Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1344130 ครั้ง)

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.71 -- 2/11/59
«ตอบ #2130 เมื่อ02-11-2016 23:39:59 »






Chapter 31





กนธีปิดหน้าสมุดบัญชีลง สายตาล้าไม่น้อยเพราะพักผ่อนไม่พอ เขารู้อยู่แล้วว่าการไปๆมาๆระหว่างในกับนอกเมืองมันเสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่ที่กลับบ้านใหญ่ทุกครั้งก็เพราะว่าอยากจะช่วยดูแลคุณยายกับเด็กๆ มีเขาอยู่ด้วย ทุกคนจะได้ทำทุกอย่างตามสบาย ไม่ต้องเกร็งมากนัก
   
อย่างไรก็ตาม ให้เป็นแบบนี้ไปนานต่อเนื่องเขาเองก็คงจะลำบาก เลยตั้งใจจะคุยกับอินทัชว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะกลับมาค้างคอนโด และคงเข้าบ้านแค่ช่วงวันหยุด ส่วนหน้าที่ของอินทัชที่ต้องมาคอยดูแลเขานั้น กนธีก็ไม่อยากให้มันต้องกังวล เอาเป็นว่าให้โอ๊ตได้ดูแลครอบครัวตามลำดับความสำคัญก่อนจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เทียวไปมาระหว่างคอนโดเขากับบ้านใหญ่ให้เหนื่อยเปล่า สำหรับเขา..ได้เจอกันอาทิตย์ละสองวันก็ยังโอเค
   
วันนี้อินทัชไม่ได้มาร้านด้วย ที่จริงคือไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าโอ๊ตที่จะต้องตามติดเขาทุกวันหรอก เด็กมันพอใจอยากจะมา แต่เขาบอกให้ไปทำหน้าที่ของตัวเอง ถ้ามีเวลาว่างก็ให้ไปเรียนดนตรีหรือหัดขับรถให้เป็นเรื่องราว หมอนั่นเองก็ยอมเชื่อฟังโดยไม่โต้เถียง หลายวันมานี้อินทัชเลยดูแลคุณยายอยู่กับบ้านและฝึกเล่นกีต้าร์โปร่งตัวใหม่เอี่ยมที่เขาซื้อให้จนคล่องมือ
   
มีเสียงเรียกเข้า หน้าจอเป็นชื่ออินทัช กนธีที่ว่าจะแอบงีบเลยกดรับสาย
   
‘วันนี้กลับดึกไหมครับ ไอ้อ้นเพิ่งมาบอกว่าพี่กุนต์อยากกินซาลาเปาผัก ผมเลยทำไว้ให้ แล้วก็..คะน้าน้ำมันหอยที่สัญญาจะเลี้ยง ผมก็ทำให้แล้ว’
   
กนธีหัวเราะ ให้ตายดิ้น..เขารู้แล้วว่า การมีภรรยาที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนคอยทำอาหารอร่อยๆ คอยรอรับเรากลับบ้านเนี่ย มันสวรรค์สำหรับสามีชัดๆ
   
“วันนี้ว่าจะเคลียร์บัญชีที่ร้านน่ะ แต่พี่จะพยายามไม่ให้เกินสามทุ่มนะ”
   
‘ให้ผมเอากับข้าวใส่ปิ่นโตไปให้ที่ร้านไหม’
   
เขายิ้มด้วยความเอ็นดู “ที่นี่ก็มีข้าวกิน”
   
‘แต่ไม่มีผมไง’
   
กนธีเอาหัวโขกโต๊ะตุบๆ ใบหูร้อนฉ่า ในใจสบถซ้ำไปมา ไอ้ขี้โกง ไอ้เด็กเปรต ไอ้เด็กไร้เดียงสา ไม่รู้จักทิ้งระยะห่าง ให้ความหวังกันไม่ยอมหยุด
   
“ไม่เป็นไร” เขาบังคับเสียงให้ปกติ “พี่ค่อยกลับไปกินกับโอ๊ตก็ได้”
   
‘โอเคครับ ผมจะรอ’ ปลายสายบอกก่อนจะวางไป ทิ้งให้ใครอีกคนต้องนั่งเหม่อลอย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตามลำพัง
   
คืนนั้น กนธีถึงบ้านตอนสามทุ่มครึ่ง เขาโทรไปบอกอินทัชแล้วว่ากลับช้าเพราะรถค่อนข้างติด หมอนั่นบอกว่ายังรอเขากินข้าวด้วยกันอยู่ เล่นเอารู้สึกผิดขึ้นมาถนัด ดีที่อ้น อุ้มกับคุณยายทานมื้อเย็นกันไปก่อนแล้ว
   
ตอนที่ขับเข้ามาในเขตบ้าน เขาเห็นอินทัชยืนรออยู่ด้านหน้า ยังไม่ทันลงจากรถ เด็กมันก็เปิดประตูให้เสร็จสรรพพร้อมกับยื่นน้ำสีประหลาดมาให้
   
“ดื่มสิครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม
   
กนธีเหลือบมอง รู้สึกว่ารอยยิ้มนั่นมันประหลาดชอบกล แต่เขาคิดว่าไอ้โอ๊ตคงไม่วางยาพิษเขาแล้วเอาหมอนกดหน้าให้ตายหรอก

“อึก..” เขาแลบลิ้นเลียปากเพราะมันยังร้อนอยู่ “รสเผ็ดๆ แต่ก็หวานดี ใส่น้ำตาลด้วยสินะ มันคืออะไรน่ะ..”
   
อินทัชหยิบกระเป๋าเป้ของพี่กุนต์ขึ้นพาดบ่า เห็นเจ้าตัวหยุดดื่มไปสองสามอึกก็ยิ้มมุมปาก ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู “ถั่งเช่า”
   
กนธีเงยหน้ามอง เขาคิดว่าชื่อนี้มันคุ้นหูอยู่นะ
   
“กระตุ้นความต้องการทางเพศครับ”
   
“ไอ้โอ๊ต~”
   
“ผมล้อเล่น” ร่างสูงหัวเราะ รีบยกมือห้ามคนที่เตรียมจะเคาะแก้วลงหัว “กระชายดำต่างหากครับ สมุนไพรไทยธรรมดาๆสารพัดสรรพคุณ บำรุงร่างกายทั่วไป” เขาอมยิ้ม “พี่นี่แกล้งง่ายจัง ผมจะไปมีปัญญาซื้อถั่งเช่าได้ไง”
   
“มีไม่มีก็ห้ามซื้อ!” กนธียังไม่อยากโด๊ปไวอากร้าที่มาจากรากับหนอน
   
อินทัชหัวเราะในลำคอ เห็นหูพี่กุนต์ยังแดงอยู่เลยถือโอกาสจับเล่น คนอะไรน่าแกล้งชะมัด “ไม่ซื้อครับ..ผมไม่เสี่ยงหาของแปลกๆมาให้พี่กินหรอกน่า เอาแค่กระชายดำก็พอ..กระชายดำนี่ก็ดีแล้ว” ประโยคหลังเขาพึมพำกับตัวเอง
   
..เพราะมันก็มีสรรพคุณเพิ่มสมรรถภาพได้เหมือนกัน..
   
“ฮื่อ..” กนธีเดินหนีไอ้เด็กเปรต รีบดื่มจนหมดแก้วแล้วส่งคืน มันขยันหานั่นนี่มาบำรุงเขาจริงๆ รู้สึกเหมือนเป็นอาแปะใกล้ตายอย่างไรไม่รู้

“กินข้าวเลยไหมพี่ ผมจะไปจัดโต๊ะให้” 

“อืม..พี่ขอขึ้นไปอาบน้ำสักห้านาทีได้ไหม ถ้าหิวก็กินก่อนได้นะ”
   
“ห้านาทีนี่แก้ผ้าทันหรือครับ” ที่ถามไม่ได้เจตนาแซว แต่เขาเคยยืนมองตอนพี่กุนต์ถอดเสื้อผ้าแล้ว ปาเข้าไปนาทีกว่าเห็นจะได้ มะงุมมะงาหราอยู่นั่น
   
“ทันโว้ย” กนธีอยากเตะไอ้เด็กปากมากชะมัด เขาเดินหายขึ้นไปบนชั้นสองแต่ยังไม่วายกำชับ “ไม่ต้องรอพี่นะ กินไปก่อนเลย”
   
อินทัชตัดสินใจรอเพราะเขาเป็นคนกินเร็ว ส่วนพี่กุนต์ชอบอมข้าว แบบนี้ควรให้อีกฝ่ายกินก่อนสักครึ่งจานแล้วเขาถึงกินตาม จะได้เสร็จพร้อมกันพอดี
   
“ลุงต้วมเตี้ยม” เด็กหนุ่มยิ้มขัน จัดแจงเอากับข้าวไปอุ่นไว้รอท่า
   
ตอนที่ทำเสร็จ พี่กุนต์ก็เดินลงมาพอดี เขาหันมอง สะดุดตาที่สลิปเปอร์ไข่เหลืองอ๋อยก่อนเพื่อนจนต้องหลุดขำ พอเลื่อนขึ้นไปดูก็เห็นกางเกงผ้าซาตินเนื้อเป็นมันเงากับเสื้อยืดสกรีนคำว่า ‘เด็กปากช่อง’
   
อินทัชคิ้วกระตุก “อะไรน่ะครับ”
   
กนธีก้มลงดูรองเท้ากุเดทามะ “หือ..ไข่ไง..ก็คู่เก่านั่นแหละ”
   
“ผมหมายถึง..” เขาหรี่ตามอง “เสื้อที่พี่ใส่..”
   
“อ๋อ..เสื้อยืดที่ระลึกน่ะ” เขายิ้ม “เนื้อเบาดีนะ ใส่สบาย”
   
“ซื้อมาจากไหนครับ ไม่เคยเห็นในตู้เสื้อผ้าพี่เลย” เขาคอยหยิบชุดให้จนรู้หมดแล้วว่าพี่กุนต์มีเสื้อมีกางเกงกี่ตัว แต่ไอ้ตัวนี้รับรองว่าไม่เคยผ่านตา
   
“คุณไผทส่งพัสดุมาให้จากปากช่อง” กนธีนั่งลงบนโต๊ะ ซาลาเปาผักควันฉุยจนเขาท้องร้อง เอากะหล่ำปลีนึ่งพร้อมหมูแบบนี้ต้องหวานแน่ๆ
   
อินทัชคิดไว้แล้วว่าของที่กระตุ้นความจำคนใส่ มันต้องมาจากคนให้ที่มีจุดประสงค์แอบแฝง สรุปว่ามันไม่ยอมให้พี่กุนต์ลืมแม้กระทั่งตอนนอนเลยสินะ
   
“ว่าแต่..ไม่ชอบหรือ” กนธีเห็นเด็กเงียบไปก็นึกขึ้นได้ เขารู้ว่าเจ้าโอ๊ตไม่ชอบคุณไผท แต่ไม่คิดว่าจะไม่ชอบยันของที่ฝ่ายนั้นซื้อให้เขา
   
“เปล่า” ร่างสูงยักไหล่ ตีหน้าเรียบ “ก็เหมาะกับพี่ดี”
   
คนฟังถอนหายใจโล่งอก “แค่เสื้อเนอะ..แค่เสื้อ”
   
อินทัชนั่งลงด้านข้าง กินข้าวด้วยโดยไม่ชวนทะเลาะ ถึงอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจไว้ว่าคืนนี้..ยังไงก็ต้องดึงเสื้อ ‘เด็กปากช่อง’ ออกจากตัวพี่กุนต์ให้ได้!
   
“เป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามคนที่ดูมีความสุขกับการกินผัก
   
“อื้ม” กนธียิ้ม “รสชาติเยี่ยม คะน้านี่กรอบกรุบๆ ไม่เหนียว พี่ชอบมาก กะหล่ำซาลาเปาก็เปื่อยดี เคี้ยวไม่กี่ครั้งขาดแล้ว”
   
“พี่เป็นคุณตาไม่มีฟันหรือไง” เขากลั้นขำ ไม่รู้ว่าเผลอนั่งมองพี่กุนต์กินตั้งแต่เมื่อไร..ชอบอมข้าวแบบที่คิดจริงๆ แก้มตุ่ยเชียว “กระรอก..แฮมสเตอร์”
   
กนธีงุนงง พอเงยหน้ามอง เห็นเด็กมันจ้องอยู่แล้วทำแก้มพองลมใส่ล้อเลียนพฤติกรรมการกินของเขา ชายหนุ่มก็เกือบสำลัก

“คนเราเนี่ยนะ มันต้องค่อยๆเคี้ยว นอกจากจะทำให้อาหารละเอียด กระเพาะไม่ต้องทำงานหนัก ยังลดปริมาณอาหารลงด้วย จะได้ไม่อ้วนไง”

“ของหวานเป็นบัวลอยมะพร้าวอ่อน กินไหมครับ”

“กินครับ”

อินทัชขำพรืด นั่นไง..คนไม่อยากอ้วน เขาคิดแล้วกลั้นยิ้ม เพราะว่ากินเสร็จก่อนเลยเข้าครัวไปตักขนมมาให้พี่กุนต์ถ้วยหนึ่ง ตอนที่กลับมา เจ้าตัวยังกินไม่เลิก กินไปตาปรือไป คิดว่าถ้าหลับคาจานข้าวได้คงทำไปแล้ว

“พี่ดูเพลียๆนะ” เขาลากเก้าอี้มาใกล้กว่าเดิม ถือวิสาสะของคนกันเอง แตะหน้าผากอีกฝ่ายว่าเป็นไข้หรือเปล่า แต่ท่าทางจะเหมือนคนอดนอนมากกว่า

“นิดหน่อย” กนธีกินข้าวเกลี้ยงจาน ไม่เคยเหลือแม้แต่เม็ดเดียวเพราะรู้ดีว่ากว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ด ชาวนาต้องตรากตรำลำบากตั้งเท่าไร

“ช่วงนี้ก็นอนไวนี่ครับ” อินทัชเกาแก้ม “ผมไม่ได้มีอะไรกับพี่มาหลายคืนแล้ว จะอ้างว่าผมทำให้พี่ไม่ได้นอนก็ไม่ใช่นะ”

คนฟังสำลักน้ำเปล่า “ยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลย พี่แค่ต้องขับรถทุกวันเข้าเมืองน่ะ เจอรถติดก็เพลียแล้ว ไหนจะกลับดึก ตื่นเช้าอีก”

“อ้อ” เขาพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินแล้วรีบขึ้นห้องเถอะพี่”

“โอเค” กนธียิ้มรับ ตักบัวลอยเคี้ยวแบบหนุบหนับอีกร่วมสิบนาที ถึงได้ถูกเด็กไล่ให้ขึ้นไปแปรงฟัน “ฝากด้วยนะ พี่ขึ้นก่อนล่ะ”

อินทัชจัดการเก็บโต๊ะ เอากับข้าวที่เหลือใส่ตู้เย็นแล้วตามพี่กุนต์ขึ้นไป พอเข้าห้องได้ก็ต้องถอนหายใจ กนธีมาก่อนเขาสิบนาทีได้ ตอนนี้ยังยืนแปรงฟันในห้องน้ำอยู่เลย นับว่าเป็นคุณลุงเต่าคลานจริงๆ

“พอแล้วครับ เดี๋ยวฟันสึกหมดหรอก” เขาเปิดน้ำใส่แก้ว ตั้งไว้ข้างอ่าง

กนธีหัวเราะ ทำฟองยาสีฟันฟ่อดฟุ้ง ต้องรีบบ้วนปากก่อนเผลอกลืน

“ผ้าเช็ดหน้าครับ” เด็กหนุ่มยื่นผ้าขนหนูให้ “ผมแห้งหรือยัง” เขาเอื้อมมือจับปอยผมข้างใบหน้าได้รูป “ยังหมาดๆอยู่ ไปรอที่เตียงครับ ผมจะเป่าให้”    

“โอเคครับ” คนอายุมากกว่าอมยิ้ม เดินลากรองเท้าไข่ไปนั่งรอบนเตียงอย่างเชื่อฟัง “เออ..พรุ่งนี้ใช่ไหมที่น้องสนจะมาหาพี่ที่ร้าน”

อินทัชชะงักไปครู่กับคำถามแบบกะทันหัน เขามองตัวเองในกระจกอยู่อึดใจแล้วตอบกลับ “ใช่ครับ..ผมบอกให้มาตอนเย็น..พี่สะดวกหรือเปล่า”

“ยังไงก็ได้ พี่ว่างทั้งวันแหละ”

เขาไม่ได้โต้ตอบอีก จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ พอออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงก็ชะงักฝีเท้าก่อนส่ายหัวระอาเมื่อเห็นพี่กุนต์สลบเหมือดคาหมอนไปแล้วเรียบร้อย ดูเอาเถอะ..ผมยังไม่แห้งดีเลยด้วยซ้ำ

เขานั่งลงด้านข้าง ประคองศีรษะอีกคนไว้บนตัก ค่อยๆเช็ดและเป่าพัดลมให้จนแห้งสนิท จากนั้นก็ใช้หวีไม้สางเส้นผมนุ่มลื่นให้อย่างเบามือ

“เอาล่ะ..เรียบร้อย” อินทัชอุ้มกนธีขึ้นไปนอนแบบเก่า ฝ่ายนั้นขยับตัวเล็กน้อยคล้ายจะละเมอตอนที่เขาห่มผ้าให้

นัยน์ตาสีเข้มทอดมองคนที่หลับสนิท แผ่นอกไหวขึ้นลงสม่ำเสมอ เขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มออก เผลอตัวไล้ปลายนิ้วลงริมฝีปากอุ่น

“พรุ่งนี้ใช่ไหมที่น้องสนจะมาหาพี่ที่ร้าน”

อินทัชถอนหายใจแผ่ว น่าแปลกที่รู้สึกเกร็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด อาจเป็นเพราะไม่อยากให้พี่กุนต์ผิดหวังในตัวเขา

ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เขาจะต้องระวังท่าทีที่แสดงออกต่อปาลินให้มาก

เด็กหนุ่มปิดไฟหัวเตียง สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มก่อนกระซิบกับคนข้างกาย

“ฝันดีครับ”




....................................................................................




ปาลินยืนลังเลอยู่หน้าร้านอาหารที่อินทัชส่งแผนที่มาให้ เพื่อนบอกให้เขามาตอนเย็น เพราะวันศุกร์แบบนี้ อินทัชจะต้องไปสอนเด็กก่อนแล้วถึงจะเข้าร้าน
   
บังเอิญเขามีธุระละแวกใกล้เคียง เลยตั้งใจจะแวะมาก่อน คิดว่าอย่างน้อยถ้าจะสมัครงาน ก็ไม่น่าโผล่มาตอนที่ร้านกำลังวุ่นวาย ถ้าจะให้ดี น่าจะเข้าไปสวัสดีคุณกนธีและพูดคุยแนะนำตัวกับเขาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
   
“คุณปาลินใช่ไหมครับ” พนักงานคนหนึ่งเข้ามาถาม พออีกฝ่ายตอบรับก็พูดต่อ “คุณกนธีเชิญให้ขึ้นไปพบบนชั้นสองครับ ขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้ายเลย”
   
ปาลินงุนงง แต่พอเงยหน้าเห็นกล้องวงจรปิดตรงหน้าร้านแล้วก็เข้าใจได้ เขาตื่นเต้นเล็กน้อย จัดเสื้อผ้าให้เรียบก่อนเดินขึ้นไปเคาะประตูห้องด้านบน
   
กนธีนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน พอเห็นปาลินก็ยิ้มกว้าง ลุกขึ้นมารับหน้า
   
“เชิญๆ เข้ามาเลย ไม่ต้องเกรงใจ” เขายกมือรับไหว้จากเด็ก บอกให้นั่งที่โซฟาและผละไปรินน้ำเย็นใส่แก้ว “เห็นโอ๊ตบอกว่าจะมาตอนเย็นนี่นา”
   
“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มไหว้ขอบคุณ รู้สึกเกร็งเหมือนกันที่อีกฝ่ายให้การต้อนรับแบบเป็นกันเองขนาดนี้ “พอดีผมแวะมาทำธุระ เลยเข้ามาก่อนเวลา”
   
“ไม่เป็นไร พี่ว่างทั้งวันอยู่แล้ว เพิ่งเล่นเกมจบไปสามด่าน” กนธียิ้มให้ ยืนพิงโต๊ะด้านหลัง “พี่เรียกเราว่าลูกสนได้ใช่ไหม” ชื่อนี้น่ารักชะมัดเลย
   
ปาลินยิ้มเก้อเขิน “เรียกสนก็ได้ครับ”
   
“โอเค..น้องสน” เขาพยักหน้า “เราอยากทำอะไร เลือกได้ตามใจชอบ”
   
“ผมทำได้ทุกงานเลยครับ” ปาลินทำท่าขึงขัง “จะเป็นเด็กเสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ทิ้งขยะ คนทำความสะอาด หรือว่าเป็นผู้ช่วยในครัวก็ได้ทั้งหมด”
   
กนธีรู้สึกเอ็นดูอีกฝ่าย ด้วยความที่เป็นเพื่อนอินทัช ซ้ำเขายังเป็นพวกอ่อนไหวกับเด็กที่ขยันเอาการเอางานแบบนี้เป็นพิเศษเสียด้วย
   
“เอาแบบนี้แล้วกัน..เรามาช่วยพี่ไหมล่ะ คอยเช็กสต็อค ดูของขาด ทำบัญชี เก็บสถิติ สำรวจความพอใจลูกค้าอะไรทำนองนี้ คือไม่อยากให้เดินเสิร์ฟเท่าไร นี่กำลังปรับเป็นร้านกึ่งบาร์ด้วย มันไม่ค่อยเหมาะกับเด็กอย่างเราหรอก”
   
ปาลินยิ้มกว้าง เขาทำได้ทุกอย่าง ขอแค่มีคนสอนงาน “ได้ครับผม”
   
“งั้นมาคุยเรื่องเงินเดือนกันนะ” กนธีเข้ามานั่งที่โซฟา “พอดีทางร้านอยู่ในช่วงปรับปรุง ถ้าอยู่ตัวแล้วก็คงมีค่าตอบแทนเพิ่ม แต่ตอนนี้เงินเดือนเราจะอยู่ที่หมื่นสอง ทิปจากแขกจะได้เป็นรายบุคคล ยกเว้นค่าเปิดขวดกับเซอร์วิสชาร์จ พี่จะเฉลี่ยให้ แบบนี้สนโอเคไหม”
   
“ได้แน่นอนครับ” ปาลินตอบรับ “ผมกังวลแค่ช่วงเปิดเทอม...”
   
