Hydrangea 18
ณภัทรเผชิญช่วงเวลาของการแพ้ท้องอย่างยากลำบากเพียงลำพัง ทุกเช้าเด็กน้อยแทบจะหมดแรงอยู่หน้าโถส้วมโดยไร้การเหลียวแลจากกว้านหลิน
เมื่อครั้งเริ่มโตและเรียนรู้ในอนาคตตนเองจะต้องมีคู่ครองซักคนและคนที่ต้องรับหน้าที่อุ้มท้องก็คือโอเมก้าอย่างตนภัทรก็วาดฝันไว้อย่างสวยงามว่ายามแพ้ท้องอาเจียนตนจะมีสามีที่อบอุ่นคอยลูบหลัง ยามอ่อนเรี่ยวสิ้นแรงสามีของตนจะโอบอุ้มประคับประคองด้วยความห่วงใย ยามแพ้หนักเหม็นกลิ่นอาหารสามีจะคอยเอาอกเอาใจคอยสรรหาอาหารที่ดีมีประโยชน์มาบำรุงตนและเจ้าตัวน้อยในท้อง
หากแต่ณภัทรในตอนนี้แสนโดดเดี่ยว ไม่เคยมีซักครั้งที่กว้านหลินจะเข้ามาเหลียวแล ภัทรทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยมีศลัยคอยช่วย
“คุณกว้านหลินครับ”เย็นวันหนึ่งภัทรก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปหากว้านหลินในห้อง อัลฟ่าหนุ่มมองร่างซูบเซียวนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่แม้แต่จะขานรับยังคงนอนสูบบุหรี่บนเตียงนิ่ง ภัทรเดินมาชิดขอบเตียงมือทั้งสองข้างกำชายเสื้อตัวเองไว้แน่นอย่างประหม่า
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลในตอนนั้นเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย ต่างคนต่างหันหลังให้กัน หากแต่ในวันนี้ภัทรจำเป็นต้องเข้าหากว้านหลินก่อน
อัลฟ่าหนุ่มมองโอเมก้าที่ยืนกดคางจนแทบจะชิดอกก็ให้รำคาญใจ
“ มีอะไรก็รีบๆพูดมา มายืนอ้ำอึ้งอยู่ทำไมน่ารำคาญว่ะ”ณภัทรช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกอย่างตัดพ้อ ก้อนความน้อยใจแสนน่ารำคาญที่มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวันหล่นทับจนเจ็บจุกไปหมด
อดทน เพื่อลูก ยังไงเสียช่วงนี้ภัทรก็ต้องพึ่งพิงอัลฟ่าหนุ่ม การที่ลูกมีพ่อที่ร่ำรวยนั่นก็การันตีได้อย่างหนึ่งว่าลูกน้อยของตนจะไม่ลำบาก
“วันมะรืนผมต้องไปฝากท้องนะครับ หมอนนท์บอกว่าให้คุณไปด้ว...”
“เดี๋ยวฉันจะให้เสี่ยวป๋ายมารับ”กว้านหลินพูดขัดขึ้นมาอย่างไม่แยแสจนเด็กน้อยใจกระตุก
“แต่หมอนนท์...”
“หมดธุระแล้วก็ออกไปได้แล้วฉันจะนอน”กว้านหลินล้มตัวลงนอนโดยหันหลังให้กับภัทรไม่สนใจขอขอร้องของคนเด็กกว่าเลยซักนิด ภัทรมองแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาตัดพ้อผิดหวัง
ทั้งๆที่ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะเจอเหตุการณ์นี้หากแต่เมื่อต้องเจอจริงๆหัวใจกลับเจ็บปวดราวกับไม่ได้เตรียมใจมา
พังหมดแล้ว ใจของเขาพังจนไม่เหลือชิ้นดี
กว้านหลินลืมตาขึ้นหลังจากเสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเบาๆ ในดวงตาฉายแววอ่อนล้าเจ็บปวดชัดเจน
“เด็กแข็งแรงดีนะครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงคุณแม่พักผ่อนเยอะๆอย่ายกของหนักอย่าทำอะไรที่เร็วเกินไป ทานยาที่หมอจ่ายให้ครบก็พอ อาการแพ้ดีขึ้นมั้ยครับ?”
“ก็ยังมีเวียนๆหัวตอนเช้ากับอาเจียนอยู่บ้างครับ”
“เดี๋ยวก็หายครับ แล้วทานอะไรได้บ้างครับเนี่ย?”
