ตอนพิเศษ 1 วัน(เกิด)ปีใหม่
ย้อนไปเมื่อวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่“ปราณจะถือเค้กเอง”
“ไม่เอา อาจะถือเอง”
“แต่ปราณเป็นหลานน้าปีใหม่นะ แถมเป็นแฟนด้วย” เด็กชายเถียงคอเป็นเอ็น พยายามจะเอาชนะคุณอาให้ได้
“อาก็เป็น.....เป็น......” เออ เป็นอะไรล่ะ ได้แต่ยืนอ้ำอึ้งพูดไม่ออก เพราะไม่มีสถานะใดๆ นอกจากคนรู้จัก (เมื่อนานมาแล้ว) และปัจจุบันคือสถานะคนกำลังจีบ
“หึ!!” เจ้าเด็กแก่แดดหัวเราะหึในลำคอ มองด้วยสายตาของผู้มีชัย เห็นแบบนั้นแล้วเอฟรู้สึกว่ามันน่าหมั่นไส้นัก เจ็บใจจริงๆ “สรุปว่าปราณจะถือเค้กเองนะ อาเอฟก็เป็นตัวประกอบไป โอเค๊?” มันน่าเจ็บใจตรงนี้!! ตรงตัวประกอบฉาก เป็นได้แค่ตัวประกอบฉาก คอยดูเถอะ จีบติดเมื่อไหร่เจ้าปราณเอ๊ย!! เอ็งจะไม่ได้เห็นหน้าน้าปีใหม่ของเอ็งเลย แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่คาดโทษหลานชายในใจ
“ไปๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว จะซื้อมั้ยเนี่ยเค้กน่ะ พนักงานเค้ารอนานแล้วนะเว้ย” มองดูลูกชายกับเพื่อนรักเถียงกันไปมาจนเห็นพนักงานมองหน้าเค้าแล้วยิ้มแหยๆ ให้ก็จำเป็นต้องขัดศึกชิงนาย(?) ตรงหน้าซะก่อน
“เออๆ ซื้อๆ เอาเค้กช็อกโกแลต เอาที่มีแต่สตรอเบอรี่ ไม่เอาเชอรี่นะครับ” รับคำเพื่อนห้วนๆ แล้วหันไปสั่งเค้กกับพนักงานที่ยืนรับออเดอร์อยู่
“ทำไมไม่เอาเชอรี่อ่ะ ปราณชอบเชอรี่นะ” เด็กชายท้วงทันที พนักงานที่กำลังจะหยิบเค้กช็อกโกแลตเปล่าๆ ในตู้เพื่อเอาไปแต่งหน้าเค้กตามที่สั่งก็หยุดชะงักไปด้วย
“แต่น้าปีใหม่ไม่ชอบเชอรี่นี่” เอฟหันมาตอบหลานแล้วยักคิ้วให้นิดๆ ด้วยความรู้สึกเหนือกว่าหน่อยๆ “เอาตามที่สั่งเมื่อกี้ครับ ขอบคุณครับ” หันไปยืนยันออเดอร์กับพนักงานอีกที
เด็กชายกอดอกอมลม ขัดใจเล็กๆ เพราะเสียท่าให้คุณอาอีฟคนดีของน้องปรางค์ ด้วยไม่รู้มาก่อนว่าน้าปีใหม่ไม่ชอบเชอรี่ มิน่าล่ะ เวลาไปกินเค้กกินไอศกรีมกับน้าปีใหม่ทีไร น้าปีใหม่ก็ยกเชอรี่ให้ปราณกับน้องปรางค์ตลอดเลย เพราะเด็กๆ ชอบกินเชอรี่
“หึ คนนี้คงเอาจริงสินะ มึงถึงจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้” แฟร์มองลูกชายที่ทำหน้ามุ่ย แล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เพื่อนนิดๆ
ปกติเอฟเป็นคนไม่ค่อยจะใส่ใจคนอื่นเท่าไหร่ ไม่ค่อยจะจำหรอกว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร เพราะแฟนมันแต่ละคนคบกันไม่เคยเกินสามเดือน คือแทบจะไม่ได้ทันได้จำด้วยซ้ำว่าแฟนตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่กับน้องชายของเค้าคนนี้ เอฟกลับจำได้ว่าเจ้าตัวชอบเค้กช็อกโกแลต และไม่ชอบเชอรี่ แต่ชอบสตรอเบอรี่มากๆ ซึ่งเรื่องนี้ปริมภรรยาของเค้าก็กำชับมาก่อนที่จะออกจากบ้านแล้วว่าให้ซื้อเค้กแบบที่น้องชายชอบ แต่ไม่นึกว่าเพื่อนรักอย่างเอฟจะสั่งได้ตรงตามที่ภรรยาเค้ากำชับมาทั้งหมด
“เค้กที่สั่งได้แล้วค่ะ” พนักงานนำเค้กที่แต่งหน้าเรียบร้อยบรรจุกล่องมายื่นให้
“เท่าไหร่ครับ” เอฟถามพนักงานพลางหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋ากางเกงออกมารอจ่ายเงิน
