๔๖“ตั้ม” ชัย เรียกพลางค่อยๆใช้กระดาษชำระเช็ดน้ำตาให้ “ร้องไห้เพราะเสียใจเหรอ”
ตั้ม เงียบไม่ตอบคำถาม
“หรือว่าเพราะดีใจ” ชัยถามอีก
“ไม่รู้ ... ตั้ม ไม่รู้ พอคิดขึ้นมาว่าดวงตาคู่นั้น มันเป็นดวงตาของ ปอ น้ำตามันก็ไหลออกมา”
“นั่นแพราะ ตั้ม รัก ปอ มากไง” ชัย บอก “ก็เลยดีใจที่ยังมีบางส่วนของ ปอ ยังคงอยู่ แล้ว ตั้ม ก็คงรู้ความหมายที่ ปอ พยายามบอกมาตลอด แล้วยิ่งรู้ว่า ปอ มาอยู่ใกล้จนคิดไม่ถึง ก็เลยยิ่งตี้นตัน” พูดพลางลูบศรีษะของ ตั้ม เบาๆ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่จากสีหน้าและแววตา ดูเหมือน ตั้ม จะยอมรับในสิ่งที่ชัยพูด
“แล้ว ภู ไม่ได้บอกอะไรกับ ตั้ม บ้างเลยเหรอ” ราญ ถามบ้าง
ตั้ม นิ่งคิด และเหมือนจะคิดถึงบางเรื่องขึ้นมาได้
“พี่ราญ มันจะเป็นไปได้มั๊ย ที่ดวงตาของ ปอ จะมีความทรงจำบางอย่างติดอยู่ แล้วทำให้ ภู ฝันถึงเรื่องพวกนั้น”
“ทางการแพทย์ มันเป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้” ราญ พูดยิ้มๆ “แต่ในเรื่องที่เป็นศาสตร์เหนือการพิสูจน์แบบนี้ พี่ชายคิดว่า ตั้ม น่าจะพอรู้คำตอบ เพราะเจอมากับตัวเองหลายครั้งแล้วนี่”
“แต่เจ้าปอ นี่ก็เหลือเกิน” ตั้ม และ ราญ ต่างหันไปมองเมื่อ ชัย พูดขึ้นมา “ขนาดเหลือแค่ตา ยังอุตส่าห์ตามหา ตั้ม จนเจอจนได้ ยอมแพ้มันจริงๆหว่ะ” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“แปลว่าที่ ภู เค้ามาคบกับ ตั้ม เพราะ ปอ งั้นเหรอ” ตั้ม พูดขึ้นมาด้วยเศร้าๆ
“แล้ว ตั้ม ล่ะ ที่รัก ภู ตอนนี้ เพราะ ปอ รึเปล่า” ราญ พูดอย่างอ่อนโยน
“ไม่ใช่” ตั้ม หันไปตอบทันที “ตอนแรกที่ประทับใจเค้า อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าแววตาของเค้าเหมือนแววตาของ ปอ เวลามอง ตั้ม แล้วเค้าชอบพูดอะไรคล้ายๆกับที่ ปอ เคยพูด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องพวกนี้”
“อย่างนั้นตอนนี้ล่ะ ตั้ม รักเค้าตรงไหน”ชัย ถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ตอนนี้ไม่รู้แล้ว” หน้า ตั้ม เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ “รู้แต่ว่า ตั้ม รัก ภู ... รักมากๆเลย”
“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ” ชัย พูดพลางเอื้อมมือไปหยิกแก้ม ตั้ม เบาๆ “ปอ มันก็คงอวยพรให้ด้วยแหละ ขนาดในฝันมันยังทำยังกับส่งตัว ภู ให้ ตั้ม เลยไม่ใช่เหรอ” พูดแล้วก้หัวเราะออกมาอีก
“พวกพี่ชายก็อวยพรให้ ตั้ม ด้วยนะ พวกเราอยากให้ ตั้ม มีความสุข” ราญ พูดเสริม “ส่วน ภู น่ะเค้าจะมาเจอ ตั้ม ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พี่ชาย คิดว่า ความรู้สึกของเค้าคงไม่ต่างจาก ตั้ม ตอนนี้นักหรอก”
“นั่นสิ” ชัย พูดขึ้นบ้าง “อย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยๆ มาทำให้ความรู้สึกนี้มันสั่นคลอน ความสุขในตอนนี้ ควรจะรักษามันไว้ให้นานที่สุด”
ตั้ม นิ่งฟังอย่างตั้งใจ จะเป็นเพราะจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ตัวเองคิด หรือเพราะอะไรไม่ทราบได้ ตั้ม ไม่ได้เอะใจเลยว่า ทำไม ราญ และ ชัย เหมือนจะไม่แสดงอาการว่าตื่นเต้นหรือตกใจเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้รู้ว่า ภู ได้รับการผ่าตัดดวงตามาจาก ปอ
...............................................................
