง นายบอสเพื่อนมันก็ตำแหน่งใหญ่โตเชียว เหรัญญิกหน้าเลือด” ไอ้เจ้าแจกแจงให้ฟัง

“นายบอสที่ธรรมะธรรมโมคนนั้นน่ะนะ” ไอ้เอ๋ทวนถามอย่างไม่เชื่อ ก่อนจะเล่าวีรกรรมของนายบอสให้ไอ้เจ้าฟัง “วันก่อนผมได้ซองผ้าป่าตั้งสามซองจากนายบอส เขาน่ะบอกให้ร่วมทำบุญเพื่อซื้อเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีให้หลวงเจ๊ แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมนับถือแค่วันพีซเท่านั้น ไม่สนใจร่วมทำบุญ”

“ก็ไม่อยากจะถามอย่างนี้หรอกเพื่อนรัก” ไอ้เจ้าเบรกความเมาของไอ้เอ๋ ก่อนมันจะฟุ้งไปมากกว่านี้ “แต่วันพีซไม่ใช่ศาสนาไม่ใช่เหรอ”

“ถ้าใจนายบอกว่าใช่ อะไรก็เป็นไปได้หมดนั่นแหละ” ไอ้เอ๋ตอบกลับด้วยคำพูดที่มันคิดว่าเท่พลางยักคิ้ว “พอ พูดขึ้นมาแล้วก็อยากกลับไปดูตั้งแต่ตอนแรกที่ลูฟี่ออกทะเล นายรู้มั้ยว่าฉากที่ซึ้งที่สุดคือฉากไหน”

ไอ้เจ้าพรูลมหายใจพลางเอ่ยถาม “ฉากที่ต้องลาจากกับเรือใช่มั้ย”

“ใช่ ฉากนั้นเลย” ไอ้เอ๋พยักหน้าหงึกแล้วทำหน้าเลื่อมใสใส่ไอ้เจ้า “นายรู้ได้ไง”

“นายคร่ำครวญให้ฟังหลายครั้งนี่เอ๋ ผมคือคนที่ผ่านสามอาทิตย์ที่กินข้าวไม่ลงไปกับนายนะ”

จำได้ว่าไอ้เจ้าต้องลำบากแค่ไหนที่ต้องคอยลากไอ้เอ๋ไปกินข้าวแทบทุกวัน ทั้งขู่ทั้งบังคับ แต่มันก็ดื้อ อีกทั้งยังชอบทำร้ายตัวเองด้วยการกลับไปดูฉากนั้นซ้ำๆ รีรันไม่รู้กี่รอบ รู้ว่าดูแล้วจะต้องร้องไห้แต่ก็ไม่เลิกดูสักที

“ใช่ๆ ผมร้องไห้อยู่สามวัน กินข้าวไม่ลงตั้งสามอาทิตย์”

“มันต้องขนาดนั้นเลยนะ”

“ผมเศร้ามากอะนายเจ้า คิดดูว่าขนาดเป็นแค่การ์ตูนยังขนาดนี้ ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมจริงๆ ผมคงตรอมใจ”

“นายเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเอ๋ ยังไงทุกคนก็ต้องจากลากันอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว ทุกคนก็ต้องไป โอ๊ะ ร้านนั้นคนน้อย กินข้าวมันไก่ละกันนะนาย เดี๋ยวซื้อมาให้”

ไอ้เอ๋นิ่งงันไปกับคำพูดของไอ้เจ้า มองร่างสูงโปร่งของเพื่อนแล้วอยู่ๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจขึ้นมาว่าใบหน้าของไอ้เจ้าเป็นใบหน้าที่มันรู้จักจริงๆ หรือเปล่า เกิดความรู้สึกชั่วครู่ที่รู้สึกราวกับเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

ความไม่แน่ใจเกิดขึ้นอยู่ในห้วงคิดของไอ้เอ๋หลายครั้ง มันเงียบงัน จ้องมองพลางขบคิด แม้ไอ้เจ้าจะผละเดินไปที่ร้านขายข้าวมันไก่แล้วก็ตาม

ไอ้เอ๋สะบัดศีรษะไล่ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น หลายคืนมานี้มันนอนไม่หลับ คิดว่าคงเบลอไปเองมากกว่า

ไม่มีทางที่ไอ้เอ๋จะจำหน้าของไอ้เจ้าไม่ได้หรอก ไม่มีทางเลย

.

.

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

J. : เดี๋ยวนี้นะ มันชักจะเหิมเกริม

P. : เป็นการเปิดแชตในรอบเดือนที่งงๆ อยู่นะมึง ฟันคุดไอ้มินเดือนบริหารบดขยี้ไอคิวมึงเหรอถึงได้ดูอ๊องๆ แบบนี้

J. : ไปดูไอจีของคนขี้ขิงสิไอ้สัดจะได้หายโง่!

J. : แล้วก็อย่าพาดพิงฟันคุดว่าที่ผัวกูจ้า ฟันคุดแห่งรักน่ะรู้จักมั้ย!

K. : 555 กูว่ากูเข้าใจ

J. : ใช่มั้ย มันมีคนขี้อวดว่ามีพระเจ้าเป็นของตัวเองอยู่ทุกสามชั่วโมงอะ

P. : ไอ้เหี้ยยย กูตกข่าวเหรอ อะไรยังไง ลูกกูเหรอ มันอวดใครวะะะะ

K. : ควายจริงๆ ไอ้แพร์ เสียสถาบันคนขี้เสือกหมด

P. : วันๆ หนึ่งกูทำวิจัย แก้แล็ปไฟลุก แล้วมึงจะให้กูเอาเวลาไหนเสือก!

P. : เวลาจะเต๊าะเด็กยังไม่มีไอ้เหี้ย

K. : ก็คือระบายจริงจัง เอาเป็นว่ากูเข้าใจ

J. : เนี่ย หัวอกเดียวกัน แต่ที่กูไม่เข้าใจคือทั้งๆ ที่พวกเราแห้งเหี่ยวกันอยู่บนคาน แต่ไอ้สัดดินมันชื่นบานอยู่คนเดียวได้ยังไง!

K. : เป็นคนเดียวที่คงคอนเส็ปชื่อกลุ่มได้อย่างน่านับถือด้วย

J. : โคตรขี้อวด ทำอย่างกับไม่เคยมี ถ่ายตั้งแต่เล็บตีนพี่เจ้ายันติ่งหู ไม่รู้เลยว่ารักเขามากแค่ไหน

J. : @D. มึงจะถ่ายทอดชีวิตประจำวันของพี่เจ้าผัวกูขนาดนี้ไม่ได้นะลูก อัพรูปถี่จนกูอยากบอกว่ามึงไลฟ์สดเลยก็ได้ไอ้ห่า

D. : แต่มึงก็ตามกดหัวใจทุกรูปไอ้เหี้ยจอม เป็นอะไรกับแฟนกูนัก

P. : อู๊วววว โผล่หัวมาแล้วและมาแบบชัดเจน

K. : โอ้โห ชัดขนาดนี้แล้วคนนั้นเล่าพี่มึง เขี่ยทิ้งแล้วหรือยังไง

J. : เออ กูก็เห็นออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ในไอจีก็ยังลงรูปมึงอะ แต่คือมึงเป็นแฟนกับพี่เจ้าของกูแล้ว

J. : ไม่มึงงงก็กูนี่แหละงง

D. : งงไรวะ คนอื่นจะยังไงก็เรื่องเขาดิ ส่วนเรื่องกูก็มีแค่กูกับเจ้า

P. : ซีนนี้คนเป็นพ่ออย่างกูต้องร้องไห้มั้ย กูรู้สึกว่าลูกกูเลิกเหี้ยว่ะ เหี้ยไม่ใช่ดินแล้ว แต่เหี้ยหมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยสิงร่างลูกกูมาก่อน