“ทั้งหมด 650 บาทค่ะ” พนักงานตอบ
“คุณพ่อครับขอตังค์จ่ายค่าเค้กหน่อย” เด็กชายเดินไปเขย่าแขนพ่อขอเงิน
“ไม่เป็นไรอาจ่ายเอง”
“ไม่เอาปราณจะจ่ายเอง”
“มีเงินเหรอเรา เมื่อกี้ยังเห็นขอเงินพ่ออยู่เลยนี่” เอฟพูดกลั้วหัวเราะ เด็กนี่ไม่ยอมแพ้เค้าเลยแฮะ นิดนึงก็อยากเอาชนะ
“พ่อครับ....” ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เงยหน้ามองคุณพ่อตาปริบๆ เอฟก็ยืนรอดูว่าหลานชายเค้าจะทำยังไงต่อไป ในขณะที่พนักงานก็ซื้อถุงใส่กล่องเค้กค้างจนเมื่อยแขนไปหมดเพื่อรอยื่นให้ลูกค้าและรับเงินค่าเค้ก
“ให้อาเอฟเค้าจ่ายเหอะ” คุณพ่อตัดสินใจให้
“ฮึ้ย! ไม่เอาอ่ะ ปราณอยากจ่ายเองนี่” เด็กชายก็ยังไม่ยอมอยู่ดี
“ใครจ่ายก็เหมือนกันแหละน่า” แฟร์พูดไปก็ยีหัวลูกชายจนยุ่งไปหมด
“เอางี้อายอมให้ปราณเอาเงินคุณพ่อมาจ่ายค่าเค้กนี่ก็ได้” เอฟพูดขึ้นเด็กชายทำตาโตฉีกยิ้มกว้างที่คุณอายอมง่ายๆ “แต่ว่าถ้าปราณเป็นคนจ่ายค่าเค้ก อาจะเป็นคนถือเค้กคืนนี้เอง เลือกเอานะว่าจะเป็นคนจ่ายที่ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ว่าใครจ่าย กับคนถือเค้กไปให้น้าปีใหม่ได้เป่าเทียนอธิษฐานในวันเกิด” แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินประโยคต่อมา คิ้วเล็กๆ มุ่นมาชนกันอย่างใช้ความคิด
“ให้อาเอฟจ่ายก็ได้ เดี๋ยวปราณถือเค้กให้น้าปีใหม่เอง” เด็กชายตัดสินใจได้ในที่สุด
“แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” ยีหัวหลานชายด้วยความหมั่นไส้ไปทีนึง แล้วหันมาหาพนักงานที่ยืนค้างรออยู่สักพักแล้ว “นี่ครับ” เอฟยื่นเงินให้พนักงานแล้วรับถุงเค้กมาถือไว้ “ไม่ต้องทอนนะครับ ขอโทษด้วยที่มัวแต่เถียงกันทำให้เสียเวลา” ส่งยิ้มปิดท้ายให้พนักงานอีกนิดเอฟก็เดินนำทุกคนออกจากร้าน
“ป๋าสุดๆ ว่ะเพื่อน มีทิปให้พนักงานด้วย” แฟร์เอ่ยแซวเพื่อนขำๆ
“ป๋าห่าอะไร ทิปแค่ห้าสิบบาทเนี่ยนะ” ก็ให้ไปเจ็ดร้อยเงินทอนก็แค่ห้าสิบบาท ถ้าป๋าจริงต้องจ่ายแบงก์พันแล้วไม่เอาเงินทอนสิ
“เออๆ ไปๆ กลับบ้านกัน ไม่มีอะไรต้องซื้อแล้วใช่มั้ย” แฟร์ตัดบท “แล้วมึงไม่มีของขวัญให้น้องชายกูเหรอ” กระซิบถามเพื่อนเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน
“ตัวกูนี่ไงของขวัญ” หันไปตอบเพื่อนแบบหน้าตาย ยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์นิดๆ ให้พอโดนหมั่นไส้
“ถ้าเป็นกูจะโยนของขวัญทิ้งถังขยะทันที”
“เสียใจด้วยว่ะ กูจะเป็นของขวัญให้นิวเยียร์ไม่ใช่มึง”
“น่าหมั่นไส้ไอ้คนโสดศตวรรษที่ 21” เหน็บเพื่อนไปที แล้วก็สอดตัวเข้าไปในรถฝั่งคนขับ คนโดนเพื่อนเหน็บก็สอดตัวตามเข้าไปนั่งอีกฝั่ง ส่วนเด็กชายก็เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง
“ไม่รู้ว่าป่านนี้ฝั่งสาวๆ จะทำกับข้าวจะเสร็จหรือยัง” ระหว่างขับรถกลับบ้าน แฟร์เปรยออกมาเบาๆ เหมือนถามตัวเองมากกว่า นี่เค้านับรวมปีใหม่อยู่ในฝั่งสาวๆ ด้วยเหรอเนี่ย แต่คิดอีกทีถ้าน้องชายกับเพื่อนรักเค้าตกลงคบกันให้ปีใหม่อยู่ฝั่งสาวๆ ก็ถูกต้องแล้วล่ะมั้ง คิดแล้วก็ให้ขำอยู่ในใจ
.
