บทที่ 14
จุดเปลี่ยน
หลายวันมาแล้วที่ควันปล่อยให้ความสงสัยกัดกินจิตใจเขามากขึ้นทุกวัน เขาไม่ได้ถามในสิ่งที่สงสัยกับไอติม เพราะในใจลึก ๆ แล้วต้องยอมรับกับตัวเองว่ากำลังกลัว...
กลัวในสิ่งที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร“เป็นไรวะ ทำไมมานั่งเหม่อแบบนี้”
เสียงเรียกสติ ทำให้ใบหน้าหล่อได้รูปต้องหันไปมอง เมื่อเห็นว่าพีชซึ่งเดินขากะเผลก ๆ แม้ว่าไม่มีเฝือกแล้วก็ตาม ใช้หนังสือเรียนเคาะหัวเขาเบา ๆ ให้หลุดจากภวังค์ ควันยิ้มยักไหล่ก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไร ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” พูดพลางหยิบแก้วกาแฟที่วางอยู่มาดูดไปอึกใหญ่ ก่อนจะเริ่มอ่านหนังสืออีกครั้ง หลังจากที่ใจลอยไปพักใหญ่
ตอนนี้ควันมานั่งอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟในช่วงบ่าย ซึ่งพอได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศในการอ่านหนังสือ เขาก็พบว่ามันเวิร์คใช้ได้ กลิ่นคั่วกาแฟหอม ๆ นั้นทำให้เขาตื่นตัวอยู่เสมอ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ไม่ได้รบกวนสมาธิในการอ่านหนังสือสักเท่าไร อีกทั้งยังมีแอร์เย็น ๆ แล้วก็ของหวานอีกมากมาย พอพีชรู้ว่าเขาอ่านหนังสืออยู่ที่นี่ เลยตามมาอ่านด้วยกัน
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ สอบย่อยวันพรุ่งนี้มึงคงจะได้เต็มแหง ๆ...เอาไรป่ะ เดี๋ยวกูจะไปสั่งที่เค้าน์เตอร์”
“ไม่อยากรังแกคนพิการว่ะ มึงจะเอาไร เดี๋ยวกูเดินไปสั่งให้ดีกว่า”
“ก็ดี...งั้นเอามอคค่าปั่น กับชีสเค้ก”
“อ้วนตายพอดี”
“สัส ทั้งวันกูยังไม่ได้แดกไรสักอย่าง”
“เออ ๆ แซวเล่นเฉย ๆ หน่า ไอ้หัวเห็ด”
ก่อนจะไปสั่งเมนูให้พีชก็ไม่วายตบกลุ่มผมเบา ๆ ทีหนึ่งให้พีชได้หน้าง้ำงอ แต่พอคล้อยหลังแล้ว ใบหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มเล็ก ๆ พร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปเสียแล้ว...
หลังจากผ่านการประกวดไปแล้ว ไอติมที่คิดว่าตัวเองจะได้พักผ่อนกลับไม่ได้พักอย่างใจคิด เขาต้องเดินสายออกงานขอบคุณผู้ใหญ่ในมหา’ลัย ไหนจะถ่ายแบบต่าง ๆ อีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเบากว่าช่วงการประกวดเยอะ เขาเลยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนในกลุ่มมากขึ้น และเมื่อนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ปี 1 สอบย่อยในอาทิตย์นี้เสร็จแล้ว ไอติมที่ออกมาจากห้องสอบเป็นคนสุดท้ายจึงเดินมารวมกับกลุ่มเพื่อนที่ยังคงถกเถียงเรื่องข้อสอบที่พึ่งสอบไปไม่เลิก
“มึงตอบข้อสุดท้ายว่าไงวะ โคตรปราบเซียนเลย แต่เชี่ยควันมันบอกว่ามันตอบได้อ่ะ” พีชถามไอติมที่พึ่งออกมาจากห้องสอบ คนตัวเล็กสุดทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบในสิ่งที่ตัวเองเขียนใส่กระดาษคำตอบไป
“โหหหห คำตอบเดียวกับควันเลยว่ะ เบื่อพวกเป๊ะว่ะ” พีชถอนหายใจอย่างปลงตกกับข้อสอบที่ผ่านมา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอดคอไอติมแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มแทน
