✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
รถคนสวยเลี้ยวเข้ามาในซอยหนึ่ง ไม่ใช่ซอยของหมู่บ้านจัดสรร แต่ในซอยนี้เต็มไปด้วยบ้านหลังใหญ่ๆ โตๆ แบบที่น้ำเหนือคงไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่แน่นอน ดูท่า… จะเป็นแหล่งคนรวย
น้ำเหนือมองบ้านแต่ละหลังด้วยความสนใจ บางหลังเขาเคยเห็นอยู่ในละครเสียด้วยซ้ำ บ้านหลังโตสีขาวสไตล์ยุโรป มีวงเวียนน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลางก่อนถึงตัวบ้านเหมือนกับในละครไม่มีผิด
“หิวหรือเปล่า” ควอตซ์หันมาถามคนที่นั่งเบาะข้างๆ ตอนนี้สีหน้าของน้ำเหนือดีขึ้นแล้วจนเกือบเป็นปกติแต่ก็ยังมีร่องรอยอ่อนเพลียอยู่บนใบหน้า
“นิดหน่อยครับ เมื่อกี้อาเจียนออกไปหมดเลย…” น้ำเหนือได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ให้
“บอกว่าอย่ากินเยอะ เป็นไงละดื้อดีนัก” คนอายุมากกว่าแค่ไม่กี่ปีแต่ทำตัวเหมือนแก่กว่ามากบ่นออกมาอีกรอบให้น้ำเหนือกรอกตาไปมา
“ก็ตอนนั้นเห็นแล้วมันอยากกิน”
“เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะให้ป้ายุพินหาอะไรรองท้องให้ก่อนแล้วกัน ไม่รู้ต้องคุยกับคุณแม่นานแค่ไหน” ควอตซ์หันมามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนด้านหน้าอยู่
“ทำไมอยู่ๆ คุณหญิงโทรเรียกคุณเข้ามา ผมยังได้ยินเสียงเลยดูท่าจะมีเรื่อง”
“นั่นสิ… คงจะเรื่องเครียดน่าดู” ควอตซ์ตอบก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในรั้วบ้านที่ค่อยๆ เปิดออกแบบอัตโนมัติเมื่อชายหนุ่มหยิบรีโมทมากดเปิด
“หรือจะมีคนมาบอกว่าเป็นแม่ของลูกคุณ” น้ำเหนือเลิกคิ้วขึ้นมองก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างรถด้วยความสนใจเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน
“แม่ของลูกฉันก็เธอไง”
“อาจจะมีอีกหลายคนก็ได้นี่ครับ”
คนที่จอดรถในที่จอดรถเรียบร้อยหันมามองก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มมาใกล้จนน้ำเหนือได้แต่หดคอหนีเบียดตัวเองกับประตูรถ
“จะมีก็มีแค่เธอนั่นแหละ ฉันป้องกันตัวเองเสมอ ยกเว้นเธอน้ำเหนือ” เสียงทุ้มที่ดังอยู่ใกล้ๆ ปลายจมูกโด่งที่อยู่ห่างไม่มาก ดวงตาเรียวสีสวยที่มองสบมา ไหนจะคำพูดคำจานั่นอีก บอกตรงๆ ว่าคนฟังแอบใจกระตุกไปไม่น้อยกับคำพูดนั้น
น้ำเหนือใช้มือดันใบหน้าหล่อเหลาที่สาวๆ เห็นก็คงพร้อมจะวิ่งเข้าใส่ให้ออกห่างซึ่งควอตซ์เองก็ถอยห่างแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายส่งเสียงหัวเราะในลำคอให้คนฟังนึกฉุนในใจ น้ำเหนือเลยได้แต่เปิดประตูรถลงไปยืนข้างล่างเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบเมื่อครู่อีก
และนั่นก็ทำให้เขาได้สำรวจบริเวณบ้านทั้งหมด อาณาบริเวณนั้นกว้างขวางไม่ต่างจากบ้านหลังอื่นๆ เลย แต่ตัวบ้านที่อยู่ห่างจากโรงจอดรถไปนิดค่อนข้างทำให้น้ำเหนือแปลกใจ
