ตอนที่ 44“คุณลิน ทำไมหน้าร้านตั้งป้าย close for private party ล่ะครับ”
ผมเดินเข้าร้านไปแบบงงๆ ก็คุณวีร์ไม่เห็นบอกอะไร พูดเหมือนแวะมาทานข้าวเย็นกันตามปกติ
“ทำไมต้องตั้งป้าย ก็เพราะมันมีปาร์ตี้ส่วนตัวน่ะสิ ง่ายๆ ไม่รู้เหรอ”
(*゜~`*)。
ผมไม่ถามก็ได้ครับ ถ้าคุณลินอยากบอกคงบอกไปแล้ว ถ้าไม่อยาก ถามให้ตายก็ไม่ยอมพูด
เอ๊ะ!!
หรือว่าคุณวีร์จะจัดปาร์ตี้เซอร์ไพรส์ผม ( > <)
ผมรีบยกมือป้อมๆ ของตัวเองขึ้นมา
วันเกิด ไม่ใช่
วันครบรอบ ไม่ใช่
วันวาเลนไทน์ ไม่ใช่
วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันตรุษจีน วันลอยกระทง ไม่ใช่
อ้าว มันก็ไม่มีอะไรพิเศษเสียหน่อย
หรือ!!
คุณวีร์จะขอพี่ปุ่นแต่งงาน >///<
“โป๊ก”
เสียงผมเขกหัวตัวเอง
มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมกับคุณวีร์เคยคุยกันแล้วว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้
เราไม่ได้ป่าวประกาศแต่สัญญากันว่าเราจะไม่ปิดบัง เราจะเป็นของเราแบบนี้ รักกันในแบบที่เรารักกัน
ซึ่งทำให้....
พี่ปุ่นจ๋อย o(╥﹏╥)o
ผู้ชายก็อยากได้เซอร์ไพร์สนะเฟ้ย ไม่ใช่แค่ผู้หญิง
แง่ง พี่ปุ่นจะเอาเซอร์ไพรส์
“พี่ปุ่น” เสียง(ว่าที่)พี่สะใภ้ผมเข้ามาพร้อมกับพี่ชายสุดที่รัก
“น้องริว มาก็ดีเลย” ผมรีบเข้าไปลากน้องริวออกมายืนกันสองคน
“วันนี้มีอะไรน้องริวรู้หรือเปล่าครับ”
“วันนี้?”
“ก็ที่ปิดร้านนี่ไงครับ”
“อ๋อ พี่ลินชวนสังสรรค์ โทรไปชวนมาครบเลย เดี๋ยวพี่เรย์ก็จะตามมา แล้วพี่วีร์ล่ะพี่ปุ่น”
“เดี๋ยวมาครับ แวะมาส่งพี่ก่อนแล้วออกไปกับคุณซันต่อ เห็นว่าจะไปซื้อของให้คุณลิน”
“อ๋อ งั้นไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่าพี่ปุ่น สงสัยอีกนานอย่างน้อยก็เป็นชั่วโมงมั้ง”
“ครับ”
“สวัสดีครับคุณมนัส” ผมรีบเดินไปต้อนรับคนที่เปิดประตูร้านเข้ามา คุณมนัสเป็นทนายอาวุโสของบริษัท คอยดูแลเรื่อง
ทางกฎหมายถือว่าเป็นมือหนึ่งเลยก็ว่าได้
“คุณวีร์ยังไม่มาหรือ”
“กำลังจะมาครับ เมื่อกี้โทรมาบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว บอกผมว่าถ้าคุณมนัสมาถึงให้รอก่อน”
“อืม”
“เชิญทางนี้เลยครับ” ผมเดินนำไปที่โต๊ะ เรียกพนักงานให้ยกน้ำมาให้ เห็นคุณมนัสหยิบเอกสารมาวางบนโต๊ะ
“คุณมนัสเอาเอกสารมาให้คุณวีร์เซ็นต์เหรอครับ”
“ใช่ เอกสารสำคัญ เดี๋ยวต้องนั่งคุยรายละเอียดกันด้วย”
“งั้นผมไม่กวนครับ เชิญคุณมนัสตามสบาย” ผมขอตัวออกมา คุณมนัสเริ่มหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน
คงเตรียมความพร้อมก่อนคุณวีร์มา
“คุณมนัสมาแล้วเหรอ”
“ครับ” คุณวีร์โทรเรียกให้ผมออกไปช่วยขนของ
“คนอื่นๆ มากันครบหรือยัง”
“ครบแล้วครับ”
