ก้าวที่สิบสอง
นางเอกของสายป่าน
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...วันนี้ขอนัดนักแสดงมาเจอกันที่ห้อง 4210 คณะศึกษาศาสตร์นะ
มึงลากสายป่านมาด้วย สำคัญมาก จะแนะนำตัวต่างๆ สร้างบรรยากาศ
โอเค
แหมมมมม ทำตัวเหมือนเมียเค้าเว่อ
โอ๊ย อิจฉาตาร้อน
เขาถอนหายใจ…
ไม่รู้ทำไมต้องถูกแซวเรื่องนี้อยู่เรื่อยเลย คราวหลังเขาจะเก็บความลับของตัวเองไว้ให้เงียบที่สุด เหยียบไว้ด้วยเท้าตัวเองนี่แหละ เชื่อใจได้ที่สุดแล้ว
แล้วเป็นไง โต๊ะตึกตึกกันหรือยัง
โฟร์ มันกับกูเป็นแค่เพื่อนกัน
แต่มึงไม่คิดแค่เพื่อน
หรือมันเองก็คิดกับมึงเกินเพื่อน
ไม่รู้ว่าโฟร์เอาที่ไหนมาพูด อาจจะเป็นจากปากของเหล่านางฟ้า ที่ใส่สีตีไข่เขากับไอ้สายป่านซะเละเทะ
เขาน่ะคิดเกินเพื่อนอยู่แล้ว
แต่อีกคนน่ะ เขาไม่รู้เลย
ดีแล้วที่ไม่รู้ กลัวเจ็บน่ะ
ไม่พูดกับมึงละ ไปเรียนแล้ว
จ้า ตามบายเลยจ้า
ขอให้โดนทะลวงประตูในเร็ววัน
เฮ้ออออออ
จะว่าไปแล้วมันก็แค่ข้ออ้างตัดจบบทสนทนาในไลน์แชทแหละ เพราะคาบนี้อาจารย์งดเซค แต่ดันบอกเกือบบ่ายโมง คือช่วงเช้าเขามีเรียนถึงแค่สิบเอ็ด ประเด็นคือนึกว่าวิชานี้เรียน แต่ที่ไหนได้ล่ะ อาจารย์ไม่สอน แถมนั่งรอเก้อ ตอนนี้ก็เลยมาเดินล่องลอยคนเดียวตามประสาคนลงวิชาไม่ตรงกับเพื่อนๆ
“วี๊ดวิ้ว น้องสาว”
เสียงแมลงเม่าที่ไหนดังตอนกลางวันแสกๆวะ
อ่อ ไม่ใช่
กล้าดียังไงมาเรียกเขาว่าน้องสาว เดี๋ยวพ่อจะตบ…
ไอ้สายป่าน… เหรอ
เดินหนีแม่งเลย เพราะมันนั่งอยู่กับเพื่อนที่คอฟฟี่ช็อป
“เฮ้ย แม่งคนอะไรเสียมารยาทขนาดนี้วะ”
มันตะโกนไล่หลังมา เออ กูเดินไปหาแม่งก็ได้วะ
“หน้างอง้ำหรรมตุงมาเลยว่ะ ฮ่าๆ”
ฟวยยยยยยยย
อย่าลืมว่า สายป่าน 291 คือบุคคลที่กวนตีนที่สุดในโลกครับ
“อ้าวมด ไม่มีเรียนเหรอ”
พีทักทายเขา แหม คณะเดียวกัน เพื่อนมันก็เพื่อนเขานี่แหละเอาไรมาก
“อาจารย์งดเซคอ่ะ เลยว่าง”
“…”
เขาเหล่ตามองไอ้สายป่าน จนอะไรไม่รู้ดลใจให้พูดออกมา หรือจะด้วยความหมั่นไส้ในอารมณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองสาวๆที่นั่งจิบนั่งชิลกินน้ำปั่นแถวนี้ก็ไม่แน่
“ไม่เหมือนคนบางคน ทำตัวให้ว่าง”
ได้ผลแฮะ มันหันขวับมามองเขาเลยอ่ะ 555
“กูก็งดคร้าบ”
“จ้า”
สกิลกวนตีนเขาก็มีพัฒนาบ้างอะไรบ้าง อยู่ในสังคมแบบนี้ ก็ต้องปรับตัวตามอะเนอะ
“เฮ้ย ครั้งแรกเลยนะ ได้ยินมดกัดกับไอ้หมานี่”
เดี๋ยวนะ ใช้คำว่ากัดก็แปลว่าเขาก็หมาด้วยน่ะสิ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสินะ
“ใช่ ปกตินี่แม่งไม่ใช่จะพูดกัน” กันที่นั่งข้างๆเสริมทัพ
เออ จริงด้วยสิ
นี่เขากลายเป็นคนขี้กวนตีนไปแล้วเหรอเนี่ย ใช่ประเด็นใช่มั้ยทุกคนนนน
“มึงไปง้างปากมันได้ไงวะ” พีหันไปถามเพื่อนมัน หรือก็คือไอ้สายป่านเผื่อมีคนงง เพราะทุกคนเป็นเพื่อนกัน หรือเขางงตัวเองพอเถอะอธิบายแล้วงงๆ
“ธรรมดา”
“…”
“ปากก็ต้องง้างด้วยปากดิครับเพื่อน”
ส้นตีนนนนนน
แต่ทำไมกูเขิน ไอ้เหี้ย ไอ้บ้า ไอ้เวง
เล่นไม่ดูเวลา
“ปากแบบนี้กูไปแล้วนะ” ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้มันแกล้งให้เขินฝ่ายเดียวแล้วเว้ย
ไม่ใช่จะสู้กลับนะ เขาจะเดินหนี
ป๊อดมั้ยล่ะมึง
“เดี๋ยวสิ เย็นนี้ก่อนไปห้องนักแสดงมาหาที่สนามบาสนะ ไปด้วยกัน”
“ไม่อ่ะ”
เอาดิ มึงไปเองเลยไป
“งั้นกูก็ไม่ไปอ่ะ”
มันยักคิ้วกวนๆ
“โฟร์ด่ามึงแน่ๆ”
“ก็มาดิคร้าบ”
แต่พอเอากลับมาคิด
เขาว่าเป็นตัวเองมากกว่าที่จะโดนจวกยับหากลากมันไปด้วยไม่ได้
โอ๊ยยยย บอกก็ได้ เขาเต็มใจไปดูมันเล่นบาสเว้ย
ฮื่ออออ เขิน ชวนขนาดนี้…
กูไม่ไปก็โง่แล้วครับ
“มึงงงงง เย็นนี้ไปดูสายป่านแข่งบาสกัน” มามี่เดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับน้ำปั่นที่ไม่บอกก็รู้ว่าซื้อจากที่ไหน แหม ก็โลโก้น้ำปั่นกรีนติดขนาดนี้ แต่บอกเลยว่าเป็นร้านดังสุดในย่านนี้แล้วนะเว้ย ขอค่าพื้นที่โฆษณาในนิยายของมิวเอสเอ็นด้วยนะพี่กรีน
ช่วงนี้เหมือนชีวิตเขาผูกติดกับแก๊งนางฟ้า อาจจะเพราะว่าจิ๊บกับฟ้าเริ่มหางานทำแล้ว และมันกำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน ส่วนมายด์ก็ติดแฟนหนึบยิ่งกว่าอะไรดี อย่าถามถึงเวลาที่มีให้มดของทุกคน มันช่างเจียดมาไม่ได้เลยสักนิดเดียว โหย เสียใจตายเลย
“หืม ยังไง” ลลิตาขมวดคิ้วมุ่น
“เห็นว่าเป็นนัดเล่นๆ แบบแข่งกันระหว่างเพื่อน แต่คนไปเยอะอยู่ เพราะมันรวมผู้หน้าตาดี”
อ่อ เหตุผลนี้เองสินะที่อยากไปอ่ะ ไม่ได้อยากดูเขาเล่นบาสนะ อยากดู…
“เวลาผู้ชายใส่กางเกงบอลเล่นบาสแล้วมัน โอ๊ย ใจแม่บ่ดี”
นั่นไง ลากเข้าเรื่องใต้สะดือทุกทีเลยวินดี้
“เอ๊ แต่ทำไมสายป่านถึงไม่บอกไม่ชวนคนแถวนี้น้า”
อะไร มองมาที่เขาทำไมกัน
“ก็แค่เพื่อนอ่ะเนอะ”
โอ๊ย คำนี้มันเจ็บจี๊ด
