ตอนที่19
“พี่กาจน์กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ”ตอนปิดเทอมที่ผมกำลังจะขึ้นมหาลัย น้องสาวคนสวยก็เดินเข้ามาหาผมในห้องนอน ในมือของเธอมีถาดคุกกี้กับชาด้วย ผมเดาได้เลยว่าเธอต้องแย่งงานแม่บ้านทำอีกแล้วแน่ๆ
ผมยกมือขึ้นลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู”พี่กำลังเก็บของอยู่ครับ”
“พี่กาจน์จะไปเที่ยวไหนเหรอคะ”
“ป่าวครับ พี่ไม่ได้ไปไหน พี่แค่จะย้ายไปอยู่คอนโด”ถาดในมือของน้องสาวสั่นจนผมสังเกตเห็น เธอก้มหน้าลงมองพื้นขณะนำถาดคุกกี้วางลงข้างกายผม ร่างบางค่อยหย่อนตัวลงนั่งส่งสายตาเศร้าสร้อยมองกองเสื้อผ้าที่ผมกำลังจัดลงกระเป๋า
“มหาลัยก็ไม่ได้ไกล พี่กาจน์อยู่บ้านไม่ได้เหรอคะ”
“คณะพี่มันงานเยอะน่ะสิ อาจจะต้องกลับดึกบ่อยๆ กิตต์เองก็จะย้ายไปอยู่คอนโดเหมือนกัน ขอโทษนะครับ แต่พี่สัญญาว่าจะมาเยี่ยมเอิญบ่อยๆ”
“เอิญไปอยู่กับพี่กาจน์ที่คอนโดบ้างได้มั้ยคะ”นางฟ้าตัวน้อยของผมเอียงคอถาม
ถึงผมอยากจะพาเธอไปอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ยังไงเราก็ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด”ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคนอื่นมองไม่ดีเอานะ เพื่อตัวเอิญเอง”
“ในละครพวกคนรวยชอบหิ้วสาวๆขึ้นห้อง พี่กาจน์จะทำอย่างนั้นมั้ยคะ”
“ฮ่าๆๆๆ แน่นอน!! นั่นน่ะความฝันของเด็กม.ปลายเลยนะ พอเข้ามหาลัยแล้วได้พาแฟนขึ้นห้องน่ะ ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ หมายมั่นปั้นมือว่าพอเปิดเทอมเมื่อไหร่ผมจะมองหาคนถูกใจมาอวดน้อง ผมไม่ชอบคบใครเล่นๆ ตอนม.ปลายผมเลยไม่เคยคบกับใคร กะว่าประกาศตัวว่าเป็นแฟนเสร็จก็ประกาศแต่งเลยทีเดียว
พาลูกเขาขึ้นห้องแล้วก็ต้องรับผิดชอบนี่เนอะ
“ทำไม...พาแฟนมาอยู่ได้...แต่เอิญไปอยู่ด้วยไม่ได้ล่ะคะ”เสียงของน้องสาวนั้นแผ่วเบาราวกับเธอไม่ต้องการคำตอบจากผม
เหมือนเธอกำลังกัดฟันพูดกับตัวเองผมจึงได้ยินประโยคนั้นไม่ชัดนัก แต่ผมไม่ได้ติดใจอะไรเลยเพราะหลังจากนั้นพวกเราก็ยังช่วยกันจัดของด้วยรอยยิ้ม
________________________________________________
“เอ้อ เด็กที่ชื่อครามอะไรนั่น ทำไมถึงตามตื๊อเราได้ล่ะ ไปโปรยเสน่ห์ใส่เขาอีท่าไหนครับพ่อหนุ่มเจ้าเสน่ห์”ขณะที่กำลังช่วยกันเก็บของ พี่กาจน์ก็เอ่ยแซวยิ้มๆ ผมรีบส่ายหน้าหวือ
“เปล่านะ! ผมนั่งกินข้าวอยู่ดีๆเขาก็เข้ามาทัก ตอนนั้นตกใจแทบแย่ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาจีบ”
“นั่นสิ พี่ก็ไม่คิดเหมือนกัน”
“อ้าว หน้าตาผมมันดีไม่พอเหรอครับ”ผมหน้าตาดีครับ ย้ำอีกครั้งว่าหนังหน้าผมติดท็อปไฟฟ์ของคณะ เพื่อนรุ่นเดียวกันที่หล่อกว่าผมมีแค่ไอ้อัทคนเดียวเท่านั้น
“อย่าเข้าใจผิดสิ พี่หมายถึงนิทานไม่น่าใช่เสป็คของเด็กแบบคราม”
“เออ อันนี้ผมเห็นด้วย”จุดนั้นมีวิศวะล่ำๆตั้งเยอะ ไหงครามถึงเลือกจีบผู้ชายที่ถูกเพื่อนรักสมัยม.ปลายตราหน้าว่านิสัยเหมือนเจ้าหญิงดิสนี่ย์อย่างผมกันน้อ
อ๊ะ จะว่าไปหลังจากวันนั้นผมก็ยังไม่ได้ติดต่อไปหาไอ้เอ็มอีกเลยนี่ ป่านนี้มันรอเผือกจนเหงือกแห้งไปหมดแล้วมั้ง
เดี๋ยวเย็นนี้ผมคงต้องติดต่อหามันสักหน่อย ถ้าพี่กาจน์ไม่ค้างห้องผมอีกอ่ะนะ
ครับ อย่างที่เห็นว่าตลอดสามวันมานี้พี่เขามาช่วยผมแพ็คของทุกวัน และค้างคืนทุกวันเช่นกัน
“อ่ะนี่ เมื่อเช้าพี่ก็ลืมให้”มือหนายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ ผมรับมาอ่านอย่างงงๆ หนังสือยกเลิกสัญญาเช่าหอ? รับรองว่าชดเชยค่าเสียหายให้แล้ว เงินมัดจำจะโอนเข้าบัญชีคุณนิธานตอนสิ้นเดือน
“อ้าว พี่ไปจ่ายค่าเสียหายให้เขาทำไมล่ะครับ ให้เขาตัดเอาจากค่ามัดจำผมไม่ง่ายกว่าเหรอ”
“ก็พี่อยากจ่ายให้ ถ้าเขาตัดจากมัดจำเราก็ไม่ยอมรับเงินจากพี่น่ะสิ”
“ตั้งแต่ตอนชาเขียวแล้วนะ ไวจริงๆผู้ชายคนนี้ ให้ตายเถอะ”ผมบ่นกับตัวเองกระปอดกระแปด ตัดสินใจว่าพอไปอยู่ด้วยกันเป็นจัดเป็นคนจัดการงานบ้านงานเรือนทั้งหมดให้เองเพราะผมก็รู้ดีเช่นกันว่าพี่กาจน์ไม่มีทางให้ผมแชร์ค่าเช่าหรือแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟผมก็คงไม่ต้องออกสักแดง
“ว่าแต่เราจะย้ายไปคอนโดเมื่อไหร่เหรอครับ”
“วันนี้”
“แล้วทำไมเพิ่งบอก!!!”
คอนโดที่พี่กาจน์มาเช่าอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยผมเท่าไหร่ ใช้เวลาขับรถประมาณ20นาที และมีทางด่วนที่ตัดผ่านมหาลัยของพี่กาจน์อยู่ไม่ไกลทำให้พี่กาจน์ไปมาสะดวก นับว่าเป็นการเลือกทำเลได้เก่งมากๆ
ผมแหงนหน้ามองอาคารทรงสูงตรงหน้า กะด้วยสายตาคร่าวๆน่าจะมี20ถึง30ชั้น ไม่รู้ว่าห้องของลูกน้องพ่อพี่กาจน์อยู่ชั้นไหนแต่ยิ่งมองขึ้นไปด้านบนระเบียงห้องก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
ชั้นล่างๆผมเห็นระเบียงฝั่งละ4อัน นั่นหมายความว่ามีห้องทั้งหมด 8ห้องต่อชั้น ส่วนชั้นบนๆนั้น... มีเพียงระเบียงเดียวทอดยาวเลยครับ
นี่มันคอนโดโคตรหรูเลยนี่ฝ่า!! เขาปล่อยเช่าเดือนละกี่แสนครับถามจริ๊ง!!