ตอนแรกน้ำเหนือคิดว่าบ้านของผู้ชายคนนี้คงใหญ่อย่างกับคฤหาสน์ หรือไม่ก็เหมือนกับบ้านในละครหลังข่าวที่มีมุกหน้าบ้านที่มีหลังคาเป็นทรงโดม ตัวเสาเป็นเสาแบบโรมันสูงชะลูดอะไรแบบนั้นเสียอีก แต่มันกลับไม่ใช่ บ้านหลังนี้ถ้าเทียบกับบ้านในหมู่บ้านก็คงต้องบอกว่าใหญ่กว่ามาก แต่ถ้าเทียบกับบ้านในละแวกนี้ก็คงเล็กกว่าเยอะ อีกทั้งยังไม่มีเสาโรมัน รูปปั้นกรีกอะไรทั้งนั้น แต่เป็นบ้านสองชั้นที่มีสไตล์โมเดิร์น ของแท้ หลังคาก็ไม่ใช่หลังคาทรงจั่ว ทรงบั้นหยาแต่เป็นหลังคาสแลปกับหลังคาเพิงหมาแหงนอย่างที่เห็นบ่อยๆ ในบ้านสมัยนี้
เพราะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นบานหน้าต่างจึงค่อนข้างเยอะทีเดียว สีบ้านก็เป็นโทนสีน้ำตาล-ครีมดูคลาสสิคแต่ก็อบอุ่นอีกทั้งรอบๆ บ้านยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น
“ไปเถอะ” ควอตซ์ที่ก้าวลงจากรถร้องเรียกให้น้ำเหนือเดินตาม
“บ้านคุณสวยดีนะครับ ต่างจากบ้านแถวๆ นี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านดีนะครับ” น้ำเหนือที่เดินตามหลังบอกพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ อย่างสนใจ
“คุณแม่ไม่ค่อยชอบบ้านที่ดูอลังการแบบบ้านอื่นๆ น่ะ” ควอตซ์ตอบเดินนำไปยังประตูหน้าบ้าน
“แล้วบ้านหลังนั้นละครับ” น้ำเหนือดึงชายเสื้อคนที่เดินนำ ก่อนจะชี้ไปที่บ้านทรงแบบเดียวกันที่ตั้งอนู่ห่างไปไม่มาก
“นั้นบ้านน้าหมอวิรัช เราอยู่คนละหลังแต่อยู่ในรั้วเดียวกัน เชื่อมกันด้วยสวนตรงนั้น”
น้ำเหนือพยักหน้ารับกับคำพูดของคนตรงหน้า อดรู้สึกอิจฉาในใจลึกๆ ไม่ได้ คนคนนี้ทำไมถึงดูเพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งฐานะ ทั้งครอบครัว แล้วมองย้อนดูตัวเองสิ… ไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่าง
“ตาควอตซ์!!!” เสียงของคุณหญิงมรกตดังขึ้นเรียกให้น้ำเหนือสะดุ้งหลุดออกจากความคิด
“ครับคุณแม่” ควอตซ์ขานรับพร้อมกับเดินนำน้ำเหนือเข้าไปในห้องนั่งเล่น “โอ๊ยคุณแม่ ตีผมทำไมครับ”
“มันน่าโดนอีกหลายๆ ทีด้วยซ้ำ นี่แหน่ะๆ” คุณหญิงยังคงใช่มือตีแขนลูกชายของตัวเองไม่หยุด คนโดนตีก็ทำได้แค่ร้องห้ามแต่ก็ไม่กล้าปัดป้องอะไร
น้ำเหนือได้แต่ยืนทำหน้าตาเหรอหรามองคุณหญิงกับอชิตพลสลับกันไปมา ดูเหมือนว่าคุณหญิงมรกตจะไม่ทันมองเห็นเขาด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่ลูกชายก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ตรงรี่เข้ามาตีแขนไม่หยุด
“คุณแม่ครับผมเจ็บแล้วนะ” ควอตซ์ร้องบอกถึงแม้แรงตีของคนเป็นแม่จะไม่แรงมากแต่โดนตีเข้าที่เดิมซ้ำๆ ก็แสบๆ คันๆ เหมือนกัน
“เอ่อ… ค คุณหญิงครับ จ ใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกันดีกว่าไหมครับ” น้ำเหนือเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ และนั่นก็ทำให้คุณหญิงมรกตชะงักหันมามอง
“อ้าวน้ำเหนือ”
“สวัสดีครับคุณหญิง” พออีกฝ่ายหันมาเห็นน้ำเหนือเลยยกมือไหว้แบบที่คุณหญิงก็รับไหว้อย่างงงๆ
“ผมมีคุยธุระกับพี่ลินเลยพาน้ำเหนือออกมาด้วย ตั้งใจจะไปหาอะไรกินกันแต่คุณแม่โทรเข้ามาก่อน ผมเลยพาน้ำเหนือมาด้วยเลย” เป็นควอตซ์ที่เอ่ยอธิบายให้คนเป็นแม่หายงง
คุณหญิงมรกตพยักหน้ารับแต่พอหันมาเห็นหน้าลูกชายใบหน้าที่ยังสวยก็สะบัดค้อนใส่เต็มรักก่อนจะยกมือขึ้นบิดหูลูกชายอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย! คุณแม่”