J. : ในฐานะแม่ก็อยากจะบอกว่าภูมิใจ แต่ถ้าเมียลูกไม่ใช่ว่าที่ผัวของแม่ แม่ก็จะภูมิใจมากกว่านี้ ฮรึกกก

K. : ตกลงมึงจะเอาใครแน่ไอ้จอม ไอ้เจ้าหรือไอ้มิน

P. : มึงก็ถามเหมือนมันเลือกได้ แต่ความจริงถามว่ามีสักคนที่สนใจมันมั้ย

D. : ก็ไม่

J. : เจร่บบบบบบ

P. : เออ พูดถึงไอ้เจ้า กูว่าเพื่อนไอ้เจ้าช่วงนี้แปลกๆ

J. : ขอคิดจุดเชื่อมโยงก่อน ทำไมมึงพูดถึงเพื่อนพี่เจ้านะพ่อมึง

K. : ครอบครัวเราจะมีแม่อย่างมึงจริงๆ เหรอจอม ให้กูเป็นแค่ลูกติดไอ้แพร์ได้มั้ย มันดูฉลาดคู่ควรกับสมองกูดี

J. : ยอมรับก็ได้ว่าโง่ แต่ช่วยบอกกูหน่อยว่าทำไมมันพูดถึงเพื่อนพี่เจ้า

D. : มันจีบอยู่ แต่เพื่อนเจ้าไม่ชอบมัน

K. : กูว่าใช้คำว่ารังเกียจได้เลยนะ น้องดูแขยงเวลามันเข้าใกล้

J. : เอ้า นี่พ่อมึงไปนอกใจกูตอนไหนวะ อยู่ข้างห้องกันมานานไหนบอกไม่เอา ไม่ชอบไง

P. : โง่

D. : @P. มันแปลกอยู่แล้วไม่ใช่?

P. : ถ้าอิงบนพื้นฐานความกาวของน้อง กูก็ว่าปกติ แต่แบบช่วงนี้มันยิ่งไม่ปกติว่ะ

K. : ยังไงวะ? น้องมันมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า

J. : นั่นสิ อยู่ข้างห้องกันก็ถามหน่อยก็ดีนะเว้ย น้องอยู่คนเดียวด้วย น่าจะเหงา เพราะช่วงนี้พี่เจ้าโดนไอ้ห่าดิน ลูกทรพีของกูยึดตัว น้องคงไม่มีเพื่อนเล่นด้วย

P. : เออ กูก็ถามแหละ เพราะมันเอาแต่ถามเรื่องวันเดือนปี

K. : คณะให้ทำสำรวจอะไรหรือเปล่าวะ

P. : ไม่ มันเอาแต่ถามว่าวันนี้วันอะไร

J. : เชี่ยยย น้องหาเรื่องคุยกับมึงหรือเปล่า เหยยย แก บ้าน่า ไอ้แพร์จะลงจากคานก่อนกูเหรอ ไม่ได้นะเว้ยพ่อมึง เราจะยังหย่ากันไม่ได้

K. : คือมีผัวทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

D. : น้องมันถามทำไมไอ้แพร์ @P.

P. : ไม่รู้เหตุผล แต่ที่แปลกคือกูก็ตอบไม่ได้ว่ามันคือวันอะไร

K. : มึงลืมเหรอ

J. : โง่จริง จำวันไม่ได้ก็เปิดปฏิทินดู

P. : แล้ววันนี้วันอะไร

K. : ใครจะรู้วะ

J. : ควายกันทั้งหมด วันนี้วันอังคารไง กูจำได้ว่าห้องเด็กวันอังคาร ตอนเลิกคลินิกกูยังคิดว่าจะไปหาหมอตรวจหูอยู่เลยนะไอ้เหี้ย เสียงร้องไห้ทำลายแก้วหูกูมาก ถ้าไม่ใช่ไอ้ดินคือสยบไม่ได้จริงๆ นะ ฟันน้องต่ายคือไอเทมพิเศษ

K. : ห้องเด็กย้ายวันแล้วนี่ไอ้จอม ย้ายไปวันศุกร์ไม่ใช่เหรอ วราพลจัดตารางใหม่แล้ว

D. : ไม่ ไม่ใช่วันศุกร์ เมื่อวานต่างหากห้องเด็ก

P. : แล้วเมื่อวานวันอะไร

J. : ดูปฏิทินแป๊บ

K. : ของกูรวนว่ะ มันดูไม่ได้ เปิดแล้วจอมันกระพริบ

P. : จอมว่าไง

D. : เมื่อวานวันพุธ

K. : บ้าน่า เมื่อวานกูนอนตีพุงอยู่ห้องนะเว้ย มันวันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอวะ

P. : @J. จอม ว่าไง

K. : รู้สึกถึงความเคร่งเครียดผ่านตัวอักษร มีไรหรือเปล่าไอ้แพร์

P. : รอไอ้จอมก่อน

J. : โทษที มือถือกูดับไปเลยอะ เข้าแอพแล้วค้าง หน้าจอเบลอหมดแล้วมันก็ดับ

P. : เป็นเหมือนกู

K. : ของไอ้ดินไม่เป็นใช่ปะวะ

D. : เปล่า

D. : เป็นเหมือนกัน

P. : แล้วมึงรู้ได้ไงว่าวันพุธ

D. : ดูจากมือถือเจ้า

P. : อืม ก็ยังดีที่ไม่พังกันหมด แอพเจ๊งอย่างนี้กูจะร้องเรียนผู้พัฒนา

K. : แต่กูพูดจริงๆ ว่าเมื่อวานไม่ได้ไปเรียน กูมั่นใจว่าเป็นวันอาทิตย์ก็เลยนอนอยู่ห้องจริงๆ นะเว้ย

P. : มึงมาเรียนนะคิน กูเจอมึงที่ห้องเอ็นโดแต่ไม่ได้ทัก

K. : กูไม่ได้ไปไอ้เหี้ย

J. : วันนี้ห้องเด็กจริงๆ นะมึง หูกูยังวิ้งๆ ไม่หายเลย

D. : วันนี้มึงอยู่ศัลฯ ไอ้จอม กูยังเห็นมึงโดนวราพลสวดยับ

K. : …

K. : กูว่านะ

K. : ไม่ควรแกล้งกันแบบนี้

K. : โบราณเขาถือนะเว้ย

P. : กูไม่ได้แกล้ง

D. : กูก็เหมือนกัน

J. : กูก็พูดจริงว่าวันนี้คลินิกเด็ก

K. : เกิดเรื่องเหี้ยไรขึ้นวะ

P. : กูจะรู้มั้ย

D. : คุยกันไปก่อนนะ เจ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว มันบอกจะนอนเลย กูดูมันก่อน

J. : หูยยย นอนเร็ว จะทำไรกันป่าวเนี่ย ไม่เอานะลูก ยังเด็กยังเล็ก

D. : ก็ยังจะเล่นไอ้ห่า มันไม่สบาย

P. : อ้าว มันเป็นไรวะ ตั้งแต่ไปร้านเหล้าฉลองครบสองปีของพวกมึงวันนั้นก็ไม่เจออีกเลย

D. : มันไปห้องไอ้น้องเอ๋บ่อยๆ มึงไม่เจอมันเลยหรือไง หรือว่ามันโกหกกูว่าไปหาเพื่อนวะ

J. : อ้าว ไอ้สัดแพร์ เผาบ้านเพื่อนไอ้ห่า

P. : เออ ไม่มีไรหรอกมั้งมึง กูก็ไม่ค่อยได้กลับห้องอะ ช่วงนี้ไม่อยู่คณะก็ช่วยไอ้แพมทำแล็ป

D. : ก็แล้วไป เกือบได้รังแกคนป่วย :)

K. : หาเรื่องรังแกอยู่แล้วปะวะ หึ

P. : แล้วมันเป็นไร ปกติแข็งแรงจะตายห่า ไม่เคยเห็นมันป่วย

D. : ไม่รู้ว่ะ จะพาไปหาหมอมันก็ไม่ไป

J. : เป็นไข้เหรอวะ

D. : ไม่นะ แต่สีหน้ามันทรมานเหมือนเจ็บอะไรสักอย่าง ถามก็ไม่บอกว่าเจ็บตรงไหน เจ็บจนหน้าซีดแทบไม่มีสีเลือดแล้วยังบอกไม่เป็นไร โคตรน่าตี

