ตอนนี้ขออนุญาตต่อ (ร้อยแก้ว) สั้นกว่าปกติ เพราะอยากลง “ร้อยกรอง” ที่เพิ่งแต่งเสร็จสดๆ ร้อนๆ มากกว่า หุหุ
ตอนที่ 29 เกลียดตัวกินไข่ รักไก่กิน....ตับ
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรดีก็รู้สึกถึงแรงมือที่ลูบไล้ไปตามเอวกิ่วของหนู
“คิดนานนะเรา พี่ว่าอย่าคิดเลยดีกว่า พี่คิดแทนให้” นอกจากนิสัยชอบคิดเองเออเองยังไม่พอ ยังชอบคิดแทนคนอื่นอีกหรือคะคุณพี่ น้องฐาเบิกตากว้างหันไปมองจ้องตาที่ส่งประกายหวานมาให้
ไม่เอาๆ ห้ามหวั่นไหว
ไม่เอาๆ ห้ามใจสั่น
อ่ะแง้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุค่ะ สติสตังค์ของหนูมันเริ่มแตกกระเจิงไปทันทีเมื่ออีพ่อค้าตับตัวแสบทำท่าว่าจะไม่ได้ฟังที่หนูพูดเลยสักนิดทอดสายตามองมาที่กลีบปากสีซีดของหนูขณะไล้ปลายนิ้วไปตามเรียวปากแล้วยึดปลายคางของหนูให้นิ่งงันรับการการรุกรานจากริมฝีปากของเขา
ลมหายใจของหนูแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ พริ้มดวงตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม
นุ่มนวล และลึกซึ้ง และสร้างความรู้สึกหวามไหวไม่น้อย หอมหวานเหมือนช็อกโกแล็ตในวันวาเลนไทน์ ซาบซ่าน ประทับใจ
อืม....พ่อค้าที่ปากหวานน่ะจะขายดีนัก แล้วอีพ่อค้าคนนี้ก็ปาก....หวาน...มากเสียด้วยสิ แต่ลูกค้าอย่างหนูตัดสินใจว่าจะงดตับสักเพลา จะให้เปลี่ยนใจซื้อปุบปับนั้นเห็นทีจะไม่ง่ายหรอกค่ะ ก่อนที่ลมหายใจของหนูจะขาดห้วงก็ใช้ฝ่ามือผลักอกอีกฝ่ายออกให้พ้นจากการหว่านล้อมอันอ่อนหวาน ก่อนจะเสียดุลการค้า
“มะ...ไม่เอา... ไม่ดีกว่า หนูหิวแล้ว ระ...เรา...ออกไป....” พยายามจะหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง...แต่ว่า.....
"พี่ก็หิวค่ะ...แต่พี่อยากกินน้องฐาก่อน..นะคะ...." อะโอ๊ย.... พูดอะไรก็ไม่รู้ เขิน.....
ค่อยปรือตาขึ้นมองสบดวงตาอบอุ่นที่ทอทอด รอยยิ้มหวานที่ส่งมาทำให้ใจละลาย...
อย่ามายิ้มแบบนี้นะ
บอกว่าอย่าๆ ไง
ยิ้มแบบนี้นานๆ ล่ะก็หนูจะ
หนูจะ.....
หนูจะ.....
....ใจอ่อนจริงๆ ด้วย....
แหมะๆ ..... เห็นจานตับวางลงตรงหน้า แล้วน้ำลายสอ ว่าจะไม่กินๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ก็อดกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกๆไม่ได้
ยิ่งเห็นพ่อค้าตับสุดหล่อถือช้อนตักรอป้อนเข้าปากด้วยแบบนี้แล้วจะไม่หวั่นไหวก็เกินไปหน่อยใช่ไหมคะ ได้แต่อ้าปากรอรับตับอย่างปฏิเสธไม่ได้
ยิ่งได้ลิ้มรสเครื่องเคียงด้วย โอ๊ย....ใจจะขาด มันสะท้านเยือกๆ บิดกายอย่างร้อนเร่าด้วยแรงปรารถนา....จนอยากจะเปลือยกายด้วยความรุ่มร้อน....
อารมณ์หวาม ดำเนินไป จนใกล้ล่วง
ฝันถึงสรวง สวรรค์ อันเพริศพริ้ง
ก่อนจะค้าง เติ่งเพราะ ในความจริง
อีกฝ่ายนิ่ง ไม่ต่อ ท้อหัวใจ
“น้องฐา.... พี่ว่า ..... อย่าเพิ่งดีกว่านะ” อ้าววววววว โอ๊ยยยยยยย ลีลาได้โล่ มันจะอะไรกันนักกันหนาคะ
หนูชักจะเริ่มไม่สบอารมณ์แล้วนะ ทั้งลีลา ทั้งเล่นตัวเกินเหตุ ต่อราคาจนมาขนาดนี้แล้วท้ายสุดเปลี่ยนใจไม่ขายซะเฉยๆ เดี๋ยวก็ขโมยซะหรอกค่ะ แหม.....ขัดใจๆ
“หยุดทำไมอีกล่ะค้า.....” หนูถามแบบเสียงเหวี่ยงเล็กน้อยขณะทอดกายอยู่บนโซฟา อยากจะกระทืบเท้า
ว่าแล้วเชียว เดี๋ยวถ้าเลยตามเลยแล้วก็ตกบ่วง...เป็นตัวหมากอยู่ในเกมแบบนี้อีก น่าโมโหจริงๆ
“พี่ลืมไป... ว่าจะพาไปดูหนัง แล้วถ้าทำอะไรลงไปแล้ว น้องฐาจะไปนั่งดูหนังไหวไหมเนี่ย” โหยังอุตส่าห์เป็นห่วงอีกนะคะ น้องฐาสวยมั่น สวยถึกอึดทนปานนี้ มีหรือจะย่อ...ทดท้อต่ออุปสรรคใดๆ
“ไหวค่ะไหว” ตอบไปแบบไม่ต้องคิด เพราะจะไหวหรือไม่ไหวก็ช่างมันเต๊อะ..... ตอนนี้หนูไม่คิดหน้าแล้วแหละ คิดถึงแต่หลังค่ะ
“ค่าๆ งั้นพี่จะทำเบาๆ แล้วกันนะคะ” ตอบกลับมา
แล้วอีตาพ่อค้าตับ (นักขายระดับห้าดาว) ก็อุ้มหนูเข้าห้องไปค่ะ
แบบว่าช่วงนี้เหนื่อยๆ ขอไม่เล่าได้ไหมว่าตับอร่อยแค่ไหน เอาเป็นว่าคราวนี้ต่อให้ตึกถล่มลงมา ถ้ายังไม่เสร็จหนูก็ไม่ยอมออกจากห้องแน่ค่ะ อิอิ
...
จบการเล่าของน้องฐาไปเท่านั้น ต่อไปมาอ่านการเล่าของนิดีกว่า ฮาๆๆๆ
นำเสนอ เลิฟซีนเบาๆ ที่มีวรรณศิลป์กัน กร๊ากกกก
อาจจะงงบ้างแต่กรุณาใช้จินตนาการในการอ่านนะจ๊ะ
เนียนแนบแอบออดอ้อน อิงองค์
ตามแต่จะประสงค์ แตะต้อง
เอนเอียงเบี่ยงกายลง นอนราบ
เชยพักตร์พิศเนตรน้อง ลูบไล้กายงาม
พระ(เอก)เที่ยวชมสระร้าง กลางสวน
ตูมดอกบัวเชิญชวน ยั่วเย้า
เชยบงกชขาวนวล แนบน่า*
ดูดดื่มลูบเลียเร้า รูดไล้ปลุกอารมณ์
อุทยานครางโอษฐ์อ้า อาอือ
จุมพิตแลทั้งมือ ไต่เต้า
กระสันสั่นตาปรือ ยามแหย่
ตูมสู่บานหยอกเย้า ลึกล้ำล่วงเกิน
ปลาไหลเวียนแหวกหว้าย* วกวน
ก่อนถูกคลุมถุงชน คืบขร้อม*
แนบนาบซาบซุกซน ตามซอก หินแฮ
บดเบียดเสียดกายพร้อม สู่ฉ้อง* ร่องกาม
มัจฉาคึกศึกสู้ ชิงชัย
รุกรับขยับกันไป ออกเข้า
ระทวยทอดหวามฤทัย เสียวซ่าน
จวบธารขุ่นกระฉอกเป้า สุขล้ำปานสวรรค์
จบแล้วจ้า จัดหน้าไม่โอเคเท่าไร อ่า ขอโทษด้วยนะคะ จัดยังไงก็ไม่สวย เซ็ง เฮ้อ
(หากมีความผิดพลาดเรื่องคำ สัมผัส หรือฉันทลักษณ์ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ พร้อมรับคำแนะนำและติดชมเสมอค่ะ ทั้งนี้ ที่พอจะรู้แต่ยังมิได้แก้ไขคือ เรื่องสัมผัสระหว่างบท เพราะจำไม่ได้ว่ามันสำผัสตรงไหนและไม่ได้ไปหา ประกอบกับว่ากลัวจะแต่งแย่กว่าเดิมค่ะ แหะๆ )
เครื่องหมาย * หมายถึงจงใจเปลี่ยนการเขียนเพื่อให้เป็นไปตามฉันทลักษณ์ของโคลงสี่นะคะ (เรียกว่า เอกโทษโทโทษ)
น่า = หน้า
หว้าย = ว่าย
ขร้อม = คร่อม
ฉ้อง = ช่อง
ท่อนสุดท้ายไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ แต่มันหาคำสระเอามาลงไม่ได้อ่ะ มีอยู่คำเดียวค่ะ ฮือๆๆๆ
เป็นเลิพซีนที่แต่งแล้วฮามากๆๆๆ โอ๊ย แต่งไปขำไป