“ปกติทานข้าวได้นิดหน่อย เวลาคลื่นไส้ก็ฝานมะนาวจิ้มเกลือกินครับ ไม่ก็กินแตงกวาดองกับพวกผลไม้เปรี้ยวๆที่พี่ศลัยซื้อมาให้จากตลาดครับ”
“อย่ากินเกลือมากนะครับมันเค็ม แล้วนี่เค้าไม่ยอมมาด้วยเหรอครับ”ภัทรหน้าเศร้าลงทันทีที่หมอนนท์ถามคำถามนั้น อนลอยากจะตบปากตัวเองนักที่เผลอถามคำถามโง่ๆออกไป
“ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณกว้านหลินน่าจะติดงานที่บริษัทเลยมาไม่ได้ แต่ก็ให้คุณเสี่ยวป๋ายมาแทน”
“โอเคครับ เดี๋ยวไปรับยาแล้วก็กลับบ้านได้นะครับ”อนลเดินออกมาส่งภัทรที่หน้าห้องก็พอดีกับที่เสี่ยวป๋ายเดินถือแก้วกาแฟร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยกลับมาถึงพอดี
“ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับแหมรู้ใจจริง”อนลคว้าหมับเข้ากับแก้วกาแฟที่เสี่ยวป๋ายไม่ทันได้ตั้งตัว เลขาหนุ่มของกว้านหลินยืนอึ้งกว่าจะรู้ตัวอนลก็ปิดห้องตรวจโดยจิบกาแฟที่เขาซื้อมากินเอง
“อ...ไอ้บ้านี่ ใครซื้อมาให้อ่ะ นี่เป็นหมอจริงเหรอหน้าด้าน!!”ภัทรเข้ามาจับแขนเสี่ยวป๋ายพลางลูบหลังให้คุณเลขาใจเย็นๆด้วยสีหน้าขบขัน แทบจะเป็นยิ้มแรกของวันเลยก็ว่าได้
“ให้เขาไปเถอะครับ เรากลับบ้านกันเถอะผมอยากพักแล้ว”
“แวะห้างมั้ยครับ?”หลังจากรับยาเรียบร้อยเสี่ยวป๋ายก็ขับรถออกมาจากตัวโรงพยาบาล เลขาหนุ่มเอ่ยถามว่าที่คุณแม่ที่หลับตานั่งเงียบๆ ภัทรส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผมไม่มีเงินหรอกครับ”
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วงครับ เมื่อวานคุณชายใหญ่กับคุณชายรองส่งเงินมาให้บอกว่าให้พาคุณไปซื้อของให้ คุณหนูคุณวิคตอเรียก็บอกว่าถ้าไม่พอให้โทรไปบอกเดี๋ยวเธอจะโอนมาเพิ่มให้ทันที คุณชายสามเองเธอก็ให้เงินไว้ส่วนหนึ่งเหมือนกันเพราะฉะนั้นอยากได้อะไรซื้อเลยครับ”
“ผมไม่รู้เลยครับว่าต้องซื้ออะไรบ้าง”ภัทรตอบอย่างคนจนปัญญา ใจดวงน้อยอุ่นขึ้นมาบ้างจากน้ำใจพี่ๆของกว้านหลิน เด็กน้อยมองข้ามประโยคที่บอกว่ากว้านหลินก็ให้เงินมาก้อนหนึ่ง
เดี๋ยวก็คงหักกับเงินเดือนของเขานั่นแหละ วิคตอเรียเองยังคงเป็นพี่สาวที่ใจดีเสมอ หลังจากรู้ว่าตนเองท้องภัทรโทรทางไกลไปหาวิคตอเรีย หญิงสาวดีใจมากที่ภัทรจะมีลูกให้กว้านหลิน ข้อแนะนำต่างๆถูกถ่ายทอดให้ภัทร ทั้งสองคนสนิทกันจนนับเป็นพี่เป็นน้อง เด็กน้อยรักวิคตอเรียมาก เพราะในการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังนี้ภัทรไม่มีใครเลยนอกจากศลัย แต่หญิงสาวเองก็ไม่เคยมีลูกดังนั้นยามมีปัญหาอะไรภัทรจึงเลือกที่จะปรึกษาวิคตอเรียเป็นคนแรก
“เดี๋ยวผมช่วยเลือก พวกเตียงเด็กของใช้เด็กซื้อเข้าไปเลยมั้ยครับ”
“ใกล้คลอดค่อยซื้อก็ได้ครับ ไปเดินเล่นก็ได้ ผมไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้วคุณเสี่ยวป๋ายรีบกลับบริษัทมั้ยครับ”
“ไม่รีบครับวันนี้ผมมีเวลาให้คุณภัทรทั้งวันเลย”