J. : พาไปหาหมอเถอะอย่างนี้ ไม่ใช่เล่นแล้วอะ

D. : มันไม่ไปท่าเดียว ทะเลาะกันไปหลายรอบแล้ว

K. : ให้ไอ้รพินทร์น้องไอ้พีมไปดูมันมั้ย เผื่อช่วยไรได้

J. : ไอ้รพินทร์มันเพิ่งเรียนผ่าอาจารย์ใหญ่ไปเมื่อวาน จะช่วยพี่เจ้าของกูได้ยังไงไอ้โง่ พาไปหาหมอจริงๆ สิโว๊ย!

K. : สายรหัสมันไง พวกเอ็กเทิร์นก็น่าจะได้

P. : เอ็กเทิร์นมอเราช่วงนี้แยกไปฝึกต่างจังหวัดไม่ใช่เรอะ ล่าสุดกูยังเห็นไอ้พี่แจ๊บโพสรูปแดกเหล้าอยู่กับยามฯ หน้าตึกผู้ป่วยนอกที่สุรินทร์

P. : เพราะงั้นอย่างที่ไอ้จอมบอก ลากมันไปหาหมอ

D. : กูเคยพาไป

D. : แต่ไม่เคยไปถึงว่ะ เพราะมันไม่เคยป่วยก็เลยไม่ได้เฉียดโรงพยาบาลกันเลย แล้วพอจะไปจริงๆ รถก็เสียบ้าง ยางแบนบ้าง สารพัดอุปสรรค ลากขึ้นแท็กซี่ แท็กซี่ก็พาไปไม่ถูก

K. : ว๊อทททท โรง’ บาลมอตั้งตระหง่าน อยู่บนดอยอินทนนท์มองลงมาก็ยังเห็นยอดตึก อธิการมอเราเวอร์แค่ไหนมึงก็รู้ แต่อะไรคือไปไม่ถูก

J. : แต่ถ้าเขาไปไม่ถูก มึงไม่บอกทางเขาเหรอวะไอ้ดิน ศูนย์ทันตกรรมมอเรากับโรงพยาบาลมอมันตั้งอยู่ข้างๆ กันเลยนะ เมื่อก่อนตอนมึงเคลมดาวแพทย์มึงก็ปีนรั้วไปหาบ่อยๆ ไม่ใช่เรอะ ว่าแล้วกูยังนับถือความพยายาม รั้วห่างกันครึ่งกิโลก็ยังหาทางส่งข้าวกล่องให้กันจนได้

D. : เออ ก็ใช่ กูก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ถ้าคันเดียวกูก็ยังจะคิดว่าแม่งอิดออดไม่อยากไปส่งเพราะเส้นหน้ามอรถติด แต่คือทุกคันเลยนะที่ไปไม่ถูก ส่วนกูบอกทางไม่ได้เพราะพอขึ้นบนรถแล้วงงเลยว่าอยู่ทิศไหน มองผ่านกระจกรถแล้วมันไม่คุ้นตาไปหมด

D. : พอจะพาไปคลินิกเล็กๆ แถวคอนโดฯ มันก็บอกหายแล้ว ไม่เจ็บแล้ว ท่าทางก็ดีขึ้นจริงๆ กูก็เลยไม่รู้เนี่ยว่าตกลงมันโกหกหรืออะไรยังไง

J. : พี่เจ้าไม่เคยโกหก มึงจำ!

K. : มีแต่เรื่องแปลกๆ หรือพวกเราเรียนหนักจนเบลอกันวะ ตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมของปีสามก็คือไม่รู้จักคำว่าปิดเทอมอีกเลย

P. : ไม่รู้แม่ง แต่ตอนนี้มึงไปดูมันเถอะไอ้ดิน มีไรให้ช่วยก็บอก

D. : อือ ถ้าจะมีอะไรให้ช่วยก็คือมาช่วยกูลากมันไปหาหมอนี่แหละ ดื้อฉิบหาย

J. : เคๆ แยกย้าย





ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17

ธราวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วหันมองคนที่เพิ่งขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆ กัน ไอ้เจ้าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ สีหน้าของมันไม่สู้ดีนัก ซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง หลายวันมานี้อาการของมันแย่ลงเรื่อยๆ จนเขาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ห่วงว่าไอ้คนที่สุขภาพดีมาตลอดคนนี้จะป่วยร้ายแรงแล้วไม่ยอมบอก

“เป็นไงบ้าง” ธราเอ่ยถามพลางดึงร่างผอมบางของไอ้เจ้าเข้าสู่อ้อมกอด มือก็คอยลูบศีรษะของมันเบาๆ “พรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้นมึงต้องไปหาหมอจริงๆ แล้วนะเจ้า”

“ไม่อยากไป” ไอ้เจ้าส่งเสียงอ้อน ซุกหน้ากับอกกว้างของธราพลางถูไถไปมาจนเขาถึงกับต้องข่มตัวเองไม่ให้ลงมือรังแก ทั้งที่กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำยั่วยวนให้ฝังจมูกลงสูดดมใกล้ๆ “ไม่ชอบโรงพยาบาล”

“ทำไมดื้ออย่างนี้” ริมฝีปากหนากดลงบนหน้าผากเนียนเน้นๆ เพื่อเป็นการลงโทษคนหัวดื้อ ทว่าคนถูกลงโทษกลับรู้สึกราวกับได้รับรางวัลเสียมากกว่า “เป็นห่วงมากไม่รู้หรือไง”

“อย่าห่วงเลยครับ มันเจ็บแค่เป็นพักๆ เดี๋ยวก็หาย”

“คำว่าเดี๋ยวของมึงกินเวลาเกือบสัปดาห์แล้วเจ้า” ธราไม่อ่อนข้อ เขาสังเกตมันอยู่ตลอด แต่มันก็ดื้อไม่ยอมรับ “รอยแผลเป็นที่อกมึงน่ะ ไปให้หมอดูดีกว่ามั้ย อย่าโกหกกูเลยว่าไม่ได้เจ็บตรงนั้น”

“หมอดูจะช่วยอะไรผมได้” ไอ้เจ้ายียวนจนโดนเขกกบาลเข้าให้ มันแสร้งร้องโอดโอยพลางมองค้อน “ก็คือชอบใช้กำลังกับเมีย”

“ก็มีเมียดื้อ พูดไม่ฟังก็ต้องตี”

“งั้นตีแรงๆ เลยได้มั้ย” ช้อนตาขึ้นมองอย่างเชิญชวน “แบบ...เจ้าชอบเจ็บๆ อื้อ..อ อ๊าาา มันต้องแบบ...ดีต่อใจแน่เลย”

ธราได้แต่ส่ายหน้าระอา คนปากเก่งคงไม่รู้เลยว่าอันตรายแค่ไหนถึงได้ยั่วยวนในตอนที่ยังอยู่ในอ้อมกอดกันอย่างนี้ “เดี๋ยวได้ครางจริง”

“ขู่บ่อยจนจะไม่กลัวแล้วนะ ไม่ทำสักที”

“ก็…” ธรากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “ถ้าแข็งแรงแล้วกูถึงจะทำ ตอนนี้ขืนทำไปก็คงเหมือนรังแกคนป่วย”

“ก็ถ้าไม่หายป่วย คุณหมอขาต้องฉีดยาให้แล้วนะเนี่ย” ไอ้เจ้าจีบปากจีบคอในขณะที่ธราหัวเราะร่วน มันกวนไม่เลิกจริงๆ “เข็มใหญ่ๆ ของคุณหมอขาจะช่วยได้มั้ยน้า”

