ตอนที่ 25 คำที่ฝากไว้
“สาม...” ไอ้เดย์ทำหน้าตกใจ พอผมรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็รีบปล่อยมือออกจากมันอย่างว่อง แล้วลองยกขึ้นคลำๆ หัวตัวเองดู “เฮ้ย อย่าเพิ่งไปโดนมัน แผลผ่าตัดมึงยังไม่หายดี”
“ผ่าตัด?...ผ่าตัดอะไรวะ” ผมถามงงๆ มันหน้าเสีย
“มึงจำไม่ได้อีกแล้ว?” ผมอึ้งกับคำว่า ‘อีกแล้ว’ ของมัน
“เปล่า...คือ กูเพิ่งตื่น...กูยังสับสน เออ นั่นล่ะ กูสับสนอยู่”
“มึงแน่ใจนะ?” มันชักสีหน้าเหมือนยังขวัญเสียไม่หาย
“เออ มึงจะกลัวเหี้ยไรเดย์ มึงก็เห็นว่ากูยังจำมึงได้” ผมบอกตัดความรำคาญ ให้ตายสิ อยากให้มันเลิกทำหน้าอย่างนั้นสักที ไอ้สามเห็นแล้วใจแป้วอ่ะครับ “แล้วนี่...กี่วัน?”
“อะไรกี่วัน?”
“กูผ่าตัดมาได้กี่วัน” หอกหัก คนยิ่งคอแห้งๆ จะให้พูดซ้ำพูดซากอะไรนักหนา *หงุดหงิด*
“อ้อ...วันนี้เข้าวันที่เจ็ด” เป็นอะไรกับเจ็ดมากมั้ยกู ครั้งที่แล้วก็เจ็ด
“กูหลับไปนานขนาดนั้น” ผมพึมพำพลางคิดย้อนกลับไปยังสิ่งที่ฝัน “ถึงว่า...”
“ถึงว่าอะไร?” ไอ้เดย์ถาม ผมมองหน้าหล่อของมันแล้วจิ๊ปากอารมณ์เสีย แม่ง! ตอนนั้นกินอะไรถึงได้โตเอาๆ ขนาดนี้วะ ให้ตายกูก็ไม่บอกมึงหรอก ว่าจำเรื่องราวในอดีตได้ อายชิบหาย
“จะเสือกอยากรู้ไปทำไม บ้านเบิ้นไม่มีให้กลับหรือไง” แกล้งตัดเยื่อใยกลบเกลื่อนหน้าร้อนๆ
“มี” มันตอบห้วนๆ แล้วเดินหงอยๆ ไปนั่งบนโซฟา
“มีก็กลับไปดิ” กูยังไม่อยากรำลึกอดีตกับมึงตอนนี้
“หมอบอกต้องมีคนอยู่เฝ้า จนกว่าแผลมึงจะหายดี”
“แล้วไง” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้เดย์ถอนใจเหนื่อย
“กูรับปากแม่มึงกับไอ้เป้ไว้ว่าจะอยู่ดูมึงให้”
“เหรอ แต่โทษนะครับ กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น นี่ไงกูรู้สึกตัวแล้ว แถมคุยกับมึงได้ปร๋อ ฉะนั้นมึงไม่ต้องห่วงนะครับ เชิญกลับบ้านไปได้เลย” ผมโบกไม้โบกมือไล่
“นี่มึงไม่อยากอยู่กับกูขนาดนั้นเลย?” โอ้ ม่ายนะ ไม่เอา อย่าทำหน้าอย่างนั้น สามใจไม่ดี
“กู...”
“หึ ก็ว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าจนกว่ามึงจะออกจากโรงพยาบาลอยู่หรอก แต่พอได้ยินข่าวว่ามึงยังไม่ฟื้น สักที วันนี้กูเลยตัดสินใจมา เอาเถอะ ถ้ามึงไม่อยากอยู่กับกูนักก็จะไม่บังคับ เดี๋ยวกูโทรไปบอกไอ้เป้ให้กลับมาเฝ้ามึงแทนแล้วกัน” มันทำหน้าเศร้าพูดต่อเสียงตัดพ้อ และเมื่อผมเห็นมันทำท่าจะเดินไปที่ประตู ความรู้สึกแพ้ย่อยยับก็พุ่งเข้ามาในใจทันที ไอ้สามหนอไอ้สาม ให้มันได้แบบนี้สิวะ
.
.
.
