LOVE HIGH STORY – 11 – Doubtful State of Mind | สงสัย ใจว้าวุ่นhttp://www.youtube.com/v/zjb9Ebqf3CM ณ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่หลังหนึ่งในซอยทองหล่อ13 ภายในห้องนอนบนชั้นสองมีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหุ่นนักกีฬา ผมรากไทรระต้นคอ ส่วนหน้าตาก็เรียกได้ว่า “หล่อ” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่จะหน้าหม้อหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่ทราบ... ชายหนุ่มอดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลเจ้าของส่วนสูง 180 ซม ที่ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปีหนึ่งของหมาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านหัวหมากคนนี้... เขามีชื่อว่า “โต้ง”...
ใช่แล้วละครับ ท่านผู้อ่าน โต้งที่เป็นรุ่นน้องของเต็มเขานั่นแหละและก็เพิ่งจะโดนลากเข้าชมรมไปหมาดๆ เมื่อคืนก็เพิ่งไปดื่มเลี้ยงรับน้องกันมาที่บาร์ชื่อดังแถวตรอกข้าวสาร ส่วนเพื่อนสนิทอีกสองคนก็โดนลากเข้าชมรมไปด้วย น้องดรีมไงครับ จำกันได้ไหมเอ่ย ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายครับ ชื่อว่า “ไอ้อู๋”...
โต้งยืนอยู่ริมหน้าต่าง... จ้อง BB ที่เขาถืออยู่ในมือ มันไม่ใช่โทรศัพท์ของเขาหรอกครับ มันเป็นของคนตัวเล็กที่เมื่อคืนนี้เมาแล้วลืมกระเป๋าไว้กับเขาตอนที่เขาเดินไปส่งที่รถ... เขานั่งจ้องมันอยู่อย่างนั้นตั้งแต่รุ่งสาง ไม่ใช่ว่าตื่นเช้าหรืออะไรหรอกครับ เขานอนไม่ค่อยหลับ เพราะว่ามีบางสิ่งบางอย่างมันวนเวียนอยู่ในหัว มีคำถามมากมายที่อยากรู้คำตอบ มีความกังวลที่รบกวนจิตใจให้ว้าวุ่น มีความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในอก...
โต้งกำลังมี “ความรัก”... และไอ้ความรักที่ว่าก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเขามาก่อน จนกระทั่งเมื่อคืนนี้...
.
.
.
“นายนี่ หวงเพื่อนจังเลยน๊า...”
“...”
“หวงกันแบบนี้... เพื่อนแน่เหร๊อ”
“ฟังนะครับ ผมกับไอ้เปี๊ยกนั่น เป็นแฟนกันและผมก็หวงมันมากด้วย... ถ้าเข้าใจแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับแฟนคนอื่น... นะครับ”
.
.
.
มันเป็นอะไรยังไงของมันนะหัวใจ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนคนอกหักเลยครับคุณผู้อ่าน ประโยคเหล่านี้มันติดอยู่ในหัวผมตั้งแต่เมื่อคืน ถึงเสียงเพลงจะดังยังไง แต่ผมกลับได้ยินมันชัดแจ๋วเลยละครับ
ความรู้สึกแรก... เหมือนอกหักเฉียบพลัน ไม่ต้องตั้งตัว ไม่ต้องเตรียมใจอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะพอเห็นและได้ยินมาบ้างว่าพี่โบ๊ทกับต้าร์เขาสนิทกันมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้องหรือเพื่อนไปได้ แต่ประโยคที่พี่โบ๊ทบอกไอ้ผู้ชายมีหนวดเมื่อคืนนี้ มันค่อนข้างจะขัดกับสิ่งที่ผมพยายามจะเชื่ออยู่นะครับ... เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ
.
.
.
แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?... จะให้เล่าก็ได้...
.
.
.