จนเขาเผลอ
“ชวนแล้วตอนกลางวัน อุ๊บ”
เอ้ยยยยยยย นี่เขาพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย
ต้องเป็นเพราะน้ำเสียงยียวนกวนประสาทของวินดี้แน่ๆที่ทำให้เขาอยากเอาชนะ โดยการโพล่งออกไปว่าเขารู้มาก่อนแล้ว จุดประสงค์เขามีแค่นั้นจริงๆนะ แต่เขาลืมนึกไปเลยว่า…
“หืมมมม มีคนขี้อวดว่ะ” มามี่
“เป็นแฟนกันก่อนค่อยมาอวดนะหนู” ลลิตา
“อิจฉาตาร้อน” ลิลลี่
“มันยังไงคะ” อุมาพร
และปิดท้ายด้วย “ออกตัวแรงงงง” วินดี้
เขาไม่ได้มีความหมายอะไรแฝงเลยนะ แค่อยากเอาชนะวินดี้ด้วยการบอกว่ารู้ก่อนเมื่อตอนกลางวันเท่านั้นเอง ไหงเป็นแบบนี้ไปได้ โอ๊ย ความอยากเอาชนะทำร้ายตัวเองเลย
“เอ๊ะ มึงๆ แอดมินเพจใครๆก็เป็นเมียสายป่านได้พึ่งส่งเสื้อที่สั่งมาพอดี” วินดี้โพล่งขึ้นมา
“อ่อ เสื้อจากเพจอิอลิซสะบี๋น่ะเหรอ” มามี่ทวนตาม
“ก็นี่ไงพวกมึง กูหาคนใส่เป็นแบบได้แล้วเว้ย”
เดี๋ยวนะ ทำไมหลังจบประโยคทุกคนถึงหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว แหม พร้อมเหลือเกินนะ พร้อมทำลายน้องเล็กในกลุ่มได้ลงคอจริงๆ
“ไม่!” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง
“น้า มด น้า”
เหล่านางฟ้าออดอ้อน เขาทนได้ไม่นานหรอก สุดท้ายความใจอ่อนก็ทำให้ยอมตกลง
“นี่เลย”
วินดี้หยิบเสื้อขึ้นมา เป็นเสื้อสีขาว ที่มีตัวหนังสือสีดำเขียนด้วยฟ้อนน่ารักๆว่า…
ไม่เพลีย ไม่ใช่เมียสายป่าน
พร้อมแฮชแท็กว่า…
#เมียสายป่าน
“ถ่ายเลยมั้ย”
ยังไงก็ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้ว เขาจะได้ไปใส่เสื้อแล้วก็ถ่ายให้เสร็จๆ
“โนๆ จ่ะ หนูมด” วินดี้โบกนิ้วชี้ไปมาน่าหมั่นไส้
“เรื่องมีอยู่ว่า…”
“…”
“เราจะไปถ่ายกันในสนามบาสวันนี้ พร้อมกับเชียร์สายป่าน”
ไม่… เอา
เขากำลังจะอ้าปากยกเลิกแต่มามี่ยกนิ้วขึ้นมาจุ๊ปาก แล้วว่า…
“คุณหมดสิทธิข้ามคำสั่งแล้ว”
แบบนี้ก็ได้เหรอ…
“คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะมาเยอะขนาดนี้อ่ะ นี่แข่งบาสชิลๆหรือกีฬามหา’ลัยวะ”
มามี่บ่นไป ก็พาเราเดินหาช่องว่างเข้าแทรกเกาะลูกกรง ดูเอาเถอะ ขนาดแขกวีไอพีที่วินดี้ภูมิใจนักหนาว่าตัวเองเป็นอยู่ ซึ่งก้ได้รับการเบะปากจากเหล่านางฟ้าอีกสี่คน วีไอพีตำแหน่งหมาหัวเน่าล่ะสิ ไหนบอกว่าไอ้สายป่านแม่งจะจัดที่ให้ไง
ดูสภาพ เกาะลูกกรงอยู่ข้างนอกสนุกจัง
“รู้งี้ทาครีมกันแดดมาก็ดี เย็นแล้วยังมีแสงอยู่เลยอิดอก”
ลลิตาที่เอามือป้องแดดหันมาบ่นกับมามี่
เขามองรอบๆ คนโคตรเยอะจริงๆนะ มองจากในสนามแล้วพวกเขาคงเป็นจุดๆหนึ่งในผู้คนมากมายอ่ะ แต่ก็นั่นแหละ อย่างไอ้สายป่านเหรอจะมาสนใจมองเขา คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว
กรี๊ดดดดดดดดดดด
ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียงกรี๊ดก็ดังระงม
สาเหตุอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ก็คนในสนามนี่แหละ
หึ ขยันอ่อยแฟนคลับจริงๆ แม่ง ไอ้สายป่าน 291 ถอดเสื้อออกพาดบ่าหลังจากชูทลูกบาสลงห่วงเป็นคะแนนแรกของการแข่งขันครั้งนี้
มันหมุนตัวไปรอบๆเหมือนกำลังมองหาใครสักคน
ไม่รู้สิ แต่คงเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่เขาอ่ะ
“สายป่านนนนนน ทางนี้”
นั่นไง เขาเรียกกันแล้ว
ก็บ้าแล้วครับ เป็นอิเจ๊มามี่ที่ส่งเสียงตะโกนสิบแปดล้านเดซิเบลแล้วโบกไม้โบกมือหยอยๆเรียกสายป่านอยู่ต่างหาก
มันเดินมาทางนี้แล้ว…
เขาเบี่ยงตัวเองไปยืนหลบมุมอยู่ข้างหลังวินดี้ ไม่รู้ทำไมตอนใส่เดินมาสนามยังไม่อายเท่าตอนนี้มันกำลังจะเห็นเสื้อที่เขาใส่อ่ะ
คนอื่นเห็นกับไอ้สายป่านเห็น มันความรู้สึกคนละเรื่องกันเลยนะ
“มด นี่ไงนายแบบที่เราจะถ่ายด้วย”
“…”
“ถ่ายคู่กับสายป่าน โปรโมตเสื้อลงในเพจใครๆก็เป็นเมียส่ายป่านได้อ่ะ”
วินดี้บอก
ไม่เอาแล้วได้มั้ย
ตอนนี้ทำยังไงก็ได้ให้มันไม่เห็นเขาจะดีที่สุด ทำตัวลีบเหลือสองนิ้วดีมั้ย
“ขอบคุณที่มาเชียร์นะครับ”
“ไม่เป็นไรจ้า เต็มใจเสมอ ไม่ชวนก็มาเชียร์จ้า” มามี่ยิ้มแก้มปริ
“อิแอดอลิซสะบี๋ฝากความคิดถึง บอกว่าวันนี้พลาดนางมีเมคอัพวิชาการเมืองการปกครอง เลยไม่ได้มาตามเก็บรูปสายป่านลงเพจ”
“พลาดแล้วพลาดเลยครับ อิอิ”
“งื้อ ห้ามยิ้มแบบนี้ใจละลาย” ลลิตาจะเป็นลม
“แหม ที่มึงใจละลายเพราะมึงเอาแต่ก้มมองหน้าท้องสายป่านล่ะสิ อิดอก” วินดี้
“มึงรู้ได้ไง” ลลิตาสงสัย
“รู้สิ เพราะกูก็กำลังใจละลาย”
ไอ้สายป่านเกาหัวแก้เขิน เขาขำในใจกับท่าทางจะเอาเสื้อลงมาปิดก็ไม่ทันแล้วของมัน ไงล่ะ เจอคนกล้าแซวคนชอบโชว์ยังต้องยอมแพ้อ่ะ
“แล้วคุณคนนั้นจะยืนหลบข้างหลังอีกนานมั้ยครับ”
มันเล่นเขาแล้ว ไม่น่าไปแอบขำมันในใจเลยเรา
“อะ อะไรวะ”
พรึบ!
มันโยนเสื้อที่ถอดข้ามกรงเหล็ก มาตกแหมะที่หัวเขาพอดี
เหม็นเหงื่อ!
ก็บ้าแล้ว… เขาไม่ได้โรคจิตนะ แต่กลิ่นมันแม่ง ขนาดผสมเหงื่อยังหอมอ่ะ โอ๊ย ไม่เอาไม่ดมแล้ว
“มาช้า”
อ้าว มึงรอกูอยู่เหรอ
“ขอโทษ”
แล้วเขาพูดอะไรออกไป เขาจะหงอยทำไมงงตัวเอง เจอกลิ่นไอ้สายป่านนี่ถึงกับเบลอไปเลยเหรอมด ตั้งสติเว้ย
“แล้ว แล้ว เอาเสื้อมาให้ทำไม”
โอ๊ย อยากตบปากตัวเองหยุดพูดตะกุกตะกักได้แล้ว
“เป็นเมียก็ฝากดูของหน่อย”
อะ อะ อะ
โอ้ บะบะ
กูพูดไม่เป็นภาษาแล้วครับ
มึงพูดอะไรออกมา ไอ้ ไอ้ ไอ้ โว้ยยยยย
ตึกตัก ตึกตัก
โอ๊ย ใจเขาบางหมดแล้ว งื้อ
เขาใส่เสื้อเมียสายป่าน
เขาเป็นเมียสายป่าน
ไม่เพลีย ไม่ใช่เมียสายป่าน
ทำไมเขารู้สึกอ่อนเพลีย
หรือเขาจะอยากเป็นเมียมันจริงๆ
ผิด
ที่จริงเขาโคตรอยากเป็นเมียมันจริงๆต่างหาก
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขาเดินไปสนามแล้วจ้า” ลิลลี่
“ใส่เสื้อเมียยังไงให้ได้เป็นเมีย” มามี่
“มีคนอยากอ่อนเพลียว่ะ” วินดี้
“มีคนใจบางด้วย” ลลิตา
“ผิด มีคนอยากเป็นเมีย” อุมาพร
เฮ้ย
ตรงไปเว้ย…
การแข่งขันจบลง แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้อะไรกับคะแนนมากมาย เป็นการแข่งชิลๆเล่นชิลๆตามประสาเพื่อน ที่มีคนมาดูเยอะที่สุดแล้วในอีเว้นท์มหา’ลัยแห่งนี้ คือถามว่าช่วงกีฬาเฟรชชี่ที่แยกแข่งตามประเภทของกีฬาอ่ะ แต่ละสนามคนมันก็กระจัดกระจายกันไป มันเยอะมั้ย ก็เยอะนะ แต่การเล่นบาสของไอ้สายป่านแค่บาสอ่ะสามารถดึงดูดคนได้มากมายขนาดนี้ คิดดูว่าความหล่อของมัน(รวทั้งเพื่อนๆมัน)ทรงอิทธิพลแค่ไหน
ไม่ใช่สายป่าน 291 คนไม่มาดูหรอกนะ…
พูดจริงๆ
“ขอเสื้อคืน”
มันเดินมาหาเขาที่ยืนรอตรงขอบสนาม ที่พวกเราได้ย้ายที่มาข้างในจากอยู่นอกกรงเพราะมามี่เดินไปอ่อยผู้ชายเลยนะ เธอได้กล่าวความภาคภูมิใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
พอกูขออะไร ผู้ชายก็ยอมทำตาม เพราะกูสวย
ซึ่งถามว่าพวกเราเชื่อไม่
ไม่!!!
“โอ๊ย แผ่นอกสายป่าน เห็นทีไร ตัวงอทุกที” ลลิตาเอ่ยชื่นชมเดือนคณะที่พวกเธอปั้นมากับมือ
“ย่ะ น่าเกลียด” มามี่ปราม
เขาคืนเสื้อให้มันเอาไปใส่ เพราะไม่งั้นคงโดนเหล่านางฟ้าแทะโลมจนพรุนไปหมด
“หิวน้ำ”
เขาขมวดคิ้ว
“ก็ไปกินสิ”
“ไม่มี เอาของมึงมาดิ๊”
เขามองขวดน้ำเพียวไลฟ์ในมือ ขวดนี้เหรอ แต่เขากินไปครึ่งขวดแล้วนะ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง มันคงไม่ใช้หลอดใช่มั้ย
ตัดสินใจยื่นไปให้
ผิดคาด!
มันกินน้ำของเขาด้วยหลอดดูดที่เสียบคาไว้ก่อนหน้า และเขาก็เคยดูดหลอดนั้นเสียด้วยสิ
“อากาศร้อนเหรอ ทำไมหน้าแดง”
เขารู้ว่ามันไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยเรื่องสภาพอากาศที่ส่งผลต่อร่างกายเขาจริงๆหรอก สังเกตจากมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาปิดไม่มิดนั่น มันโคตรดีใจที่แกล้งให้เขาเขินได้สำเร็จต่างหากล่ะ
“เอาน้ำกูคืนมา”
“น้ำมึงไม่อร่อยเท่าไหร่”
“…”
“ลองกินน้ำกูดูมั้ย”
คือ เขาจะทนไม่ไหวกับคำพูดสองแง่สองง่ามของคนตรงหน้าแล้วนะ
เหี้ยอ่ะ
“คิดไปถึงไหนวะ”
“…”
“เอาไป”
มันโดยเนสเลย์ขวดใหม่มาให้ อ้าว มึงมีแต่แรกทำไมมาถามเอาของคนอื่นไปกินวะ
แล้วมันก็ยึดของเขาไปทั้งแบบนั้น
คือ มึงไม่อยากดื่มขวดใหม่เหรอ งงใจไอ้สายป่าน
“โอ๊ย ลมมรสุมพลอดรักมันแรงจังค่ะแถวนี้คุณมามี่” ลลิตายกมือขึ้นโบกพัด แกล้งหงายหลังให้วินดี้รับ
“นั่นสินะคะ อากาศก็ดูร้อนระอุขึ้นนะคะ สงสัยพายุรักเร่าร้อนรุนแรง” มามี่ก็รับมุกที่ส่งให้เป็นอย่างดี
เอาเถอะ จะว่าอะไรก็ว่ากันมาเลยจ้า
เพราะ…เขินจนเปื่อยแล้ว
“รีบเลย สายแล้วเนี่ยมึง” เขาเร่งให้ไอ้สายป่านรีบเก็บของส่วนตัวลงกระเป๋า สงสารมันเหมือนกันนะ อาบน้ำหลังเล่นบาสเสร็จก็ต้องมาเหงื่อออกเพราะความรีบร้อนนี่แหละ
“มานี่”
มันคว้าหมับที่ข้อมือของเขาแล้วลาก
“ไปก่อนนะครับเจ๊ๆ”
ไม่ลืมโปรยเสน่ห์ก่อนจะไปจริงๆ
“เราจะเดินไปเหรอ”
และเขาก็พบว่าเป็นคำถามที่ไม่น่าถามออกมาเลย เพราะคณะศึกษาศาสตร์กับสนามบาสอยู่ไกลกันราวขั้วโลกเหนือกับใต้
“รถกูดิ วันนี้เป็นตุ๊กตาหน้ารถให้หนึ่งวันนะครับ”
“…”
“คุณมดมด”
ไม่กวน แม่งไม่ใช่มึงจริงๆ
“มดดดดด มาแล้วเหรอ กรี๊ด สายป่านตัวจริง”
โฟร์ทักเขาแต่โผเข้าไปหมายจะกอดสายป่านที่อยู่ข้างๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งคือ ไอ้บ้านี่ที่ไม่เคยหยาบคายกับเพศที่สามกลับผลักโฟร์ออกไปจนหน้าหงาย
“อะไรวะ ขอกอดหน่อยไม่ได้ ดังแล้วหวงตัวเหรอวะ”
“ตลกครับ ระวังผัวมึงให้ดีก่อนเถอะ เดี๋ยวมาชกกูอีก”
อะไร ใครผัวใคร ใครจะชกใคร เรื่องมันเป็นยังไงกันเนี่ย
แล้วมัน พูดกูมึงกับโฟร์ที่เป็นเพศที่สามเหรอ มันทำให้เขาอึ้งอีกรอบนะเนี่ย
แต่ที่อึ้งกว่าเหมือนเขาจะโดนใครบางคนต้มเสียจนเปื่อย เรื่องที่ให้ช่วยดึงไอ้สายป่านมาเล่นละครเวทีให้ ไม่สิ เขาโดนต้มจากคนสองคนจนเปื่อยไปหมดเลยต่างหาก
ไม่น่า มันถึงบอกเขาว่าคุยกับโฟร์ในไลน์และตกลงกันไปแล้ว
เฮอะ แล้วที่เขาไปเต้นแร้งเต้นกาสัทนาการ แต่งหญิงให้อับอายความแมนนั่นมันคืออะไรเนี่ย
เจ็บใจที่โดนไอ้สายป่านหลอกจนได้
แล้วยิ่งเจ็บใจกว่าเมื่อพบว่าเพื่อนรักอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
ไอ้เหี้ยโฟร์
“พึ่งรู้นะเนี่ย ว่าสนิทกันขนาดนี้ ตอนวันงานมีตติ้งยังไม่เห็นพูดคุยกันสักคำ” เขาพูดเสียงเย็น
“เอ่อ ก็ นิดนึง รู้จักกันตอนทำละครไง” โฟร์ยิ้มแห้ง
“ตอนที่จะทำ หรือ ตั้งแต่ก่อนทำละครแล้วครับ ไอ้ตอแหลโฟร์”
เขาอยากจะเข้าไปเตะก้านคอมันสักป๊าบ แต่คิดไปคิดมา กลัวมันตาย
“ขำอะไรวะ”
“ขำคนแต่งหญิงสันทนาการ”
จุกครับนาทีนี้ ศักดิ์ศรีความแมนของเขามันป่นปี้ไปหมดแล้ว
“กูไม่ได้อยากแกล้งมึงนะ ไอ้โฟร์โน่น”
สายป่านยกมือขึ้นสองข้าง หลังจากถูกเขามองค้อน
“ขี้หอยยยยย มึงวางข้อเสนอให้มันเอง”
“กูที่ไหน ก็ถ้ามึงไม่โกหกมดว่ามึงไม่รู้จักกู แล้วให้มันมาตามตื๊อกูไปแสดงละครเวที ข้อเสนอนี้ก็ไม่เกิดว่ะ”
สรุปพวกมึงสองคนสารภาพออกมาเองแล้วสินะ ว่าทั้งหมดคือแผนของพวกมึงน่ะ
“มึงเจียมกะลาหัวตัวเองเอาไว้ กูนี่ ช่วยให้มึงได้รู้จักไอ้มดมากขึ้น อุ๊บ…”
ประโยคท้ายเสียงของโฟร์ดังอู้อี้เนื่องจากถูกสายป่านปิดปากเอาไว้ เขาเลยได้ยินไม่ชัดว่ามันพูดอะไรออกมา
อะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับ การทำความรู้จัก
“เอาเถอะๆ มดอย่าโกรธกูเลยนะมึง ไปๆ ไปรู้จักนักแสดงคนอื่นๆกัน”
โฟร์ลากเขาให้เดินตามมันไป โดยมีไอ้สายป่านปิดท้ายมา
“ขอบอกว่า เซ็ทนี้เซ็ทคุณภาพแบบจุกๆ”
มันเดินไปก็ร่ายสรรพคุณนักแสดงที่มันหามาได้ไป
“หล่อคือหล่อ สวยคือสวย”
“…”
“และแปลกคือแปลกจริงๆ”
พลั่ก
“มดดดดดด”
“มดดดดดด”
พอประตูเปิดคนหลายคนก็ถลามาหาเขาพร้อมกัน
“มึงนี่มีเสน่ห์กับพวกเจ๊ๆเนอะ”
ไอ้สายป่านเปรยขึ้นแล้วเดินผ่านเขาที่กำลังถูกรุมไป ไอ้บ้า กลับมาช่วยเขาก่อนสิเว้ย
ใช่แล้วล่ะ กลุ่มคนที่ถลาเข้ามารุมกอดเขาอยู่ตอนนี้ได้แก่ สมาชิกแก๊งนางฟ้าสถาปัตย์ และบวกด้วยเจ๊กรีน กับเวลนั่นเอง
หายใจไม่ออกเว้ย…
เวลานี้พวกเราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแบบล้อมวงมีไอ้โฟร์อยู่ตรงกลาง สมาชิกรายรอบคร่าวๆเพราะบางคนเขาก็ไม่รู้จักก็จะมี แก๊งนางฟ้า กรีน เวล เดือนคณะรัฐศาสตร์ปีเดียวกันกับเขาที่ชื่อวิน มีดาวมุษยศาสตร์ปีเดียวกันชื่อมีน ผู้หญิงอีกสองที่เขาไม่รู้จักรู้แต่ว่าสวยมาก และผู้ชายอีกสามคน ไม่รู้จักเช่นกัน ที่เหลือก็คือเขากับไอ้สายป่าน แล้วก็คนตรงกลางคือโฟร์
“โอเค เรามาเริ่มแนะนำตัวกันเนอะ แล้วจะได้เลือกนางเองคู่กับสายป่าน อย่าเถียงกู มึงไม่มีสิทธิใดๆในการปฏิเสธ”
โฟร์ชี้หน้าสายป่านก่อนที่มันจะพูดว่าไม่
เผด็จการมากๆ
“เอางี้ เนื่องจากไม่มีเวลา แนะนำตัว แล้วก็เสนอชื่อนางเอกเลย เพราะงั้นมีน แล้วก็พี่ๆแนะนำตัวก่อนเลยจ้า”
โฟร์จัดการให้ผู้หญิงทั้งหมดแนะนำตัว
“มีนค่ะ คณะมนุษยศาสตร์ปีหนึ่ง เลือกตัวเองค่ะ”
ออกตัวแรงมาก
“ฝ้ายจ้า อยู่ปีห้าแล้ว คณะศึกษาศาสตร์ เลือกน้องมีนจ้า”
พี่ฝ้ายดูเป็นคนน่ารักๆ เหมาะกับคระที่เรียนมากเลย นักเรียนคนไหนได้เรียนกับครูฝ้ายนะ เขาติ๊ต่างว่าโคตรโชคดีเลย ทั้งสวย แถมยิ้มเป็นมิตรสุดๆ
“มิ้นค่ะ คณะเศรษฐศาสตร์ เลือกฝ้ายค่ะ”
“เชิญผู้ชายแนะนำตัวเลยจ้า ไอจีด้วยก็จะดีนะคะ เปิดวาร์ปซะหน่อย”
“ร่านไม่เลิกจริงๆ อิโฟร์” มามี่แซะ
“แหม แล้วเจ๊เอามั้ย”
“เตรียมจดเลยค่ะ”
จ้า ทั้งเจ๊ทั้งเพื่อนเนาะ ตามสบายเลยจ้า
“ม่อนครับ คณะเกษตรศาสตร์ ปีสอง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เดือนเกษตรนั่งลงโดยที่ยังไม่ได้เลือกนางเอก
“เอ่อ ม่อนลืมเลือกนางเอก” โฟร์เตือน
“อ้อ”
เกาหัวแก้เขินไปดิครับ
“เลือกพี่ฝ้ายครับ”
นั่นไง มันจะมีอะไรในก่อไผ่หรือเปล่าครับทุกคน สายตาน้องม่อนคือแพรวพราวมากตอนพูดชื่อพี่ฝ้ายอ่ะ
แล้วทำไมเขาจะต้องมานั่งจับผิดคนอื่นด้วยเนี่ย วิถีคนว่างไง หรือวิถีคนเสือกวะ 555
“สวัสดีครับ น้ำไนน์จากคณะบริหารธุรกิจครับ อยู่ปีหนึ่ง”
“วี๊ด น้องน้ำไนน์” มามี่หลุดกรี๊ดคนแรก
“เลือกพี่ฝ้ายครับ”
วินดี้แอบกระซิบกับเขาด้วยความหมั่นไส้พี่ฝ้ายว่า “ดูเหมือนนางจะเป็นที่ต้องการของตลาดผู้ชาย”
“กันครับ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ เลือกพี่มิ้นครับ”
“อิมีนคือหน้าจ๋อยเว่อร์ งี้แหละออกตัวแรงแต่แซงไม่ได้” เขากระทุ้งสีข้างลลิตาเป็นการปรามเธอ
ทุกคนผลัดกันแนะนำตัว จนมาถึงไอ้สายป่าน…
“สายป่าน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ครับ”
เขาตั้งใจฟังว่ามันจะเลือกใคร
“ระหว่างมีนกับพี่มิ้นนี่เลือกยากเหมือนกันนะ”
มึงจะควบสองล่ะสิ สันดาน
มันหันมาจ้องหน้าเขา เหมือนรู้ว่ากำลังถูกนินทาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
“คนที่ชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยมอม้าเนี่ย”
“…”
“น่ารักทุกคนเลย”
หน้าหม้ออออออ
แต่ทำไม
เขากลับไม่รู้สึกเลยว่ามันกำลังพูดถึงพี่มิ้นหรือว่ามีนอยู่
เพราะภาพฉายที่ปรากฏนัยน์ตาของมันไม่ใช่คนทั้งสอง แต่เป็น…
เขาเอง
TBC...............................................
ห่างหายไปนานเพราะสอบรัดตัวค่ะ วันนี้ปลดปล่อยแล้ว
โนสน โนแคร์ กับเอฟที่ลอยมาค่า 555