ตอนที่ 35พลั่ก!
ร่างสูงล้มลงตามแรงจนลงไปกองกับพื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นไปพบว่าเป็นคุณศรีภรรยาที่กำลังทำหน้าทะมึนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนมือข้างหนึ่งกำแน่นค้างอยู่ในท่าต่อย อีกมือหนี่งถือนีตติ้งที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเอาไว้
"เกล..."เขาไม่เอ่ยคำ แต่ค่อยๆลุกขึ้น ยื่นหน้าไปให้คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์โมโหอย่างที่สุดยอมรับการต่อยอีกรอบ
"รอบนี้ สำหรับที่ทำให้เกลกังวล"
พลั่ก!!
เมื่อราวๆหนึ่งวันก่อน
Rrrrr
โทรศัพท์มือถือที่นอนนิ่งอยู่นานดังขึ้นปลุกเอาเขาที่เผลองีบไประหว่างจัดการเอกสารวุ่นๆโงหัวขึ้นมารับสาย
"ศร!!!!แย่แล้วโว้ย เกลรู้เรื่องแล้ววว!!!"เสียงตะโกนโหวกเหวกลั่นโลกทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาทันที
"อะไรนะ?ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าให้เขารู้ จะรอจนพ้นขีดอันตรายก่อนไม่ใช่หรือไง!"เขากุมขมับ ทั้งๆที่ทางนี้จัดการเรื่องยุ่งใกล้เสร็จแล้วแท้ๆดันมีปัญหาตามมาอีกจนได้
"เอ่อ...ที่แย่กว่านั้นคือเขาขู่ไว้ด้วยล่ะ"เสียงโรอ่อยลงอย่างคนเป็นกังวล
"อะไร?"
"ถ้าไม่กลับมาให้เห็นหน้าภายในอาทิตย์นี้เขาจะหายไปไม่ให้เจออีกเลย!"จบคำศรก็ถึงกับสบถออกมาอย่างหงุดหงิด"ฉันแจ้งการ์ดสองคนที่เฝ้าหน้าห้องไว้แล้วว่าให้ลองพยายามเกลี้ยกล่อมเกลดู"
"โธ่เว้ย!พี่รีบบินมาที่นี่เลยนะ จัดการเรื่องแทนผมด้วย ผมต้องรีบกลับไป.."
"หา!แกจะบ้าเรอะ ฉันจะไปจัดการเรื่องทางกฏหมายได้ไงเล่า!ไม่ได้มีความรู้เลย แกน่ะแหละพ่อคนอัจฉริยะจัดการไอ้'พินัยกรรมบ้าๆของพ่อแกและฉันให้เรียบร้อยซะที!'อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกยังไม่ได้ทำเต็มที่"ศรกัดฟันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างน่ากลัวรู้สึกตัวเองใกล้สติแตกเต็มทน
"เออ ฉันจะกลับไปวันพรุ่งนี้ เตรียมเครื่องไว้ด้วย"
"@$#@%"เขาพ่นคำหยาบคายออกมายาวเหยียด ยืนสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่งแล้วจึงต่อสายไปยังอีกที่โดยทันที
"เราออกมาเจอกันหน่อยดีไหมครับคุณนาเดีย"
ราวๆ20ชั่วโมงก่อน
เขาตัดเยื่อใยหล่อนไปแล้ว...จากนี้เขาอาจจะโดนคนไล่ฆ่าไปสักพักใหญ่ๆเพราะดันไปหักหน้าแบบไม่ไว้ไมตรีเข้า...
แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เขาคงไม่กังวลอะไรมากไปกว่านกน้อยท้องป่องที่งอนอยู่ที่บ้านอีกแล้ว
ก่อนที่เขาจะจากมาเพื่อจัดการเรื่องยุ่งๆที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้พร้อมกับพินัยกรรม โรได้บอกกับเขา
'ช่วงนี้เป็นช่วงอันตราย อย่าเพิ่งบอกเกลเรื่องพินัยกรรม ความเครียดอาจทำให้เขาถึงกับล้มป่วยหรือแท้งได้ ซึ่งนั่นอาจมีผลถึงตายสำหรับช่วงที่อ่อนแอที่สุดนี้'
'รีบไปจัดการแล้วรีบกลับจะดีกว่าระหว่างนี้ฉันจะคอยช่วยดูแลเกลอีกแรง'
และตอนนี้ที่เกลอาจจะเป็นอะไรไปได้ทุกเมื่อ เขาจึงยอมตัดความสัมพันธ์อันดีของสองตระกูลแล้วรีบบึ่งกลับเมืองไทย
สิบชั่วโมงก่อน
ทันทีที่เท้าเหยียบลงบนสนามบิน รถมอเตอร์ไซค์คันงามของโรก็แล่นเข้ามารับทันที ศรทิ้งมาดเคร่งขรึมของตัวเอง กระโดดขึ้นซ้อนท้าย บึ่งออกไปทันทีเพื่อทำเวลา
เขาไปถึงคอนโดในราวๆชั่วโมงต่อมาและประสบปัญหาเล็กน้อยในการจัดการกับพวกลอบฆ่าที่ถูกส่งมาอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว
สุดท้ายกว่าเขาจะได้ขึ้นไปเคาะห้องตัวเองก็ในอีกห้าชั่วโมงถัดมา
"เกล!เปิดประตูให้พี่หน่อย"ศรเต็มไปด้วยความมร้อนรนเคาะประตูรัวแบบไม่กลัวพังสลับกับเดินหงุดหงิดงุ่นง่านคำคาญใจเป็นพักๆ เขาทำอย่างนี้อยู่นานทีเดียวประตูที่ปิดตายมาราวๆวันกว่าๆจึงได้เปิดออก
"กลับมาแล้วหรือครับ"ใบหน้าที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวันโผล่ออกมาเล็กน้อยก่อนจะผลุบกลับเข้าไปพร้อมเสีบงเรียก"เข้ามาสิครับ"
เขาเดินเข้าไปแล้วปิดประตูยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรเกลก็หันหน้ามา ต่อยเขาเต็มแรง
"ครั้งแรกสำหรับการปิดบัง"
เขาเซไปเล็กน้อย
"ครั้งที่สองสำหรับการกักขังผมไว้ในนี้มานาน"
เขาเซไปชนกำแพง
"ครั้งนี้...สำหรับ...ความพอใจของผมเอง!!"
