ร้ายซ่อนรัก
บทที่ 38
ความอดทนของโมกข์หมดลงเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วัน
เขารู้สึกทึ่งในบทบาทการแสดงอันแนบเนียนของกานต์ ที่สามารถทำให้พัทธ์หลงเชื่อไปได้ อาจจะด้วยความ
เป็นคนใจอ่อน ขี้สงสารหรือจะเป็นเพราะพัทธ์อาจจะยังรู้สึกผิดที่มาตกลงใจใช้ชีวิตคู่กับเขาจนทำให้พัทธ์
ดูไม่ออก
แต่ไม่ใช่กับโมกข์ที่แค่อีกฝ่ายอ้าปากเขาก็รู้ลึกไปถึงลำไส้
กานต์ยังคงใช้เวลาช่วงกลางวันไปขลุกอยู่ในบ้านโดยไม่ทำอะไรนอกจากเปิดโทรทัศน์ดูอย่างสบายใจ
ส่วนกลางคืนก็มาใช้ชีวิตอยู่ที่ห้องเก่าที่พัทธ์เคยใช้ ช่วงหัวค่ำเหตุการณ์ก็ยังสงบแต่พอเขาจะมีช่วงเวลาแห่ง
ความสุขกับพัทธ์ ข้างห้องก็กรีดร้องโหยหวนราวกับรู้เวลา นี่โมกข์ยังคิดไปถึงว่ากานต์อาจจะแอบเจาะรู
แอบดูด้วยซ้ำ
จนถึงวันนี้ โมกข์จะไม่ทน
ปกติกว่าเขาจะเสร็จจากงานในไร่อาจจะเป็นช่วงบ่ายจัด แต่วันนี้เขายอมโดดงานไร่ตัวเองตั้งแต่ตอนสายๆ
เพื่อเข้ามาในบ้าน บ้านของเขาที่มีคนที่เขาไม่ต้องการอาศัยอยู่
พัทธ์คงยังง่วนกับงานและนักศึกษาอยู่ที่ไซโล เป็นโอกาสอันดีที่เขาจะมายืนกอดอกพลางมองคนที่นั่ง
ไขว่ห้างอยู่บนโซฟานุ่มด้วยสายตาไม่พอใจอย่างเปิดเผย
“ไสหัวออกไปได้แล้ว”
เขาเป็นคนเริ่มต้นสงครามประสาทครั้งนี้โดยการเอ่ยปากไล่ตรงๆ
“ไม่ไป”
อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยเสียงโอหัง แถมยักไหล่อย่างไม่แคร์
“หน้าด้าน”
“เออ ผมยอมรับ”
กานต์ทิ้งรีโมทแล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า แม้จะสูงน้อยกว่าเขาก็ไม่กลัว เมื่อความแค้นบดบังจนมิด
“พัทธ์เป็นคนรับผมเข้าบ้าน ถ้าคุณอยากให้ผมออกจากบ้านของคุณก็ไปบอกพัทธ์สิ”
นี่แหละเป็นเหตุผลที่โมกข์ไม่นึกอยากจะมีความรัก เพราะความรักจะกลายเป็นจุดอ่อนที่น่ากลัวที่สุด
กานต์ยิ้มเยาะเย้ย
“ทำไมเหรอ การที่ผมขอมาอยู่ด้วยนี่ มันทำให้คุณหมดความสุขหรือไงโมกข์ ก็แค่บอกกันดีๆ”
กานต์สืบเท้าเข้ามาใกล้ ปลายนิ้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทีละเม็ด ก่อนที่จะดึงสาบเสื้อในเปิด
กว้างเผยให้เห็นเนื้อหนังอยู่ภายในเมื่อก้าวมาถึงโมกข์พอดิบพอดี
กานต์คว้ามือหยาบด้วยงานหนักมาวางบนแผ่นอกตัวเอง
“ถ้าเงี่ยนนัก ผมจัดให้คุณเป็นค่าตอบแทนที่มาอาศัยบ้านคุณก็ได้นะ”
“ทุเรศ!”
โมกข์สบถและสะบัดมือออกจากการเกาะกุมอย่างรังเกียจ ยิ่งทำให้กานต์ขัดเคืองจนปากสั่น
“จะอดทนไปเพื่ออะไรกับไอ้คนจืดชืดอย่างพัทธ์ ทั้งที่ผมพร้อมที่จะปรนเปรอคุณทุกอย่างด้วยร่างกาย
ที่มีเลือดเนื้อ”
กานต์แทบจะกระชากเสื้อตัวเองพลางใช้ฝ่ามือตบลงไปบนแผ่นอกหลายต่อหลายครั้ง
“คุณก็รู้ว่าผมทำได้ ทุกท่าที่คุณอยาก แรงแค่ไหนผมก็พร้อม แต่คุณมันโง่ที่มัวแต่อดทนอยู่กับอาหารไม่มี
รสชาติ”
โมกข์นึกอนาถในความคิดของกานต์อย่างที่สุด เขามองผู้ชายรูปร่างหน้าดีตรงหน้าอย่างขยะแขยง
“ผมเบื่ออาหารเผ็ดร้อน มันทำให้ผมเสาะท้องพาลอ้วกจะแตก บางทีคนเราก็ต้องการอาหารที่ถูก
สุขลักษณะ เพราะมันมีประโยชน์กับชีวิตมากกว่า”
“เหี้ยเอ๊ย!”