“ก็ต้องลองดูนะคะ” ธราเล่นด้วย เขาทำเสียงอ่อนเสียงหวานพลางยิ้มอ่อนโยนจนไอ้เจ้าระทวย “แต่เข็มหมออันใหญ่ ไม่รู้คนไข้คนนี้จะรับไหวหรือเปล่า”

“ขอดูเข็มก่อนได้มั้ย จะได้รู้ว่ารับไหวหรือไม่ไหว” คนปากเก่งยังคงแกล้งยั่ว โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้แววตาของธราที่ทอดมองมานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์แบบไหน เพราะถ้ารู้ก็คงไม่ปากเก่งเช่นนี้แน่

“แค่ดูเหรอคะ” ธราเอ่ยถาม ความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ในน้ำเสียง ก่อนมือของเขาจะชักนำมือของไอ้เจ้าให้ไปวางแนบตรงกลางกายเพื่อสำรวจเข็มฉีดใหญ่เล่มใหญ่ที่ภูมิใจนักหนา “จับด้วยสิ หมออนุญาต”

“คุณหมอลามกแล้ว” ใบหน้าของไอ้เจ้าร้อนผ่าวไปหมด มันแพ้ธราโหมดนี้จริงๆ “นี่คนไข้นะหมอ หมอจะทำอย่างนี้ไม่ได้ มันแบบ...ฮึ่ม พูดแล้วใจสั่นเลย”

“ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนไข้คนพิเศษ” ธรากดจมูกลงบนแก้มของไอ้เจ้า สูดดมความหอมจนเจ้าของมันหัวใจเต้นแรง “ไหนขอหมอตรวจร่างกายหน่อย จับเข็มหมอแล้ว คราวนี้หมอขอตรวจคนไข้บ้าง”

“แต่หมอเป็นหมอฟัน” ไอ้เจ้าแย้งพลางหยุดมือปลาหมึกไว้ “ลืมหรือเปล่าเนี่ย”

“ก็จะตรวจแบบหมอฟันไง” เสียงทุ้มกล่าวต่อพลางบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมแล้วเริ่มสำรวจร่างกายคนไข้คนพิเศษ มือข้างหนึ่งของเขาถูกสอดเข้าไปใต้เสื้อนอน สำรวจผิวนุ่มลื่นมือที่ยังคงกรุ่นไปด้วยกลิ่นของครีมอาบน้ำ ส่วนอีกข้างลงสำรวจด้านล่าง ปัดผ่านกลางกายของไอ้เจ้าแล้วลูบไล้บริเวณขาอ่อนด้านใน

“ตรวจแบบไหนของหมอครับเนี่ย” แม้จะเอ่ยถามราวกับไม่ชอบใจแต่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขืนมากนัก กลับให้ความร่วมมือเสียด้วยซ้ำ ในตอนที่มือหนานั้นพยายามถอดกางเกงของมัน มันก็ยกสะโพกขึ้นเพื่อให้เขาถอดได้อย่างถนัด “อื้อ..อ”

“ก็ตรวจแบบนี้” เสียงทุ้มแหบพร่าตอบกลับ มือก็ยังคงสำรวจ “ตรวจเสร็จก็...ฟันเลย ตามวิธีของหมอ...ฟัน”

“อืมม..ม ตามใจคุณหมอครับ”

ถึงไอ้เจ้าจะเอ่ยอนุญาตและธราก็อยากทำตามที่ใจนึกคิด ทว่าใบหน้าซีดเซียวของไอ้เจ้าไม่นำพาให้เขาสานต่อความปรารถนา ยิ่งเมื่อเห็นรอยแดงบนแผลเป็นตรงกลางอกของมันเขาก็ยิ่งห่วง เขาจึงทำเพียงแค่สำรวจและบดจูบกลีบปากบางเป็นการระบายเท่านั้น เขาดูดงับ รุกล้ำเข้าไปสำรวจในโพรงปากอุ่นแล้วผละออกห่างอย่างข่มอารมณ์ความต้องการจนถึงที่สุด

“รอหายดีก่อนดีกว่า” ว่าพลางทอดมองร่างกายเปลือยเปล่าของไอ้เจ้าอย่างนึกเสียดาย ร่างผอมนี้น่ามองไปทุกส่วน ทั้งที่คิดว่ามันผอมเกินไป แต่พอได้กอดแล้วกลับนุ่มนิ่ม ผิวกายของมันก็หอมจนไม่แน่ใจเลยว่าหากครั้งต่อไปได้สัมผัสอีก เขาจะอดทนไม่รังแกได้อย่างไร

“หยุดกลางครันอีกแล้ว” ไอ้เจ้ามองตาปรอย ริมฝีปากบวมเจ่อของมันขยับเมื่อส่งเสียงพูดจนธราที่มองอยู่อดไม่ไหวต้องก้มลงไปบดจูบอีกครั้ง “อือ..อ ทำต่อนะดิน เจ้าอยากเป็นของดิน”

“มึงไม่สบาย”

“เจ้าไหว” คนดื้อยืนยัน “รักเจ้าแรงๆ เลยก็ได้”

“มันเจ็บไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยน “กูจำได้นะ” เขายกมือขึ้นไล้ไปตามแก้มของไอ้เจ้า “วันที่เราทำกันครั้งแรก”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วมองธราอย่างไม่เชื่อ “ไม่จริงน่า...”

“จริง” เขายืนกราน “ตอนที่เกือบทำกันเมื่อสองวันก่อน อยู่ๆ ก็เหมือนได้ยินเสียงครางของมึงดังขึ้นในหัว แล้วก็จำได้ว่าเคยเข้าไปในตัวมึงมาแล้ว”

สมองของมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความพิศวง หลายครั้งที่พยายามนึกถึงความทรงจำที่หายไปธรากลับนึกไม่ออกและหลายครั้งที่ไม่ได้พะวงถึงกลับผุดวาบขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนเช่นเมื่อสองวันก่อนที่เขาและไอ้เจ้าต่างสัมผัสกันจนเกือบเลยเถิด เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นของมันยามที่ถูกริมฝีปากของเขาครอบครองตรงกลางกายก็ยังติดอยู่ในห้วงคิด ไอ้เจ้าน่ามองและหวานไปทั้งตัวจนเขาแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว มือของเขาลูบไล้ไปทั่วผิวกาย สัมผัสในจุดที่คิดว่าจะเรียกเสียงครางหวานจากคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนได้ เขาพรักพร้อม แกนกายเต็มแน่นไปด้วยความต้องการที่อยากจะเข้าสำรวจช่องทางรักที่ปิดแน่น แม้แต่นิ้วเรียวยาวของเขาก็ยังเข้าสำรวจได้ยาก ทว่าอยู่ๆ ไอ้เจ้าก็ร้องขึ้นด้วยความทรมาน มือของมันจับที่กลางอก ใบหน้าซีดเผือดลงถนัดตาจนเขาหยุดการกระทำทุกอย่างไว้ แล้วเขาก็จำได้ว่าในครั้งหนึ่งก็เคยเห็นภาพแบบนี้ ภาพที่ไอ้เจ้านอนอยู่ใต้ร่างของเขา สองขากางกว้างเพื่อรอให้ตัวของเขาแทรกเข้าไป แต่ในตอนนั้นมันไม่ได้มีสีหน้าทุรนทุรายขนาดนี้หรือถึงแม้จะทุรนทุรายแต่ก็เจือไปด้วยความสุขสม

“จำผิดแน่ๆ” ไอ้เจ้าไม่ยอมรับ แต่หน้ามันแดงลามไปจนถึงใบหู “ว่าแต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นคุณตื่นกลางดึกเลยนะดิน กลับไปนอนหลับสนิทแล้วเหรอ”