.
.
.
.
.
.
“ปีใหม่” ปริมเอ่ยเรียกน้องชายที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตา
“ครับ” คนถูกเรียกหันมามองแว๊บนึง แล้วก็หันกลับไปวุ่นวายกับสิ่งที่อยู่ในหม้อต่อ
“รู้จักกับพี่เอฟมาก่อนเหรอ” พี่สาวเดินเข้ามาถามน้องชายใกล้ๆ คนถูกถามหยุดมือชะงักไปนิดนึงก่อนตอบเบาๆ
“ครับ” ตอบสั้นๆ และไม่ได้ขยายความต่อ พี่สาวที่อยากรู้เรื่องของน้องชายดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจคำตอบสั้นๆ นั้นสักเท่าไหร่
“ชอบพี่เอฟรึเปล่า” ยิงคำถามตรงๆ ไปแบบนี้แหละ
“เอ่อ...” คำถามตรงๆ แต่คนตอบก็ยังตอบออกมาตรงๆ ไม่ได้ “พี่ปริมไม่ถามใหม่ก่อนเหรอว่ารู้จักกันเมื่อไหร่ รู้จักกันได้ยังไงไรงี้” ตอบไม่ได้ก็ขอเบี่ยงประเด็นไว้ก่อน
“ไม่ถามหรอก เพราะรู้แล้ว พี่แฟร์เล่าให้พี่ฟังแล้ว”
“อ้าว ถ้าพี่แฟร์เล่าให้พี่ปริมฟังแล้ว พี่ปริมจะมาถามใหม่ทำไมว่ารู้จักพี่เอฟมาก่อนเหรอ”
“ก็แค่คำถามนำเฉยๆ แต่อยากรู้เรื่องอื่นมากกว่านี่นา”
“อยากรู้อะไรครับ” ปีใหม่ย้อนถามแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าคำถามนี้เหมือนชี้โพรงและขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ
“ก็ที่พี่ถามไปเมื่อกี้ไงจ๊ะ” ปริมยิ้มล้อน้องชาย
“ถามอะไรเหรอครับ ใหม่จำไม่ได้แล้ว” คนถูกถามก็ยังเฉไฉถ่วงเวลาไปเรื่อย
“ชอบพี่เอฟรึเปล่า” ปริมทวนคำถามอีกครั้ง
“คือ....” ปีใหม่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงดี คำตอบในใจน่ะมีอยู่แล้ว แต่ถ้าตอบออกมาแล้วไม่รู้ว่าพี่สาวของเค้าจะว่ายังไง จะรับได้มั้ยที่น้องชายมีความรู้สึกเกินเลยกับเพื่อนของสามีตัวเอง
“ตอบมาเหอะ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก นี่มันจะปี 2018 แล้วนะ โลกเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้วพี่ไม่ซีเรียสแค่เรื่องรักชอบเพศเดียวกันหรอก แค่อยากรู้ความรู้สึกของปีใหม่เท่านั้นแหละ” ปริมอธิบายให้น้องคลายกังวล
“ใหม่ชอบพี่เอฟครับ” ในที่สุดก็ต้องยอมรับกับพี่สาว
“คิ คิ คิ” ปริมปิดปากกลั้นขำ ก็ดูหน้าตาน้องชายของเธอตอนนี้สิ แดงเถือกทั้งหน้าทั้งคอทั้งหูไปหมดแล้ว สงสัยจะเขินเอามากๆ นี่ขนาดแค่สารภาพกับเธอหรอกนะยังขนาดนี้ ถ้าต้องพูดต่อหน้าพี่เอฟจริงๆ ไม่รู้จะขนาดไหน ชักอยากจะเห็นเร็วๆ แล้วสิ “เขินเหรอจ๊ะ” ขอแซวสักนิดนึงเถอะ
“พี่ปริม....” คนเขินเรียกพี่สาวซะเสียงยาว “อย่าล้อใหม่สิ” หันหน้าหนีไปทางอื่น มือก็คนซุปในหม้อไปด้วยแก้เขิน
“อ้าวๆ ๆ ถึงจะเขินยังไงก็อย่าคนซุปจนขุ่นแบบนั้นสิจ๊ะ” คนเป็นพี่สาวก็ยังคงน้ำเสียงล้อเลียนไม่เลิก แย่งทัพพีในมือน้องชายออกมาวางไว้บนจานรองข้างๆ เตา
“ไม่คุยกับพี่ปริมแล่ว” คนขี้เขินเดินออกมาหาน้องปรางค์ที่นั่งดูผู้ใหญ่ทำกับข้าวอยู่ที่โต๊ะวางของในครัว
“ว่าแต่พี่เอฟขอเราเป็นแฟนรึยังน่ะ” คนเป็นพี่ยังไม่หยุดสงสัย
ปีใหม่นิ่งคิดแป๊บนึงก่อนตอบ “ขอแล้วมั้งครับ ไม่แน่ใจ”
“มันยังไงกันน่ะ” ปริมสงสัยในคำตอบของน้อง มันยังไงกันแน่นะ