หลังจากวันนั้นข้าวของในห้องของภัทรก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 8 ที่ภัทรตั้งท้อง เปลเด็กก็ถูกยกเข้ามาไว้ในห้องนอนเด็กโดยที่เสี่ยวป๋ายเป็นคนควบคุมการประกอบด้วยตัวเอง เลขาหนุ่มกลายเป็นเพื่อนสนิทกับภัทรไปอีกคนเพราะทุกครั้งที่มีนัดที่โรงพยาบาลคนที่พาภัทรไปหาหมอทุกครั้งก็คือเสี่ยวป๋าย เลขาหนุ่มกับคุณหมอนนท์ลับฝีปากกันทุกครั้งที่เจอกันจนภัทรหน่ายใจกับความปากร้ายสูสีกันของคนทั้งคู่ โมบายอันเล็กๆน่ารักจากฝีมือของภัทรถูกนำมาแขวนไว้ โอเมก้าท้องแก่ยิ้มให้กับความน่ารักนั้นอย่างถูกใจ ตู้เสื้อผ้าไม้อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าและของใช้เด็กที่วิคตอเรียสั่งให้เสี่ยวป๋ายไปซื้อมาเตรียมไว้ ศลัยจัดของลงตะกร้าตามคำสั่งเผื่อว่าภัทรจะเจ็บท้องกะทันหัน
“คุณภัทรไปเอนหลังก่อนเถอะค่ะ พักนี้ขยันเดินจริง ท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวันไหนเค้าบอกท้องแรกจะไม่ใหญ่มาก”
“สงสัยลูกจะอ้วนน่ะครับ เด็กผู้ชายก็แบบนี้ตัวใหญ่แถมท่าจะแสบใช่เล่นเวลาได้ยินเสียงคุณกว้านหลินน่ะถีบแรงมากเลย”ภัทรลูบท้องเบาๆน้ำเสียงเอ่ยถึงลูกชายในท้องอย่างเอ็นดูจนศลัยอดขำไปด้วยไม่ได้ ภัทรละมือจากเปลเด็กทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง
“จะไปไหนคะ?”
“ไปตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้คุณกว้านหลินครับ”
“ท้องแก่อุ้ยอ้ายแล้วงดๆไปบ้างก็ได้ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวพี่ไปตัดให้ดีมั้ยคะ?”ศลัยเสนอด้วยความเป็นห่วง เพราะหล่อนรู้ดีว่าการตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้กว้านหลินนั้นกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว และกว้านหลินก็ไม่ได้ปาทิ้งเหมือนตอนปักด้วยดอกกุหลาบ
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำให้เขาด้วยตัวเอง”ภัทรว่าก่อนจะหยิบกรรไกรตัดกิ่งที่มักพกติดมือกลับมาเก็บไว้ในห้องด้วยความเคยชิน ตะกร้าหวายใบเล็กถูกคล้องใส่มือ บรรดาแม่บ้านทักทายคนท้องด้วยสีหน้ายิ้มๆ อคติที่เคยมีต่อภัทรบัดนี้จางหายไปแล้ว ที่มีในตอนนี้คือความเอ็นดูและเห็นใจ ภัทรทักทายกลับก่อนจะเดินไปยังริมรั้วที่มีดอกไฮเดรนเยียออกดอกสดใสสวยงามหลากสีสัน โอเมก้าท้องแก่บรรจงตัดช่อที่สวยที่สุดอย่างใส่ใจ
ว่ากันว่าไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้แห่งหัวใจที่ด้านชาแทนคำตัดพ้อถึงความใจร้ายของผู้รับ ซึ่งตลอดเวลาหลายเดือนมานี้ภัทรใช้ดอกไม้ชนิดนี้สื่อสารความในใจให้กับกว้านหลินเสมอมา
ใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน แต่กว้านหลินก็ยังคงเป็นกว้านหลิน ชายหนุ่มไม่รับรู้อะไรยังคงเมินเฉยกับเขาเสมอ พูดจานับคำได้ ถ้ากว้านหลินคิดได้ซักนิดหรือมีความเชื่อใจกันซักหน่อยกว้านหลินคงไม่ใจร้ายปรักปรำและยัดเยียดข้อกล่าวหาแสนน่าอายนั้นให้กับตน โอเมก้าเด็กนิ่วหน้าเมื่อเจ้าตัวน้อยในท้องถีบจนรู้สึกจุก
“ทำไมครับ เตะแม่ทำไมลูก ไม่อยากให้แม่คิดถึงพ่อเหรอครับ อย่าเกลียดพ่อเลยนะเค้าแค่เข้าใจแม่ผิด ลึกๆแม่เชื่อว่าพ่อเค้าก็รักหนูนะครับ เป็นเด็กดีกับคุณพ่อนะลูกนะ”ภัทรส่งเสียงพูดคุยกับลูกเบาๆไม่นานแรงถีบนั้นก็หยุดลงเจ้าตัวน้อยพลิกตัวในท้องจนรู้สึกภัทรยิ้มเอ็นดูกับลูกแม้ไม่รู้ว่าลูกจะเข้าใจที่ตัวเองพูดด้วยมั้ยแต่ก็มีความสุข