“อืม เพราะมีแต่ฝันดีๆ จนกูไม่อยากตื่น” ธราตอบ หลายวันมานี้เขานอนหลับได้ดีจนไม่เคยคาดคิดว่าก่อนหน้านั้นต้องปวดหัวและสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะความฝัน “มันเหมือนกูได้กลับไปใช้เวลาอยู่กับมึงในตอนนั้น มีความสุขไปด้วยกันทุกๆ วัน”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อได้ยินและคราวนี้ก็เป็นรอยยิ้มที่ทำให้พระจันทร์เสี้ยวดวงสวยปรากฏ “ตอนนี้เราก็มีความสุขกันแล้วนะ ยังจะไม่อยากตื่นอีกเหรอครับ”

“ความสุขมันก็มี สุขมากๆ ด้วยเวลาได้อยู่ด้วยกัน แต่กูรู้สึกกังวลนะเจ้า ยิ่งเห็นมึงไม่สบายแบบนี้กูยิ่งใจไม่ดี” คงเพราะไม่เคยเห็นไอ้เจ้าป่วย ตลอดสองปีที่มีมันเข้ามาในชีวิตธราก็ไม่เคยนึกกังวลใจ คิดไปด้วยซ้ำว่าคนบ้าๆ คงไม่มีวันเจ็บป่วยจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ขนาดต่อยตีมันมันก็ยังทำเหมือนไม่เจ็บไม่ปวด ทว่าในตอนนี้อาการป่วยของมันคงรุนแรงจนคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกถึงกับเผยความอ่อนแอให้เห็น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเอาแต่กังวล พยายามให้มันอยู่ในสายตาตลอดเวลาและยิ่งกังวลเมื่อความรู้สึกว่ามันจะหายไปรุนแรงมากขึ้นทุกขณะที่เวลาเคลื่อนผ่าน

“เจ้าไม่เป็นอะไรหรอกดิน อย่ากังวลไปเลย” ไอ้เจ้ากล่าวอย่างหนักแน่น แต่คนฟังมั่นใจว่าเป็นเพียงคำโกหก

“ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร ก็ทำสีหน้าให้มันดีขึ้นหน่อยได้มั้ย” ธราว่าเสียงดุพลางผละออกห่างเพื่อมองใบหน้าของไอ้เจ้าให้ชัด “ดูเอาเถอะ ตอนพูดยังหน้าซีดขนาดนี้”

“อยากให้หน้าเจ้ามีเลือดฝาด คุณก็ทำให้เขินหน่อยซี”

คนฟังได้ยินก็หัวเราะในลำคอ ก่อนจะลงมือทำให้คนอวดเก่งเขินเป็นจริงเป็นจัง เขาถอดเสื้อที่ใส่นอนออกเผยให้เห็นแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จากที่ผละห่างก็กลับเข้าไปแนบชิด แล้วจัดการครอบครองกลีบปากบางของคนที่ส่งสายตาเชิญชวนมาให้อย่างรวดเร็ว “ยังไม่เข้าไปนะ” เขากระซิบ “วันนี้จะช่วยให้เจ้าหลับสบาย”

“ทำยัง--” คนช่างสงสัยได้คำตอบทั้งที่ยังถามไม่จบประโยคเสียด้วยซ้ำ เมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนเบื้องหน้าถอยร่นลงไปจนถึงกลางกาย ในระหว่างนั้นก็กดริมฝีปากจูบย้ำไปตลอดทางที่ลาดลงสู่จุดอ่อนไหว ยิ่งที่แอ่งสะดือและยอดอกสีหวานก็ถูกเรียวลิ้นร้อนเล่นงานจนเจ้าของมันถึงกับบิดกายเร่า นิ้วมือนิ้วเท้าจิกเกร็งด้วยความซ่านเสียว

“อาา..า ดินครับ ดิน”

ธราได้ยินเสียงครางเรียกชื่อเขาแล้วก็ยิ่งเพิ่มแรงดูดดุน ริมฝีปากของเขาในตอนนี้กำลังครอบครองปลายยอดแห่งความกระสัน เขากดลิ้นดุนดันพลางห่อริมฝีปากตอบรับขนาดของแกนกายร้อน เรียวลิ้นยาวใช้งานได้อย่างช่ำชองในขณะที่ปลายนิ้วนั้นบดขยี้ยอดอกของคนรัก

ไอ้เจ้าทอดสายตามองภาพที่ราวกับความฝัน ธรากำลังแทรกอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของมันพลางขยับโยกศีรษะเพื่อมอบความรัญจวนให้ ทั้งที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เขากลับมาอีกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าการกระทำเช่นนี้จะเกิดขึ้น

“อืมม..ม ที่รัก อาา..า เจ้า อื้มม..ม เสร็จ อาา..า ซี้ดดด..ด”

ผมจะทำยังไงดี

“เจ้าขอเสร็จในปากดินนะครับ อืมม..ม ดิน! อาา อ๊ะ!”

เพราะเป็นอีกครั้งแล้วที่ในความสุขนั้นแฝงไปด้วยความทรมาน

หัวใจของไอ้เจ้าเต้นกระหน่ำอย่างหนักหน่วง มันกระตุกเกร็งไม่กี่ครั้งในขณะที่ปลดปล่อยความต้องการในโพรงปากของธรา มือทั้งสองข้างก็กดศีรษะเขาเข้าหาระหว่างนั้นก็แอ่นสะโพกขึ้นเพื่อให้แกนกายนั้นถูกครอบครองอย่างแนบแน่น ส่วนเขาก็ไม่ได้ขืนตัวออกกลับช่วยไอ้เจ้ารีดเค้นหยาดแห่งความสุขออกมาจนหยดสุดท้ายและกลืนกินลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ

“ขอบคุณครับดิน” ไอ้เจ้าบอกพลางคลี่ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน

“หน้าแดงแล้ว” ธราหยอกล้อ เขาขยับขึ้นมานอนเคียงข้างไอ้เจ้าแล้วดึงมันเข้าไปกอดตามเดิม “สบายตัวมั้ย”

“อือ แต่ดินคงอึดอัด”

“เดี๋ยวจัดการเอง” เขาบอกน้ำเสียงสบายๆ แม้สีหน้าจะอึดอัดอย่างที่ไอ้เจ้าว่า “เจ้านอนพักเถอะ”

“อืม งั้นฝันดีนะดิน”

“ฝันดีครับที่รัก”

ไอ้เจ้ายิ้มกว้างด้วยเพราะได้ฟังถ้อยคำที่ไม่คาดฝัน “หูยย ต้องฝันดีแน่นอนเลยแบบนี้”

“ก็อยากให้ฝันดีนั่นแหละ รีบนอนเลย ไม่งั้นจะให้รับผิดชอบนะ”

“พูดแบบนี้แล้วใครจะอยากนอน”

“พอก่อน อย่าทดสอบความอดทนกูนักเลย”

“ฮ่าๆ ๆ นอนแล้วก็ได้” ว่าแล้วไอ้เจ้าก็หลับตาพริ้มลงทันที

ธราเมื่อเห็นคนที่หลับตาลงง่ายดายอย่างนั้นก็ปล่อยร่างผอมเป็นอิสระ จัดแจงห่มผ้าให้แล้วเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำและกว่าเขาจะออกมาไอ้เจ้าก็หลับสนิทด้วยท่านอนประจำของมันไปแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ท่านอนตะแคงงอตัวเหมือนกุ้งนี่มันสบายตรงไหน แต่เห็นมันหลับลงได้เขาก็สบายใจไปอีกเปลาะ เพราะขืนก่อนๆ มันทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดจนแทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว

เขาทอดมองคนที่นอนหลับสบายเพียงครู่ก็เดินไปหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศขึ้นมาปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงานพร้อมโทรศัพท์มือถือที่หยิบติดมือมาด้วย เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน สำรวจโทรศัพท์มือถือของตัวเองด้วยความสงสัยเพราะจนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถดูปฏิทินได้ เวลาก็เหมือนจะเคลื่อนช้าลง ทั้งที่ราวกับผ่านมานานเกือบสามชั่วโมงแต่ความจริงแล้วก็เพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่รู้ว่านาฬิกาผิดเพี้ยนหรือความรู้สึกของเขาผิดเพี้ยนกันแน่ เพราะโทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้าก็ยังคงเป็นปกติ

สงสัยต้องให้ไอ้แพร์ร้องเรียนผู้พัฒนาอย่างจริงจังซะแล้ว

เขาพรูลมหายใจออกมาเมื่อพบว่าไม่มีประโยชน์ที่จะหาสาเหตุเพราะเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเท่าไรนัก แค่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นและใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนทำให้ธราหลุดจากภวังค์ความคิดก่อนจะมองข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอ จันทร์เจ้าส่งข้อความมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าข้อความนี้เป็นข้อความที่เท่าไรแต่เขาก็ไม่เคยตอบกลับไปเลย ครั้นจะให้บล็อกการติดต่อ อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าหากเขาทำอย่างนั้นแล้วก็จะบุกมาหาถึงที่คอนโดฯ แม้จะขึ้นมาจนถึงห้องของเขาไม่ได้เพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา แต่ก็เคยเจอดักรออยู่ที่ล็อบบี้ ปักหลักอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนเหมือนกัน





(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

D. : เครียดว่ะไอ้เหี้ยเอ๊ย





เขาระบายลงในแชตกลุ่มเพื่อหาที่ระบาย หลังจากเปิดอ่านข้อความของจันทร์เจ้าแล้วพบว่าคิดผิดที่เปิดอ่าน ฝ่ายนั้นยังคงพยายามยัดเยียดความเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันให้กับเขาและไอ้เจ้า บางข้อความก็พิมพ์มาเสียยืดยาวจนเขาขี้เกียจที่จะให้ความสนใจ เขากวาดสายตามองคร่าวๆ แล้วลบบทสนทนาทิ้งในทันที





K. : พ่ออออ ลูกมึงเครียด มาปลอบลูกหน่อยพ่อ @P.





ไอ้คินสาระแนมาคนแรก บทบาทพ่อแม่ลูกกับพวกเพื่อนๆ นั้นสนุกสนานไม่น้อย มีไอ้แพร์เป็นพ่อ ไอ้จอมเป็นแม่ และไอ้คินเป็นน้องชาย ครอบครัวประสาทเสียที่มีแม่อย่างไอ้จอมคอยแต่จะตีท้ายครัวเขา ครอบครัวที่เขารู้สึกว่าเป็นจริงมากกว่าครอบครัวที่ทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง





P. : ว่าไงไอ้ลูกเวร เครียดอะไรนักหนา รีบพูดมาก่อนที่กูจะต้องไปอยู่กับฟันปลอมที่เป็นแม่เลี้ยงของมึง

K. : มึงว่าชาติก่อนเราเคยไปต่อยคนจนฟันร่วงหมดปากปะวะ ชาตินี้ถึงต้องมารับกรรมนั่งทำฟันปลอมงกๆ

J. : พี่เจ้านอนละยังงงงง ขอรูปเป็นกำลังใจ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก คือแบบกลางคืนยาวนาน แต่กลางวันก็เหมือนยิ่งยาวกว่า กูเหมือนตกอยู่ในนรกครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกงงๆ เบลอๆ

D. : Sent a photo.





ธรากดส่งรูปที่ไอ้เจ้านอนคว่ำตะแคงใบหน้าหลับตาพริ้ม สีหน้าดูอ่อนแรง โดยแผ่นหลังที่ไม่สวมใส่เสื้อนั้นเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบที่เขาเป็นคนทำ





J. : กี๊ดดดดดด มึงทำอะไรพี่เจ้าา ไอ้เหี้ยดิ๊นนนน

D. : ทำรัก

P. : ถ้าจะขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูด กูจะไปแก้แล็ปต่อแล้วนะ ไม่อยากกินต้มยำตอนนี้

D. : อยู่ก่อน

P. : พิมพ์สิว่า ‘ขอร้อง’

D. : ไอ้สัด

K. : เป็นลูกทรพีมากเลยพี่มึง ว่าแต่เครียดไร คนที่วราพลชมแล้วชมอีกอย่างมึงมีเรื่องให้เครียดด้วยเรอะ

D. : จันทร์แม่งตื้อกูไม่เลิก

J. : ผูกเองแก้เองเด้อ

D. : แก้แล้วแต่เหมือนยิ่งแก้ยิ่งแน่น

D. : ไม่อยากให้เจ้าไม่สบายใจว่ะ เพราะกูตัดแล้วเคลียร์แล้ว แต่เขาไม่เลิกตามสักที

P. : มึงไปทำอะไรให้เขาหลงหัวปักหัวปำนักหนาวะ

K. : กูว่าตามประสามันอะ ตอนสนใจก็เทคแคร์ดูแลเก่ง แต่ตอนจะเทคือเทเลย กูไม่สน กูไม่เอา

J. : ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ไง กรรมตามทันแล้ว คือชัดเจนกับพี่เจ้าแต่แรกก็ไม่มีปัญหาอะไอ้เหี้ย

P. : จริง ก็รักขนาดนั้นแต่ก็ยังเถียงว่าไม่รัก กูนี่งงเป็นพักๆ เลย รู้สึกเป็นพ่อที่แย่มากที่ไม่เคยเข้าใจลูก เลยทำให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา เป็นภัยสังคม ฮึกกก แม่ เราควรมอบตัวกับตำรวจ

K. : ไปขอกาวข้างห้องมาดมหรือไงวะ มึงดูเมาๆ แต่ก็เห็นด้วยที่ว่าไอ้ดินแม่งเป็นภัยสังคม

J. : แต่มันโชคดีไงที่คนนั้นเป็นพี่เจ้าอะ คือถ้าเป็นคนอื่นใครจะทนรอไหว ปากบอกไม่ให้ไป ปากบอกไม่รัก หัวใจก็จะเอาไปให้คนอื่น แต่รั้งไว้ รั้งกูเพื่อ กูเป็นของตายของมึงเหรอ ก็ไม่ เนี่ย ไม่เคยเลี้ยงลูกให้เป็นแบบนี้ กูต้องไปมอบตัวกับตำรวจเป็นเพื่อนพ่อมึงแล้ว