“อืม เข้าร้านกันเถอะ” ผมช่วยหยิบของเดินตามคุณวีร์กับคุณซันเข้าไป
“ปุ่นมานี่หน่อย” คุณวีร์เรียกผม หลังจากนั่งลงดูเอกสารที่คุณมนัสเอามาให้อยู่สักพักใหญ่
“ครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ คุณรองประธาน
“ลิน” คุณวีร์หันไปเรียกคุณลิน ผมเห็นคุณวีร์พยักหน้าหนึ่งที สักพักคุณลินก็ต้อนคนอื่นๆ มานั่งด้วยเต็มโต๊ะ
“นี่ครับคุณปุ่น รบกวนช่วยอ่านเอกสารด้วย” คุณมนัสยื่นเอกสารมาให้ผม มันมีกระดาษอยู่ 2-3 แผ่น
ผมมองหน้าคุณวีร์งงๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้อ่าน ผมเลยก้มหน้าลงไปสนใจกระดาษที่ถืออยู่
สามบรรทัดแรกผมยังงงๆ ว่าคืออะไร มันเหมือนหนังสือสัญญาทั่วไป ที่ขึ้นต้นด้วย ข้าพเจ้านายนั่นนายนี่
อายุเท่าไหร่ บัตรประชาชนอะไร พำนักอยู่ที่ไหน บลาๆ
อ่านไปเรื่อยๆ ทำไมคู่สัญญาเป็นชื่อผม
อ่านไปอีกหน่อย
หา!! <(“”"O”"”)>
อ่านลงไปอีก
เฮ้ย!! ( ° △ °|||)︴
“ค..คุณวีร์”
“เซ็นเร็ว” คุณวีร์ยัดปากกาเข้าใส่มือผม
“แต่..แต่นี่มัน” ผมเลิกลั่กมองคนโน้นคนนี้
“ปั้นได้อ่านสำเนาคร่าวๆ แล้ว รับทราบเรียบร้อย ไม่ต้องหันไปมอง”
“คุณวีร์จะบ้าเหรอครับ”
“อะไรคือบ้า นี่มันทะเบียนสมรสของเราเชียวนะ”
“มันใช่ที่ไหนเล่า” ○( ̄﹏ ̄”)○
ผมล่ะเกลียดที่คุณรองประธานแกล้งทำหน้าตาย อยากจะกระโดดถีบด้วยความหมั่นไส้
ก็เนื้อหาในเอกสารที่ถืออยู่นี่สิครับ มันโครตจะสุดยอด ไม่รู้ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน
มันระบุไว้ว่า ถ้าผมหรือคุณวีร์ที่เป็นคู่สัญญา ผิดต่อเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ คุณวีร์จะต้องยกสินทรัพย์ที่เป็นชื่อของ
ตนเองให้ผมกึ่งหนึ่ง และหากผมผิดสัญญาต้องชำระเงินให้แก่คุณวีร์ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท
ส่วนเงื่อนไขที่ว่า ก็คือสิ่งที่ผมกับคุณวีร์เคยคุยกันไว้เรื่องการใช้ชีวิตร่วมกันของเรา ผมไม่รู้ว่าไอ้แบบนี้มันมี
ผลตามกฎหมายได้จริงหรือเปล่า แต่ข้อความมันซับซ้อน ไม่ได้เขียนตรงๆ เหมือนที่คุยกัน มันถูกเขียนด้วยภาษากฎหมาย
เช่น เรื่องการย้ายออกจากเคหะสถานโดยไม่ได้รับความยินยอม อะไรแบบนั้น
แล้วผมจะไปเอาสามสิบล้านมาจากไหนนนนนนนน
“แต่งงานกันนะปุ่น”
คุณวีร์เอามือมาวางทับมือผมที่ถือเอกสารอยู่ ส่งสายตาหวานมาให้
ท่ามกลางคุณทนายหน้าดุ คุณลินที่กำลังสนุกเหมือนดูละคร พี่ปั้นที่ทำหน้าเอือม คุณซันผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เรย์ น้องริวที่หน้าตาอยากรู้อยากเห็นจนปิดไม่มิด
มันโรแมนติกมากครับ ( ̄﹏ ̄”)
“ว่าไงครับ ตกลงไหม”
ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากพยักหน้ารัวๆ อ๊ากกกก ถึงไม่โรแมนติกแต่พี่ปุ่นก็เขินเว้ย >///<
คุณวีร์ดึงกระดาษในมือผมไปเซ็นต์ก่อนเป็นคนแรก ก่อนส่งมาให้ผมอีกครั้ง ผมจรดปากกาลงช้าๆ
ใจเต็นแรงราวกับกำลังจดทะเบียนสมรสจริงๆ ท่ามกลางนายทะเบียนและพยานพร้อมหน้า
“รบกวนเซ็นต์เป็นพยานให้ด้วยครับ” คุณมนัสยื่นเอกสารให้คุณลินเซ็นต์ต่อด้วยพี่ปั้นและน้องเรย์
“อีกชุดครับ” คุณมนัสส่งเอกสารอีกชุดที่ข้อความเหมือนกันทุกอย่างมาให้ เราเซ็นต์กันเหมือนเดิมจนครบทุกคน
“เรียบร้อยแล้วครับ นี่ครับคุณวีร์เก็บไว้ชุดนึง คุณปุ่นเก็บไว้ชุดนึง” คุณมนัสยื่นเอกสารให้ผมกับคุณวีร์คนละชุด
“เอ่อ..ผมก็ไม่เคยพูดแบบนี้ แต่ก็..ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” คุณมนัสยื่นมือให้คุณวีร์ ก่อนหันมาจับกับผมบ้าง
“ขอบคุณนะคุณมนัส ขอโทษที่รบกวนนอกเวลางาน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ”
คุณวีร์ลุกไปส่งคุณมนัสที่หน้าร้าน ผมรีบหันขวับมามองคุณลินที่เอาแต่ยิ้มหัว ตาอย่างกับเต้นระบำได้
“คุณลิน!!”
“อย่ามามอง เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยว วีร์มันร้ายของมันเอง ปุ่นไม่รู้เลยเหรอว่าแฟนนายมันร้ายกว่าฉัน”
“อะไรอะพี่ปุ่น ริวขอดูหน่อย” คุณริวดึงเอกสารไปอ่าน
“โอ้ พี่วีร์สุดยอดไปเลย” น้องริวอ่านเอกสารจบถึงกับตาลุก
“หมีๆ เขาจะเอาอย่างนี้บ้าง” มือเรียวบางเขย่าแขนคนตัวโตกว่าที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ได้ คืนนี้ก็ฝันเอาแรด จะเซ็นต์ซ้ำกี่ครั้งก็ตามสบาย”
“หมียักษ์!!”
“ปะซัน” คุณลินหันไปเรียกคุณซันเหมือนจะชวนไปไหน
“ไปไหนลิน”
“ไปจดทะเบียนสมรสโชว์ คนอิจฉาถ้าจะเยอะ”
“โอ้ พี่ลินเล่นแรง ฮ่าๆๆ” เรย์หัวเราะขำจนท้องแข็ง มีน้องริวค้อนตากลับ สงสัยจะอิจฉาจริงๆ
“ไปสิ” คุณซันดันลุกขึ้นยืนจริง แถมจับมือคุณลินดึงขึ้น
“บ้า เย็นป่านนี้จะมีที่ไหนให้จด ลินพูดเล่น”
“ไม่รู้ล่ะ ถือว่าลินพูดแล้ว พรุ่งนี้ไปจดกัน เรย์ ริว ปุ่น ปั้น เป็นพยานให้ด้วยนะ ว่าลินชวนพี่จดทะเบียน”
“ฮิ้ววววววว”
ผมแทบจะทุบโต๊ะด้วยความสนุก เดี๋ยวนี้คุณซันเริ่มใช้ได้ รุกหนักดี คนเชียร์อย่างผมก็ปลื้มปริ่ม
คุณลินผู้ไม่เคยเขิน หน้าแดงเป็นลูกตำลึง กลบเกลื่อนด้วยการทุบไปบนหลังคุณซันเสียงดังอั๊ก
“คุณลินจะหนีไปไหน” ผมเรียกตามหลังคนที่เดินลิ่วๆ ไปหลังร้าน
“จะฉลองกันไหม พูดมากจริง”
ฮี่ๆ นานๆ ได้แกล้งคุณลินสักที โอกาสแบบนี้หายากครับ
“สนุกใหญ่” มือที่วางบนหัวผมผลักไปมาเบาๆ
“พี่วีร์ทำแบบนี้ให้ริวบ้างสิ” น้องริวชูกระดาษในมือ
“ว่าไงปั้น เอาไหม”
“เรียนให้จบก่อนเถอะ อย่าแรดให้มันมากนัก”
ถ้าเป็นผม ผมคงงอนไปแล้วครับ ก็พี่ปั้นเล่นถอนใจ ส่ายหน้าพูดเสียงเอือมๆ
แต่น้องริวกลับ....
“จริงนะหมี จบแล้วแต่งเลยนะ เย้ๆ”
เอ่อ..ครับ เหมาะสมกันจริงๆ คู่นี้ คงไม่มีใครทนพี่ปั้นได้เท่าน้องริว และคงไม่มีใครรับมือกับน้องริวได้เท่าพี่ปั้นอีกแล้ว
ส่วนผม..
ไม่แน่ใจสักนิด ว่าจะรับมือคุณรองประธานได้หรือเปล่า ตามไม่เคยทัน แกล้งผมตลอด
“คิดอะไรอยู่ตัวอ้วน”
“คิด..”
โอ๊ะ!! ต้องไม่ตอบ พี่ปุ่นต้องงอน ทำอะไรไม่คิดจะบอกกันมั้งเลย
“ฮ่าๆๆๆ ทำหน้าเชิดนี่คืออะไร งอนพี่เหรอ อย่าเพิ่งเลยฉลองกันก่อน กลับถึงบ้านค่อยงอนเดี๋ยวพี่จะง้อเต็มที่”
“ชิ”
ผมจะยอมให้ก่อนครับ เพราะอาหารที่พนักงานยกมาเสิร์ฟมันหอมยั่วยวนกระเพาะมาก
เรากิน ดื่ม คุย หัวเราะ แซวกัน เล่นกัน มันเป็นบรรยากาศที่ผมจะจำไปอีกนาน
เหมือนความสุขมันห้อมล้อมเราเอาไว้ อบอวลอยู่ทั่วไปหมด
“แด่ลลิตา ขอให้หายไวไว” จู่ๆ คุณลินก็ยกแก้วขึ้น พูดถึงคนที่ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
“มายังไงลิน” คุณซันชิงถามก่อนผม แสดงว่าอยากรู้พอๆ กัน
“ในเรื่องแย่มันก็มีเรื่องดีๆ อยู่ ถ้าไม่มีเรื่องลลิตา วีร์ไม่มีทางรู้จักกับปุ่น”
“จริงด้วย ริวก็คงไม่ได้รู้จักหมี”
“ถ้าไม่มีปั้นเราคงยังไม่รู้ใจตัวเอง”
“แด่ลลิตา” ทุกคนยกแก้วขึ้นพร้อมกัน มันเหมือนคำขอบคุณจากใจพวกเรา ผมหวังว่าคุณลลิตาจะดีขึ้นเร็วๆ
“ผมล่ะ ทำไมผมไม่มีเอี่ยวกับใครเขาเลย อยากพูดอะไรบ้าง”
“โธ่เอ๊ยพี่เรย์ “ ทุกคนพากันหัวเราะขำคนขัดบรรยากาศ
“มีสิ เรย์ก็พูดว่า ขอบคุณที่ทำให้ริวเจอปั้น แล้วเรย์จะได้สบายไม่ต้องมีภาระอีก”
“จริงด้วย ขอบคุณคร้าบ” เรย์รีบชูแก้วขึ้น ก่อนยกดื่มที่เดียวหมดแก้ว ให้รู้ว่าดีใจมากแค่ไหนที่ภาระหายไป
ผมขำจนหัวเราะออกมาดังลั่น ชอบเวลาแบบนี้ที่สุดครับ เวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา
“ยังอ่านอีกเหรอ กี่รอบแล้ว” คุณวีร์ใส่เสื้อคลุมตัวเดียว ผมเปียกหมาดๆ ขึ้นมานั่งข้างๆ ผม
“คุณวีร์นิสัยไม่ดี บังคับผมทำอะไรก็ไม่รู้” ผมยู่หน้าใส่คนที่เอาแต่ยิ้ม ยิ้มทั้งวันไม่รู้อารมณ์ดีอะไรหนักหนา