กานต์ทนไม่ได้ มือที่กำแน่นเงื้อสูงเตรียมประเคนไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย แต่มีหรือที่โมกข์จะยอม เขายกมือ
ข้างหนึ่งคว้าท่อนแขนของกานต์ไว้ได้ และแค่ออกแรงผลักเบาๆ กานต์ก็เสียหลักหงายหลัง
แค่แวบเดียวในลานสายตา เหมือนฟ้าประทานโอกาสเข้าข้าง กานต์มองเห็นพัทธ์เดินขึ้นเนินตรงมาที่
ทางเข้าบ้าน เขาอาศัยแค่เสี้ยววินาทีกระชากคอเสื้อของโมกข์ให้เสียหลักล้มตามมาติดๆ
และเมื่อพัทธ์ก้าวมาถึงประตูเข้าบ้าน ภาพที่เห็นในทันทีคือร่างสูงใหญ่ของโมกข์กำลังนอนทับอยู่บนร่าง
ของกานต์ที่เสื้อหลุดลุ่ยน้ำตานองหน้าอยู่บนพื้น
“อ๊ะ พัทธ์ อย่าเข้าใจผิดนะ”
สายตาของกานต์มองผ่านไหล่ของโมกข์ที่นอนทับตัวเองอยู่ แล้วส่งเสียงแหบโหยออกมา
โมกข์ตาเหลือก นึกอยากจะบีบคออีกฝ่ายให้แหลกคามือแต่ที่ทำได้ตอนนี้คือรีบเด้งตัวออกจากสภาพ
ล่อแหลมแล้วก้าวตรงมาหาคนรักที่ยืนหน้าซีด
“เชื่อใจผมนะพัทธ์”
เขากัดฟันระงับโทสะส่งสายตาจริงใจไปให้ พัทธ์ที่ยืนนิ่งงันฝืนยิ้มให้ทั้งที่แววตาไม่ได้ยิ้มตามสักนิด
กานต์ที่ลุกขึ้นยืนได้แล้ว รีบก้าวเข้ามาและสอดตัวเองเข้าไประหว่างโมกข์กับพัทธ์คว้ามือพัทธ์มากุมไว้
“พัทธ์ ไม่ได้โกรธกานต์ใช่ไหม กานต์กับคุณโมกข์แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เรา เอ่อ…ไม่ได้มีอะไรเกิน
เลยกันหรอกนะ”
ยิ่งพูดก็ยิ่งดูเหมือนจะยิ่งทำให้เข้าใจไปในทางที่ผิด โมกข์แทบจะฝืนอยู่เฉยไม่ได้ถ้าไม่มีสายตาของพัทธ์ส่ง
มาปรามไว้
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ก็อย่าทะเลาะกันบ่อยก็แล้วกัน เอ่อ..ผมลืมเอกสารอยู่บนห้องน่ะ เดี๋ยวรีบไปหยิบก่อน
นะพวกเด็กๆ รออยู่ “
พยายามก้าวขาสั่นๆเดินเข้ามา และมาหยุดเมื่อกำลังจะสวนกับกานต์
ใบหน้าขาวซีดก้มหน้ากัดฟัน ในขณะที่กานต์ยกหลังมือเช็ดน้ำตาทั้งที่ในใจนึกกระหยิ่มที่ดูเหมือนจะสร้าง
รอยแผลไว้ในใจพัทธ์ได้
ไม่มีคำพูดอื่นใดจากพัทธ์ที่เดินตรงขึ้นบันไดไปชั้นสอง แล้วเดินกลับลงมาเพื่อตรงไปยังไซโลอีกครั้ง
“พัทธ์หยุดก่อน”
โมกข์ร้องเรียกเมื่อตามมาทันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนถึงไซโล เขาก้าวไปที่แผ่นหลังแล้วรวบร่างพัทธ์มากอดไว้
กดคางสากลงบนบ่า
“คุณเคยสัญญาว่าจะไว้ใจผม”
โมกข์พูดเสียงขม
“วันนี้ผมจะทวงสัญญานั้น”
ริมฝีปากสีแดงเรื่อขบเม้มแทบจะเป็นเส้นตรงเมื่อพัทธ์ได้ฟัง
พัทธ์ไม่สบายใจเลยกับสถานการณ์ที่กลายเป็นว่า เขาตกเป็นคนกลางของวังวนแห่งความรักใคร่อันน่า
มึนงง แต่โดยนิสัยแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะมาโวยวายความรู้สึกของตัวเองให้ใครฟัง
พัทธ์แค่ยังไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง และเขาต้องการเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือหันกลับไปเผชิญหน้าและยิ้มบางๆให้กับโมกข์
“ผมยังไม่เคยลืมสัญญา จนถึงตอนนี้ก็ยังรักษาสัญญาอยู่”
โมกข์ยิ้มออกมาได้ เขาประคองใบหน้าพัทธ์ไว้แล้วบรรจงจูบลงบนกลีบปากแดงเรื่อ