P. : อินมากจริงๆ นะแม่มึง เพลาบ้าง

K. : ว่าคนอื่นได้เรอะ

D. : ตอนเจอจันทร์แรกๆ ก็ไม่คิดว่าจะพูดยากพูดเย็นอย่างนี้นี่หว่า ดูคุยรู้เรื่องมากกว่านี้

J. : ความรักอะเปลี่ยนคนดีๆ เป็นคนแย่ๆ มานักต่อนัก

P. : มันไม่ใช่ความรักหรอกที่เปลี่ยน ความเห็นแก่ตัวต่างหากที่เปลี่ยนให้คนแย่เอง

D. : กูก็ผิดด้วยที่ให้ความหวังเขา

K. : ก็เล่นไปไหนมาไหนด้วย ไปรับไปส่งข้ามหัวไอ้เจ้าอีก เขาก็ต้องคิดว่าเขาสำคัญน่ะสิ

D. : แล้วกูต้องทำยังไงวะ เขาถึงจะเลิกตามตื้อ ตอนนี้กูกับเจ้ามีความสุขดีแล้ว กูไม่อยากให้ใครหรืออะไรมาทำพัง

P. : ก็เข้าใจ แต่มันเป็นผลที่ตามมาไง มีเหตุยังไงก็ต้องมีผล

D. : อืม

K. : เป็นคำว่าอืมที่อึมครึมดี แล้วนี่มึงไม่นอนเหรอวะ

D. : นอนไม่หลับว่ะ

P. : เป็นไรอีก เป็นๆ หายๆ คราวก่อนก็ทีหนึ่งละ แต่หลายวันมานี้มึงนอนหลับสนิทไม่ใช่เหรอวะ

D. : ใช่ แต่เมื่อวานกูฝันร้าย

J. : โธ่ ลูกแม่

D. : วันนี้เลยไม่กล้านอน กูกลัวฝันแบบนั้นอีก มันเป็นฝันที่ไม่ดีเลยว่ะ

P. : ระบายมาลูก

D. : ฝันว่าเจ้าโดนยิง เลือดนี่เต็มมือกูไปหมด





เป็นฝันร้ายที่ไม่น่าจดจำแต่ธรากลับจำได้แม่น ฝันนั้นทำให้เขาตื่นขึ้นกลางดึกแต่ไอ้เจ้าไม่รู้และเขาไม่ได้บอก พักหลังมานี้ไอ้เจ้าหลับลึก อาจเพราะอาการป่วยของมันด้วยที่เป็นสาเหตุ โดยปกติเวลาที่สะดุ้งตื่นกลางดึกเขามักจะเจอมันตื่นอยู่ก่อนแล้วและจับมือของเขาไว้ แต่เมื่อวานกลับมองหาไม่เจอ หัวใจของเขาวูบโหวงไปหมด แต่พอกระพริบตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืดสลัวก็พบว่ามันยังคงนอนอยู่ข้างๆ เขาจึงรีบขยับเข้าไปกอดมันไว้แน่น กลัวเหลือเกินว่ามันจะทิ้งเขาไปเหมือนในความฝันจริงๆ





P. : ดิน ยังอยู่มั้ย





ข้อความจากไอ้แพร์ราวกับช่วยดึงธราออกจากภาพฝันที่โหดร้าย เขาสูดหายใจเข้าลึกพลางมองไปที่เตียงที่ไอ้เจ้ายังคงนอนหลับตาพริ้มเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันยังคงอยู่ตรงนั้น นอนหลับสบายและปลอดภัยดี





D. : โทษที คิดเรื่อยเปื่อยแล้วลืมพิมพ์

J. : พวกกูก็รอไป

K. : ฝันร้ายขนาดนี้ เป็นลางไม่ดีหรือเปล่า ไปทำบุญกันดีมั้ยวะ กูก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจตอนที่พวกมึงคุยในกลุ่มแล้วอะ มันเหมือน...ยังไงดีวะ ลางบอกเหตุไรงี้ปะเวลามีคนเห็นเราทั้งที่เราไม่ได้อยู่ตรงนั้น

J. : พูดถึงเรื่องนี้ กูแชตถามมินแล้ว แอพแม่งรวนจริงว่ะ พรุ่งนี้ว่าจะเอามือถือไปให้มินดู เผื่อเขาช่วยซ่อมได้

P. : ถือโอกาสเลยนะแม่มึง เดือนบริหารไม่่ใช่ช่างซ่อมมือถือไอ้เหี้ย หาเรื่องคุยกับเขาตลอด

J. : เรื่องของกูจ้า

K. : ปฏิทินตั้งโต๊ะอะ ดูยัง

D. : ห้องกูไม่มี

J. : กูก็ไม่ แต่เดี๋ยวกูจะไปซื้อข้าวที่เซเว่น กูจะดูที่แผงหนังสือพิมพ์ คิดว่าที่หนังสือพิมพ์มันต้องมีวันที่บ้างแหละวะ เพราะเปิดในคอมฯ ก็ไม่มี เหมือนภารกิจตามหาวันที่ที่หายไป

K. : จะดูที่อื่นให้ยากทำไม มึงถามกูเกิลเลย พิมพ์ไปว่าวันนี้วันอะไร

J. : Sent a photo.

J. : ถามแล้วไอ้สัด หน้าเว็บเปลี่ยนเป็น 404 not found เฉย

K. : เน็ตบ้านมึงเจ๊ง

J. : งั้นมึงลองดิ กูฟันธงเลยว่าเหมือนกัน เพราะมินก็ลองแล้ว

J. : แต่ของมินแม่งเป็นวันเสาร์เดือนธันวาคม ทั้งที่ไอ้ดินบอกวันพฤหัส ตอนนี้ตีหนึ่งแล้วต้องวันศุกร์ มันเพี้ยนไปไกลถึงนู่น

K. : ไม่งั้นไอ้มินมันก็เพี้ยนเอง ตอนมึงผ่าฟันคุดให้มันคงโดนเส้นประสาทแน่ๆ ไม่แปลกใจที่แม่งมาๆ หายๆ เคสมึงก็เก็บไม่ครบสักที ฟันหน้าสี่รากคือเหมือนปาฏิหาริย์ไปเลยถ้าเก็บครบ

J. : จะว่าไปเมื่อไหร่จะเก็บเคสครบวะ กูเหมือนเก็บแล้วเก็บอีก เหมือนรอสอบไฟนอลเพื่อขึ้นปีห้ามาสักสามชาติแล้ว วราพลแม่งก็ด่าอย่างกับกรอเทปซ้ำ อาจารย์แม่ก็ย้ำให้กรอฟันอีกนิดหนึ่งๆ กูนี่อยากถามว่านิดหนึ่งนี่มันเท่าไร นิดมาสิบรอบแล้วไอ้แม่เย๊ดดดด ไม่ได้ระยะสักที

K. : คนไข้คนดีคนเดิมคนสายของกูก็มาสายเป็นสิบๆ รอบ ไม่เคยพัฒนา เวลาเดิมด้วย ไม่เคลื่อนสักวินาที ถ้าแม่งจะสายเวลาเดิมอย่างนี้ก็หัดมาให้ตรงเวลาหน่อยเถอะ

P. : แล้วทำไมเราต้องสนใจวันที่กันขนาดนี้ด้วยวะ

J. : อ้าว มึงถามขึ้นมาก่อนนะ

K. : เออ นั่นสิ

P. : เอาเวลาไปทำงานเถอะงั้น ไม่อยากรู้ละ

D. : แต่กูอยากรู้ กูรู้สึกว่ามันสำคัญ รู้วันที่ไว้ก็น่าจะดี

P. : ทำไมวะ

D. : ไม่รู้ว่ะ ความรู้สึกกูบอก

K. : เครื่องไอ้เจ้าไง เครื่องมันไม่รวนนี่

D. : กูเช็กเมื่อกี้อีกรอบแล้วกูว่าน่าจะรวนเหมือนกัน

P. : เกิดบัคกันถ้วนหน้า

D. : ก็คงงั้น เพราะแม่งทั้งวันและเวลาไม่ขยับ ตอนนี้เครื่องกูตีหนึ่งสี่สิบแล้วแต่เครื่องมันยังเป็นวันพฤหัส ตอนห้าโมงสิบเจ็ดนาทีอยู่เลยว่ะ

K. : กูอยากจะบอกว่านาฬิกาตาย แต่แม่งก็เป็นมือถือ ใครมีเหตุผลดีกว่านี้มั้ย

P. : ไวรัสเข้าเครื่องแหละ

D. : ก็คงใช่ เพราะไม่ใช่แค่วันกับเวลา วันที่กับเดือนก็เพี้ยนไปด้วย

J. : มันเป็นวันอะไรวะ

D. : วันที่ 17 กรกฎาคม 17:17 PM

P. : มันมีความหมายมั้ยวันนี้

D. : มี

J. : ยังไง

D. : วันเกิดเจ้า

J. : กูต้องเก็บเงินเตรียมซื้อของขวัญแล้ววว เพื่อพี่เจ้า น้องจะยอมอด

K. : ชอบพาหลุดประเด็นตลอดไอ้เหี้ย

K. : แต่กูพูดจริงๆ นะเว้ย กูว่าตอนนี้แม่งแปลกๆ แล้วว่ะ

P. : อย่าเพิ่งคิดมาก กูว่าไม่มีอะไรหรอก เทคโนโลยีมันก็รวนกันได้

J. : จริง มึงอะวิตกเกินเหตุไอ้คิน

K. : กูคิดจริงๆ นะเว้ย มึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้เหรอวะที่มึงจะไม่รู้วันเวลา ในเมื่อพวกเราแม่งต้องคอยนัดวัน นัดเวลาทำฟันกับคนไข้

P. : เรียนหนัก พักผ่อนน้อย ส่งผลต่อสมองโดยตรง เพราะงั้นตอนนี้แยกย้ายกันไปนอน ถ้าใครยังพิมพ์มาอีก กูจะแช่งให้เก็บเคสไม่ครบ ไป!