“ลูกกับแม่มีเรื่องต้องเคลียร์กันอชิตพล บริสตัน!!”“ครับคุณแม่” ควอตซ์รับคำ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าตนไปทำอะไรให้คุณหญิงแม่พิโรจก็ตาม ร่างสูงหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะพูด “เธอรออยู่ที่นี่ก่อนแล้วกันนะ หรือถ้าอยากจะออกไปเดินเล่นที่สวนก็ได้ เดี๋ยวฉันขอคุยกับคุณแม่ก่อน”
“ครับ” น้ำเหนือรับคำเบาๆ ก่อนจะมองตามสองแม่ลูกที่เดินหายออกจากห้องนั่งเล่นไป
“หนูน้ำเหนือ” เสียงทักที่ดังมาจากทางด้านหลังเรียกให้น้ำเหนือที่กำลังมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นหันมามองก่อนที่จะยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือป้ายุพิน
“สวัสดีครับป้ายุพิน”
“สวัสดีค่ะ” ป้ายุพินยิ้มรับ “ป้าให้เด็กยกขนมกับน้ำส้มมาให้ เห็นคุณควอตซ์บอกว่าหนูกำลังหิว”
“ขอบคุณนะครับ” น้ำเหนือยกมือไหว้อีกครั้ง “เอ่อ… ผมขอออกไปนั่งที่สวนได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ เดี๋ยวป้าพาไป” ป้ายุพินว่าก่อนจะเดินนำน้ำเหนือออกจากห้องนั่งเล่นไป น้ำเหนือกวาดสายตาไปรอบๆ ด้วยความสนใจ
บ้านหลังนี้ต่างจากที่น้ำเหนือเคยคิดไว้มาก เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์หลุยส์ดูอลังการ ไม่มีแจกันหรูหรา แต่เป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นเรียบๆ แต่ก็ดูสง่าไปในตัว น้ำเหนืออดไม่ได้ที่จะยอมรับในใจว่าบ้านหลังนี้…
น่าอยู่ยิ่งเมื่อเดินมาถึงสวนข้างบ้านด้วยแล้วความน่าอยู่ของบ้านหลังนี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ต้นไม้ใหญ่ทั้งไม้ดอก ไม้ผลปลูกไว้ทั่วสนาม บางต้นไม่สิ… หลายต้นเลยที่น้ำเหนือไม่รู้จัก แต่ดอกของมันกลับส่งกลิ่นหอมชวนให้รู้สึกสบาย ทั้งๆ ที่กลิ่นหลากหลายลอยอบอวน ปกติน้ำเหนือคงรู้สึกเหม็นจนพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกไม้เหล่านี้กลับทำให้น้ำเหนือรู้สึกสบาย
“ป้ายุพินนั่นต้นอะไรหรือครับ” น้ำเหนือถามพลางชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกสีชมพูอมม่วง กลีบดอกมีเพียงแค่สี่ถึงห้ากลีบต่อดอก
“นั่นต้นชงโคค่ะ ออกดอกตลอดปีแถมยังมีกลิ่นหอม คุณหญิงมรกตเธอชอบพวกไม้ดอกหอมๆ น่ะค่ะเลยมีเยอะ ส่วนนั้นที่ปลูกเป็นแนวก็ต้นแก้ว กลิ่นหอมไม่แพ้กันแล้วก็ยังมีต้นมะลิ ต้นจำปีจำปา กระดังงา ส่วนต้นที่อยู่ตรงศาลาก็ต้นบุหงาส่าหรีค่ะตอนกลางคืนจะหอมมาก คุณควอตซ์ถ้าคืนไหนกลับบ้านเร็วก็ชอบออกมานั่งที่นี่แหละค่ะ” ป้ายุพินพูดไปพร้อมกับชี้ชวนให้ดูสารพัดต้นไม้ที่อยู่ในสวน
“อย่างคุณอชิตพลน่ะเหรอครับ ออกมานั่งที่ศาลาแบบนี้ ผมว่าอย่างเขาคงเอาเวลาไปอยู่กับสาวๆ มากกว่าอีก”
ป้ายุพินหัวเราะแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธหรือแก้ตัวให้ซึ่งนั่นก็เป็นคำตอบให้กับน้ำเหนือได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูก
“ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกกับเด็กๆ ได้ทุกคนนะคะ ป้าขอตัวไปเตรียมมื้อกลางวันก่อน” ป้ายุพินพูดกับน้ำเหนือที่นั่งเล่นอยู่บนศาลา
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ” น้ำเหนือยิ้มขอบคุณ หลังจากที่ป้ายุพินเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วเขาก็หันกลับมามองรอบๆ อย่างชอบใจ
รู้สึกเพลิดเพลินไปกับขนมในจาน น้ำส้มในแก้ว และบรรยากาศรอบๆ จนลืมแทบทุกอย่าง
ในขณะที่น้ำเหนือกำลังมีความสุขและเพลิดเพลินอีกฝ่ายทางลูกชายเจ้าของบ้านนั้นไม่ได้มีความสุขด้วยเลยเพราะโดนคนเป็นแม่ทั้งตีทั้งหยิกมานานเกือบสิบนาทีแล้วโดยที่เขายังไม่รู้เลยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“คุณแม่ครับคุณแม่ พอก่อนๆ เลิกตีผมก่อนแล้วบอกผมทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ควอตซ์คว้ามือของคนเป็นแม่มาจับกุมเอาไว้
คุณหญิงมรกตสะบัดมือจากลูกชายของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ มาเปิดก่อนจะวางลงบนตักของควอตซ์
“นี่ลูกไปคั่วกับแม่นี่ตอนไหนตาควอตซ์! แม่ให้ลูกไปดูน้องน้ำเหนือแต่ลูกกลับไปคั่วแม่นางแบบนี่เหรอ”
คนถูกหาว่าไปคั่วกับผู้หญิงถึงกับตาโตด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะหยิบหนังสือที่วางอยู่บนตักขึ้นมาอ่าน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้อ่านข้อความบนหน้ากระดาษนั้น
‘หรือนางแบบสาวจะกิ๊กกั๊กกับลูกชายเจ้าของบริษัทเครื่องประดับ’หัวข้อความที่ต่อให้ใครที่รู้จักครอบครัวบริสตันอ่านก็รู้แน่นอนว่าหมายถึงเขา
เนื้อความของข่าวพูดถึงนางแบบสาวคนหนึ่งที่เพิ่งไปออกงานมาพร้อมเครื่องประดับชุดใหญ่ที่ทำเอาเป็นที่สะดุดตาเหล่านักข่าวเป็นอย่างมากจนต้องเข้ามาสอบถามว่าเครื่องประดับนี้ซื้อเองหรือใครให้มา ก่อนที่นางแบบสาวจะทำท่าเหมือนคนเขินอายก่อนจะบอกว่าคุณค.(อักษรย่อ)เป็นคนมอบให้
“คุณแม่ครับ ข่าวนี่มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย” ควอตซ์บอกพร้อมกับวางหนังสือไว้ข้างตัวอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่เครื่องประดับชุดนั้นเป็นของร้านเรา แม่จำได้ถ้าเราไม่ได้คั่วกับแม่นางแบบนี้แล้วเธอจะมีเครื่องประดับของร้านเราได้ยังไง” คุณหญิงมรกตยังคงทำตาขุ่นใส่ลูกชายตัวเอง
“คุณแม่ครับ…” ควอตซ์เรียกแม่ของตนอย่างอ่อนใจ “เมื่อเดือนก่อนคุณแอนนี่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับชุดเครื่องประดับของเรา แล้วก็เป็นเรื่องปกติที่ทางเราจะให้เครื่องประดับกับนางแบบทุกคน เธอก็แค่ได้มันไปเพราะมาเป็นนางแบบให้ก็แค่นั้นเองครับ”
“แล้วที่บอกว่าลูกเป็นคนให้ล่ะ”
“ผมเป็นคนยื่นเครื่องประดับชุดนั้นให้เธอเองแต่พี่ลินก็อยู่ ทีมงานในสตูก็มีอีกเพียบไม่ได้ให้กันสองต่อสองเลยนะครับ” ควอตซ์ยังคงอธิบาย
แววตาของคุณหญิงมรกตวาวขึ้นด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ใช่ไม่พอใจลูกชายของตนแต่ไม่พอใจหญิงสาวที่ปั้นน้ำเป็นตัวสร้างกระแสว่ากำลังคบหากับลูกของเธออยู่ต่างหาก “แสดงว่าแม่นางแบบนี้สร้างข่าวสินะ แม่จะจัดการให้หนักเลยคอยดู!”
“คุณแม่ครับ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ผมไม่ได้มีอะไรกับเธอเสียหน่อย ปล่อยไปเงียบๆ เดี๋ยวข่าวก็ซาลงเองแหละครับ”
“ลูกจะปล่อยไปเรื่อยๆ ให้เธอสร้างกระแสเรื่อยๆ หรือต้องรอจนกว่าน้ำเหนือจะรู้เรื่องแล้วเกิดเรื่องราวใหญ่โตก่อน” คุณหญิงมรกตหันกลับมามอง
ควอตซ์ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “เกี่ยวอะไรกับน้ำเหนือครับ”
“น้ำเหนือเป็นสะใภ้ของบริสตัน แล้วจะให้คนอื่นมาลอยหน้าลอยตาว่าฉันมีสิทธิเป็นสะใภ้ของบริสตันได้ยังไงตาควอตซ์” คุณหญิงมรกตว่า “แม่ละไม่ชอบให้ลูกไปยุ่งเกี่ยวกับพวกแม่ดารานางแบบก็เพราะแบบนี้แหละ อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็สอบสร้างข่าวสร้างกระแส กี่คนแล้วผู้หญิงของลูกน่ะที่สร้างกระแสจะได้เป็นสะใภ้บริสตัน”
“เมื่อก่อนแม่ไม่สนใจเพราะยังไงแม่ก็รู้ว่าลูกไม่เอาพวกนั้นมาเป็นแม่ของลูกแน่ๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วนะควอตซ์ ลูกมีเมียและกำลังจะมีลูกแล้วลูกจะทำเป็นไม่สนใจกับข่าวในกรอบเล็กๆ ที่อาจจะส่งผลใหญ่ในอนาคตแบบนี่ไม่ได้แล้ว ถ้าน้องเหนือเขารู้ข่าวเข้าลูกคิดว่าคนท้องที่คิดมากสารพัดแบบนั้นจะรู้สึกยังไง”
คนฟังได้แต่ยกมือยอมแพ้ “แล้วแต่คุณแม่เห็นสมควรเลยครับ”
คุณหญิงมรกตพยักหน้ารับอย่างพอใจเมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยต่ออย่างนึกขึ้นได้ “นี่ตกลงลูกคุยกับน้ำเหนือเรื่องย้ายเข้ามาที่บ้านหรือยัง แม่ให้เด็กจัดห้องเตรียมเอาไว้แล้วนะ รอแค่ลูกพาน้องเข้ามานี่แหละ”
“ยังเลยครับคุณแม่”
“นี่มันครบหนึ่งอาทิตย์แล้วนะควอตซ์ แม่ไม่อยากให้น้องไปอยู่ที่หอนานกว่านี้ท้องของน้องเขาต้องใหญ่ขึ้นทุกวันๆ นะลูก รีบๆ พาน้องเข้ามาในบ้านสิ” คุณหญิงมรกตขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นักเมื่อได้ฟังคำตอบของคนเป็นลูก
“คุณแม่ก็กักตัวน้ำเหนือเอาไว้เลยสิครับ ไหนๆ ก็นั่งอยู่ข้างล่างอยู่แล้วนี่”อชิตพลพูด แต่ที่พูดน่ะเจ้าตัวแค่พูดเล่นเพราะเขากำลังคิดหาทางพูดให้น้ำเหนือเข้ามาอยู่ที่บ้านอยู่เหมือนกันแต่ยังไม่ได้เอ่ยปากเสียที แต่ดูเหมือนว่าคำแนะนำแบบทีเล่นทีจริงของเขาจะมีใครอีกคนคิดเป็นจริงเป็นจัง เพราะคุณหญิงมรกตปรบมืออย่างถูกใจในคำพูดนั้น
“จริงของลูก! ไหนๆ น้องก็นั่งอยู่ในบ้านแล้ว แม่กักตัวเอาไว้เลยไม่ให้กลับหอดีกว่า แล้วค่อยให้คนไปขนของๆ ลูกกับน้ำเหนือกลับมาที่บ้าน”
“คุณแม่ครับ ผมพูดเล่นนะ จะทำแบบนั้นได้ยังไงกันละครับ” ควอตซ์ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“แต่แม่พูดจริงค่ะ!” คุณหญิงว่าเสียงหนักแน่น “ถ้าน้ำเหนือไม่ยอมมาอยู่ดีๆ ก็ต้องมีแผน แม่มีแผนของแม่แล้วไม่ง้อลูกให้พูดพาน้ำเหนือเข้ามาหรอก”
“ไหนคุณแม่เคยบอกว่าไม่ควรไปบังคับคนกำลังท้องยังไงละครับ”
คุณหญิงมรกตหันกลับมามองลูกชายสุดที่รักของตนก่อนจะยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่อชิตพลยืนยัน นอนยันได้เลยว่า...