เด็กน้อยรู้ว่าลูกคนนี้จะไม่ดื้อกับตนเองแน่ๆเพราะเวลาคุยด้วยลูกจะสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ภัทรจัดแจกันดอกไม้ไปวางบนโต๊ะอาหาร ในห้องรับแขกรวมทั้งห้องนอนของกว้านหลิน ความอ่อนเพลียทำให้ภัทรถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงนอนของกว้านหลินเอาหมอนมาหนุนหลังแล้วผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
“พรุ่งนี้อย่าลืมเตรียมสัญญาให้พร้อมนะเสี่ยวป๋าย งานครั้งนี้พลาดไม่ได้แม้แต่จุดเดียว”ไล่กว้านหลินยื่นเสื้อตัวนอกให้สาวใช้ในขณะที่คุยโทรศัพท์ไปด้วย ร่างสูงกวาดตามองหาภัทรแต่ไม่พบจึงก้าวยาวๆขึ้นไปบนห้อง ความเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศรวมทั้งร่างบวมๆของคนท้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงทำให้หัวใจของอัลฟ่าหนุ่มกระตุกวูบไปชั่วขณะ
แค่นี้ล่ะ”ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารนั้นใส่กระเป๋า กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นฟุ้งอยู่ในห้องของเขา ร่างสูงก้มลงไปมองใบหน้าอวบอิ่มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูก แพขนตายาวนั้นนิ่งสนิทบ่งบอกว่าภัทรนั้นหลับลึก เรือนผมสีน้ำตาลเข้มดูน่าลูบไล้จนอดใจไม่ไหวต้องวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่มนั้น แก้มที่เคยตอบเมื่อตอนแพ้ท้องบัดนี้ดูนุ่มฟูไปหมด
ภัทรในตอนนี้เหมือนมาชเมโล่ขาวๆฟูๆไม่มีผิด ไล้มือลงบนผิวแก้มเนียนลื่นก่อนจะค่อยๆยื่นปลายจมูกไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ก่อนที่ปลายจมูกจะฝังลงบนผิวแก้ม กลิ่นฝนที่เข้มข้นก็ทำให้เปลือกตาของภัทรค่อยๆเปิดขึ้น
ไล่กว้านหลินชะงักตัวยามที่สายตาประสานกัน
ราวโลกหยุดหมุน
เกิดความเงียบครอบคลุมคนทั้งคู่ไว้ ลมหายใจของทั้งสองรินรดซึ่งกันและกัน ภัทรทำใจกล้าคล้องคอของกว้านหลินไว้ก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปกดจูบกับริมฝีปากอุ่นของอัลฟ่าเจ้าชีวิตแล้วผละออก กว้านหลินมองโอเมก้าที่ส่งยิ้มหวานมาให้ตนด้วยความสับสน
ปกติภัทรจะต้องหลบหน้าหลบตาเขาสิ
แต่ทำไมวันนี้กลับต่างออกไป
“กลับมาแล้วเหรอครับ”แทนคำตอบกว้านหลินก็คร่อมร่างอุ้ยอ้ายนั้นอย่างอดใจไม่ไหว
เพราะตั้งแต่ภัทรตั้งท้องกิจกรรมบนเตียงก็งดไปโดยปริยายดังนั้นเมื่อมาเจอภัทรในตอนที่นุ่มนิ่มไปหมดทั้งตัวชายหนุ่มจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป
จมูกโด่งสูดดมทุกกลิ่นหอมหวานทุกพื้นที่บนร่างกายของภัทร
เป็นครั้งแรกที่ภัทรได้รับความทะนุถนอมและอ่อนโยนจากกว้านหลิน ความหอมหวานมอมเมาจนเผลอคิดว่านี่คือความสุขที่แท้จริงจนกระทั่งทุกอย่างจบลงกว้านหลินก็นอนหันหลังให้ตนทันที
นั่นแหละภัทรจึงรู้ว่าความฝัน ต่อให้สวยงามมีความสุขแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องตื่นอยู่ดี เด็กน้อยแต่งตัวแล้วเดินกลับไปนอนร้องไห้ในห้องนอนของตัวเองเงียบๆ