“เรื่องข้อสอบปล่อยมันไปเถอะ คืนนี้ไปฉลองกันดีกว่าว่ะ ขากูก็ถอดเฝือกแล้ว สอบย่อยก็เสร็จแล้ว มึงอย่าลืมว่ามึงยังไม่ได้เลี้ยงพวกกูเลยน๊าที่มึงได้ตำแหน่งรองเดือนอ่ะเชี่ยเตี้ย”
“เออ จริงด้วย งั้นไปคืนนี้เลยมั้ยล่ะ กูพร้อม” ไอติมไม่ลังเลที่จะตอบตกลง สัญญาไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้พีชก็กลับมาเดินได้เป็นปกติ สอบเสร็จ แถมพรุ่งนี้ยังเป็นวันหยุดอีก ไม่มีอะไรลงตัวไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“มึงจะเอาจริงเหรอวะ” ควันหันมาถามไอติมเพื่อความแน่ใจ เขาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรว่าไอ้คนตัวเล็กมันจะเอาตัวรอดได้รึเปล่า
“ก็เอาจริงดิ หรือว่ามึงจะไม่ไป” ไอติมตอบพาซื่อ ไม่เข้าใจว่าควันจะถามอย่างนั้นไปทำไม
“ไปดิวะ ได้กินของฟรี ใครไม่ไปก็โง่ล่ะ”
ร่างสูงพึมพำ ถึงจะไม่อยากให้ไอติมไปในที่อโคจรแบบนั้นอีก แต่ถ้าไอติมยืนยันว่าจะไป แล้วเขาจะห้ามอะไรนอกจากจะต้องไปดูแลไม่ให้มันหลุดรอดสายตาไปได้ล่ะ
เป็นเวลานานแล้วที่ไอติมไม่ได้มาในที่อโคจรอย่างนี้ ก็เพราะติดซ้อมกับกองประกวดเลยไม่มีใครชวนเขามาที่ผับ xxx อีกเลย จนมาวันนี้แหละที่เขาได้มาเปิดหูเปิดตาอีกครั้ง
พีชดูจะตื่นเต้นที่สุดในคืนนี้ที่มีเจ้ามืออย่างไอติมจ่ายไม่อั้น ขวดเบียร์มากกว่าสิบขวดวางเรียงรายบนโต๊ะ แม้ว่าสมาชิกในโต๊ะจะมีเพียงแค่สี่คน แต่ทุกคนก็มั่นใจว่าน้ำเมาทุกขวดในคืนนี้คงจะลงไปอยู่ในท้องทุกคนหมดแน่
“แด่ข้อสอบในวันนี้ เอ้าชนนนนนนน”
แก้วเบียร์ทั้งสี่แก้วกระทบกันจนเกิดเสียง ก่อนที่น้ำมึนเมาจะไหลลงคอราวกับน้ำเปล่า...สายตาคู่คมยังคอยแอบมองคนตัวเล็กข้างกายไม่ห่าง เมื่อเห็นว่าไอติมยังไม่ได้มีท่าทีผิดปกติเขาก็สบายใจ แต่ถึงอย่างนั้น ท่อนแขนแข็งแรงก็แอบประคองเอวคนข้าง ๆ เอาไว้หลวม ๆ อยู่ตลอด
“แด่ตำแหล่งรองเดือนมหา’ลัยของไอติม เอ้าชนนนนน”
แก้วแรกพึ่งยกไปจนหมด แก้วสองก็เตรียมจ่อปากทันที ฝ่ามือหนาจับข้อมือขาวได้ทันก่อนที่แก้วเบียร์ในมือจะไหลลงลำคอเพียวระหงอีกครั้ง ไอติมหันมามองด้วยสายตางุนงง ก่อนจะเอ่ยปากถามคนที่ทำตัวเหมือนเป็นพ่อเขามาตั้งแต่เข้าร้าน
“เป็นอะไร”
“อย่ากินเยอะ เดี๋ยวมึงจะเมา”
“ทำตัวเหมือนเป็นพ่อไปได้อ่ะมึง”
“ก็กูหวังดี”
“มีมึงคุมอย่างนี้ ดูแลกูตอนเมาดี ๆ ล่ะ”
ไอติมยิ้มเผล่ ก่อนจะดึงข้อมือตัวเองออกจากฝ่ามือใหญ่ แถมยังยกเบียร์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แก้มขาว ๆ นั้นขึ้นริ้วแดงจาง แถมยังทิ้งน้ำหนักตัวไปทางร่างสูงใหญ่อีก
“เชี่ยติม มึงอย่าเมาง่ายนะเว้ย ไม่ทันไรก็ซบไอ้ควันมันแล้วเหรอ ลุกมา ๆ แก้วที่สามต้องมา”
พีชดึงร่างของไอติมให้กลับมานั่งตัวตรงอีกครั้ง มือก็เติมเบียร์ให้ไอติมจนเต็มแก้วอีกครั้ง ก่อนที่หัวเห็ดกลม ๆ จะสั่นสะเทือนเพราะแรงตบเบา ๆ จากด้านหลัง
“เพลา ๆ หน่อยมึง อย่ารีบมอมมันขนาดนั้น ไอติมมันไม่ได้คอทองแดงเหมือนมึงนะ”
วินทร์ที่อดไม่ไหวจึงต้องพูดห้ามปรามพีชมันเสียหน่อย ไอ้นี่ก็เลวเหลือเกิน รู้ว่าเพื่อนมันคออ่อน ก็ยังมอมไอติมมันได้ลงคอ
“โหหหหห พูดซะกูดูเป็นคนเลวเลย มอมที่ไหนกัน ไม่มี๊!”