“ไม่เป็นไร มาทำตอนเย็นก็ได้ งานมันไม่ต้องดูแลตลอดหรอก แค่สรุปรายการในช่วงวันให้ได้ก็พอ สนคอยรายงานให้พี่รู้ ที่เหลือพี่ทำต่อเอง”
   
“ขอบคุณมากๆครับคุณกนธี” เขากระตือรือร้น “ให้ผมเริ่มงานวันนี้เลยไหมครับ ยังไงต้องขอรบกวนคุณกนธีช่วยสอนผมด้วยนะครับ”
   
“เรียกพี่กุนต์ก็พอ” เจ้าของชื่อหัวเราะ “วันนี้เอาแค่แนะนำพนักงานคนอื่นกับเล่าการทำงานคร่าวๆแล้วกันนะ ถ้าเวลาเหลือพี่จะสอนงานให้”
   
ปาลินยิ้มดีใจ เขาโชคดีจริงๆที่ได้เจออีกฝ่าย เจ้านายใจดี เป็นกันเอง เปิดโอกาสให้มากมายขนาดนี้ หาไม่ได้ง่ายนักหรอก
   
“ว่าแต่เรากินอะไรมาหรือยัง นี่ก็บ่ายสามแล้ว ไปกินข้าวกับพี่นะ” กนธีมัดมือชก “เดี๋ยวโอ๊ตก็มาแล้วแหละ นั่งคุยกับคนแก่ไปก่อน”
   
“พี่กุนต์ไม่แก่สักหน่อยครับ” เขาชมอย่างเคอะเขิน “ออกจะดูดีแล้วก็เท่ขนาดนี้” เขายุอินทัชให้จีบไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ป่านนี้จะคืบหน้าบ้างหรือยังนะ
   
“น่า..พี่รู้สังขาร” กนธีหัวเราะ หยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถแล้วออกจากห้อง “อยากกินเป็ดย่างกวางตุ้งร้านประจักษ์บางรัก โห..พูดแล้วท้องร้อง”
   
ปาลินเดินตามต้อยๆ พี่กุนต์ส่งมือถือแล้วฝากให้เขาดูแผนที่ว่าจะไปร้านที่ว่าได้ยังไง เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งข้างคนขับด้วยท่าทางเก้กัง
   
“รัดเข็มขัดด้วย มานี่มา..” กนธีชะโงกไปดึงเบลท์ให้ ก้มๆเงยๆช่วยคนที่ยังดูประหม่า “เดี๋ยวโดนหัวปิงปองจับแล้วจะอดเป็ดย่าง”
   
คนอายุน้อยกว่านั่งตัวเกร็ง ตอนคุณกนธีเข้ามาใกล้ เขาได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กระทั่งปลายเส้นผมที่เคลื่อนผ่านยังมีกลิ่นหอมเย็นที่ทำเอาใจอ่อนยวบ น้ำเสียงที่พูดอยู่ข้างหูก็ฟังนุ่มนวล แล้วยังรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลานั่นอีก
   
คุณกนธีอาจไม่รู้ตัว แต่ผู้ชายคนนี้เสน่ห์แรงจริงๆ ทั้งรูปลักษณ์ บุคลิกและนิสัย เขาอ่อนโยน สุภาพ เทคแคร์เก่ง อินทัชอยู่ใกล้โดยที่ไม่หลงได้อย่างไร
   
“เอาล่ะ..กินเป็ดย่างกันเถอะ เป็ดย่าง~” กนธีออกรถจากลานจอด
   
ปาลินกลั้นขำ “พี่กุนต์อยากกินมากเลยนะครับเนี่ย”
   
“นั่นสิ..พี่น่ะขากิน มีอะไรอร่อยขอให้บอก” เขายิ้ม “ขากลับซื้อฝากโอ๊ตด้วยดีกว่า ว่าแต่หมอนั่นจะชอบกินซาลาเปาหรือเปล่านะ”
   
“น่าจะไม่นะครับ” เขาคุ้นๆอยู่ “ผมเคยซื้อซาลาเปาวราภรณ์มาฝาก ไม่เห็นกินเลย แต่ถ้าน้องอุ้มจะชอบซาลาเปาไส้หมูแดงมาก น้องอ้นนี่ชอบขนมจีบ”
   
“โอ้..” กนธีไม่เคยรู้มาก่อน นับว่าเป็นข้อมูลใหม่ เขาจะได้ซื้อของกินได้ถูกใจเด็กๆ “สนดูสนิทกับโอ๊ตนะ รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไรนี่ เรียนคณะเดียวกันไหม”
   
ปาลินส่ายหัว เล่าเรื่องเกี่ยวกับอินทัชให้พี่กุนต์ฟังหลายอย่าง อาศัยที่ว่าเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่เริ่มทำที่ Vin Santo
   
กนธีรับฟัง มีหลายมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อนและคงต้องถามจากปาลินอีก เพราะการใช้ชีวิตด้วยกัน เขาไม่อยากให้อินทัชต้องปรับตัวอยู่ข้างเดียว
   
..เขาอยากจะเป็นฝ่ายเข้าหาอินทัชบ้าง..
    
.

.

.



อินทัชมาถึงร้านตอนห้าโมงเย็น พอรู้ว่าปาลินไปข้างนอกกับพี่กุนต์ เขาก็ได้แต่นิ่งอึ้ง เกิดทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาชั่วขณะ ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยอะไรกันบ้าง
   
สักพักใหญ่ รถของกนธีก็เข้ามาจอด เขาที่ดักรออยู่รีบเดินไปหา พี่กุนต์ลงจากรถ มีปาลินช่วยหอบหิ้วถุงของกินลงมาพะรุงพะรังทั้งสองมือ
   
“ไปไหนกันมาครับ” เขาถามทั้งที่คิ้วขมวด
   
“พี่ชวนน้องสนไปกินเป็ดย่างบางรักมา” กนธียิ้ม อารมณ์ดีเพราะได้กินของอร่อย “ไม่ต้องน้อยใจนะ นี่ของฝาก” เขาชูขาหมูให้ดู “สนบอกว่าโอ๊ตชอบกินขาหมู พี่เลยซื้อของร้านตรอกซุงกับร้านเจริญแสงสีลมมาให้ลองชิม มีซาลาเปาไส้หมูแดงของน้องอุ้มกับขนมจีบให้น้องอ้นด้วย”    
   
“อ่า..ขอบคุณมากครับพี่” อินทัชมองปาลินที่ยืนฉีกยิ้มอยู่ด้านหลัง เขาส่ายหัวระอา แม้จะรู้สึกดีที่ปาลินยังจำเรื่องของเขาได้ แต่ให้พี่กุนต์มารับรู้จากปากคนที่เขาชอบ มันก็ชวนให้รู้สึกผิดปนกระอักกระอ่วนไม่น้อย
   
“เดี๋ยวพี่พาสนไปแนะนำตัวกับคนอื่นก่อน แล้วยังไงพรุ่งนี้ค่อยมาเรียนงานอีกที” กนธีเดินนำขึ้นชั้นสอง เขาซื้อของกินบางส่วนมาฝากพนักงานในร้านด้วย “โอ๊ตนั่งรอในนี้ก็ได้ ไป..น้องสน ลงไปข้างล่างกับพี่”
   
ปาลินหันมาชูนิ้วโป้งให้เพื่อนสนิท อินทัชพยักหน้ารับ เขารอลงไปร้องเพลงตอนหกโมง วันไหนที่มาเร็วก็ไปช่วยคนอื่นทำงานบ้างแล้วแต่จังหวะ
   
คล้อยหลังพี่กุนต์สักพัก มือถือของเจ้าตัวที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะก็มีไลน์เข้า ตอนแรกเขาไม่สนใจหรอก แต่เพราะมันดังติดกันเลยหันไปมอง
   
..คนบางคนมันก็ไม่หายหัวไปจากชีวิตของคนอื่นสักที..
   
‘อยากคุยกับพี่กุนต์ นี่ก็ใกล้วันเกิดพี่แล้ว เราเจอกันได้ไหม’
   
‘ถ้าไม่รังเกียจ ผมอยากขอเลี้ยงข้าวพี่สักมื้อ’
   
‘ผมจำได้นะว่าพี่ชอบกินอะไร’

‘เอาไว้นัดเจอกันที่ร้านโปรดของพวกเราไหมครับ’

อินทัชขมวดคิ้ว ไอ้ร้านโปรดที่ว่ามันคือร้านอะไรล่ะ แต่ที่น่าโมโหกว่านั้น ทำไมไอ้วิทย์มันไม่ไปตามทางของมันสักที ตื๊องี่เง่าอยู่ได้

มีเสียงกระแอมดังขึ้นด้านหลัง เด็กหนุ่มหันขวับ ชะงักไปครู่เมื่อเห็นพี่กุนต์ยืนมอง ฝ่ายนั้นยื่นมือขอโทรศัพท์แต่ไม่ได้มีท่าทีตำหนิที่เขาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวทั้งที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว

“มีอะไรหรือเปล่า” กนธีดูหน้าจอแล้วเข้าใจได้ เขาปลดล็อกเพื่อจะกดลบช่องสนทนาโดยไม่เข้าไปอ่านด้วยซ้ำ “เด็กคนนี้มันงอแงจริงๆ”

“งี่เง่าคืองี่เง่าครับ ไม่ใช่งอแง คำนั้นมันน่ารักไป” อินทัชแก้ให้

คนฟังหัวเราะ เลื่อนไลน์อ่านข้อความที่ค้างอยู่ “เออ..พี่ลืมบอก วันนี้พี่จะออกจากร้านเร็วหน่อยนะ พอดีเพื่อนชวนไปงานเลี้ยงวันเกิดน่ะ โอ๊ตกลับบ้านถูกไหม ถ้ายังไงมันดึกเกิน เราไปนอนคอนโดก็ได้แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”

“พี่จะไปส่ง?” เขางุนงง “ทำไมไม่ใช้คำว่า ค่อยกลับพร้อมกันล่ะครับ”

“คือ..พี่ว่าจะบอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ช่วงนี้พี่จะพักที่คอนโดนะ”

อินทัชมุ่นคิ้วหนักกว่าเก่า “หมายความว่ายังไงครับ”

กนธีเกาแก้ม “พี่เดินทางไปกลับแล้วมันเหนื่อย ช่วงที่ร้านยังไม่อยู่ตัว พี่คงต้องมาดูแลทุกวัน เลยว่าจะไม่กลับบ้านใหญ่น่ะ อย่างมากก็กลับศุกร์ เสาร์อาทิตย์พอ” เขาอธิบาย “โอ๊ตก็อยู่กับคุณยาย อยู่กับน้องๆที่บ้านนั่นแหละ”

“แต่ผมต้องดูแลพี่...”

เขาโบกมือ “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก อาทิตย์หนึ่งเจอกันสามวันก็พอ”

ฟังพี่กุนต์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามปกติแล้ว อินทัชก็เริ่มลังเลว่าการแยกกันอยู่คือเรื่องปกติของความสัมพันธ์แบบนี้หรือเปล่า

เสียงไลน์ดังขึ้นอีกครั้ง กนธีก้มมองก่อนบ่นพึมพำ

“เจ้าวิทย์นี่..บล็อกซะเลยดีไหม”

อินทัชยืนนิ่ง คำพูดของไววิทย์ดังขึ้นมาในหัว

“แค่จะมาเตือนในฐานะรุ่นพี่ว่าระวังจะถูกเขี่ยทิ้ง”

“พี่กุนต์รักใครไม่เป็นหรอก ถ้าเขาเจอคนใหม่ เตรียมตัวไว้ได้เลย”


เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร “พี่กุนต์..” เรียกคนที่เอาแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์

“ว่าไง” กนธีไม่ได้ตอบไววิทย์หรอก เขาตอบเพื่อนในกลุ่มต่างหาก

“ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ พี่ก็บอกผมได้นะครับ”

คนอายุมากกว่าเงยหน้ามอง ท่าทีมึนงงกับคำพูดซีเรียสของเด็ก

“พูดอะไรน่ะ ทำไมถึงคิดว่าพี่ไม่พอใจเรา”   

“ก็พี่จะย้ายกลับไปนอนคนเดียว” อินทัชพูดเสียงนิ่ง “พี่บอกว่าขับรถไม่ไหว ผมเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอย่างอื่นอีกหรือเปล่าที่พี่ไม่ได้บอก”

“เฮ้ๆ ใจเย็นก่อนไอ้เสือ” กนธีจับบ่ากว้าง “พี่หมายความตามที่พูดจริงๆ ไม่ได้ไม่พอใจอะไร ออกจะพอใจ มีความสุขมากด้วยซ้ำที่ได้อยู่กับโอ๊ต”

อินทัชจะไปรู้ได้อย่างไรกัน พอเขาพาปาลินมาวันแรก พี่กุนต์ก็ขอแยกออกไปนอนคอนโดตามลำพังเลย ไหนจะมีเรื่องไววิทย์เข้ามาตื๊ออีก เขาเองก็ต้องเผลอคิดสะระตะไปบ้างเป็นธรรมดา

..ว่าแต่..ทำไมเขาถึงกังวลไปได้ขนาดนี้นะ..

อินทัชถอนหายใจ “ถ้าพี่บอกว่าไม่มีอะไรก็น่าจะตามนั้นแหละครับ”

กนธียิ้มระอา ลูบหัวเด็กน้อยของเขาเป็นการปลอบ “ที่พี่ให้เราอยู่บ้านใหญ่ เพราะอยากให้ดูแลคุณยายกับน้องๆให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง พี่เองยังดูแลตัวเองได้ แล้วเราก็ได้เจอกันตั้งสามวันเลยนะ”

ร่างสูงพยักหน้ารับ พี่กุนต์ห่วงเขาก่อนใครเสมอ

“ถ้าเราอยากมาเที่ยวที่ห้องวันไหนก็ตามใจ จะมาค้างก็ได้ พี่ไม่ว่า”

“โอเคครับ” อินทัชรับคำ “แล้วนี่พี่จะออกกี่โมง”

กนธียกนาฬิกาขึ้นดู “เดี๋ยวไปเลยก็ได้ ยังไงฝากเราดูร้านด้วย ฝึกเอาไว้ เผื่อได้เป็นเจ้าของร้านอาหารในอนาคต” เขาว่ายิ้มๆ
   
ชายหนุ่มตั้งใจเอาไว้ว่าหากคบหากับอินทัชได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าอีกฝ่ายยังเป็นเด็กดี ซื่อสัตย์และน่ารักสม่ำเสมอ เขาจะยกหุ้นร้านในส่วนของตัวเองให้ อินทัชจะได้มีโอกาสตั้งตัว ได้มีทรัพย์สินที่เป็นกอบเป็นกำบ้าง
   
อินทัชไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาเพียงแต่ตอบรับภาระหน้าที่ที่พี่กุนต์ให้ ตอนนี้เรื่องที่เขาสนใจคือการไปงานเลี้ยงของพี่กุนต์มากกว่า ทำไมถึงมาบอกกะทันหัน ทั้งที่เมื่อวานก็มีเวลาคุยกันตั้งมาก
   
“ผมถามพี่ได้ไหมว่างานเลี้ยงที่ว่าเป็นยังไง” เขาชวนคุย “ปาร์ตี้วันเกิดธรรมดา หรือว่ามีอะไรที่ลึกลับกว่านั้น อย่าง..ปาร์ตี้ชุดนอน ชุดว่ายน้ำ ฟองสบู่ จับคู่ให้กัน หรือ Blind date”
   
กนธีกลั้นหัวเราะแทบแย่ เจ้าโอ๊ตนี่มันดูหนังมากเกินไปแล้ว “งานเลี้ยงธรรมดาครับ มีเหล้า มีเบียร์ มีบุหรี่ตามประสา แต่พี่จะดื่มให้น้อย โอเคไหม”
   
“อย่าดื่มเลยครับ ผมขอ พี่ต้องขับรถกลับนะ”
   
เขาพยักหน้า “โอเค ไม่ดื่มก็ไม่ดื่ม”
   
“ผมจะรอพี่ที่ห้อง” อินทัชบอก กำชับหนักแน่นอีกครั้ง “ถ้ากลับมาแล้วมีกลิ่นเหล้า รู้นะครับว่าจะโดนอะไร”
   
“จะเอาไม้บรรทัดเหล็กตีพี่สินะ” กนธีขำ “เสียใจ..ที่ห้องไม่มีไม้บรรทัด”
   
“ผมไม่ทำอะไรเด็กๆแบบนั้นหรอกครับ” อินทัชว่าเสียงเรียบก่อนก้มลงกระซิบ “ผมจะจับพี่กดกับที่นอน..แล้วมีเซ็กซ์ด้วยจนเช้าวันใหม่เลย”
   
คนฟังร้อนวูบทั่วหน้า มันพูดมาหน้าตาเฉย ทำเขาหูอื้อตาลายไปหมด
   
“พี่ไปก่อนล่ะ” กนธีเดินหนี ถ้าอยู่ต่อ หน้าเขาต้องระเบิดออกมาแน่
   
“เดี๋ยวครับ” อินทัชจับแขนอีกฝ่ายไว้ “ผมไว้ใจพี่นะ หวังว่าจะไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนจริงๆ ไม่ใช่ว่าไปหาไววิทย์”
   
“ของมันแน่อยู่แล้ว” เขาทำหน้าจริงจัง แต่แล้วก็ต้องหลบสายตาที่มองมา ไม่ได้มีพิรุธอะไรหรอก เล่นจ้องด้วยดวงตาคมปลาบแบบนั้น ใครจะทนได้
   
“ถ้าพี่โกหก..ผมจะจัดการให้หนักกว่าเรื่องแอบกินเหล้า..ตกลงนะครับ”
   
“ไม่โกหกครับ” กนธีสัญญา “ปล่อยได้แล้วพี่โอ๊ต”
   
อินทัชยิ้มบาง ไม่รู้นึกอย่างไรถึงได้ก้มลงจูบปากคนตรงหน้า เขาขยุ้มต้นคอฝ่ายนั้นไว้ บดเบียดริมฝีปากหนักหน่วงก่อนผละออก
   
“ขับรถดีๆนะครับ แล้วเจอกันที่ห้อง”
   
กนธีตาเบลอ ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
   
..เขาคงหลงอินทัชจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ..

..ว่าแต่..จะลองดีด้วยการดื่มเหล้าสักแก้วสองแก้วดีไหมนะ..



.

.

.


[ต่อด้านล่าง]






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2016 23:46:03 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.71 -- 2/11/59
«ตอบ #2131 เมื่อ02-11-2016 23:40:49 »


.

.

.



ปาลินนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะหลังเคาน์เตอร์ วันนี้เขายังไม่เริ่มงาน แค่มาคอยดูว่าคนในร้านทำอะไรกัน แต่ละฝ่ายมีหน้าที่อะไร และเขาจะช่วยตรงไหนได้บ้าง

เมื่อครู่พี่กุนต์พาเขามาแนะนำตัวกับคนอื่นและให้เขาอยู่คุยตามสบาย เห็นบอกว่าต้องไปงานเลี้ยงแล้วก็หายขึ้นไปด้านบน เขาเลยเดินสวัสดีและฝากตัวกับพี่ๆที่ทำงานมาก่อน พอครบทุกคนก็ปลีกตัวออกมานั่งแกร่วตรงนี้ จะได้ไม่เกะกะคนอื่น สักพักหนึ่งเขาเห็นพี่กุนต์ลงมาจากห้อง ไม่รู้สังเกตไปเองหรือเปล่าที่เห็นจมูกอีกฝ่ายเป็นสีแดงเรื่อ พอนึกขึ้นมาได้ว่าอินทัชอยู่ในห้องทำงานสองต่อสองกับพี่กุนต์ เขาก็อดคิดไปไกลไม่ได้จริงๆ
   
ระหว่างที่กำลังคิดว่า ถ้าสองคนนี้คบกัน เพื่อนของเขาจะเป็นฝ่ายกอดหรือฝ่ายถูกกอด ใครบางคนก็วางมือลงบนหัวแล้วขยี้ไปมา
   
“อ้าว..โอ๊ต” ปาลินไล่ความคิดที่ว่าอินทัชเป็นฝ่ายอยู่ข้างล่างแทบไม่ทัน “เป็นไงบ้าง ไม่เจอกันพักใหญ่เลย” เขาฉีกยิ้มกลบเกลื่อน ถ้าโอ๊ตรู้เข้าว่าถูกเขาจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน เขาโดนเพื่อนเตะแน่
   
“อืม..สบายดีทุกอย่าง” อินทัชลากเก้าอี้มานั่ง ช่วยพนักงานเอาทิชชูใส่ลงในกล่อง ตามด้วยไม้จิ้มฟันแบบซอง “สนล่ะ โอเคดีไหม”
   
“เรื่อยๆ” ปาลินเล่า “ลาออกจากที่นั่นแล้วสบายใจดี ถ้าพี่รู้ว่าเราไม่ได้เป็นแค่คนเสิร์ฟ แต่ถึงกับมานั่งคุยกับแขก..เอ่อ..เป็นพวกเด็กดริ๊งค์น่ะ เขาคงไม่โอเค เพราะงั้นย้ายงานน่ะดีที่สุด”

“ดีแล้ว ถึงเงินจะน้อยกว่าก็ไม่เป็นไร” อินทัชพึมพำ “หากทำต่อไป..มันไม่ดีกับสนหรอก” เขาไม่อยากให้เพื่อนเจอแบบเขา เด็กหนุ่มไม่ได้เล่าว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก่อนหน้า ไม่อยากเล่าว่าช่วงนั้นเขาคิดจะขายบริการเพราะความจำเป็น และเพราะค่านิยมของสิ่งแวดล้อมมันหนุนนำ “โชคดีที่ได้ทำงานกับพี่กุนต์นะ”
   
“แล้วโอ๊ตล่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่กับพี่กุนต์ด้วยใช่ไหม”
   
“อืม..ใช่ เป็นเหมือนคล้ายๆเลขาน่ะ” อินทัชบอก “ดูแลเรื่องส่วนตัวของเขา ถึงพี่กุนต์จะบอกให้คอยจัดตารางงาน ดูเอกสาร รับโทรศัพท์ แต่เอาเข้าจริงเขาก็ทำเองหมด เราดูแลชีวิตประจำวันเขามากกว่า อย่างทำอาหาร ทำความสะอาด จัดเสื้อผ้า..เตือนความจำ เพราะเขาขี้ลืม”
   
ปาลินยิ้มชื่นชมแบบปิดไม่มิด “พี่กุนต์น่ารักเนอะ”
   
“อือ..น่ารัก”
   
“แล้วรักหรือยัง” เขารุกถามเพื่อน
   
อินทัชนิ่งไปนิด จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วเอาทิชชูแผ่นที่ขาดขยำเป็นก้อนกลม ขว้างใส่หัวเพื่อนสนิท “จุ้นจ้านชะมัดเลย”
   
ปาลินหัวเราะ “เขาเป็นคนดีนี่นา ระวังจะถูกแย่งล่ะ”
   
“สนจะแย่งใช่ไหม ถ้าชอบก็ลองจีบดูสิ” อินทัชว่ายิ้มๆ “แต่ไปเพิ่มความสูงหน่อยนะ เอาระดับหัวเลยไหล่พี่กุนต์ เพราะเขาคงไม่รับรักจากเด็กประถม”
   
“อ๊ะ! พูดแบบนี้ด่ากันทางอ้อมนี่หว่า” น่าหงุดหงิดชะมัด เอาไม้จิ้มฟันแทงมันเลย “สูงกว่าแล้วไง เตี้ยกว่าก็มีหัวใจเว้ย!”
   
อินทัชยกแขนหลบเป็นพัลวัน เขาหลุดหัวเราะเต็มที่เมื่อลุกขึ้นยืนแล้วเอามือดันหัวปาลินเอาไว้ไม่ให้โดนประทุษร้ายได้ง่ายนัก ไอ้ตัวเล็กมันขู่แง่งๆใส่เขาเหมือนหมาเข้าไปใหญ่ อย่าได้เผลอล้อเลียนเรื่องส่วนสูงเลยเชียว
   
“ขอโทษๆ ลูกสนน่ารักแล้ว ลูกสนสูงแค่นี้กำลังดี ใครๆก็ชอบ” เขาพูดไปกลั้นขำไป ถูกปาลินเตะวืดไปหนหนึ่ง “ไม่พูดอีกแล้วครับ ฮ่ะๆๆ”
   
อินทัชเกือบลืมแล้วเชียวว่าการได้หัวเราะด้วยความสุขจากการอยู่ใกล้กับปาลินมันเป็นอย่างไร ถึงเขาจะเข้ากับคนอายุมากกว่าได้ดี แต่การได้เพื่อนที่อายุเท่ากัน ได้ทำอะไรที่อยู่ในวัยเดียวกันแบบไม่ต้องเกรงใจนัก มันก็ทำให้ผ่อนคลายและไม่เกร็งมากว่าจะถูกดุถ้าเผลอทำอะไรผิดเข้า
   
“หยุดหัวเราะแล้วขึ้นไปร้องเพลงไป” ปาลินบุ้ยใบ้ให้ดูนาฬิกา “ชิ่วๆ”
   
ร่างสูงหัวเราะหึ ดีดหน้าผากแล้วบีบจมูกเล็กจนขึ้นสีแดงแปร๊ด ปาลินโวยวายแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้ “โอเค..อยากฟังเพลงอะไรล่ะ”
   
“เสียงยังดีเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้”
   
“ดูถูกกันเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย” เขาโยกหัวเพื่อน “เอ้า! บอกมา”
   
“How deep is your love” ปาลินยิ้ม 

“เอาอีกแล้ว ทำอะไรซ้ำซากตลอดนะเรา”
   
“ก็ชอบนี่!” ตอนอยู่ที่ Vin Santo เวลาเขานึกครึ้มก็จะขึ้นไปร้องเพลงโดยมีอินทัชดีดกีต้าร์อยู่ข้างกัน ส่วนใหญ่แล้วเขามักเลือกเพลงที่ต้องมีคนช่วยประสานเสียง เพราะอยู่คนเดียวแล้วประหม่า ดังนั้นเพลงนี้เลยเป็นเพลงโปรด
   
“โอเคๆ” อินทัชขำ “ถ้าร้องเพราะถูกใจต้องเลี้ยงข้าวเรานะ”
   
“ไอ้ขี้งกเอ๊ย” ปาลินพึมพำ “กล้าขอก็กล้าให้!”
   
“งวดหน้าขอพี่กุนต์ร้องเพลงบ้างสิ ที่นี่สบายๆกว่าที่เดิมเยอะ ไม่ต้องเกร็งหรอก” เด็กหนุ่มออกปากชวน ผละไปหยิบกีต้าร์ที่พี่กุนต์เอาใส่รถแบกมาให้ประจำ ตัวนี้พี่กุนต์ซื้อให้ พาเขาไปเลือกเองกับมือ เขาฝึกจนคุ้นและคล่องแล้ว
   
“อืม..จะลองดู” ปาลินครุ่นคิด “ได้ขึ้นเวทีกับโอ๊ตอีก..ดีเหมือนกัน”
   
อินทัชมองสบตาอีกฝ่าย ความอุ่นอวลใจแทรกซึมจนเผลอยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อนสนิทแผ่วเบา “เลิกงานแล้วรอกลับด้วยกันนะ เราจะไปส่งที่บ้าน”
   
“ได้เลย ตั้งใจทำงานนะ เราไปช่วยพี่ๆเขาก่อน” ชูนิ้วโป้งให้กำลังใจ
   
ร่างสูงยิ้มจาง รู้สึกมีความสุขมากกว่าที่เป็น บางครั้งบางคราว คนเราก็โลภมากแบบนี้นี่แหละ อยากมีทั้งคนที่เรารัก..และรักเราอยู่ใกล้กัน
   
แต่เอาเข้าจริง การคว้าอะไรไว้ทั้งสองมือมักทำให้เราสูญเสียฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไป เพราะไม่มีใครที่หาความสุขจากการมีสองใจได้นาน

.

.

.



กนธีมาถึงงานเลี้ยงตอนทุ่มกว่า เจ้าภาพวันเกิดกำลังเฮฮาได้ที่ พอหันมาเจอเขา มันก็ดิ่งเข้ามาลากตัวไปร่วมวง เพราะนานๆทีเขาถึงจะโผล่มาแจมสักหน
   
“คุณชายมาแล้ว~”
   
“เออ..สุขสันต์วันแก่ ไม่มีของขวัญนะ บอกกะทันหันแบบนี้” เขายิ้มขัน ถูกจับนั่งตรงโต๊ะของเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือด้วยกัน
   
“ไอ้เปรตกุนต์ เขาไลน์ทิ้งไว้เป็นชาติแล้ว แม่งเพิ่งมาอ่านน่ะสิ”
   
“ไปถือสาคนรวยมัน วันๆเอาแต่นับทรัพย์ เป็นไงบ้าง รวยขึ้นอีกเท่าไร” ผองเพื่อนเข้ามารุมถามสารทุกข์สุกดิบ “วันนี้กินให้เต็มคราบ ป๋ากุนต์จ่าย!”
   
เสียงปรบมือดังลั่น กนธีเขกกะโหลกเพื่อนเต็มแรง
   
“วันนี้มากินฟรีครับ ตั้งใจจะไม่จ่ายอะไรเลยแม้แต่ของขวัญเพื่อน” เขายักไหล่เมื่อทุกคนโห่ไล่ “เฮ้ย! ใครลากมา บริการเสี่ยที”
   
“ครับๆ บริการมนุษย์ถ้ำหน่อย เดี๋ยวมันน้อยใจแล้วหนีกลับบ้าน”

ชายหนุ่มนั่งขำ วางแขนพาดพนักเก้าอี้แล้วตั้งท่าจะหยิบค็อกเทลดื่ม พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีคนคาดโทษไว้เลยได้แต่อมยิ้ม เปลี่ยนเป็นน้ำอัดลมแทน
   
“อายุเท่าไรแล้ววะเนี่ย” เขาหันไปถามเจ้าของวันเกิด
   
“แหม..ทำเป็นหนุ่มเอ๊าะ ก็สี่สิบเท่ากันทั้งฝูงนี่ละวะ!”
   
เพื่อนๆฮาครืน พวกเขาเรียนด้วยกันทั้งชั้น สนิทกันมากแบบไม่มีใครถือตัว กนธีฟังแล้วได้แต่ยิ้ม อีกไม่นานก็จะถึงคราวเขาแล้วเหมือนกัน
   
“ใครเป็นไงบ้าง อัพเดทที ลุงตามไม่ค่อยจะทัน” เขาชวนคุย
   
แต่ละคนบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง อวดลูกเมียกันเป็นว่าเล่น คนนั้นได้เลื่อนตำแหน่งงาน คนนี้ได้เป็นหัวหน้า บางคนลาออกไปเป็นฟรีแลนซ์ บางคนได้ฤกษ์แต่งงานครั้งที่สอง บางคนก็เพิ่งหย่ากับคู่ชีวิต ที่มีลูกแล้วก็ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกบ้าง กำลังจะจัดงานแต่งให้ลูกบ้าง ตาแก่บางคนก็กลุ้มใจเพราะลูกๆยังหาแฟนไม่ได้ เลยหันมาวางแผนจับคู่ให้ลูกหลานเกี่ยวดองกันเองในหมู่เพื่อน

กนธีได้แต่รับฟัง ยอมรับว่าสาเหตุที่ไม่ค่อยได้มางานเลี้ยงรวมแบบนี้ ก็เพราะมีแต่ตัวเขาที่ยังเป็นโสด ในขณะที่คนอื่นต่างมีลูกเมีย มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์กันไปหมดแล้ว อีกไม่ช้าก็คงได้เป็นปู่ย่าตายายกัน

..ในขณะที่เขายังไม่ลงหลักปักฐานกับใครสักที..

“ฟังแต่เรื่องชาวบ้าน แล้วแกล่ะไอ้กุนต์..” เจ้าภาพยกแก้วเหล้าขึ้นชี้ “เมื่อไรจะเลิกเป็นหนุ่มโสดลอยชาย ไม่คิดแต่งงานกระจายทรัพย์บ้างหรือวะ”

กนธีหัวเราะ “ทำไม? จะยกลูกสาวให้?”

“ถุ้ย! ลูกกูเพิ่งสิบสองขวบ! ไอ้โลลิค่อน!!”

เขาหัวเราะชอบใจ “เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก”

ที่จริง เรื่องที่เขาไม่สนใจผู้หญิงก็เป็นที่สงสัยปนระแคะระคายในกลุ่มเพื่อนอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่มีใครมาเค้นถามเอาคำตอบแบบให้ชัดเจนกันไป และที่สำคัญ ต่อให้เขาสนใจผู้ชาย พวกมันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม

“เอาแบบนี้ดิ” เพื่อนอีกคนพูด “แกอย่าเพิ่งรีบแต่งนะ รอลูกสาวฉันโตอีกสักสิบห้าปี เดี๋ยวจะเค้นคอให้มาสู่ขอ..งานนี้มรดกสิงหนาทจะไปไหนเสีย”

ทุกคนขำก๊าก ตอนนี้เด็กตัวน้อยที่ถูกพูดถึงเพิ่งจะอายุได้สิบขวบเอง

กนธีส่ายหัว “รออีกสิบห้าปี สามีอายุห้าสิบห้า เจริญล่ะพวก”

“เหย..แกออกจะหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว หกสิบก็น่าจะยังไหวอยู่” เพื่อนๆยุส่ง “ไม่งั้นก็ให้เจ้าสาววางยา เอาหมอนกดหน้าผัวแก่ โป้งแปะเอาที่ดินมาเลย”

“ไอ้พวกเปรต” เขาหัวเราะชอบใจ ไม่เคยถือสาพวกมันอยู่แล้ว

“จะว่าไปไอ้กุนต์สมัยเรียนก็เสน่ห์แรงนะมึง” อีกคนพูดขึ้น

“เออ..คนเข้าคิวรอเพียบ แต่แม่งซื่อบื้อไง ไม่ค่อยรู้ตัวว่าใครแอบรัก”

กนธีได้แต่ยิ้ม จะให้ตอบว่า เออ..โทษที คนมันป๊อปก็ใช่เรื่อง อาจจะโดนรุมเตะคนละป๊าบสองป๊าบ ขอหาหมั่นไส้ข้ามชาติ

“แล้วตอนนี้ยังเสน่ห์แรงอยู่ไหมวะ หรือหง่อมแล้ว เรื่องมากเลือกเยอะ เลยแดกแห้ว ไม่มีใครเอา” นี่พูดด้วยความอิจฉาเรื่องในอดีตล้วนๆ

“ก็ไม่ค่อยจะมีใครเอาจริงๆนั่นแหละ” เขาเลื่อนมือหยิบวอดก้าสไปรท์ ขอลองสักหน่อยเถอะ นิดหน่อยคงไม่โดนดี “เพียงแต่ว่าไม่ได้ขาด ถ้าหาก็หาได้”

เพื่อนๆโห่ฮากันรอบวง ก่นด่าว่าไอ้กุนต์น่าหมั่นไส้ที่สุดแล้ว

“ช่วยหาเอาไหม น้องเมียฉันยังโสดนะเว้ย”

“จริงๆคนที่มางานวันนี้ก็เล็งไอ้กุนต์ไว้หลายคนนะ” คนหนึ่งพูดขึ้น “กิ๊กเก่ามันทั้งนั้น แต่ก่อนใครชวนคบ มันปฏิเสธเขาที่ไหนล่ะ ใจดี๊ใจดีเป็นที่หนึ่ง”

กนธีหันมองโต๊ะด้านหลังที่เพื่อนบุ้ยใบ้ไป เขายิ้มรับสาวๆที่พอคุ้นหน้ากันอยู่บ้าง อย่างที่มันพูดนั่นแหละ สมัยนั้นหากใครมาบอกว่าชอบ เขาก็คบด้วย แต่ต้องเรียกว่าคบเหมือนเพื่อนมากกว่า คอยเอาใจและดูแลเท่าที่เขาพร้อมจะทำ และที่แน่นอน คือไม่เคยเกินเลยหรือฉวยโอกาสกับผู้หญิงคนไหน

ส่วนใหญ่เขาจะถูกอีกฝ่ายตีตัวออกห่างก่อน เพราะคบกับเขาแล้ว ถ้าไม่รู้สึกว่าเหมือนได้พี่ชายมาคนหนึ่ง ก็จะคล้ายกับมีเพื่อนที่คอยตามใจเพิ่มอีกคน ไม่ได้เกิดความรู้สึกว่ามีคนรักเป็นของตัวเองเลย เขาเองก็คบไปอย่างนั้น ไม่เคยตอบโจทย์ในชีวิตเหมือนกัน..กระทั่งได้มาเจอกับศรัณย์ 

“เอาล่ะเว้ย งานนี้อาจมีได้เสีย..” พวกมันซุบซิบกันใหญ่เมื่ออดีตแฟนเก่าของกนธีลุกขึ้นมาหา จริงๆเรียกแฟนได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย เรียกว่าน้องสาวที่น่าเอ็นดูกับพี่ชายซื่อบื้อยังเหมาะกว่ามาก

“กุนต์..สบายดีไหม” เธอยิ้มทัก ยกแก้วขึ้นชน “เธอแต่งงานหรือยัง ไม่น่าจะนะ ไม่อย่างนั้นคงได้ข่าวแล้ว”

กนธีหัวเราะเฝื่อน เขาคงบอกไม่ได้ว่าใช้ชีวิตอยู่กับเด็กผู้ชายอีกคน

“ยังเหมือนเดิมน่ะ” เขายิ้ม ลุกขึ้นจากวงเพราะเพื่อนๆทั้งหลายมันตั้งท่าหูผึ่ง อยากจะฟังเสียเหลือเกิน ขี้เกียจจะสนองความสู่รู้ของพวกมัน

“เราก็ยังไม่ได้แต่ง” เธอเล่า “จริงๆต้องบอกว่าเพิ่งจะเลิกกับแฟนมาเมื่อต้นปี..คือผู้ชายมันไม่คลิก ลองใช้ชีวิตด้วยกันแล้วน่าเบื่อสุดๆ”

กนธีมองแก้วเหล้าในมืออีกฝ่าย ท่าทางจะเริ่มเมาแล้ว พอเห็นเธอตั้งท่าจะหยิบออนเดอะร็อคมาดื่ม เขาเลยยกมือกันไว้และยัดน้ำส้มให้แทน

“เอาอีกแล้ว ทำเหมือนเราเป็นน้องสาว” เธอพึมพำ “ทั้งที่ถ้าได้เป็นแฟนน่าจะดีกว่าแท้ๆเลย ตาบ้านี่! เรามันไม่ถูกสเปคเธอสินะ”

“ถ้าพูดถึงตอนนั้น ไม่ใช่ว่าไม่ถูกสเปคสักหน่อย” เขาโคลงหัว เดินนำไปที่สวนหลังบ้าน “อีกอย่าง..การดูแลและเป็นห่วง มันก็คือการกระทำที่บอกว่ามีความรู้สึกดีๆให้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ”

“ทำไมเพิ่งมาบอก” เธองอแง “ก็..ตอนนั้นน่ะ กุนต์ไม่เคยบอกชอบเราเลย ไม่เห็นหวง ไม่เห็นหึงเราด้วย ขนาดมีคนอื่นมาชอบเรา กุนต์ก็ไม่เห็นมีท่าทีอะไร คนซื่อบื้อ! เรายั่วเธอตั้งบ่อย เอาแต่ยิ้มอยู่ได้ ตอนเราประชดจะไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น กุนต์ก็บอกแค่ว่าระวังตัวด้วย อย่าแต่งโป๊ อย่าดื่มเหล้า จบ! แค่นั้น! ทำไมไม่ทำแบบที่คนมีแฟนเขาทำกันล่ะ ห้ามบ้าง ดุบ้าง กำกับเราบ้างก็ได้” 

กนธีรู้สึกผิดขึ้นมาเพราะเขาก็เป็นแบบที่เธอบอกจริงๆ “ขอโทษนะ”

“ไม่ยกโทษให้!” เธอเบะปาก หูตาแดงก่ำ

“อย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวตาช้ำหมด” ชายหนุ่มเอื้อมไปแตะพวงแก้มขาว แค่นั้นก็ทำเอาคนตรงข้ามน้ำตาร่วงเผาะ โผเข้ากอดเขาทั้งตัว “นี่..โตๆกันแล้ว ต้องหัดตีความคำว่ารักใหม่ได้แล้วนะ”

“อะไรเล่า! ทำเป็นคนแก่ มาสั่งสอนกันอยู่ได้..ฮืออ”

กนธียิ้มบาง เขายืนพิงต้นไม้ ปล่อยให้สาวเจ้าซบหน้ากับอกเสื้อแล้วปล่อยน้ำตาเปียกชุ่มไปหมด ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบศีรษะเธอเป็นการปลอบ

“ก็แก่กันทั้งคู่นั่นแหละ รั้นไประวังจะโสดตลอดชีวิตนะ โอ๊ย..”