“ขอบคุณนะพัทธ์ เท่านี้ผมก็สบายใจแล้ว
“ทำไมมึงถึงมาอยู่ที่บ้านพี่โมกข์ได้ ใครอนุญาต”
นั่นคือคำพูดทักทายเมื่อโอบกิจเห็นกานต์ที่บ้านไม้ในตอนบ่ายจัด
เขามาหาคำปันที่ไร่ และเมื่อกลับมาถึงบ้านไม้หลังใหญ่พร้อมโมกข์กับคำปัน โอบกิจเลยประหลาดใจที่เห็น
กานต์นั่งชูคออยู่ในบ้าน
“ไปถามพัทธ์สิ”
แถมยังมาลอยหน้าตอบเหมือนไม่แคร์อะไรเลย มันทำให้โอบกิจรู้สึกหมั่นไส้เป็นอย่างมาก
แต่เขาเองก็เพิ่งรู้ว่า ผู้ชายที่เขาเคยมีเรื่องที่บริษัทของโมกข์นั้น จะรู้จักกับพัทธ์ถึงกับเข้ามาเหยียบในบ้านนี้
ได้
“อ้อ….หวังกับพี่โมกข์ไว้มากพอเขาไม่เอาเลยผิดหวังสินะ”
โอบกิจยิ้มเยาะ
“แล้วก็เลยจะมาทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก มึงนี่ทำตัวเหมือนไส้เดือนที่คอยไชดินให้แตกจริงๆเลย”
“คุณโอบ ใจเย็นๆ”
คำปันส่งเสียงเตือนจากวงนอกทั้งที่ในใจแอบเชียร์คนรัก เพราะเขาเองก็หมั่นไส้กานต์อยู่ไม่น้อย นี่เขายังคิด
อยู่ว่าถ้ามีเรื่องกันอีก เขาจะรีบเข้าไปช่วยโอบกิจทันที
“ปากหมา!”
กานต์ทนไม่ได้ เขาผุดลุกถลาเข้ามาเงื้อหมัดใส่โอบกิจแล้วประเคนลงไป โอบกิจสะบัดหน้าหลบแต่ก็ยัง
โดนไปถากๆ ปลุกลูกบ้าที่หายไปนานของเขาขึ้นมาจนตรงปรี่เข้าไปต่อยคืน
ยังดีที่โมกข์เดินมาทัน เขารีบเข้ามาแยกทั้งสองออกอย่างรวดเร็ว
“นี่ไม่ใช่สนามมวย”
เขาตวาดลั่น กานต์มองหน้าทีละคนอย่างแค้นเคืองก่อนที่จะหันหลังเดินขึ้นบันไดกลับเข้าห้อง
“มันมาอยู่บ้านพี่ได้ไง”
โอบกิจยังไม่หายโมโห เขากระแทกตัวไปบนเก้าอี้โซฟายกมือลูบหน้าที่ถูกสันหมัดแล้วส่งเสียงฮึดฮัด
โมกข์ได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เขาตั้งสติอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้
โอบกิจฟัง
“พี่นี่มันเลวจริงๆ”
โอบกิจยกมือชี้หน้าโมกข์เมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมด
“ดีนะที่ผมตัดใจจากพี่ได้แล้ว เลยได้มาเจอคนดีๆ อย่างคำปัน ไม่งั้นป่านนี้ผมคงต้องช้ำใจเพราะพี่เหมือน
พี่พัทธ์แน่ๆ”
“มึงอยู่ข้างไหนกันแน่ โอบกิจ”
โมกข์ชักเคือง หวังว่าจะให้ช่วยดันกลับมาถูกด่าเรื่องที่เขาก็ยังเจ็บใจตัวเอง
“ข้างพี่พัทธ์”
โอบกิจตัดสินใจ
“ผมจะยุให้พี่พัทธ์เลิกกับพี่จะได้ไม่ต้องเสียใจอีก”
“ไอ้โอบ”
“คุณโอบ”
เสียงเจ้านายกับลูกน้องเลยประสานกัน เมื่อโอบกิจเลือกข้าง เจ้าตัวเลยหัวเราะออกมา
“เออ ก็ได้ แหมทั้งนายทั้งลูกน้องเข้ากันดีเหลือเกิน ว่าแต่ผมแปลกใจนะที่มัน เอ่อ…ชื่ออะไรนะ ไอ้กานต์
ใช่ไหม มันมาอยู่ที่นี่เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมาผมยังเห็นมันอยู่แถวโรงแรมผม เช็คอินอยู่กับฝรั่งด้วยนะ”
โอบกิจนั่งนึกอยู่ครู่หนึ่ง
“ที่ผมค้นประวัติเช็คอิน ฝรั่งนั่นมันชื่อ ชื่ออะไรนะ ติดอยู่ที่ปากนี่แหละ …อ้อ!นึกออกแล้ว ฝรั่งนั่นชื่อ
แดเนียล เครตั้น”
“อะไรนะ! ขออีกทีซิโอบ”
โมกข์เบิกตากว้างเมื่อโอบกิจทวนชื่อซ้ำ
เป็นไปไม่ได้!