“อย่าเยอะ กลับไปนั่งที่เดิมเลย” ฮึ๊ย ใจจะเต้นแรงทำไมนักวะ
“มึงเปลี่ยนใจ?” ไอ้เดย์เดินกลับไปนั่งที่เดิม
“ถ้าจะลำบากคนอื่น กูให้มึงลำบากดีกว่า” ผมตอบ ทว่าตาไม่มองมัน
“ยังไงก็ได้ถ้าเป็นมึง”
“แหม พูดเหมือนมึงแอบชอบกูงั้นแหละ” ถามเอง เขินเอง กูบ้าป่ะเนี่ย
“........” เงียบ ไร้เสียงตอบรับ เอาวะ ลองอีกที
“เอ...หรือไอ้ที่มึงทำให้กูได้เห็นธาตุแท้ของน้ำทั้งๆ ที่กูไม่เคยคิดจะเชื่อคำพูดเพื่อนมาตลอดนั่นน่ะ เพราะมึงไม่อยากเสียกูไปเอ่ย?” ผมพูดแล้วหันไปแกล้งยิ้มล้อเลียนใส่กะว่าถ้ามันปฏิเสธจะหัวเราะกลบกลื่น แต่ผมดันคิดผิด เพราะผลที่ได้คือไอ้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาเล่นพุ่งเข้ามากอดผมซะเต็มเหนี่ยว ทำเอาสะเทือนไปถึงแผลบนหัวเลยทีเดียว
“เหี้ยเจ็บ ทำอะไรของมึงเนี่ย!!” ผมทุบหลังมันดังตุบตับ “ปล่อยกูสิไอ้เหี้ย กูเจ็บแผล!!”
“สามจำเราได้ สามจำได้แล้วใช่มั้ย” ไอ้เดย์ถามพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น ผมนี่น้ำตาเล็ดทั้งอึดอัดทั้งเจ็บแผล มึงลืมแล้วเหรอครับว่ากูเป็นคนป่วย?
“จำอะไรของมึง กูไม่รู้เรื่อง ปล่อยกูได้แล้วกูเจ็บแผล!” ผมเฉไฉ รับรู้ได้เลยว่าตัวเองหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว หวังว่ามันคงจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นนะ
“ไม่ปล่อย เราจะกอดสามอยู่อย่างนี้จนกว่าสามจะบอกเราว่าสามจำเราได้”
“กูเจ็บแผลไอ้เดย์” จิกผมแม่ง
“โอ๊ย!!” มันร้องแต่มือไม่ปล่อย หึๆ เอากับมันสิครับ ทนมือจริงนะมึง
“จะปล่อยไม่ปล่อย กูบอกกูเจ็บแผลไอ้เวรนี่!” คราวนี้ผมเล่นจิกสองมือเลย ไอ้เดย์ทนยื้อไว้สักพักก็ยอมถอยออกไปทำหน้าหงอยเป็นลูกหมา...ไม่ใช่ละ เหมือนพิทบูมากกว่าลูกหมาอีก
“มึงจะทำอะไรเห็นใจคนเจ็บอย่างกูหน่อยสิวะ แม่ง ต้องให้ใช้ความรุนแรง ช่วยหัดรู้ตัวเองหน่อยสิครับ ว่าตัวเองไม่ได้บอบบางเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ห่า! กระดูกกูแทบหัก”
“สามจำเราได้จริงๆ ด้วย” มันยิ้มแก้มปริ ตาสองข้างเป็นประกายวิบวับ
“จะ...จำเจิมไร พ...เพี้ยนป่ะมึง ไม่คุยละ กูง่วง” ผมแสร้งเบือนหน้าหนีเพื่อหลบอาการร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่าง ขณะกำลังจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวนอนอย่างที่บอก ไอ้หล่อเดย์ก็แทรกพรวดเข้ามานอนบนเตียงด้วยอีกคน “เฮ้ย!” ผมตัวแข็งทื่อเมื่อถูกผู้ชายตัวเกือบเท่าๆ กัน ขึ้นคร่อม
“คิดจะหนีกันน่ะไม่ง่ายหรอกนะสาม” มันพูดพร้อมกับล็อคศรีษะผมไม่ให้หันหนีไปไหนได้
“เล่นบ้าๆ หนีที่ไหน แล้วมึงก็ลืมไปแล้วไงว่ากูเพิ่งผ่ากะโหลกมา” รู้เลยครับว่าหน้าตัวเองต้องแดงแน่ๆ เพราะไอ้หล่อเดย์ยิ้มสดชื่น และก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่ชวนหนาวขนตูดจนสุดตีน
“จำที่เราเคยบอกได้มั้ย หืม...” มาให้กูทวนความจำอะไรตอนนี้ครับ
“มึงเคยบอกอะไรกูด้วยเหรอเดย์” ผมใช้สองมือยันหน้าอกมันไว้ กลัวแม่งทิ้งตัวทับลงมาชิบหาย
“เคยสิ เมื่อเร็วๆ นี้นี่เอง ถ้าจำไม่ได้เราจะเตือนความจำให้...” ไอ้เดย์ยิ้มกริ่มพลางโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู “เราบอกว่า ‘เจอกันครั้งหน้า มึงต้องเป็นของกู’ ไงล่ะ”
ลมหายใจอุ่นๆ รดใบหู ทำผมรู้สึกสยิวปนสยองน่ากังวล แต่ถ้าไอ้สามจำไม่ผิด...ครั้งหน้าของมัน ก็ครั้งนี้ของกูน่ะสิ!.....................................................
ยังจะหวานไปอีกเรื่อยๆ เพราะไม่มีมาม่าแล้ว หมดกล่องแย้ว เหลือแต่น้ำตาล ปล.เรื่องสามรุก สามรับ ยังต้องลุ้นต่อไป จบเมื่อไหร่ได้รู้กันแหละ ซึ่งก็ใกล้และจ้ะ คริคริ