สวัสดีคะทุกคน
พอดีเสาร์ที่ผ่านมา ไปเมามาคะ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์
โดนกะเทยน้อยลวมลาม ชิส์
อิดอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กรูนะ รุ่นแม่เมิงแล้วนะ
มาล้วงกรูทำมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปล. สาเหตุที่ตั้งชื่อเรื่องว่า นางไม้ เพราะคนเขียน ชีเรียน พฤกษศาสตร์ ไงคะ! อิอิ
ต่อกันเลยนะคะ
.........................................
ล่วงเข้าวันที่สาม....
วันนี้น้องเค้าต้องไปเก็บตัวอย่างบนดอยสุเทพค่ะ
ดิชั้นก็แถหอย ครูดไปกับถนน ขึ้นดอยไปช่วยสุดฤทธิ์สิคะ
เพื่อรักแล้วดิชั้นยอมเหนื่อยยอมทนค่ะ เก๋ มิเคอะ กะเทย!
แทนที่จะได้ไปแม่ริม ดิชั้นก็เลือกไปช่วยน้องเค้าแทน
แต่งานนี้เสือกมีชะนีน้อยนักดนตรีในวงไปช่วยเก็บตัวอย่างด้วยค่ะ
น้องเค้าสอนให้ดิชั้นรู้จักมอสหลายตัวเหมือนกัน
(อีตอนสมัยที่เรียนอยู่ดิชั้นได้ A วิชา Bryology ค่ะ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ดิชั้นรู้จักอีพืชไม่มีท่อลำเลียงนี้มากขึ้นเลยค่ะ)
สรุป....ก็สนุกดี แต่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก
เหนื่อยกายน่ะไม่เท่าไหร่
แต่ เหนื่อยใจ --> สุดฤทธิ์ค่ะ
เพราะอีน้องก็แสดงอาการไม่ค่อยจะใยดีอะไรดิชั้นเหมือนเดิม
แถมตอนลงจากดอย มีหนุ่มๆ ขี่จักรยานสวนขึ้นไป
อีนี่ก็จะแสดงอาการกรี๊ดกร๊าดด... คือไม่ได้กรี๊ดแบบสาวแตกนะคะ
แต่ฮีจะแบบว่า ชี้ชวนให้ดูหนุ่มคนนั้นหนุ่มคนนี้อยู่ตลอด
ซึ่งดิชั้นดูๆ แล้วก็.....
แต่ละคนเพลียได้อีก!!!
ดอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เลยแอบคิดว่ารสนิยมน้องมันบ้านๆ แบบนี้ล่ะมั้ง มันเลยมองว่าอีหน้าหนอนอย่างดิชั้นน่ารัก
สุดท้ายเลยว่าจะไปกินข้าวเย็นด้วยกันค่ะ
ก็เข้าใจหรอกว่าอีน้องชะนีน้อยมีช่วยงานทั้งวัน ก็ควรจะพามันไปเลี้ยงข้าว
แต่เดี๋ยวก่อน!
ทำไมไม่พาไปวันอื่นวะ ?
สุดท้ายเลยต้องไปกันสามคน
แล้วใครจะเลี้ยงล่ะถ้าไม่ใช่ผู้อาวุโสสูงสุดอย่างดิชั้น
แต่เนื่องจากตัวเราเลอะกันมาทั้งวัน เลยกะว่าจะไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน
ระหว่างทางก็ไปส่งน้องชะนีก่อนนะค่ะ แล้วก็ต้องผ่านหอน้องมันก่อนที่ถึงโรงแรมดิชั้น
อีน้องมันก็หยอดใส่เราว่า ไปเที่ยวห้องผมมั้ยครับ
ดิชั้นก็ตอบแบบเสียงเย็นๆ ว่า "ไปสิครับ"
น้องมันก็พูดว่า โห พี่ แรงว่ะ (แรงสิ กรูจะสามสิบแล้วโว้ย ขบวนสุดท้ายแล้ว)
ตอนนั้นอยู่ในรถกันสองคน ก็เลยตัดสินใจพูดมันไปเลย สารภาพกับน้องมันว่า....
เราชอบมัน...แบบคนรัก และเราก็รู้ว่ามันเร็วเกินไปที่จะพูด เพราะรู้จักกันแค่สองวัน
แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อพรุ่งนี้ดิชั้นก็จะกลับกรุงเทพฯแล้ว
ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมือ่ไหร่ เกิดเครื่องบินตกขึ้นมาล่ะ ก็กลายเป็นว่าดิชั้นตาย
โดยที่ไม่ได้บอกรัก ดิชั้นไม่เอาด้วยหรอก
ขออยู่กับปัจจุบันขณะดีกว่าค่ะ ชิมิ?
น้องมันก็บอกว่ามันก็ชอบชั้น แต่มันกลัวว่ามันจะทำให้ชั้นเจ็บ (ตรงไหนคะ? แบบว่าสารหล่อลื่นมีคะ )
กลัยเข้าเรื่องคะ น้องมันก็บอกว่ามันก็ชอบชั้น แต่มันกลัวว่ามันจะทำให้ชั้นเจ็บ
เพราะมันเป็นคนแบบว่า เห็นใครก็ชอบก็รักไปทั่ว
ตอนนั้นดิชั้นก็เริ่มสะอึกค่ะ ก็เลยบอกน้องไปว่า "ก็รับพี่ไว้พิจารณาแล้วกัน"
น้องมันก็บอกว่า นั่นผมต้องพูดต่างหาก ว่าพี่แหละต้องรับผมไว้พิจารณา
แล้วความเงียบ และความรู้สึกอีหลักอีเหลื่อ (สะกดแบบนี้มั้ยเนี๊ยะ) ก็เกิดขึ้นค่ะ
สรุปว่าท้ายที่สุด... เย็นนั้นเราก็ไปทานข้าวกันสามคน โดยที่ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก
น้องเค้าก็หันไปคุยกะชะนีน้อย โดยทิ้งให้ดิชั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไส้ติ่ง เป็นส่วนเกินค่ะ
ตอนขากลับก็เลือกที่จะมาส่งดิชั้นที่โรงแรมก่อน
ทำให้ตัดโอกาสที่จะมีการพูดคุย (หรือแม้แต่ชวนขึ้นห้อง) กันอีกรอบ
สำหรับดิชั้นแล้ว แม้ว่าจะไม่มีประโยคปฏิเสธหลุดจากปากน้องเค้า
แต่การกระทำ รวมถึงคำพูดต่างๆ ที่น้องเค้าทำในคืนนั้นสำหรับดิชั้นมันก็คือการปฏิเสธไปแล้วค่ะ
เฮ้ออออ.....
T-T"