เขานึกไม่ออกเลยว่าอดีตเพื่อนเก่าของเขาไปรู้จักกับกานต์ได้อย่างไร
แดเนียล เครตั้น บนโลกนี้อาจจะมีซ้ำกัน แต่จะมีสักกี่แดเนียลที่จงใจเข้ามาก่อกวนอยู่ในเส้นทางชีวิต
ทั้งทางตรงและทางอ้อมของเขา
เรื่องนี้ชักจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
“เหนื่อยไหม”
โมกข์ดึงร่างเย็นๆ หลังอาบน้ำของพัทธ์มากอดแล้วกดจูบไปเบาๆ ที่หน้าผาก
กว่าพัทธ์จะกลับก็เกือบมืดแล้ว เพราะงานวิจัยช่วงสุดท้ายกำลังเข้มข้น
“นิดหน่อยครับ”
พัทธ์คลี่ยิ้มตอบก่อนซุกตัวอยู่กับอ้อมแขนอุ่น โมกข์ยังวนเวียนริมฝีปากอยู่แถวไรผมชื้นในขณะที่มือก็ง่วน
อยู่กับการแกะกระดุมชุดนอนของพัทธ์
“โมกข์ ผมเพิ่งจะใส่เสื้อผ้าเสร็จเองนะ คุณก็มาถอดอีกแล้ว”
พัทธ์พูดกลั้วหัวเราะ โมกข์ก็เลยถือโอกาสเบี่ยงตัวขึ้นคร่อมทันที
“นี่ผมไม่ได้ถอดเสื้อผ้าคุณมาหลายวันแล้วนะพัทธ์ อย่าบ่นเลยน่า”
โมกข์ก้มลงซุกไซ้ยอดอกที่แข็งชัน มือใหญ่ลูบไล้ปลุกเร้าไปทั่วตัว จนพัทธ์เองก็ต้องบิดกายรับไฟร้อนที่โมกข์
กำลังจุด
“อื้มมมม โมกข์ ตรงนั้น”
เขาเผลอครางไม่ขาดระยะ เมื่อโมกข์จัดหนัก จัดเต็ม กล้ามเนื้อของเขาต้องทำงานหนักจนแทบขาดใจ
ไฟสวาทที่โมกข์มอบให้มันทำให้พัทธ์ลืมไปชั่วขณะว่าเพียงแค่กำแพงไม้กั้น ยังมีอีกหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตอยู่ใน
บ้านนี้
เสียงครวญครางที่ดังลอดมามันทำให้กานต์แค้นแทบคลั่ง
พื้นไม้ที่ดังเอียดอาดเพราะเตียงที่ถูกขย่มจนสะเทือนมาถึงอีกห้องมันทำให้กานต์แทบกระอักเลือดตาย
ทำไมไม่ใช่เขาที่เป็นคนนอนทอดกายให้โมกข์ได้กระแทกกระทั้นจนหนำใจ
มันควรจะเป็นเสียงของเขาที่ครวญครางเพราะรสสวาท
กานต์นั่งนิ่งกำมือจนเล็บจิกอยู่บนเตียงนอนอย่างเดียวดาย
มันทำให้เขาตัดสินใจได้ไม่ยาก
สงสัยว่าเขาจะต้องเร่งแผนให้เร็วขึ้น
เร็วขึ้น
จนเขาอยากจะทำมันซะพรุ่งนี้ด้วยซ้ำไป
---------------------------- TBC ----------------------------