“เสียงสูงเชียวนะสัส”
วินทร์พูดจบก็เทเบียร์ให้พีชจนเต็มแก้ว ก่อนจะชนแก้วกันแค่สองแล้วดื่มอึกใหญ่จนหมดอย่างรวดเร็วไปอีกครั้ง ไอติมยิ้มขำที่เห็นว่าพีชโดนบังคับให้กินเบียร์แทน จนเจ้าตัวเริ่มหน้าแดงบ้างแล้ว แต่ก็ยังยิ้มร่าแล้วกินเบียร์ไม่หยุดหย่อนราวกับดื่มน้ำเปล่า ส่วนไอติมตอนนี้ก็นั่งกินลูกชิ้นทอดเป็นกับแกล้ม นั่งฟังเพลงเพลิน ๆ แล้วก็จิบเบียร์ในแก้วบ้างเป็นครั้งคราว
ส่วนควันที่ยังนั่งอยู่ข้างกาย วันนี้ถ้าไอติมสังเกตไม่ผิด รู้สึกว่าควันดูจะแปลกไปเสียหน่อย เพราะครั้งก่อนหน้านั้น สาว ๆ มากหน้าหลายตาเดินเข้ามาขอเบอร์ ขอไลน์กันเพียบ แถมยังมาชวนไปไหนต่อไหนอีกควันก็ไม่เห็นปฏิเสธ ซ้ำยังต้อนรับอย่างเชิญชวน แต่วันนี้คนตัวสูงกลับนั่งดื่มเบียร์เงียบ ๆ ใครมาทักทายก็ไม่ได้สานต่ออะไรจนพวกเธอทั้งหลายนั้นหน้าจ๋อยกลับโต๊ะไปหลายรายแล้ว
“ขอโทษนะคะ”
ไม่ทันขาดคำ หญิงสาวในชุดเกาะอกสีขาวก็สะกิดที่ไหล่ของควัน แถมยังแทรกตัวเข้ามาตรงกลางระหว่างควันกับไอติมเสียอีก ไอติมจึงได้ยินบทสนทนาของเธอไปด้วย
“มีอะไรครับ”
“ขอไลน์หน่อยได้มั้ยคะ”
เธอแจกรอยยิ้มหวานพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ ไอติมมองนิ่ง ๆ ก่อนจะปรายสายตากลับมายังโต๊ะของตัวเอง มองพีชที่ตอนนี้ลุกขึ้นเต้นโดยที่มีวินทร์คอยดึงให้นั่งลงอยู่เรื่อย ๆ แต่หูเจ้ากรรมดันได้ยินเสียงควันพูดตอบเสียอย่างนั้น
“คงไม่ได้หรอกครับ ผมกลัวคนหึง”
“ว๊า มีแฟนแล้วเหรอคะ แย่จัง”
“หึ มีแต่ผมอยากเป็นแฟนเขาแหละครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาอยากเป็นแฟนกับผมรึเปล่า”
“ใครจะไปใจร้ายปฏิเสธคนหล่อได้ลงคออ่ะ งั้นไม่รบกวนแล้วดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแฟนมาเห็นแล้วจะแย่เอา”
เธอว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินจากไป ควันจึงหันกลับมาในวงของตัวเองแล้วเทเบียร์ลงในแก้วที่พร่องไปให้เต็ม
“แปลกเนอะ วันนี้ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาทักหมดเลย” เสียงของคนข้าง ๆ ทำเอาควันชะงักไป ก่อนจะหันมามองไอติมที่สายตายังคงจ้องอยู่บนเวทีที่นักร้องกำลังร้องเพลงอยู่ เขาคิดว่าเขาคงไม่ได้หูฝาดไปหรอกใช่มั้ย
“ไม่ชอบที่กูปฏิเสธสาว ๆ งั้นเหรอ”
“เปล่าหนิ มึงจะทำอะไรมันก็เรื่องของมึง กูแค่สงสัยเฉย ๆ”
“หึงกูเหรอ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ควันพลั้งปากถามไปแบบนั้น และก็ได้ผลเมื่อดวงตากลมใสนั้นหันมาสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ และวินาทีนั้นหัวใจไอติมกลับกระตุกราวกับถูกกระชากจากมือที่มองไม่เห็น ใบหน้านั้นชะงักไปสักพักก่อนจะหลบตาควันแล้วเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก
“อะ...อะไร...ไม่ได้หึงสักหน่อย”
“มึงหึงกูใช่มั้ย”
“ไม่ได้หึง”
ไอติมยืนยันเสียงแข็งก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทุกคนในโต๊ะมองอย่างงุนงงกับท่าทีอย่างนั้น ก่อนจะเลิกสนใจเมื่อไอติมบอกสาเหตุของท่าทางเหล่านั้น
“ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมา”
ไอติมพูดรัวเร็ว ก่อนจะรีบลุกออกจากโต๊ะ เขายังไม่เมาเท่าไร และยังมีสติพอที่จะประคับประคองตัวเองให้หลุดออกมาจากสถานการณ์นั้นได้...หึงบ้าบออะไรกัน เขานี่นะจะหึงควัน ก็แค่สงสัยเฉย ๆ ว่าทำไมปฏิเสธผู้หญิงทุกคนก็เท่านั้นแหละ
“ไอติม...เดี๋ยวนี้เข้าผับแล้วเหรอ”
เสียงเรียกพร้อมกับท่อนแขนที่ถูกคว้าเอาไว้ทำให้ไอติมต้องหันกลับไปมองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่ทักเขาคือใคร ไอติมก็ต้องอ้าปากค้างอย่างลืมตัว
“พะ...พี่กร”
“ตกใจอะไร พี่ต้องตกใจมากกว่ามั้ยที่เห็นเราที่นี่”
“ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่กรที่นี่เหมือนกันครับ”
“แล้วมากับใคร แล้วนี่จะไปไหนล่ะหืม?”
“มากับเพื่อนครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ ว่าแต่พี่กรสบายดีนะครับ สอบเสร็จแล้วใช่มั้ย” ได้โอกาสคุยกับพี่กรอย่างนี้ ไอติมก็เลยถามไถ่ถึงรุ่นพี่เสียบ้าง
“สอบเสร็จแล้ว ก็เลยมาฉลองกับเพื่อนนี่แหละ เสาร์อาทิตย์นี้พี่พอจะว่าง งั้นเราไปเที่ยววันพรุ่งนี้เลยดีมั้ย”
“ไปได้แล้วเหรอครับ ผมนึกว่าพี่จะลืมสัญญาของเราแล้วเสียอีก” ดวงตากลมหลุบต่ำ พี่กรไม่เคยรู้หรอกว่าเขานับวันรอขนาดไหน ตั้งแต่วันประกาศผลที่พี่กรส่งข้อความมาบอกว่าจะพาไปเที่ยว เขาก็รอมันมาโดยตลอด
“จะลืมได้ยังไงล่ะ แต่ปีสามเรียนหนักจะตาย แถมสอบบ่อยอีกไอติมก็น่าจะรู้นี่”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันครับ เดี๋ยวพี่ไม่ว่างอีก ผมกลัวจะได้รอเก้อ”
“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันแปดโมงเช้า ไปหัวหินกัน”
“ได้เลย เดี๋ยวผมจะรีบกลับไปจัดกระเป๋าเลยดีกว่า”
ไอติมยิ้มบาง ๆ เมื่อตกลงกับกรได้เสร็จสรรพ และคุยกันอีกนิดหน่อยก็แยกย้ายกัน กรกลับไปที่โต๊ะ ส่วนไอติมก็เดินไปเข้าห้องน้ำตามจุดประสงค์แรกที่เดินออกมาจากโต๊ะ เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำ ปลายเท้าก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนพิงกำแพงอยู่หน้าห้องน้ำ แถมคนตรงหน้ายังสูบบุหรี่อีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ไอติมไม่เคยเห็นเจ้าตัวสูบมันมาก่อนเลย
“มึงสูบบุหรี่ด้วยเหรอวะควัน”
ไอติมถามคนตัวสูงที่ดวงตายังคงเหม่อมองออกไปด้านนอก ควันไม่ได้ตอบอะไร ปล่อยควันบุหรี่ให้ล่องลอยออกมาจนไอติมเผลอเบ้หน้าเพราะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เสียเท่าไร
“ถ้าไม่ตอบ งั้นกูกลับไปรอที่โต๊ะแล้วกัน” คนตัวเล็กกว่าบอกก่อนจะเดินออกมา แต่เพียงแค่ไม่กี่ก้าว เสียงทุ้มด้านหลังก็ดังขึ้น
“MY DRAGON มันคือใครงั้นเหรอ”คำถามนั้นทำให้ไอติมชะงักก่อนจะหันกลับมามองควันด้วยความแปลกใจ และเมื่อได้สบกับดวงตาคู่คมในตอนนี้ มันทั้งเรียบและไร้ความรู้สึกจนไอติมไม่สามารถอ่านออกได้
“ถามทำไม”
“ก็แค่อยากรู้”
“มึงแอบเปิดแชทกูงั้นเหรอ”
ไอติมเริ่มอยู่ไม่สุข เรื่องที่เขารู้จักพี่กรมานานและแอบรักข้างเดียวมาเนิ่นนานไม่มีใครรู้ เขาเก็บมันไว้เป็นความลับมาโดยตลอด แล้วควันจะรู้จัก MY DDRAGON ได้ยังไง ถ้าควันไม่เปิดแชทของเขาดู
“ก็แค่บังเอิญเห็น...แล้วจะตอบกูได้ยังว่ามันคือใคร คือไอ้พี่กรนั้นรึเปล่าล่ะ”
“มันจะเป็นใครก็เรื่องของกู กูจะกลับไปที่โต๊ะแล้วนะ”
ไอติมตัดบทให้มันจบไป ปลายเท้าหันกลับไปตามทางเดิมที่เคยจากมา แต่ทุกสิ่งก็ไม่ได้เป็นไปอย่างใจคิด เมื่อข้อมือของไอติมถูกฉุดดึงไว้จากคนด้านหลัง อาการยื้อยุดกันอยู่สองคนเรียกให้หลายสายตาของนักท่องราตรีมองมาได้ไม่ยาก ควันจึงโยนบุหรี่ที่ถือไว้ลงในถังขยะก่อนจะลากคนตัวเล็กให้เดินออกมาที่หลังร้านด้วยกัน
“มีอะไรอีก ทำไมต้องลากออกมาด้วยวะ”
ไอติมบ่นอุบ ดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุม และมองบริเวณหลังร้านด้วยความระมัดระวัง...จากทางเดินนี้ เดินไปอีกไม่ไกลก็เป็นลานจอดรถแล้ว แต่ทั้งบริเวณมันก็ยังคงเงียบและเปลี่ยวมากอยู่ดี
“กูถามตรง ๆ นะ ไอ้ดราก้อนกับพี่กรมันคนเดียวกันใช่มั้ย” เสียงทุ้มถามอีกครั้ง ไม่มีความล้อเล่นอยู่ในน้ำเสียง มีแต่ความจริงจังและเครียดขึงจนไอติมสัมผัสได้ แต่กระนั้นคนตัวเล็กก็ยังคงปากแข็ง
“แล้วถ้ากูไม่บอกล่ะ มันเรื่องส่วนตัวของกูนี่นา”
“มึงชอบมันงั้นเหรอไอติม”
ควันไม่สนแล้วว่าไอติมจะปิดบังต่อยังไง ร่างสูงยิงคำถามที่ทำให้เขาเครียดไปตรง ๆ ตั้งแต่รู้ใจตัวเอง เขาไม่เคยหาทางออกให้กับหัวใจเจอเลย แล้วยิ่งได้รู้ความลับของไอติมอย่างนี้ ควันก็เหมือนจะเจอแต่ทางตันมากขึ้นเรื่อย ๆ
“มึงจะมายุ่งอะไรกับชีวิตกูนักหนา”
“...”
“เพื่อนก็อยู่ส่วนเพื่อนสิวะ”
“...”
“เป็นแค่เพื่อน แม่งต้องรู้ทุกเรื่องในชีวิตกูเลยหรือไง”
ไอติมก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาแล้ว ตั้งแต่มาถามเรื่อง MY DRAGON เขาก็ไม่พอใจแล้วที่ควันมาแอบเปิดแชทดู แล้วยังจะมาไล่บี้เอาความจริงให้ได้ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ยอมตอบ ก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าไม่อยากให้รู้ แล้วจะถามไปเพื่ออะไรอีก
“แล้วกูไม่มีสิทธิ์รู้เลยรึไง เพื่อนที่เอากันทุกคืนกับมึงคนนี้ไม่มีสิทธิ์รู้เลยรึไงวะ!”
เสียงทุ้มตะโกนอย่างเหลืออด มือแกร่งผลักร่างเล็กจนชิดกำแพง ไอติมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกควันตะโกนใส่อย่างนั้น คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามไม่โมโหเพราะเขาก็ไม่อยากทะเลาะกับควันอีกแล้ว ก่อนจะดันอกแกร่งตรงหน้าให้ห่างออก จากนั้นจึงปรับน้ำเสียงให้กลับมาเป็นปกติ
“กูว่ามึงคงเมาแล้ว กลับกันเหอะว่ะ”
“กูถามว่ากูไม่มีสิทธิ์รู้เลยรึไง”
ควันยังคงไม่ยอมปล่อยไอติมไปง่าย ๆ แม้ไอติมจะตัดบทไปดื้อ ๆ แต่ควันก็ถามใหม่อีกครั้ง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องระหว่างเขากับไอติมมันจะไปสุดอยู่ที่ตรงไหน ตอนนี้ควันรู้แล้วว่าแค่ความสัมพันธ์ทางกายมันคงไม่พอ เขาอยากได้มันมากกว่านี้อีก แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าคงจะไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับเขาเลย
“มึงรู้รึเปล่าว่าที่มึงกำลังทำอย่างนี้มันคืออาการหวง มึงจะมาหวงกูแบบนี้ไม่ได้นะควัน มึงก็รู้ว่าสัญญาของเรา...”
“เออ กูรู้”
“...”
“รู้ดีว่ากูหวงมึง อยากมีมึงเก็บไว้แค่คนเดียว กูรู้ว่าไอ้ Friend with Benefit ห่าเหวนั้นมันกำลังทำร้ายกูอยู่”
ควันระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาโดยไม่ทันคิด อาจจะเพราะน้ำเมาที่กำลังกดประสาทเขาเอาไว้ ไม่ทันได้ไตร่ตรอง สิ่งที่อยู่ในใจมันก็พรั่งพรูออกมาเสียหมด และสิ่งที่ได้ยินก็ทำให้ไอติมตกใจอยู่ไม่น้อย
“ควัน...มึงกำลังพูดบ้าอะไรอยู่วะ”
“กูไม่ได้บ้า! กูก็แค่หวงมึง กูแค่คิดถึงมึง กูแค่อยากกอดแต่มึง ใครที่เข้ามากูก็ปฏิเสธไปหมดก็เพราะมึง แล้วมึงเคยคิดเหมือนกูบ้างมั้ยวะ ใจของมึงเคยมีกูอยู่ในนั้นบ้างมั้ย”
ไอติมตัวชาวาบกับสิ่งที่ได้รับรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและควันมันถูกผูกด้วยเงื่อนไขบ้า ๆ ที่สร้างขึ้นมาด้วยกัน เขาพอใจกับความสุขทางกายที่ควันมอบให้ เวลาไหนที่คิดถึงพี่กรก็มีควันกอดเขาไว้ เวลาไหนที่พี่กรเผลอทำร้ายจิตใจเขาด้วยความรักและความเอาใจใส่พี่แจน ไอติมก็มีควันที่คอยอยู่เคียงข้างให้ลืมความเจ็บได้ชั่วคราว
เพราะเห็นควันเป็นตัวแทนของใครบางคนมาตลอด ไอติมเลยไม่รู้สักนิดว่าใจของควันได้เปลี่ยนไปเสียแล้ว
และนั้นเป็นสัญญาณเตือนว่าเรื่องราวระหว่างเขาและควันมันกำลังจะจบอย่างนั้นเหรอ...“ควัน...มึงรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่...ทุกอย่างมันจะจบถ้าความรู้สึกของใครสักคนเปลี่ยนไป มึงก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ”
“ช่างแม่งมันสิ กูไม่สนแล้ว ถ้ากูไม่ยอมจบแล้วจะทำไม”
ควันโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจร้อนกระทบใบหน้าของไอติมก่อนที่จมูกโด่งจะคลอเคลียพวงแก้ม สันกราม และสุดท้ายริมฝีปากของทั้งคู่ก็บรรจบกัน...
