ตอนที่ 24
ค้นหาความจริง ( 5 )
เชื่อมั่นในพลังแห่งรักของเรา
Special Part :
“น้องจ้าว! น้องจ้าวครับ!”
“แค่ก! แค่ก!”
“อ๊ะ น้องจ้าว ค่อยยังชั่ว ยังไม่ตายจริงๆด้วย”
หมับ!
ร่างกายถูกฉุดขึ้นไปกอดไว้แนบแน่น ผมไอค่อกแค่กรู้สึกเหมือนจะอ้วกเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ในท้องก็แน่นจนแทบจะขึ้นอืด
“กะ…เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย”
“จำไมได้เหรอครับ น้องจ้าวฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดหน้าผา แล้วพี่ก้านก็กระโดดตามลงมาช่วย แต่คิดว่าเราทั้งคู่คงจมน้ำแล้วโคดีถูกคลื่นซัดมาติดเกาะที่ไหนก็ไม่รู้เข้า”
ผมขมวดคิ้วแปลกใจ เพราะเสียงที่ได้ยินมันค่อนข้างเหมือนเสียงของไอ้พี่ก้านอย่างกับแกะ
“แน่ะ ขมวดคิ้วขนาดนี้ ระวังคิ้วมันจะพันกันจนแก้ไม่ออกนะ”
“!!!”
ลืมตาโพล่งเมื่อมั่นใจว่าเสียงนี้คือเสียงของไอ้พี่ก้านแน่ๆ!
ผมอยู่ในอ้อมกอดของมันที่ร่างกายเปียกม่อล่อกม่อแลกพอกัน เส้นผมสีดำสนิทยาวเฟื้อยของมันพอเปียกแล้วดูเซ็กซี่ฉิบหาย
อ๊ะ ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้นี่หว่า!
“ปล่อยนะเว้ย!”
“ไม่ปล่อย อย่าดิ้นหนีสิครับ น้องจ้าวเพิ่งฟื้นจากความตายมาได้นะ”
“กูอยากตายเอง มึงมาช่วยกูทำไม”
“ผัวมีหน้าที่ต้องช่วยเมียสิ เห็นเมียจะตายอยู่ต่อหน้า จะไม่ให้ช่วยได้ยังไง”
ยักคิ้วอย่างทะเล้นใส่ ผมง้างหมัดขึ้นตั้งใจจะต่อยหน้ามันให้หายแค้น แต่เพราะเพิ่งผ่านความตายมาอย่างที่มันว่าก็เลยไม่มีแรงมากพอจะทำแบบนั้น ผลสุดท้าย...
หมัดของผมร่วงตุ้บลงข้างตัวอย่างง่ายดาย
“เก็บแรงไว้ก่อนดีกว่านะ พี่ก้านว่าเราคงต้องอยู่ที่นี่ด้วยกันอีกนาน ไม่รู้ว่าคลื่นพัดพาพวกเรามาที่เกาะไหน?”
ไอ้พี่ก้านดันหลังผมให้ทรงตัวได้ รอบตัวเรามีแต่น้ำทะเลและต้นไม้ ท่าทางจะติดเกาะจริงๆเสียด้วยสิ
“คลื่นขนาดนั้น รอดมาได้ไงวะ”
ตั้งคำถามกับตัวเอง
“พี่ก้านก็สงสัยอยู่เหมือนกัน อุตส่าห์ว่าจะตายตามเมียสักหน่อย”
“ใครเมียมึง ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
“พี่ก้านเอาใครไปก็คนนั้นน่ะแหละ”
“กวนตีน!”
ทั้งที่ปากด่าไปแบบนั้น แต่ในใจผมกลับเต้นแรง
ความจริงก่อนหน้านี้แทบกลายเป็นเพียงความฝันไปเลยเมื่อที่แห่งนี้มีแค่เราสองคน อยากจะขอให้ทั้งหมดเป็นเพียงฝันร้ายที่สุดในชีวิตจังเลย
“พี่ก้านว่าเราไปหาที่พักกันดีกว่านะครับ พี่ก้านจะเตรียมจุดไฟให้”
“จุดเป็นหรือไง เอาไฟแช็กมาเหรอ?”