..........................
“นั่นพี่เค้ามากับใครวะ” เล่ หันไปกระซิบกับ บุ๋ม
“ไม่รู้หว่ะ ไม่เคยเห็น แต่ดูดิ ท่าจะสนิทกันฉิบ” บุ๋ม ตอบพลางมองไปยังคนทั้งสามที่นั่งชิดติดกัน จนไหล่แทบจะซ้อนเกยกัน โดยมี ตั้ม นั่งอยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยชายหนุ่มทั้งสองที่มาด้วย
“เอาซะหน่อยมั๊ยวะ” เล่ ถามความเห็น
“เออ” บุ๋มตอบสั้นๆ
“วันนี้พี่สาว ... เอ๊ย พี่ชายของผมมาอีกแล้ว” เล่ พูดออกไมค์ “ใครอยากฟัง พี่ตั้มร้องเพลงมั่งครับ ขอเสียงหน่อยยยย”
มีเสียงเชียร์และเสียงตบมือดังขึ้น โดยเฉพาะจากพนักงานในร้าน เพราะทุกคนค่อนข้างคุ้นเคยกับ ตั้ม พอสมควร
“มาเลยเร็วพี่”
เล่ เร่ง แล้ว ตั้ม ก็หันไปยิ้มให้ชายหนุ่มทั้งสอง พลางลุกจากเก้าอี้เดินมาที่เวทีเล็กๆ
“เดี๋ยวมาฟังเพลงเก่งของพี่เค้านะครับ” เล่ พูดโดยไม่หันมาบอกกับ ตั้ม เลยว่าเป็นเพลงอะไร
แล้วเมื่อเสียงเปียนโนไฟฟ้าดังขึ้น ตั้ม ก็ต้องขมวดคิ้ว พลางหันไปมอง เล่ ที่หันมายักคิ้วให้ ท่อนเริ่มต้นของเพลง เริ่มวนมาใหม่เป็นครั้งที่สอง ท่ามกลางความเงียบของคนในร้าน ซึ่งต่างก็สงสัยกันว่าทำไม ตั้ม ไม่เริ่มร้องเพลงนี้เสียที ตั้ม หลับตาลง ยกไมค์ขึ้นมา แล้วเปล่งเสียงออกมาเมื่อจบท่อนเริ่มต้นในรอบที่สาม
http://media.imeem.com/m/OvDkskn5am/aus=false/“Lovin’ you is easy cause you’re beautyful…”
ระหว่างที่ ตั้ม ร้องเพลง สายตาจ้องมองไปยังพื้นเบื้องหน้า ไม่ได้สังเกตว่า ขณะที่ขึ้นไปยืนบนเวที มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในผัป แล้วกวาดสายตาไปตามโต๊ะต่างๆ เหมือนจะมองหาใครสักคนหนึ่ง แล้วเมื่อ ตั้ม เริ่มร้องเพลง สายตานั้นก็เปลี่ยนมายังเวที และจ้องมอง ตั้ม แน่วนิ่ง ท่าทางที่มองไปยังพื้นบ้าง เพดานบ้าง หรือหลับตาเหมือนกับกำลังซาบซึ้งกับบทเพลง โดยไม่ได้มองไปยังผู้ใดเลย ทำให้เขารู้ว่า ตั้ม คงกำลังร้องเพลงนี้โดยที่คิดถึงใครสักคนหนึ่งอยู่ในใจ
... อาจจะเป็นคนรักเก่า ...
... อาจจะเป็นคนสำคัญผู้จากไป ...
หรืออาจจะเป็นตัวเขา ... ที่ ตั้ม กำลังคิดถึงอยู่
เหมือนกับที่เขาคิดถึง ตั้ม จนต้องออกมาตามหาถึงที่นี่