เธอกัดแขนเขาเต็มเหนี่ยว ส่วนกนธีก็เอาแต่หัวเราะชอบใจอย่างเคย

“ความรักไม่ใช่การที่เขาต้องได้ดั่งใจเราทุกเรื่องหรอกนะ..แต่มันคือการที่เรารักแล้วพร้อมที่จะเข้าหากันคนละครึ่งทาง พร้อมเข้าใจ รับได้ทั้งข้อดีข้อเสีย รักแล้วไม่ต้องตัวติดกัน ไม่ต้องมีแต่ความสุขก็ได้ ทุกข์บ้าง ระแวงบ้าง กังวลบ้าง ร้องไห้บ้าง ทะเลาะกันเป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายเราก็ยังกลับมาหากัน คบกันและเข้าใจกันมากกว่าเดิม..นั่นแหละความรักแบบผู้ใหญ่”

กว่าเขาจะคิดได้ เขาก็เสียศรัณย์ไปแล้ว เพราะอย่างนั้น เขาถึงไม่อยากให้คนอื่นเสียใจเหมือนกัน

กนธีเช็ดน้ำตาให้เพื่อน พูดอย่างอ่อนโยน

“แต่ถ้าเธอให้ความรักใครไปแล้วเขาไม่เห็นค่า เธอก็เดินออกมา อย่ามัวเสียเวลา อย่าหลอกตัวเองไปวันๆ ให้โอกาสชีวิตได้เจอคนใหม่ แค่นั้นก็พอ”

หญิงสาวเช็ดน้ำตา “เราต้องกลับไปง้อแฟนไหมเนี่ย..รู้ไหมว่าคนนี้น่ะ ไทป์เดียวกับกุนต์เลย เราถึงหงุดหงิดแล้วก็กลัวไงล่ะ”

“แล้วกัน” กนธีขบขัน “ขอโทษที่ทำให้กลัวผู้ชายแบบนี้นะ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้เป็นแฟนกันแล้วจะไม่ผิดหวัง” เขายักคิ้วให้ โฆษณาชวนเชื่อไปหน่อย

“ย่ะ!” เธอหัวเราะทั้งน้ำตา ฉุดมือคนตรงข้ามกลับเข้าไปในงาน “ไปดื่มเป็นเพื่อนหน่อย ไม่เมาไม่เลิก! เย้~”

เขาตามอารมณ์สาวๆไม่ทันเลย เมื่อครู่ยังร้องไห้ แวบเดียวไม่พูดพร่ำทำเพลง ชวนมาดื่มกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เฮ้..เป็นผู้หญิงประสาอะไร ดื่มเบาๆหน่อย เมาแล้วใครจะมารับเนี่ย”

“ให้เธอไปส่งไงล่ะ ทำหน้าที่อดีตกิ๊กที่น่ารักเป็นหนสุดท้ายก่อนเราจะแต่งงานซะ! เราแต่งแล้วหมดโอกาสนะ” เธอขำคิก ดื่มจนหมดแก้วแล้วเซถอย

กนธีรีบเข้าไปประคอง รู้ว่าห้ามไม่ได้เลยได้แต่ยืนเป็นเพื่อน สุดท้ายคนที่หวังดีอย่างเขาก็ได้รับผลตอบแทนอย่างงาม คือถูกแฟนเก่าอาเจียนใส่จนเลอะเทอะไปทั้งตัว แถมคนก่อเหตุก็เมาฟุบ หลับคอพับคออ่อนคาโต๊ะไปเรียบร้อย

“รีเทิร์นไหมวะเนี่ย” แก๊งเพื่อนของเขาส่ายหัวก่อนมองร่องรอยบนเสื้อ

“ดูไม่จืด” ใครคนหนึ่งแซว พวกที่เหลือเลยรับส่งกัน

“สมน้ำหน้า อยากหล่อดีนัก”

กนธียิ้มขัน ถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เชิ้ตตัวใน งานเลี้ยงมีคนทยอยกลับบ้างแล้ว เขาเลยช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มแล้วพาเข้าไปพักในห้องรับแขก   

“เอาไงดีวะ ให้นอนบ้านนี้ เมียกูเอาตายแหง” เจ้าภาพก็เริ่มเมาจนจะกลิ้งเหมือนกัน “ฝากไปค้างที่คอนโดได้ไหมวะไอ้กุนต์ ยังไงก็แฟนเก่ากัน”

“เก่าก็คือเก่าสิวะ ปัจจุบันไม่ใช่สักหน่อย” กนธีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดคราบอาเจียนให้เธอ “แถมอีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิง จะทำแมนแค่ไหนก็เสียหายได้นะ”

“โอย..ไอ้ห่า ไอ้พ่อพระ” เขาเกาท้องแกรกๆ 

“ฝากนอนกับลูกสาวได้ไหมล่ะ คุณภรรยาคงไม่ระแวงหรอกมั้ง เดี๋ยวคุยให้ก็ได้” กนธีเช็ดตัวเฉพาะข้างนอกให้จนสะอาด “แล้วตอนเช้าค่อยโทรหาที่บ้านเธอ ถ้าไม่มีคนมารับก็บอก จะขับมารับแล้วไปส่งให้เอง”

“ครับๆ แม่ง..มีผัวแบบนี้ใจดีที่หนึ่ง ชักอยากได้มึงเป็นผัวบ้างแล้วสิ”

“เมาแล้วก็ไปนอนไป” เขาหัวเราะ “เดี๋ยวขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ” โชคดีที่หลังรถมีกระเป๋ากีฬาอยู่ ในนั้นมีพวกเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นติดไว้ เขาอาบน้ำให้เสร็จแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่ก็เรียบร้อย

เจ้าของบ้านโบกมือยิกๆ จากนั้นก็เดินเซกลับไปดื่มกันต่อ

กนธีจัดการสภาพตัวเองใหม่แล้วไปเคาะห้องคุยกับเมียเพื่อน เธอตกลงด้วยความยินดี เขาเลยอุ้มคนเมาไม่รู้เรื่องไปนอนกับเด็กสาวตัวน้อย

เด็กหญิงที่เข้านอนแต่หัวค่ำงัวเงียตื่น ตากลมป๊องจ้องผู้ชายตรงหน้า 

“ใครคะ..เทวดาเหรอ..” ขยี้ตายิกๆ “เทวดาล้อหล่อ”

“ขอโทษที่ทำให้ตื่นครับ” เขายิ้มเอ็นดู “อามาขอรบกวนฝากเพื่อนไว้หน่อยนะคนดี” เรื่องอะไรจะทำตัวแก่กว่าไอ้เพื่อนเวรล่ะ “แล้วก็เป็นผู้หญิง อย่ากินเหล้าจนเมาแบบนี้ล่ะ มันอันตราย” ได้ทีเลยสอนเด็กเข้าเสียเลย

“ได้ค่ะคุณอาเทวดา” หนูน้อยพยักหน้ารับแล้วตาปรือลงอีกรอบ

กนธีนึกขำ ดีจริงๆ..วันนี้ได้เป็นเทวดาสุดหล่อ

แม่ของเด็กยืนอยู่หน้าประตู เธอยิ้มรับคนที่ออกมาจากห้อง เขาขอฝากเพื่อนไว้อีกครั้งแล้วบอกว่าถ้าไม่มีคนมารับ ให้โทรตามเขาได้เลย

“ขอตัวกลับก่อนนะครับ” เขาบอกอีกฝ่าย

“คุณกุนต์..” เธอเรียกเอาไว้ ชายหนุ่มเลยหันมามอง “ถ้ายังโสด รอให้น้องอายุสักยี่สิบกว่า จะไปขอมาเป็นลูกเขยนะคะ”

กนธีหัวเราะเบาๆ รีบออกจากบ้านของเพื่อนแทบไม่ทัน

.

.

.



อินทัชนั่งอยู่หน้าทีวี กดเปลี่ยนช่องไปมาตั้งแต่กลับถึงห้องกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน คนที่น่าจะกลับมาได้แล้วก็ยังไม่โผล่
   
ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดออกแผ่วเบา เขาเลยเดินไปรับ พี่กุนต์ยิ้มให้เมื่อเจอหน้า   

“อ้าว..นึกว่านอนไปแล้ว ยังนั่งรออยู่หรือ” กนธีถอดรองเท้าออก เดินผ่านหน้า “ไปนอนเถอะ พี่ก็จะนอนเหมือนกัน ง่วงชะมัด”

อินทัชไม่ตอบคำถาม เขาไล่สายตามองตามอีกฝ่าย “ทำไมใส่ชุดนี้ล่ะครับ” จำได้ว่าขาไปมันคนละตัวกัน แล้วมีเหตุอะไรให้ต้องใส่ชุดใหม่ล่ะ

กนธีงุนงง พอก้มลงมองตัวเองก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้ใส่ตัวเดิม

“อ้อ..คือ..” ยังไม่ทันได้เล่า อินทัชก็คว้าแขนเขาเข้าไปหาก่อน ปลายจมูกโด่งโน้มลงสำรวจแถวซอกคอ “เดี๋ยว..โอ๊ต..”
   
“กลิ่นสบู่?” เด็กหนุ่มหรี่ตามอง คิ้วขมวดทันควัน “ไปอาบน้ำที่ไหนมาครับ เสื้อผ้าก็คนละชุด สรุปว่ายังไง ไหนบอกไปงานเลี้ยง”
   
กนธีส่ายหัว มันถามเหมือนเป็นพ่อเขาเลย เห็นแล้วชวนมันเขี้ยวปนน่าแกล้งอย่างไรพิกล “ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่ไม่มีกลิ่นเหล้าก็พอแล้วนี่”
   
“ใช่ครับ ไม่มีกลิ่นเหล้า แต่นี่เหนือความคาดหมายมาก..มีกลิ่นสบู่” เขามองหน้า “ผมจำได้ว่ามันไม่ใช่กลิ่นเดียวกับที่พวกเราใช้ด้วยกัน”

..โอ้โห..ไอ้เด็กคนนี้มันพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว..

กนธีเกาหัวแกรก “พอดีว่าเพื่อนพี่ดื่มจนเมาแล้วอ้วกใส่น่ะ พี่ก็เลยขอใช้ห้องน้ำแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อใหม่ซะเลย แค่นี้แหละ..ไม่มีอะไรหรอก”
   
อินทัชไม่ได้โต้ตอบ เขาเพียงแต่มองนิ่งๆ
   
“โอเคแล้วนะ พี่ง่วง จะไปแปรงฟันแล้วนอน” กินน้ำอัดลมมาเนี่ย ไม่รู้ฟันจะผุไหม อีกอย่าง..จะกลบเกลื่อนหลักฐานวอดก้าสไปรท์สองสามแก้วด้วย
   
ร่างสูงยอมปล่อยแขนอีกฝ่าย พอเจ้าตัวยังไม่ทันก้าวเดิน อุ้งมือใหญ่ก็คว้าเข้าที่เอวแล้วลากตัวมาปะทะกับแผ่นอก เขาจับใบหน้าได้รูป ก้มลงฉกปากจูบแล้วสอดลิ้นเข้าไปพิสูจน์สมมติฐาน
   
กนธีได้แต่นิ่งอึ้ง ปล่อยให้เด็กมันลามปามจนพอใจ พออินทัชถอนจูบออกมา หมอนั่นก็เลียปากตัวเองแล้วพึมพำ
   
“วอดก้าสไปรท์” นัยน์ตาสีเข้มจ้องมอง “ไหนบอกจะไม่ดื่มไงครับ”
   
เขาอ้าปากค้าง เชื่อมันเลย ไอ้เด็กเปรต!
   
“แค่..แค่ค็อกเทลเอง ไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อย”
   
“วอดก้านี่ไม่ใช่เหล้าหรือครับ?”
   