“ก็.....พี่เอฟแค่บอกว่าชอบใหม่ แล้วก็บอกให้ใหม่ตอบรับความรู้สึกพี่เค้า.....” พูดไปก็รู้สึกเขินมากขึ้น ยิ่งนึกถึงตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าชอบตัวเองแล้วก็รู้สึกหน้าร้อนๆ ชอบกล
“แล้วยังไง ตกลงว่าพี่เอฟขอเราเป็นแฟนมั้ย”
“ก็แค่บอกชอบ... ให้ตอบรับความรู้สึก... แล้วก็บอกว่าจะจีบใหม่...” ปีใหม่ทบทวนความจำ “แต่ก็ไม่มีคำไหนที่บอกว่า ‘เป็นแฟนกันนะ’ ไม่มีครับ งือออออออ ไม่เอาแล้วพี่ปริม ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว” น้องชายขี้เขินกุมแก้มตัวเอง เพราะทนพูดเรื่องที่ทำให้เขินหนักขนาดนี้ไม่ไหวแล้ว พี่ปริมก็ถามอยู่ได้ เขินจนตัวจะระเบิดแล้วเนี่ย
“น้าปีใหม่ขา น้องปรางค์อึดอัด” เด็กน้อยโอดครวญออกมา เมื่อคนเขินคว้าหลานสาวเข้ามากอดรัดแก้เขิน แต่คงจะกอดแน่นไปจนเด็กน้อยอึดอัด
“ขอโทษค่ะน้องปรางค์” ปีใหม่คลายอ้อมกอดออก แล้วลูบแขนปลอบใจหลานสาว
“อ่ะๆ ไม่ถามก็ได้” ปริมตัดบทไม่อยากให้น้องชายเขินมากกว่านี้ ปีใหม่พรูลมหายใจเมื่อได้ยินแบบนั้น “แต่ขอคำถามสุดท้ายนะ” โล่งใจได้ไม่สุดจริงๆ
“ถามอะไรครับ” ปีใหม่พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เพื่อรอฟังคำถามจากพี่สาว
“ถ้าพี่เอฟขอเราเป็นแฟนตรงๆ ปีใหม่จะยอมเป็นแฟนกับพี่เอฟมั้ย” คำถามนี้ปริมอยากรู้คำตอบจริงๆ นะ เธออยากให้น้องชายมีความสุข มีแฟนที่ดี แล้วพี่เอฟก็เป็นคนดี อาจจะบ้าๆ บอๆ ในบางครั้ง เป็นคนเรียบๆ นิ่งๆ น่าจะเหมาะสมกับน้องชายของเธออยู่ ส่วนพี่เอฟนั้นเธอก็รู้จักมานานตั้งแต่คบกับพี่แฟร์สามีของเธอมา เธอเคารพพี่เอฟเหมือนพี่ชายคนนึง อยากให้พี่เอฟเจอคนดีๆ ที่รักพี่เอฟจริงๆ ไม่ใช่หลงแค่เพียงหน้าตากับวัตถุภายนอกเท่านั้น
“เรื่องนี้ใหม่ยังไม่ได้คิดครับ แต่ก็อยากเล่นตัวอีกสักหน่อย” ปีใหม่ตอบพร้อมรอยยิ้มเขินๆ ใบหน้าขึ้นริ้วแดงๆ มาอีกรอบ พยายามปรับสีหน้าให้ปกติแล้วแต่ก็ไม่ช่วยอะไร
“เล่นตัวมากๆ ระวังพี่เค้าเปลี่ยนใจนะ” ปริมแกล้งแหย่
“ก็จะได้รู้กันไปไงครับว่าไม่ได้ชอบใหม่จริงๆ” ปีใหม่ทำหน้ายู่เหมือนเด็กโดนขัดใจ สร้างความขำขันให้กับปริมที่เป็นพี่สาวเมื่อเห็นสีหน้าน้องชายแบบนั้น
บทสนทนาระหว่างพี่น้องจบลงเพียงเท่านั้น ทั้งคู่ช่วยกันเตรียมอาหารมื้อค่ำในวันสิ้นปี
คืนนี้พวกเค้าจะเคาท์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่พร้อมๆ กัน ปีนี้เป็นปีที่มีสมาชิกอยู่ร่วมเคาท์ดาวน์เยอะที่สุด นอกจากสี่คนพ่อแม่ลูกแล้ว ยังมีน้องชายอย่างปีใหม่ และเพื่อนรักของสามีอย่างเอฟที่ทุกปีจะหนีหายไปตามประสาคนโสดข้ามปี และที่สำคัญนอกจากจะเป็นวันปีใหม่แล้วยังเป็นวันเกิดของปีใหม่อีกด้วย ปริมจึงฝากให้แฟร์ที่ออกไปซื้อเครื่องดื่มข้างนอกกับเอฟและปราณลูกชายซื้อเค้กเพื่อมาเซอร์ไพรซ์วันเกิดให้น้องชายของเธอด้วย แต่ถึงแม้จะไม่บอกให้ซื้อมาก็คงจะมีคนซื้อมาอยู่ดีนั่นแหละเนอะ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
.
.
.
.
.
.
.
31 ธันวาคม 2560 เวลา 23.59 น.ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยมีแก้วเครื่องดื่มของแต่ละคนวางอยู่ ของเด็กๆ เป็นน้ำผลไม้ ของปริมและปีใหม่เป็นน้ำอัดลม ส่วนของสองชายหนุ่มเพื่อนรักนั้นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไม่ต้องสงสัย
เอฟนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาว ถัดมาเป็นปีใหม่ และเพื่อไม่ให้น้อยหน้าอีกข้างนึงของปีใหม่นั้นมีปราณนั่งขนาบอยู่ ซึ่งตอนแรกนั้นปราณจะมานั่งแทรกกลางระหว่างเอฟกับปีใหม่แต่ก็โดนคุณแม่คนสวยเบรกความคิดไว้ซะก่อน สองสามีภรรยาเจ้าบ้านนั้นก็นั่งที่โซฟาเดี่ยวคนละตัว โดยที่แฟร์นั่งตัวที่อยู่ใกล้เพื่อนรัก เพื่อความสะดวกในการชนแก้ว ส่วนปริมนั่งกับน้องปรางค์ลูกสาวตัวน้อย
หน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อันยิ่งใหญ่อลังการ ทุกคนรอนับถอยหลังกันอย่างใจจดใจจ่อ คนที่รอนับถอยหลังอยู่หน้าจอในมือก็ถือแก้วเครื่องดื่มของตัวเองเอาไว้
“10” การนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้น
“9”
“8”
“7”
“6”
“5”
“4”
“3”
“2”
“1” เมื่อนับถอยหลังมาถึงวินาทีสุดท้าย ทุกคนชนแก้วกันพร้อมกับกล่าวต้อนรับปีใหม่พร้อมๆ กัน
“แฮปปี้นิวเยียร์” แฟร์
“สุขสันต์วันปีใหม่จ้า” ปริม
“สุขสันต์วันปีใหม่ค่า” น้องปรางค์
“สวัสดีปีใหม่ครับ” ปราณ
“แฮปปี้นิวเยียร์ครับทุกคน” ปีใหม่
“สุขสันต์วันเกิดครับนิวเยียร์” เอฟขยับไปกระซิบข้างหูปีใหม่เบาๆ ในขณะที่มือก็ชนแก้วกับทุกคนไปด้วย
คนฟังชะงักมือ หันไปมองทางต้นเสียง ปลายจมูกโด่งๆ นั่นเฉียดริมฝีปากคนพูดไปนิดเดียว ลมร้อนๆ กับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เป่ารดใบหน้าหวานๆ ในระยะประชิด ทั้งคู่นิ่งกันไป มือยังยกแก้วค้างกลางอากาศ ในขณะที่หันหน้าเข้าหากัน
“อ่ะแฮ่ม” แฟร์เห็นทั้งคู่ค้างกันไม่ยอมขยับ จึงแสร้งกระแอมขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่หลุดออกจากภวังค์ หันมามองตรง ยกเครื่องดื่มในมือขึ้นดื่มแก้เก้อ
ปีใหม่นั้นหน้าแดง หูแดงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็พยายามยกแก้วขึ้นดื่มเพื่อบังใบหน้าเอาไว้ ส่วนเอฟนั้นแม้จะไม่รู้ว่าหน้าแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออาการเขิน แต่ที่สังเกตได้ชัดคืออาการกัดริมฝีปากล่าง พยายามข่มรอยยิ้มของตัวเองไม่ให้แสดงออกให้เพื่อนได้เอาไปล้อ
“หึ หึ หึ” แฟร์หัวเราะในลำคอ “ยังไม่ได้ยินเสียงมึงแฮปปี้นิวเยียร์พวกกูเลยนะเว้ย” เค้ารู้ว่าเพื่อนรักคงกระซิบบางอย่างกับน้องชายของเค้าเลยไม่ได้บอกแฮปปี้นิวเยียร์พร้อมๆ กับคนอื่น ก็แค่อยากแซวเพื่อก็เท่านั้นแหละ
“เออๆ ๆ ๆ สุขสันต์วันปีใหม่นะทุกคน” เอฟไม่อยากให้เพื่อนล้อไปมากกว่านี้ จึงรีบกล่าวอวยพรปีใหม่ให้ทุกคน
“สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะอาอีฟ” น้องปรางค์พูดกับอาเอฟคนดีด้วยรอยยิ้มน่ารักน่าเอ็นดู จนผู้ใหญ่ต้องยิ้มตาม
ส่วนปีใหม่นั้นเงียบไปตั้งแต่ได้ยินใครบางคนอวยพรวันเกิดก่อนใครเพื่อนชิดติดใบหู จนตอนนี้ยังรู้สึกว่าหน้ามันร้อนๆ ไม่หายอยู่เลย เหลือบมองไปเห็นพี่สาวนั่งอมยิ้มอยู่ที่โซฟาอีกตัว สีหน้าบวกรอยยิ้มนั้นเหมือนจะแกล้งแหย่ให้เขาเขินมากขึ้นไปอีก เห็นแบบนั้นมีเหรอที่ปีใหม่จะไม่เขิน มันต้องเขินอยู่แล้วสิ
คนเขินกำลังจะคว้าหลานชายที่อยู่ใกล้ๆ มากอดแก้เขิน แต่หลานชายกลับผลุดลุกขึ้นกะทันหัน จนคนเป็นน้าตั้งตัวไม่ทันคว้าได้แต่อากาศ
“น้องปราณจะไปไหนครับ” ปีใหม่เอ่ยถามหลาน
“เอ่อ...ปราณ...ปราณ” ติดอ่างทำไมล่ะลูกชาย คนเป็นพ่อถึงกับกุมขมับลุ้นอยู่ว่าลูกชายจะทำแผนเซอร์ไพรซ์แตกซะก่อนจะได้เซอร์ไพรซ์หรือไม่ “ปราณจะไปห้องน้ำครับ” พูดจบก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที
“หึ หึ หึ” จู่ๆ เอฟก็ขำในลำคอออกมา ในขณะที่ปลายสายตาก็มองไปทางที่ปราณวิ่งหายไป ช้าไปแล้วล่ะหลานชาย อาเอฟชิงอวยพรไปก่อนแล้วนะ ตอนนี้ใครจะได้ถือเค้กก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
“เป็นอะไรของมึง อยู่ดีๆ ก็ขำ” แฟร์เอ่ยถาม “เมื่อกี้อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะ”
“อะไรของมึง” เอฟเลิกคิ้วถามงงๆ
“หึ ถ้ากลืนปีใหม่ลงท้องเข้าไปได้มึงคงทำไปแล้วใช่มั้ยล่ะ” พี่เขยนี่ก็พูดเสียงดังไม่เกรงใจคนโดนพาดพิงเอาซะเลย นั่งเขินตัวจะแตกอยู่ข้างๆ พี่เอฟเนี่ย
“พ่อคร้าบบบ” เสียงปราณตะโกนออกมาจากในครัว
“ว่าไงไอแสบ” คนเป็นพ่อก็ขานรับลูกชายแบบน่ารักๆ
“ไฟห้องน้ำไม่ติดอ่ะ พ่อมาดูให้ปราณหน่อย” แฟร์ลุกจากโซฟา เดินเข้าไปในครัว นี่ถือว่าเป็นโค้ดลับระหว่างพ่อลูก เพื่อให้แฟร์ปิดไฟในห้องรับแขกแล้วปราณก็จะถือเค้กออกมาเซอร์ไพรซ์วันเกิดน้าปีใหม่
“พรึ่บ!!” ไฟในห้องรับแขกดับลง คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เอฟสะดุ้งตกใจเล็กน้อย หันซ้ายหันขวามองไปรอบด้าน
“ไฟดับเหรอครับพี่ปริม” ปีใหม่ถามฝ่าความมืด
“ไม่รู้สิ ทีวีก็ติดอยู่นะ” ปริมตอบปัดๆ เธอรู้แผนการของลูกชายดี
ได้ยินพี่สาวตอบอย่างไม่ใส่ใจแบบนั้น น้องชายก็ยิ่งหันซ้ายหันขวาอยู่ไม่นิ่ง และทำท่าจะลุกขึ้นไปดูสวิชต์ไฟเอง
“อยู่นิ่งๆ สิครับ” เอฟรวบเอวปีใหม่ที่อยู่ไม่นิ่งให้เข้ามานั่งชิดตัวเอง กระซิบเบาๆ ด้วยเสียงทุ้มๆ นุ่มๆ ข้างหู
ปีใหม่นั่งนิ่ง ออกจะนิ่งเกินไปด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะโดนสั่งให้นั่งนิ่งๆ แต่เป็นเพราะความใกล้ชิด มือใหญ่ๆ ที่ยังวางอยู่ที่เอว เสียงทุ้มๆ ที่กระซิบข้างหู และลมหายใจที่เป่ารดข้างแก้มอยู่ต่างหาก ดีนะที่ไฟดับ ไม่งั้นทุกคนคงได้เห็นว่าแก้มเค้าแดงแค่ไหน และคงไม่พ้นโดนพี่ปริมล้ออีกแน่ๆ
แสงสีส้มนวลๆ ส่องสว่างอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องรับแขก และค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ
“Happy birthday to you. Happy birthday to you. Happy birthday happy birthday……... Happy birthday to you……..” เสียงแจ้วๆ ใสๆ ของปราณมาพร้อมกับเค้กที่มีเทียนวันเกิดส่องสว่าง เด็กชายเดินเข้ามาใกล้น้าปีใหม่ ตามหลังมาด้วยคุณพ่อที่เดินไปปิดไฟห้องรับแขกตามโค้ดลับที่ตกลงกับลูกชาย
“สุขสันต์วันเกิดนะครับน้าปีใหม่” ปราณอวยพรน้าปีใหม่ด้วยรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้า
“สุขสันต์วันเกิดค่าน้าปีใหม่ อธิษฐานแล้วเป่าเทียนเร็วๆ ค่ะ” น้องปรางค์เร่ง
“อ่ะ ครับๆ” ปีใหม่ที่กำลังอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในวันเกิด เพราะทุกๆ ปีก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ในเมื่อเค้าเกิดในวันปีใหม่ งานวันเกิดก็จัดรวบกับงานปีใหม่ไปซะเลย
ปีใหม่ประสานมือไว้ที่อก ปิดตาแล้วอธิษฐานขอพรในใจ ก่อนลืมตาแล้วเป่าเทียนวันเกิดรวดเดียวจนดับหมด
“เย่.......” เสียงปรบมือ และเสียงของเด็กๆ ดังขึ้นหลังจากที่เปลวไฟของเทียนวันเกิดดับลง
แฟร์เดินกลับไปเปิดไฟจนห้องรับแขกทั้งห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับทุกคน” ปีใหม่กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
“มีความสุขมากๆ นะจ๊ะน้องชายของพี่ ขอให้ได้แฟนหล่อๆ รวยๆ นิสัยดีๆ นะจ๊ะ” ปริมอวยพรน้องชาย แต่ไม่วายยังแกล้งให้น้องเขินอีก
“งืออออออ พี่ปริมอ่ะ” ปีใหม่โอดครวญเสียงอ่อน
“มีความสุขมากๆ นะปีใหม่ แล้วก็อย่าปล่อยให้เพื่อนพี่รอนานล่ะ รีบรับรักมันเถอะสงสารมัน มันแก่แล้ว” แฟร์พูดครั้งเดียวแซวได้ทั้งน้องชายได้ทั้งเพื่อนเลย
“แล้วพี่เอฟไม่อวยพรน้องหน่อยเหรอคะ” ปริมเอ่ยถามเอฟที่นั่งนิ่งๆ แต่มือยังคงวางอยู่บนเอวน้องชายของเธอไม่เปลี่ยน
“อวยพรไปแล้ว” เอฟตอบเรียบ พร้อมยกยิ้มมุมปาก
“เมื่อไหร่วะ” แฟร์ถาม
“ตอนเที่ยงคืนพอดี” เอฟตอบ
“มึงมันร้าย” แฟร์ว่าเพื่อนแบบไม่จริงจังนัก ออกแนวแซวกันมากกว่า เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหลังจากการเคาท์ดาวน์นั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ ที่แท้เพื่อนรักของเค้าก็แอบอวยพรวันเกิดน้องชายเค้านี่เอง
“แล้วของขวัญวันเกิดน้องล่ะวะ” แฟร์ทวงแทน
“เดี๋ยวกูเอาตัวเองผูกโบว์ให้เป็นของขวัญวันเกิดนิวเยียร์เลย” เอฟพูดหน้าตาย แต่คนฟังนี่ถ้าระเบิดตัวเองได้คงระเบิดไปแล้ว พูดอะไรไม่เกรงใจความแดงบนหน้าเค้าบ้างเลย ใจก็เต้นแรงเป็นบ้า เหมือนจะกระเด็นออกมานอกอกซะให้ได้
“ใครจะอยากได้กัน” ปีใหม่ก้มหน้าพูดงุบงิบกับตัวเองเบาๆ
“ไม่เอาจริงเหรอครับ” พูดเบาๆ แต่เอฟที่อยู่ใกล้ชนิดที่แทบจะรวมร่างกันอยู่แล้วยังได้ยินอยู่ดี แกล้งยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ เจ้าของวันเกิด กระชับรวบเอวให้เข้ามาใกล้กันอีกนิด
