ตอนพิเศษ หวงรัก 1
ตั้งแต่คบกับจงรักมาได้เป็นปี เมฆาไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายงานในหน้าที่ของจงรักเลยสักครั้ง จะมีบ้างตอนที่น้องเอาเรื่องบางอย่างมาปรึกษา เช่นให้ช่วยตัดสินใจในการรับงาน เนื่องจากบางครั้งคนตัวเล็กของเขาก็ชอบตอบรับงานเกินกำลังของตัวเองจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน หวุดหวิดจะป่วยอยู่หลายรอบกระทั่งเมฆาต้องเข้าไปบอกให้เพลาๆลงบ้าง แต่ถ้าหากจะให้ช่วยเลือกดอกไม้หรือช่วยดูงานละเอียดอ่อนจำพวกนั้นเมฆาก็จนปัญญา เพราะเขาไม่มีเซ้นส์เอาเสียเลย ดังนั้นจงรักจึงตัดสินใจจ้างผู้ช่วยเพิ่มอีกหนึ่งคน ผู้ช่วยที่จะพาไปไหนมาไหนด้วยได้ นอกเหนือจากมิ้นและขิงที่คอยดูแลร้านให้
ในตอนแรกเมฆาเองก็เห็นด้วยเพราะคิดว่าจงรักจะได้เหนื่อยน้อยลงบ้าง แต่ทันทีที่เขาได้พบกับผู้ช่วยใหม่ของจงรัก เมฆาก็เกิดความรู้สึกว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เขาชักจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจ และต้องการเข้าไปก้าวก่ายงานของน้องขึ้นมาทันที
สาเหตุทั้งหมดทั้งมวลเมฆายกให้เป็นความผิดของ นันท์ ผู้ชายตัวโตท่าทางเป็นมิตรเหมือนโกเด้น รีทรีฟเวอร์ ซึ่งอาจดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่พอมองๆไปก็ชักจะเห็นพฤติกรรมที่ชวนให้หงุดหงิด ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้ที่เจ้าตัวเข้าไปเดินล้อมหน้าล้อมหลัง ถึงเนื้อถึงตัวเจ้าของร้านตัวเล็กจนแทบจะสิงร่างอยู่รอมร่อ
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาหงุดหงิดได้อย่างไรกัน “รัก” สุดท้ายเมฆาจึงอดรนทนไม่ไหว แล้วร้องเรียกทั้งที่เห็นว่าน้องกำลังง่วนอยู่กับงาน
“ครับพี่เมฆ” คนตัวเล็กรีบวางงานในมือ ก่อนจะเดินรี่เข้ามาหยุดตรงหน้าเมฆาซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟารับแขก แล้วย่อตัวลงตรงหน้าในระดับสายตา
“ใกล้เสร็จหรือยัง” คนหน้าดุถามเสียงเข้ม
“ขอโทษนะครับ ปล่อยพี่คอยนานเลย ผมเคลียร์ออเดอร์ใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ”
น้องทำหน้าสำนึกผิดดูน่าสงสารเสียจนเมฆารู้สึกผิด ปรกติเขาก็รอได้ ให้รอนานกว่านี้ก็เคยรอมาแล้ว แต่พอเห็นว่างข้างกายน้องมีสิ่งไม่พึ่งประสงค์ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ใจมันก็อยากรั้งให้คนตัวเล็กออกมาห่างๆ จนปากมันก็พลั้งเรียกออกไป
“อืม”
“ทำหน้านิ่วเลย หิวแล้วใช่ไหมครับ”
คนใจดีใช้นิ้วคลึงระหว่างคิ้วเข้มของคนหน้าดุขณะพูด เรื่องจริงอีกเรื่องคือเขาก็ยังไม่ได้หิวอะไร ถึงหิวก็ยังรอได้อีกนั่นแหละ แต่ถ้าน้องเข้าใจไปแล้วแบบนั้นเมฆาก็ยอมปล่อยเลยตามเลย เพราะคิดหาข้อแก้ตัวว่าทำไมถึงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ออกเหมือนกัน
“อืม”
“ถ้าอย่างนั้นรอแปบเดียวนะครับ รักจะรีบทำให้เสร็จเลย” เห็นท่าทางขึงขังตั้งใจเพื่อเขาแบบนั้น อารมณ์หงุดหงิดจากสิ่งไม่พึงประสงค์ก็ลดฮวบฮาบ
“ไม่เป็นไร พี่รอได้” ว่าพลางยิ้มให้นิดๆแถมลูบผมนุ่มอีกที เท่านี้คนดีของเขาก็ส่งยิ้มหวานจนตาแทบปิดคืนมาให้ชุ่มชื่นหัวใจแล้ว
“พี่เมฆน่ารักที่สุด”
“แหมๆ หวานกันใหญ่เลยนะคะ” เสียงพนักงานสาวล้อเลียนดังมาจากทางเข้าหลังร้าน จงรักจึงได้สติและรู้สึกตัวว่าตนไม่ได้อยู่กับคนรักแค่สองคน
“ไปทำงานแล้วๆ อย่าแซวสิครับพี่มิ้น” เมฆามองแก้มสองข้างขึ้นสีแดงเรื่อน่าฟัดขณะที่โต้ตอบ ก่อนเจ้าของร้านคนเก่งจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะซึ่งวางบิลรายการเอาไว้อยู่
คนหน้าดุมองตามคนรักไปจนกระทั่งสายตาประสานกับนายนันท์ที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะสื่ออะไรหรือเปล่า เมฆารู้เพียงแต่ว่าเขาไม่ชอบสายตาแบบนั้นเท่าไหร่ ทว่าด้วยความที่เป็นคนเก็บอาการค่อนข้างเก่ง ชายหนุ่มจึงตีสีหน้าเรียบนิ่งแล้วมองกลับไป จนกระทั่งอีกฝ่ายยอมลอบสายตาไปก่อนเอง
ระหว่างมื้ออาหารกระทั่งกำลังขับรถกลับบ้านในตอนนี้ จงรักพบว่าตัวเองต้องทำอะไรให้เมฆาไม่พอใจสักอย่างแน่ๆ เนื่องจากอีกฝ่ายค่อนข้างนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดกับเขาเท่าไหร่เลย ทั้งที่เดิมทีก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว แต่ไม่ว่าจะเค้นสมองเท่าไหร่ จงรักก็นึกไม่ออกว่าเมฆาโกรธเขาเรื่องอะไร
จนในที่สุดทั้งคู่ก็ถึงบ้าน ระหว่างที่คนตัวโตกำลังจะแยกตัวไปอาบน้ำ จงรักก็ใช้วิธีตะล่อมถามอย่างละมุนละม่อม เพราะมันเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลทุกครั้งไปเวลาอยากบังคับถามอะไรอีกฝ่าย
“พี่เมฆครับ” มือเล็กคว้ามือใหญ่เอาไว้ ก่อนเรียกด้วยเสียงเบา
“หืม” คนหน้าดุหันกลับมาหา ดวงตาคมกล้าแลดูอ่อนโยนเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง
“พี่เมฆไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ”
“เปล่านี่”
“แล้ว…พี่โกรธอะไรผมหรือเปล่า”
“ก็เปล่านะ” แม้เจ้าตัวจะบอกอย่างนั้น แต่จงรักก็ยังรู้สึกเหมือนคนรักของเขามีอะไรในใจ
“เหรอครับ”
“รักไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยใช่ไหม แล้วพี่จะโกรธอะไรเราล่ะครับ” เมฆาเห็นน้องทำหน้าไม่สบายใจ เขาจึงรวบเอวเล็กเข้ามากอดหลวมๆ
“ไม่รู้สิครับ ผมแค่รู้สึกเหมือนพี่เมฆไม่พอใจอะไรสักอย่าง วันนี้พี่ดูเงียบๆ คิ้วก็ขมวดบ่อยด้วย” ได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลเช่นนั้น เมฆาจึงยิ้มก่อนโน้มตัวจูบที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอกนะ อย่าคิดมาก”
“จริงๆนะครับ” คนตัวเล็กถามซ้ำ
“จริงสิ” คนหน้าดุจึงย้ำ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ พี่เมฆไปอาบน้ำเถอะ”
“โอเค” ถึงจะตอบตกลงไปอย่างนั้น แต่มือหนาก็ไม่ยอมปล่อยออกจากเอว
“โอเคแล้วก็ปล่อยสิครับ”
“ไม่ค่อยอยากปล่อยเท่าไหร่น่ะสิ ทำยังไงดี”
“ไม่รู้สิครับ” จงรักหลบสายตาเจ้าเล่ห์เป็นพัลวัล แต่ก็ต้องถูกหลอกให้เงยหน้าขึ้นมาหา เมื่อได้ฟังเสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู
“แต่พี่รู้”
“ทำยังไงครับ” คนอยากรู้มองช้อนตาใส
“ไม่ต้องทำยังไง เราก็เข้าไปอาบด้วยกันอย่างนี้เนี่ยแหละ” ไม่ว่าเปล่า คนตัวโตก็ดึงน้องเข้าไปอาบน้ำด้วยจนได้ แต่เพียงแค่อาบน้ำเท่านั้น เนื่องจากอะไรๆที่อยากทำเมฆาค่อยพาน้องออกมา
ทำบนที่นอน เพราะคนดีของเขาร้องบอกเสียก่อนว่าทำในห้องน้ำมันปวดหลัง
ยามนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว ในห้องนอนกว้างปิดไฟมืดสนิท มีเพียงแสงรำไรจากไฟด้านนอกที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้นที่ทำให้คนไม่ยอมหลับมองเห็นอะไรๆได้แม้จะรางๆก็ตาม เมฆานอนลูบหลังเปลือยเปล่าของคนรักที่เหนื่อยจนหลับซบอยู่บนอก พลางคิดถึงสิ่งที่ถูกถามเมื่อหัวค่ำเงียบๆ
ที่จงรักถามว่าเขาไม่พอใจหรือโกรธอะไรเจ้าตัวหรือเปล่า เขาก็พูดไปตามความจริงว่าไม่ได้โกรธ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวที่จะรู้สึกอย่างนั้น เพราะน้องไม่ได้ทำอะไรให้รู้สึกขุ่นเคืองสักนิด แต่คนที่ทำให้เขาไม่พอใจและไม่ชอบใจเอามากๆคือนายนันท์คนนั้นต่างหาก มีอย่างที่ไหน เห็นว่าเขาจะไปกินข้าวกับจงรักเป็นการส่วนตัว ดันทะเล่อทะล่าเข้ามาขอติดตามไปด้วย จงรักเองก็สงสารเพราะเห็นว่าเป็นเหมือนน้องจึงยอมอนุญาต ฉะนั้นตัวเขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรได้
เมฆาเกือบจะทำใจร่มๆไม่คิดอะไรได้แล้วเชียว ถ้าหากนายนันท์ไม่ทำตัวก้อร่อก้อติกจงรักจนน่ารำคาญ มันทำให้เขาหงุดหงิดจนเกือบจะข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ ดังนั้นตลอดเวลาเมฆาจึงเลือกที่จะเงียบแล้วเก็บความไม่พอใจเอาไว้แทน เพราะกลัวจงรักไม่สบายใจ
เขารู้ว่าจงรักรักเขา ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจน้อง แต่เมฆาก็ตัดสินใจกับตัวเองเงียบๆว่า ต่อไปนี้คงต้องระวังให้มากกว่าเดิม และคงต้องแสดงให้เด็กนั่นรู้ว่า จงรักเป็นของเขา
ของเขาคนเดียวเท่านั้น<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
มีตอนพิเศษมาแปะๆๆๆค่าาาาา
ตอนพิเศษนี้น่าจะประมาณสามตอนสั้นๆค่ะ
ฝากคนขี้หวงด้วยนะค้าาา
ละอองฝน