กนธีเถียงไม่ออก ถึงจะแย้งว่าสไปรท์เป็นน้ำอัดลมก็เถอะ
   
อินทัชหัวเราะหึ เดินรุกเข้าหาแล้วสอดปลายนิ้วเข้ากุมต้นคอพี่กุนต์ก่อนดึงรั้งเข้าหาตัว แขนอีกข้างโอบรัดช่วงสะโพกใต้กางเกงกีฬา
   
“ถุงยางหมดแล้ว..ทำไงดีนะ” มันเป็นคำถามกำกวมระหว่าง จะให้ทำแบบไม่ใส่ถุงยาง หรือจะไม่ทำเพราะไม่มีถุงยางให้ใส่
   
คนฟังรีบบอก “พี่ยังมี” และนั่นก็คือคำอนุญาตกลายๆ
   
“มีพอจนถึงพรุ่งนี้เช้าไหมครับ”
   
กนธีถูกจูบจนเลิกต่อต้านไปเอง “พอครับ..”
   
อินทัชเลยจูงมืออีกฝ่ายเข้าห้องนอน ตามด้วยการปิดประตูแน่นหนา
   



................................................................................................






CUT SCENE บ้างอะไรบ้างเนอะ 555555555+  :oo1:

ในทวิต เค้าใช้แท็กนี้น้า #sinsgreed

/คนแก่เล่นแท็กเป็นล้าวววว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2016 23:45:24 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2132 เมื่อ03-11-2016 00:00:32 »

ขอบคุณค่ะ  พี่กุณเสน่ห์แรงมาก

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2133 เมื่อ03-11-2016 00:15:55 »

 เริ่มแล้ววว รักสามเส้าที่รอคอย 5555
โอ๊ตจะทำอะไร  คิดถึงใจพี่กุนต์บ้างนะ
จับปลาสองมือ สุดท้ายระวังจะไม่เหลืออะไรเลย 
 

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2134 เมื่อ03-11-2016 00:18:17 »

ร้ายขึ้นทุกวันนะโอ๊ต พี่กุนต์นี่แก้ตัวไม่ทันนางจับพิสูจน์กลิ่นเรียบร้อย ร้ายจริงๆ ไม่คิดว่าพี่เขาจะเหน็ดจะเหนื่อย
ส่วนพี่กุนต์ก็มีถุงพอยันเช้า โอ้ยยยยย ความผัวเมีย สรุปพอกันค่ะ ภาพซูมไปที่โคมไฟหัวเตียง
เสน่ห์แรงขนาดแม่เด็กยังทาบทามไว้เป็นลูกเขยอ่ะคิดดู น่ารักแล้วรักไหมล่ะโอ๊ต ให้รีบบบบ
คิดจะจับปลาสองมือเดี๋ยวจะจับเชือดให้ พี่กุนต์ฉลาดจะตาย เดี๋ยวจะมาเสียใจทีหลังนะโอ๊ต

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2135 เมื่อ03-11-2016 00:18:58 »

 :-[

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2136 เมื่อ03-11-2016 00:28:28 »

โอ๊ตหึงขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกกกกกกก

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2137 เมื่อ03-11-2016 00:42:20 »

พอปาลินมาอยู่ใกล้ๆ กลัวใจโอ๊ตจริงๆ ต้องทำให้พี่กุนต์เสียใจแน่ๆ ขอเตรียมผ้าเช็ดหน้ารอ ฮือออออ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2138 เมื่อ03-11-2016 00:55:11 »

พี่กุนต์คนแมนอีกแล้ว ใจดีกับทุ้กกกคน

อิโอ๊ตนี่ยังไง เซงมัน หัวเราะกับอีกคน แต่มี...กับอีกคน เหนื่อยใจกับคู่นี้จริงๆ  :katai1:

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2139 เมื่อ03-11-2016 01:00:48 »

รอดูคับว่าใครจะฟ้าเหลืองก่อนกัน   :laugh:  :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
« ตอบ #2139 เมื่อ: 03-11-2016 01:00:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2140 เมื่อ03-11-2016 01:24:28 »

เดี๋ยวถ้าพี่กุนต์ถอดเสื้อแล้วโอ๊ตจะเห็นรอยกัดที่เพื่อนสาวฝากไว้ให้รึเปล่านะ :z1:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2141 เมื่อ03-11-2016 01:35:50 »

อินทัชมีหวง

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2142 เมื่อ03-11-2016 01:58:16 »

เอะอะจับกดๆ ทำเป็นชวนทะเลาะเพราะหวังจะไม่ใช้ถุงยางอะดิ โด่ววววว 55555 >//< //แต่มันคือหวงก้างอยู่ไง ต่างตอนอยู่กับปาลินมันคือความสุขความโล่งปลอดโปร่งแจ่มใสหายใจเต็มปอดเฟรชช!!! ก็อย่างว่าล่ะวัยเดียวกันแล้วยังเป็นคนที่ชอบด้วยปล่อยความรู้สึกเต็มที่เลย เสียดายพี่กุนต์น่าจะลืมของแล้วย้อนกลับมาเอา ล่ะเจอฉากนี้โอ๊ตสนหยอกกัน ใบหน้าของโอ๊ตยามนั้น ที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนักหรือไม่เคยเห็นเลยว่ะ 555 หึหึ! (ชอบจั๊งชงให้ผิดใจกันเนี้ย บ้าป่ะกรู 5555) //ส่วนพี่กุนต์ก็แบบเปย์ไง เลยรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยมีคนเตือนแนะนำเหมือนมีพี่ชายว่างั้นต่างกันที่มีไรกันได้ด้วย หึหึ!! 555555 //พี่กุนต์ชอบโอ๊ตโอ๊ตชอบปาลิน ปาลินเชียร์โอ๊ตกุนต์  พี่กุนต์(จะ)รู้ว่าโอ๊ตชอบปาลิน มีคนมาจีบพี่กุนต์ โอ๊ตหวง เอาไงดี หวงของหรือหวงรัก ห่างกันสักพักจะรู้ใจ เบ้ยยยย 555555555555 //ละถ้าที่ขาดไม่ได้อยู่ไม่ได้มันเพราะรักหรือเพราะเซ็กส์ แล้วเพราะมันคือความเคยชินเป็นหน้าที่หรือป่าว เอาจริงๆนะโอ๊ต เอาที่ใจ อยู่ไปแบบนี้อึดอัดแทน อิอิ **เริ่มพูดไม่รู้เรื่องว่ะ งงๆ** 555555 //รอๆรอความแตก 55555 ให้รู้สึกว่าโอ๊ตรักพี่กุนต์ก่อนค่อยเชียร์ ตอนนี้หมั่นไส้ความหน้าระรื่นเจอคนที่ชอบ 55555555

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2143 เมื่อ03-11-2016 02:19:32 »

คุณเทวดาาาาาาา เอ็นดูววววววว :mew1:

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2144 เมื่อ03-11-2016 03:12:44 »

โอ๊ยยยยย ดีใจก็ดีใจที่อัพ แต่ก็เสียใจที่เข้ามาอ่านแล้วค้าง ใจอยากจะรอให้จบก่อนแล้วค่อยมาอ่านเสียทีเดียวแต่ก็ทำไม่ได้อีก ย๊ากกกกกกกกกกกกก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2145 เมื่อ03-11-2016 03:13:18 »

โอยเขินนน -///-
แต่มีแววส่อเค้ามาม่าาา
ปาลินน่ารักดีอ่ะ คนที่สมควรจะโดนด่าคือโอ๊ตคนเดียวเลย 5555555
พี่กุนต์นี่เสน่ห์แรงจริงๆ ชอบบบ

ออฟไลน์ Khan_htt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2146 เมื่อ03-11-2016 03:34:51 »

เมื่อไหร่โออ๊ตจะรักพี่กุนต์จริงๆจังๆสักที นี่สงสารพี่กุนต์จะตายแล้ว
ไม่อยากจะคิดว่าถ้าคุณผไทกลับมาต้องบอกพี่กุนต์แน่ๆเรื่องโอ๊ตกับลูกสน ต้องเสียมๆอนาๆ

ปล.ดราม่าจะไม่มี? หนือไม่แรงใช่ไหม กลัวใจจจ :ling1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2147 เมื่อ03-11-2016 05:40:43 »

 :mew1:สศช

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2148 เมื่อ03-11-2016 06:34:55 »

เราแก้เกมด้วยกาให้ปาลินชอบพี่กุนต์พี่กุนต์เอ็นดูปาลินแล้วเขาก็คบกันเองดีกว่าค่ะ เมินอิโอ๊ตไป

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2149 เมื่อ03-11-2016 06:48:46 »

อยากให้มีคนมารุมชอบพี่กุนเยอะๆ เอาให้หึงตายไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
« ตอบ #2149 เมื่อ: 03-11-2016 06:48:46 »





ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2150 เมื่อ03-11-2016 06:49:08 »

พี่กุนต์ดีจังงงงง ฮือๆ อยากแย่งอิโอ๊ต 55555

ไม่อยากให้ใครเจ็บปวดเลยจริงๆ

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2151 เมื่อ03-11-2016 07:06:05 »

โอ้ยยยยยยย 2 ตอน 2 วัน ดีต่อใจจริงๆ

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2152 เมื่อ03-11-2016 07:07:22 »

จะหวานได้ซักกี่ตอนนะ เอิ๊กๆ ปฐมบทของรักสามเศร้ากำลังมา เอ๊ะ หรือ สี่ ห้า เศร้า รวม ไววิทย์ กับ ผไท ไปด้วย
ไม่ต้องแย่งกันเข้ามาทีละคน 55555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2153 เมื่อ03-11-2016 07:29:31 »

จมูกดีเกินไปแล้ววว หมาโอ้ต!! 5555

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2154 เมื่อ03-11-2016 07:35:16 »

คล้ายจะราบรื่น แต่ก็เหมือนหมอกควันกำลังสะสม

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.69 -- 1/11/59
«ตอบ #2155 เมื่อ03-11-2016 09:44:46 »

แอบสงสัยว่าอินทัช ตอนนี้รักหรือแค่หวงพี่กุนต์ ส่วนปาลินนี่น่าจะมาเป็นตัวแปรหลักไปทางใดทางหนึ่ง

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2156 เมื่อ03-11-2016 09:48:52 »

แหม่ โอ๊ตนี่แค่นิดหน่อยก็เอา ฉลาดนะเนี่ย
พี่กุนต์สเน่ห์แรงเกิน  :katai3:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2157 เมื่อ03-11-2016 09:49:30 »

โอ๊ตจ๋าาา รีบๆรู้ใจตัวเองได้แล้วน้าาา สงสารพี่กุนต์ TT

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2158 เมื่อ03-11-2016 10:26:55 »

ว๊ายยยเรารู้นะพี่กุนต๋ตั้งใจดื่มมาล่ะสิ :-[

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.31] pg.72 -- 2/11/59
«ตอบ #2159 เมื่อ03-11-2016 10:28:26 »

หวงทำไมไม่ได้รักพี่กุนต์ซักหน่อย
บู่วววว
 :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด