ตอนที่ 20หวางหลี่จวิน‘ก๊อกๆๆ....’ เสียงเคาะประตูทำให้ผมต้องตัดใจจากการนอนกอดร่างอุ่นๆผิวหอมๆของเฟิงหวง ทั้งๆที่เราเพิ่งได้นอนกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เพื่อลุกมาเปิดประตูตามเสียงเคาะเรียกหน้าห้อง
ระหว่างทางก็นึกว่าลูกน้องคนไหนกันที่ช่างกล้ามาขัดจังหวะการนอนยามเช้าของผมและคนรัก แต่เมื่อเปิดประตูความหงุดหงิดที่มีก็มีอันสลายหายไป แต่มีความแปลกใจเข้ามาแทนที่ เมื่อเจอเข้ากับสองแฝดในชุดนอนยืนตาแป๋วส่งยิ้มมาให้อย่างน่ารัก ก่อนสองร่างเล็กจะแทรกตัวระหว่างบานประตูเข้ามา และทำท่าถลาเข้าหาเตียงแต่ดีที่ผมรั้งไว้ทัน ด้วยอยากให้คนที่เพิ่งได้นอนนั้นพักผ่อนเยอะๆ หลังจากเฟิงหวงโดนผมบอกรักด้วยร่างกายมาทั้งคืน
“หลี่ผิง เหมยอิง เบาๆนะครับ มามายังไม่ตื่น” เจ้าของชื่อที่ผมเรียกด้วยเสียงร้อนรนนั้น ชะงักฝีเท้าที่เตรียมกระโจนเข้าหาคนบนเตียงทันที ก่อนดวงตากลมโตสองคู่เงยขึ้นสบเมื่อได้ยินเสียงเตือนของผมเข้า ด้วยความน่าเอ็นดูของลูกๆผมจึงย่อตัวลง เพื่อลงโทษคนที่มาขัดจังหวะยามนิทรา โดยการหอมแก้มยุ้ยๆคนละฟอด ก่อนคลี่ยิ้มให้สองฝาแฝดและยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบ ทั้งคู่จึงพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ
หลี่ผิงเองก็หันไปจับข้อมือน้องสาว และยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากเลียนแบบท่าทางของผมได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ส่วนเหมยอิงเองก็ยกมือปิดปากฉับ และพยักหน้าแรงๆเป็นสัญญาณตอบรับให้กับพี่ชาย ก่อนสองร่างเล็กจะค่อยๆจรดฝีเท้าลงบนพื้นพรมและพากันย่องไปที่เตียง ผมที่ยืนมองตามหลังพฤติกรรมความน่ารักของลูกๆอยู่ จึงอดยิ้มกว้างต้อนรับความสุขของการเริ่มต้นในวันใหม่ไม่ได้
วันร้ายๆที่ผมเกือบจะสูญเสียคนสำคัญตัวน้อยของครอบครัวไป ก็ผ่านมาร่วมเดือนแล้วครับ ซึ่งเหมยอิงเองก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาไม่ถึงอาทิตย์ แต่ลูกก็แข็งแรงและสดใสดังเดิม จนทุกคนรอบตัวเหมยอิงหมดห่วง และยิ้มตามรอยยิ้มสดใสของสาวน้อยได้อย่างง่ายดาย ยิ่งอากงไป๋หลงของหลานๆยิ่งแล้วใหญ่ ด้วยท่านเป็นห่วงเหมยอิงมากถึงขั้นไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเกือบทุกวัน แม้อาการเหมยอิงจะดีขึ้นแต่ลูกสาวผมก็ยังเห็นหน้าอากงตลอด แถมนิสัยของเหมยอิงเองก็เป็นเด็กน่ารักช่างอ้อนเป็นทุน ยิ่งทำให้พญามังกรขาวนั้นหลงและหวงหลานสาวขึ้นไปอีก
ส่วนหลี่ผิงเองท่านก็รักและเอ็นดูไม่ต่างกัน เพราะลูกชายของผมคนนี้กล้าพูดและมีความคิดเกินเด็ก ฉลาดจนท่านชมเปาะเรียกหาหลานชายมากกว่าลูกชายตัวเองไปแล้ว ขนาดตี้หลงและเฟิงหวงเองยังแปลกใจด้วยไม่เคยเห็นท่านสดชื่นได้ขนาดนั้น และเฟิงหวงถึงกลับแซวพี่ชายตัวเองว่าหัวหน้าแก๊งหยางหลงเหยียนคนต่อไป คงจะเป็นหวางหลี่ผิงมากกว่าหยางตี้หลงซะแล้ว แต่คนโดนแซวกลับไม่สะทกสะท้าน ด้วยยินดียกตำแหน่งให้หลานชายคนเดียวอย่างเต็มใจ ก่อนหันไปอ้อนคนรักหน้าตี๋ให้รับเลี้ยงตัวเองได้หน้าตาเฉย จนคุณธัชที่โดนอ้อนทำหน้าไม่ถูกเพราะโดนตี้หลงหวานใส่ต่อหน้าหลานๆ ก่อนทำเพียงตวาดเบาๆและถลึงตาเป็นการปราม พาให้คนรอบตัวทั้งคู่หัวเราะอย่างถูกใจ ที่ได้เห็นนายน้อยจอมเอาแต่ใจของบ้านนั้นหงอยขึ้นทันตา
การที่พวกเรามีวันดีๆแบบนี้ได้ ผมคงต้องยกความดีให้แก่แพทย์ที่รักษาเหมยอิงอย่างเต็มความสามารถ ไม่เช่นนั้นวันนี้ผมคงไม่มีตุ๊กตาน้อยที่น่ารักอยู่เป็นขวัญใจของบ้านเป็นแน่ และคนสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยคือมามาของลูกๆ ด้วยพ่อหงส์น้อยของผมทุ่มเทเวลาเกือบทั้งหมดดูแลลูกสาวตัวน้อยด้วยตัวเอง ทั้งกลางวันและกลางคืนจนผมกลัวว่าน้องจะทรุดเพราะเฝ้าไข้ลูกซะแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่ห้ามนะครับ แต่ห้ามไปผมกลับโดนงอนข้อหาที่ว่าผมใจร้าย ไม่ยอมให้เจ้าตัวไถ่โทษความผิดที่ปล่อยให้ลูกสาวโดนยิง
ผมจึงได้แต่ตามใจและคอยดูแลทั้งลูกทั้งเมียไม่ห่าง ถึงขั้นย้ายที่นอนและที่ทำงานมาตั้งรกรากอยู่ในโรงพยาบาลเลยทีเดียว ทำให้ทั้งเดือนที่ผ่านมาผมทั้งเหนื่อยทั้งสุขใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเราพ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้าตลอดเวลา และก็ภูมิใจในตัวเฟิงหวงมากที่แม้น้องจะรู้ว่าทั้งหลี่ผิงกับเหมยอิงไม่ใช่ลูกแท้ๆของผม แต่พ่อหงส์น้อยเค้าก็รักทั้งคู่ไม่เปลี่ยนแปลง และเหมือนจะรักมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างผมด้วย เพราะเดี๋ยวนี้อะไรๆก็นึกถึงลูกก่อนปาปาของลูกเสมอ ผมอยากจะงอนและน้อยใจนะ แต่พอเห็นรอยยิ้มของสามแม่ลูกแล้วก็ทำไม่ลง ผมจึงยอมตกเป็นรองเพื่อให้ลูกๆได้เป็นที่หนึ่งของพ่อหงส์น้อยเค้าไปครับ เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมสำนึกได้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเกิดอะไรบ้าง สู้ทำทุกวันของเราให้ดีและมีความสุขที่สุดไว้ก่อนดีกว่า อย่างการใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัวในยามเช้า เพื่อเฝ้ามองยอดดวงใจของคนทั้งบ้านนี่ไงครับ
หงส์น้อยแสนสวยผิวผ่องหลับตาพริ้ม นอนตะแคงตัวโชว์เพียงผิวแก้มใสอมชมพูจนน่าฝังจมูกพิสูจน์กลิ่น ส่วนใบหน้าอีกครึ่งซีกนั้นซวนซบไปกับหมอนใบนุ่ม จนเส้นผมดำขลับที่เปรียบดังเส้นไหมชั้นดีแผ่กระจายอยู่เต็มหมอนตัดกับสีขาวของเนื้อผ้า ยามแสงแดดอ่อนๆตกกระทบทำให้เปล่งประกายระยับตา จนอยากคลอเคลียลูบไล้เส้นผมกับผิวแก้ม ให้สมกับความละเอียดของเส้นไหมสลวยนุ่ม ทั้งเนื้อทั้งตัวของร่างระหงถูกห่อด้วยผ้านวมผืนใหญ่จรดลำคอ ที่ภายใต้ผ้าห่มมีเพียงผิวขาวละเอียดที่ถูกสำรวจตีตราจองไปทุกตารางนิ้ว เพียงแค่คิดถึงสัมผัสนุ่มเนียนยามฝ่ามือลูบไล้ ที่สามารถจุดให้เกิดอารมณ์หวามไหวได้ทันทีเมื่อแรกสัมผัส ทำให้หัวใจเต้นแรงร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาฉับพลัน แต่ต้องพยายามหักห้ามใจไม่กระโจนเข้าใส่ร่างแฝงของเทพธิดาที่กำลังนิทรา ด้วยผมไม่ได้อยู่สองต่อสองกับเฟิงหวง แต่ยังมีสองแฝดที่นั่งบนตักและกำลังจับจ้องคนที่ลูกเรียกว่ามามาตาไม่กระพริบ เช่นเดียวกับคนเป็นปาปาอย่างผม
“มามาสวยจังค่ะ...[อืม]....แต่ทำไมมามาถึงยังไม่ตื่นล่ะคะ เหมยอิงอยากคุยกับมามาแล้ว” ผมครางรับคำชมเสียงกระซิบกระซาบของลูกสาวที่มีให้มามาคนสวย ก่อนละสายตาจากภาพร่างที่ดึงดูดใจ เพื่อก้มมองใบหน้าเล็กๆที่เงยขึ้นสบ ยามเจ้าของนั้นส่งคำถามคาใจมาให้ ด้วยแววตาสงสัยชัดเจน
คนโดนถามอย่างผมถึงกลับอ้ำอึ้งตอบลูกไม่ได้ ไม่ใช่ไม่มีคำตอบว่าทำไมมามาถึงยังไม่ตื่น แต่ตอบออกไปไม่ได้มากกว่า ระหว่างที่ผมจ้องตาแป๋วแหววของลูกสาวอยู่นั้น แขนอวบๆของลูกชายก็เข้ามาโน้มคอลง พร้อมถ้อยคำกระซิบกระซาบให้พอได้ยินเฉพาะเราสามคน
“ปาปาคงแอบนอนคุยกับมามาทั้งคืนแน่ๆ เหมือนเมื่อก่อนที่เฮียแอบคุยกับเหมยอิง หลังจากปาปาพาเข้านอนไง ปาปานี่น่าตีเนอะ แบบนี้ต้องให้อากงลงโทษ ดึกๆไม่รู้จักนอน เนอะเหมยอิงเนอะ” ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะมีสีหน้าแบบไหนในตอนนี้ เพราะทั้งขำทั้งหมั่นไส้พ่อลูกชายจอมแสบที่ช่างคิดได้ แถมยังหันไปพยักพเยิดชักชวนน้องสาวให้เห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง
แม้คำพูดของหลี่ผิงจะทำให้เหมยอิงเลิกสงสัย แต่ขืนให้อากงของเจ้าตัวแสบรู้เรื่องว่าผมหักโหมเอากับลูกชายท่าน ผมจะได้ตัวพรุนด้วยลูกปืนตระกูลหยางเข้าน่ะสิ ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนเจ้าตัวแสบจะติดใจ และจำไปฟ้องปาปาเข้าแล้วจะยุ่ง
“จุ๊ๆ เบาๆครับ....ดูสิมามาขยับตัวแล้ว” การพลิกตัวเบาๆของเฟิงหวง เป็นโอกาสให้ผมสร้างความสนใจใหม่ให้สองแฝด ซึ่งได้ผลดีเพราะสองแฝดหันขวับจ้องมามาคนสวยตาเขม็ง ผมแอบเห็นทั้งคู่กลั้นลมหายใจอย่างลุ้นๆด้วย คงกลัวว่าตัวเองจะรบกวนการนอนของมามาเข้าล่ะมั้ง ดูสิครับเดี๋ยวนี้ลูกๆเค้ารักมามามากกว่าปาปาอย่างผมเป็นไหนๆ แต่ก็อย่างว่าล่ะครับคนสวยใจดีใครๆก็หลงรักซะหมด รวมถึงผมด้วยที่หลงรักหงส์น้อยแสนสวยตัวนี้จนหมดใจ
แพขนตาหนาขยับไหวแตะผิวแก้มใสเบาๆเป็นจังหวะ ก่อนจะกระพือเปิดเผยให้คนจับจ้องได้เห็นแววตาดำขลับ ที่มีน้ำหล่อเลี้ยงแวววาวดึงดูดสายตาอย่างน่าพิศวง เมื่อเฟิงหวงตื่นเต็มตาก็เบิกตาขึ้นน้อยๆอย่างตกใจ ก่อนคลี่ยิ้มหวานใส่ตาเราพ่อลูก และยื่นแขนออกจากผ้าห่มเพื่อรับสองร่างน้อยเข้าหาอก ปากสีสดพรมจูบแก้มเปล่งปลั่งของลูกสลับไปมา ทำให้สองแสบหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ
“อรุณสวัสดิ์ครับ ทำไมมาห้องมามาแต่เช้า หืม” ผมคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเฟิงหวงยามเจ้าตัวเค้าเหลือบมองมา เพื่อทำคะแนนแข่งกับลูกๆ แม้ตอนนี้ผมจะไม่ได้เป็นหนึ่งในอ้อมกอดของเฟิงหวง แต่ขอแค่ผมอยู่ในสายตาน้องก็พอแล้ว เพราะเมื่อคืนผมได้แสดงความเป็นเจ้าของคนร่างบางมาจนเต็มอิ่มแล้ว ปล่อยให้แม่ลูกเค้าแสดงความรักกันไปครับ
“ไม่เช้าแล้วครับ หลี่ผิงมานั่งรอมามาตื่นพร้อมเหมยอิงนานแล้ว เอ๊ะ!! นี่รอยอะไร” หลี่ผิงเงยหน้าจากอกเฟิงหวงอธิบายด้วยหน้าซื่อๆ ก่อนเจ้าตัวแสบจะชะโงกเข้าหาต้นคอขาวของเฟิงหวง ที่นั่งพิงหลังกับหัวเตียงและกอดร่างน้อยไว้ทั้งสองข้าง
เฟิงหวงสะดุ้งนิดและยกมือขึ้นปิดต้นคอบริเวณที่ลูกชี้ ก่อนถลึงตาใส่ผมและก้มไปส่งยิ้มให้เด็กช่างสงสัย จนผมต้องอมยิ้มกลั้นขำและรอฟังว่ามามาของลูกจะตอบว่าอย่างไร ส่วนสายตาก็เหลือบลงต่ำไปบริเวณเนินอกเหนือขอบผ้าห่มที่เริ่มร่นลงต่ำ ก็พบรอยแดงเหมือนที่ต้นคออยู่หลายจุด และเหมือนว่าเจ้าของยังไม่รู้ตัว เพราะเฝ้าครุ่นคิดหาคำตอบให้ลูกๆอยู่ ทำเอาผมลุ้นแทบแย่เมื่อจินตนาการถึงยอดอกสีชมพูที่แข็งเป็นไต ยามเจ้าของร้องครวญครางอยู่ใต้ร่าง
“เอ่อ อืม....รอยแมลงกัดน่ะครับ แมลงมันนิสัยไม่ดีชอบกัดไม่เลือกที่!....หลี่ผิงกับเหมยอิงทานข้าวเช้ารึยังครับ แล้วดูสิยังไม่ได้อาบน้ำเลย คนเก่งมามาเคยบอกแล้วไง ว่าตื่นแล้วต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยน่ะ หืม” ผมที่สลดไปตั้งแต่โดนกระทบว่าเป็นแมลงนิสัยไม่ดี ก็เหลือบมองสองแฝดทันทีที่โดนเฟิงหวงทำเสียงนิ่งๆเข้าใส่
แม้ใจจริงอยากเข้าไปปลอบลูกมากแค่ไหน ด้วยตอนนี้สองแฝดนั่งหน้าจ๋อยเพราะโดนมามาตักเตือน แต่ผมก็ต้องทำเฉยไว้เพราะเคยให้สัญญากับเฟิงหวงไว้แล้ว ว่าถ้าน้องอบรมตักเตือนลูกนั้น ห้ามผมให้ท้ายเด็ดขาดเพราะกลัวลูกจะเสียคน เห็นเฟิงหวงรักและตามใจลูกๆมากก็จริง แต่น้องกลับมีข้อตกลงและวางกฎระเบียบสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันให้ลูกๆได้ปฏิบัติด้วย เพื่อฝึกวินัยในการรับผิดชอบตัวเองให้กับลูกๆตั้งแต่เด็ก แม้ทีแรกผมจะไม่เห็นด้วยเพราะเรามีคนดูแลฝาแฝดอยู่แล้ว ลูกไม่จำเป็นต้องทำอะไรเอง แต่เฟิงหวงได้ให้เหตุผลกับผมจนผมต้องยอมแต่โดยดีว่า
‘ทรัพย์สิน เงินทอง อิทธิพล หรือแม้แต่บริวาร ไม่ได้สร้างเด็กให้เป็นคนดี ได้เท่ากับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่หรอกนะครับ เพราะหากวันใดเราจากโลกนี้ไปก่อนที่พวกแกจะรู้จักกับคำว่ารับผิดชอบและความเข้มแข็งแล้ว สิ่งที่เราสร้างไว้ให้พวกแกก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะลูกก็จะไม่รู้จักรักษาสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัว สุดท้ายลูกก็จะไม่เหลืออะไร’ ตั้งแต่นั้นมาผมไม่คิดจะทักท้วงยามเฟิงหวงสั่งสอนเด็กๆอีกเลย รวมถึงครั้งนี้ด้วย
หลี่ผิงและเหมยอิงก้มหน้าลงด้วยรู้ตัวว่าผิด จนผมใจเสียกลัวว่าลูกจะงอแงซะแล้ว แต่ผิดคาดเมื่อหลี่ผิงเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนพูดเสียงหนักแน่นด้วยสีหน้าจริงจังผิดกับเด็กอายุเท่ากันว่า เจ้าตัวนั้นผิดไปแล้วและเอ่ยขอโทษพร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ส่วนน้องน้อยเมื่อเห็นพี่ชายใจกล้าทำเป็นแบบอย่าง ก็ขยับตัวเข้าหามามาคนสวย พร้อมโอบรอบคอระหงและหอมแก้มเป็นการเอาใจหนึ่งฟอด ก่อนเอ่ยขอโทษอย่างอ่อนหวานด้วยรอยยิ้มออดอ้อน มาถึงขั้นนี้แล้วมามาของลูกๆมีรึจะใจแข็งอยู่ได้ เพราะเฟิงหวงค่อยๆจุดยิ้มที่มุมปากก่อนจะคลี่ออกกว้าง พาให้สองแฝดโล่งใจคลี่ยิ้มเต็มหน้าตาม แม้แต่ปาปาอย่างผมที่ลุ้นอยู่ยังอดยิ้มตามไม่ได้เชียวล่ะ แต่ผมก็รู้อยู่แล้วว่าพ่อหงส์ขาวเค้าใจแข็งกับลูกไม่ได้นานหรอกครับ ก็ออกจะรักจะหวงลูกซะขนาดนั้น
“งั้นดีเลย ไหนๆก็ยังไม่มีใครอาบน้ำ เช้านี้เรามาอาบพร้อมกันดีกว่า หลี่ผิงเหมยอิงเห็นด้วยมั้ยลูก” หลังคำชวนของผมแล้วสองแฝดตะโกนลั่นตอบตกลงทันที ก่อนจะลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นไปมารอบเตียง ผิดกับหน้าหงอยๆเมื่อครู่ลิบลับเชียว และผมก็ต้องสะดุ้งกับสายตาคาดโทษที่มีแววรู้ทันของพ่อหงส์น้อย แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นชวนหลี่ผิงไปเตรียมน้ำอุ่นสำหรับสาวๆ ก่อนจะออกมาบริการลูกสาวและมามาของลูกพาไปถึงห้องน้ำ โดยไม่ต้องให้มีใครเดินให้เสียแรงเลยทีเดียว
แรกๆเฟิงหวงก็ขัดขืนแต่อยู่ต่อหน้าลูก แถมทั้งเนื้อทั้งตัวก็เปลือยเปล่า จึงได้แต่โอบคอเกาะบ่าผมไประหว่างทางก็เท่านั้น ไม่รู้น้องจะอายลูกทำไม ด้วยผมเชื่อว่าพวกแกคงชินกับภาพความใกล้ชิดของเราสองคนแล้วล่ะครับ เพราะผมแสดงความรักกับเฟิงหวงต่อหน้าลูกๆออกบ่อย แต่ไม่ถึงขั้นจูบปากแลกลิ้นขนาดนั้นนะ ส่วนมากจะเป็นการกอดหอมโอบประคองจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่เฟิงหวงก็ไม่ชินสักที สงสัยผมคงต้องทำให้บ่อยกว่านี้เผื่อน้องจะชินขึ้นมาบ้าง
“หลี่ผิงครับ สระผมเสร็จแล้วมาหามามานะครับ ไม่มัวแต่เล่นน้ำ / คร้าบบบ” ผมกับหลี่ผิงตอบรับเจ้าของเสียงหวานพร้อมกัน และผมก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นผิวแก้มใสขึ้นสีระเรื่อคาตา ยามเฟิงหวงเหลือบตามามองผมเข้า
กิริยานี้ของหงส์น้อยก็เป็นอีกอย่าง ที่น้องไม่ยอมเคยชินกับร่างเปลือยของผมสักที เห็นกันจะๆจนถึงไหนๆแล้ว แต่ก็เป็นเสน่ห์ของพ่อหงส์น้อยเค้าล่ะครับ ให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามันตลอดเวลา ผมแอบหัวเราะคลอเบาๆกับภาพของคนขี้อาย ที่ผิวกายขาวๆออกสีชมพูระเรื่อไปทั้งเรือนร่าง ท่าจะไม่ดีแล้วครับ การมองคนน่ารักนานๆไม่ดีต่อร่างกายและหัวใจ เดี๋ยวลูกๆจะตกใจไปซะก่อน ผมจึงอุ้มหลี่ผิงที่เนื้อตัวสะอาดแล้วลงอ่างเดียวกับมามาและน้องสาวของเจ้าตัว
อ่างที่ผมว่าใหญ่แคบไปถนัดตา เมื่อต้องรองรับร่างผู้ใหญ่สองเด็กสองอยู่แบบนี้ ผมกับเฟิงหวงเรานั่งกันคนละมุม และปล่อยร่างน้อยทั้งสองให้เล่นน้ำอยู่กลางอ่าง แม้เสียงลูกๆจะพูดเจื้อยแจ้วน่าฟัง แต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่าร่างขาวนวลเนียนที่มีระดับน้ำอยู่ระดับเดียวกับยอดอกสีชมพู ผมเห็นมันโผล่วับๆแวมๆเรียกสายตาชะงัดนัก เมื่อไล่สายตาขึ้นก็พบหยดน้ำเกาะพราวที่ลาดไหล่ และไหปลาร้าที่มีจุดแดงๆบางเบาไปทั่ว ส่วนต้นคอระหงก็ดึงดูดสายตาได้ไม่แพ้กัน เมื่อปรอยผมบางส่วนหลุดจากกลุ่มผมที่รวบไว้ ลงมาคลอเคลียแนบไปกับผิวเนื้อขาวสะดุดตา ทุกส่วนที่ผมกล่าวมาทั้งหมดไม่ได้น่าหลงใหลได้เท่าดวงตาดำขลับที่ระยับพราว ยามเจ้าของมันเปล่งเสียงหัวเราะพลิ้วไหวไปกับคำพูดของลูกๆ เมื่อดวงตาคู่นั้นเบือนมาสบก็เหมือนผมโดนมนต์สะกด จนอยากหยุดเวลานี้ไว้เพื่อบันทึกภาพเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ให้อยู่ในความทรงจำได้มากที่สุด แต่แล้ว.......
“ซ่าๆๆ.....คิกๆ ฮ่าๆ ปาปาเล่นน้ำกันครับ...[ฮึๆ]” ผมเหมือนเทวดาตกสวรรค์ เมื่อมีเดวิลน้อยที่น่ารักสองตนสาดน้ำเข้าใส่หน้าเต็มๆ!!
‘โธ่ ลูกนะลูกทำลายภาพฝันของปาปาซะได้’ แถมเทพธิดาในฝันยังหัวเราะเยาะกันอย่างเปิดเผยซะอีก ผมจึงต้องตัดใจหันมาเล่นสาดน้ำกับลูกๆให้เสียงหัวเราะดังก้องห้องน้ำ แต่แอบเนียนชะโงกหน้าเข้าหาคนหน้าสวยที่ยิ้มอารมณ์ดีตลอดเวลา เพื่อขโมยจูบแก้มใสเสียหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว แถมกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
“หัวเราะเยาะกันเหรอครับ เดี๋ยวคืนนี้โดนเฮียทำโทษคืนแน่!” หลังคำขู่ของผมนั้นหงส์ขาวแสนสวยชะงักนิดหน่อย ก่อนน้องจะยิ้มเหี้ยมตาดุจนผมเป็นฝ่ายชะงักแทน และระหว่างที่ผมไม่ทันตั้งตัวนั้น ก็มีสายน้ำปะทะใบหน้าเต็มๆ ก่อนเสียงหวานจะดังขึ้น
“พวกเราอาบน้ำให้ปาปากันเร็ว....ซ่าๆๆ...[กรี๊ดด คิกๆ ฮ่าๆๆ ปาปาแพ้แล้ว~]....สาดอีกครับเด็กๆ ฮึๆ”
เสียงหัวเราะในลำคอที่ผมรู้ดีว่าเป็นของใคร ปะปนไปกลับเสียงกรีดร้องถูกใจของเหมยอิง และเสียงหัวเราะชอบใจของหลี่ผิง ทำเอาผมที่ได้แต่ปิดหน้าหลบการโจมตีด้วยสายน้ำ ยังอดที่จะอมยิ้มมีความสุขตามไม่ได้เชียวครับ สุขใดก็ไม่สุขเท่ากับการที่คนที่เรารักหัวเราะและยิ้มได้ ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจหรอกครับ พวกคุณล่ะมีคนที่ทำให้ยิ้มได้อย่างไม่มีเหตุผลรึยัง ส่วนผมน่ะไม่ต้องบอกคุณก็รู้กันอยู่แล้ว ว่าผมน่ะมีถึงสาม ‘เมียหนึ่งลูกอีกสองไงครับ’
.....THE END......ในที่สุดก็ถึงบทสรุปความรักของหวางหลี่จวินและหยางเฟิงหวงแล้ว
หวังว่าตอนจบของเรื่องนี้จะทำให้คุณผู้อ่านยิ้มได้ และอบอุ่นใจกับ
ความรักของครอบครัวหวางนะคะ และขอขอบคุณทุกการติดตาม
ที่คุณมีให้เราและตัวละครทุกตัวของเรื่องนี้ค่ะ
หวังว่าเรื่องต่อๆไปจะได้รับการสนับสนุนดีๆแบบนี้อีกนะคะ
เรามีแผนว่าจะแต่งเรื่องของหลี่ผิงและน้องธันว์ค่ะ
ซึ่งจะเป็นภาคต่อจากเรื่อง “บ่วงรักรุ่นเล็ก” ค่ะ แต่ขอออกตัวไว้ก่อน
ว่ายังไม่ได้เริ่มลงมือเลย ด้วยยุ่งกับการรวมเล่ม แต่ถ้าพร้อมจะรีบ
นำมาลงให้ได้อ่านกันแน่นอนค่ะ
+1และเป็ดให้กับทุกเม้นท์เช่นเดิมค่ะ ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ
ฝากเรื่องการรวมเล่มนิยายชุด
"เสน่ห์รัก&บ่วงรัก” ด้วยค่ะ