ก่อนเริ่มเรื่องวันนี้ผมต้องขออภัยกับคนอ่านทุกท่านนะครับที่ลืมอธิบายเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มลงตอนพิเศษนี้
ผมต้องขออธิบายอย่างนี้นะครับ ที่เนื้อเรื่องของตอนพิเศษจะกระโดดจากเนื้อเรื่องหลักไปมากเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเนื้อหลักไปนานแล้วนั้นเอง และผมก็ตั้งใจเขียนตอนพิเศษนี้มาเพื่อตอนรับวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ โดยใช้การถ่ายถอดความรู้สึกผ่านกันต์นั้นเอง แล้วใครอ่านแล้วงง ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ที่ผมพลาดที่ไม่ได้อธิบายไว้ก่อน เพราะว่าต้องลงนิยายพร้อมกันสามเรื่องในเวลาที่จำกัด เลยลืมไปจริงๆ และถ้าใครอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องหลักเป็นอย่างไง คงต้องติดตามกันต่อไป แต่อาจจะเป็นหลังปีใหม่หรือตอนพิเศษจบก่อนนะครับ
มาคอยติดตามว่าทำไมทุกอย่างในเรื่องมันถึงได้ลงตัวกันได้ แต่กว่าจะลงตัว ทุกคนในเรื่องคงต้องปวดหัวกันอีกยกใหญ่
ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ
จากใจต้นไผ่
ปล. มาติดตามกันต่อว่าทริปสุดพิเศษในช่วงวันหยุดนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทำให้สองหนุ่มผู้กลัวเมีย จะต้องมาทำบทโหดกับเขาบ้าง
ผมเข้าไปจอดที่หน้าห้องน้ำในปั๊ม พอรถจอดได้ไอ้เฟคมันก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงเปิดประตูแล้วออกมายืนบิดตัวไปมาเพื่อที่จะไล่ความเมื่อยตามเนื้อตัวของผม ผมมองดูสองคนนั้นยังพากันหลับอยู่เลย
ถ้าถามว่าผมเคยคิดว่าสองคนนี้จะกลับไปคบกันเหมือนเดิมไหม ผมยอมรับว่าผมเคยคิดเหมือนกัน แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ ขิงเองก็เป็นขิงที่เผ็ดใช้ได้เหมือนกัน แต่ขิงยิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย ขิงเองก็เป็นผู้ชายเขาก็ต้องย่อมมีความต้องการตามธรรมชาติบ้าง และผมเองก็ปล่อยเขาไป แต่ทุกคนที่ขิงไปแอบมีความสัมพันธ์ด้วย ผมต้องรู้จัก และจะมีได้เฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น กับผู้ชายด้วยกัน ผมยอมรับว่าผมยังทำใจไม่ได้
และทุกครั้งขิงก็จะทำตามสัญญาที่ว่าเขาจะมีอะไรด้วยกับคน คนนั้นเพียงครั้งเดียว เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา ส่วนเรื่องของขิงกับบีมนั้นไปญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไรผมเองก็ไม่รู้ ผมรู้อีกครั้งก็ตอนที่ขิงพาบีมมาเที่ยวที่บ้าน
ไอ้คนขี้โวยวายของผมขยิกขยิกตัว สงสัยจะรู้สึกตัวแล้วว่ารถหยุดแล้ว
“ไอ้กันต์ถึงแล้วเหรอ ทำไม่ไม่เรียกบ้างเลย”
“ถึงที่ไหนกันครับ พี่แวะปั๊มกันครับ เพิ่งออกมาจากกรุงเทพได้นิดเดียวเอง”
“แวะปั๊มแล้วทำไมไม่เรียกห่ะ คนก็ปวดฉี่เป็นเหมือนกันนะ”
นั้นไงครับเริ่มโวยวายตามระเบียบแล้ว
“บีม...ไปห้องน้ำกันดีกว่า ...เร็วซิ”
แล้วขิงก็หันไปปลุกให้บีมตื่นขึ้นมาอีกคน บีมก็ลุกขึ้นมาขยี้ตาหน่อยหนึ่งก่อนที่จะลงจากรถแล้วเดินตามขิงเข้าห้องน้ำสวนกับไอ้เฟคที่ทำธุระเสร็จแล้วเดินออกมา
“มึงดูซิขนาดเข้าห้องน้ำยังไปเข้าพร้อมกันเลย...ดู”
พอไอ้เฟคมันเดินมาถึงตรงที่ผมยืนรออยู่ไอ้เฟคมันก็บ่นทันที แต่ดูมันจะพูดเล่นๆ มากว่า ตามประสาคนปากมากอย่างมัน
“เออ...มึงก็ขยันจับผิดเหลือเกินนะ...กูว่ากูไปฟ้องน้องบีมดีกว่า ว่ามึงระแวงเขา”
“เฮ้ย....มึงอย่าทำอย่างนั้นนะไอ้กันต์ไอ้เพื่อนเลว ถ้ามึงทำอย่างนั้น มึงเอามีดมาบาดคอกูดีกว่า มึงก็รู้ว่าบีมนะดุจะตายไป สมแล้วที่เป็นลูกทหาร”
“555 ไอ้นี่กลัวเมีย”
“ก็เออ...ซิว่ะ หรือมึงไม่กลัวขิงมัน กูเห็นขิงพูดอะไรนิดเดียวมึงต้องรีบเข้าไปอ้อนหรือทำตามทุกอย่าง”
“กูไม่ได้กลัวโว๊ย...กูเกรงใจไม่อยากทำลายน้ำใจเขา”
“มันก็เหมือนกูแหละหว่า”
ตอนที่ผมคุยกับไอ้เฟคอยู่ที่หน้ารถนั้น บีมกับขิงก็เดินคุยกันออกมาจากห้องน้ำ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่ขิงเป็นคนพูดแล้วบีมก็หัวเราะ แล้วทั้งสองคนก็เดินตรงมาทางที่รถจอดอยู่ ทำให้เรื่องที่ผมสองคนกำลังพูดกันอยู่ต้องจบลง พอขิงมาถึงขิงก็เดินมาจับที่ขอบประตูรถแล้วหันหน้ามาทางผม
“ไอ้กันต์จะเอาอะไรหรือเปล่า จะไปซื้อขนม”
“ไม่เอาอะไรแล้วครับ แต่จะไปซื้อทำไมอีกล่ะ ขนมในรถก็มีตั้งเยอะ พี่เห็นยังกินกันไม่หมดเลย”
“อย่าพูดมากได้ไหม...ก็อยากซื้อแค่นี้ห่วงหรือไง”
“ครับ๐...พี่ไม่ได้ว่าอะไร”
ผมได้ยินเสียงไอ้เฟคมันหัวเราะผม
“5555 ขนาดไม่กลัวนะเนี๊ย”
เสียงพูดของไอ้เฟคลอยตามลมมา พร้อมกับได้ยินเสียงทุบหลังกันเกิดขึ้นตามมา ถ้าผมเดาไม่ผิดมันคงโดนบีมจัดการ
“มึงเงียบไปเลยไอ้เฟค ไปเถอะขิงพี่ไม่เอาอะไรหรอก”
ผมหันไปด่าไอ้เฟคที่มันทำหน้ามึนอยู่ข้างๆ พร้อมกับบีมที่ยิ้มให้ผม ไอ้เฟคปากขมุบขมิบอยู่หลังบีมด้วย ถ้าอยู่ต่อหน้าบีมไอ้เฟคมันคงไม่กล้าหรอกครับ ใครจะไปนึกว่าคนร้ายๆ อย่างผมสองคนจะมายอมสยบอยู่กับเด็กหน้าใสๆ อย่างสองคนนี้ล่ะครับ แต่ก็นะ รักไปแล้วจะให้ทำอย่างไงได้ยิ่งผมต้องยอมให้ขิงหลายสิบเท่าให้สมกับที่ผมเคยร้ายกับขิงเอาไว้มาก
แล้วขิงกับบีมก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อข้างปั๊มนั้นแหละ สองคนนั้นหายกันเข้าไปได้สักพักผมก็ชวนไอ้เฟคให้ไปนั่งรอสองคนนี้ที่โต๊ะที่ทางปั๊มเขาจัดเอาไว้สำหรับลูกขาได้มานั่งพักระหว่างเดินทาง หรือใครจะเอาข้าวหรือขนมมานั่งกินกันก็ได้เพราะมีโต๊ะอยู่เยอะ และมันก็ร่มรื่นดีน่านั่งมากๆ ไอ้เฟคมันก็เห็นดีด้วย มันรู้ดีครับว่าสองคนนี้เขาชอบไปเลือกซื้อของนานๆ ถ้าขืนผมยืนรอที่รถก็คงขาแข็งตาย พอมาถึงโต๊ะเราก็เลือกนั่งตรงกันข้ามเพื่อเหลือที่ข้างๆ เอาไว้ให้คนของเรานั่งนั้นเอง
“ไอ้กันต์ กูว่ากูกับมึงต้องมาทำสัญญากันก่อนว่ะ เพื่อความสุขของเราสองคน”
“สัญญาเหี๊ยอะไรล่ะ”
ผมมองหน้ามัน ไอ้เฟคมันก็ยิ้มๆ
“ก็ถ้าไปถึงที่เชียงใหม่แล้วมึงกับกูต้องช่วยกัน กันสองคนนั้นไม่ให้เข้าใกล้กันได้”
“เพื่อ?...”
ก็เพื่อเราสองคนไงไอ้ควาย ถ้าขืนปล่อยสองคนนี้ให้อยู่ด้วยกันเป็นตังเมอย่างนี้ มึงกับกูจะเอาเวลาที่ไหนไปจู๋จี๋กับสองคนนั้นได้เล่า”
ผมคิดตามคำพูดของไอ้เฟคทันที ผมเองก็เริ่มเห็นดีด้วยกับไอ้เฟคเหมือนกัน ถ้าขืนผมปล่อยให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ผมว่าทริปนี้คงไม่สนุกแน่ๆ
“ก็ได้...กูตกลง มึงกันคนของมึง ส่วนกูก็กันคนของกู แฟร์ดีเปล่า”
ไอ้เฟคมันรีบตกลงพร้อมกับที่เราสองคนจับมือเป็นสัญญากัน ผมนั่งคุยอยู่กับไอ้เฟคสักพัก สองคนนั้น ก็พากันออกมาพร้อมขนมเต็มมือทั้งสองคน ไอ้เฟคมันถึงกับส่ายหัว
“กูว่าแล้วบีมมันต้องเหมาเขามาทั้งร้าน”
“ปล่อยไปเถอะความสุขของเขา”
ขิงกับบีมเดินตรงมาที่เราสองคนนั่งอยู่พอมาถึงสองคนนั้นก็เข้านั่งที่ คือขิงนั่งข้างผม แล้วบีมก็นั่งข้างไอ้เฟค ขิงยื่นกาแฟที่เขาซื้อมาให้ผม
“อ่ะ อันนี้ซื้อมาให้ขับรถไกลๆ จะได้ไม่ง่วง”
ผมรับกาแฟขึ้นมาจิบแล้วหยักคิ้วให้ไอ้เฟคไปครั้งหนึ่ง พอมันเห็นว่าขิงซื้อกาแฟมาให้ผมมันก็หันไปถามบีมบ้าง
“บีมล่ะไม่มีอะไรมาให้พี่บ้างเหรอครับ...พี่หิวๆ อ่ะ เมื่อเช้าก็ยัไม่ได้กินอะไรมาเลย”
เห็นไอ้เฟคอ้อนบีมแล้วผมอดหมั่นใส้มันไม่ได้
“ไม่มี อยากกินอะไรก็ไปซื้อเอง แล้วไม่ต้องมาสตอเลยพี่เฟคเมื่อเช้าใครกินขนมปังในตู้เย็นจนหมดเหลือไว้ให้ผมนิดเดียวเอง”
“แอ่ะๆ...พี่เองครับ”
“งั้นก็อดไป แล้วอยากกินอะไรก็เลือกเอานี่ น่าสงสารว่ะ”
บีมดึงถุงขนมที่ซื้อมาให้ไอ้เฟคหลังจากมันทำท่างอนใส่บีม อันที่จริงบีมก็ซื้อกาแฟมาให้ไอ้เฟคเหมือนกันครับแต่มันอยู่ในถุง และบีมมันก็คงอยากแกล้งไอ้เฟคด้วยนั้นแหละ ส่วนขิงเขาไม่กินกาแฟครับ ขิงเลิกกินมานานแล้วเหลือแต่ผมนี่แหละที่เลิกไม่ได้
ผมเห็นขิงเลิกเอาขนมปังใส่ครีมออกมากัดก่อนที่จะค้นหานมออกมาดื่มตาม ผมเป็นครีมติดที่ริมฝีปากของขิงผมจึงฉวยโอกาศเอาปากของผมไปช่วยเช็คครีมที่ริมฝีปากของขิงทันที
“ไอ้กันต์มึงทำเชี๊ยอะไรเนี๊ย มึงอายคนอื่นบ้างไหม”
“อายทำไมล่ะคนกันเองทั้งนั้น จริงไหมบีม”
ผมหันไปถามบีมเพื่อหาพวก ส่วนขิงก็หน้าเริ่มแดงขึ้นมาแล้ว
“จริงครับ”
“นั้นไงบีมยังเห็นดีด้วยเลย”
“เหรอ...”
ขิงพูดพร้อมกับเอามมือไปบิดที่ต้นขาของผม จนผมร้องออกมา ทำให้ไอ้เฟคมันหัวเราะผมทันที
“ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวถึงก็มืดพอดี”
แล้วขิงก็หันไปชวนคนอื่นเดินทางต่อทันที ปล่อยให้ผมเอามือลูบขาที่โดนหยิกอยู่คนเดียว พอเก็บของเสร็จขิงกับบีมก็เดินกลับไปที่รถก่อนปล่อยให้ผมกับไอ้เฟคหิ้วของตามไปที่รถ
“เม่ง...ดุว่ะ มีลูกขอตัวนะมึง”
“เออ...ถ้ามีได้นะมึง แต่กูก็ได้ข่าวว่าของมึงก็ดุเหมือนกันนี่หว่า”
ผมเดินซุบซิบกับไอ้เฟคสองคน ผมสองคนเริ่มรู้สึกว่าผมสองคนเป็นลูกไก่ในกำมือของสองคนนั้นมากขึ้นทุกวัน
“พี่เฟค..พี่กันต์คุยอะไรกันอยู่ได้เร็วๆ เข้าเถอะครับ”
เสียงของบีมเรียกพวกผมสองคนอยู่ที่ประตูรถ ผมสองคนจึงต้องเร่งความเร็วขึ้นอีก
“แล้วพี่ต้องมาถือของให้ใครครับเนี๊ย”
“ทำไปพี่เฟคห้ามบ่น”
“คร๊าบ...ทราบแล้วครับ”
แล้วผมกับไอ้เฟคก็ไปประจำที่นั่งเดิม แล้วรถก็ออกไปจากปั๊มแห่งนั้น