ไอ้ความรักแปลกๆ ของผมมันเกิดขึ้นปีที่แล้ว... มันเหมือนรักแรกพบเลยละครับ ตอนนั้นกำลังจะสอบมิดเทอมของเทอมหนึ่งครับ ผมไม่มีหนังสือวิชาสื่อสาร (ไม่ได้ซื้อ) แล้วพอดีว่าดรีมบอกว่าในห้องสมุดมี ให้ไปยืมมาถ่ายเอกสาร ผมก็เลยไปห้องสมุด... ก็นั่นแหละครับ สถานที่ที่หัวใจผมโดนจู่โจม
ผมเดินเข้าไปหาหนังสือ ก็หาไม่ค่อยเป็นหรอกครับ ปกติไม่เคยเข้าห้องสมุด ก็เดินมั่วไปเรื่อยจนเดินเข้าไปถึงด้านในซึ่งไม่ค่อยจะมีคนสักเท่าไรนัก เดินไปสักพักก็เห็นขาคนโผล่ออกมาจากซอกชั้นวางหนังสือด้านในติดกำแพง ก็เลยเดินเข้าไปดู พอเห็นหน้าเท่านั้นแหละครับ... หัวใจผมโดนกระซวกแล้วล้วงออกไปด้วยมือเปล่า ไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันเตรียมใจ... เผลอยืนมองอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็เมื่อดวงตาคู่นั้นลืมขึ้นมาประสานกับตาของผม... ดวงตาใสคู่นั้นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้ผมมั่นใจว่านี่แหละที่เขาเรียกกันว่า... รักแรกพบ...
.
.
แต่วันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น มันคงเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่มันมีผลกระทบต่อความอ่อนไหวมากมายเหลือเกินครับ... ใช่ครับ ใจผมโดนขโมยนิรนามมาคว้าไปในเวลาแค่ไม่กี่วินาที
.
.
หลังจากนั้นผมก็ได้แค่แอบมองเวลาเดินผ่านกัน เขาคงจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะว่าเท่าที่ผมสังเกตุนะ เขาไม่เคยมองมาทางผมเลย แต่ผมก็ไม่เรียกร้องอะไรนะครับ ก็เข้าใจว่ามันไม่เหมือนผู้ชายกับผู้หญิงที่ถูกใจก็เข้าไปจีบเป็นเรื่องเป็นราวได้... ผมเองก็ไม่ได้ปิดหรือโกหกใครหรอกนะครับว่าผมชอบแบบนี้ เพียงแค่ไม่ได้ป่าวประกาศไปทั่ว รู้กันก็แค่ดรีม ไอ้อู๋ และเพื่อนอีกไม่กี่คนครับ... เรื่องของเขาคนนั้นดรีมกับอู๋ก็รู้ครับ ผมก็ไปเล่าให้พวกมันฟังตลอดแหละครับ แต่เรื่องเมื่อคืนนี้ผมยังไม่ได้บอกใคร แค่คิดในใจก็ปวดอกแล้วครับ จะเอาแรงที่ไหนไปพูดให้ใครฟังได้... เฮ้ออออ ผมอ่อนแอจัง ทั้งๆ ที่ก็เป็นนักกีฬาแท้ๆ
ผมค่อนข้างคุ้นชินกับการแอบชอบอยู่ฝ่ายเดียว ผมเนียนเก่งนะครับ ไม่ค่อยแสดงออกไปตรงๆ หรอกเวลาชอบใคร ได้แต่มองเนียนๆ แล้วปล่อยผ่าน... แต่คราวนี้ผมดันเจอดรีมกับอู๋ยุยงส่งเสริม (ดรีมเนี่ย สาววายตัวแม่เลยครับ) ผมก็เลยฮึดสู้ บอกตัวเองว่า “เอาวะ ลองดูสักครั้ง” ผมเองก็ไม่ได้หน้าตาแย่ หุ่นก็ดี ฐานะทางการเงินก็คุยได้ไม่อายใคร คนสนใจผมเองก็มีไม่น้อย แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรให้ผมไม่ลองจีบใครดูสักครั้งละครับ... แล้วพอดีว่าฟ้าเป็นใจ ทำให้ผมไปรู้จักกับพี่เต็มที่สนิทกับพี่โบ๊ทกับต้าร์ เมื่อพี่เขาชวนเข้าชมรม ผมก็เลยแกล้งทำเป็นเล่นตัวเหมือนไม่เต็มใจ แต่ข้างในนี่ลิงโลดสุดๆ แล้วละครับ... บอกตัวเองว่า นี่แหละโอกาสที่จะได้รู้จักและใกล้ชิด... ผมจะเดินหน้าเต็มที่
พอได้รู้จักกับพี่เต็ม ผมก็เลยพอจะได้เห็นสองคนนั้นบ่อยขึ้น ใกล้ชิดขึ้นอีกนิด... จึงได้หวั่นใจว่าสองคนนั้นเขาอยู่ในฐานะอะไรกัน... ถึงจะหวั่นในใจอยู่ไม่น้อยหากเขาสองคนเป็นแฟนกันตามที่เพื่อนๆ เขาชอบแซวอยู่เรื่อยๆ แต่ก็แอบลุ้นว่าเขาจะมีรสนิยมคล้ายๆ ผม และมีโอกาสจะมองผมบ้างสักวัน ... แต่อีกเสี้ยวหัวใจผมก็ภาวนาว่าขอให้พวกเขาเป็นแค่เพื่อนพี่น้องธรรมดา ขอให้พวกเขาแค่สนิทกันม๊ากมากเท่านั้น... ผมอยากให้เขาเป็นของผมเพียงคนเดียว หันมามองผมเพียงคนเดียวบ้าง... แบบไหนมันเจ็บน้อยกว่ากันเหรอครับ? เฮ้ออออ
ว่าแต่ เคยฟังไหมครับเพลงรักแรกพบของ Tattoo Colour อะครับ ผมเปิดฟังทุกวันจนกระทั่งเมื่อคืนนี้ อยากจะหาเพลงอกหักมาตอกมาย้ำให้มันตายกันไปข้าง
.
.
.
เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับครับ หัวใจมันว้าวุ่นจนไม่เป็นอันนอน ยิ่งพอกลับมาถึงบ้านแล้วพี่โบ๊ทโทรเข้าเครื่องของต้าร์ บอกให้ผมเอากระเป๋าไปให้วันนี้ตอนบ่าย... มันจะไม่มีอะไรเท่าไรหรอกครับ หากผมไม่ได้ยินเสียงต้าร์แทรกเข้ามาในโทรศัพท์... สรุปว่าเขาอยู่ด้วยกันจริงๆ... ใช่ไหมครับ... สรุปว่าเขามีอะไรเกินเลยกันกว่าพี่น้องพ้องเพื่อน... ใช่ไหมครับ
โทรศัพท์ของต้าร์อยู่ในมือผม จะเป็นอะไรไหม หากผมขอเปิดและค้นดูเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามที่ผมสงสัย... มันอาจจะดูไม่มีมารยาท แต่ผมก็อยากรู้นี่ครับ และโอกาสแบบนี้ ไม่ได้มีมาให้คว้าไว้บ่อยๆ... ถ้าเป็นคุณ คุณจะดูไหมครับ
.
.
ผมตัดสินใจเปิดไล่ดูข้อความ... เขาส่งเล่นกันราวกับ msn... บางข้อความก็ดูอบอุ่นละมุนละไม บางข้อความก็ยียวนกวนประสาท บางข้อความก็แสนจะธรรมดาราวกับถามกันทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวัน... ตื่นหรือยัง... กินข้าวหรือยัง... นอนยัง... อยู่ไหน.. อะไรทำนองนี้... เพื่อนกันเขาคุยกันแบบนี้ไหมครับ? แล้วถ้าเขาอยู่ด้วยกัน ทำไมถึงต้องส่งคุยกันแบบนี้?... งั้นก็แปลว่ามีแนวโน้มว่า จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน... (กำลังใจ +1)
ผมเปิดดูแฟ้มภาพถ่าย... มีรูปพี่โบ๊ทโดนแอบถ่ายอยู่หลายอิริยาบท ทั้งตอนกำลังอ้าปากกินข้าว ตอนเล่นเกม ตอนเล่นคอม ตอนนั่งอ่านหนังสือ ตอนขับรถ หรือแม้กระทั่งตอนแปรงฟัน... อ้าว ภาพส่วนใหญ่ถ่ายในบ้านหรือห้องพัก งั้นก็แปลว่าพวกเขาอยู่ด้วยกัน... ใช่ไหมครับ... ตุ้มมมมมมมมม แอ๊ก!... โดน Critical Attack (กำลังใจเหลือ 0)
ณ จุดนี้ ผมรู้สึกเหมือนพลังชีวิตมันถดถอยอย่างแรงครับ... เอาเพลงแทงข้างหลังฯ ของพี่ออฟมาฟังให้ตายกันตรงนี้ไปเลยดีไหมครับ
ถึงจะเริ่มสาหัสขนาดนี้ แต่ผมก็ดันดื้อด้าน ไปเปิดดูบันทึกการโทร-รับสายของต้าร์เข้าไปอีก... จะไม่ร่อแร่ก็ไม่รุ้จะว่ายังไงแล้วครับ ก็กว่า 90% ของการโทรและรับสายมันเป็นเบอร์ของ MojoJojo นี่ครับ... (กำลังใจ -1)
.
.
.
~Ma cosa hai messo nel caffè. Che ho bevuto su da te? C'è qualche cosa di diverso adesso in me~
.
>>> Incoming Call: MojoJojo <<<
.
ดูสิครับ พูดถึงก็โทรมาเลย...
“ฮัลโหลคับ พี่โบ๊ท”
“เออ ฮัลโหลเว้ยโต้ง จะไปมหาลัยกี่โมงวะ”
“คงประมาณเที่ยงอะพี่”
“เออ คงถึงใกล้ๆ กันแหละ งั้นเจอกันตึก M ตอนเที่ยงนะ ไปกินข้าวกันก่อน”
“อ้อ ได้ครับ... ที่ตึก M นะพี่”
“แปบนึงนะโต้ง...”
“คับ” แล้วก็ได้ยินเสียงพี่โบ๊ทหันไปตะโกนบอกให้ต้าร์หยุดเคาะอะไรสักอย่าง...
“มาละ... ไอ้เปี๊ยกมันเกรียน เลยไปจัดการมา ฮ่าๆ”
“อะนะพี่ รังแกน้องปะเนี่ย”
“รังกงรังแกอะไรเล่า มันอะดิรังแกพี่”
“ซะงั้นเลย”
“เออๆ งั้นก็ตามนี้นะ ไว้เจอกันที่หมาลัย”
“โอเคคับ บายคับ”
.
.
พี่โบ๊ทนะครับ โทรมาย้ำว่าไม่ให้ผมลืมกระเป๋าของต้าร์... ดูเป็นห่วงกันจังนะครับ... อันที่จริงจะไม่ค่อยอะไรเท่าไร หากไม่ได้ยินเสียงของต้าร์แทรกเข้ามาให้ได้ยิน... หากผมไม่ต้องรับรู้ว่าต้าร์กับพี่โบ๊ทอยู่ด้วยกัน ก็คงจะดีกว่านี้... เฮ้ออออ เฮิร์ท
.
.
.อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องหมายเลข 707...
.
.
.
ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง!.
.
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเคาะ กระจกมันจะแตก เข้าใจไหมเนี่ย”
“ไม่อยากให้เคาะก็เปิดประตูดิ”
“แล้วใครบอกให้วิ่งออกไปละ”
“ก็ใครบอกให้โรคจิตละ”
“ก็เอ็งนั่นแหละที่บอก แถมบอกในเฟซบุคด้วยนะ”
“แล้วมันจริงปะละ”
“ก็จริงไง จริงสมใจเลยปะละ ฮ่าๆๆๆ”
“แม่ง หื่นวะ”
“ช่วยไม่ได้ อยากกระตุกหนวดเสือเองนะ”
“หนวดสงหนวดเสือไรละ ลิงชัดๆ”
“เหรอออ งั้นลิงตัวนี้ก็คงจะฟังภาษาคนไม่ออก บอกให้เปิดประตู มันก็คงไม่เข้าใจ”
“อ๊ากกกกกกก แก แก แก แก อ๊ากกกกกก” ต้าร์ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับคำยอกย้อนยียวนกวนบาทาของเพื่อนสนิทรุ่นพี่
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“เปิดประตู แดดส่อง ร้อนจะแย่แล้วเนี่ย”
“...”
“เปิดไวๆ ดิ บอกให้เปิดไงละ วุ้ววววว”
“...”
“ถ้าไม่เปิดดีๆ จะพังกระจกแล้วนะ”
“เชิญ” ร่างสูงพูดพลางหลีกตัวออกจากประตูกระจกบานเลื่อนที่คั่นระหว่างเขาที่อยู่ในห้องกับไอ้เปี๊ยกที่อยู่ที่ระเบียง... เหตุการณ์มันสืบเนื่องมากจากการปลุกปล้ำวิปริตที่เกิดขึ้นบนเตียง แล้วเหยื่อตัวเล็กดิ้นหลุดจากเงื้อมมือไอ้หื่นโรคจิต(หงุดเงี๊ยว)แล้วพุ่งจากเตียงออกไปที่ระเบียง... มันคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่ดันวิ่งผิดฝั่งไปหน่อย เลยโดนโบ๊ทล็อคประตูระเบียงขังไว้ข้างนอกซะเลย... ใส่แค่บ๊อกเซอร์ซะด้วยสิ
“อย่าท้านะ!” ไอ้ตัวเล็กยืนเท้าสะเอวชี้หน้าร่างสูงที่ยืนทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ก็ไม่ได้ท้านิ” โบ๊ทตอบยียวนพร้อมยักไหล่
“ฮืมมมม” ต้าร์ถอยไปตั้งท่าเตรียมพุ่งชนประตู
“เอาจริงอะ?... อืม คงจะเข้าเองได้สินะ...งั้นโบ๊ทไปนั่งรอที่โซฟาละกัน” ว่าแล้วก็เดินหันหลังไปทันที
.
ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์... ปึง! แอ๊ก!!.
“เฮ้ย เอาจริงอะ!!” ร่างสูงตกใจเมื่อได้ยินเสียงร่างเล็กกระแทกประตูอย่างจังแต่เมื่อหันไปมองก็...
.
“อุ๊บส์... กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” โบ๊ทระเบิดหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นสภาพ
ไอ้เปี๊ยกที่พุ่งชนประตูจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้นเอาแก้มแนบอยู่กับประตูกระจก... หมดสภาพอย่างอนาถ
“แปบนะ รอแปบนะ” ร่างสูงรีบเข้ามาชิดประตูแล้วตะโกนบอกร่างเล็ก ก่อนที่เขาจะวิ่งออกไปจากห้องนอน... เพียงอึดใจเดียวเขาก็กลับมาพร้อมกับ... โทรศัพท์มือถือ...
.
แชะ!... หึหึหึ เสร็จกู
แทนที่ร่างสูงจะรีบเปิดประตูและดูอาการของร่างเล็ก แต่เขากลับห่วงที่จะอัพโหลดรูป fail สุดชีวิตของต้าร์ลงเฟซบุคก่อน แถมเขียนคำบรรยายประกอบภาพไว้ว่า
“โปรดติดตามตอนต่อไป”.
.
.
-----------------------------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
หลังจากอัพโหลดชอต fail สุดพลังของไอ้เปี๊ยกเสร็จ โบ๊ทก็เพิ่งจะหันมาให้ความสนใจกับอาการของร่างเล็กที่นอนกองอยู่กับพื้น...
โบ๊ท: เฮ้... (//พูดขึ้นพร้อมเคาะกระจกตรงหน้าไอ้เปี๊ยกดัง ก๊อก ก๊อก ก๊อก)
ต้าร์: ...
โบ๊ท: เฮ้ย เปี๊ยก ตายยัง??? ยู้ฮู้ววววว
ต้าร์: ... (//ลืมตาขึ้นมาค้อนดัง ควับ)
โบ๊ท: หมดสภาพเลยนะเอ็ง ดีนะกระจกไม่แตก ฮ่าๆๆๆๆ แต่ดัง “แอ๊ก!” เลย ฮ่าๆๆๆๆ
ต้าร์: ... (//หลับตาข่มอารมณ์ ฮืมมมมมม)
โบ๊ท: ลุกขึ้นมาดิ อยากนอนก็มานอนบนเตียงนี่มา (//พูดพลางลุกขึ้นไปตบขอบเตียง)
ต้าร์: ... (//ส่งสายตาขึ้นไปมองล๊อคประตู)
โบ๊ท: อ้อออออออ อยากเข้า... แต่เข้าไม่ได้นี่เอง ฮ่าๆๆๆๆ... แล้วก็ไม่บอกดีๆ ละ
ต้าร์: ... (//คิดในใจว่า กรูบอกมรึงจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว มรึงฟังกรูไหม!!)
โบ๊ท: อะๆ น่าสงสาร เดี๋ยวจะหาว่ารังแกน้อง (//ปลดล๊อคประตู)... เอาหน้าออกไปดิ แนบไว้แบบนั้นเดี๋ยวก็ไถไปกับประตูหรอก
ต้าร์: ... (//ตั้งตัวขึ้นนั่ง)
โบ๊ท: จำไว้ ว่าอย่ากระตุกหนวดเสือ... นะครับ ไม่งั้นจะโดนไม่ใช่น้อย
ต้าร์: ... (//พยักหน้าเซ็งๆ)
โบ๊ท: มา ลุกขึ้น (//ยื่นมือเข้าไปให้ต้าร์ยึดจับ)
ต้าร์: ... (//ยื่นมือขวามาจับมือโบ๊ทไว้แน่นแล้วดึงตัวลุกขึ้น... ส่วนมือซ้ายก็คว้าเอาชายผ้าเช็ดตัวที่พันท่อนล่างของโบ๊ทไว้แทน แล้วกระชากเต็มแรงจนผ้าหลุด)
โบ๊ท: เฮ้ย!
ร่างสูงแขนขวากระตุกตามสัญชาตญาณแต่ไอ้ต้าร์จับไว้แน่น ส่วนมือซ้ายก็กำลังจับขอบประตูบานเลื่อน... ผลที่ได้ก็คือ ผ้าเช็ดตัวหลุดลงไปกองอยู่กับพื้น... เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า... ยืนช็อกอยู่ 3 วินาทีก่อนจะได้ยินเสียงร่างเล็กตะโกนใส่หน้าว่า...
“ชิเมโจไต๋!!!!” -----------------------------------------------------------------------
FlapJack's Corner:
ผมมาช้า(มาก) ผมรู้ตัว และผมยอมรับผิดทุกประการ
เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา จนสมอุรา จนสาแก่ใจ
ปล1. อย่าเอาถึงตายนะครับ เดี๋ยวไม่มีแรงมาลง Bonus หลังไมค์
ปล2. โต้งแอบชอบใคร (ใครเดาถูก จะให้หอมตูดไอ้เปี๊ยกสองที)