“เห็นแบบนี้แต่พี่ก้านก็ได้เป็นหัวหน้ากลุ่มลูกเสือทุกปีเลยนะ เรื่องจุดไฟน่ะของหมูๆ”
ได้ทีรีบอวดเบ่งทันที
ผมเบ้ปากหมั่นไส้ในความโชว์พาวของมันเล็กน้อย
“มาครับ พี่ก้านช่วยพยุง”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือมาให้ แน่นอนว่าผมทำหยิ่ง ปัดมือมันทิ้งและตั้งใจจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง แต่ทว่า…
แปล๊บ..!
“โอ๊ย!”
ฉะ…ฉากในละครน้ำเน่า!
ผมเหลือบตาขึ้นมองคนที่ยืนรออยู่ด้วยความเจ็บใจ ขณะที่อีกฝ่ายเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม อมลิ้นแบบกลั้นขำผมเต็มที่
“อยากขำก็ขำไปเลย!”
“พี่ก้านยังไม่ได้ขำสักหน่อย มาๆ ขี่หลังพี่ก้านเนอะ”
มาทำขยิบตงขยิบตาแอ๊บแบ๊ว เดี๋ยวกูก็ตบฟันร่วงเลย!
แต่ด้วยตอนนี้ร่างกายผมยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควรเลยต้องยอมๆมันไปก่อน ค่อนไปทางงุนงงเสียด้วยซ้ำว่าเร่องราวมันพลิกจากหลังตีนเป็นฝ่ามือภายในพริบตาแบบนี้ได้ยังไง พี่ก้านย่อตัวลงเพ่อให้ผมขึ้นขี่หลังมันได้ง่ายๆ
“ฮึบ!”
“…”
“นึกว่าแบกช้างนะเนี่ย”
“ไอ้พี่ก้าน!”
กูว่าจะสงบปากสงบคำแล้วเชียว แต่ปากมึงนี่วอนหาเรื่องมาก!
“แหะๆ ล้อเล่นจ้าๆ แบกเมียแค่นี้ทำไมจะแบกไม่ได้”
“ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ใครเมียมึง เมื่อไหร่จะเลิกพูดสักที”
“ก็น้องจ้าวเป็นเมียพี่ก้านจริงๆนี่นา ไม่เช่อคืนนี้ลองพิสูจน์ไหมล่ะครับ ขาเจ็บแบบนี้คงไม่มีแรงถีบพี่ก้านแน่นอน”
“ไอ้พี่ก้าน!!!”
หมับ!
“โอ๊ยๆๆๆ เจ็บครับๆ เจ็บแล้ว โอ๊ยยย ยอมแล้วจ้าๆ โอ๊ยยยย”
เสียงร้องโอดครวญดังลั่นไปทั่ว
ไอ้ตุ๊ดกระโปรงบานเอียงคอไปตามทิศทางที่โนผมดึงหู
หมับ!
“อ๊ะ! ทำเหี้ยไรวะ!”
ผมร้องลั่นเมื่อถูกอีกฝ่ายใช้นิ้วรูดการ์ดตรงบั้นท้ายผม ทำเอาเสียววาบยันลำไส้เลย
“หายกันไงครับ”
“ไอ้ลามก!”
ถึงจะโดนด่าขนาดนี้แต่ก็ยังไม่สะท้าน สุดท้ายก็เป็นผมเองที่ต้องเงียบไปโดยปริยายเพราไม่อยากโดนท่าไม้ตายรูดการ์ดนั่นอีก
พี่ก้านพาผมมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะเดินไปหยิบเศษก้านมะพร้าวที่ตกอยู่บนพื้นมาปูทับกันเพื่อทำที่นอนให้ ผมได้แต่นั่งมองมันทำนู่นทำนี่ตาปรบๆเพราขาเจ็บอยู่เลยช่วยอะไรไม่ได้เลย
แปลกแฮะ ทั้งที่ภายนอกมันดูเหมือนกะเทยร่างยักษ์ แต่ว่าเพราะเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นแบบนี้กลับ…
กลายเป็นคนที่พึ่งพาได้ขึ้นมา
“นี่…”
ระหว่างที่พี่ก้านกำลังพยายามจุดไฟให้ติดด้วยการเอากิ่งไม้มาทูกับท่อนไม้ขนาดเท่าท่อนแขนผมก็เอ่ยขึ้น
พี่ก้านชะงักเล็กน้อย หันมามองผมโดยไม่พูดอะไรกลับมาเพื่อรอให้ผมเป็นฝ่ายพูดก่อน
“ทำแบบนี้ทำไม”
“ทำอะไรครับ?”
“ตอนที่กระโดดลงมา กูได้ยินเสียงมึง มึง…”
“…”
“กระโดดตามกูลงมาใช่ไหม ไม่งั้นคงไม่มาติดเกาะด้วยกันแบบนี้หรอก”
“ยังรู้ใจพี่ก้านเหมือนเดิมหรอกนะ”
มันตอบโดยไม่มองหน้า ยังคงง่วนกับการจุดไฟต่อไปเพราพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเต็มทีแล้ว
“ทำไมล่ะ ทำไมต้องกระโดดตามกูลงมา ในเมื่อถ้ากูตาย มึงน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องมาคอยกังวลหรือว่าเจ็บปวดเพราะเรื่องของกูอีก”
เสียงเศร้าไปตามความรู้สึก ยิ่งนึกว่าก่อนหน้านี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมก็ยิ่งเจ็บและไม่รู้ว่าควรแสดงท่าทียังไงดี
ในหัวมัน…
ตื้อไปหมดแล้ว
“ไม่ว่าน้องจ้าวจะกระโดดหน้าผากี่ครั้ง หรอจะพยายามฆ่าตัวตายอีกกี่ครั้งก็ตาม พี่ก้านก็จะไปด้วย เราจะตายด้วยกัน ถ้าน้องจ้าวต้องการ”
“ทำไม…”
“ไหนๆตอนนี้ก็รู้ความจริงเกือบทั้งหมดแล้ว บอกเลยก็คงไม่เป็นไร”
“…”
“พี่ก้านรักน้องจ้าว รักมาก รักมาตลอด เพราะรัก ถึงห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วจับน้องจ้าวทำเมียไปยังไงล่ะครับ”
ว่าพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม คำว่าจับผมทำเมียของมันทำเอานึกถึงเหตุการณ์ที่เคยตกเป็นของมันมาสองครั้ง
ฉ่า!!!
คะ…แค่นึกเท่านั้น ใบหน้าของผมก็ร้อนผ่าวเหมือนโดนเตารีดแทบหน้าเลย!
“เอ้าๆ หน้าแดงหมดแล้วนะครับ น่ารักจริงๆ”
“พูดบ้าๆ! ไหนมึงบอกเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ สายเลือดเดียวกัน จะรักกันได้ไง!”
“เรื่องนั้น…ไว้เราหาทางกลับจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ พี่ก้านจะค้นหาความจริงเอง”
“หมายความว่ายังไง”
“หมายความว่าบางที คนที่โง่ที่สุดอาจจะเป็นพี่ก้านก็ได้ไงล่ะครับ โดนหลอกมาตั้งหลายปี หึ…”
แววตาของพี่ก้านว่างเปล่าเสียจนน่ากลัว ไม่เข้าใจเลยว่ากำลังหมายถึงอะไรกันแน่ แต่คนอย่างมัน ถ้าเรื่องไหนที่ไม่อยากบอก ต่อให้เอาตีนยัดเข้าไปในปากแล้วง้างออกมันก็ไม่พูดหรอก!
“ไม่รู้หรอกนะว่าหมายถึงอะไร แต่…กูเหนื่อยที่จะถามเอาความจริงจากปากมึงแล้ว อยากบอกเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน”
หลังจากที่เพิ่งผ่านวินาทีแห่งความตายมา บอกเลยว่าผมแอบรักชีวิตตัวเองขึ้นเยอะ ตอนที่น้ำทะเลเข้าปากจนสำลักและหมดสติไปนั้น ทรมานอย่าบอกใครเชียว…
“ขอบคุณนะครับ ที่เชื่อใจพี่ก้าน”
อีกฝ่ายหันมาส่งยิ้มอ่อนโยนให้
ถ้าไม่เชื่อใจมึง จะให้กูเชื่อใจแมวที่ไหนล่ะ ในเมื่อ…คนที่ยอมเจ็บปวดคนเดียวเพื่อปิดบังความลับเหล่านั้นตลอดเพื่อกูก็มีแค่มึงคนเดียว
ที่สำคัญ…
การที่มันกระโดดน้ำตามผมลงมาเพื่อหวังจะตายไปด้วยกัน มันก็พิสูจน์ได้มากพอแล้วว่าสำหรับพี่ก้าน…
เพื่อผมแล้ว…
เขายอมให้ได้แม้แต่ชีวิตของตัวเอง
คำว่า…ถ้าจะตาย เราก็จะตายด้วยกันน่ะ ถ้าใครไม่ได้มาฟังคำนี้ด้วยตัวเอง จะไม่เข้าใจเลยมันอบอุ่นแค่ไหน
“แล้ว…ช่วงที่ยังอยู่ที่นี่ พวกเรา…”
“…”
“จะเป็นอะไรกันเหรอ”
“หืม? น้องจ้าวว่ายังไงนะครับ พี่ก้านได้ยินไม่ชัดเลย โอ๊ะ! ไฟติดแล้วล่ะ”
ให้ตายสิ คิดจะแกล้งกันหรือไงวะ!
พี่ก้านเอาเศษไม้และใบไม้สุมเข้าไปจนกองไฟใหญ่ขึ้นพอที่จะให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและกันพวกแมลงต่างๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินมานั่งข้างๆผม แต่ว่า…
“ถ้าจะนั่งเบียดขนาดนี้ ไม่ขึ้นมานั่งบนตักกูเลยล่ะ”
“ได้เหรอครับ!”
“กูประชด!”
“ไม่เอาอ่ะ เลิกพูดกูมึงกับพี่ก้านเถอะนะ กลับไปพูดเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ”
“นะ…นี่ไงเหมือนเดิม! กูก็พูดแบบนี้มาสบเอ็ดปีแล้ว”
“ไม่เอาสิ ไม่เอาในช่วงสิบเอ็ดปีนี้ เอาช่วงสิบสองปีก่อนหน้านั้นเลย ได้ไหมครับ”
เอียงคอถามอย่างน่ารัก
ไอ้หน้าหวานๆปานน้ำผึ้งของมันนี่โคตรทำให้ใจเต้นรัว! ผมเบือนหน้าหนีเพราะไม่สามารถต้านทานความน่ารักนี้ได้ต่อไป แต่ก็ไม่วายถูกมันจับให้หันกลับมาอีก
“พี่ก้านยังไม่ได้ตอบคำถามน้องจ้าวเลย อย่าเพิ่งหันหน้าหนีกันสิ”
“มะ…ไม่ถามแล้ว!”
“แต่พี่ก้านอยากตอบ”
“ก็ไม่อยากรู้นี่โว้ยยยย!”
“แฟน”
“!!!”
“ในช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ พวกเราจะเป็นแฟนกัน และทันทีที่กลับไป พี่ก้านจะสืบหาความจริงเรื่องของน้องจ้าวทันที และถ้าสุดท้ายมันคอเรื่องโกหก ถึงตอนนั้น…”
“…”
“มาอยู่ด้วยกันนะ”
“พี่ก้าน…”
“นะครับ”
ผมเม้มปากแน่น เหลอกตาขึ้นฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจของตัวเอง ถึงจะยังงงๆว่าอะไรทำให้ความคิดของพี่ก้านเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้แบบนี้
แต่ผม…
รู้สึกดีเหลือเกิน
เหมือนหัวใจถูกซ่อมแซมบาดแผลทั้งหมดที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ คล้ายกับมีสายน้ำเยนไหลรินพาดผ่านดวงใจที่ร้อนรุ่มของผม
“สัญญานะ”
เอ่ยถามเสียงสั่นทั้งน้ำ ผมจ้องหน้าพี่ก้านที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เขาส่งยิ้มหวานละลายใจที่ทำให้ผมอบอุ่นทุกครั้งที่มองมาให้
“สัญญาครับ”
“หะ…ห้ามทิ้งผมอีกนะ”
“อื้ม แน่นอนครับ”
“จะไม่ไล่ผมอีกใช่ไหม”
“ไม่ไล่แล้วครับ”
“ฮึก…”
“…”
“รัก…”
“…”
“ผม…รักพี่ก้านนะ”
หมับ!
สิ้นคำบอกรักของผม ร่างกายก็ถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปกอดไว้แน่น
ผมค่อยๆยกมอขึ้นกอดเขากลับ
ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้… ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่ผมรับรู้ได้ถึงความรักจากเขาโดยตรง…
“พี่ก้านก็รักน้องจ้าว รักจนแม้ต้องตายก็ยอม”
“พี่ก้าน ฮึก…”
เราสองคนค่อยๆผละออกจากกัน ริมฝีปากถูกเคลื่อนทับปิดแนบสนิท ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่อัดแน่นอยู่ภายในมาเนิ่นนาน…
พี่ก้านค่อยๆดันตัวผมให้นอนราบลงไปกับพื้น เสื้อผ้าที่เปียกถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว ไออุ่นจากกองไฟโอบกอดร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่เอาไว้ ผมหลับตาแน่นขณะที่ถูกกอดไว้แน่นยิ่งกว่า ยามที่ลิ้นร้อนเข้าสัมผัสกับร่างกาย หัวใจมันแทบจะหยุดเต้นไปเลย…
“อื้อ!”
สองมือยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกอิ่มเอมล้วนๆ สองขาถูกแยกออกจากกันและดันขึ้นจนหัวเข่าชนกับหน้าท้อง หนทางแห่งความสุขถูกรุกล้ำด้วยเรียวลิ้นแห่งความหฤหรรษ์
อ่อนโยน…
นุ่มนวล…
และเร่าร้อน…
เขาเก่งเรื่องทำให้ผมรู้สึกดีทั้งทางร่างกายและจิตใจจริงๆ
“อึก!”
ความอึดอัดจากการเป็นหนึ่งเดียวกันช่างสุขสมเหลือเกิน
ผมโอบรอบลำคอกอดคนตัวใหญ่กว่าเอาไว้แน่น สบตามองกันขณะที่เขากำลังดำเนินความสัมพันธ์ของให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“รู้สึกดีไหมครับ”
พยักหน้ารับเพราะถึงอยากจะตอบก็ตอบไม่ได้ ตอนนี้ที่ผมทำได้มีแค่ส่งเสียงครางบ่งบอกถึงความสุขที่ได้รับว่ามันมากมายแค่ไหน
“สงสัยเพราะไม่ได้ทำเสียนาน แน่นเชียว…”
“ทะลึ่ง! อื้อ!”
เสียงต่อว่าเป็นอันสลายหายไปเมื่อภายในถูกเติมเต็มเข้ามาสุดแรง มันล่วงล้ำเข้ามาเสียจนผมอดกลัวไม่ได้ว่าอาจจะทะลุออกมาทางปากผม!
“อ่า…ชักจะหยุดไม่ไหวแล้วสิ”
ความเร็วในการเพิ่มความสุขรุนแรงขึ้น จังหวะที่เคยเชื่องช้าแปรเปลี่ยนเป็นรวดเร็วราวกับติด 4G ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่ตัดสินใจทำมันเลยสักนิด
กลับกัน…
ผมแทบไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบลงในครั้งเดียว
“หมดสภาพมาเชียวนะ กล้ามากที่แสดงความรักอย่างเร่าร้อนของเจ้าหญิงของข้าต่อหน้าต่อตากันแบบนี้!”
ก้านที่สวมแค่กระโปรงตัวเดียวเดินมานั่งแหกแข้งแหกขาตามประสาผู้ชายทั่วไปเปรยตามองเจ้าของเสียงที่อยู่ในทะเล
“พูดมากน่า ทำแบบนี้นายก็จะได้รู้สักที ว่าน้องจ้าวเป็นของฉัน นายไม่มีวันแย่งเขาไปได้หรอก”
“ก็ไม่แน่หรอกนะ อย่างน้อยข้าก็เปิดตัวทำคะแนนไปได้ดีพอสมควร”
“ถ้าน้องจ้าวรู้ว่านายเป็นตัวอะไร ขี้คร้านจะรังเกียจน่ะสิ!”
“ใจร้ายจัง ข้าอุตส่าห์ช่วยชีวิตเจ้าทั้งสองไว้เชียวนะ แถมยังใจดีสงเคราะห์บอกความลับของเผ่าเงือกให้รู้ด้วย ยังจะมาทับถมกันอีก”
เจ้าของเสียงแลบลิ้นใส่ก้านที่แสยะยิ้มอย่างไม่ยี่หระอยู่บนผืนทราย
“ว่าแต่ ที่นายบอกฉัน เรื่องจริงแน่ๆใช่ไหม”
“แน่ยิ่งแน่ สำหรับสายเลือดผสม ถ้าไม่ได้ถูกผนึกวิญญาณเงือกเอาไว้ ทะเลจะไม่มีวันคร่าชีวิตของคนผู้นั้น ถ้าเจ้าหญิงของข้ามีสายเลือดของเงือกอยู่ในตัวโดยที่วิญญาณเงือกไม่ได้ถูกผนึกเอาไว้จริงๆ คงไม่มีทางเกือบตายเพราะน้ำทะเลแน่ๆ”
“เพราะทะเล…”
“…”
“ไม่มีวันทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาจากทะเลเด็ดขาด”
“เท่ากับว่า ฉันต้องสืบหาให้ได้ ว่าน้องจ้าวถูกผนึกวิญญาณเงือกเอาไว้หรือว่า…”
“…”
“ไม่ได้มีสายเลือดของเงือกอยู่เลยกันแน่”
สายตาของก้านแน่วแน่กว่าทุกที บุคคลปริศนาที่อยู่ในน้ำทะเลยิ้มแป้น ก่อนจะดำผลุบลงไปใต้น้ำ เผยให้เห็นหางอันแสนสวยงามที่ชี้ขึ้นมากระทบกับแสงจันทร์
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ!”
ผมทิ้งตัวลงกอดพี่ก้านจากทางด้านหลังหลังจากตื่นนอนมาพบว่าถูกจับเอผ้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนใส่ให้ก็มางุ่นง่านอะไรอยู่แถวกองไฟไม่รู้
“ตื่นแล้วเหรอครับ พี่ก้านกำลังย่างปลาให้น่ะ อ้อ มีน้ำมะพร้าวด้วยนะ จะกินหรือว่าจะล้างหน้าดี?”
“เอาไว้ล้างหน้าพี่เหอะ!”
ว่าพลางคลายอ้อมกอดออก แล้วกระดึ๊บๆไปนั่งข้างๆแทนเพื่อรอกินปลา
“พี่ไปจับปลามาเองเลยเหรอ เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“จะปล่อยให้เมียแสนน่ารักของพี่ก้านหิวได้ยังไงล่ะ ว่าแต่…ตรงนั้นเป็นยังไงบ้างครับ เมื่อคืนพี่ก้านทำไปซะเยอะเลยด้วย”
“พูดมากน่า ผมไม่เป็นไรหรอก”
เบือนหน้าหนีด้วยความอาย
เมื่อคืนพวกเราแสดงความผูกพันทางกายกันหนักหน่วงและมากครั้งไปหน่อย คงเพราะรักกันมากและคิดถึงกันมากล่ะมั้ง ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่พอสักที ทั้งที่สุดท้ายพวกเราแทบไม่มีอะไรให้หลั่งออกมาจากตัวแล้ว แต่พี่ก้านมันก็ยังไม่ยอมหยุด
ผลสุดท้ายคือ…
สลบทั้งที่ยกสุดท้ายยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ!
“วันนี้พวกเราจะได้กลับบ้านกันแล้วนะครับ เดี๋ยวรูปปั้นคงเอาเรือมากรับพวกเรา”
“ไอ้ปั้น? มันรู้ได้ไงว่าพวกเราติดเกาะ”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ พี่ก้านว่ารีบกินดีกว่า จะได้…”
สายตากะลิ้มกะเหลี่ยเลื้อยมองไปทางบั้นท้ายของผม ผมรีบตะครุบมันไว้อย่างหวนแหนทันที
กะ…กูยังไม่ทันได้กลับมาฟิตดังเดิมเลยนะ มึงคิดจะเอาอีกแล้วเรอะ!
“ฮ่าๆๆ พี่ก้านล้อเล่นน่า เว้นสักสองสามวันละกัน”
“สองสามวันเองเรอะ! ขอต่อเวลาเป็นสามเดือนได้ไหม”
“งั้นพี่ก้านให้วันเดียวพอ”
“เฮ้ย!”
“น้องจ้างจะบ้าเหรอครับ จะให้พี่ก้านอดทนตั้งสามเดือนโดยไม่ได้แซ่บกับน้องจ้าวเนี่ยนะ มีหวังเฉาตายพอดี พี่ก้านรอมานานแค่ไหนรู้บ้างไหม เราน่ะยั่วพี่ก้านมาตั้งแต่ห้าขวบแล้วอย่ามาทำไม่รับผิดชอบกันนะ!”
ทำไมคำพูดมันแปล่งๆชอบกล นั่นมันสมควรจะเป็นคำพูดผมไม่ใช่หรือไง!
“สะ…สามวันเหมือนเดิมก็ได้”
“ดีมากเด็กดี ครบสามวันเมื่อไหร่พี่ก้านจะทบต้นทบดอกให้ยิ่งกว่าเมื่อคืนเลย”
กลืนน้ำลายลงคอด้วยความ(หวาด)เสียว
เมื่อคืนนั่นว่าสุดๆแล้วนะ ยังมีอัพสกลเพิ่มอีกเหรอ ตายแน่ๆกู!
“จริงสิ หลังจากกลับไปคราวนี้ พี่ก้านมีเรื่องให้ช่วยเยอะเลยล่ะ”
“เรื่องอะไร?”
“เชื่อมั่นในพลังรักของพวกเรา แล้วช่วยพี่ก้านได้ไหมครับ?”
มาอีกแล้ว…
ท่าไม้ตายเอียงคออย่างน่ารักเหมอนสาวญี่ปุ่นนั่น!
ว่าแต่…จะมีเรื่องวุ่นๆอะไรตามมาอีกนะ เฮ้อ!!!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า หลังจากซดมาม่ามาหลายตอน ตอนนี้เลยขอมาแจกลูกกวาดให้กินกันบ้าง พี่ก้านคนหื่นของเราจัดหนักจัดเต็มซะน้องลุกไม่ไหวเลยแฮะ 55555 ว่าแต่ สรุปแล้วเรื่องของน้องจ้าวเป็นยังไงกันแน่นะเนี่ย ตกลงว่าพวกเขามีสายเลือดเดียวกันจริงหรือเปล่า แล้วคนที่พี่ก้านแอบคุยด้วยกลางดึกนั่นคือใครกัน? ที่แน่ๆ! มีหางด้วยล่ะ!