“เมืองไทยยังไม่เปิดให้ชายกับชายจดทะเบียนสมรส แต่พี่อยากผูกมัดปุ่นเอาไว้กับตัวเอง
ไม่อยากต้องคอยกังวลว่าใครจะมาแย่งปุ่นไป”
“พูดแบบนี้ผมโกรธนะครับ คุณวีร์เห็นผมเป็นยังไง”
“ไม่ใช่ อย่าโกรธสิ พี่รู้ว่าปุ่นเป็นคนยังไง แต่พี่มันเห็นแก่ตัวเอง พี่อยากผูกมัดปุ่นเอาไว้
อยากแน่ใจว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป และอยากให้ปุ่นมั่นใจด้วยว่าปุ่นตัดสินใจไม่ผิดที่ตอบรับพี่”
“ขอบคุณนะครับ” ผมยื่นจมูกไปจรดแก้มของคนตัวโต
“ตรงนี้ๆ “ มือใหญ่รีบชี้ที่ปากตัวเอง
เห็นไหมครับ ทำซึ้งพูดหวานๆ ได้ไม่นานหรอก เวลาอยู่กับผมไม่เคยเก๊กขรึมเหมือนเวลาไปทำงาน
คล้ายเด็กตัวโตเอาแต่เล่นซนมากกว่า
“จุ๊บ” ผมยื่นหน้าเอาปากแตะแล้วรีบถอย คุณวีร์ยื่นปากตามมา พอรู้ว่าได้แค่นั้นแน่นอนก็ทำฟึดฟัดไม่พอใจ
“ตัวอ้วน เดี๋ยวนี้เล่นตัวกับพี่เหรอ ระวังเถอะจะจัดชุดใหญ่ไม่ให้พัก”
“ไม่ต้องขู่หรอกครับ ไม่กลัว”
“หึๆ คิดว่าพี่ขู่เหรอ”
“เฮ้ย ตกตก” ผมร้องอุทาน เมื่อถูกลากลงนอนกับเตียง มือสองข้างถูกยกขึ้นไปกดไว้เหนือศีรษะ
“อืม อร่อย”
ซู่ เสียงความร้อนขึ้นถึงขีดสุด ถึงยังไงผมก็ยังไม่ชินครับ มันเขินทุกครั้งเวลาคุณวีร์พูดอะไรแบบนี้
เสียงทั้งเซ็กซี่ ทั้งเย้ายวน ทำเอาผมมือไม้อ่อนแรง
“อะ..อื้อ.” ปากที่ประกบลงมาบดคลึง เรียกร้องให้ผมเผลอปากรับลิ้นร้อนๆ ที่ส่งเข้ามาทายทัก
คุณวีร์เปลี่ยนมาใช้มือเดียวกดข้อมือผมทั้งสองข้างเอาไว้
“อ๊ะ” ผมร้องเมื่อมีบางอย่างสวมเข้าที่นิ้ว ตาค่อยๆ ปรือขึ้นมามองหน้าคนที่คร่อมร่างผมอยู่
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ ก่อนมือผมจะถูกปล่อย
แหวน ผมมองมือตัวเอง
“คุณวีร์”
“สุขสันต์วันแต่งงานครับ ตัวอ้วน”
คุณวีร์ยกมือผมขึ้น ประทับริมฝีปากลงบนแหวน ก่อนหงายมือผม จูบลงกลางฝ่ามืออีกครั้ง
“คุณวีร์รักตัวอ้วน”
งื้อ พี่ปุ่นเขิน ( > <)
“ว่าไงครับ”
“อ..อะไรครับ”
“บอกพี่บ้างสิ”
“คุณวีร์ก็ลุกก่อนสิครับ” ผมต่อรอง ก็นอนอยู่ท่านี้มัน........