น้ำเหนือหนีไม่พ้นคุณแม่ของเขาหรอก
“แม่ไม่ได้บังคับค่ะ แต่แม่แค่จะหลอกล่อให้น้องเข้ามาอยู่บ้านต่างหาก”“ถ้าเกิดลูกสะใภ้คุณแม่พยศขึ้นมาผมไม่รู้ด้วยนะ”
“แม่จัดการของแม่เองค่ะ” คุณหญิงว่าก่อนจะลุกขึ้นยืน “แม่ลงไปดูในครัวก่อนดีกว่า กลางวันนี้ลูกกับน้ำเหนือก็อยู่กินข้าวกับแม่นะ ตอนเย็นด้วยเดี๋ยวแม่จะชวนวิรัชมาที่บ้านด้วย ไปลูกไป ลงไปดูน้องไปไม่รู้จะแพ้ท้องหรืออะไรอีกหรือเปล่า”
“ครับคุณแม่” ควอตซ์รับคำก่อนจะลุกเดินออกจากห้องทำงานของคนเป็นแม่แล้วลงไปชั้นล่าง ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่คิดว่าใครอีกคนที่เขาพามาด้วยคงจะต้องอยู่ในนี้แน่ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นน้ำเหนือนั่งอยู่ในห้อง
“สาลี่เห็นน้ำเหนือไหม” ควอตซ์หันไปถามสาวใช้ที่เดินผ่านมาพอดี
“คุณน้ำเหนือ... อ๋อ!
คุณหนูใหญ่ เห็นป้ายุพินพาเดินออกไปที่สวนข้างบ้านน่ะค่ะ คงอยู่ที่นั่น”
“คุณหนูใหญ่” ชายหนุ่มทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
สาลี่พยักหน้าก่อนจะอธิบายค่ะ “ค่ะ คุณหนูใหญ่ คุณหญิงท่านบอกว่าอีกไม่นานภรรยาของคุณควอตซ์จะเข้ามาอยู่ในบ้าน ชื่อคุณน้ำเหนือค่ะ เอารูปให้พวกหนูแล้วก็คนในบ้านดูหมดแล้วละค่ะ แล้วก็บอกให้เรียกคุณเขาว่า คุณหนูใหญ่”
อชิตพลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะเอ่ยให้สาวใช้ไปทำงานของตนต่อ ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านไปที่สวนตามที่ได้ยินมาว่าน้ำเหนือคงอยู่ที่นั่น พอนึกถึงคำพูดของสาลี่แล้วเจ้าตัวก็ได้แต่ถอนหายใจ อดนึกสงสารน้ำเหนือไม่ได้
ดูท่า... ไม่ว่าจะยังไงน้ำเหนือก็คงสู้คุณหญิงมรกตไม่ได้แน่ๆใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยเผยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากเมื่อเดินมาถึงศาลานั่งที่ตั้งอยู่ในสวน คนที่เขาตามหาอยู่ที่นี่จริงๆ แต่ตอนนี้น้ำเหนือฟุบหน้าหลับไปกับโต๊ะไม้เรียบร้อย จานใส่ขนมของใบที่วางอยู่บนโต๊ะก็หมดเกลี้ยง น้ำในแก้วก็หมด มีเหลือติดอยู่ที่เหยือกแก้วที่วางอยู่ข้างๆ ไม่มากนัก
ตื่นมาก็กิน กินเสร็จก็นอน เด็กน้อยเอ๊ยร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งไม่ห่างจากคนที่กำลังหลับอยู่ ก่อนจะหยิบเอกสารออกจากซองที่หยิบติดมือมาด้วยตอนเดินออกมาจากบ้านขึ้นมานั่งอ่านระหว่างรอให้คนหลับอยู่ตื่นขึ้นมา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่เพราะสายตามักจะชอบเหลือบมองคนหลับอยู่บ่อยๆ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมแพ้วางกระดาษในมือลงแล้วหันมามองน้ำเหนือแบบเต็มๆ ตา
หนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมาทำให้เขาเริ่มเข้าใจน้ำเหนือมากขึ้นอีกนิด หลายต่อหลายครั้งที่น้ำเหนือมักจะชอบทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเหมือนกับลืมไปว่าเขาอยู่ใกล้ๆ และนั่นก็ทำให้เขารู้ว่าตลอดที่ผ่านมาน้ำเหนือคงใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด
หลายครั้งในขณะที่นอนหลับน้ำเหนือมักจะละเมอถึงพ่อบ่อยๆ แต่เขากลับไม่ได้ยินละเมอถึงแม่เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าอดีตของน้ำเหนือต้องเจอกับอะไรมาบ้าง บางครั้งก็ชอบทำตัวเข้มแข็ง ต่อต้าน ดื้อดึงว่าอยู่คนเดียวได้ แต่บางครั้งก็ร้องไห้ งอแง เสียจนน่าสงสาร
คนที่ทำตัวเข้มแข็งเวลาร้องไห้มักจะน่าสงสารเสมอ...น้ำเหนือก็เป็นแบบนั้น เหมือนกับความอ่อนแอที่ซ้อนเอาไว้มันเผยออกมาให้เห็นตอนร้องไห้ เวลาน้ำเหนือร้องไห้เจ้าตัวมักจะงอแงเป็นพิเศษ เหมือนเด็กๆ ที่อยากได้คนปลอบ มันอาจจะเป็นความรู้สึกลึกๆ ข้างในจิตใจของคนคนนี้ว่าเจ้าตัวเองก็อยากมีใครสักคน... อยู่ข้างๆ
“ถึงจะยากไปสักหน่อย ถึงจะต้องปรับกันอีกเยอะ แต่จากนี้ไป... ก็อยู่ด้วยกันไปนะน้ำเหนือ”************************************************
มาแล้วค่ะมาแล้ว ทำไมทุกคนคิดว่าหญิงแม่มีแผน... หญิงแม่ไม่มีแผน ตามตัวลูกชายกลับเพราะนางแบบสาวให้ข่าวสร้างกระแสค่า แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว... ลูกสะใภ้มาเยือนถึงถิ่น หญิงแม่ไม่ปล่อยกลับง่ายๆ ค่ะ เข้าถ้ำเสือไปแล้วอย่าหวังว่าจะได้ออกมาง่ายๆ นะจ๊ะน้ำเหนือ เรื่องราวหลังจากนี้คงจะดำเนินไวขึ้น พัฒนาเร็วขึ้นนะคะ เพราะตอนหน้าก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านแล้วจ้า น้ำเหนือกำลังจะเป็นสะใภ้บริสตันเต็มตัวแล้ว รอกันอีกนิดแล้วฉากกุ๊กกิ๊กก็จะได้เจอกันแน่นอนค่ะ ส่วนคนพี่... ถ้าน้องตื่นจะพูดไหมไอ้ประโยคสุดท้ายเนี่ย บอกเลยค่ะว่าไม่ พี่เธอปากแข็ง ต้องมีอะไรมากระทบก่อนถึงจะยอมพูดความในใจ อันนี้ก็คงยังไม่ได้รักเต็มหัวใจนะคะ มันก่ำกึ่งๆ ต้องรอเจอของเด็ดซะก่อนถึงจะโพละแตก ความในใจปรากฏออกมา ฮ่า
สำหรับตอนต่อไปฟางจะมาอัพให้หลังจากสอบใบประกอบวิชาชีพเสร็จแล้วนะคะ ฟางมีสอบ 26-27 ธันวา แล้วหลังจากนั้นค่อยกลับมาเจอกันเนอะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