“ขาบวมแล้วนะคะ น่าจะใกล้คลอดเต็มที”ศลัยกดนิ้วลงบนขาของภัทรที่บวมมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิตย์หน้าก็ได้กำหนดคลอดแล้ว ร่างที่อุ้ยอ้ายก็ยิ่งบวมหนักเข้าไปใหญ่จนทำอะไรแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว
“หมอนัดคลอดอาทิตย์หน้าครับคงไม่มีอะไรหรอก”ภัทรวางหมวกไหมพรมใบเล็กที่เพิ่งถักให้ลูกเสร็จลงในตะกร้า ศลัยรับมาเก็บใส่ชั้นก่อนจะช่วยประคองให้เด็กน้อยนั่งได้ถนัดขึ้น
“พี่ว่าพี่ขึ้นมานอนเฝ้าคุณภัทรดีมั้ยคะ เผื่อเจ็บท้องจะได้รู้”
“เอางั้นก็ได้ครับก็ดีเหมือนกันจะได้นอนคุยกันด้วย”ภัทรตกลงอย่างว่าง่าย เขาเองก็กลัวเหมือนกันว่าจะเกิดเจ็บท้องขึ้นมากะทันหัน
“แล้วนี่ตั้งชื่อให้คุณหนูหรือยังคะ?”ศลัยเอ่ยถามเพราะหล่อนไม่เห็นว่าภัทรจะเรียกชื่อลูกเลยซักครั้ง เด็กน้อยยู่ปากส่ายหน้า
“อยากให้พ่อเค้าตั้งมากกว่าครับ โอ๊ะ!!”ภัทรกุมท้องเมื่อความเจ็บเข้าจู่โจม ใบหน้าหวานซีดจนเห็นได้ชัด
" ลูก ทำไมวันนี้เตะแม่แรงแบบนี้ล่ะครับ?”เอ่ยถามเจ้าลูกชายในท้องอย่างตัดพ้อแต่คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆคือความเจ็บบีบรัดมากขึ้นจนต้องงอท้อง
“โอ้ย...เจ็บ”
“ว้ายตายแล้ว คุณภัทรคะ”หญิงสาวรีบประคองโอเมก้าเด็กที่มีสีหน้าเจ็บปวด ที่กางเกงตัวหลวมมีคราบน้ำเปียกจนชุ่ม ทั้งสองคนเงยหน้ามองกันด้วยความตกใจ
“เจ็บท้องจะคลอดหรือเปล่าคะ??”
“ผม...ผมไม่รู้”ภัทรตอบด้วยความไม่รู้จริงๆ เขาไม่เคยคลอดลูกไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ความเจ็บที่บีบในท้องเรื่อยๆนั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวน้อยอยากจะออกมาลืมตาดูโลกเต็มที ศลัยคว้าโทรศัพท์มากดหาเจ้านายหนุ่มทันที
“คุณชายคะคุณภัทรเจ็บท้องค่ะ”หญิงสาวกรอกเสียงลงไปทันทีที่กว้านหลินรับสาย
“ออกไปเรียกแท็กซี่มารับไปโรงพยาบาลแล้วกันฉันติดงานอยู่”เสียงตอบกลับของกว้านหลินทำเอาศลัยหมดแรงจะถือโทรศัพท์ทันที หล่อนปล่อยมันตกลงข้างตัวก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆแล้ววิ่งออกไปตามคนให้ขึ้นมาดูแลภัทรส่วนตัวหล่อนเองวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อเรียกแท็กซี่มารับคนเจ็บท้องไปโรงพยาบาล อนลพาภัทรเข้าไปห้องคลอดทันทีหลังตรวจอาการเด็กน้อยที่นอนหน้าซีดเหงื่อซึมเต็มดวงหน้า อดจะก่นด่าและสาปแช่งคนเป็นพ่อถึงความใจจืดใจดำไม่ได้
“เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นพ่อที่ไหนใจร้ายได้ขนาดนี้ ขอให้ลูกไม่รักคนบ้าเอ้ย”
ณภัทรถูกย้ายมานอนในห้องพักฟื้นที่เสี่ยวป๋ายตามมาจัดการให้หลังเลิกประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พยาบาลพิเศษถูกจ้างเพื่อให้มาดูแลภัทรและลูกตลอด 24 ชั่วโมงนั่งเฝ้าอยู่มุมห้อง ศลัยกลับมาจากดูหน้าคุณหนูด้วยดวงตาเป็นประกาย คุณหนูของหล่อนผิวขาวตัวใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆน้ำหนักแรกคลอด 3800 กรัม ไม่แปลกใจเลยซักนิดว่าทำไมถึงเตะคนเป็นแม่แรงนัก ภัทรไม่ได้หลับอย่างที่หล่อนคิดโอเมก้าแม่ลูกอ่อนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเพื่อรอเวลาที่พยาบาลจะเอาลูกมาเข้าเต้า
“ไม่นอนพักก่อนล่ะคะ? หรือว่าหิว?”
“เปล่าฮะ ผมตื่นเต้นอยากกอดลูกแล้ว พี่เห็นแกแล้วใช่มั้ยครับ ตอนหมอเอาออกมาแกร้องเสียงดังลั่นเลย คุณหมอนนท์แกล้งตบก้นแกเสียหลายทีตลกมากๆเลย”ภัทรคุยอวดถึงความน่ารักของลูกชายให้พี่เลี้ยงสาวฟังอย่างมีความสุข ลืมความน้อยอกน้อยใจที่กว้านหลินไม่มาดูดำดูดีตนเลยซักนิดไปเสียสนิท เหมือนที่คนแก่เคยบอกไว้ว่าคนเรายามแต่งงานมีครอบครัวเมื่อแรกความสำคัญจะถูกมอบให้กับคู่ของตนแต่พอมีลูกด้วยกันแล้วความสำคัญจะถูกส่งมอบให้กับลูกจนเกือบหมด
“เห็นแล้วค่ะเห็นแล้ว ตัวแกอ้วนจ้ำม่ำกว่าใครหน้าบวมยังกับนกฮูกเลยค่ะ จมูกโด๊งโด่ง เวลาร้องก็เสียงดั๊งดังนะคะ”ศลัยเอ่ยถึงคุณหนูตัวน้อยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ทั้งสองคุยกันอีกซักพักเสี่ยวป๋ายก็กลับมาอีกหนพร้อมตะกร้าเสื้อผ้าเด็กที่พอถึงเวลาคลอดจริงๆทั้งแม่ทั้งพี่เลี้ยงก็ลืมหิ้วมาจนเลขาหนุ่มต้องขับกลับไปเอาให้
“ผมขอไปดูคุณหนูก่อนนะครับอยากเห็นใจจะขาดแล้ว”
“แล้ว...”
“คุณชายอยู่ที่ห้องเด็กครับ”เสี่ยวป๋ายยิ้มอ่อนๆให้กับภัทรที่มีท่าทางอึ้งๆไป
ณภัทรยกมือขึ้นมากุมอกของตัวเอง
มันเต้นเร็วและแรงมากจนได้ยินเสียงบางๆมาด้านนอก
ความปลิ้มปิติเกิดขึ้นในใจ
อย่างน้อยกว้านหลินก็ยังมาดูลูกที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกยังคงมีอยู่ใช่มั้ยนะ?
หรือจริงๆแล้วลึกๆในใจของกว้านหลินเองก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไรลูกหรอก
คุณชายสามแค่เพียงปากร้ายไปเอง...
“น่ารักดีนะครับ”เสี่ยวป๋ายเดินมาหยุดยืนข้างเจ้านายหนุ่มที่ยืนเอามือไพล่หลังมองทารกน้อยตัวอ้วนในห้องเด็กที่มีกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ กว้านหลินไม่ได้พูดอะไรดวงตาคมยังคงจับจ้องไปที่ลูกชายตัวน้อยที่เริ่มจะส่งเสียงร้องไห้อีกครั้งพาให้เด็กเตียงอื่นๆส่งเสียงร้องตามอีกหลายเตียง
“โตไปคงเป็นหัวโจก ขอให้เป็นอัลฟ่าทีเถอะ”คุณหมอนนท์ที่ออกเวรแล้วเดินมาหยุดยืนข้างๆเลขาหนุ่ม
“ตอนคุณภัทรเจ็บท้อง แกร้องเรียกคุณด้วยนะคุณกว้านหลิน น่าจะมาอยู่ใกล้ๆแกหน่อย”คุณหมอหนุ่มส่งสายตาต่อว่าไปที่อัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่ปิดบัง
“ผมติดประชุมผู้ถือหุ้นจะให้เสี่ยวป๋ายมาก็ไม่ได้นี่ก็รีบมาที่สุดแล้ว”
“คุณเหมือนคนที่จัดระบบความสำคัญไม่เป็นนะคุณกว้านหลิน วันที่เมียคลอดลูกน่ะเขาต้องการกำลังใจจากสามีที่สุดแต่ภัทรมีแค่สาวใช้ แกน่าสงสารนะ”
“พี่ ผมต้องรับผิดชอบงาน ถ้าแม้แต่เรื่องงานยังดูแลให้เรียบร้อยไม่ได้แล้วผมจะดูแลครอบครัวได้ยังไง ผมก็...เป็นห่วงเขาเหมือนกัน”
“แล้วเคยแสดงให้เขาเห็นบ้างมั้ยว่าคุณก็เป็นห่วง แค่ออกเงินค่ารักษา ซื้อของให้โดยผ่านเลขามันไม่พอหรอกนะ แล้วหลังคลอดเขาอาจจะเกิดภาวะ Postpartum blue ใครจะดูแลเขา ผมเชื่อว่าจริงๆในใจของคุณก็รู้ว่าแกเป็นลูกคุณ ภัทรไม่เคยมีชู้ หัวใจคนมันอาจจะห้ามไม่ได้ที่จะรักใครชอบใครแต่คุณควรมีความมั่นใจว่าเขาเป็นภรรยาเป็นแม่ของลูกคุณ เด็กนั่นน่ะซื่อสัตย์กับคุณยิ่งกว่าหมาที่รักเจ้าของเสียอีก แค่ให้ข้าวให้น้ำมันไม่พอหรอกนะคุณต้องให้ความรักกับเขาด้วย อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยวางซะบ้าง ผมมองในฐานะคนนอกนะ พ่อคุณกับพ่อเขาต่างจากไปแล้วทั้งคู่คนที่อยู่ก็ไม่ควรต้องมารับกรรมจากคนที่ตายไปแล้ว”
“พูดมากจังน่ารำคาญว่ะ”กว้านหลินหันมาทำหน้าอึนใส่หมอนนท์ก่อนจะเดินไปทางห้องพักของภัทร เสียงเลขาหนุ่มหัวเราะในลำคอข้างๆเรียกความสนใจจากหมอนนท์ให้กลับมามอง
“ขำ...ขำมากมั้ยครับ”
“ก็ตลกดี ทำคลอดดีๆไม่ชอบริอาจจะทำตัวเป็นบาทหลวง”
“อยากลองมีลูกมั้ยล่ะครับ? นอกจากผมจะทำคลอดเป็นผมก็ทำลูกเป็นเหมือนกันนะครับคุณเลขา”อนลแกล้งยื่นหน้าเข้าไปทำตาแป๋วใกล้ๆใบหน้าของเสี่ยวป๋ายจนคุณเลขาถึงกับกลั้นใจ
“ไปเล่นตรงนู้นครับ ผมไม่ตลกด้วย”
“ไม่ไปครับอยากเล่นตรงนี้ ตรงไหนมีคุณอยู่ผมจะตามไปเล่นด้วย”
“คนเขาไล่ยังจะหน้าด้าน”เสี่ยวป๋ายด่าใส่หน้าคุณหมอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“สนใจมาช่วยทาครีมมาร์กหน้าให้ตอนว่างๆมั้ยล่ะครับ”
“เฮ้อ พูดกับหมาๆเลียปากจริงๆ”เสี่ยวป๋ายแสร้งทำเสียงเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะทำท่าเดินตามพยาบาลที่เข็นลูกของภัทรออกมาหากแต่อนลจับข้อมือไว้ทันที
“จะตามไปทำไมปล่อยให้พ่อแม่ลูกเขาอยู่ด้วยกัน พยาบาลจะเอาเด็กไปกินนมคุณจะไปนั่งดูนมคุณภัทรเหรอ ทะลึ่งนะเราน่ะ”
“จะบ้าเหรอ ผมไม่รู้นี่!!”เสี่ยวป๋ายตวาดใส่หมอนนท์กลบความเขินอายทันที
“ไปๆ ไปหาข้าวกินกับผมดีกว่า หิวจนจะกินคุณเข้าไปได้ทั้งตัวแล้ว”อนลเนียนโอบไหล่ของเสี่ยวป๋ายพารั้งเดินตามตนไปทันทีแม้เสี่ยวป๋ายจะร้องปฏิเสธยังไงก็ตามที
ประตูห้องพักของภัทรเปิดขึ้น กลิ่นฝนหอมชื่นใจกระจายทำให้ภัทรที่เพิ่งล้มตัวลงนอนลืมตาขึ้นมอง
ไร้เสียงทักทายหรือพูดคุย กว้านหลินมองเมินก่อนจะไปนั่งบนโซฟา แสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวผ่านเว็บไซด์ ภัทรเองก็เมินมองไปอีกทาง บรรยากาศอึมครึมจนพยาบาลสาวที่ถูกจ้างมาเฝ้ารู้สึกได้
“อ๊ะคุณหนูมาแล้ว”ศลัยที่กำลังหาทางเลี่ยงร้องออกมาเสียงดังเมื่อพยาบาลเข็นเตียงเด็กเข้ามา ภัทรผุดลุกขึ้นมาทันทีโดยลืมไปว่าแผลผ่าตัดยังใหม่อยู่นิ่วหน้าร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“จะรีบทำไมยังไงก็ได้อุ้มอยู่ดี โง่จริงๆ”ภัทรเหลือบตามองคนที่ยังคงนั่งจ้องโทรศัพท์แต่ส่งเสียงด่าตนด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะละความสนใจไปที่เจ้าตัวกลมที่พยาบาลอุ้มมาให้ ลูกชายของเขาบิดตัวส่งเสียงเบาๆในลำคอภัทรยิ้มให้กับท่าบิดขี้เกียจนั้นเจ้าตัวน้อยตัวแดงเป็นจ้ำตัวล่ำจ้ำม่ำจมูกโด่งริมฝีปากอิ่มหนา
“หล่อจัง ลูกใครเนี่ย ลูกแม่เนอะ”ภัทรพูดหยอกกับลูก กว้านหลินเหลือบตามองอย่างหมั่นไส้
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนฟังคำแนะนำของพยาบาลที่สอนวิธีเข้าเต้าให้อย่างตั้งใจ วินาทีที่ลูกดูดนมจากอกน้ำใสก็กลิ้งหล่นลงบนผิวแก้มเต่งขอลูกจนภัทรต้องรีบเช็ดออกอย่างแผ่วเบา
ลูกของเขาไม่ควรต้องแปดเปื้อนกับน้ำตา ทารกน้อยกินเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออิ่มแล้วก็ตบหลังเบาๆจนกระทั่งทารกน้อยเรอเอาลมออกมา ศลัยรับคุณหนูไปอุ้มอย่างรักใคร่ก่อนจะเดินมาหยุดที่เจ้านายหนุ่ม
“ไม่ลองอุ้มคุณหนูหน่อยเหรอคะ ดูสิแกน่าเกลียดน่าชังมากๆเลยนะคะ”ศลัยมองคุณหนูตัวน้อยด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“ไม่ล่ะ ฉันกลัวจะอดใจไม่ไหวทุ่มมันทิ้งลงพื้นเดี๋ยวจะมาหาว่าฉันใจร้าย”ภัทรได้ยินคำตอบนั้นก็ให้นึกโมโห ความไม่พอใจตีรื้นขึ้นมาทันที
“เขาไม่อุ้มก็เอามาให้ผมครับ ลูกของผมๆอุ้มเองได้”ศลัยรีบอุ้มทารกน้อยไปคืนคนแม่ที่ตาเขียวปั้ดราวเสือที่หวงลูกและพร้อมจะตะปบทุกคนที่บังอาจมาคิดร้ายกับลูกของตน ศลัยเห็นบรรยากาศมาคุก็รีบขอตัวออกไปหาอะไรกิน ทารกน้อยส่งเสียงร้องไห้ขึ้นมาทันทีจนคนเป็นแม่ต้องอุ้มมากอดแนบอก กว้านหลินวางโทรศัพท์ลงก่อนจะก้าวมาหาภัทรช้าๆ
“ฉันถามอีกครั้งว่าเด็กนี่ลูกใคร?”
“ลูกของผม ของผมคนเดียว!!”ณภัทรสุดที่จะทนกับกว้านหลินร่างบางตะโกนใส่หน้าอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะโอ๋ลูกน้อยในอ้อมอกที่แผดเสียงร้องอย่างตกใจ
“เสียงดังทำไมลูกตกใจแล้วเนี่ย”กว้านหลินทำเสียงดุใส่ก่อนจะลูบลงบนศีรษะเล็กของทารกน้อย
“อย่ามาจับ ไม่เห็นเป็นลูกก็อย่ามาจับ”ภัทรปัดมือของกว้านหลินออกอย่างโมโหหากแต่กว้านหลินทำเป็นไม่สนใจ
“ตั้งชื่อแล้วหรือยัง?”เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ภัทรเมินหน้าไปอีกทางด้วยความน้อยใจ
“ยัง รอพ่อเค้ามาตั้งแต่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกก็จะตั้งเอง”
“ซวี่ซี”ณภัทรหันมามองกว้านหลินอย่างไม่เชื่อหู
“อะไรนะครับ?”
“ลูกของฉันต้องมีชื่อจีน ให้ชื่อว่าซวี่ซี ชื่อกลาง ลูคัส”
#ไฮเดรนเยีย
TBC.
..............................................
เออ ไม่ใช่ลูกแกแล้วไอ้สาม กินฟางมากขาดโปรตีนไปเลี้ยงสมองเรอะถึงได้โง่ถึงเพียงนี้!!