“ระวังแมลงวันบินเข้าปากนะ เลิกยืนเอ๋อแล้วตามพี่มาเร็ว”เพราะมัวแต่ยืนตะลึงตึ่งตึงเลยโดนแซวจนได้ ผมวิ่งดุ๊กๆตามพี่กาจน์เข้ามาด้านใน ระบบทางเข้าไฮโซมากครับ แสกนลายนิ้วมือ...
“เดี๋ยวนิทานต้องขึ้นทะเบียนลายนิ้วมือใหม่ตรงนู้นนะครับ ระหว่างนั้นพี่เอาเสื้อผ้าเราขึ้นห้องพลางๆนะ”
“เห้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมช่วย”
“ฮ่ะๆๆ เด็กโง่ พี่จะให้รปภ.เขาช่วยขน พี่ไม่เดินแบกเองหรอก เราจัดการธุระตรงนี้ไปเถอะ”
“ไม่เอาอ่ะ อยู่ด้วยกันก่อนเหอะ”ผมรีบดึงชายเสื้อพี่กาจน์เอาไว้ด้วยความไม่อยากถูดทิ้งจัดๆ ไม่ลองมาเป็นผมตอนนี้ไม่มีทางเข้าใจหรอก เวลาถูกคำว่าไฮโซกดดันมันน่ากลัวขนาดไหน TT โฮกกกก ขนาดพรมเช็ดเท้าหน้าฟรอนต์ยังไฮโซกว่าเสื้อผมเลย โฮกกก โคมไฟแม่งอยากสวย อันใหญ่กว่าห้องเช่าเก่าผมอีก โอ๊ะ นั่นมันเก้าอี้ทรงหลุยส์ โฮกกกก ไฮโซ น่ากลัว ไฮโซ น่ากลัว
เมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่21 พี่รปภ.ที่ช่วยขนของเป็นคนเดินนำออกจากลิฟต์ก่อน พี่กาจเดินไปเปิดห้องให้เอาของเข้าไปด้านใน ส่วนผมน่ะเหรอ”อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก”กรีดร้องอยู่หน้าลิฟต์ รัศมีแห่งผู้ดีแยงตาผมแทบบอด
เกิดมาไม่เคยประสบพบเจอเรื่องแบบนี้!
นี่มัน!!
นี่มัน!!!
ชั้นส่วนตัวในคอนโดหรู!! พอประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น21คุณจะพบกับโถงทางเดินขนาดประมาณหกตารางเมตรกับประตูบานหนึ่ง และเมื่อคุณก้าวผ่านประตูบ้านนั้นเข้าไปคุณจะพบกับห้องที่เหมือนคฤหาสน์ลอยฟ้า ในนั้นมีบันไดอยู่ด้วย ผมมองบันไดที่เชื่อมขึ้นไปชั้นบนด้วยความกล้าๆเกรงๆ พี่กาจน์คงเห็นอาการประหม่าสุดจะทนของผมจึงช่วยบอกให้ผมสบายใจว่า
“ลูกน้องพ่อพี่เขาซื้อชั้น22ไว้ด้วยเลยยื่นเรื่องขอเจาะบันได้ทะลุขึ้นไปชั้นบนน่ะ
“ลูกน้องจริงๆน่ะเหรอ!!”
“ก็จริงสิ ทำไมเหรอ”คนหล่อเอียงคอถามด้วยความสงสัยจากใจ
“กะ ก็พี่บอกว่าเจ้าของห้องนี้เป็นลูกน้องพ่อพี่”
“ใช่ครับ เราเข้าใจถูกแล้ว”
“คือ...ลูกน้องยังรวยขนาดนี้ พ่อพี่ทำงานอะไรอ่ะ”
“ก็เจ้าของธุรกิจทั่วไป ลูกน้องที่ว่าก็อยู่ในบอร์ดผู้บริหารนั่นแหละรายได้ไม่ต่างจากพ่อของพี่หรอกแค่ตำแหน่งต่ำกว่าเลยเรียกว่าลูกน้องให้เราเข้าใจง่ายๆ”
“อ่อ...”