หัวของเขาโดนอัดเข้าไปกับกำแพงเต็มๆจนมึนเบลอไปชั่วครู่
"ไหนพี่ศรมีอะไรจะอธิบายไหมครับ?"เกลที่ยิ้มแย้มกลับมาแล้วเขาถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"มีเยอะเลยล่ะ"เขาลุกขึ้นจากกำแพง ลากเกลไปนั่งบนโซฟาด้วยกันแล้วเริ่มต้นอธิบาย
"เกลรู้จักโรแล้วใช่ไหม?"
"ครับ"
"พ่อของฉันทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ให้ฉบับหนึ่ง...จะเปิดได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกที่เหลือรอดอยู่กับครบและทุกคนอายุมากกว่ายี่สิบห้าปี และพวกเราก็เพิ่งไปเปิดพินัยกรรมกันมา"
"ในนั้นกำหนดไว้ว่า ลูกคนที่ขึ้นครองเป็นประธานของบริษัทจะได้รับหุ้นอีก 30% แต่จะต้องหมั้นหมายกับลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลเอเมอรัล..."
"คนที่ครองด้านมืด จะได้ทรัพย์สินทั้งหมดไป"
"แต่เนื่องจากฉันไม่ได้ต้องการจะหมั้นกับหญิงสาวจากตระกูลเอเมอรัลคนนั้น ฉันจึงกำลังปฏิเสธอย่างนิ่มนวลมากที่สุด แต่มันก็ต้องใช้เวลา และไม่นานโดยที่ฉันไม่ทันรู้ตัว มันก็ตกเป็นข่าว"
"ฉันจงใจปิดไม่ให้เธอรู้ เพราะไม่ต้องการให้เธอกังวล"จากนั้นเขาก็เงียบไป เป็นอันว่าจบเรื่องแล้ว
เกลที่นั่งอยู่ตรงข้ามยังคงยิ้มแย้มอยู่ได้เพียงครู่เดียว ก็ลุกขึ้น กระชากคอเสื้อเขาง้างมือเตรียมต่อยเต็มแรง
"รอบนี้สำหรับที่ฉันปิดบัง"เขาพูดขึ้น พร้อมๆกันนั้นเกลก็ปล่อยหมัดเต็มแรง
พลั่ก!
กลับมาปัจจุบัน
เขายังคงโดยซ้อมอย่างต่อเนื่องจนสภาพใบหน้าแทบดูไม่ได้ และนั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองทำผิดกับอีกฝ่ายไว้มากแค่ไหน
เกลมีหยุดพักบ้างแต่แล้วพอหายเหนื่อยก็กลับมากระทืบเขาต่อ ลูกถีบหลังๆมานี้ดูเหมือนจะเป็นเพราะอารมณ์ล้วนๆ....
ใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าเกลจะสงบใจอละนั่งลงถักนีตติ้งต่อได้ ปล่อยให้เขาทำแผลด้วยตัวเอง ภรรยาของเขาคนนี้โหดดีจริงๆ
"พี่ทำเอาผมใจหายหมดเลยรู้ไหมครับ?"จู่ๆเกลที่นั่งเงียบอยู่นนานก็โพล่งขึ้นมา"พี่ศรทำให้ผมเสียใจหลายครั้งเหลือเกินจนบางทีก็ไม่อยากจะเชื่อใจอีก..."
...
เขาใจหายวาบรีบพยุงตัวลุกขึ้นไปกอดคนที่ดูตัวเล็กลงกว่าครั้งไหนๆจากทางด้านหลัง
"ขอโทษนะครับ"เอ่ยกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก
"พี่ศรจำไว้นะครับ..."
"นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมยอมทน...ถ้าหากมีครั้งต่อไป บางที..."
...
"พี่ศรคงไม่มีโอกาสได้เจอผมอีกเลยตลอดกาล">>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.
เขามีเหตุผลของเขา
อิงก็มีเหตุผลที่มาต่อช้าเหมือนกันนะ
คืองี้ค่ะรอลุ้นเกรดอยู่จนแต่งต่อไม่ได้ แล้วก็ไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ เลยเหนื่อยๆเพลียๆ พอกลับมาก็รีบต่อเลยนะ!!
นั่งปั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ได้แค่เนี้ยอ่ะค่ะ
เค้าพยายามแล้วนะตัว
มีหลายคนรีเควสว่าอยากให้น้องเกลหนีข้ามทวีป...อิงก็อยากเหมือนกันนะแต่สงสารน้องในท้องอ่ะ เกิดมาไม่มีพ่อทำไง?
มาทวงกันเยอะๆนะค่ะจะได้มีแรงกดดันให้แต่งต่อไป
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ค่ะ