ริมฝีปากร้อนผ่าวค่อย ๆ ทาบทับ ก่อนจะใช้ลิ้นดันเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างคุ้นเคย ลิ้นร้อนกวาดเอาความหวานทั่วทั้งโพรงปากมาเป็นของตัวเอง เสียงดูดดุนดังขึ้นในความเงียบ ควันจูบจนไอติมแทบจะหมดลมหายใจคาอก ก่อนจะผละออกมาเมื่อมือขาวทุบเขาเบา ๆ เพื่อให้ปล่อยให้เป็นอิสระ
“กูไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้วว่ะติม”
“...”
“กูไม่อยากรู้แล้วด้วยว่าไอ้เหี้ยนั้นมันเป็นใคร กูไม่สนแล้วว่ามึงจะชอบใคร กูรู้แค่ว่ากูชอบมึง...ชอบมึงมากจริง ๆ ให้กูจีบมึงได้มั้ย”
คำสารภาพของควันมันทำให้ไอติมตกใจไม่น้อย เขาไม่คิดว่าควันจะรู้สึกกับเขามากขนาดนี้ และไอติมก็คิดว่าเรื่องราวระหว่างเขาและควันมันไม่ควรบานปลายไปมากกว่านี้ ทุกอย่างมันเริ่มที่เพื่อนมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นต่อไป...สำหรับไอติม ควันคือเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว และเขาก็ไม่อยากเสียควันไป ไอติมจึงคิดว่าสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไปมันคือทางเลือกที่ดีที่สุด คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าจนสุดก่อนจะตัดสินใจพูดมันออกมา
“แต่กูไม่ได้ชอบมึง”
“...”
“ขอโทษนะ แต่กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว และคน ๆ นั้นไม่ใช่มึง”
คำพูดราวกับมีดแหลมแทงลงที่อกนั้น แม้จะพอรู้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันคงจะเป็นแบบนี้ แต่พอได้ยินมันจากปากไอติมจริง ๆ ความเจ็บปวดที่ตอกย้ำในจิตใจมันมากมายกว่าที่เขาคิดเหลือเกิน ใบหน้าหล่อเรียบสนิท มองคนตัวเล็กที่มองเขากลับอย่างไม่วางตา
“มึงคิดว่าคำพูดของมึงจะทำให้กูยอมปล่อยมึงไปง่าย ๆ งั้นเหรอ”
“...”
“มึงรู้รึเปล่าว่านิสัยกูเป็นยังไง...ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วที่กูอยากได้อะไรก็ต้องได้ และกูก็เป็นคนหวงของมากด้วย”
“แล้วจะมาบอกกูทำไมวะ”
ไอติมแสร้างถามแม้ว่าจะพอเดาความนัยนั้นได้ ข้อมือที่ถูกจับไว้ในเจ็บจนแทบร้าว แต่ไอติมก็ยังคงกลั้นเสียงร้องเอาไว้ และในตอนนั้นเขาเริ่มก็ฉุกคิดได้ว่าการที่ตัดสินใจบอกปฏิเสธไปนั้น หรือบางทีมันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด...
“หึ จะได้รู้ไงว่ากูไม่มีทางปล่อยมึงไปง่าย ๆ หรอก...พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกับมันงั้นเหรอ...งั้นคืนนี้นอนให้กูเอาจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยคงจะดีกว่า”