ก็ยังโคตรรวยอยู่ดีล่ะฟะ!!
“ผมเอาของเข้าที่ตามที่สั่งแล้ว ขอตัวนะครับ”คุณรปภ.ก้มหัวบอกลาอย่างสุภาพแต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไปพี่กาจน์ก็เดินไปให้ทิป โอเค แบงค์ม่วง...ทีกับผมแค่สองบาทยังไม่ยอมให้ ชิส์ ก็เคยได้ยินมาบ้างว่าบ้านพี่กิตต์รวยมาก แต่นี่มันรวยมากๆๆๆๆๆๆไง แค่คำว่ารวยมากมันน้อยไป แหล่งข่าวแม่งโคตรมั่ว
“เดี๋ยวผมทำข้าวเย็นให้เอามั้ยครับ พี่กาจน์อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึป่าว”ผมชักไม่แน่ใจว่าอาหารบ้านๆที่ผมทำเป็นจะถูกปากเจ้าชายต้องห้ามเขามั้ย
“ทำคะน้าหมูกรอบเป็นมั้ยครับ”
“เป็นๆ”พี่นั่นแหละกินเมนูพื้นๆงี้เป็นด้วยเหรอ
ผมก็ลืมไปว่าก่อนหน้านี้พี่เขาก็กินข้างแกงถุงจากร้านข้างถนนด้วยกัน สงสัยจะเมาความหรูของห้องไปหน่อย ขอโทษก๊าบบบบ มื้อเย็นวันนั้นพวกเราไปซื้อของสดด้วยกันที่ซุปเปอร์ พี่กาจน์คือคุณหนูที่เข้าครัวไม่เป็นแต่เขาก็พยามช่วยล้างผักเตรียมของเท่าที่เขาจะทำได้
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จพี่เขาก็เซ้าซี้อยากให้ผมนอนห้องเดียวกับเขาแต่ผมไม่เห็นด้วย การนอนข้างพี่กาจน์ทำให้ผมนอนไม่ค่อยหลับ
ผมจัดแจงเลือกห้องที่อยู่ติดกับห้องของพี่กาจน์เป็นที่ซุกหัวนอน นั่งจัดของเข้าตู้อยู่คนเดียวจนเวลาล่วงเลยไปครึ่งค่อนคืน
“ตี2แล้วเหรอเนี่ย”พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ผมต้องผลัดของที่เหลือไว้ค่อยเก็บวันหลัง
“หิวแฮะ”เพราะต้องใช้แรงเยอะผมเลยต้องออกมาหาอะไรกินที่ตู้เย็น
ไฟในห้องทุกห้องมืดสนิท พี่กาจน์คงเข้านอนแล้ว อยู่แปลกที่คนเดียวมืดๆเงียบๆแบบนี้ใจก็แอบหวิวเหมือนกัน เมื่อเดินเข้าครัวผมเลยกดเปิดไฟ “เห้ย!!”แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นเงาคนนั่งอยู่ตรงห้องรับแขก
“นิทานเหรอ?”เงาตะคุ่มนั่นเคลื่อนไหวเพราะเสียงอุทานของผม
“พี่กาจน์เหรอ!?”
ก็มีกันอยู่แค่สองคนจะไปมีคนอื่นได้ยังไง
“นั่งทำอะไรเงียบๆตกใจหมด”ร่างสูงเดินเข้ามาในครัว มองนมกล่องในมือผมยิ้มๆ จะแซวว่าเป็นเด็กเลยต้องกินนมก่อนนอนล่ะสิ แต่ผมไม่หลงกลหลอก ผมยังไม่ลืมประเด็นนะ”ทำไมไม่เปิดไฟล่ะครับ นั่งอยู่ตรงนั้นนานรึยัง”
“โทษๆ พี่นอนในห้องไม่หลับเลยลองมานอนบนโซฟาดู”
“แต่เมื่อกี้พี่นั่ง”
“ลองนอนแล้วมันก็ยังไม่หลับอยู่ดีเลยเปลี่ยนมานั่งดู”
“บ้า”
“ปกติอยู่บ้านพี่ก็ต้องทำแบบนี้”
“...”
“เป็นแบบนี้บ่อยเหรอครับ”คนถูกถามเงียบไปพักหนึ่ง เพราะเราสบตากันในระยะใกล้ผมเลยเห็นว่านัยน์ตาของอีกฝ่ายวูบไหวตามความรู้สึกใจใน แม้ปากจะยิ้มออกมาแต่ใจไม่ยิ้ม
“ใช่สิ นิทานใจร้ายปล่อยให้พี่นอนคนเดียวพี่เลยนอนไม่หลับ ฮ่ะๆๆ”
ผมคิดว่ามันไม่ตลก ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่พี่เขาไปค้างหอผม ผมหลับไปแล้วแต่พี่กาจน์ยังนอนพลิกตัวอยู่ ตอนตื่นพี่กาจน์ก็บอกว่าตื่นอยู่ก่อนแล้ว
ทำไมผมไม่สังเกตให้เร็วกว่านี้วะ
พี่กาจน์เป็นโรคนอนไม่หลับ!!
คงมีหลายเรื่องกวนใจเขาอยู่ ผมตัดสินใจดูดนมให้หมดเร็วๆ เดินไปปิดแอร์ในห้องของตัวเอง เดินกลับมาปิดไฟครัวและจูงมือพี่กาจน์เข้าไปยังห้องนอนของพี่กาจน์”ผมนอนด้วยก็ได้”
คนฟังฉีกยิ้มกว้าง ขึ้นไปนอนห่มผ้าเรียบร้อยแถมยังกวักมือเรียกยิกๆ
“ครับๆ”ผมกดเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงฝั่งผมและนั่งพิงหัวเตียง
“ยังไม่นอนเหรอ”พี่กาจน์ถาม
“กล่อมพี่เสร็จค่อยนอน”
“กล่อม?”
“มาๆ เดี๋ยวเล่านิทานให้ฟัง”ผมไม่อยากทิ้งเขาไว้คนเดียว ถ้าพี่กาจน์ยังไม่หลับผมก็จะพยามไม่หลับ
ลูกน้อย(?)ของผมหลับตาพริ้ม”พี่ฟังนิทานก่อนนอนครั้งสุดท้ายตอนก่อนแม่ตาย ตื่นเต้นว่ะ อ้าว ยิ่งนอนไม่หลับหนักกว่าเดิม
ฮ่ะๆๆ”
ผมเลือกเรื่องลูกหมูสามตัวครับ
อันที่จริงการฟังนิทานก่อนนอนไม่ช่วยให้ง่วงหรอก มันแค่ทำให้เราเลิกคิดฟุ้งซ่าน เอาสมาธิมาโฟกัสอยู่ที่เสียงของคนเล่า และพอสมองโล่งเราก็จะหลับไปเอง
มันได้ผลกว่าที่ผมคิดเพราะผมเล่าไปไม่ถึงครึ่งเรื่องพี่กาจน์ก็หลับ ผมลองเรียกเขาเพื่อเช็คดูแต่เขาไม่ตอบสนองอะไร ภูมิใจนะเนี่ย อย่างน้อยๆผมก็ช่วยพี่เขาได้ หลังจากนี้ผมจะเล่าให้เขาฟังทุกคืนเลย
___________________
ถ้าใครจำตอนที่พี่กาจน์ไปค้างห้องนิทานครั้งแรกได้ อันนั้นชัดเจนมากว่าพี่แกนอนไม่หลับเหมือนกัน...
ปล.ขอมอบเพลงนี้ให้พระเอกไปฝึกร้อง 555
เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน
เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ
ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ
ได้มีเธอ เคียงข้างกัน