"อย่าโมเมหนวด มั่วแล้ว"
"น้องมึงบอกกูมา ไอหมา ยังจะมีหน้ามาแถกูอีก"ยายยยเอินนนนนนนนน ยัยน้องบ้า..ดันไปบอกเรื่องที่ไม่ควรจะบอกกับป๊าไปซะได้ แล้วทีนี้จะเอาไงต่อ จะโกหกต่อไปก็ไม่ได้แล้ว ผมเลยเลือกที่จะพูดความจริงกับป๊าทุกอย่างที่ป๊าถามมาผมก็ตอบตามที่ผมรู้ออกไปทั้งหมด
"สรุป มึงก็ดันเสือกกลับไป ให้มันช้ำใจเล่น ด้วยการไปทำงานที่บริษัทมันเนี้ยนะโถ่ ลูกกูกินข้าวรึกินหญ้าฟางวะเนี้ย เฮ้อ เอาไว้กูกลับไป กูจะเล่นแม้งให้ขอหาทำให้ลูกกูเสียใจ"เชี้ยยเอาแล้วไงพ่อผมจะทำอะไรไอกายมันวะ
"ป๊าจะทำอะไรมันอะ"ผมถามด้วยท่าทีดูร้อนรน
"เดี๋ยวกลับไปมึงก็รู้เองไอหมา เรียกพี่มึงมาคุยต่อสิ"และด้วยความที่ไม่อยากยืดเยื้อ ผมเลยจำใจต้องส่งโทรศัพท์คืนให้เจมส์ กลับคืนไป เจมส์มันนั่งมองดูผมจากปลายเตียงได้พักใหญ่ ก่อนที่มันจะเดินออกไปตอนเวลาเกือบๆตีหนึ่ง และกว่าที่ตัวผมจะได้อาบน้ำนอนก็นู้นเกือบๆตีสาม เพราะกว่าจะเก็บข้าวของเข้าตู้ให้เป็นนะเบียบก็กินเวลามากโขอยู่ และด้วยความเพลียทีสั่งสมมาทั้งวัน พอหัวถึงหมอนผมก็พล้อยหลับไปดุจได้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษเข้าไปแล้วก็หลับเป็นตายไปทั้งคืน
เช้าวันถัดมา
เวลา 08.00 น. เออดีเตรียมตัวเคารพธงชาติไทย..แต่เดี๋ยวนะ!!!!!! แปดโมง โอ้ววซ่าร่า กูตื่นสายครับ สายชนิดที่ว่าไม่น่าให้อภัยแถมอาจจะโดนส้นตีนของไอประธานให้จงได้ ก็วันนี้ผมมีนัดไปดูงานและพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องไปให้ถึงที่ทำงานก่อนเวลา 06.00น. แต่นี้คือแปดโมงเช้าแบบเป๊ะๆ เสียงเด็กข้างๆบ้านที่ยืนขายกล้วยแขกทอดยังยืนร้องกันเสียงดังแจ๊วอยู่เลย แต่ตัวกู พึ่งตื่นครับ เฮี้ยดี มั้ยลัะชีวิต ผมรีบติดสปีดลุกออกจากที่นอน ด้วยความเร็วแสงก่อนจะรีบล้างหน้าแปรงฟันและแต่งตัวให้รวดเร็วสุดๆไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผมใช่เวลาในการอาบน้ำและแต้งตัวไม่ถึงสิบนาทีตอนนี้ผมก็รีบวิ่งดิ่ง
ลงมาด้านล่าง เพื่อให้ไปทำงานอย่างเร็วรี่ ถ้าไม่มีคำๆนี้ลอยเข้าหูมาซะก่อน
"ไอแคระนั้นมึงจะไปไหน"พี่กุเองครับ
"ไว้ค่อยทะเลาะนะเจมส์ตอนนี้รีบ"ผมไม่ได้หันไปต่อปากต่อคำอะไรมากเพราะตัวเองกำลังรีบมากอยู่
"เดี๋ยวกูไปส่ง"คำพูดที่ดูเรียบเฉยของเจมส์กลับทำให้ร่างกายของผมชะงักไปแวปนึง
"เฮ้ย..อย่าลำบากเลยเจมส์แดดข้างนอกม้นร้อนเดี๋ยวผิวก็เสียเอาหรอก"ผมพยายามพูดหาข้ออ้างหว่านล้อมให้มันเปลี่นใจ แต่ผมก็ดันลืมไปว่าทั้งป๊าและเจมส์ มันเป็นคนจริงกันทั้งคู่
"จะไปดีๆหรือให้กูลากมึงไป"สายตาเจ้าบงการมาแล้วนั้นไงและด้วยความกลัวบวกเร่งรีบผมเลยตอบตกลงแต่โดยที่และมีข้อแม้ว่าต้องจอดในที่ๆผมบอกให้จอดเท่านั้นซึ่งเจมส์มันก็ทำหน้าเข้าใจดีรีบขับพาผมมาที่บริษัท
"เดี้ยวตอนเย็นกุจะมารับ เสร็จแล้วโทรมาบอก รีบๆด้วยนะมึงไอแคระ"
"เออ รีบไปได้ละ"ผมรีบโบกมือไล่พี่ชายตัวเองก่อนที่จะมีใครมาเห็น
จะมาบอกว่าการมาวันนี้เล่นทำเอาใจผมเต้นตุ่มๆต่อมๆก็แหม่วันนี้เล่น มีนัดสำคัญแต่ผมดันมาสายซะนี้ ผมกล้ารับรองเลยว่าถ้าไอประธานมันเห็นผมเมื่อไหร่ละก็..หึหึเละเมื่อนั้น
ว่าแล้วผมก็ค่อยๆเดินย่องๆทำตัวหน้าสงสังเหล่ซ้ายเหล่ขวาแต่ก็ยังมิวายมีมือของใครมาแตะที่ไหล่ผมปุๆ
ผมพยายามกลืนน้ำลายตั้งสติให้มั่นก่อนจะหันหลังกลับไปดู...ปัตโถ่...ไอเด็กผี..
"เดินย่องๆมองๆทำไมอะพี่ทำอะไรผิดมารึเปล่า"เด็กผีมันถามผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"ป่าวเว้ย..แต่มึงนี้ก็แปลกชอบมาไม่ให้ซุ้มให้เสียงอยู่เรื่อย"
"อ้าวอยากให้ผมเสียงดังหรอได้..เอ้าพี่เจ!! มาทำงานแล้วหรอครับ โอ้โห แต่วันนี้พี่มาทำ..อุก...อัก.."
"มึงจะแหกปากทำสากอะไรละครับ"ผมรีบชิงยื่นมือไปปิดปากมันก่อนที่มันจะทำเสียงดังไปมากกว่านี้
"ก็พี่บอกผมชอบมาๆเงียบๆไง นี้ก็โวยวายให้แล้วนะ.."โถ่..เรื่องอื่นมึงจริงจังแบบนี้มั้ยละหืมม
"อะๆช่างเรื่องนั้นมันก่อนเถอะ แล้วพวกคนอื่นๆไปไหนกันหมดอะ.."
"เขาไปกันหมดแล้ว..เออจะว่าไปผมก็พึ่งสังเกตุพี่ไม่ได้ไปกับพวกพี่เกดหรอ"ถ้าไปทันแล้วกูจะมายืนหน้าสะหล่อนแบบนี้มั้ยละหือ
"กูตื่นสาย แล้วไอประธานละ มันได้ไปด้วยปะ"ถ้ามันไปผมจะได้โล่งอกแล้วเลิกทำตัวลับๆล่อๆสักที
"ผมไม่รู้อะ..แต่เดี๋ยวผมโทรถามให้"ว่าแล้วมันก็หยิบไอโฟนของมันขึ้นมาเตรียมจะกดโทรออกแต่ผมรีบลิบมันมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อซะก่อน
"จะโทรให้มันมาเฉ่งหัวกูรึไงเล่าเข้าห้องไปได้แล้ว..."ตกบ่ายวันนั้นเองที่ผมใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานเพียงสองคนกับไอเด็กผีเพราะเด็กฝึกงานคนอื่นๆก็พากันไปดูงานนอกสถานที่ ทั้งห้องตอนนี้เลยเหลือเพียงผมกันมันแค่สองคน เงียบเหงาดีชิหาย
"มึง"ผมหันไปคุยกับไอเด็กผี ที่กำลังนั่งงุ่นๆพิมพ์อะไรของมันสักพักใหญ่ๆแล้ว
"ครับ พี่มีอะไรหรอ"ปากมันพูดแต่สายตาก็ยังมองที่จอคอมอยู่..
"กูเหงาอะ " บรรยากาศโคตรจะเปลี่ยวเลย ไม่รู้ว่าทั้งตึกมีผมแค่สองคนรึเปล่าเนี้ย
"แล้ว?"
"ชวนกูคุยหน่อยดิ.."
"ผมทำงานอยู่.."แต่กูเหงาอะดิ แบตโทรศัพท์ก็จะหมดแล้วด้วย"
"ยืมที่ชาตแบตก็ได้"
"วางอยู่บนพีซีอะ พี่ดึงของผมออกแล้วเสียบของพี่เลย"ว่าจบผมก็รีบดึงน้องโฟนเจ็ดของมันออกก่อนจะเสียบตูดน้องโฟนหกผมต่อแทน นั่งรอสักพักใหญ่ขาผมก็กระดิกเท้าไปเรื่อย ไอผมมันก็เป็นพวกเด็กไฮเปอรฺไงอยู่นิ่งๆไม่ค่อยได้ต้องคอยหาอะไรมาให้ทำอยู่ตลอด แต่คือมันไม่มีไง งานเก่าผมก็เคลียร์หมดแล้ว ..จะออกไปเดินเล่นข้างนอกก็กลัวมีใครเห็น แล้วรายงานไอประธานอีก. โถ่ กูเบื่อโว้ยย
"พี่เจ.."ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆไอคนข้างๆผมมันก็พูดขึ้น
"อือ"
"ผมมีเรื่องจะถามอะไรพี่อย่าง."เด็กนั้นมันละสายตาจากคอมก่อนจะหันเก่าอี้และขยับมาใกล้ๆจนจมูกผมกับมันเกือบจะชนกันอยู่แล้ว
"เออ..ก็ถามมาดิ่..แต่ก่อนจะถามช่วยเขยิบหน้ามึงออกไปไกลๆด้วยครับ"ว่าพลางใช่นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากและดันออกห่าง
"พี่กับประธาน...เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า.."..ผมรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย ทำไมอยู่ๆมันถึงถามคำถามนี้ขึ้นมาละ
"ก็..."จะบอกว่าไงดีละเคยสนิทสนมกันเมื่อนานมาแล้วแต่ตอนนี้..ความสัมพันธ์มัน..เฮ้อ..
"ผมอาจจะถามอ้อมไปเอาใหม่ๆ พี่กับประธาน.."มันค่อยๆเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง
"เคยเป็นอะไรกันมาก่อน.."ผมสตั้นไอประมาณศูนย์จุดสามวิ แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออกและด้วยความเร็วเหนือแสงผมเลยรีบมุดลงไปซ่อนอยู่ใต้หว่างขาของไอเด็กผีนี้แทนและเหมือนมันจะรู้งานครับรีบเลื่อนเก้าอีกเข้ามาจนตัวผมเข้าไปซ่อนอยู่ใต้โต๊ะคอมอย่างแนบเนียน...
"มึงเห็นมันรึเปล่า"ทำไมเสียงพูดมันดูคุ้นๆหูวะ
"มันนี้หมายถึงใครละ"คราวนี่เป็นฝ่ายที่ไอเด็กผีตอบกลับคนที่ถามมันบ้าง
"ก็ไอเตี้ยที่นั่งข้างๆมึงนี้ไงวันนี้มันไปไหนทำไมถึงไม่ไปสัมนา"ชัดเจน...เสียงนี้คำพูดนี้มีคนเดียว..ไอกาย..โอ้ยยตัวผมนี้สั่นเป็นจ้าวเข้าอยู่ใต้โต๊ะเลย..
"จะรู้ได้ไงละตัวไม่ได้ติดกันซะหน่อย อยากรู้ก็โทรถามเองดิ"จะว่าไปผมก็เพิ่งจะสังเกตุ ทำไมไอเด็กผีซีเกมมันุถึงพูดจาห้วนๆกับไอกายจังวะ
Trrrr...นั้นไงเสียงๆสั่นๆเสือกดังขึ้นมาอีกบัดซบดีจริงๆ
"ไหงโทรศัพท์มันถึงมาอยู่นี้..."ผมใช้นิ้วสะกิดที่ขาอ่อนเป็นเชิงบอกให้มันช่วยตอบคำถามไอประธานแทนผมหน่อยโอ้ยย..ลุ้นครับลุ้น..
"ก็....."บ้างทีมึงก็เว้นช่วงนานไป. กุชักเริ่มหงุดหงิดแทนแล้วเนี้ย
"ก็?"
"เขามาฝากไว้เมื่อวานนี้ไงเออใช่ๆเขามาฝากเอาไว้นี้ก็พึ่งนึกออกก็เลยเอาออกมาชาตให้เขาไง "
"งั้นหรอ.."ทำไมน้ำเสียงมันดูเหมือนไม่เชื่อวะ
"ก็เออดิ จะโกหกให้มันได้อะไรอะ"
"อืม ก็ดี งั้นเดี๋ยวโทรศัพท์มันกูจะเก็บไว้ให้เองเอาไว้มึงเจอมันเมื่อไหร่ก็บอกให้มันเข้าไปเอาที่ห้องกูแล้วกัน"เชรี้ยย กูไม่รู้จะอุทานคำไหนได้ดีเท่ากับคำนี้เลย แล้วในที่สุดไอประธานมันก็เดินปิดประตูดังปึ้งออกไปผมเลยค่อยๆไต่ตัวไอเด็กผีนั้นขึ้นมาเพื่อมองดู แต่แล้วอยู่ๆประตูแม้งก้เสือกเปิดอีก ด้วยความตกใจของผมด้วยไงเลยรีบฟุบลงไปด้วยความเร็วสูงจังหว่ะที่ก้มลงนั้นเอง หัวผมไปกระแทกโดนอะไรซักอย่าง แต่รู้สึกไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แหะ
"กุลืมบอก แม่บอกให้มึงกลับไปเยี่ยมคุณตาบ้าง ท่านฝากบอกมา.."
"อ...เออ...ด..เดี่ยว..กู..ไป"
"เป็นเชี้ยอะไรทำเสียงแปลกๆ..."เสียงไอกายถามมัน
"เรื่องของกูน่ามึงรีบไปได้แล้วว...."หลังจากนั้นผมก็นั่งนับรอหนึ่งถึงสิบก่อนจะชะโงกหัวขึ้นมาดูจนแน่มาว่าไอประธานมันไปแล้วผมถึงได้ลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม
"เป็นอะไรเนี้ย."ผมถามมันที่เอาแต่ทำหน้าไม่รับแขกอยู่ที่เก้าอี้
"ไข่..."
"อะไร ไข่มัน ทำไม มึงอยากกินไข่หรอ..."
"ไข่ผม...นี่แหละ...พี่ชนมันเต็มๆเลย"อ้าวเวรกรรม ไอผมเองก็พึ่งจะรู้ตัว อ่อไอนิ่มๆเมื่อกี้นี้คือเจ้าโลกของมันเองสินะ หึหึ
"เฮ้ย โทดๆ ไม่ได้ตั้งใจเว้ย เป็นไงจุกมากรึเปล่า"
"พี่มาลองดูมั้ยละ โถ่...."
"เอาน่าๆ มันเป็นอุบัติเหตุนี้หว่า ..เออใช่...เมื่อกี้ทำไมมึงคุยกับไอประธานแบบกันเองจังวะ เห็นขึ่นมึงๆกูๆด้วย"ผมมั่นใจว่าหูผมไม่ได้ฝาด
"ก็....หูพี่คงฝาดไปเองมั้ง..."นั่นไงมาลูกนี้คิดจะชิ่งคำถามกูละสิ
"อย่ามาแหลกูอัดเสียงไว้"
"ไว้ในไหน?"มันทำหน้าไม่กลัวผมเลยเว้ย
"โทรศัพท์"มึงนิ่งมาก็นิ่งกลับมั้งเดี๋ยวแม้งไม่เท่
"เครื่องไหน?"
"ก็เครื่อง...."ผมรีบคำปุๆหาตามตัวเพื่อแสดงหลักฐานเท็จแต่เยดแหม่ ลืมไปว่า ไอกายมันหยิบของผมไปด้วยเมื่อตะกี้...
" ; )" ยื้มแห้งใส่เลยกู อย่างนี้แม่งก็รู้หมดว่ากูแหลอะสิ
"ขี้โกหกวะ คบไม่ได้ๆ "
"ไม่รู้ละ บอกมาก่อน กูสงสัย ไม่งั้นคืนนี้กูคงนอนไม่หลับแน่ๆ"เรื่องเสือกขั้นแอดวานซ์ไว้ใจผม
"บอกเรื่องที่ผมถามพี่มาก่อนสิ" มันถามอะไรผมวะลืม
"เรื่องอะไรวะ"ผมถามกลับคือนี้ไม่ได้จะกวนตีนหรือทำแถ คือลืมจริงๆ
"พี่กับมันเป็นอะไรกัน..."ไอบรรยากาศมาคุรอบๆนี้มันคืออะไรกันแถมไออาการกระวนกระวายนี้อีก....ผมควรทำไงดีวะ ควรบอกหรือเลี่ยงที่จะบอกดี
"คือ..จริงๆแล้ว"โอ้ยเอาไงดีบอกดีมั้ยวะ
"????"เอาวะไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว
"คือจริงๆแล้วกูกับมันเราเคยเป็น.."
"เจตริทร์!"
"ใช่ เราสองคนเคยเป็นเจตะ......"อะไรนะ...ไอเสียงขรึมๆที่บ่งบอกถึงความเก็กหน้านี้ดังมาจากที่หน้าประตูใช่มั้ย แล้วถ้าเดาไม่ผิดผมคิดว่ามันคือ...อื้อหือ..ชัดเจน...
"ประธาน"
............
(ณ ห้องส่วนตัว ของประธานบริษัท)
"ไหนลองบอกเหตุผลที่ไม่ไปสัมนามาสิ..."คือหลังจากที่โดนไอประธานหัวเห็ดนี้จับกระชากลากถู มันก็พาผมมาขังไว้ที่ห้องเชือดเพื่อเค้นความจริงบางอย่าง
"ก็...."ทำไมกูต้องติดอ่างเวลานี้ด้วยวะ...ไม่เข้าใจตัวเอฃเลยจริงๆ
"ตอบมา!!"
"ก.กกก็ตื่นนนน..ตื่นสาย"
"ตื่นสาย..มันใช่เหตุผลมั้ย.."เอ้าไอนี้ นี่กูก็พูดความจริงที่สุดแล้วเนี้ยทำไมมันถึงไม่เชื่อผมวะ
"อุตส่าห์จะให้ไปดูงานสบายๆไม่ชอบๆลำบากนักใช่มั้ย ได้ "ว่าเสร็จมันก็หมุนตัวสามร้อยหกสิบองสาไปหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่บรรจุดระดาษไว้แบบ(โคตรรร)หนามาวางตรงหน้า ผมมองแฟ้มสลับกับมองหน้ามัน.. นี้อย่าบอกนะว่า
"ในเมื่อชอบความลำบาก ก็เอานี้ไป"...
"อะไร.."น้ำเสียงผมเริ่มสั่นๆนี้มันคิดจะแกล้งอะไรผมอีกวะ
"ไปพิมพ์ มาใหม่ แปลทั้งภาษาไทยและอังกฤษ"
"หา...หมดนี้เลยหรอ.."ถ้าให้เดาๆก็หลายร้อนแผ่นเลยนะเว้ยย
"ใช่...ชอบมากไม่ใช่หรอความลำบากนี้ไงจัดให้แล้ว อ่อ แล้วก็ให้ส่งภายวันศุกร์นี้ ก่อนห้าโมงเย็น...ถ้าชาแม้แต่วินาทีเดียว...เละ"คือวันนี้วันพุธและมีเวลาแค่สองวันไอห่า ไม่รู้ว่าไอที่เละนี้เป็นเอกสารรึผมนะแต่ผมขอเดาว่าเป็นตัวผมเองแล้วกัน ฮือ... ไม่หน้าตื่นสายเลยกู...