“อย่ามาเนียนครับ” ปีใหม่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าโดนแต๊ะอั๋งอยู่ตั้งนาน ตีมือที่วางอยู่บนเอวจนคนเนียนต้องคลายมือออก แล้วปล่อยให้เจ้าของวันเกิดเป็นอิสระ “กินเค้กกันดีกว่าครับ” แล้วก็เปลี่ยนเรื่องแก้เขิน
“เค้กๆ ๆ ๆ” เด็กๆ ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจใหญ่ที่จะได้กินเค้กซะที
“โห.....สตรอเบอรี่” เจ้าของวันเกิดตาโต เพิ่งเห็นชัดๆ ว่าเค้กวันเกิดอุดมไปด้วยสตรอเบอรี่ลูกใหญ่ จัดวางอยู่เต็มพื้นที่ของหน้าเค้ก
“ถูกใจใช่มั้ยล่ะปีใหม่ คนเลือกเค้กเค้าสั่งให้เราโดยเฉพาะเลยนะ เพราะรู้ว่าเราชอบ” แฟร์บอกน้อง สายตาเหล่ไปทางเพื่อนรัก และนั่นทำให้เห็นรอยยิ้มของเจ้าของวันเกิดที่แย้มออกจนกว้างด้วยความดีใจ ดีใจที่อีกคนยังจำได้ว่าเค้าชอบอะไร
“ขอบคุณนะครับ” ปีใหม่หันไปขอบคุณพร้อมส่งยิ้มสดใสให้เอฟที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เปลี่ยนจากคำว่าขอบคุณนะครับ เป็นคำว่า
รักนะครับก็จะดีมากเลยนะ” คนได้คืบจะเอาศอกก็ยังเต๊าะไม่เลิก
“รอไปก่อนเถอะครับ” คำพูดปัดๆ เหมือนไร้เยื่อใย แต่ทว่าแก้มกับใบหูนี่มันฟ้องว่าความคิดนั้นตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง มือจ้วงเค้กเข้าปากแก้เขิน
“หื้ออออ อร่อยยยยยย” สตรอเบอรี่ลูกโตหายเข้าไปในปากเล็กนั่น ความสุขปรากฏอยู่บนดวงหน้าหวานๆ พร้อมรอยยิ้มสดใสราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา
“ขอกินบ้างสิครับ” เอฟเอ่ยขอเสียงอ้อน
“อ่ะ” เจ้าของวันเกิดก็จิ้มสตรอเบอรี่ลูกโตจ่อปากคนขอ เอฟไม่รอช้ารีบงับสตรอเบอรี่เข้าปากทันที ด้วยท่าทางมีความสุขมากๆ
วันนี้น้องยังไม่ตอบรับความรู้สึกของเค้าก็ไม่เป็นไร เต๊าะไปวันละนิด หยอดวันละหน่อย เดี๋ยวก็สำเร็จเองแหละเนอะ
“แหมๆ ๆ เหล้านี่ใส่น้ำตาลป่าววะ ทำไมมันหว๊านหวาน” เสียงมารผจญเอ่ยขัดขึ้นมา เอฟหันไปมองเพื่อนรักตาขวาง แต่อีกคนไม่สะทกสะท้านหรอก แถมยังขำเพื่อนเสียอย่างนั้น
แต่จะไปสนใจทำไม แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เป็นปีใหม่ที่ไม่ต้องเคาท์ดาวน์อย่างเดียวดาย และอีกไม่นานเค้าจะต้องลบชื่อตัวเองออกจากทำเนียบคนโสดศตวรรษที่ 21 ให้จงได้!!
ขอเอาชื่ออาอีฟของน้องปรางค์เป็นเดิมพัน!!
จบตอนพิเศษ 1[/b]
Talk
มาส่งตอนพิเศษค่ะ ย้อนหลังไปวันปีใหม่เลยเนอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ละอ่ะ แต่ก็อยากแต่งตอนพิเศษที่เป็นเหตุการณ์วันปีใหม่ และเป็นวันเกิดของปีใหม่ด้วย
จบตอนพิเศษไปแล้ว พี่เอฟคนเต๊าะ 2018 ของเราก็ยังคงเป็นคนโสดศตวรรษที่ 21 อยู่ดี 555555
เราจะไม่ยอมให้พี่เอฟเลิกโสดง่ายๆ ในเมื่อคนแต่งก็ยังเป็นคนโสด 2018 อยู่เหมือนกัน #ชั่วร้ายเนอะ
พี่เอฟต้องโสดไปพร้อมๆ กะเรา โสดเป็นเพื่อนเราสิ!