มันล่อแหลมเฟ้ย >///<
“หึๆ” คุณวีร์พลิกตัวออก จับผมขึ้นนั่ง ตัวเองก็ย้ายมานอนหนุกตักผมแทน
“เร็วครับ”
“อื้อ”
“ตัวอ้วน”
“คร้าบ...คร้าบ..”
“ผม..อื้อ....ตัวอ้วนรักคุณวีร์”
“น่ารักเกินไปแล้ว” มือใหญ่คว้าคอผมลงไปชิด จูบเอาจูบเอา อย่างกับตายอดตายยากมาจากไหน
“พอแล้ว ผมปวดหลัง” ผมรีบประท้วง หุ่นอวบๆ อย่างผมให้ก้มนานๆ ก็ไม่ไหวนะครับ
“ปุ่นนนนน หมดกัน”
“ฮ่าๆๆ” ผมขำคนหงุดหงิด โดนขัดความโรแมนติกปนหื่น
“ใส่ให้พี่บ้าง” คุณวีร์ล้วงแหวนออกจากกระเป๋าเสื้อคลุมส่งมาให้ผม
แหวนที่เหมือนของผมทุกอย่าง
แหวนทองคำขาว ประดับด้วยเพชรฝังเป็นรูปอินฟี้นิตี้ ∞ ผมเพิ่งเห็นว่าด้านในแหวนมีอักษรสลักอยู่
P & V
“พีแอนด์วี” ผมพูดออกมาเบาๆ
“ชอบไหม”
“ชอบครับ สวยมากๆ”
“สำหรับปุ่น ตัวอ้วนของพี่”
ผมสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของคุณวีร์ ก่อนจรดริมฝีปากลงไปเหมือนที่คุณวีร์ทำทุกอย่าง
“ขอบคุณนะครับ”
“ขอบคุณเหมือนกันครับ”
“เราแต่งงานกันแล้วนะ”
“ครับ”
“งั้นก็.....”
“เข้าหอกันเถอะ”
“คุณวีร์วีร์วีร์วีร์วีร์”
คนตัวใหญ่แต่ไวอย่างกับลิง พลิกผมลงไปอยู่ข้างใต้อีกจนได้ คราวนี้ไม่ต้องร้องห้ามให้เหนื่อยครับ
รู้ด้วยประสบการณ์เลยว่าถึงตอนนี้เอาช้างมาฉุดก็หยุดไม่อยู่แล้ว
แหวนนี่มันกี่บาท พี่ปุ่นอยากรู้
ดูจากความคึกของคุณรองประธานแล้ว
พี่ปุ่นอยากรู้ว่า....มันคุ้มหรือเปล่า
แงงงงงงงง
“หึๆ”
“เมื่อกี้ไหนใครบอกว่าไม่กลัว พี่บอกแล้วว่าไม่ได้ขู่ จัดชุดใหญ่ถึงเช้าแน่นอนครับ”
“อื้อ..ค.คุณวีร์อะ”
“มาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเถอะตัวอ้วน”
ตอนประชุมก่อนเริ่มงาน...
ไม่เห็นมีในประวัติเลยว่าคุณรองประธานที่ผมต้องทำงานด้วยมีความหื่นระดับสิบ
ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าตำแหน่งเลขาปลอมๆ คือตำแหน่งภรรยาในอนาคต
ไม่เห็นมีใครเตือนเลยว่าเลขาอย่างผมจะตกหลุมรักคุณรองประธาน
และ...
ไม่เห็นมีใครบอกเลย..ว่า...ผมจะมีความสุขขนาดนี้....
.................................................END..................................................
เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะ
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้นจนจบ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกยอดview มันมีความหมายมากๆ เลยค่ะ
ทำให้มีแรงปั่น มีแรงผลักดันให้เขียน รู้สึกว่ามีคนรอ
ขอบคุณทุกคำติชม จะพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นนะคะ ถ้าตอนไหนไม่ถูกใจ อ่านแล้วไม่สนุกก็ต้องขอโทษด้วย
สุดท้ายอยากบอกว่าคนเขียนมีความสุขมากๆ ค่ะ หวังว่าคนอ่านจะมีความสุขเช่นกัน
ขอบคุณอีกครั้งจากใจริง^^
Darin ♥ FANPAGE