.

.

P. : น้องเอ๋ตอบหน่อย

P. : น้อง พี่มาอย่างสันติ

เอ๊ : .

P. : อยู่ห้องมั้ย

เอ๊ : ไม่อยู่ ไม่มีทางอยู่ ย้ายห้องแล้วครับ

P. : เสียงการ์ตูนดังมาถึงห้องพี่

เอ๊ : ตายจริง เปิดทิ้งไว้ซะได้ครับ เดี๋ยวบอกทานตะวันที่เลี้ยงไว้ปิดให้

P. : ดอกทานตะวันที่ระเบียงเรอะ

เอ๊: ครับ

P. : วางกาวแล้วจริงจังกับพี่หน่อย

เอ๊ : ผมก็ไม่เคยล้อเล่นกับใครนะพี่ เป็นคนจริงจังระดับหนึ่งเหมือนกัน

เอ๊ : มีแต่พี่ที่ล้อเล่นกับผม : (

P. : อยู่ใกล้จะจับหอมหัว แต่ตอบพี่มาก่อนคำถามหนึ่ง

เอ๊ : อืม คบก็ได้ครับ นี่ยอมสุดๆ แล้วนะ

P. : ฮะ?

เอ๊ : ซ้อมเฉยๆ ผมรู้ว่าพี่จะถามอะไร

P. : ไม่ได้ถามว่าจะคบกันมั้ย แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงถามเรื่องวันที่

เอ๊ : ขอบล็อกนะครับ

P. : เดี๋ยว อย่าเพิ่งวิ่งชนกำแพง เกรงใจข้างห้อง

เอ๊ : ผมไม่อยากเกรงใจพี่! พี่ได้ผมแล้วทิ้ง!

P. : เอ๋ครับ ลูกในท้องเอ๋พี่จะรับผิดชอบเอง เขาเป็นลูกของพี่ พี่บอกแล้วไงตั้งแต่วันนั้น แต่ช่วงนี้พี่ยุ่ง พี่ทำเพื่ออนาคตของเรา ไว้พี่เรียนจบและมีงานทำแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์จะยกให้เอ๋หมดเลยนะครับ เชื่อใจพี่หน่อยนะ

เอ๊ : จริงๆ นะ พี่จะเป็นพ่อของน้องอิ๋งใช่มั้ยครับ

P. : ครับ ตอนนี้คุยกันแบบจริงจังก่อน พี่มีเรื่องสำคัญ

เอ๊ : มาหาที่ห้องเลยครับ ขี้เกียจพิมพ์

P. : ก็คือถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะเหลาไม้เรียวเตรียมฟาด ชวนผู้ชายเข้าห้องอย่างนี้

เอ๊ : ก็ไม่ได้เป็นลูกเป็นหลานอะครับ

เอ๊ : เป็นแฟนแล้ว

เอ๊: พี่จะเข้าไม่เข้า!

P. : ครับๆ อยู่หน้าห้องแล้วครับ มาคุยกันนะเด็กดี

เอ๊ : อื้อ!



..............TBC.............

ผมรักคุณ นั่นแหละทั้งหมดที่ผมมี - เจ้า จักรพรรดิ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ภารกิจตามหาวันที่แท้จริงจ้าา
งงในงง ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ยากกว่าปัญหาโจทย์ละคนก็นิยายเรื่องนี้แหละจ้า
ว่าแต่น้องเอ๋ลูกแม่ลงจากคานแล้วจ้าา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เวลาของทุกคนที่อยู่ใกล้เจ้า ........รวนกันหมดทุกคน  :a5: o22 :really2:
เจ้า........จะหายไปจริงๆใช่ไหม  :z3:
เจ้า มีอิทธิพลต่อเวลาด้วยเหรอ  :really2:
เจ้าควบคุมเวลาได้  o22 :really2:

คนที่ยิงเจ้า คือจันทร์หรือเปล่า  :m16:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
เวลารวนไปหมดแล้วอะ
คิดว่าเจ้าน่าจะกลับมาหลายรอบแค่มันจบลงทุกครั้ง  คือ2ปี
แต่ครั้งนี้มันนานกว่านั้น คิดว่าถ้าเจ้าหายไปทุกคนน่าจะลืมด้วย แบบเหมือนไม่มีตัวตนมาก่อนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 "ยืนงงในดงเห็ดเผาะ"กันอีแล้วครับท่าน
ขอคำถามเดียว : เจ้าทำแบบนี้เพื่อ?

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แล้วจริงๆ วันนี้วันที่เท่าไหร่  :hao4:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
กำลังสับสนกับวันเวลา แต่อยู่ดีๆ น้องเอ๋ก็เป็นแฟนหมอแพร์ไปแล้วซะงั้น 555

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องเอ๋พี่ขอดมกาวด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มีปมซับซ้อนเฉยยย แง้ ปวดหัวแน้ว

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ใกล้วันหวยออกแน้วววววว
เจ้าๆ เราขอเลขหน่อย  :katai5:

วันนี้วันอังคารใช่มะ??  :mew6:

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น้องเอ๋จะช่วยเจ้าได้ไหมอ่ะ ; ^ ;
อยากให้เขาแฮปปี้สักที

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วันนี้วันพุธ ที่6 กุมภาจ้าาาาา

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
นี่ยังไปคิดถึงบทแรกๆที่เจ้าเล่าเรื่องการใช้ชีวิตบนโลก ที่แม่บอกว่าคนต้องมีสังคมมีเพื่อน เลยพาเจ้าไปเลือกเด็กมาเป็นเพื่อน  ต้องมีน้องเลยไปเลือกดินมาเป็นน้อง  ตอนที่อ่านเจอตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ ยังคิดว่าการบรรยายเหมือนเจ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวหลงเข้ามาในโลกหรือไม่ก็เป็นมนุษย์จำลองที่หัดมีครอบครัว... แล้วยังมีดิน ที่จู่ๆก็โผล่มาแบบไม่รู้อดีต ไม่พูดถึงครอบครัวแบบตรงๆ  ก็เลยแปลกเข้าไปอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
วันเวลารวนไปหมดเลย ที่สงสัยคือเจ้าทำให้มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เจ้าเป็นใคร มีพลังวิเศษหรอ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
งงในงง แล้ววว.. :katai4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ถามวันที่กันจนงงไปหมดแร้ววววว
หวังว่าเอ๋จะช่วยได้นะ แต่ช่วยแล้วเวลาเดินแล้วเวลาของเจ้าล่ะ  :ling1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เจ้าไม่ใช่คนเหรอทำไมย้อนเวลาไปมาได้  :ruready :ruready

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
งงงวยและงวยงง แต่ช่างวันที่เพี้ยนไปก่อน
ตอนนี้ของงงวยเรื่องหมอแพกับน้องเอ๋
เขาไปเป็นแฟนและได้กันยังไง ตอนไหน

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
เอ๋ ส่งกาวมาซิ รู้สึกสมองไม่ปลอดโปล่ง  :katai1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai1:  :mew5: จะเมากาวตามเอ๊ไปอีกคน
เริ่มวิตกกังวล ว่าวันนี้วันอะไร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด