Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 20
อีกบททดสอบ
หลังจากที่ขรรค์แยกกับจักรและเจ้าจอมก็ไปคุมงานของคนงานที่รามินทร์กำลังถมที่ทำสวนผลไม้ เพื่อสร้างให้ลูกค้าที่มาพักรีสอร์ทได้ชมวิวในหลายๆ แบบ แต่ก็อยู่ในขั้นของการเตรียมการ เสร็จแล้วร่างสูงก็เข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปหาคนรักที่ได้นัดกันเอาไว้ว่าจะไปทานข้าวกัน
แต่ตอนนี้เที่ยงครึ่งกว่าๆ แล้ว คงไปไม่ทันแน่ๆ
(ว่าไงขรรค์ ถึงไหนแล้วอ่ะ)
“ขรรค์ไปไม่ทันแน่ๆ เลยเงิน เงินไปกินข้าวก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวขรรค์จะตามไป”
(ให้เงินกินก่อนแล้วขรรค์จะมาทำไมเนี่ย)
“ก็...” ยังไม่ทันที่ขรรค์จะเอ่ยอะไรต่อ เสียงจากปลายสายก็ดังแทรกขึ้นมา แต่มันไม่ใช่เสียงคนรักของเขาเขาเลยต้องเงียบเพื่อฟัง
(หมอเงิน...ไปทานข้าวกับหวานไหมคะ หมอติดหวานเอาไว้อยู่นะ...เอ่อ...วันนี้ผมก็มีนัดแล้วสิครับ โอกาสหน้าจริงๆ นะครับ อ่า...ขรรค์ เดี๋ยวเงินไปรอที่ร้านหน้าโรงพยาบาลนะ เร็วๆ เลย) เสียงที่พูดกับเขาเป็นเสียงกระซิบก่อนจะวางสายไป
ขรรค์ที่ค่อนข้างกังวลกับเสียงผู้หญิงที่เข้ามาหาคนรักเขาอยู่ก็รีบเหยียบคันเร่งเพื่อไปยังจุดนัดพบให้เร็วที่สุด...
ไม่แปลกใจเลยไอ้ขรรค์ เงินจะมีผู้หญิงเข้ามาหาก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว คนที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างแบบเงิน ผู้หญิงเขาก็ชอบกันทั้งนั้น...
ขรรค์กลัว...กลัวว่าตัวเองจะรู้สึกว่าไม่คู่ควรจนต้องทิ้งเงินไปอีก
“ขรรค์ ทำไมทำหน้าเครียดๆ” เงินที่นั่งทานข้าวตรงข้ามกับร่างสูงถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“เปล่าหรอก...”
“อย่าโกหก คิดอะไรอยู่บอกเงินมาเลย”
“เงินรีบกินข้าวดีกว่านะ เดี๋ยวก็จะหมดเวลาพักแล้ว” ร่างโปร่งของหมอหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจที่คนรักเปลี่ยนเรื่อง หลบสายตา...
“ขรรค์”
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ขรรค์โกหกเงิน ไหนสัญญาว่าจะไม่มีอะไรปิดบังกันไง” เงินถามด้วยสีหน้าที่ดูเสียใจ จนขรรค์เลิกลักทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ...ขรรค์ขอโทษ ขรรค์แค่คิดงานเพลินๆ ไปน่ะ” เจ้าตัวตอบไม่สบสายตาคนตรงหน้าตัวเองด้วย
“ถ้าจะให้เงินเชื่อเงินก็เชื่อ ลืมไป...ว่าเงินคงสำคัญน้อยกว่าเมื่อก่อนแล้วสินะ” หมอหนุ่มตัดพ้ออย่างน้อยใจด้วยน้ำเสียงที่ติดสั่นๆ
จริงๆ หมอเงินเป็นคนเข้มแข็งนะ แต่ถ้าอะไรที่มันเกี่ยวกับคนรักคนสำคัญ เขาจะกลายเป็นคนที่อ่อนไหวง่ายมากๆ เลยคนหนึ่ง
“ไม่จริงนะเงิน!! โอเคๆ เอาไว้ขรรค์จะบอกเงินนะ”
“เดี๋ยวนี้!”
“ไม่ได้ เงินมีตรวจคนไข้ต่อไม่ใช่หรือ”
“งั้นตอนเย็นก็ได้” ร่างโปร่งเอ่ยอย่างจำยอมเมื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเวลามันไม่พอ
“ครับ”
“แต่เงินก็ขอโทษขรรค์ด้วยนะที่เร่งให้ขรรค์รีบมาน่ะ ทั้งๆ ที่เวลามันไม่ค่อยจะมี” หมอหนุ่มว่าอย่างรู้สึกผิด เพราะขรรค์ขับรถเร็วมากจนมาทันเขาได้อาหารที่สั่งพอดี
“ไม่หรอก รถมันไม่ติดน่ะ” ขรรค์ตอบไป
เมื่อทั้งสองทานอาหารกันเสร็จแล้ว ร่างสูงก็ขับรถพาคนรักไปส่งที่โรงพยาบาลแม้จะทานแค่หน้าโรงพยาบาลก็ตามที ร่างสูงเคาะนิ้วไปกับพวงมาลัยอย่างครุ่นคิด มองคนรักที่กำลังหยิบข้าวของที่ซื้อมาฝากเพื่อนร่วมงาน
“งั้นเงินไปแล้วนะ เจอกันเย็นนี้นะขรรค์” หมอหนุ่มพูดบอกยิ้มๆ
แต่ขรรค์กลับทำหน้านิ่งๆ เหมือนกับกำลังคิดวุ่นวายไปหมด
“ขรรค์!”
“หืม...” ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนเรียกเสียงดัง
ก็แค่เหม่อนิดเดียวเอง
“เหม่ออะไรน่ะ ขรรค์เป็นอะไรหรือเปล่า” หมอหนุ่มซึ่งเป็นคนรักมีสีหน้าที่ค่อนข้างกังวลเพราะหน้าของขรรค์ดูมีความกังวลตลอดเวลา
“เปล่า”
“ขรรค์ไม่สบายหรือเปล่า เข้าไปตรวจดูหน่อยไหม เงินเป็นห่วง”
“เราสบายดี แค่เครียดเรื่องงานนิดหน่อย”
“งั้นก็เลิกคิดมากซะ ขรรค์ทำงานออกมาได้ดีอยู่แล้ว” เงินยิ้มกว้างให้กำลังใจคนรัก ขรรค์ที่มัวแต่กังวลเรื่องเสียงผู้หญิงในโทรศัพท์ของเงินก็สบายใจขึ้น
มึงจะกังวลไปทำไมวะขรรค์ คนที่เงินรักก็คือมึง มึงได้รับความเป็นห่วงนี่ สายตาที่แสนจะรักคู่นี้ ร่างกาย และหัวใจเงินเป็นของมึง...
มีแต่มึงนั่นแหละที่ทิ้งเขามา เงินไม่มีทางทิ้งมึง จำเอาไว้
“ครับ”
“งั้นเจอกันเย็นนี้นะ เดี๋ยวเงินจะซื้ออาหารเข้าไปเอง ขรรค์หุงข้าวรอนะ”
“ครับ”
“ไปล่ะ”
“เงิน...” ร่างสูงเรียกคนรักที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไปเอาไว้ก่อน ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสของเงินหันมามองคนรักอย่างสงสัย ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อโดนคนรักคว้าตัวไปแล้วประกบริมฝีปากหยักเข้าที่ริมฝีปากของเขา
ปลายลิ้นใหญ่ร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเขายามที่เขากำลังตกใจอยู่ ก่อนจะตอบสนองปลายลิ้นที่แสนจะคุ้นเคยของคนรักอย่างเต็มใจ ใบหน้าขาวใสแหงนรับเพราะคนรักตัวสูงมากกว่า มือก็ถือของฝากอยู่ไม่ปล่อยไม่ขยับไปไหน แต่เอียงหน้าไปมาให้ได้มุมองศาตอนที่จูบกัน
จริงๆ แล้วเขาสองคนควรจะกังวลเพราะนี่มันที่จอดรถของโรงพยาบาล คนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะมาก แต่ดีที่วันนี้ขรรค์เอารถที่ติดฟิล์มค่อนข้างหนามา เลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็น แต่ต่อให้เห็นก็ไม่ได้สนใจ
“อืม...”
“ตั้งใจทำงานนะ” ขรรค์ผละริมฝีปากเอามาก่อนจะพูดกับคนรัก ส่วนหมอเงินก็หน้าแดงมองตาขรรค์อย่างไม่เข้าใจในการกระทำ
“ขรรค์...”
“ขรรค์รักเงินนะ”
“อื้อ...เงินก็รักขรรค์ ขรรค์เองก็ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน เจอกันตอนเย็น”
“ครับ”
ร่างโปร่งลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ไม่รู้ ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมจู่ๆ ขรรค์ถึงจูบตน แต่ก็ดีแล้วล่ะ...มันเริ่มจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมทีละนิดๆ แล้ว
แม้จะกังวลเพราะขรรค์ดูจะคิดมากกับเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ แต่สัมผัสเมื่อกี้ก็ทำให้เขาสบายใจมากขึ้น
ขรรค์มองคนรักเข้าไปในตัวโรงพยาบาลแล้วก็ขับรถออกจากตรงนั้นมาไปยังสถานที่ที่ตัวเองต้องไปซื้อของต่อไป พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด แล้วเชื่อใจคนรักให้มากๆ
วันต่อมา
“หมอเงิน วันนี้ว่างหรือยังคะ หวานมีร้านแนะนำด้วยแหละ หมอเงินเพิ่งจะมาอยู่ได้เดือนเดียวเองคงยังไม่ได้เที่ยว หวานเป็นไกด์ให้เอาไหมคะ”
ร่างโปร่งที่เดินออกมาจากห้องพักแพทย์ก็พบกับหมอหวานคนสวยที่ยืนยิ้มหวานสมชื่อมาให้เขา
“ฮ่าๆ ผมเกรงใจครับ พอดีผมมีคนรู้จักอยู่ที่นี่น่ะ”
“ว้า...แอบเสียดาย นึกว่าจะได้เที่ยวกับหนุ่มหล่อ” หมอหวานแสร้งทำเป็นเสียดาย จนหมอเงินหัวเราะออกมาน้อยๆ
“หนุ่มหล่อๆ จังหวัดนี้มีเยอะครับ”
“หวานทำแต่งาน ไม่ค่อยได้ออกไปเห็นหนุ่มหล่อที่ว่าหรอกค่ะ” เธอตอบ
แล้วเมื่อกี้เสนอตัวเองจะเป็นไกด์ทำไมถ้าไม่ว่าง...
“นั่นสินะครับ”
“ว่าแต่วันนี้จะเบี้ยวหวานอีกไหม หมอเงินทำให้หวานรู้สึกเหมือนโดนปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วนะคะ” เธอเอ่ยออกมาแบบทีเล่นทีจริง
“วันนี้ผมได้ครับ” เพราะขรรค์ไม่เข้าเมืองวันนี้เลยไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน...เขาต่อประโยคในใจ
“ดีจัง...งั้นไปกันเลยไหมคะ”
“หืม...ชวนคนอื่นๆ ไปด้วยกันสิครับ คนเยอะๆ จะได้สนุก เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” หญิงสาวทำหน้าหนักใจออกแวบหนึ่งแต่ก็ปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว
“งั้นก็ได้ค่ะ”
หมอหนุ่มพาหมอหวานกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่เป็นพยาบาลอีกสองคนไปด้วยเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดถ้าไปกันสองคนกับหญิงสาวเพียงลำพัง
กับคนอื่นเงินจะวางตัวเองไม่ให้คนที่มองมามองแบบผิดๆ ถ้าการจะพาผู้ชายมาอีกคน ผู้หญิงสองคน คนอื่นก็จะมองว่าพวกเขาเป็นแฟนกันสองคู่ ฉะนั้นเงินเลยพาผู้หญิงมาถึงสามคนเลย คนอื่นจะได้มองว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ
“สั่งได้เลย ผมเลี้ยง”
“หมอเงินนี่หล่อแล้วยังไงดีอีกนะคะ” พยาบาลสาวที่มาด้วยกันเอ่ยยิ้มๆ
“ฮ่าๆ คุณเข็มก็ว่าไป” หมอเงินหัวเราะ
“ถ้าใครได้เป็นแฟนคงจะโชคดีมากแน่ๆ เลย น่าอิจฉาคนๆ นั้นจัง”
“หืม...คนที่เคยแต่งงานมาแล้วอย่างผมนี่นะคุณอ้อม” เงินถามพยาบาลอีกคนที่อายุมากที่สุดในที่นี่ ถือว่าเป็นรุ่นพี่ด้วย แต่เธอเป็นพยาบาล เขาเป็นหมอเท่านั้น
“แหม...ต่อให้เคยแต่งงานมาแล้ว แต่คุณหมอก็หล่อ รวย และแสนดีแบบนี้ สาวๆ เข้าคิวกันเยอะค่ะ ถ้าไม่ติดว่าอ้อมมีสามีมีลูกแล้ว คงจะตามจีบหมอเงินอีกคนแน่ๆ” เธอพูดขึ้นมายิ้มๆ
“มันก็ขึ้นอยู่ว่าหมอเงินจะเลือกใครอีกไม่ใช่หรือคะ” หมอหวานถามขึ้น ทำเอาอ้อมถึงกับหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงสัยทันที
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงหรือคะหมอหวาน”
“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละค่ะคุณพยาบาลอ้อม” หวานฉีกยิ้มหวานให้กับอ้อม ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรหมอหวานอีก หันไปสั่งอาหารของตนแทน
“เข็มสั่งได้เลยใช่ไหมคะหมอเงิน? หญิงสาวที่นั่งข้างๆ กับหมอเงินถามขึ้น ซึ่งร่างสูงโปร่งก็ตอบด้วยรอยยิ้มกว้างที่ใครก็ตามจะต้องหลงเสน่ห์แน่นอน
“ครับ ตามสบายเลยครับ”
จากนั้นทั้งสี่คนก็เริ่มสั่งอาหาร ระหว่างที่รออาหารก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป โดยส่วนใหญ่หมอหวานจะถามนั่น ถามนี่หมอเงิน จนพยาบาลสองสาวถึงกับแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้
“โห...ถ้าที่นั่นดีกว่าแล้วหมอเงินมาที่นี่ทำไมคะ”
“ผมชอบความสงบน่ะ”
“จริงเหรอหมอเงิน ไม่ใช่ว่าหัวใจอยู่ที่นี่เลยตามมาเหรอ” อ้อมแซว ทำเอาร่างสูงนั่งอมยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบอะไร
และการไม่ตอบอะไรแบบนี้แสดงว่าจริง!!
“หมอเงินไม่ตอบ แต่ยิ้มแบบนี้แสดงว่าจริงเหรอคะ?” เข็มถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่ารุ่นพี่ตนจะเอาทางถูก ซึ่งพอเธอถามจบ เงินก็แค่ยิ้มออกมาเขินๆ เท่านั้น
คนอย่างหมอเงินเขิน!!
“งั้นแสดงว่าคนแถวนี้ก็หมดสิทธิ์น่ะสิ” อ้อมจงใจแขวะหมอหวานที่ตอนนี้ทำหน้าไม่สู้ดี
“ฮะๆ หมดสิทธิ์อะไรกันล่ะครับ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าไม่มีสิทธิ์ต่างหาก”
“ทำไมหมอเงินพูดแบบนี้ล่ะคะ” หวานแสร้งถามยิ้มๆ
“แสดงว่าคนนี้หมอเงินรักมากเลยใช่ไหมคะ” เข็มถาม
“ฮะๆ ทานข้าวเถอะครับ อาหารมาเสิร์ฟแล้ว” ร่างสูงเลี่ยงที่จะไม่ตอบ แต่ทุกคนก็ต้องรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าเขามีคนรักแล้ว เข้าใจแบบนี้ก็ดี...เขาจะได้ไม่ลำบากมากนัก
หญิงสาวทั้งสามพอโดนเลี่ยงก็ไม่ซักไซ้อะไรอีกเพราะมันเป็นการเสียมารยาท อ้อมกับเข็มไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แค่มีข่าวไปกระจายให้สาวๆ ที่หมายปองหนุ่มหล่อ โปรไฟล์ดีอย่างเงินให้อกหักกันเป็นแถวๆ ก็เท่านั้น
ส่วนหมอหวานที่หมายปองหัวใจของหมอเงินก็รู้สึกผิดหวังหนัก คิดว่าหย่ากับภรรยาไปแล้วจะโสดสนิท หัวใจไม่มีเจ้าของเสียอีก ที่ไหนได้ หมอเงินมีคนที่รักแล้ว...
ใครกันคือผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นนะ...
เธอสามารถสู้ได้หรือเปล่า...
ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าบอกทีว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดใช่ไหม...
ตัวสูงใหญ่ชาวาบ ความกลัวกัดกินหัวใจ…
ทำไม...นี่มันอะไรกัน
“เฮ้ย!! ไอ้ขรรค์ มึงมองอะไรวะ ทำไมไม่เข้าไป หิวแล้วนะเว้ย!!” จักรที่เดินตามหลังร่างสูงมาบ่นหัวหน้าที่อายุน้อยกว่าตัวเองด้วยความโมโหหิว เพราะทั้งสองคนเพิ่งจะไปเดินดูดอกไม้ ต้นไม้มาอย่างเหน็ดเหนื่อย เลือกร้านอาหารดีๆ แล้วก็จะกินข้าวเสียหน่อย ดันมาเจอขรรค์ยืนนิ่งเหมือนโดนแช่แข็งขวางทางเป็นยักษ์วัดแจ้งอยู่แบบนี้
“...”
“เฮ้ย!! ไอ้ขรรค์ เข้าไปสิวะ อยากตากแอร์จะแย่แล้วเนี่ย ร้อน!”
“เปลี่ยนร้านกันไหมพี่”
“ทำไมวะ...” จักรทำหน้าสงสัย ก่อนจะมองทะลุกระจกร้านเข้าไปด้านไหน สอดส่องสายตาหาต้นเหตุที่ทำให้ขรรค์อยากจะหลบเลี่ยงด้วยความอยากรู้ปนอารมณ์โมโหหิวของตัวเอง
“นั่นมัน...หมอเงินนี่หว่า มากับใครวะ สวยเชียว” จักรถามขึ้นอย่างสงสัย
ส่วนขรรค์ตอนนี้เริ่มทำสีหน้าเย็นชาที่ดูน่ากลัวแบบที่จักรไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่า...คนตัวใหญ่ข้างๆ
“อย่าบอกนะว่ามึงหึง...เฮ้ยๆ เชื่อใจหมอเงินเขาหน่อย นั่นอาจจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน”
เขารู้ เขาเชื่อใจ แต่มันก็อดเครียด อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี...
มองจากตรงนี้...ยังรู้สึกได้เลยว่าสองคนนั้นเหมาะสมกัน
“ฉันเชื่อใจเงินนะพี่จักร แต่ว่าฉันไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ว่ะพี่”
“คนเรามันต้องมีสังคมป่ะวะ มึงต้องรับให้ได้ไอ้ขรรค์”
ภาพที่เงินยืนเคียงคู่กับอดีตภรรยาโผล่ขึ้นมาทับซ้อนกับภาพตรงหน้า...ถึงแม้จะไม่มีอะไรแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้กับบาดแผลที่มันยังไม่หาย
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกักขังคนรักเอาไว้ไม่ให้ไปไหน แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นไม่ได้...ขรรค์จะทำอะไรที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้
“มึงก็คิดมากไป ไม่มีอะไรหรอก”
“ทำไมต้องมากันสองคนวะพี่”
“โอ๊ย! ไอ้นี่...เออว่ะ มันก็จริงนะ ทำไมไม่พาคนอื่นๆ มาด้วย” จู่ๆ จักรก็เห็นด้วยและคิดตามที่ขรรค์พูด นั่นยิ่งทำให้ขรรค์รู้สึกดีเข้าไปใหญ่
การมีจักรอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของขรรค์รู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด
“เปลี่ยนร้านเถอะพี่”
“เออๆ ถ้ามึงสบายใจก็เปลี่ยน” จักรพยักหน้าเออออ ก่อนจะเดินตามหลังขรรค์ที่เดินหนีออกจากร้านมา ไม่ทันได้เห็นหญิงสาวอีกสองคนที่เดินมานั่งที่โต๊ะเลยสักนิด...
50%
เหมือนว่าขรรค์จะเข้าใจหมอเงินของเราผิดจนคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ แหะๆ
ช่วยให้กำลังใจยูกิ หรือจะติชมตรงไหนก็ได้ค่ะ ยูกิจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปจ้า
ติดตามข่าวสารแบบชัวร์ สอบถาม พูดคุยกับคนเขียนได้ที่แฟนเพจนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/